I dont care who you are , where you're from , what you did, as long as we are friends forever
Group Blog
 
<<
เมษายน 2560
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
30 เมษายน 2560
 
All Blogs
 

ถนนสายนี้ มีตะพาบ 177 พลาด



ถนนสายนี้ มีตะพาบ 177 พลาด


เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 28 เมษายน 2560  วันนี้เคลียร์งานให้มากที่สุด ด้วยเพราะวันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม ที่ทำงานปิดทำการวันแรงงาน แล้วยังมีวันหยุดอีกรอบคือวันจันทร์ที่ 8 วันอังคารที่ 9 และวันพุธที่ 10 ซึ่งเป็นวันหยุดทั้งทางรัสเซีย และทางศาสนาพุทธของเรา สทอ. ปิดทำการ  แต่ไม่ต้องจินนการเลยเช้าวันทำงาน เมลแทบระเบิด แล้วเอกสารที่ยังค้างคาอีก ....   ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาๆ ของมนุษย์ทำงาน

ได้รับคำเชิญจากน้องสาวที่ข้าพเจ้านับถือจากใจคนหนึ่งเข้าร่วมงาน"เลี้ยงส่ง"  พร้อมกับพี่ชายที่ข้าพเจ้านับถือ แม้จะเจอเพียงในระยะเวลาสั้นๆ แต่พี่ชายให้ข้อคิดที่ดีมากๆ ในการทำงาน

น้องสาวคนนี้เป็นคนแรก ในวันที่ข้าพเจ้าเริ่มงานในตำแหน่งผู้ช่วยกงสุล  วันแรกก็ได้งานเลยคือ ณ เวลา 9.30 น.  "ทำหนังสือเดินทาง" ในระบบคอมพิวเตอร์ ในใจข้าพเจ้ากรีดร้องทันที  ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ยอมกระโจนทำงานแล้วพักเรื่องเรียนไปก่อน นี่คนบนฟ้าทดสอบกันวันแรกเลยหรือเนี่ยะ แถมกงสุลก็ติดประชุมตอนเช้า .... ยืนบีบมืออยู่ไม่กี่วินาที น้องสาวคนนี้พาไปที่ห้องทำหนังสือเดินทาง พร้อมบอกว่า "เดี๋ยวหนูสอนค่ะ  พี่นั่งเก้าอี้เลยค่ะ"    โอยยย.... พระเจ้า ขอหาสมุดมาจดก่อนนะ แย่แล้ว เล่นให้นั่งประจำเครื่องเลยเหรอ ไม่ทำให้พี่ดูก่อนเหรอ เอ้า!! เอาไงเอากัน(สู้โว้ย)

น้องสาวคนนี้เคยอยู่ในตำแหน่งที่ข้าพเจ้ามาทำแทนก่อนหน้าเมื่อปีที่แล้ว น้องสอนให้คลิก โน้น นี่ ให้ดูว่าข้าพเจ้าต้องทำตามขั้นตอนอย่างไร มือก็จดไปด้วยให้ไวที่สุด กว่าจะรอดการทำหนังสือเดินทางเล่มแรกในชีวิต เล่นเอาใจเต้นโครมครามเนื่องจากว่าระบบทั้งหมดออนไลน์ส่งตรงถึงฝ่ายทำหนังสือเดินทางบ้านเรา  ณ ตอนนั้นกลัวการทำงาน "พลาด" อย่างแรก เพราะไม่อย่างนั้น เราต้องเสียเงินทำหนังสือเดินทางให้ผู้ยื่นคำร้อง 

ในระหว่างที่ทำงานมา 4 เดือนนี้ น้องสาวคนนี้แวะเวียนเข้ามาทักทาย เข้ามาสอนงาน ให้คำปรึกษา ถ่ายทอดงานต่างๆ สิ่งที่ควรระวังในการทำเอกสารราชการ และนำขนมมาฝากเสมอ  ด้วยเพราะหน่วยงานของเราทั้งสองเกี่ยวข้องกันตลอด แม้จะไม่เจอกันเฉพาะในเรื่องงาน บางครั้งเราก็เจอกันนอกเวลางาน ข้าพเจ้ารู้สึกอบอุ่นในใจทุกครั้งที่ได้เจอน้องสาวคนนี้ น้องจะถามไถ่สารทุกข์ทุกครั้ง และไม่ว่าเป็นงานเทศกาลต่างๆ เช่นงานสงกรานต์น้องสาวคนนี้ก็เข้ามาช่วยงานตั้งแต่เริ่มจนเลิกงาน ช่วยเก็บของทุกอย่าง และแล้ววันหนึ่งข้าพเจ้าเห็นหน้าสำเนา "หน้าหนังสือเดินทาง" ของน้องวางบนโต๊ะของกงสุล   ข้าพเจ้าก็ทักว่า  "อ้าว  ทำไมมีสำเนาหนังสือเดินทางของน้องล่ะ"  กงสุลตอบว่า "น้องจะกลับไทยเร็วๆ นี่"
โลกทั้งโลกสีขาวโพลน   แย่แล้ว คนที่ช่วยเหลือเราทุกอย่างกำลังจะกลับประเทศไทย แล้วโอกาสที่เราจะถามโน่น นี่เกี่ยวกับงานตรงนี้ มันคงไม่มีอีกแล้ว  นอกเสียจากติดต่อทางระบบไฮเทค  แต่มันจะทำให้ข้าพเจ้ายืนด้วยขาของตัวเองไม่ได้  

คนที่สอง คือพี่ชายที่ช่วยทำงานของทางทำเนียบ การจัดดอกไม้ทุกอย่างมาจากฝีมือพี่ชายคนนี้ แม้เราไม่ได้พบกันบ่อยนัก แต่รู้สึกอบอุ่นในใจทุกครั้งที่เจอ พี่ชายมักจะปลอบใจว่าเสมอ "งานกงสุลหนักหน่อยนะ ช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยาก แต่เมื่อเราทำได้ เคสอื่นๆ เราก็สามารถหาทางช่วยเหลือได้ อีกหน่อยก็เก่ง"  ข้าพเจ้าได้แต่ยิ้มรับ และขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้ทุกครั้งที่เจอกัน 

งานเลี้ยงส่งคราวนี้ ข้าพเจ้าต้องทำใจยอมรับให้ได้ว่า เพื่อนร่วมงานที่นั่งกินข้าวด้วยกันทุกวัน เจอหน้ากันทุกวัน หัวเราะด้วยกัน ทำอาหารด้วยกัน  ร่วมหัวลงแรงทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงอย่างประสบความสำเร็จ คิดโครงการต่างๆ ด้วยกัน สักวันหนึ่งพวกเขาก็ต้อง "กลับประเทศไทยตามวาระที่กำหนด"  เมื่อมีเจอ ก็ต้องมีจาก   ข้าพเจ้ารู้สึกว่าชีวิตช่างอาภัพเหลือเกิน ทำไมโชคชะตาถึงต้องให้จากบ้านเกิดมา(แม้จะเป็นการตัดสินใจด้วยตัวเองก็ตาม) เมื่อมีโอกาสได้ทำงานสถานทูตไทย ก็ต้องเจอช่วงเวลาที่คนชาติเดียวกันต้องกลับบ้าน มีเวลาที่ข้าพเจ้าได้รู้จักเพียงแค่ 4 ปีเองเหรอ  ในเวลาเพียง 4 ปีนี้ข้าพเจ้าจะไม่ "พลาด" ตักตวงความสุขจากการพูดภาษาไทย และยังต้องหันหน้าเข้าสังคมรัสเซีย ด้วยเพราะเป็นคนท้องถิ่นไปแล้ว .... อนาคตอยู่ข้างหน้า มองไปข้างหน้าอย่างเดียว  สิ่งต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิตที่นี่ถือเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่คนบนฟ้ามอบให้ แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นานสำหรับบางคน แต่สำหรับข้าพเจ้ามันคือความทรงจำที่ดี  สำหรับคนไทยที่อาศัยอยู่ต่างแดนอีกนานแสนนาน (แม้จะดิ้นรนหาทางกลับไทยเท่าที่มีโอกาสอำนวยก็ตาม)   


แต่มาคิดดูอีกที  ถือว่าข้าพเจ้าไม่ได้พลาดโอกาสที่ได้เข้ามาทำงานที่นี่ รู้สึกภูมิใจที่เข้ามาทำงานที่นี่ ด้วยเพราะเรียนภาษารัสเซีย แม้จะเพียงแค่ 2 ปี แต่เมื่อโอกาสมาแล้ว ไม่มีทางปล่อยแน่นอน ที่เหลือคือสปิริตตัวเองล้วนๆ ที่ต้องแข่งขันกับตัวเองให้เก่งเร็วๆ  โดยการเฉพาะการแก้ไขปัญหาและการบริหารแบ่งงานเอกสารและงานบริการคนไทย

-----------------------------------------------------------------------

การทำหนังสือเดินทางของสถานทูตฯ   

เมื่อผู้ยื่นคำร้องกรอกเอกสารทั้งหมด พร้อมกับติดรูป  1ใบ แนบเอกสารที่ใช้คือ 
1. สำเนาหนังสือเดินทางเล่มเก่า 
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 
3. หนังสือเดินทางเล่มเก่า 
4. ใบคำร้อง ต้องกรอกให้ถูกต้อง (เรื่องนี้ข้าพเจ้าเป๊ะมากๆ ใครเติมไม่ครบก็ต้องให้กรอกให้ครบ แปลกนะคนไทยทำไมกรอกไม่ครบ กรอกไม่ถูกก็ไม่ถาม ต้องให้ข้าพเจ้ามาตรวจอย่างกับคุณครู)
**สิ่งที่ชอบเขียนผิดคือ 
- ความสูง
- สถานที่เกิด / จังหวัดที่เกิด  ต้องถามย้ำทุกครั้ง
(แต่ข้าพเจ้าชอบถ่ายใบตม. วีซ่า และใบรีจิสเตอร์เก็บไว้ ในระหว่างนั้นก็ตรวจเอกสารพวกนี้ไปด้วยว่า มันหมดอายุหรือยังจะได้ช่วยกันเตือนๆ หรือว่าใช้วีซ่าผิดประเภทก็ต้องอธิบายไปว่า มาผิดประเภท ยังไงให้คุยกับนายจ้างให้ดีๆ)

ขั้นตอนแรกหลังจากเข้าระบบและตรวจสอบหมายเลข 13 หลัก
1. สแกนเอกสารทั้ง 4 ใบ
2. สแกนนิ้วมือ  ขั้นตอนนี้ถ้าระบบงอแง  ไหว้เครื่อง อ้อนวอนทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นคือ ต้องออกจากระบบแล้วเริ่มขั้นตอนที่ 1 ใหม่  บางคนลายนิ้วมือไม่ชัด โดยเฉพาะแรงงานนวดสปา   โอยยย   อ้อนวอนเครื่องสแกน ไม่ได้ด้วยเทคนิคก็ต้องไสยศาสตร์ ขอผีบ้านผีเรือนกันเลย แล้วระบบก็เป็นบ่อยอีกด้วย  ลุ้นทุกครั้งที่ทำหนังสือเดินทาง  เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไฟกับอีกต่างหาก  เริ่มทำ 9.45 ถึง 13.00 น.กันเลย แค่เล่มเดียว คนเดียวนี่แหละ   ไฟดับแล้วระบบรวน  ก็นั่งใจเย็นๆ กันไป  เครียดไปก็เท่านั้นเพราะมันเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าควบคุมเองไม่ได้ จะเครียดเพื่อ .....
3. ถ่ายรูป  ขั้นตอนนี้บางทีกล้องงอนระบบไม่ทำงาน  ไม่มีภาพ  เฮ้อ...  แต่ดีหน่อยที่กล้องงอแงนับครั้งได้  ถือว่าใจดี ช่วยข้าพเจ้าได้เยอะเลย
4. พอหลุดมาถึงขั้นตอนนี้  ค่อยโล่งใจหน่อย  ขั้นตอนนี้จะเขียน "ส่วนสูง" และ "สถานที่เกิด" ตามหนังสือเดินทาง
** สถานที่เกิด คนส่วนมากมักเข้าใจผิดว่า จังหวัดที่เกิดคือที่เดียวกับในทะเบียนบ้าน หรือที่เดียวกับในบัตรประจำตัวประชาชน**
ดังนั้น ขั้นตอนนี้ข้าพเจ้าเอาข้อมูลจากหนังสือเดินทางเล่มเก่ารับรองไม่ผิด ล้านเปอร์เซนต์ ด้วยเพราะบางคนเขียนตามจังหวัดในบัตรประจำตัวประชาชนตลอดดดดดด......
ส่วนสูงนั้นก็เติมตามใจชอบ  ซึ่งตามโครงร่างของร่างกายอายุเพิ่ม จะผันแปรกับมวลกระดูก  กระดูกจะหดลง  สรุปคือเตี้ยลงนั่นแหละค่ะ  แต่ผู้ร้องทุกคนชอบเขียนให้ตัวเองสูงขึ้นตลอดเลย .....
5. ลงชื่อผู้ที่สามารถติดต่อได้กรณีฉุกเฉิน
6. พิมพ์ออกมา  ตรวจสอบความถูกต้องก่อนให้ผู้ยื่นคำร้องเชคข้อมูลของตัวเองอีกครั้ง  (ดูกันให้ครบ 4 ลูกตาไปเลย)  ซึ่งส่วนมากจะมีข้อมูลเดิมอยู่แล้ว  ที่ต้องระวังคือ "ส่วนสูง" กับ "จังหวัดที่เกิด" และเบอร์ผู้ที่ติดต่อ
7. จากนั้นให้ "ลงลายมือชื่อ" หรือลายเซนต์ ให้ตรงกับหนังสือเดินทางเล่มเก่าให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
8. สแกนลายเซนต์  ต้องดูให้ดีๆ ว่าตกขอบไหม  ชัดเจนหรือไม่ ลายเส้นหนักเบายังไง เอาหนังสือเดินทางเล่มเก่ามาเทียบ  เนื่องจากว่าคนไทยในต่างแดนห่างหายจากการเขียนหนังสือ บางครั้งทำให้ประสิทธิภาพในการเขียนลดลง  ต้องให้ลองเซนต์ในกระดาษเปล่าๆ หลายๆ ครั้ง (เพราะกลัวทางบ้านเราไม่ให้ผ่าน)
9. จากนั้นสแกนเอกสาร พร้อมกับบันทึก
10 เปลี่ยนหัวข้อ เป็น "ชำระเงิน"
ค่าธรรมเนียน 15 ดอลลาร์ และประทับ Endorement อีก 4 ดอลลาร์ (จะจ่ายทีหลังก็ได้ แต่ 15 ดอลลาร์ต้องจ่ายวันที่ทำ)
12 พิมพ์ใบรับหนังสือเดินทาง
 เสร็จจากระบบ  ต่อไปก็เป็นการอธิบายการมารับหนังสือเดินทาง
** ถ้ามาทำหลายๆ คน  จะอธิบายครั้งเดียวพร้อมๆ กัน หากสงสัยยังไงให้ถามเลย  ไม่งั้นบริหารเวลาไม่ได้  วินาทีเดียวก็ต้องบริหารเพราะเอกสารยังกองที่โต๊ะอีกตรึม**

คำอธิบายในใบรับคือ
- นำใบเสร็จมายื่นเป็นหลักฐานด้วยนะคะ  (ขี้เกียจรื้อหา  ให้ผู้ยื่นคำร้องเอามาโชว์ดีกว่า สบายเราไป)
- ลงลายมือชื่อให้เหมือนในหนังสือเดินทางที่ช่อง "ผู้ทำหนังสือเดินทาง ได้รับคำอธิบายในการรับหนังสือเดินทาง"
- หากไม่สะดวกรับด้วยตัวเองให้กรอกช่อง "มอบอำนาจ" โดยการเขียนชื่อ และลงลายมือชื่อช่องนี้ให้เหมือนในหนังสือเดินทางนะคะ   (ชี้ให้เขาเห็น ถ้าไม่พยักหน้าก็ถามว่า ไม่เข้าใจตรงไหนถามได้นะคะ) คนที่มารับแทนจะมากรอกช่อง "รับหนังสือเดินทาง" ในวันที่มารับค่ะ พร้อมกับสำเนาหนังสือเดินทางของผู้ที่มารับ  แล้วหนูจะอธิบายเขาอีกที
- หากมารับด้วยตัวเอง  จะกรอกช่อง "รับหนังสือเดินทาง" ในวันที่มารับค่ะ
- จากนั้นชำระค่าธรรมเนียน 4 ดอลลาร์ สำหรับอ้างอิงวีซ่าเล่มเดิมหรือ Endoresment ค่ะ  (ถ้าบางคนจ่ายตั้งแต่วันแรกก็แสดงใบเสร็จมา  ยอมหน้าแตก  เพราะขี้เกียจจำ)
- หนังสือเดินทางจะได้ประมาณ 2 - 3 อาทิตย์ค่ะ  เจ้าหน้าที่จะโทรศัพท์แจ้งนะคะ  (ด้วยเพราะหนังสือเดินทางทุกเล่มผลิตที่บ้านเรา แล้วนั่งเครื่องบินมามอสโกค่ะ)


***แถมๆๆ***  หนังสือเดินทางมาถึง ต้องเอาเข้าระบบ "รับหนังสือเดินทาง"  พอคนมารับหนังสือเดินทางเข้าระบบ "จ่ายเล่ม"  ซึ่งมีขั้นตอนอีก  แม้ไม่เยอะ  แต่สรุปง่ายๆ คือ  การทำหนังสือเดินทางที่ข้าพเจ้าทำมีขั้นตอนดังนี้
1. ทำเข้าระบบ
2. วันรุ่งขึ้นเชคในระบบว่าขัดข้องส่วนไหน จะได้ส่งเอกสารเพิ่ม
3. เชคในระบบว่าสถานะ ผ่านหรือไม่  เมื่อผ่านแล้วก็เบาใจไป
4. เมื่อหนังสือเดินทางมาถึง  เชคข้อมูลก่อนว่า เหมือนเล่มเก่าหรือไม่จากนั้นเอาเข้าระบบ "รับหนังสือเดินทาง"  อันนี้ไม่ต้องเชคอีกรอบ  ถ้าไม่เข้ามันก็จ่ายไม่ได้  ไว้ทำวันที่ผู้ร้องฯ มารับได้
5. เมื่อผู้ร้องฯ มารับ ให้เชคหนังสือเดินทางก่อนว่าข้อมูลถูกต้องหรือไม่  ถ้าถูกต้องแล้ว เข้าระบบ "จ่ายเล่ม"  พร้อมกับบันทึกภาพผู้ที่มารับ
กรณีให้ผู้อื่นมารับ ต้องถ่ายสำเนาบัตรคนมารับด้วย เซนต์รับรองและเบอร์โทรอีกครั้ง
และทุกคนที่มารับ  ต้องกรอกช่อง "รับหนังสือเดินทาง"
6. ลงบันทึก Endoresment ตามลำดับ ต่อด้วยประทับตราในหน้าบันทึก มีทั้งหมด 5 ประทับตรา แล้วเขียนข้อมูลให้ครบ อีกด้วย
7. ถ่ายเอกสารเก็บเป็นหลักฐาน

โอเค...พิธีสมบูรณ์แล้ว   นี่คือทำคนเดียวหมดเลย .... หวังว่าคงเล่าไม่ "พลาด" ขั้นตอนไหนนะคะ ....

ยังๆๆๆ  ยังมีทำหนังสือเดินทางแบบสัญจรด้วยนะคะ  อันนี้แหละต้องพิมพ์เองหมดทุกหัวข้อ จะใช้เวลานานและเพิ่มระดับความระมัดระวังมากขึ้นอีก 10 เท่าตัว  เพราะว่าถ้าพิมพ์ผิดนี่คือ  เราต้องควักเงินเองจริงๆ 
ถ้าเล่าอีกจะเยอะมากๆ ค่ะ  แต่เคยทำมาแล้วนะคะ  ตอนที่ระบบอินเตอร์เน็ตเสีย ...พิมพ์แล้วต้องเชคให้ดีๆ เลยค่ะ







 

Create Date : 30 เมษายน 2560
4 comments
Last Update : 6 พฤษภาคม 2560 21:59:43 น.
Counter : 1313 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณคนผ่านทางมาเจอ

 

สวัสดีคะ..

ตามมาอ่านงานตะพาบด้วยคนคะ..

โหวตให้เลย..มาช้ายังดีกว่าไม่มาเน้อะ..

 

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) 30 เมษายน 2560 19:23:05 น.  

 

แรก ๆ ผมคิดว่างาน จะง่าย.... เคยเห็นเขานั่งทำงานหน้าจอ
พออ่านข้างบน อ้อ..แบบนี้เอง

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 5 พฤษภาคม 2560 13:08:23 น.  

 

อยากไปเที่ยวรัสเซียค่ะ อยากขอคำแนะนำ

 

โดย: อ้อ พรทิพย์ IP: 110.168.52.137 11 พฤษภาคม 2560 19:36:40 น.  

 

ตามมาอ่านเรื่อง การทำหนังสือเดินทาง

ถ้าไม่อ่านมองผ่านๆก็ไม่น่าสนใจ พออ่านก็เห็นว่าเป็นประโยชน์มาก

 

โดย: ชมพร 12 พฤษภาคม 2560 23:31:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


SeaSnow
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




คิดในแง่ดีๆ ดีกว่ามานั่งจำสิ่งที่พลาดไป
Friends' blogs
[Add SeaSnow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.