Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
4 กันยายน 2556
 
All Blogs
 
O มาลาคำ .. O








เขมรไทรโยค-เปียโน


-1-
O บายศรีคำสู่แก้ว - - - กานดา
แทนหมื่นหอมมาลา - - - มอบไว้
พร่ำพร้องผ่านพรรณา - - - แนบโสต แม่แม่
เพื่อติดตรึงทรวงให้ - - - ห่วงละห้อยคอยเห็น ฯ

O เสียงเอ่ยเสียงโอดอื้น - - - อาลัย
ครวญคร่ำบอกความนัย - - - อ่อนเนื้อ
เพื่อเนตรผ่องแผ้วไพ - - - บูลย์บท ภิรมย์เนอ
อุ่นจักอบอวลเชื้อ - - - ช่วงชู้บำรูโฉม ฯ

O เนตรดั่งดาวเด่นห้วง - - - เวหน
กลางมืดมัว, อำพน - - - แผ่ล้อม
คำนึงย่อมวกวน - - - เวียนอยู่
เวียนภพเวียนชาติน้อม - - - แนบซึ้งระรึงทรวง ฯ

O ขังตัวภายใต้โอบ - - - อ้อมดาว
อบร่ำให้ลมหนาว - - - เหน็บเนื้อ
เสียงคีตแว่วทุกคราว - - - คือเนตร เหลือบแฮ
ปรายเหลือบดั่งคอยเอื้อ - - - โอบชู้รู้เชิง ฯ

O เพียรฝันเลื่อนฟ้าผก - - - โผบิน
ข้ามน่านน้ำธรณิน - - - แนบชู้
ยอชาติภพเทียบยิน - - - ดีโลก นั้นนา
ล่ามรัดขวัญ-อย่ารู้ - - - หลีกเร้นรอบภิรมย์ ฯ

O ถ้วนองค์ทั้งอกฟ้า - - - แลดิน
นบเทพทังสาวสินธุ์ - - - สื่อรู้
พระเอยสะโรช-ริน - - - มนต์ร่าย ร่วมฤๅ
ร่วมพากย์แจ้งใจชู้ - - - ชื่นด้วยเรียมเดียว ฯ

O งามนั่นยิ่งเนตรถ้วน - - - ทั่วคราญ
มอบหม่นหมองทรมาน - - - หมด-หน้า
โอนรำบับรำบาญ - - - มืดบอด เรียมเนอ
บรรจบแรงไขว่คว้า - - - แต่หน้านางเดียว ฯ

O คมเนตรควรนุชป้อง - - - ปิดบัง
ปรับประกายซ่อนขัง - - - ข่มไว้
ชายอื่นหมื่นแสน-หวัง - - - อย่าวาบ แววแม่
เว้นแต่เรียมเดียวไซร้ - - - สบแล้วชม้ายรอ ฯ

O โอนหวงทั่วแห่งห้อง - - - หัวใจ
เป็นกรอบกั้นความใน - - - เนตรเจ้า
น้ำดินฝั่งฟ้าใด - - - สดับอยู่
ฟังเถิดเสียงยั่วเย้า - - - เพรียกยิ้มยวนสมัย ฯ

-2-
O สาวแสงศศินะขึ้น - - - ไขสี
นกคร่ำเสียง, ลมวี - - - แวดล้อม
เรไรกล่อมธาษตรี - - - ต่างพาทย์ เพลงนา
นึก-กรุ่นกลิ่นเนื้อน้อม - - - แนบอ้อมแขนหวง ฯ

O วงจันทร์จำรัสห้อง - - - หนหาว
เนื้อนิ่มเนตรต่างดาว - - - ประดับฟ้า
ห่วงเมื่อนิทราคราว - - - อยู่เดี่ยว นะแม่
จักวุ่นวายเหว่ว้า - - - หว่างละห้อยคอยไฉน ฯ

O สาวน้อยมาโนชญ์หน้า - - - แนมสุวรรณ พี่เอย
แต่ออดอ้อนรำพัน - - - อยู่พร้อม
ก็เพื่อกล่อมดวงขวัญ - - - ฝากสวาดิ
หมายว่าใครอาจน้อม - - - รับเนื้อความเสนอ ฯ

O ยามดึกสงัดสิ้น - - - เสียงคน
แว่วแต่เสียงอึงอล - - - อกนี้
พร้อมภาพหนึ่งไหววน - - - หว่างช่วง คะนึงนา
ไหวอยู่คอยช่วงชี้ - - - ชื่นล้ำบำเรอ ฯ

O แพงทองแม่ผ่องเนื้อ - - - นพคุณ
ราวปกด้วยใบบุญ - - - บ่มไว้
เรื่อปรางยิ่งเรื่ออรุณ - - - ยามแรก
งามจะงามเหมือนได้ - - - ดั่งนี้มีหรือ ฯ

O ดาวเดือนกระดากฟ้า - - - เฟือนสี
หนาวเหน็บท่ามลมวี - - - วาดไม้
อกเอยเมื่อไมตรี - - - ผูกบ่วง
จะเหนี่ยวคล้องอกให้ - - - ห่วงรู้ปรารถนา ฯ

O บงโอฆอากาศล้วน - - - ลมบน
ตระหลบล้อมสากล - - - ก่ายฟ้า
คะนึงนึกรูปนฤมล - - - เมื่อสบ
ตระหลบล้อมรูปหน้า - - - ต่อหน้าเลือนไฉน ฯ

O ขวัญเมืองพิมพ์มาศแม้น - - - เหมือนโฉม แม่ฤๅ
แต่เมื่อเผยรูปโลม - - - โลกนี้
ก็หยัดหยั่งรอบโสม- - - - นัสต่อ โลกแน
หมองหม่นคาบก่อนกี้ - - - แต่ล้วนสูญสลาย ฯ

O คะนึงมวลแชล่มน้อย - - - นงคราญ
เคลื่อนผ่านส่ำเสียงสนาน - - - เสนาะแท้
แต่รูปหนึ่งรำบาญ - - - เบียด-อก เรียมนา
สักหนึ่งคราญอาจแก้ - - - กลบได้สิ้นหรือ ฯ

O จันทร์พ้นอุรภาคเพี้ยง - - - ภินทนา
หมายรูปรอยปรารถนา - - - นิทระแล้ว
นึกแพรแถบพัสตรา - - - คลี่ห่ม เนื้อเนอ
ใดอาจอุ่นเนื้อแก้ว - - - ดุจอ้อมทรวงเรียม ฯ

O ผ่านคืนเรียมคิดด้วย - - - อาดูร
มาเลศลักษณ์กำลูน - - - ลับแล้ว
โกสุมเมื่อมาสูญ - - - สลายกลิ่น
ยังแต่ความผ่องแผ้ว - - - ฝากไว้รองถวิล ฯ

O สุริเยนทรบทเบื้อง - - - บรรพตา
อีกฝั่งรูปดาริกา - - - เลื่อนล้อม
หลับฝันเล่ห์สิเนหา - - - ห้อมอยู่ นะแม่
เมื่อตื่นตาจักพร้อม - - - พากย์ร้อยคอยประโลม ฯ

O พระเอยสะโรชท้อง - - - ชลธาร
โอนฤทธิ์มอบสิทธิ์ขาน - - - ข่าวชู้
เบิกความบ่มใจคราญ - - - ครวญคร่ำ อยู่เนอ
เช้าจดค่ำเพียงรู้ - - - แต่ละห้อยคอยเรียม ฯ



สาวสินธุ์ - - - นางมณีเมขลา
สะโรช - - - ผู้เกิดจากน้ำ หมายถึงพระนารายณ์




Create Date : 04 กันยายน 2556
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2563 18:33:44 น. 28 comments
Counter : 2998 Pageviews.

 



O กลีบมาลย์อวลกลิ่นไล้ - - - ลมยอ
แผ่วผ่านหอมแอบออ - - - โอบล้อม
รื่นหอมรูปงาม-พอ - - - คำพจน์ เปรียบฤๅ
เมื่อหนึ่งใจพรั่งพร้อม - - - แต่ละห้อยคอยหอม ฯ

O ดอกเหลืองสดมอบไว้ - - - ในมือ
กลีบบอบบางถนอมถือ - - - กริ่งช้ำ
ใจเอยหวั่นไหวฤๅ - - - จึงแกว่ง กระนี้นา
แต่เมื่อเนตรหวานล้ำ - - - แล่นน้ำผกายหนุน ฯ

O ช้อยช่ออยู่ใต้ร่ม - - - รำไร
กลีบบอบบางเสียดใบ - - - ระบัดล้อม
ผุดผ่องนิ่มนวลใย - - - ยอรูป ล้อมเนอ
เสียดอกใจอยู่พร้อม - - - ไป่รู้หลีกภวังค์ ฯ

O เรียวก้านช้อยช่อขึ้น - - - พะนอลม
เมื่อเนตรปลาบวาบคม - - - เหลือบค้อน
ให้เพ่งผาด-ปรารมภ์ - - - รุมอก กระนั้นนา
รุมว่า-คือออดอ้อน - - - อ่อนเนื้อ-คอยถนอม ฯ

O ปรุงปรนสีกลิ่นเรื้อง - - - รมยา
ลอยล่องลานเพ-ลา - - - สู่รุ้ง
กลีบเหลืองละลานตา - - - เตรียบค่า ควรเนอ
เสพประทิ่นถิ่นฟุ้ง - - - พ่างรุ้งยอแสง ฯ

O เพรางายปฐมะเรื้อง - - - รังสิมันต์
มัทนะเหลืองแฉล้ม, บรร- - - - เจิดช้อย
เตรียบพักตร์ผุดผ่องวรร- - - - โณภาส ยากนา
ดูเถิดเพียงเนตรชะม้อย - - - มากน้อยประเมินไฉน ฯ

O กลิ่นเกลี้ยงกุสุมะรู้ - - - รวยริน
อบร่ำคร่ำครวญถวิล - - - หวั่นร้าง
หอมเอยหล่อเลี้ยงจิน- - - - ตภาพแต่ แม่นา
รูป-กลิ่น-ใจ-ล่องคว้าง - - - ร่ำรู้หวานหอม ฯ

O เพราพรายโอภาสเมื้อ - - - เมฆบน
เหลื่อมละลานอำพน - - - แผ่นฟ้า
เมื่อหอมกลิ่นเสาวคน- - - - ธะรสจู่ ใจแม่
ล่มทุกหน้า, เหลือหน้า- - - - แต่หน้านางเดียว ฯ



โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:13:58:32 น.  

 


กุหลาบควีนสิริกิติ์ : Queen Sirikit Rose

ชื่ออื่น (Peer Gynt)
ผสมพันธุ์โดย Kordes, Germany, 1968
ลูกผสม Colour Wonder x Golden Giant
ประเภท Hybrid Tea; Yellow blend


เป็นกุหลาบดอกใหญ่สีเหลือง เมื่อต้องแสงอาทิตย์ปลายกลีบจะมีสีส้ม ดอกมีกลิ่นหอม บางครั้งกิ่งหนึ่งอาจมีถึง 3 ดอก นายอองเดร อองดริก ผู้อำนวยการไร่กุหลาบกร็องด์ โรเซอเร ดู วาล เดอ ลัวร์ (Grandes Roseraies Du Val de Loire) แห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์ในฝรั่งเศส เป็นผู้ตั้งชื่อดอกกุหลาบชนิดนี้ตามพระนามของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2514 ในเอกสารของไร่บันทึกเรื่องราวไว้ว่า "พระราชินีแห่งประเทศไทย ทรงพระสิริโฉมเป็นเสน่ห์แบบตะวันออกเหนือตะวันตก"



โดย: บุษบามินตรา IP: 84.179.123.172 วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:14:56:06 น.  

 

"นมแมว"เหลืองอ่อนอ้อน - - - อิงใบ
หอมกรุ่นยามลมไหว - - - แวดล้อม
นึก-หอมกรุ่นรูปใน - - - อ้อมอก
อิงแอบออดอ้อน, อ้อม - - - กอด-ร้างได้หรือ ?


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:19:00 น.  

 

"จำปา"เหลืองส้มเชิด - - - ชูทรง
รอ-ภู่น้อมกายลง - - - เกลือกใกล้
ต่างฤๅเมื่อรูปองค์ - - - อิงแอบ
รอ-อกแขนโอบไล้ - - - ลูบเนื้อนวลถนอม


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:20:14 น.  

 

"จำปี"แย้มกลีบเชื้อ - - - เชิญภมร
หอมกรุ่นรอแทรกซอน - - - เสพลิ้ม
เรียวรูปปากเผยอวอน - - - เว้าอยู่ นี้นา
แขนโอบ, ตาหลับพริ้ม - - - แผกแย้มสุมาลย์ไฉน ?


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:21:21 น.  

 

"กุหลาบมอญ"กลิ่นฟุ้ง - - - ฝากสมัย
กลางปีกภู่ภมรไหว - - - ว่อนล้อม
งามรูป, พฤติใน - - - จิตพี่ แม่แม่
ยิ่งกว่าปีกภมรห้อม - - - ห่วงละห้อยแต่หอม


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:22:25 น.  

 

เหลือบเหลืองใต้ร่มไม้ - - - ใบบัง
กลีบ"ลำดวน"คลี่อัง - - - อุ่นร้อน
นึกนาสิกแนบฝัง - - - ฝากอุ่น แก้มนา
แก้มย่อมแดงก่ำซ้อน - - - ซ่านให้สูดหอม ฯ


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:23:18 น.  

 

"ลำดวน"กลีบดอกงุ้ม - - - งาม,หอม
บังร่มใบคล้ายออม - - - แอบเนื้อ
โดยรูปชอบแต่ถนอม - - - แนบอก นะแม่
จากสบรูปงามอะเคื้อ - - - แต่ละห้อยห่วงหา


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:24:20 น.  

 

"บุหงาส่าหรี"ทิ้งช่อ - - - ชวนหอม นั้นนา
อาจหยุดใจจนออม - - - อดได้
กรทิ้งรูปเรียวประนอม - - - ประนังโอบ นี้เนอ
อาจหยุดการลูบไล้ - - - แต่ด้วยลมสลาย


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:25:07 น.  

 

"การเวก"แย้มกลีบเกลี้ยง - - - กลางสมัย
เมื่อขาบเขียวเรียวใบ - - - ระบัดล้อม
เกลี้ยงเกลานิ่มเนื้อใคร - - - คอยอยู่ นะแม่
คอยช่วงอกแขน, อ้อม - - - กอดสร้างเดียงสา


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:25:52 น.  

 

"ช้องนาง"ชูช่อช้อย - - - ชวนชม
ขาวเหลื่อมเหลืองสวยสม - - - ศักดิ์เจ้า
ยื่นดอกยั่วภมรดม - - - ดอมกลิ่น
ฤๅต่างแม่ยั่วเย้า - - - ยื่นหน้ารอถนอม


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:26:44 น.  

 

"นางแย้ม"ดอกแยกแย้ม - - - เป็นพวง
กลแยกแย้มสุดาดวง - - - เด่นหน้า
เห็น..เรียมห่วงฤๅหวง - - - เหือดอก นะแม่
กับท่าทีทายท้า - - - ทอดไว้ให้ถวิล


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:27:31 น.  

 

นั่น"สายน้ำผึ้ง"เชิด - - - กลีบเรียว
หอมอ่อนเพรียกปีกเปรียว - - - ปราดห้อม
อีกรูปเพรียกตาเหลียว - - - เหลือบสบ
สบรูป, รูปจึ่งล้อม - - - ล่ามล้อแรงคะนึง


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:27:54 น.  

 

"มณฑาทอง"กลีบแย้ม - - - ยั่วภมร
รอปีกเรียวแทรกซอน - - - เสพลิ้ม
เช่นรูปทอดเรียวกร - - - กระชับโอบ
ปากแยกแย้ม, ตาพริ้ม - - - หลับคล้ายรอคอย ?


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:28:15 น.  

 

"สายหยุด"หอมหยุดสิ้น - - - แต่สาย
หอมบ่หยุดหอมกาย - - - กลิ่นแก้ว
กี่ช่วงภพชาติวาย - - - วางสุด หนอแม่
หอมอยู่ไม่รู้แล้ว - - - แต่เช้าตราบคืน ฯ


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:28:38 น.  

 

"แอบรัก"แอบช้อยรูป - - - ขึ้นรอ-
รับแดดเช้าทอดทอ - - - กระทบไล้
ดั่งตาสบรูปลออ - - - เนื้ออ่อน แม่แม่
สบรูปแล้ว, เลือนได้ - - - แต่ม้วยมรณัง ฯ


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:29:01 น.  

 

"ซ่อนกลิ่น"ออมกลิ่นไว้ - - - รอหอม
ช้อยช่อยั่วภู่ดอม - - - ดอกแย้ม
ซ่อนกลิ่นกลิ่นฤๅยอม - - - ซ่อนอยู่
ดูแต่นวลซ่อนแก้ม - - - กลิ่นเนื้อหอมไฉน


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:29:19 น.  

 

"ชมนาด"แย้มกลีบช้อย - - - รอชม
เสียดช่อขึ้นรับลม - - - ลูบไล้
อีกรูปเพรียกอารมณ์ - - - รุดเร่ง
แนบรูปแนบรสไว้ - - - หว่างละล้าละลังเหลียว


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:29:39 น.  

 

"บานชื่น"บานช่อช้อย - - - ชวนดู
เรียวกลีบสีชมพู - - - พิศพ้อง-
กับเรียวปากอิ่มตรู - - - ตรึงรูป รอเนอ
รอจบจุมพิตต้อง - - - ตอบน้ำใจเสนอ


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:30:00 น.  

 

ผึ้งภู่บินเร่งร้น - - - รุมพะยอม
ฤๅต่างเรียมตฤปดอม - - - "ดอกแก้ว"
โหยแลห่วงกลิ่นหอม - - - หายห่าง
แก้มอิ่มอุ่นจบแล้ว - - - จักแล้วไฉนหนอ


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:30:36 น.  

 

แม้น"โมก"อวลกลิ่นเร้า - - - รุมใจ
ยังยากเปรียบกรุ่นไอ - - - อ่อนเนื้อ
อกแต่เนตรนุชไข - - - ความตอบ พี่แม่
ดาลระลอกอุ่นเอื้อ - - - เอ่อให้คระโหยหอม


โดย: สดายุ... วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:30:58 น.  

 

ดายุ...

หอมกลิ่นดอกไม้ไทยไทย..หอมคำ..หอมความ..หอมใจรัก..หอมตรลบอบอวลไปทั้งเวปเลยค่ะ .


โดย: บุษบามินตรา IP: 84.179.123.172 วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:16:45:06 น.  

 
เป็นเช่นคุณมินตราว่า.. :)) และไพเราะมาก
ดอกไม้สีเหลือง สดใสดีจริง

ไม่สามารถแจมเป็นโคลง เพราะแค่มือสมัครเล่น ..


พลิ้วสายลมผ่านหาทุกคราครั้ง
สุดจะรั้งดวงจิตผ่อนคิดถึง
อาวรณ์ซ่อนอ่อนไหวซ้ำในคำนึง
เสน่หาอาลัยซึ้งตอกตรึงทรวง
.
ทุกงดงาม..อ่อนหวานที่ผ่านเห็น
ยิ่งเพิ่มเอ็นดู..รัก..อาลัย..หวง
สดับเถิด-ทุกคำ-ความบำบวง
เพื่อผูกบ่วงสองดวงใจอย่าไกล..ร้าง
.
ยินไหม..จังหวะใจที่ไกวแกว่ง
ระรัว..แรงถวิลอยู่ไม่รู้สร่าง
อิริยา..สอดรับราวจับวาง
ล้วนปูทางทอดลงที่ตรงใจ
.
แต่แก้วเจ้าเผยรูปนามมาล่ามพัน
ทุกรอบใจใฝ่ฝันจนสั่นไหว
ทุกก้าวย่างรออยู่..เพื่อผู้ใด
ทุกความร้อย..ถ้วนรอยนัย..ให้ผู้เดียว
.
ทีละเล็ก..ละน้อยค่อยฝังลึก
เช้า-สาย-บ่าย-ค่ำ-ดึก..ละล้าเหลียว
มองฟ้า..เห็นแต่ขวัญแทนจันทร์เรียว
สุดใจเหนี่ยวหน่วงอาวรณ์เกินผ่อนคลาย
.
ทั้งร้อนรุ่ม..เย็นเยียบ..เงียบ..อึงอล
ห้วงใจ..ราวสายฝนร่วงหล่นสาย
กระหน่ำซัดรัดรึงใจหนึ่งชาย
อีกตอกตรึงเพียงหนึ่งหมาย-ใจกายรอ..
.
บรรจงร้อยมาลัยวางนัยสู่-
หนึ่งใจ..รู้..จงสดับรับคำขอ
หวานหอมห้อมดวงฤดีอย่ารีรอ
สเน่หาจงถักทอล้ออารมณ์
.
จนสุดกุมกักจิต..คิดไกลห่าง
ตรึงปรารถนาอย่าร้าง..หากสร้างสม
สองดวงใจสอดประสานจนเกลียวกลม
ร่วมภิรมย์ทอนเปล่าเปลี่ยวทุกเที่ยวทาง

มีความสุข สมปรารถนาในสิ่งงดงามค่ะ


โดย: มาย IP: 124.120.121.10 วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:0:32:50 น.  

 

มาย...

"ทั้งร้อนรุ่ม..เย็นเยียบ..เงียบ..อึงอล
ห้วงใจ..ราวสายฝนร่วงหล่นสาย
กระหน่ำซัดรัดรึงใจหนึ่งชาย
อีกตอกตรึงเพียงหนึ่งหมาย-ใจกายรอ.."

ใครใครเขียนคำ เขียนความได้ไพเราะเพราะพริ้งมากมาย
แต่ไม่มีใครเขียนความได้"กินใจ"เท่ามายนะ...
หากมินตราเป็น"เพียงหนึ่งหมาย"สำหรับมายน่ะ เชื่อสนิทเลยล่ะ..
คงจะเป็นเพราะมายไม่มี"ตัวเล็กตัวน้อย"นี่เองนะ..
แล้วมินตราก็มิชอบที่จะเป็น..หนึ่ง..ใน ..ร้อย !

ในความ"ไม่เก่ง"นี่บางคนก็มีน้ำใสใจจริงที่คมกริบ..



.



โดย: บุษบามินตรา IP: 84.179.123.172 วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:1:16:37 น.  

 

สดายุ..

ในสภาพที่ทั้งในและนอกรัฐสภา วุ่นวายจริงหนอ..
ตามเวปไซท์ทั้งในและนอกราชอาณาจักร เต็มไปด้วยวาจาและจิตใจที่ กระด้าง..ดิบ..

เมื่อมาถึงเวปสดายุ..ความอ่อนหวานของดนตรี..
ความงดงามของดอกไม้ ประกอบด้วยมธุรสวาจา..
ทำให้เห็นคุณค่าของความเป็น"มนุษย์"ที่ยังหลงเหลืออยู่..ในจิตใจของคน
ถ้อยคำแห่งอารยะ ที่แยกคนออกจากสัตว์โลกอื่นอื่น..

มนุษย์ต่างจากสัตว์อื่นตรง ภาษาและวัฒนธรรมทางภาษานี่เอง !

กรุณาช่วยกันรักษาไว้..
ภาษาจะขัดเกลาความเป็นสัตว์..ให้ประเสริฐขึ้น ได้..
นี่เป็นการต่อสู้ทางวัฒนธรรม อีกรูปแบบหนึ่ง..





โดย: บุษบามินตรา IP: 84.179.123.172 วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:1:35:50 น.  

 
มินตรา ..

โคลงใช้บรรยาย "ดอกไม้ vs สาวน้อย" ได้ดีมาก ..
ไม่มีอะไรจะลงตัวเท่าดอกไม้หอมกลีบบอบบาง กับสาวน้อยผู้อ่อนไหวหัวใจแปรปรวน ได้อีกแล้ว

ผู้หญิง .. อาจมีบริบทที่เสแสร้งแกล้งทำอยู่บ้าง แต่มักซ่อนงำความเป็นจริงอยู่ไม่ลึกนัก .. แต่จริตกิริยายามอยู่ลำพังหรือยามถูกจับจ้องก็ตาม .. มักจับใจชายยิ่งนัก

แม้-ร้ายกาจ แต่ก็ขาดไม่ได้ 55

ใช่ขอรับ .. อารยธรรมของมวลมนุษย์เริ่มที่ทั้ง 4 ประการนี่เอง
.. ภาษา
.. ดนตรี
.. อาหาร
.. อาภรณ์

อย่างน้อย ไทยเราก็มีของตนเองครบ

ภาพในสภาไทยช่วงนี้อาจจะดูไร้อารยธรรมไปบ้าง .. ต้องขออภัยคนไทยในสังคมเจริญแล้วทั้งหลาย .. ที่สังคมเรามิอาจสร้างบุคคลิกภาพของนักการเมือง ให้น่าดู น่าชื่นชม ได้มากกว่านี้ ..

ต้องขออภัยที่ อันดับทางการศึกษาอยู่อันดับ 8 ในจำนวน 8 ประเทศที่นะมาเปรียบ .. มันช่วยไม่ได้ที่เด็กคิดไม่เป็น เพราะเราสอนให้เขาเชื่ออย่างเดียว .. เชื่อด้านดีด้านเดียวมาตลอดตั้งแต่เกิด 55






มาย ..
ผมชอบดอกไม้สีเหลือง รวมทั้งผลไม้สีเหลือง .. มองดูว่ามันสวยดี ..

มีอีกหลายบทที่ยังไม่ได้เอามาลง ..


ชมพูเหลืองแย้มดอก - - - ดำเกิง
"กุหลาบเมาะลำเลิง" - - - แดดไล้
ปรารมภ์กับรื่นเริง - - - โดยรูป, คำแม่
คำจากรูปอ้อนไว้ - - - หว่างห้วงเสน่หา
.
.
.

งาม"โมกแดง"เด่นล้ำ - - - รูปทรง
ให้กิ่งก้านเขียวรงค์ - - - รอบล้อม
แย้มกลีบอย่างบรรจง - - - รอภู่ ผึ้งนา
ฤๅต่างเจ้ารออ้อม - - - กอด-นี้คอยถนอม
.
.
.

แย้มรูปเรียงกลีบซ้อน - - - เป็นดวง
หอมกลิ่น"สามปอยหลวง" - - - รื่นล้ำ
อีกรูปอีกหอม-ทวง - - - ถามแต่ ถวิลเนอ
เอารสเอารื่นค้ำ - - - อยู่ค้างคาสมัย
.
.
.

"กรรณิการ์"อวลกลิ่นฟุ้ง - - - ประโลมฝัน
เมื่อกลีบดอกแย้มบรร - - - เจิดพร้อม
อีกรูปล่ามผูกพัน - - - ตรึงอก นี้นา
เผยนิ่มเนื้อเข้าล้อม - - - ฉุดรั้งปรารถนา
.
.
.

"รสสุคนธ์"ชูช่อล้อ - - - ภุมริน
รอปีกบางโบกบิน - - - ว่อนล้อม
ต่างฤๅเมื่อโฉมยุพิน - - เผยรูป ลักษณ์เนอ
ทั้งจริตอิริยาพร้อม - - - ย่อมพร้อมถวิลหวัง
.
.
.

"เขี้ยวกระแต"แย้มกลีบ - - - รอชม
หอมกรุ่นเมื่อสายลม - - - ลอบเคล้า
อีกรูปยั่วอารมณ์ - - - คะนึงอยู่
หอมกรุ่นทั้งค่ำเช้า - - - อาจรั้งหยุดหรือ
.
.
.

"ชงโค"เชิดดอกช้อย - - - งอนชู
เรียวกลีบบางชมพู - - - เพริศแพร้ว
อีกรูปเชิดพักตร์ดู - - - งามอยู่
ตาลอบเหลือบนั่นแล้ว - - - จักแล้วเลือนไฉน
.
.
.

"พุดซ้อน"เสียดกลีบซ้อน - - - เป็นวง
ขาวสดเวียนเป็นทรง - - - แทรกซ้ำ
เจ้าเอยแทรกรูปลง - - - ตาพี่
หวานก็ส่งหยอดย้ำ - - - หยาดให้ถวิลหา
.
.
.

หอมไกล"หอมหมื่นลี้" - - - ลำยอง
นวลบุปผากลีบกรอง - - - กลิ่นฟุ้ง
งามพฤติฤต่างผอง - - - ผกากลุ่ม เจ้าเอย
หอมย่อมเกินเขตคุ้ง - - - ขอบฟ้าลิบไกล
.
.
.

"พิกุล"หอมรื่นล้ำ - - - ประโลมใจ
อวลกลิ่นรับลมไหว - - - ระหว่างเช้า
เช่นรูปละม่อมใคร - - - ค้างคู่ ตาแฮ
พากรุ่นหอมรุมเร้า - - - ใฝ่เฝ้าแต่หอม
.
.
.

"กาหลง"ขาวกลีบไร้ - - - ราคี
หลงกลิ่นหอมกรุ่นมี - - - มอบไว้
กาหลงถิ่นหลงที - - - ท่ากลับ รังเนอ
หลงพี่หลงลืมไร้ - - - สติรั้งจากสมร
.
.
.

กลีบแดงเรื่อขดไว้ - - - เป็นวง
"เทียน"ระบัดรูปทรง - - - แทรกซ้อน
อกเรียมถูกแทรกลง - - - ด้วยรื่น แล้วนา
แต่เมื่อแม่เหลือบค้อน - - - อยู่คล้ายถวิลหา


มีความสุขกับความคิดคำนึงที่พึงพอใจ ที่ปรารถนาครับ


โดย: สดายุ... วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:6:18:33 น.  

 
.
สดายุคะ..


"พุดซ้อน"เสียดกลีบซ้อน - - - เป็นวง
ขาวสดเวียนเป็นทรง - - - แทรกซ้ำ
เจ้าเอยแทรกรูปลง - - - ตาพี่
หวานก็ส่งหยอดย้ำ - - - หยาดให้ถวิลหา

นี่แหละคือดอกไม้ที่ภาษาชวาเรียกว่า "บุษบามินตรา"
ตามพจนานุกรมฉบับอ.เปลื้อง ณ นคร. และฉบับราชบัณฑิตยสถาน....ซึ่งหมายถึง
.ชื่ออื่นๆ : เคดถวา (เหนือ) พุดจีน พุดใหญ่ (กลาง) พุทธรักษา (ราชบุรี)
ชื่อสามัญ : Gerdenia, Cape jasmine, Garden gardenia, Kaca piring, Bunga cina (มาเลเซีย)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gardenia jasminoides
วงศ์ : Rubiaceae
ถิ่นกำเนิด : ประเทศจีน

ซึ่งมิใช่ ตามพจนานุกรมอิเลคทรอนิคส์ ที่เพิ่งเกิดขึ้นแล้วโยงจากพจนานุกรมเดิมมาใส่ชื่อพฤกษศาสตร์ไป..ว่า
บุษบามินตรา (N)
Canna indica Linn.

วิธีจะตรวจสอบก็คือต้องจัดสัมนา ระหว่างประเทศในเรื่องความหมายของคำ..เพราะคนไทยสมัยนี้ชักจะรู้มากขึ้นเรื่อยเรื่อยในความรู้แคบแคบ..




โดย: บุษบามินตรา IP: 80.129.243.194 วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:14:57:28 น.  

 
เคยเห็นคนใช้ชื่อนี้ - เก็ดถวา


โดย: สดายุ... วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:15:05:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.