พระราชวังแวร์ซาย : ความรุ่งเรืองแห่งราชสำนักฝรั่งเศส
วันนี้ขอพาไปเที่ยวพระราชวังแวร์ซายนะครับ ผมคิดว่าแทบทุกท่านคงรู้จักพระราชวังแห่งนี้มาไม่มากก็น้อย แต่ยังไงก็ตาม ผมจะพาไปเที่ยวชมในที่ๆหลายท่านอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อนนะครับ ยังไงตามไปชมกันเลยดีกว่านะครับ -----------------------------------
001 พระราชวังแวร์ซายตั้งอยู่ที่เมืองแวร์ซาย ซึ่งอยู่ชานเมืองปารีสนี้เองครับ ใช้เวลานั่งรถไฟออกไปราวๆ 30 - 40 นาทีก็ถึงครับ เมื่อถึงสถานีรถไฟเมืองแวร์ซาย ก็ต้องเดินต่อมาอีกนิดนะครับถึงจะเห็นตัวพระราชวัง ไม่หลงครับ เพราะมีป้ายบอกเป็นระยะๆ หรือไม่ก็ใช้สัมผัสที่ 6 ง่ายๆครับ นักท่องเที่ยวแห่เดินไปทางไหน ก็เดินตามไปแหละครับ รับรองว่าแทบทุกคนมีจุดหมายเดียวกัน นั่นก็คือ พระราชวังแวร์ซาย
002 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ได้สร้างพระราชวังแวร์ซาย์ในราวกลางศตวรรษที่ 17 โดยมีจุดประสงค์ให้ที่นี่เป็นทั้งที่อยู่และศูนย์กลางการรวมอำนาจการปกครองในระบอบสมบูรณายาสิทธิราช โดยมีข้าราชบริพานอยู่ถึง 30,000 คน ด้วยเหตุนี้ พระราชวังแวร์ซายจึงใหญ่โตมโหราฬมาก นอกจากจะประกอบไปด้วยตัวพระราชวังแล้ว ยังมีพระราชอุทยานขนาดใหญ่ และมีฮาเร็ม (ในที่นี้แปลว่า ที่พักส่วนพระองค์ มิได้มีความหมายอย่างที่เราเข้าใจแต่อย่างไดครับ)
003 พระราชวังแวร์ซายมีความยาวถึง 580 เมตร
004 ภายในประกอบไปด้วยห้องต่างๆจำนวนมากมาย บางส่วนก็กำลังบูรณะซ่อมแซม ยังไม่เปิดให้เข้าชม ตามพระราชธรรมเนียมแล้ว กษัตริย์มักจะสร้างโบสถ์ไว้ภายในพระราชวังด้วยเลย
005 เพื่อให้พระราชวังแห่งนี้หรูหรางดงามที่สุด พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ก็ทรงให้นักออกแบบภายในนามว่า ชาล์ล เลอ บร็อง (Charles Le Brun) เป็นคนออกแบบและตกแต่งทั้งหมด
006 ห้องต่างๆจัดแสดงเอาไว้อย่างสวยงาม อย่างเช่นห้อง Throne นี้เป็นต้น
007 ห้องบรรทม
007 พระราชวังแวร์ซายเป็นที่ประทับของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ครับ จึงไม่แปลกที่จะมีรูปที่นี้ด้วย
008 ห้องที่โดดเด่นที่สุดคงไม่พ้น ห้องกระจก ซึ่งที่จริงเป็นทางเดินเชื่อมครับ แต่เขาจะตกแต่งงดงาม อลังการมากๆ เพราะในสมัยก่อน เวลาจัดงานรื่นเริง หรืองานกาล่า จะใช้บริเวณนี้เป็นสถานที่จัดงาน
009 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 นั้นโปรดการชมสวนเป็นอย่างมาก และเมื่อต้องการให้สร้างพระราชอุทยาน ก็ต้องยิ่งใหญ่เหมือนกัน พระองค์ทรงให้สถาปนิกออกแบบพระราชอุทยานนามว่า อองเดร เลอ โน๊ต (Abdré Le Nôtre)
010 ลองจินตนาการดูสิครับว่า เมื่อหลายร้อยปีก่อน การสร้างน้ำพุขนาดใหญ่แบบนี้ทั่วทั้งพระราชอุทยานนั้นต้องใช้เทคนิค และการผันน้ำเข้ามามากมายมหาศาลเพียงใด แต่ทุกอย่างต้องทำได้ ต้องยิ่งใหญ่ และต้องอลังการที่สุดสำหรับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14
011 น้ำพุในพระราชอุทยานจะเปิดให้ชมเฉพาะหน้าร้อนเท่านั้นนะครับ และจะเปิดให้ชมเป็นช่วงเวลาต่อวันเท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากการจะเปิดน้ำพุขนาดใหญ่ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองพลังงานเป็นอย่างมากครับ แต่ก็สมกับการรอคอย เพราะทุกช่วงเวลาที่เปิดน้ำพุ ทุกมุมจะมีน้ำพุ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็จะสวยงามมากๆครับ
012 แม้ว่านักท่องเที่ยวจะมากมายก็ตาม แต่เวลาเปิดน้ำพุนั้น ทางพระราชวังจะเปิดเพลงบรรเลยคลาสสิคคลอเคล้าไปด้วยตลอดทั้งสวนเลยครับ ทำให้เหมือนบรรยากาศสมัยเก่าที่ชมอุทยานเคล้าเสียงเพลงอย่างสบายอุรา
013 ที่จริงแล้วเพิ่งมีการซ่อมแซมน้ำพุเสร็จเมื่อไม่กี่ปีมานี้เองนะครับ เพราะของเก่า ไม่ได้ใช้มานาน ก็เสียหายชุดรุดไปเป็นธรรมดา
014 การเดินชมน้ำพุในพระราชอุทยานนั้นต้องอาศัยแรงอึดมากนะครับ พระราชอุทยานนั้นกว้างมากๆ น้ำพุมีตามซอก ตามมุมเยอะมากครับ งดงามจริงๆ บังเอิญผมเจอกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยที่มากับทัวร์ เจอที่หน้าประตูพระราชวัง เห็นพวกเขาถ่ายรูปกันสนุกสนาน ก็เลยถามว่า จะเข้าไปชมภายในตอนไหน ปรากฏว่าพวกนี้ไม่เข้าไปครับ ทัวร์พามาลงหน้าประตูวังเพื่อถ่ายรูปพอ จากนั้นจะไปที่อื่นต่อครับ นี่ยิ่งกว่า "ชะโงกทัวร์" อีกนะครับ
015 น่าเสียดายที่สำหรับทัวร์คนไทยกลุ่มนั้น พระราชวังแวร์ซายมีคุณค่าเพียงแค่การมาถ่ายภาพหน้าประตูเท่านั้น ญาติสนิทมิตรสหายของผมที่มาเที่ยวฝรั่งเศส แล้ว (โชคร้าย) มาขอให้ผมพาเที่ยวนั้น ผมจับเดินหมดครับ เพราะการเดินชมแบบเจาะลึกนั้น เราได้เห็นอะไรหลายอย่างในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ใหนๆมาเที่ยว ตปท ทั้งที เสียเงินมาก็มาก ก็น่าจะได้อะไรกลับไปบ้าง มากกว่าแค่ภาพถ่าย
016 ปกติคนจะเที่ยวแค่ตัวพระราชวัง แต่ยังมีอีกที่หนึ่งที่สมควรไปชมมากๆ นั่นก็คือฮาเร็มของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อองตัวแน๊ท ครับ ซึ่งตั้งอยู่เลยพระราชอุทยานไปอีก ส่วนนี่จะประกอบด้วย Le grand Trianon และ Le petit Trianon ในภาพนี้ก็คือพระตำหนักใหญ่ครับ
017 ฮาเร็มหรือที่ประทับส่วนพระองค์นั้นจะสร้างอยู่ห่างจากตัวพระราชวังแวร์ซายมากพอสมควร ทั้งนี้เนื่องจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อองตัวแน๊ทต้องการประทับพักผ่อนอย่างสงบ ห่างไกลจากข้าราชบริพานจำนวนมาก
018 ทั้งสองพระองค์ทรงต้องการความเป็นส่วนพระองค์ หลีกหนีจากกฏมณเธียรบาลต่างๆที่เคร่งครัด จะสังเกตุได้ว่าที่ฮาเร็มนี้ การตกแต่งจะเน้นที่ความเรียบง่าย ความหรูหราน้อยกว่าตัวพระราชวังแวร์ซาย สำหรับทั้งสองพระองค์ ที่นี่คือ "บ้านที่อบอุ่น" อย่างแท้จริง ชีวิตไม่ได้แวดล้อมไปด้วยการตกแต่งที่เว่อร์อลังการจนเกินไป บางทีก็รู้สึกหนัก อึดอัด ไม่สบายพระองค์ ในภาพก็คือห้องจัดเลี้ยงงานรื่นเริง งานกาล่า เปรียบเทียบกับห้องกระจกที่ตัวพระราชวังแวร์ซายแล้ว ที่นี่เรียบง่ายกว่ามาก แต่นี่ก็คือ ความสุข ความสงบ และคือ "บ้าน" อย่างแท้จริง
019 ปิดท้ายด้วยภาพห้องบรรทมนะครับ
----------------------------------------- ความหรูหราอลังการ และความยิ่งใหญ่ของพระราชวังแวร์ซายนั้น มิใช่แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งแห่งราชสำนักฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงพระราชอำนาจแห่งกษัตริย์ ในการปกครองระบอบสมบูรณายาสิทธิราช โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งมีพระนามอีกอย่างหนึ่งว่า "กษัตริย์แห่งพระอาทิตย์" (Le Roi Soleil / The Sun King) เพราะ "พระอาทิตย์" นั้นก็คือ ศูนย์รวมของทุกๆอย่างในโลก ถึงขนาดที่พระองค์ทรงกล่าวไว้ว่า "ข้าก็คือกฏหมาย" พระราชวังแวร์ซายจึงเปรียบเสมือสัญญลักษณ์แห่งการรวมอำนาจอย่างแท้จริง
Create Date : 29 ธันวาคม 2550
108 comments
Last Update : 29 ธันวาคม 2550 15:35:40 น.
Counter : 3358 Pageviews.