ทุกคนรู้ว่าศุนย์กลางของมอสโกคือ - จตุรัสแดง. แล้วรู้ไหมว่า ทำไมจตุรัสหลักนี้ถึงถูกเรียกว่า "คราสนาย่ะ - แดง" ก็แน่นอน เพราะมันแปลว่า "สีแดง"
จริงๆ แล้ว "คราสน่ะ - แดง" มาจากคำศัพท์โบราณ (นานมากๆ ค่ะ นานจนไม่มีใครจำได้แล้วว่านานมากแค่ไหน รู้แค่ว่านานมากจนคำๆ นี้เขาไม่ใช้ในปัจจุบันกันค่ะ) ความหมายคือ "สวย"
-- แป่ววว ..ตอนเรียนนี่เหวอเลยค่ะ พอรู้รากศัพท์แล้ว ทำไมมาเปลี่ยนความหมายซะงั้นอะ
ชื่อนี่ปรากฎในกลางศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าซาร์ (ไม่ระบุว่าคนไหนนะคะ)เลือกชื้อนี้ ก่อนที่จะถูกเรียกว่า "ไฟ" เพราะว่ามันสร้างมาจากไม้ป่าในมอสโกซึ่งเกิดเพลิงไหมได้ง่าย...
เมื่อข้าศึกเข้าประชิดเมืองมอสโก ตอนนั้นไฟลุกอย่างแรงและบ่อยครั้งที่ไฟนั้นมาจากเครมลิน ตึกเครมลินสร้างจากไม้โดนเผา ป่ามอสโกโดนเผาเช่นกัน
"คราสนาย่ะ - แดง" มีความหมายวว่า "คราสิว่ะ - สวย" ( 2 คำนี้เขียนคล้ายๆ กันค่ะ สามารถสับสนได้) อีกทั้งซาร์ต้องการใช้คำนี้แต่ก็มีคำอื่นที่เคยถูกเสนอ
สีแดง มีอีกความหมายว่า "เลือด" เพราะว่าที่นี่ ที่จตุรัสแดงแห่งนี้เคย(จะ)มีการนองเลือดมากมาย. ด้วยเพราะที่นี่เคยเกิดเหตุการณ์การปะทะ (นองเลือด)จากศัตรู อีกทั้งที่ี่ยังเป็นสถานที่ที่ลงโทษของนักโทษ, อาชญากร และโจร สิ่งที่น่าสนใจคือ สถานที่แห่งนี้มี ลานตัดคอ (สถานที่ที่ให้คนที่กระทำผิดก้มหน้าผากจรดพื้น) แต่...ไม่เคยมีใครสักคนจบชีวิต ณ ที่แห่งนี้
--- เฮ้ย มีขู่ด้วยอะ เหมือนลานประจานก่อนประหารนักโทษ ทำให้ไม่มีใครทำผิด
สถานที่แห่งนี้ยังมีบทบาทเมื่อมีผู้นำสาสน์(ผู้ถือคำสั่ง)ของซาร์มาประกาศต่อหน้าสาธารณะอีกด้วย
ปี ค.ศ.1611 เมื่อรัสเซียไร้ซึ่งกฎหมายของซาร์ อีกทั้งพวกข้าศึกต้องการยึดบังลังค์ของซาร์. ประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่ง นามว่า มิมิน และเจ้าชายปาซาร์สกี้ได้ออกมาที่จตุรัสแดงพร้อมกับรวบรวมเงินจากราษฎรทุกคน และสร้างกองทัพประชาชนขึ้นมาเพื่อปกป้องมอสโกจากศัตรู. มิมินและเจ้าชายปาซาสกี้พร้อมกับฮีโร่ประชาชนเข้าร่วมรบเพื่อปลดปล่อยอิสระภาพแก่เมืองมอสโก
ปี ค.ศ. 1818 ที่ศูนย์กลางใหญ่ของจตุรัสแดงได้มีการสร้างอนุเสาวรีย์ให้แก่มิมิน และเจ้าชายปาซาสกี้ และนี่คือสถาปัตยกรรมชิ้นแรกของมอสโก. อนุเสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่กลางจตุรัสแเดงจนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1924.
ผู้คนพูดกันว่า อนุเสาวรีย์นี้เกะกะขบวนสวนสนามที่จตุรัสแดง ดังนั้นในปี ค.ศ. 1924 เมื่อจตุรัสแดงได้สร้างสุสานแก่ แบ.อิ. เลนนิน (วลาดิเมียร อิลลิช เลนิน) อนุเสาวรีย์มิมินและเจ้าชายปาซาสกี้ได้ถูกย้ายตั้งใกล้ๆ กับโบสถ์ปาโคฟสกี้ และโบสถ์ที่มีชื่อเสียงที่รู้จักกันอย่างดี โบสถ์บาซิเลีย (มหาวิหารเซนต์บาซิล)
โบสถ์เซนต์บาซิลถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1552 ยุคของซาร์ อีวาน โกรซน์ สรางเพื่อประกาศชัยชนะเหนือชาวคาซาน (ตาตาร์ มองโกล). โบสถ์เซนต์บาซิลสร้างจากหินสีขาว หินเหล่านี้สร้าง 9 โบสถ์ซึ่งโดมทำมาจากทองคำ แต่น่าเสียดายต้นแบบ(โมเดล)ของโบสถ์ไม่ได้ถูกเก็บจนกระทั่งปัจจุบัน
ณ ตอนนี้โบสถ์นี้คือโบสถ์แห่งเดียวที่สวยที่สุดในมอสโก และถูกประดับไว้ที่จตุรัสแดงแห่งนี้
ฝั่งตรงข้ามของโบสถ์เซนต์บาซิล ที่อยู่ตรงโน่นนนน คือที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ เป็นสถานที่ที่เก็บอนุเสาวรีย์ประวัติศาสต์และวัฒนธรรมของรัสเซีย
ที่อยู่ของพิพิธภัณฑ์ที่จตุรัสแดง โดม (บ้าน)หมายเลข 1 ก่อนหน้านั้น เป็นพื้นที่ที่เคยเป็นร้านขายยา และร้านอาหารของชาวจีนมาก่อน ซึ่งซาร์ที่หนึ่งมักจะมาทานอาหารกลางวันด้วยพระองค์เองหลังจากนั้นตึกนี้ก็เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมอสโกซึ่งเปิดเมื่อปี ค.ศ. 1755. ในตอนนั้นมหาวิทยาลัยมอสโกมีแค่ 3 คณะ ได้แก่คณะปรัชญา คณะกฎหมาย และคณะหมอ
แต่ปี 70 ศตวรรษที่ 19 สถานที่แห่งนี้ได้สร้างตึกใหม่ นั่นคือตึกที่เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ และร้านอาหาร ที่รู้จักกันดีในชื่อ "จตุรัสแดง บ้านหมายเลข 1 "
ส่วนสำคัญอื่นๆ ของจตุรัสแดงก็คือ เป็นจตุรัสแลกเปลี่ยนสินค้า (หรือตลาดนั่นเอง) หลังจากปี ค.ศ. 1520 ที่จตุรัสแห่งนี้ได้นำหินมาสร้าง "ประตูโกสติน" ที่ซึ่งสามารถค้าขายได้ที่นี่ แต่การแลกเปลี่ยนสินค้านั้นไม่ใช่เฉพาะที่ ประตูโกสติน จตุรัสแดงเท่านั้แต่ไกลไปถึงกำแพงเครมลินเลย หรือรอบๆ โบสถ์เซนต์บาซิล ซึ่งตอนนี้ประตูโกสตินเป็นที่ตั้งของห้างที่ใหญ่ที่สุดของมอสโก - กุม
หลายๆ วันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ยิ่งใหญ่และการประกาศชัยชนะที่ยิ่งใหญ่มีการเฉลิมฉลองกันที่จตุรัสแดง ที่นี่จะมีการเดินสวนสนามและการพบปะจากจำนวนทหารหลายหมื่นคน (ทั้งชายและหญิง) ผู้เขียนบทความคิดว่า สาเหตุที่ที่นี่ถูกเรียกว่า "จตุรัสแดง" อาจจะเพราะสาเหตุนี้ คือ วันหยุด ขบวนพาเหรด การสวนสนาม. ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1918 จนถึงปี ค.ศ. 1990 ที่จตุรัสแดงแห่งนี้มาการสวนสนามมาแล้ว 120 ครั้ง แต่ 2 ครั้งของการเดินขบวนที่มีชื่อเสียงที่สุด ซึ่งประชาชนได้จำจดมาจนถึงทุกวันนี้
ครั้งแรกคือวันที่ 7 พฤศจิกายน 1941 เมื่อสงครามมาถึง ศัตรูได้เข้าประชิดมอสโก ทหารได้มุ่งตรงจากจตุรัสแดงเพราะปกป้องเมืองหลวง พวกเขาเหล่านั้นเสียชีวิตกันมากมายจากการต่อสู้อันแสนหนักใกล้กับมอสโก
ครั้งที่ 2 - ขบวนพาเหรดที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ ขบวนพาเหรดประกาศชัยชนะวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 ประเทศมีการเฉลิมฉลองชัยชนะเหนือเยอรมันนาซี
เมษายน ค.ศ. 1961 ที่จตุรัสแดง มีผู้คนจากทุกสารทิศในประเทศเปี่ยมไปด้วยความสุข รอยยิ้ม ช่อดอกไม้เพื่อมาพบกับมนุษย์คนแรกที่ออกสู่อวกาศ นายยูริ อเล็กเซวิช กาการิน
และในปีถัดไปที่จตุรัสแดงได้มีการแสดงคอนเสิร์ตดนตรี และนักแสดงจนพวกเขาสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองได้ เช่น นักผู้กำกับและนักไวโอลิน นักร้องนักแสดงโอเปร่า
จตุรัสแดง - เป็นสถานที่ที่คล้ายแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวและทุกคน วันเฉลิมฉลอง วันหยุดพักผ่อน วันทำงาน วันที่แดดดี หรือวันที่อากาศไม่ดีที่จตุรัสแดงแห่งนี้ก็ยังมีผู้มาเยือน ผู้คนที่มาที่นี่ คือ มาเดินเล่น มาพักผ่อน มาดูสถานที่สวยๆ งามๆ และมาชอปปิ้ง.
แปลจากหนังสือเรียนภาษารัสเซีย ดาโรก่ะ เฝอ วะ รัสสิยู (ฉบับที่ 1 อูโรเว่น - สอง) โดย seasnow
เพิ่มเติม จากหนังสือเรียน รุสกี้ เอ็กเพรส ดวา
กำแพงเครมลินมีหอป้อมทั้งหมด 20 หอป้อม ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่ต่างกัน กำแพงเครมลินยาว 2 250 เมตร หอป้อมที่มีนาฬิกานั้นมีชื่อว่า ป้อมสปาชสกาย่ะ เมื่อนำนาฬิกามาใส่ในป้อม จึงถูกเรียกอีกชื่อว่า "กุรันตึย"
ทุกๆ วันสิ้นปีก่อนที่จะเริ่มวันใหม่ กุรันตึยหรือนาฬิกา แห่งป้อมสปาชสกาย่ะ แห่งกำแพงเครมลินจะตีทั้งหมด 12 ครั้ง ถือเป็นการเริ่มวันใหม่ของปีใหม่
เครมลินถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1156 จากนั้นเมืองมอสโกก็ถูกสร้างล้อมรอบเครมลิมเป็นวงแหวนมากขึ้นเรื่อยๆ ผังเมืองของมอสโกจึงถนนวงแหวนตัดผ่านถนนมากมาย ผู้ที่รวบรวมผู้คนเพื่อสร้างเมืองมอสโกขึ้นมาคือ กษัตริย์ยูริ โดลก่ะรูกี้ เป็นผู้เชิญชวนและรวบรวมชนเผ่าที่อาศัยอยู่แถวนั้น มาอาศัยรวมกันและสร้างเมืองมอสโกขึ้นมา
--------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------
เอาดอกซากุระที่มอสโกมาฝากค่ะ ถ่ายเมื่อวันศุกร์ เดินเล่นในวิทยาลัยค่ะแล้วเจอ แต่ไม่แน่ใจ ลากเพื่อนญี่ปุ่นไปพิสูจน์ที่ต้น ให้จับทั้งใบ ดอก และต้น เพื่อนยืนยันว่า "ซากุระของจริง"
กรี๊ดค่ะ เพราะไม่คิดว่ามอสโกจะมีดอกซากุระ แม้จะสีขาวก็เถอะ แล้ววันนั้นก็มองหาระหว่างทางเดินกลับบ้านเจออีก 2 ต้นค่ะ
โม้แก้มแตกให้ครูฟังว่าไปเจอต้นซากุระตรงลานจอดรถ ครูก็บอกว่า ครูก็จอดแถวนั้นนะ ฮา ครูก็ส่งลิงค์สวนซากุระที่มอสโกให้ค่ะ เรียนมาตั้งปีกว่า มัวแต่ก้มหน้าอ่านหนังสือ ไม่เคยรู้เลย แต่ดอกจะเริ่มบานเดือนนี้นะคะ เพราะว่าเพิ่งเริ่มอุ่นค่ะ ที่ญี่ปุ่นคงร่วงไปแล้ว ไว้มีโอกาสจะไปเดินชมที่สวนสาธารณะค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและชมรูปนะคะ ที่นี่เริ่มร้อนแล้วค่ะ ดอกไม้เริ่มออกแล้ว
ขอแทะกิ่งมันซะหน่อย แง่บๆ