พระราชวังฟงเตนโบลว์ : สายสัมพันธ์สยามกับฝรั่งเศส
หากกล่าวถึงพระราชวังในฝรั่งเศส แน่นอนว่าทุกๆท่านต้องนึกถึงพระราชวังแวร์ซาย แต่แท้ที่จริงแล้ว ชานกรุงปารีสนั้นมีพระราชวังที่ใหญ่โตและงดงามมากไม่แพ้แวร์ซายเลย นั่นก็คือพระราชวังฟงแตนโบลว์ (Le Château de Fontainbleau) ครับ นอกจากนั้น พระราชวังแห่งนี้ยังเปรียบเสมือนจารึกแห่งสัมพันธไมตรีระหว่างสยามกับฝรั่งเศสอีกด้วยครับ เราไปชมกันเลยดีกว่านะครับ ----------------------------------
001 พระราชวังฟงแตนโบลว์ตั้งอยู่ที่เมืองฟงแตนโบลว์ ชานกรุงปารีส นั่งรถไฟออกไปราวๆ 1 ชม ก็ถึงแล้วครับ พระราชวังแห่งนี้สร้างราวๆต้นศตวรรษที่ 12 แต่ไม่ปรากฏหลักฐานอย่างแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้างพระราชวังแห่งนี้ อีกร้อยปีต่อมา พระเจ้าหลุยส์ที่ 9 ก็ได้มาประทับที่นี่และสร้างต่อขยายให้ใหญ่โตกว่าเดิม ในรูปนี้ก็คือด้านหน้าพระราชวังครับ
002 หลังจากนั้นก็มีกษัตริย์พระองค์อื่นๆมาประทับต่อเรื่อยๆ โดยที่ในหมู่พระราชาที่มาประทับที่นี่นั้น พระเจ้าฟรองซัวร์ ที่ 1 (คศ 1515 - คศ 1547) ได้ทำการก่อสร้างขยายอย่างยิ่งใหญ่ มีการนำศิลปะแบบเรอเนสซองจากอิตาลีเข้ามาก่อสร้าง จนทำให้พระราชวังฟงแตนโบลว์แห่งนี้มีขนาดมหึมาด้วยห้องมากถึง 1,900 ห้องเลยทีเดียว ด้วยขนาดและจำนวนของห้องแล้ว พระราชวังฟงแตนโบลว์แห่งนี้ไม่เล็กไปกว่าพระราชวังแวร์ซายแม้แต่น้อย
003 หากคนไทยไปเที่ยวฝรั่งเศส อยากให้ลองแวะไปชมพระราชวังฟงแตนโบลว์นะครับ เพราะ ณ ที่แห่งนี้คือจารึกทางประวัติศาสตร์ระหว่างสยามกับฝรั่งเศส นั่นก็คือว่า ในรัชสมัยของนโปเลียนที่ 3 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์นั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงส่งคณะราชทูตไปถวายสารสัมพันธไมตรี ในภาพที่เห็นนี้เป็นภาพจริงนะครับที่ถ่ายไว้เมื่อคราวนั้น แต่ช่วงที่ผมไปชมนั้น เขากำลังจัดนิทรรศกาลพอดีครับ เขาเลยเอาภาพจริงไปอัดขยายแล้วทำเป็นภาพขาวดำ จะเห็นชัดเลยว่าคณะราชทูตไทย พร้อมด้วยเครื่องราชบรรณาการ กำลังหมอบกราบตามประเพณีโบราณของสยามอยู่ในท้องพระโรงต่อพระพักตย์ของนโปเลียนที่ 3 และพระราชินี
004 ท้องพระโรงที่ว่านี้ก็คือภาพนี้เองครับ งดงามและยิ่งใหญ่มากๆเลย หากสังเกตุในภาพนั้น จะเครื่องราชบรรณาการที่อยู่ข้างๆคณะราชทูตสยาม มีเสลี่ยง มีบังสูยร์ เป็นต้น สิ่งของเหล่านี้ถูกเก็บไว้เป็นอย่างดีจนถึงปัจจุบันนี้ที่ Chinese museum ซึ่งตั้งอยู่อีกส่วนหนึ่งทางชั้นล่างของพระราชวังฟงแตนโบลว์ครับ
005 น่าเสียดายมากๆเพราะแบตเตอรี่กล้องผมดันหมดเสียก่อน เลยไม่ได้ถ่ายภาพสิ่งของเหล่านี้ที่ Chinese Museum ได้ครับ แต่ผมได้เข้าไปชม เดินเข้าประตูไปก็จะเจอเครื่องราชบรรณาการเหล่านี้เลยครับ เห็นของเก่าจากสยามใน ตปท แล้วรู้สึกขนลุกเลยครับ ตื้นตันใจบอกไม่ถูกเลย ที่เรียกว่า Chinese Museum นั้น เพราะในช่วงสมัยนโปเลียนที่ 3 นั้นมีการติดต่อกับประเทศจีนและประเทศต่างๆในเอเชียมาก พระราชินีก็ทรงสนพระทัยกับสิ่งของจากเอเชียเหล่านี้ถึงขนาดตกแต่งพระราชวังในแบบจีน ในแบบอาหรับ หรือแม้แต่ในแบบอินเดียก็มีครับ เครื่องราชบรรณาการที่ประเทศต่างๆเหล่านี้ส่งมาถวาย ก็เลยเอามาเก็บรวมกันไว้ที่นี่ครับ ในรูปนี้ยังเป็นท้องพระโรงที่ใช้ต้อนรับคณะราชทูตจากสยามนะครับ ตรงนี้คือพระราชบัลลังค์ที่นโปเลียนที่ 3 และพระราชินีประทับรับคณะราชทูตครับ
006 การตกแต่งนั้นประณีตหรูหราทุก ตร น เลยครับ ลองเปรียบเทียบรูปขาวดำของคณะราชทูตสยามสิครับ จะเห็นเสาท้องพระโรงแบบนี้เหมือนกันเลย
007 พระราชวังฟงแตนโบลว์แห่งนี้ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามมากๆครับ ผมว่าสวยไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายเลยครับ ในภาพนี้คือการตกแต่งเพดานที่ท้องพระโรง เป็นการแกะสลักไม้และตกแต่งด้วยทองคำ ผมว่าสวยกว่าแวร์ซายด้วยซ้ำไปครับ
008 ผมประทับใจพระราชวังฟงแตนโบลว์มากกว่าแวร์ซายครับ ความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน พระราชอุทธยานก็สวยไม่ด้อยไปกว่ากัน การตกแต่งหรูหรา ผมเปรียบเทียบไม่ได้ครับ แต่ผมชอบฟงแตนโบลว์มากกว่า อาจเป็นเพราะที่นี่ตกแต่งโดนเน้นไม้ ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหรา อย่างเช่น ห้องสมุดแห่งนี้ เป็นต้น
009 ห้องต่างๆของที่นี้นั้นตกแต่งงดงาม วิจิตรอลังการมากๆครับ ผมว่าสวยกว่าแวร์ซายนะ ผมมาเที่ยวหลายรอบแล้วทั้งที่ฟงแตนโบลว์และแวร์ซาย ผมประทับใจฟงแตนโบลว์มากกว่าครับ อีกอย่าง นักท่องเที่ยวน้อยกว่ามาก รู้สึกไม่อึดอัดด้วยครับ เดิมชม เดินถ่ายรูปได้แบบสบายๆ ในภาพนี้คือห้องต่างๆจำนวนมากครับ
010 เป็นที่น่าเสียดายที่นักท่องเที่ยวส่วนมากให้ความสนใจเฉพาะแวร์ซาย โดยหารู้ไม่ว่า ไข่มุกงามเม็ดนี้ยังรอการค้นหาอีกเยอะครับ สวยจริงๆครับ
011 ในหนังสือ Lonely Planet กล่าวไว้ว่า พระราชวังฟงแตนโบลว์นี้ตกแต่งอย่า ละเอียดละออ ประณีตงดงามทุก ตร น ผมเห็นว่าคงจะจริงตามที่บรรยายเอาไว้ครับ อย่างห้องบรรทมนี้เป็นต้น ผมว่าอลังการกว่าห้องบรรทมที่แวร์ซายครับ
012 หรือแม้แต่ห้องบรรทมห้องนี้ก็ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงเช่นกันครับ
013 ความละเอียดละออมีอยู่ทุก ตร น จริงๆครับ
014 นี่เป็นพระราชบัลลังค์ครับ
015 แม้แต่เพดานก็ละเอียดงดงามหาที่เปรียบมิได้
016 นี่ก็คือห้องบรรทมอีกห้องหนึ่งครับ
017 ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า นโปเลียนที่ 3 และพระราชินีโปรดปรานเครื่องประดับจากตะวันออกมาก ดังนั้น ในพระราชวังก็จะมีของประดับจากเอเชียมากมาย อาทิ แจกกันพอสเลนแบบนี้
018 แม้แต่ผนังก็ตกแต่งด้วยลวดลายที่ละเอียดงดงาม ไม่มีแม้แต่ที่ว่างเพียงน้อยนิดที่ปล่อยให้ว่างเปล่า หากจำไม่ผิด บริเวณนี้จะเป็นที่นั่งพักของบรรดาราชองครักษ์ครับ
019 นี่ก็เป็นห้องหนึ่งที่งดงามมากๆครับ
020 บริเวณทางเดินเชื่อมห้องต่างๆก็ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามมากๆ
021 ภาพวาดผนังประณีตบรรจง การใช้สีอ่อนๆแนวพาสเทลทำให้ดูอ่อนหวาน สบายตา การการใช้ไม้เข้ามาตกแต่งทำให้รู้สึกอบอุ่นและหรูหรา
022 นี่คือดอกลิลลี่ สัญญลักษณ์แห่งราชสำนักฝรั่งเศสครับ เราจะพบเห็นสัญญลักษณ์นี้ได้ทั่วไปในพระราชวังฟงแตนโบลว์ หรือในพระราชวังอื่นๆครับ
023 ขอปิดท้ายด้วยภาพนี้อีกครั้งนะครับ ผม ในฐานะคนไทย เห็นแล้วขนลุก ตื้นตันจนบอกไม่ถูกครับ ประวัติศาสตร์ที่เราเคยเรียนมาสมัยมัธยม ได้มาเห็นของจริงด้วยตาตัวเองก็เป็นวาสนาแล้วครับ
-------------------------------------- หากท่านไดมีโอกาสมาเที่ยวฝรั่งเศส ก็ขออย่าให้ลืมพระราชวังฟงแตนโบลว์ ไข่มุกเม็ดงามเม็ดนี้นะครับ การตกแต่ง ความวิจิตรอลังการ ความยิ่งใหญ่ ผมว่าไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายเลยแม้แต่น้อยครับ และก็อย่าลืมชม Chinese Museum เพื่อรำลึกถึงประวัติศาสร์ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสยามและฝรั่งเศสนะครับ
Create Date : 07 มกราคม 2551
148 comments
Last Update : 7 มกราคม 2551 4:59:39 น.
Counter : 4546 Pageviews.