Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
พระพุทธเจ้า
พระพุทธวจนะ
ธรรมบรรยาย
ตรรกะวิภาษ ..
Innovation
Value Investor ..
DiscountedCashFlow
Transportation
NewGenDevice
History
Science
Home & Garden ..
Food & Sweet
DIY
SlowRock ..
Classic
RockMusic
SweetMusic
Ernesto Cortazar
Giovanni Marradi
Secret Garden
Omar Akram
Mix
CountrySong
SweetSong
OldSweetSongs ..
MLTR
ENYA
EAGLES
เพลงร็อคไทย
เพลงไทยเดิมประยุกต์
เพลงย้อนอดีต
เพลงบรรเลง
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
นิราศนรินทร์ - คำแปล
นิราศภูเขาทอง - คำแปล
นิราศลำปาง .. โคลง
นิราศเพรงกาล .. โคลง
ชั่วฟ้าดินดับ .. โคลง
มหาภารตะยุทธ .. ฉันท์
ศรีอยุธยา .. ฉันท์
สายธารกาลเวลา .. กลอน
สองฝั่งฟ้า .. กลอน
หอมกลิ่นร่ำ .. กลอน
รัตนโกสินทร์ .. กลอน
ชั่วฟ้าดินสลาย .. กลอน
บรรณภพ
วรรณศิลป์
วรรณกรรมไทย
อวิภัชวาท
ปริภาษวาจก
นรกวาที
นารีปราโมช
ฉันท์
โคลง
<<
กันยายน 2556
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
4 กันยายน 2556
O มาลาคำ .. O
All Blogs
O สังสาระกระแส .. O
O โลกใต้เรียวขน .. O
O กลางสายลมร่ำ .. O
O ที่ปลายปีกนก .. O
O รูปนิรมิต .. O
O เจ้าเอย .. O
O คันธาแห่งมาลี .. O
O แต่ปางบรรพ์ .. O
O เอกเจ็ด โทสี่ .. O
O มาลาคำ .. O
O ชั่วฟ้าดินดับ .. 2 O
O ชั่วฟ้าดินดับ .. 1 O
O หอมกลิ่นบุปผชาติ .. O
O คันธรส .. ในบทโคลง .. O
O ถ้อยคำ..ที่ลำปางหลวง...O
๐ นิราศห้วงกาล.......๐
O งามรูปเอย .. O
O ฟ้าเดียวกัน .. O
O ลิลิต..ศรัทธาธรรม O
O บุหลันลอยเลื่อน O
O มาลาคำ .. O
เขมรไทรโยค-เปียโน
-1-
O บายศรีคำสู่แก้ว - - - กานดา
แทนหมื่นหอมมาลา - - - มอบไว้
พร่ำพร้องผ่านพรรณา - - - แนบโสต แม่แม่
เพื่อติดตรึงทรวงให้ - - - ห่วงละห้อยคอยเห็น ฯ
O เสียงเอ่ยเสียงโอดอื้น - - - อาลัย
ครวญคร่ำบอกความนัย - - - อ่อนเนื้อ
เพื่อเนตรผ่องแผ้วไพ - - - บูลย์บท ภิรมย์เนอ
อุ่นจักอบอวลเชื้อ - - - ช่วงชู้บำรูโฉม ฯ
O เนตรดั่งดาวเด่นห้วง - - - เวหน
กลางมืดมัว, อำพน - - - แผ่ล้อม
คำนึงย่อมวกวน - - - เวียนอยู่
เวียนภพเวียนชาติน้อม - - - แนบซึ้งระรึงทรวง ฯ
O ขังตัวภายใต้โอบ - - - อ้อมดาว
อบร่ำให้ลมหนาว - - - เหน็บเนื้อ
เสียงคีตแว่วทุกคราว - - - คือเนตร เหลือบแฮ
ปรายเหลือบดั่งคอยเอื้อ - - - โอบชู้รู้เชิง ฯ
O เพียรฝันเลื่อนฟ้าผก - - - โผบิน
ข้ามน่านน้ำธรณิน - - - แนบชู้
ยอชาติภพเทียบยิน - - - ดีโลก นั้นนา
ล่ามรัดขวัญ-อย่ารู้ - - - หลีกเร้นรอบภิรมย์ ฯ
O ถ้วนองค์ทั้งอกฟ้า - - - แลดิน
นบเทพทังสาวสินธุ์ - - - สื่อรู้
พระเอยสะโรช-ริน - - - มนต์ร่าย ร่วมฤๅ
ร่วมพากย์แจ้งใจชู้ - - - ชื่นด้วยเรียมเดียว ฯ
O งามนั่นยิ่งเนตรถ้วน - - - ทั่วคราญ
มอบหม่นหมองทรมาน - - - หมด-หน้า
โอนรำบับรำบาญ - - - มืดบอด เรียมเนอ
บรรจบแรงไขว่คว้า - - - แต่หน้านางเดียว ฯ
O คมเนตรควรนุชป้อง - - - ปิดบัง
ปรับประกายซ่อนขัง - - - ข่มไว้
ชายอื่นหมื่นแสน-หวัง - - - อย่าวาบ แววแม่
เว้นแต่เรียมเดียวไซร้ - - - สบแล้วชม้ายรอ ฯ
O โอนหวงทั่วแห่งห้อง - - - หัวใจ
เป็นกรอบกั้นความใน - - - เนตรเจ้า
น้ำดินฝั่งฟ้าใด - - - สดับอยู่
ฟังเถิดเสียงยั่วเย้า - - - เพรียกยิ้มยวนสมัย ฯ
-2-
O สาวแสงศศินะขึ้น - - - ไขสี
นกคร่ำเสียง, ลมวี - - - แวดล้อม
เรไรกล่อมธาษตรี - - - ต่างพาทย์ เพลงนา
นึก-กรุ่นกลิ่นเนื้อน้อม - - - แนบอ้อมแขนหวง ฯ
O วงจันทร์จำรัสห้อง - - - หนหาว
เนื้อนิ่มเนตรต่างดาว - - - ประดับฟ้า
ห่วงเมื่อนิทราคราว - - - อยู่เดี่ยว นะแม่
จักวุ่นวายเหว่ว้า - - - หว่างละห้อยคอยไฉน ฯ
O สาวน้อยมาโนชญ์หน้า - - - แนมสุวรรณ พี่เอย
แต่ออดอ้อนรำพัน - - - อยู่พร้อม
ก็เพื่อกล่อมดวงขวัญ - - - ฝากสวาดิ
หมายว่าใครอาจน้อม - - - รับเนื้อความเสนอ ฯ
O ยามดึกสงัดสิ้น - - - เสียงคน
แว่วแต่เสียงอึงอล - - - อกนี้
พร้อมภาพหนึ่งไหววน - - - หว่างช่วง คะนึงนา
ไหวอยู่คอยช่วงชี้ - - - ชื่นล้ำบำเรอ ฯ
O แพงทองแม่ผ่องเนื้อ - - - นพคุณ
ราวปกด้วยใบบุญ - - - บ่มไว้
เรื่อปรางยิ่งเรื่ออรุณ - - - ยามแรก
งามจะงามเหมือนได้ - - - ดั่งนี้มีหรือ ฯ
O ดาวเดือนกระดากฟ้า - - - เฟือนสี
หนาวเหน็บท่ามลมวี - - - วาดไม้
อกเอยเมื่อไมตรี - - - ผูกบ่วง
จะเหนี่ยวคล้องอกให้ - - - ห่วงรู้ปรารถนา ฯ
O บงโอฆอากาศล้วน - - - ลมบน
ตระหลบล้อมสากล - - - ก่ายฟ้า
คะนึงนึกรูปนฤมล - - - เมื่อสบ
ตระหลบล้อมรูปหน้า - - - ต่อหน้าเลือนไฉน ฯ
O ขวัญเมืองพิมพ์มาศแม้น - - - เหมือนโฉม แม่ฤๅ
แต่เมื่อเผยรูปโลม - - - โลกนี้
ก็หยัดหยั่งรอบโสม- - - - นัสต่อ โลกแน
หมองหม่นคาบก่อนกี้ - - - แต่ล้วนสูญสลาย ฯ
O คะนึงมวลแชล่มน้อย - - - นงคราญ
เคลื่อนผ่านส่ำเสียงสนาน - - - เสนาะแท้
แต่รูปหนึ่งรำบาญ - - - เบียด-อก เรียมนา
สักหนึ่งคราญอาจแก้ - - - กลบได้สิ้นหรือ ฯ
O จันทร์พ้นอุรภาคเพี้ยง - - - ภินทนา
หมายรูปรอยปรารถนา - - - นิทระแล้ว
นึกแพรแถบพัสตรา - - - คลี่ห่ม เนื้อเนอ
ใดอาจอุ่นเนื้อแก้ว - - - ดุจอ้อมทรวงเรียม ฯ
O ผ่านคืนเรียมคิดด้วย - - - อาดูร
มาเลศลักษณ์กำลูน - - - ลับแล้ว
โกสุมเมื่อมาสูญ - - - สลายกลิ่น
ยังแต่ความผ่องแผ้ว - - - ฝากไว้รองถวิล ฯ
O สุริเยนทรบทเบื้อง - - - บรรพตา
อีกฝั่งรูปดาริกา - - - เลื่อนล้อม
หลับฝันเล่ห์สิเนหา - - - ห้อมอยู่ นะแม่
เมื่อตื่นตาจักพร้อม - - - พากย์ร้อยคอยประโลม ฯ
O พระเอยสะโรชท้อง - - - ชลธาร
โอนฤทธิ์มอบสิทธิ์ขาน - - - ข่าวชู้
เบิกความบ่มใจคราญ - - - ครวญคร่ำ อยู่เนอ
เช้าจดค่ำเพียงรู้ - - - แต่ละห้อยคอยเรียม ฯ
สาวสินธุ์ - - - นางมณีเมขลา
สะโรช - - - ผู้เกิดจากน้ำ หมายถึงพระนารายณ์
Create Date : 04 กันยายน 2556
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2563 18:33:44 น.
28 comments
Counter : 2998 Pageviews.
Share
Tweet
O กลีบมาลย์อวลกลิ่นไล้ - - - ลมยอ
แผ่วผ่านหอมแอบออ - - - โอบล้อม
รื่นหอมรูปงาม-พอ - - - คำพจน์ เปรียบฤๅ
เมื่อหนึ่งใจพรั่งพร้อม - - - แต่ละห้อยคอยหอม ฯ
O ดอกเหลืองสดมอบไว้ - - - ในมือ
กลีบบอบบางถนอมถือ - - - กริ่งช้ำ
ใจเอยหวั่นไหวฤๅ - - - จึงแกว่ง กระนี้นา
แต่เมื่อเนตรหวานล้ำ - - - แล่นน้ำผกายหนุน ฯ
O ช้อยช่ออยู่ใต้ร่ม - - - รำไร
กลีบบอบบางเสียดใบ - - - ระบัดล้อม
ผุดผ่องนิ่มนวลใย - - - ยอรูป ล้อมเนอ
เสียดอกใจอยู่พร้อม - - - ไป่รู้หลีกภวังค์ ฯ
O เรียวก้านช้อยช่อขึ้น - - - พะนอลม
เมื่อเนตรปลาบวาบคม - - - เหลือบค้อน
ให้เพ่งผาด-ปรารมภ์ - - - รุมอก กระนั้นนา
รุมว่า-คือออดอ้อน - - - อ่อนเนื้อ-คอยถนอม ฯ
O ปรุงปรนสีกลิ่นเรื้อง - - - รมยา
ลอยล่องลานเพ-ลา - - - สู่รุ้ง
กลีบเหลืองละลานตา - - - เตรียบค่า ควรเนอ
เสพประทิ่นถิ่นฟุ้ง - - - พ่างรุ้งยอแสง ฯ
O เพรางายปฐมะเรื้อง - - - รังสิมันต์
มัทนะเหลืองแฉล้ม, บรร- - - - เจิดช้อย
เตรียบพักตร์ผุดผ่องวรร- - - - โณภาส ยากนา
ดูเถิดเพียงเนตรชะม้อย - - - มากน้อยประเมินไฉน ฯ
O กลิ่นเกลี้ยงกุสุมะรู้ - - - รวยริน
อบร่ำคร่ำครวญถวิล - - - หวั่นร้าง
หอมเอยหล่อเลี้ยงจิน- - - - ตภาพแต่ แม่นา
รูป-กลิ่น-ใจ-ล่องคว้าง - - - ร่ำรู้หวานหอม ฯ
O เพราพรายโอภาสเมื้อ - - - เมฆบน
เหลื่อมละลานอำพน - - - แผ่นฟ้า
เมื่อหอมกลิ่นเสาวคน- - - - ธะรสจู่ ใจแม่
ล่มทุกหน้า, เหลือหน้า- - - - แต่หน้านางเดียว ฯ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:13:58:32 น.
กุหลาบควีนสิริกิติ์ : Queen Sirikit Rose
ชื่ออื่น (Peer Gynt)
ผสมพันธุ์โดย Kordes, Germany, 1968
ลูกผสม Colour Wonder x Golden Giant
ประเภท Hybrid Tea; Yellow blend
เป็นกุหลาบดอกใหญ่สีเหลือง เมื่อต้องแสงอาทิตย์ปลายกลีบจะมีสีส้ม ดอกมีกลิ่นหอม บางครั้งกิ่งหนึ่งอาจมีถึง 3 ดอก นายอองเดร อองดริก ผู้อำนวยการไร่กุหลาบกร็องด์ โรเซอเร ดู วาล เดอ ลัวร์ (Grandes Roseraies Du Val de Loire) แห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์ในฝรั่งเศส เป็นผู้ตั้งชื่อดอกกุหลาบชนิดนี้ตามพระนามของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2514 ในเอกสารของไร่บันทึกเรื่องราวไว้ว่า "พระราชินีแห่งประเทศไทย ทรงพระสิริโฉมเป็นเสน่ห์แบบตะวันออกเหนือตะวันตก"
โดย: บุษบามินตรา IP: 84.179.123.172 วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:14:56:06 น.
"นมแมว"เหลืองอ่อนอ้อน - - - อิงใบ
หอมกรุ่นยามลมไหว - - - แวดล้อม
นึก-หอมกรุ่นรูปใน - - - อ้อมอก
อิงแอบออดอ้อน, อ้อม - - - กอด-ร้างได้หรือ ?
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:19:00 น.
"จำปา"เหลืองส้มเชิด - - - ชูทรง
รอ-ภู่น้อมกายลง - - - เกลือกใกล้
ต่างฤๅเมื่อรูปองค์ - - - อิงแอบ
รอ-อกแขนโอบไล้ - - - ลูบเนื้อนวลถนอม
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:20:14 น.
"จำปี"แย้มกลีบเชื้อ - - - เชิญภมร
หอมกรุ่นรอแทรกซอน - - - เสพลิ้ม
เรียวรูปปากเผยอวอน - - - เว้าอยู่ นี้นา
แขนโอบ, ตาหลับพริ้ม - - - แผกแย้มสุมาลย์ไฉน ?
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:21:21 น.
"กุหลาบมอญ"กลิ่นฟุ้ง - - - ฝากสมัย
กลางปีกภู่ภมรไหว - - - ว่อนล้อม
งามรูป, พฤติใน - - - จิตพี่ แม่แม่
ยิ่งกว่าปีกภมรห้อม - - - ห่วงละห้อยแต่หอม
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:22:25 น.
เหลือบเหลืองใต้ร่มไม้ - - - ใบบัง
กลีบ"ลำดวน"คลี่อัง - - - อุ่นร้อน
นึกนาสิกแนบฝัง - - - ฝากอุ่น แก้มนา
แก้มย่อมแดงก่ำซ้อน - - - ซ่านให้สูดหอม ฯ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:23:18 น.
"ลำดวน"กลีบดอกงุ้ม - - - งาม,หอม
บังร่มใบคล้ายออม - - - แอบเนื้อ
โดยรูปชอบแต่ถนอม - - - แนบอก นะแม่
จากสบรูปงามอะเคื้อ - - - แต่ละห้อยห่วงหา
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:24:20 น.
"บุหงาส่าหรี"ทิ้งช่อ - - - ชวนหอม นั้นนา
อาจหยุดใจจนออม - - - อดได้
กรทิ้งรูปเรียวประนอม - - - ประนังโอบ นี้เนอ
อาจหยุดการลูบไล้ - - - แต่ด้วยลมสลาย
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:25:07 น.
"การเวก"แย้มกลีบเกลี้ยง - - - กลางสมัย
เมื่อขาบเขียวเรียวใบ - - - ระบัดล้อม
เกลี้ยงเกลานิ่มเนื้อใคร - - - คอยอยู่ นะแม่
คอยช่วงอกแขน, อ้อม - - - กอดสร้างเดียงสา
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:25:52 น.
"ช้องนาง"ชูช่อช้อย - - - ชวนชม
ขาวเหลื่อมเหลืองสวยสม - - - ศักดิ์เจ้า
ยื่นดอกยั่วภมรดม - - - ดอมกลิ่น
ฤๅต่างแม่ยั่วเย้า - - - ยื่นหน้ารอถนอม
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:26:44 น.
"นางแย้ม"ดอกแยกแย้ม - - - เป็นพวง
กลแยกแย้มสุดาดวง - - - เด่นหน้า
เห็น..เรียมห่วงฤๅหวง - - - เหือดอก นะแม่
กับท่าทีทายท้า - - - ทอดไว้ให้ถวิล
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:27:31 น.
นั่น"สายน้ำผึ้ง"เชิด - - - กลีบเรียว
หอมอ่อนเพรียกปีกเปรียว - - - ปราดห้อม
อีกรูปเพรียกตาเหลียว - - - เหลือบสบ
สบรูป, รูปจึ่งล้อม - - - ล่ามล้อแรงคะนึง
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:27:54 น.
"มณฑาทอง"กลีบแย้ม - - - ยั่วภมร
รอปีกเรียวแทรกซอน - - - เสพลิ้ม
เช่นรูปทอดเรียวกร - - - กระชับโอบ
ปากแยกแย้ม, ตาพริ้ม - - - หลับคล้ายรอคอย ?
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:28:15 น.
"สายหยุด"หอมหยุดสิ้น - - - แต่สาย
หอมบ่หยุดหอมกาย - - - กลิ่นแก้ว
กี่ช่วงภพชาติวาย - - - วางสุด หนอแม่
หอมอยู่ไม่รู้แล้ว - - - แต่เช้าตราบคืน ฯ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:28:38 น.
"แอบรัก"แอบช้อยรูป - - - ขึ้นรอ-
รับแดดเช้าทอดทอ - - - กระทบไล้
ดั่งตาสบรูปลออ - - - เนื้ออ่อน แม่แม่
สบรูปแล้ว, เลือนได้ - - - แต่ม้วยมรณัง ฯ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:29:01 น.
"ซ่อนกลิ่น"ออมกลิ่นไว้ - - - รอหอม
ช้อยช่อยั่วภู่ดอม - - - ดอกแย้ม
ซ่อนกลิ่นกลิ่นฤๅยอม - - - ซ่อนอยู่
ดูแต่นวลซ่อนแก้ม - - - กลิ่นเนื้อหอมไฉน
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:29:19 น.
"ชมนาด"แย้มกลีบช้อย - - - รอชม
เสียดช่อขึ้นรับลม - - - ลูบไล้
อีกรูปเพรียกอารมณ์ - - - รุดเร่ง
แนบรูปแนบรสไว้ - - - หว่างละล้าละลังเหลียว
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:29:39 น.
"บานชื่น"บานช่อช้อย - - - ชวนดู
เรียวกลีบสีชมพู - - - พิศพ้อง-
กับเรียวปากอิ่มตรู - - - ตรึงรูป รอเนอ
รอจบจุมพิตต้อง - - - ตอบน้ำใจเสนอ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:30:00 น.
ผึ้งภู่บินเร่งร้น - - - รุมพะยอม
ฤๅต่างเรียมตฤปดอม - - - "ดอกแก้ว"
โหยแลห่วงกลิ่นหอม - - - หายห่าง
แก้มอิ่มอุ่นจบแล้ว - - - จักแล้วไฉนหนอ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:30:36 น.
แม้น"โมก"อวลกลิ่นเร้า - - - รุมใจ
ยังยากเปรียบกรุ่นไอ - - - อ่อนเนื้อ
อกแต่เนตรนุชไข - - - ความตอบ พี่แม่
ดาลระลอกอุ่นเอื้อ - - - เอ่อให้คระโหยหอม
โดย:
สดายุ...
วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:15:30:58 น.
ดายุ...
หอมกลิ่นดอกไม้ไทยไทย..หอมคำ..หอมความ..หอมใจรัก..หอมตรลบอบอวลไปทั้งเวปเลยค่ะ .
โดย: บุษบามินตรา IP: 84.179.123.172 วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:16:45:06 น.
เป็นเช่นคุณมินตราว่า.. :)) และไพเราะมาก
ดอกไม้สีเหลือง สดใสดีจริง
ไม่สามารถแจมเป็นโคลง เพราะแค่มือสมัครเล่น ..
พลิ้วสายลมผ่านหาทุกคราครั้ง
สุดจะรั้งดวงจิตผ่อนคิดถึง
อาวรณ์ซ่อนอ่อนไหวซ้ำในคำนึง
เสน่หาอาลัยซึ้งตอกตรึงทรวง
.
ทุกงดงาม..อ่อนหวานที่ผ่านเห็น
ยิ่งเพิ่มเอ็นดู..รัก..อาลัย..หวง
สดับเถิด-ทุกคำ-ความบำบวง
เพื่อผูกบ่วงสองดวงใจอย่าไกล..ร้าง
.
ยินไหม..จังหวะใจที่ไกวแกว่ง
ระรัว..แรงถวิลอยู่ไม่รู้สร่าง
อิริยา..สอดรับราวจับวาง
ล้วนปูทางทอดลงที่ตรงใจ
.
แต่แก้วเจ้าเผยรูปนามมาล่ามพัน
ทุกรอบใจใฝ่ฝันจนสั่นไหว
ทุกก้าวย่างรออยู่..เพื่อผู้ใด
ทุกความร้อย..ถ้วนรอยนัย..ให้ผู้เดียว
.
ทีละเล็ก..ละน้อยค่อยฝังลึก
เช้า-สาย-บ่าย-ค่ำ-ดึก..ละล้าเหลียว
มองฟ้า..เห็นแต่ขวัญแทนจันทร์เรียว
สุดใจเหนี่ยวหน่วงอาวรณ์เกินผ่อนคลาย
.
ทั้งร้อนรุ่ม..เย็นเยียบ..เงียบ..อึงอล
ห้วงใจ..ราวสายฝนร่วงหล่นสาย
กระหน่ำซัดรัดรึงใจหนึ่งชาย
อีกตอกตรึงเพียงหนึ่งหมาย-ใจกายรอ..
.
บรรจงร้อยมาลัยวางนัยสู่-
หนึ่งใจ..รู้..จงสดับรับคำขอ
หวานหอมห้อมดวงฤดีอย่ารีรอ
สเน่หาจงถักทอล้ออารมณ์
.
จนสุดกุมกักจิต..คิดไกลห่าง
ตรึงปรารถนาอย่าร้าง..หากสร้างสม
สองดวงใจสอดประสานจนเกลียวกลม
ร่วมภิรมย์ทอนเปล่าเปลี่ยวทุกเที่ยวทาง
มีความสุข สมปรารถนาในสิ่งงดงามค่ะ
โดย: มาย IP: 124.120.121.10 วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:0:32:50 น.
มาย...
"ทั้งร้อนรุ่ม..เย็นเยียบ..เงียบ..อึงอล
ห้วงใจ..ราวสายฝนร่วงหล่นสาย
กระหน่ำซัดรัดรึงใจหนึ่งชาย
อีกตอกตรึงเพียงหนึ่งหมาย-ใจกายรอ.."
ใครใครเขียนคำ เขียนความได้ไพเราะเพราะพริ้งมากมาย
แต่ไม่มีใครเขียนความได้"กินใจ"เท่ามายนะ...
หากมินตราเป็น"เพียงหนึ่งหมาย"สำหรับมายน่ะ เชื่อสนิทเลยล่ะ..
คงจะเป็นเพราะมายไม่มี"ตัวเล็กตัวน้อย"นี่เองนะ..
แล้วมินตราก็มิชอบที่จะเป็น..หนึ่ง..ใน ..ร้อย !
ในความ"ไม่เก่ง"นี่บางคนก็มีน้ำใสใจจริงที่คมกริบ..
.
โดย: บุษบามินตรา IP: 84.179.123.172 วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:1:16:37 น.
สดายุ..
ในสภาพที่ทั้งในและนอกรัฐสภา วุ่นวายจริงหนอ..
ตามเวปไซท์ทั้งในและนอกราชอาณาจักร เต็มไปด้วยวาจาและจิตใจที่ กระด้าง..ดิบ..
เมื่อมาถึงเวปสดายุ..ความอ่อนหวานของดนตรี..
ความงดงามของดอกไม้ ประกอบด้วยมธุรสวาจา..
ทำให้เห็นคุณค่าของความเป็น"มนุษย์"ที่ยังหลงเหลืออยู่..ในจิตใจของคน
ถ้อยคำแห่งอารยะ ที่แยกคนออกจากสัตว์โลกอื่นอื่น..
มนุษย์ต่างจากสัตว์อื่นตรง ภาษาและวัฒนธรรมทางภาษานี่เอง !
กรุณาช่วยกันรักษาไว้..
ภาษาจะขัดเกลาความเป็นสัตว์..ให้ประเสริฐขึ้น ได้..
นี่เป็นการต่อสู้ทางวัฒนธรรม อีกรูปแบบหนึ่ง..
โดย: บุษบามินตรา IP: 84.179.123.172 วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:1:35:50 น.
มินตรา ..
โคลงใช้บรรยาย "ดอกไม้ vs สาวน้อย" ได้ดีมาก ..
ไม่มีอะไรจะลงตัวเท่าดอกไม้หอมกลีบบอบบาง กับสาวน้อยผู้อ่อนไหวหัวใจแปรปรวน ได้อีกแล้ว
ผู้หญิง .. อาจมีบริบทที่เสแสร้งแกล้งทำอยู่บ้าง แต่มักซ่อนงำความเป็นจริงอยู่ไม่ลึกนัก .. แต่จริตกิริยายามอยู่ลำพังหรือยามถูกจับจ้องก็ตาม .. มักจับใจชายยิ่งนัก
แม้-ร้ายกาจ แต่ก็ขาดไม่ได้ 55
ใช่ขอรับ .. อารยธรรมของมวลมนุษย์เริ่มที่ทั้ง 4 ประการนี่เอง
.. ภาษา
.. ดนตรี
.. อาหาร
.. อาภรณ์
อย่างน้อย ไทยเราก็มีของตนเองครบ
ภาพในสภาไทยช่วงนี้อาจจะดูไร้อารยธรรมไปบ้าง .. ต้องขออภัยคนไทยในสังคมเจริญแล้วทั้งหลาย .. ที่สังคมเรามิอาจสร้างบุคคลิกภาพของนักการเมือง ให้น่าดู น่าชื่นชม ได้มากกว่านี้ ..
ต้องขออภัยที่ อันดับทางการศึกษาอยู่อันดับ 8 ในจำนวน 8 ประเทศที่นะมาเปรียบ .. มันช่วยไม่ได้ที่เด็กคิดไม่เป็น เพราะเราสอนให้เขาเชื่ออย่างเดียว .. เชื่อด้านดีด้านเดียวมาตลอดตั้งแต่เกิด 55
มาย ..
ผมชอบดอกไม้สีเหลือง รวมทั้งผลไม้สีเหลือง .. มองดูว่ามันสวยดี ..
มีอีกหลายบทที่ยังไม่ได้เอามาลง ..
ชมพูเหลืองแย้มดอก - - - ดำเกิง
"กุหลาบเมาะลำเลิง" - - - แดดไล้
ปรารมภ์กับรื่นเริง - - - โดยรูป, คำแม่
คำจากรูปอ้อนไว้ - - - หว่างห้วงเสน่หา
.
.
.
งาม"โมกแดง"เด่นล้ำ - - - รูปทรง
ให้กิ่งก้านเขียวรงค์ - - - รอบล้อม
แย้มกลีบอย่างบรรจง - - - รอภู่ ผึ้งนา
ฤๅต่างเจ้ารออ้อม - - - กอด-นี้คอยถนอม
.
.
.
แย้มรูปเรียงกลีบซ้อน - - - เป็นดวง
หอมกลิ่น"สามปอยหลวง" - - - รื่นล้ำ
อีกรูปอีกหอม-ทวง - - - ถามแต่ ถวิลเนอ
เอารสเอารื่นค้ำ - - - อยู่ค้างคาสมัย
.
.
.
"กรรณิการ์"อวลกลิ่นฟุ้ง - - - ประโลมฝัน
เมื่อกลีบดอกแย้มบรร - - - เจิดพร้อม
อีกรูปล่ามผูกพัน - - - ตรึงอก นี้นา
เผยนิ่มเนื้อเข้าล้อม - - - ฉุดรั้งปรารถนา
.
.
.
"รสสุคนธ์"ชูช่อล้อ - - - ภุมริน
รอปีกบางโบกบิน - - - ว่อนล้อม
ต่างฤๅเมื่อโฉมยุพิน - - เผยรูป ลักษณ์เนอ
ทั้งจริตอิริยาพร้อม - - - ย่อมพร้อมถวิลหวัง
.
.
.
"เขี้ยวกระแต"แย้มกลีบ - - - รอชม
หอมกรุ่นเมื่อสายลม - - - ลอบเคล้า
อีกรูปยั่วอารมณ์ - - - คะนึงอยู่
หอมกรุ่นทั้งค่ำเช้า - - - อาจรั้งหยุดหรือ
.
.
.
"ชงโค"เชิดดอกช้อย - - - งอนชู
เรียวกลีบบางชมพู - - - เพริศแพร้ว
อีกรูปเชิดพักตร์ดู - - - งามอยู่
ตาลอบเหลือบนั่นแล้ว - - - จักแล้วเลือนไฉน
.
.
.
"พุดซ้อน"เสียดกลีบซ้อน - - - เป็นวง
ขาวสดเวียนเป็นทรง - - - แทรกซ้ำ
เจ้าเอยแทรกรูปลง - - - ตาพี่
หวานก็ส่งหยอดย้ำ - - - หยาดให้ถวิลหา
.
.
.
หอมไกล"หอมหมื่นลี้" - - - ลำยอง
นวลบุปผากลีบกรอง - - - กลิ่นฟุ้ง
งามพฤติฤต่างผอง - - - ผกากลุ่ม เจ้าเอย
หอมย่อมเกินเขตคุ้ง - - - ขอบฟ้าลิบไกล
.
.
.
"พิกุล"หอมรื่นล้ำ - - - ประโลมใจ
อวลกลิ่นรับลมไหว - - - ระหว่างเช้า
เช่นรูปละม่อมใคร - - - ค้างคู่ ตาแฮ
พากรุ่นหอมรุมเร้า - - - ใฝ่เฝ้าแต่หอม
.
.
.
"กาหลง"ขาวกลีบไร้ - - - ราคี
หลงกลิ่นหอมกรุ่นมี - - - มอบไว้
กาหลงถิ่นหลงที - - - ท่ากลับ รังเนอ
หลงพี่หลงลืมไร้ - - - สติรั้งจากสมร
.
.
.
กลีบแดงเรื่อขดไว้ - - - เป็นวง
"เทียน"ระบัดรูปทรง - - - แทรกซ้อน
อกเรียมถูกแทรกลง - - - ด้วยรื่น แล้วนา
แต่เมื่อแม่เหลือบค้อน - - - อยู่คล้ายถวิลหา
มีความสุขกับความคิดคำนึงที่พึงพอใจ ที่ปรารถนาครับ
โดย:
สดายุ...
วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:6:18:33 น.
.
สดายุคะ..
"พุดซ้อน"เสียดกลีบซ้อน - - - เป็นวง
ขาวสดเวียนเป็นทรง - - - แทรกซ้ำ
เจ้าเอยแทรกรูปลง - - - ตาพี่
หวานก็ส่งหยอดย้ำ - - - หยาดให้ถวิลหา
นี่แหละคือดอกไม้ที่ภาษาชวาเรียกว่า "บุษบามินตรา"
ตามพจนานุกรมฉบับอ.เปลื้อง ณ นคร. และฉบับราชบัณฑิตยสถาน....ซึ่งหมายถึง
.ชื่ออื่นๆ : เคดถวา (เหนือ) พุดจีน พุดใหญ่ (กลาง) พุทธรักษา (ราชบุรี)
ชื่อสามัญ : Gerdenia, Cape jasmine, Garden gardenia, Kaca piring, Bunga cina (มาเลเซีย)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gardenia jasminoides
วงศ์ : Rubiaceae
ถิ่นกำเนิด : ประเทศจีน
ซึ่งมิใช่ ตามพจนานุกรมอิเลคทรอนิคส์ ที่เพิ่งเกิดขึ้นแล้วโยงจากพจนานุกรมเดิมมาใส่ชื่อพฤกษศาสตร์ไป..ว่า
บุษบามินตรา (N)
Canna indica Linn.
วิธีจะตรวจสอบก็คือต้องจัดสัมนา ระหว่างประเทศในเรื่องความหมายของคำ..เพราะคนไทยสมัยนี้ชักจะรู้มากขึ้นเรื่อยเรื่อยในความรู้แคบแคบ..
โดย: บุษบามินตรา IP: 80.129.243.194 วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:14:57:28 น.
เคยเห็นคนใช้ชื่อนี้ - เก็ดถวา
โดย:
สดายุ...
วันที่: 6 กันยายน 2556 เวลา:15:05:15 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
สดายุ...
Location :
France
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [
?
]
O ใช่แน่หรือ ? .. O
O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?
Friends' blogs
เป็นแฟนกับกวางน้อย
Webmaster - BlogGang
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
Budha Truth
กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวสด
ประชาชาติธุรกิจ
isra-news
ศิลปะวัฒนธรรม
พจนานุกรม
TNN16
series west 2
series west 3
Ch3
Thai PBS
Ch7
One-31
กกต.
series thai
Dict Longdo
บ้านซีรีย์
iQIYI
NationTV
ไทยรัฐ TV
คมชัดลึก
SpringNews
ฐานเศรษฐกิจ
Kseries
pinterest
youtube 2 mp4
settrade
investing
123-hd
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
O กลีบมาลย์อวลกลิ่นไล้ - - - ลมยอ
แผ่วผ่านหอมแอบออ - - - โอบล้อม
รื่นหอมรูปงาม-พอ - - - คำพจน์ เปรียบฤๅ
เมื่อหนึ่งใจพรั่งพร้อม - - - แต่ละห้อยคอยหอม ฯ
O ดอกเหลืองสดมอบไว้ - - - ในมือ
กลีบบอบบางถนอมถือ - - - กริ่งช้ำ
ใจเอยหวั่นไหวฤๅ - - - จึงแกว่ง กระนี้นา
แต่เมื่อเนตรหวานล้ำ - - - แล่นน้ำผกายหนุน ฯ
O ช้อยช่ออยู่ใต้ร่ม - - - รำไร
กลีบบอบบางเสียดใบ - - - ระบัดล้อม
ผุดผ่องนิ่มนวลใย - - - ยอรูป ล้อมเนอ
เสียดอกใจอยู่พร้อม - - - ไป่รู้หลีกภวังค์ ฯ
O เรียวก้านช้อยช่อขึ้น - - - พะนอลม
เมื่อเนตรปลาบวาบคม - - - เหลือบค้อน
ให้เพ่งผาด-ปรารมภ์ - - - รุมอก กระนั้นนา
รุมว่า-คือออดอ้อน - - - อ่อนเนื้อ-คอยถนอม ฯ
O ปรุงปรนสีกลิ่นเรื้อง - - - รมยา
ลอยล่องลานเพ-ลา - - - สู่รุ้ง
กลีบเหลืองละลานตา - - - เตรียบค่า ควรเนอ
เสพประทิ่นถิ่นฟุ้ง - - - พ่างรุ้งยอแสง ฯ
O เพรางายปฐมะเรื้อง - - - รังสิมันต์
มัทนะเหลืองแฉล้ม, บรร- - - - เจิดช้อย
เตรียบพักตร์ผุดผ่องวรร- - - - โณภาส ยากนา
ดูเถิดเพียงเนตรชะม้อย - - - มากน้อยประเมินไฉน ฯ
O กลิ่นเกลี้ยงกุสุมะรู้ - - - รวยริน
อบร่ำคร่ำครวญถวิล - - - หวั่นร้าง
หอมเอยหล่อเลี้ยงจิน- - - - ตภาพแต่ แม่นา
รูป-กลิ่น-ใจ-ล่องคว้าง - - - ร่ำรู้หวานหอม ฯ
O เพราพรายโอภาสเมื้อ - - - เมฆบน
เหลื่อมละลานอำพน - - - แผ่นฟ้า
เมื่อหอมกลิ่นเสาวคน- - - - ธะรสจู่ ใจแม่
ล่มทุกหน้า, เหลือหน้า- - - - แต่หน้านางเดียว ฯ