Group Blog
 
 
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
14 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
O ถ้อยคำ..ที่ลำปางหลวง...O








ลาวลำปางใหญ่



O แรกเช้ามาลย์ช้อยกลีบ - - - ก้านรอ-
รับแดดอ่อนทอดทอ - - - กระทบไล้
เมื่อลมรื่นแอบออ- - - - โอบผ่าน
งามย่อมงามอยู่ได้ - - - แต่ด้วยใจเกษม ฯ

O มาลีอวลกลิ่นเชื้อ- - - - เชิญภมร
จนกระพือปีกสลอน - - - สลับสล้าง
หมายเสพรสเกสร - - - หวานสุด
เกินจะร่ำลาร้าง - - - รสน้ำหอม-หวาน ฯ

O อำไพโอภาสเรื้อง - - - รอยสูรย์
ยอโลกรับจำรูญ - - - แรกเช้า
ข่มหมองหม่นอาดูร - - - ดับมอด เชื้อแฮ
เหลือรื่นรมย์รุมเร้า - - - ร่วมคล้อยเคลื่อนสมัย ฯ

O ยามสายสุริยะแปล้ - - - ปลาบสรวง
พระธาตุลำปางหลวง - - - เหลื่อมสะท้อน
ถ้อยคำเทียบความบวง- - - - บอกทิพ เทพนา
ขอทุกคำ-ความย้อน - - - แทรกย้อมใจขวัญ ฯ

O กบมือกุมมาศน้อม - - - วันทนา
นิ่งนึกขอเมตตา - - - ช่วยแต้ม-
แต่งรสเล่ห์เสน่หา - - - ละห้อยห่วง
ให้ทุกคำคอยแย้ม - - - จิตย้อมแรงถวิล ฯ

ร่าย
O ศรีศรีไพจิตรลักษณ์ - - - รำไพพักตร์สืบขวัญ
จรรโลงฝันในอก - - - จนสุดยกสุดย้าย
แลสุดท้ายสุดถอน - - - ในทุกตอนสู่ตา
ล้ำบรรดาเคยเนา - - - จักพริ้มเพราเฉกเจ้า
รูปใฝ่เฝ้าคอยเห็น - - - อันเปรียบเป็นความหวัง
ต่อกำลังปรารถนา - - - เฝ้าโหยหาอกระรัว
จนหวาดกลัวรูปหาย - - - ตราบแม่ปรายเนตรสบ
บันดาลภพขึ้นตั้ง - - - สุดเหนี่ยวรั้งบีบเค้น
ทุกคาบกาลไป่เว้น - - - ว่างละห้อยครวญคะนึง
แม่นา





O หวังสามโลกรับรู้ - - - แรงถวิล
แต่อ-บายจ-รดดิน - - - ตราบฟ้า
แรงช่วงแห่งดวงทิน- - - - กรแผด เผาเฮย
ฤๅเทียบแรงไขว่คว้า - - - ฝากถ้อยอธิษฐาน ฯ

O กรประนมก้มกราบ - - - กอปรพร พระเอย
หวังช่วยอำนวยกลอน - - - กล่าวให้-
จับจิตจับใจอร - - - อวลแต่ ความนา
คำทุกคำกล่าวไว้ - - - อย่ารู้เลือนสลาย ฯ

O คงกรรมพาร่วมพ้อง - - - พบกัน
จึงภาษกรองรำพัน - - - แผ่ล้อม
ขวยเขินแต่โลมขวัญ - - - ฝากเลศ นัยแม่
ใจเมื่อหวามจึ่งน้อม - - - แนบเนื้อความเสนอ ฯ

O จำรูญจำรัสเบื้อง - - - บูรพา
เมื่อหัตถ์ทิพนำพา - - - พบพ้อง
โอนฤทธิ์แห่งอิฏฐา - - - ทอดบท
สัมผัสเนื้อความต้อง - - - แต่ละห้อยคอยเห็น ฯ

O รอคอยแต่ภพเบื้อง - - - บุพกาล
เริ่มเมื่อชีวาตม์ลาญ - - - ลับเจ้า
จำพรากสู่ทรมาน - - - มืดหม่น
ลอยช่วงวิญญาณเฝ้า - - - ฝ่าเวิ้งไฟสวรรค์ ฯ

O รูปเอยหวังอาจเอื้อม - - - โดยใจ
รอเถิดรอความใน- - - - อกฟ้อง
ขวากหนามมรรคาใด - - - มุ่งฝ่า
เช้าค่ำจักพร่ำพร้อง - - - ผ่านถ้อยถวิลถึง ฯ

O ล่องลอยผ่านฟากฟ้า - - - สู่ขวัญ
ผู้ผ่านรังสีพรรณ - - - พิลาสให้
คำนึงแต่วงจันทร์ - - - จางรูป
โอนอบอุ่นแอบไว้ - - - หว่างห้วงคะนึงหา ฯ

O สุดรอคอยค่อยแย้ม - - - เยือนตา
งามรูปงามลักขณา - - - นุชเจ้า
ลอยรูปทุกอัสสา- - - - สะช่วง แม่เอย
จิตย่อมถูกรุมเร้า - - - สุดรู้ขัดขืน ฯ

O ใจเอยต่อแต่นี้ - - - นับนาน
พิมพ์หนึ่งจักเบ่งบาน - - - บีบเค้น
ชะลอรูปลงผลาญ - - - เผาอก
จนสุดทางลอบเร้น - - - ล่วงพ้นพิสมัย ฯ

O ข้ามโค้งฟ้าฝากถ้อย - - - ถวิลถึง
ผ่านรูปพยางค์รำพึง - - - พจน์ไว้
เนตรสบอักษรตรึง- - - - ความติด จิตนา
หวานจักหวานมาให้ - - - ห่วงละห้อยคอยเห็น ฯ

O จำหลักในจิตล้วน - - - อาวรณ์
จักเหนี่ยวดึงถอดถอน - - - ยากแท้
ดั่งนทีสิทันดร - - - ดึงร่าง
ลอยล่วงห้วงวัฏฏ์แม้ - - - มอดม้วยยังหมาย ฯ

O งามเอยงามพักตร์พริ้ง - - - พรายตา
สบเนตร, เลศนัยพา - - - เพ่ง-รู้
เหลือบ-สบ, หลบ-เส-คา - - - รูปอยู่
อกหนึ่ง, อาวรณ์ชู้ - - - ตื่น-รู้อภิรมย์ ฯ

O รื่นรมย์กำเริบคล้อย - - - รอยคำ
แต่รสพจนารถสัม- - - - ผัสพร้อง
ธีระอภิวากย์บำ- - - - รุงรูป
รูปที่ใจร่ำร้อง - - - รบเร้ารอคอย ฯ

O แม้นห่างอย่าห่วงน้อย - - - คำนึง
เพียงรูปพอตอกตรึง - - - ติดย้ำ
ผ่อนเพียงแผ่วรำพึง - - - พร่ำคู่ ใจเอย
แผ่วพร่ำอยู่ซ้อนซ้ำ - - - ตรู่เช้าตราบคืน ฯ

O โอนฤทธิ์ออรูปให้ - - - ถวิลเห็น
อกดั่งหยาดฝนเย็น - - - หยดแต้ม
แต่ภาคอำไพเพ็ญ - - - เผยออก
ใจยิ่งมาลย์แยกแย้ม - - - กลีบแย้มรอฝน ฯ

O ฤๅทิพหนุนส่งให้ - - - เห็นงาม
ย่อมจักสมพยายาม - - - เยี่ยงนั้น
ตรึงอกแต่สบทราม - - - สวาดิรูป แก้วเนอ
จักหลบเลี่ยงดื้อรั้น - - - ดั่งไร้แรงขืน ฯ

O รุมรุมห้วงอกล้วน - - - อาลัย
แต่ลับภาคปราศัย - - - สืบถ้อย
ลำดับที่ความนัย - - - เนาอยู่
เฉกลำดับความร้อย - - - รับรู้เถิดสมร ฯ

O คงสุดทางซ่อนแล้ว - - - รอยใจ
จักเก็บกดอย่างไร - - - ยากรั้ง
แต่เนตรบ่งเยื่อใย - - - ระยับผ่าน
ผ่าวผ่านกี่คราวครั้ง - - - ทุกครั้งย่อมเผย ฯ

O แรงสุดดินสมุทรฟ้า - - - รวมกัน
ยังมิอาจพรากขวัญ - - - จากแก้ว
เมื่อใจหนึ่งผูกพัน - - - เพียงหนึ่ง
อาจพรากให้คลาดแคล้ว - - - แต่ม้วยมรณัง




Create Date : 14 สิงหาคม 2554
Last Update : 9 ธันวาคม 2559 9:37:59 น. 23 comments
Counter : 978 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ คุณสดายุ

สังเกตว่าในประเพณีบายศรีสู่ขวัญของชาวเหนือใช้คำเหมือนร่ายนี้นะคะ
คำถิ่นเสียงสูงสูงต่ำต่ำไพเราะน่าฟัง เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่รู้สึกดี
นั่นคือการอนุรักษ์ไทยทั้งภาษาและวัฒนธรรมที่่ต้องสืบสาน


คิดว่าต่อจากนี้จะเป็นฉันท์ กาพย์ และกลอน ครบกระบวนยุทธ
ละเลียดเวลาละเลียดอารมณ์กวีอีกสักหนึ่งเพรงกาล อิอิ..
(ทำท่าเหมือนจะหายไปนานๆ เตรียมมายกเค้าแล้วเชียว
เจ้าของบ้านไม่อยู่นานนานต้องติดกล้องวงจรปิดด้วยค่ะ)

เสียงขิมและเปียนโน กลมกลืนกับนารีปราโมชอย่างไม่น่าเชื่อนะคะ
ลำปางเป็นเมืองผลิตไฟฟ้า แต่จขบ.เลือกทำสัญญาใต้แสงเทียน
MOU นี้โรแมนติคจริงหนอ..(นับเจดีย์ซาวได้ครบซาวหรือยังเจ้า..)
สุขกับทุกบริบทค่ะ



โดย: Peakroong วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:19:37:40 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่สดายุ
คราวนี้ไปไกลถึงพระธาตุลำปางหลวง
แวะมาเชียงรายบ้างนะคะ ^___^


โดย: medkhanun IP: 202.28.45.10 วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:7:12:06 น.  

 
เป็นโคลงกับร่ายที่ไพเราะงดงามจริงๆ เลยค่ะ
วัดพระธาตุลำปางหลวงเคยไปสองครั้งค่ะ
ครั้งแรกที่ไปไม่ได้เดินดูจนทั่วค่ะ เพราะเวลาจำกัด
แต่ไปครั้งที่สองได้เดินทั่วหน่อย

ไม่แน่ใจว่าจะมีใครสังเกตุบ้างหรือเปล่า เวลาที่เดินผ่านทางที่เขาปลูกต้นโพธิ์ที่มีใบหลายสีทางที่เราจะเดินไปดูของเก่าๆ ที่เก็บไว้ ด้านข้างทางขวาจะมีที่กู่เล็ก ๆ อันหนึ่ง ที่เก็บอัฐิของเจ้าศรีอโนชา เจ้าผู้หญิงที่มีบทบาทมากพระองค์หนึ่งของลำปาง

เห็นแล้วนึกถึง พระนางจามเทวี องค์หนึ่งอยู่ลำพูน อีกองค์อยู่ลำปางแม้ไม่ใช่ช่วงเวลาเดียวกัน ใจลึก ๆ ก็อยากให้ทางจังหวัดได้สร้างสถานที่เชิดชูเกียรติคุณของท่านเหมือนที่ทางลำพูนได้สร้างอนุสาวรีย์พระนางจามเทวีบ้างค่ะ (แอบบ่น อิอิ)

เคยนึกเหมือนกันว่า วัดพระธาตุลำปางหลวงสมัยก่อนๆ จะงดงามสักเพียงไหน โดยเฉพาะภาพวาดบนผนังไม้ที่หลุดและกระเทาะออกไป

เพลงน้ำตาแสงไต้เป็นเพลงโปรดที่ชอบฟังค่ะ ลืมบอกไปว่าเวลาเข้ามาอ่านบล็อคคุณสดายุ รักไม่ได้ยินเสียงเพลงค่ะ


โดย: ฟ้าเวียงพิงค์ วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:12:04:46 น.  

 
๓๗. บ้านบ่อน้ำบกแห้ง......ไป่เห็น
บ่อเนตรคงขังเป็น.............เลือดไล้
อ้าโฉมแม่แบบเบญ...........จลักษณ์ เรียมเอย
มาซับอัสสุชลให้...............พี่แล้วจักลา

ช่วยแปลให้หนูหน่อยนะคะ


โดย: พัณณ์ชิตา ธัญเดชาพิสิษฐ์ IP: 124.120.231.36 วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:20:27:11 น.  

 
สวัสดีครับคุณปีกรุ้ง...

โคลง หรือ ร่าย มีที่มาจากทางล้านนา(ภาคเหนือ) ล้านช้าง(ลาว) ที่เป็นต้นตำหรับ

จากที่ในสมัยพระบรมไตรโลกนาถซึ่งเป็นพระโอรสในเจ้าสามพระยาได้ทำสงครามอันยาวนานกับพระเจ้าติโลกราชแห่งเมืองเชียงใหม่ จนถึงกับต้องย้ายขึ้นไปประทับที่เมืองพิษณุโลกเพื่อบัญชาการศึกจนตลอดพระชนม์ชีพนั้น...ทางกรุงศรีอยุธยาจึงให้พระโอรสองค์โตนามว่าพระบรมราชาธิราชที่ 3 ว่าราชการแทนเทียบเท่าพระมหากษัตริย์อีกพระองค์หนึ่ง และองค์นี้เองที่นักประวัติศาสตร์ลงความเห็นกันว่าเป็นผู้แต่ง "ลิลิตยวนพ่าย" (ยวน หมายถึงโยนก ไม่ใช่ญวน-เวียดนาม...อันป็นวรรณกรรมเชิดชูเกียรติยศสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถซึ่งเป็นพระชนกเป็นการเฉพาะ) รวมทั้ง "ทวาทศมาส" อันเป็นลักษณะคำประพันธ์แบบ"โคลงดั้น" และอาจรวมถึง "โองการแช่งน้ำ" ที่เป็นต้นแบบของโคลงห้า

พระบรมราชาธิราชที่ 3 นี้ นักประวัติศาสตร์เห็นตรงกันว่าทรงเป็นกวีผู้ยิ่งใหญ่ในยุคแรกของชาติไทยเลยทีเดียว

ลองหาอ่านดูครับ...วรรณกรรมอันเป็นหลักไมล์แรกของชาติเรา







เม็ดขนุน...
ลำปางไปเชียงราย 200 กว่ากิโลเมตร...ไปกลับวันเดียวบ่ทันเจ้า
คงต้องหาจังหวะ หยุดหลายๆวันหน่อย...แต่เชียงรายนี่ไปหลายครั้งแล้ว...

จะเลี้ยงข้าวพี่หรือไง...55







คุณฟ้าเวียงพิงค์ สวัสดีครับ
โบราณสถานเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองทุกที่มักให้ความรู้สึกย้อนยุคได้ดีนัก...โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงว่าเจดีย์หรือพระธาตุองค์นั้นๆ เคยผ่านสายตาคนในประวัติศาสตร์มาแล้ว...เป็นต้นว่าพระธาตุหริภุญชัยแห่งเมืองลำพูนย่อมเคยผ่านสายตาพระนางจามเทวีมาก่อนแล้ว...ต่างสมัยกันหลายร้อยปีกับปัจจุบัน...แต่ยังเป็นเจดีย์องค์เดิมเดียวกันอยู่นั่นเอง...

พระธาตุลำปางหลวงก็เช่นเดียวกัน...ซึ่งผมไม่แน่ใจนักว่าที่ไหนสร้างก่อนกัน...มีพระธาตุช่อแฮ และพระธาตุแช่แห้ง ทางแพร่ น่าน นี่ก็น่าไป...ผมยังไม่เคยไปสองจังหวัดนี้เลย...เก่าแก่ทั้งคู่

ในบริเวณวัดพระธาตุลำปางหลวงเอง...ด้านข้างจะมีโบสถ์หลังหนึ่งสวยงามเหลือประมาณ เป็นลวดลายสลักเสลารอบตัวโบสถ์ลงสีทองตัดกับสีแดงโดดเด่นมาก...นับเป็นสุดยอดศิลปะล้านนาอีกที่หนึ่งที่น่าไปถ่ายรูปมาก (โดยเฉพาะพวกมือกล้อง SLR ทั้งหลาย)

หากไม่ได้ยินเสียงเพลงในบล็อคนี้แสดงว่ายังไม่ได้ add on โปรแกรม active... อะไรสักอย่างที่จะปรากฎขึ้นมาเป็นแถบคำถามด้านบน...ลองถามผู้รู้ดูครับ



โดย: สดายุ... วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:20:58:15 น.  

 
พัณณ์ชิตา...

เข้าใจว่าเป็นบทที่ ๓๗ ในนิราศนรินทร์
ที่จริงแปลไว้ครบทุกบทแล้ว...
ลอง copy address บรรทัดล่างนี้ไปแปะในช่อง // ดู
แล้วจะดูบทไหนก็เลือกเอา

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sdayoo&month=11-07-2007&group=25&gblog=1

๓๗. บ้านบ่อน้ำบกแห้ง......ไป่เห็น
บ่อเนตรคงขังเป็น.............เลือดไล้
อ้าโฉมแม่แบบเบญ...........จลักษณ์ เรียมเอย
มาซับอัสสุชลให้...............พี่แล้วจักลา

บทนี้เชิงเปรียบเทียบ (บาท๑ - ๒) ดีมาก
บาท ๑....ถึงตำบลบ้านบ่อ แต่บนบกนั้นน้ำแห้ง
บาท ๒....(แต่) บ่อในตานั้นมีน้ำ (ตา) ขังเป็นสายเลือด
บาท ๓....พูดถึงหญิงคนรักที่มีความเป็น เบญจกัลยานี คือ ลักษณะ 5 ประการของสาวงาม
บาท ๔....มาซับน้ำตาให้สักครั้งเถิด แล้วจะลา(เพื่อติดตามเสด็จองค์เหนือหัวไปรบศึกต่อไป)

ศัพท์....
- เบญจลักษณ์...ความงาม ๕ อย่าง ตามนิยมในวรรณคดี คือ ฟันงาม ผมงาม ผิวงาม วัยงาม เหงือกงาม แต่จะงามอย่างไรแล้วแต่ความนิยม และ ความที่กวีจะคิด เช่น ฟันงามก็ต้องดำ (เจ้างามทนต์กลนิลเจียรไน)
ผมงามก็ดำอย่างปีกแมลงทับ ผิวงามก็ดังทาทอง วัยงามนั้นว่า แลดูเป็นสาวสวยอยู่เสมอ เหงือกงาม
นั้นว่า ต้องสีแดง

- อัสสุชล....... น้ำตา อัสสุ คำเดียวก็แปลว่า น้ำตาอยู่แล้ว แต่มาเพิ่มชล (น้ำ) เข้าไปอีก การใช้คำซ้ำดังนี้ ทางกาพย์กลอนไม่ถือว่าบกพร่องในการแต่ง



โดย: สดายุ... วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:21:08:22 น.  

 

สวัสดีค่ะ...

อิอิ... ต้อง "แอบ" เข้ามาตอนเจ้าของบ้านไม่อยู่... กลัวมีดโกนบาด...

แต่ก็...นะ... จะมีใครแต่ง โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ได้ไพเราะแบบนี้...และคำที่นำมาใช้ก็ต้องให้คิดอีกตลบ คือ เข้ามาอ่านแล้วยังได้ความรู้ด้าน ประวัติศาสตร์ ภาษาศาสตร์ และ ความไพเราะของโคลง และ ดนตรี อีกล่ะหาฟังได้ง่ายๆที่ไหนกัน... เรียกว่า คุ้ม...ที่จะโดนมีดโกนบาด... มีอยู่ไม่กี่คนในบล๊อคแก๊งค์หรอก...

จริงๆเราเองพยายามที่จะแต่ง กลอน เพราะดูว่าง่ายที่สุด ยังไม่สามารถเลยค่ะ หลายครั้งมากที่แอบ "ลักจำ" เวลา สอนกันในนี้ จนทุกวันนี้ยังไม่สามารถเลยค่ะ... T^T

คุณสดายุมาลำปาง และได้ไปเที่ยว พระธาตุลำปางหลวง... แล้วได้เข้าไปดู เงาขององค์พระธาตุ รึเปล่าคะ ถ้าได้เข้าไปดู จะเห็นเงาขององค์พระธาตุ กลับหัวค่ะ... ถ้ายังไม่ได้ดู กลับไปอีกครั้งนะคะ... ^^ และอยากแนะนำให้ไปที่ วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม วัดเจดีย์ซาวหลัง (ซาว แปลว่า 20) และ บ้านเสานัก (นักแปลว่า มาก) และ วัดเกาะเวฬุการาม วิหารพระเจ้าพันองค์ ที่วัดปงสนุก พอยังคะ?...งั้นแนะนำไปอีกสัก 2 แห่ง ไปอาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อน ที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน...แล้ววันหยุดเสาร์อาทิตย์ไปเดินตลาดคลาสสิคของลำปางกัน เรียกว่า กาดกองต้า ค่ะ...เหมือนๆถนนคนเดินของ เชียงใหม่ค่ะ...

วันนี้แค่นี้ก่อน... แล้วทราบรึเปล่าคะว่า ลำปางมีที่มาว่าอย่างไร? แล้ว ทำไมลำปางจึงได้ชื่อว่าเมืองไก่ขาว ส่วนคำว่า เขลางค์นคร และ เวียงละกอน มีมาได้อย่างไร... ลำปางมีเรื่องราวผ่านมา ประมาณ 3000 ปีมาแล้วค่ะ...

ขอให้มีความสุขในทุกวัน ณ เมืองเขลางค์นครนะคะ... "ชาวกุกกุฏนคร" ยินดีต้อนรับค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ


โดย: Witch IP: 118.172.101.64 วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:9:08:23 น.  

 
แม่มดตัวร้าย...55
ท่าทางจะเจอคนล้านนาซะแล้ว

มาอยู่ลำปางได้ไม่นาน ชักชอบบรรยกาศแวดล้อมแล้วสิ
ความสะดวกสบายก็มีเหมือนเมืองใหญ่อื่นๆ...สถานที่ท่องเที่ยวก็มีไม่น้อย (ขอบคุณที่แนะนำเพิ่มเติม)...บริเวณพระธาตุลำปางหลวงนั้นกลับชอบโบสถ์หลังสวยงามนั่นมากที่สุด...

ต้องขอชื่นชมศิลปะการสร้างโบส์ของทางล้านนาว่าทำได้งดงามจริง...มีความอ่อนช้อยของรูปทรงที่เหนือกว่าศิลปะทางภาคกลาง (สังเกตุเห็นมาหลายที่แล้ว)

คิดว่าช่วงสุดสัปดาห์จะไปไหว้พระธาตุต่างๆก่อน...หริภุญชัย ช่อแฮ แช่แห้ง

วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ เก่าแก่ คู่บ้าน คู่เมืองจังหวัดแพร่
เป็นวัดพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล

พระธาตุแช่แห้ง วัดพระธาตุแช่แห้ง หมู่ 3 บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตี๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เดิมเป็นวัดราษฎร์ ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวง ประดิษฐานอยู่ ณ อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน อยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร
เป็นวัดพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีเถาะ

ที่มาของลำปางไม่ทราบขอรับ...มาเขียนบอกไว้หน่อยก็ดี..จะได้เป็นวิทยาทานแก่ผู้ผ่านมาเจอ


โดย: สดายุ... วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:21:04:43 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณสดายุ..

ก็เป็นพวกแฟนคลับเดิมๆของคุณนั่นแหละค่ะ
เสน่ห์แรงมิเบาเชียวนะคะ..

ฟ้าก็แบนI.P แบนชื่อทั้งหมดแล้วค่ะ ฟ้าคิดว่าบางทีเขาอาจจะเป็นคนเดียวกันหรือเป็นคนที่มีล๊อกอินก็ได้

คนพวกนี้น่าสงสารนะคะ..คงเป็นโรคสับสนในจิตของตนเอง

แก้ปัญหา ทำใจ อภัย ให้เขาได้ ก็สบายใจแล้วค่ะ

คุณขึ้นไปอยู่ลำปางแล้วเป็นอย่างไรบ้างค่ะ..ฟ้าเองก็ชอบบรรยากาศทางเหนือๆนะ..

ชอบภาษา ชอบเพลงคำเมือง และชอบนิสัยใจคอของคนภาคเหนือ ฟ้าเห็นในบล็อกมีคนภาคเหนือหลายคนนิสัยดีๆทั้งนั้นเลยค่ะ..


ฟ้าเหมือนเคยได้ยินว่าหลวงพ่อเกษม เขมโกอยู่ลำปางด้วยหรือเปล่าค่ะ ฟ้าไม่แน่ใจ

ขอให้คุณมีความสุขกับวิถีชีวิตที่พึงพอใจ

ขอบคุณมากสำหรับความห่วงใยที่มีให้กันนะคะ


โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:22:10:27 น.  

 

สวัสดีค่ะ...

อิอิ... มาเห็นคำพูดของคุณพิรุณร่ำว่า "เสน่ห์แรงมิเบาเชียวนะคะ." เห็นด้วยค่ะ บล๊อคนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีสาวๆแวะเวียนมาทำให้ จขบ.ท่าน หวั่นไหว คนอะไรมะรุ หวั่นไหวง๊ายง่าย... สงสัยหัวใจคงเบาหวิววว... สาวที่วัยเลย 30 แล้วจะปลอดภัยค่ะ เท่าที่สังเกตุ... ^^ อีกอย่าง ท่านเจ้าของบล๊อคนี้.... ((กระซิบ)"ปากร้าย")ค่ะ "เลือดสาด" กันไปหลายคนแล้ว รวมข้าพเจ้าด้วย...แต่ช่างเถอะ เรามาเสพย์ โคลง กลอน ฉันท์ ไพเราะๆของเค้า ต้องทนเอาค่ะ T_T แอบอ่านไป...ไม่กวน"น้ำโห" ท่านมานานละ อิอิ ระวังตัวให้ดี...ตอนนี้มาอยู่ลำปาง เด๋วจะส่งคนไปเจาะยางรถ...

มาเข้าเรื่องดีกว่านะคะ....

เมืองลำปาง มีชื่อเรียกหลายชื่อเช่น ศรีดอนชัย ลัมภะกัมปะนคร เขลางค์นคร และกุกกุฏนคร (นครไก่)

คำว่า ลำปาง นั้นหมายถึงไม้ป้าง ตำนานเล่าว่าเป็นไม้ข้าวหลามที่ลัวะอ้ายกอนใช้หาบกระบอกน้ำผึ้ง มะพร้าว มะตูม มาถวายพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งเสด็จมายังบริเวณนี้ ก่อนจะปักไม้เอาทางปลายลงเกิดเป็นต้นขะจาวที่เห็นอยู่ข้างวิหารหลวง วัดพระธาตุลำปางหลวง ต้นขะจาวนี้มีลักษณะผิดแผกจากไม้อื่นด้วยกิ่งก้านจะชี้ลงดิน เป็นไม้มงคลประจำจังหวัดลำปางที่มีอายุกว่า 2,500 ปีล่วงมาแล้ว

ส่วนคำว่า เขลางค์นคร เป็นภาษาบาลี ปรากฏอยู่ในตำนานตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 13 คำว่าลครซึ่งกลายมาจากนคร จึงเป็นชื่อสามัญที่ใช้เรียกเมืองเขลางค์ ทั้งยังปรากฏใช้ในศิลาจารึกและพงศาวดารในรุ่นต่อมา ส่วนภาษาพูดจะออกเสียงว่าละกอน มีความหมายเดียวกับคำว่าเมืองลคร หรือ เวียงละกอน

นอกจากนี้บางตำนานยังเล่าว่าเมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จออกโปรดสัตว์มาจนถึงเมืองนี้ พระอินทร์ได้ทราบก็เกรงว่าชาวเมืองจะตื่นไม่ทันทำบุญกับพระพุทธองค์ จึงแปลงกายเป็นไก่สีขาวขันปลุกชาวเมืองให้ตื่นทันออกมาทำบุญตักบาตร ด้วยเหตุนี้เมืองลำปางจึงได้ชื่อว่า "กุกกุฏนคร" อันหมายถึงเมืองไก่ขาว ไก่ขาวจึงเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่เราจะพบตามป้ายชื่อถนน บนสะพาน หรือตามตึกต่างๆแม้แต่ในชามตราไก่ที่ขึ้นชื่อ


จากหลักฐานทางโบราณคดีพบว่ามีชุมชนอาศัยอยู่ในพื้นที่ของนครลำปางมากว่า 3,000 ปีล่วงมาแล้ว มีการค้นพบภาพเขียนสีและโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ตลอดจนชิ้นส่วนภาชนะดินเผาในสมัยหริภุญไชย และชิ้นส่วนเครื่องถ้วยสันกำแพง

เมือง"เขลางค์นคร"แห่งอาณาจักรหริภุญไชยนี้ มีผู้ปกครองสืบต่อกันมาตลอด ก่อนที่จะมีการสถาปนาอาณาจักรล้านนาของพระยามังรายที่ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำกกทางตอนเหนือในช่วงพุทธศตวรรษที่ 19 พระยามังรายขยายอิทธิพลยกทัพล้ำเขตเข้ามาโจมตีอาณาจักรหริภุญชัย ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้อันมีเขลางค์นครเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กัน ในที่สุดได้ยึดเมืองทั้งสองไว้ได้และ มีการแต่งตั้งผู้ครองนครขึ้น เป็นการเปลี่ยนวงศ์ผู้ครองเมืองมาเป็นสายของพระยามังราย ระหว่างนั้นได้สร้างเมืองเขลางค์นครขึ้นใหม่ในฐานะของเมืองหน้าด่าน ของอาณาจักรล้านนาสืบมา

ที่มา.... ท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง

เสริมอีกนิดนะคะ... ลำปางยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการศึกษาเป็นจังหวัดที่มีมหาวิทยาลัยมากระดับต้นๆของประเทศ และยังมีโรงเรียนระดับมัธยม ที่ติดอันดับของประเทศมาตลอด คือ โรงเรียน บุญวาทย์วิทยาลัย ปีนี้(2554) ติดอันดับ 5 ค่ะ (ภูมิใจจังเลย ปีนี้ถือว่าตกไปนิดดด อิอิ)

มีอะไรๆอีกมากมาย อย่างคุณ ปีกรุ้ง ว่า ว่าเป็นเมืองผลิตไฟฟ้า ก็ใช่ค่ะ ลำปางเป็นที่ตั้งของ กฟผ. แม่เมาะด้วยค่ะ จริงๆแล้วเรื่องไฟฟ้านี้ เดิมทีก่อนเกิดเหตุ สึนามิ ที่ญี่ปุ่น เราคาดการณ์ไว้ว่า ปี 2563 เราจะได้เห็นโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์... ตอนนี้ ยังต้องรอแผนต่อไปค่ะว่า จะ ได้ และ เห็น รึไม่...

พอแล้วค่ะ วันนี้อยากบอกก็จะบอก วันไหน ตัวขี้เกียจเกาะตัวเยอะก็จะอ่านเฉยๆค่ะ ^^

ขอขอบคุณ คุณสดายุ นะคะ ที่แต่ง บทโคลง กลอน ฉันท์ ให้อ่าน...

มีความสุขทุกๆวันในเมืองแห่งความสงบ นะคะ

ขอบคุณมากค่ะ :'D




โดย: Witch IP: 118.172.108.217 วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:8:09:53 น.  

 

อ่อ...เพิ่งทราบ ว่าพระธาตุ ช่อแฮ เป็นพระธาตุประจำปี ขาล... เสือนี่เอง ... ทราบแต่พระธาตุ แช่แห้ง ค่ะ และพระธาตุ ลำปางหลวงเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของ คนเกิดปีฉลูค่ะ

คุณพิรุณร่ำขา... ใช่แล้วค่ะ หลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นพระ ที่เป็นที่เคารพกราบไหว้ของชาวลำปางค่ะ ปัจจุบันสังขารของท่าน อยู่ที่ สุสานไตรลักษณ์ ค่ะ

มีข้อสังเกตุ...คุณสดายุ กับ คุณพิรุณร่ำ มีอะไรคล้ายๆกันนะคะ ในเรื่องของ คำพูด ที่เด็ดขาด และ บาดลึก แถมเจ้าเสนห์ด้วยกันทั้ง 2 ท่าน... ขอชื่นชมค่ะ

ขอเชิญมาเที่ยวลำปางนะคะทุกท่านเลย...

ชาวลำปางยินดีต้อนรับทุกท่านด้วยไมตรีค่ะ :))


โดย: Witch IP: 118.172.108.217 วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:8:25:29 น.  

 
ถ้าพี่สดายุมาจริง หนูเลี้ยงจริง ไม่ใช้สแตนด์อินค่ะ อิอิ


โดย: medkhanun IP: 202.28.45.10 วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:16:31:05 น.  

 
สวัสดีครับคุณฟ้า....

พวกแฟนคลับผม หรือ ?....ผมคงมิกล้ารับ..55

การเที่ยวยื่นหน้ายุ่งเข้าไปในเรื่องที่มิใช่เรื่องของตัว...คนไทยเรามักเรียกว่าพวก"แส่"เรื่องชาวบ้าน...ซึ่งเป็นสันดานส่วนตัวของกลุ่มบุคคลที่สามที่ผมต้องบอกว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น...ดังนั้นขอให้คุณฟ้าจัดการไปตามสะดวก...การเที่ยวพูดพาดพิงถึงผมนั้น ไม่มีผลใดๆ

ผมเกลียดมากกับลักษณะ"ไทยๆ"แบบนั้น...การนินทา ส่อเสียด อิจฉา ริษยา อย่างในละคอนช่อง 3 ช่อง 7 สำหรับคนปัญญาอ่อนดูแบบนั้น...และผมไม่เคยคิดว่าจะเจอในชีวิตจริง...

คนสองคนจะมีปฏิสัมพันธ์กันเยี่ยงไร ย่อมมิใช่กิจธุระของบุคคลที่ 3 ที่ไม่มีใครรู้จักจะมาแส่ หรือ ยุ่งเกี่ยวเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่ามันเหล่านั้นจะเป็นหญิงหรือชาย...นี่คือความคิดของผม

หากเป็นชายแล้วมีภาวะแบบแส่...ส่อเสียด...กระแนะกระแหน...เหน็บแนม...นินทา...เหล่านั้นก็คงต้องจับให้คลานลอดหว่างขาผู้หญิงซะ จะได้หายจากอาการเหล่านั้นได้...555


ลำปางน่าอยู่มากครับ...ไม่จอแจเหมือนเชียงใหม่ ที่ผมมองว่าวิถีแบบกรุงเทพกำลังกลืนกินเชียงใหม่จนแทบไม่มีความเป็นตัวเองเหลืออยู่อีกต่อไป

ชอบฟังภาษาคำเมืองครับ...แม้ว่าจะรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง...แต่โทนเสียงสูงๆต่ำๆไพเราะดี...ชอบจริงๆ...อิๆๆ





แม่มดเฒ่า...(เรียกตามวัยที่แจ้งไว้...555)
อืม...พูดถึงลำปางยาวเหยียดแบบนี้...ท่าทางจะเป็นลูกหลานเมืองถ้วยตราไก่ซะเป็นแม่นมั่น....

เมืองมหาวิทยาลัย....เมืองผลิตไฟฟ้า...แต่ไฟฟ้าก็ราคาถูกเฉพาะกับคน EGAT เองเท่านั้น...ชาวบ้านอื่นๆก็ใช้ไฟราคาเดียวกับคนกรุงเทพนั่นแหละ...ทั้งๆที่ตอนสร้างโรงไฟฟ้า EGAT ก็เอาเงินคนทั้งประเทศนั่นแหละสร้างไม่ใช่เฉพาะเงินของคน EGAT สักหน่อย จริงไหม ?

อย่างนี้มัน 2 มาตรฐาน...เราต้องประท้วง ! 555

เรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์พูดไปเดี๋ยวพวกดัดจริตจะออกมาประท้วงกันอีก...ทั้งๆที่เป็นพลังงานที่สะอาดที่สุด และราคาต้นทุนต่อหน่วยถูกที่สุด...แค่เลือกเทคโนโลยีที่ดีหน่อย อย่างของเยอรมัน อังกฤษ อเมริกา ฝรั่งเศส สวีเดน อิสราเอล ที่ยังไม่เคยมีข่าวอุบัติเหตุเลย...

อย่าเลือกรัสเซีย ญี่ปุ่น จีน หรืออินเดีย ก็เป็นใช้ได้....

แต่พูดกับคนในชาติที่ไม่ชอบอ่านความรู้ ชอบแต่ฟัง"เขาว่า..." อาจต้องเหนื่อยหน่อย...(ให้นึกถึงเรื่อง รถติดแก๊ส ดีหรือไม่ ก็พอ...ว่าแค่นี้ก็คุยกันไม่รู้เรื่องไปครึ่งประเทศแล้ว...คริๆ)

แม่มดลำปางจะขี่ไม้กวาดมาต้อนรับจริงๆเหรอ....อิๆๆๆ






เม็ดขนุน....
วันไหนจะไปเที่ยว ม.แม่ฟ้าหลวง...จะยอมอดอาหารล่วงหน้าสัก 24 ชม. 555

เพื่อนบอกว่า ปลาแม่น้ำกก อร่อยนัก จริงหรือเปล่านะ...



โดย: สดายุ... วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:20:15:34 น.  

 

คุณสดายุค่ะ..

"การเที่ยวยื่นหน้ายุ่งเข้าไปในเรื่องที่มิใช่เรื่องของตัว...คนไทยเรามักเรียกว่าพวก"แส่"เรื่องชาวบ้าน"...สดายุ

คุณขึ้นพูดแบบนี้..ใครไม่รู้ที่มาที่ไป ..เขาก็คิดว่าคุณมาว่าฟ้านะซิค่ะ..ฟ้าเองยังตกใจเลย 555

ก็ที่ฟ้าบอกว่าแฟนคลับคุณนะ..ก็กลุ่มเขาพูดเขาเองว่าติดตามคุณมาร่วม 10 ปีแล้วเป็นแฟนคลับตัวจริง( น่าอิจฉา หนุ่มเจ้าเสน่ห์ ตัวจริง แฮะ)

ส่วนคุณจะยอมรับหรือไม่มันเป็นเรื่องของคุณค่ะ
ฟ้าเองก็ไม่ได้มาใส่ใจให้มันมากความหรอกค่ะ..

จัดการจบไปแล้วก็แล้วกัน..ส่วนใครจะมีพื้นที่ให้ภาษาถ่อยพวกนี้ไปร่วมอยู่ด้วย ฟ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะไปว่าหรือห้ามใครได้หรอกค่ะ..

เพราะธรรมชาติเขาต้องรักษาเผ่าพันธุ์เดียวกันไว้ก่อนที่จะเห็นความสำคัญของคนต่างพันธุ์ค่ะ..จริงมั้ย คุณสดายุ

วาจาคุณพาเลือดสาด..ดังแม่มดผู้น่ารักว่าไว้จริงหนอ
ฟ้าคิดว่ากรรไกรเจอปากคุณเนี่ย..ต้องรีบทู่ทันทีเลยนะคะ 555


ขอบคุณมิตรภาพ..ในความเป็นเพื่อนที่ดีงามระหว่างสองเรานะคะ..คุณสดายุ


ป.ล ฟ้าฝากไมตรีมายังแม่มดผู้น่ารัก..
ขอบคุณมากและยินดีที่ได้รู้จักด้วย....นะคะ


โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:9:51:12 น.  

 


https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=praingpayear&month=08-2011&date=11&group=1&gblog=70

คห 1


https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2011&date=10&group=11&gblog=341

คห 4

สองชื่อ


คุณอาจเห็นแล้วหรือเปล่าผมไม่แน่ใจ



ขออนุญาติใช้พื้นที่นี้คุยกับคุณ พิรุณร่ำครับ
เค้าเก็บไว้เป็นหลักฐานครับจึงไม่ได้ลบข้อความพวกนั้นออก ไม่ยากเลยที่จะแกะรอย หลายคน "รู้" ครับและเฝ้าดูเงียบๆ ในขณะที่ยังมี "บางคน" ไม่รู้ ว่า "มีคนรู้" ครับ


โดย: cyber boy IP: 49.228.49.17 วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:13:53:31 น.  

 

ขออนุญาต คุณสดายุนะคะ...

คุณ cyber boy คะ... มีอะไนรึเปล่า ถึงได้เอาล๊อคอินชื่อของเรา มาบอก คือ ไม่เข้าใจน่ะค่ะ น้องเล็ก witch EconCU Theory และ อีก 2 ชื่อเป็นเราทั้งหมด แต่ ใช้ต่างเพจกัน

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=05-2011&date=06&group=82&gblog=13

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&group=153 เป็นต้น จ่ะ เด็กน้อย (สมอง)

เราจะใช้ชื่อไหนมาห้องนี้ ท่านเจ้าของบล๊อคทราบดี... คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ จิตใจปกติดีรึไม่? อาการคงหนักนะคะนั่น...

และใครคะ ที่เค้าถามคุณ?คุณสดายุเหรอคะ ท่านทราบดีค่ะ ว่าเราใช้ชื่ออะไร อะไรที่ไม่ได้ถาม เค้าเรียกอะไร?

บางคน ทราบว่ามีคนรู้...แต่ เพราะการเข้ามาโดยมิได้ทำความเดือดร้อนให้ใครใดๆเลย จึงไม่แปลกค่ะ... แต่คุณเข้าด้วยความริษยานะคะนั่น ไม่น่าใช่ผู้ชาย เพราะผู้ชายเค้าจะไม่ หึง และหวง ออกนอกหน้าแล้วได้แสดง ความฉลาดที่ตัวเองเป็นคนคิด ชั้นฉลาด 555+ แต่ในสายตาเรา โง่!!! สิ้นดีค่ะ ไร้สาระ แต่ที่บอก เพราะเห็นว่า เอาบุญค่ะ

ขอโทษนะคะ คุณสดายุ... จริงๆจะรอให้คุณมาตอบ แต่แหม...อิอิ สงสารเค้าน่ะค่ะ เค้าคงหวง อะไรบางอย่าง อิอิ

สัพเพ สัตตา ค่ะ


โดย: Witch IP: 118.172.103.201 วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:16:12:18 น.  

 

อิอิ... เข้ามาบอกค่ะ คุณ " cyber boy IP: 49.228.49.17 " คงคิดไม่ออกว่าอีก 2 ชื่อ ชื่ออะไร

ชื่อ มาดู และ มาอ่าน สงสารจริงๆเลย โถๆๆ T_T


โดย: Witch IP: 118.172.103.201 วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:16:40:36 น.  

 

ขออนุญาต อีก จิ๊ดดด นะคะ ท่าน จขบ. นะนะ...


เพิ่งเห็น เม้นท์ของคุณ พิรุณร่ำ... ตกใจน่ะค่ะ อยู่ๆมีอะไรมะรุ มาพาดพิงถึง...

คุณพิรุณร่ำขา ขอบคุณมากค่ะในไมตรี ยินดีเช่นกันค่ะ แม่มดคนนี้ไม่น่ารักค่ะ... แต่... ชอบสงบๆค่ะ

ปกติแล้วจะไม่ไปที่บล๊อคไหน นอกจากไปหาข้อมูลอะไรบางอย่างไปทำกิจกรรมที่ชอบค่ะ... ที่ไปประจำ คือ บล๊อคของคุณเพรง. ผู้น่ารัก และ คุณป้าพรหมญาณี ที่น่านับถือ ค่ะ บล๊อคคุณสดายุนี่ มานานแล้วค่ะประมาณ 2 ปีกว่า... มาอ่านทุกเพจ ก็ว่าได้ อาหารสมองค่ะมีให้อ่านมากมาย ความรู้ทั้งนั้น เป็นคนชอบอ่านมากกว่าค่ะ...

และ อีกอย่าง ชอบ แนวการแต่ง โคลง ฉันท์ กลอน ของท่าน... พอๆกับที่ชอบแนวของคุณเพรง. ^^

ขอบคุณมากค่ะท่าน จขบ. ที่ให้ใช้พื้นที่ T_T

ขอโทษนะคะ


โดย: Witch IP: 118.172.103.201 วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:17:44:32 น.  

 
คุณฟ้า....

สวัสดีครับ...เป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายมากในความคิดของผมสำหรับสิ่งที่คุณเพิ่งเจอะเจอมาในบล็อคคุณ...ผมได้แต่เอาใจช่วยให้ผ่านพ้นไปด้วยดี...

"ส่วนใครจะมีพื้นที่ให้ภาษาถ่อยพวกนี้ไปร่วมอยู่ด้วย "....ประโยคนี้ของคุณฟ้ามีสำนวนไทยใช้อยู่นะครับ....ว่า
"ฝนตกขี้หมูไหล..คน(อะไร)ไปพบกัน" 555

ขอให้มีความสุขภายใต้นายกหญิงคนแรกของไทยนะครับ...






cyber boy
ไม่เข้าใจจุดประสงค์ ที่มาวางลิงค์เอาไว้ในบล็อคนี้ ...เราไม่รู้จักกันมิใช่รึ...

อย่าพยายามลากประเด็นใดๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระทู้โคลงข้างบนเข้ามาในบล็อคนี้นะ...ขอเตือนไว้

และที่ทำลิงค์ไว้ก็ยังไม่เห็นประเด็นอะไรทั้งสิ้น...และสำหรับบล็อคนี้-ใครจะใช้ชื่ออะไรก็ตามใจชอบตราบที่ยังไม่ได้เข้ามาพูดจาเลอะเทอะ...ซึ่งผมจะเป็นคนตัดสินเองแต่ผู้เดียว

เรื่องเอา ip มาเทียบกันแล้วบอกว่าใครนั้น กับคนนี้เป็นคนเดียวกัน....แล้วยังไงครับ...? มันมีประเด็นอะรถึงกับต้องมาเตือนในนี้...อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆ







แม่มดเฒ่า....
ทำไมใช้หลายชื่อนักนะ....555
จนคนชอบสืบสวน ไล่ตามอ่านกันใหญ่...อืม...ท่าทางจะดังใหญ่แล้ว...

สำหรับบล็อคนี้จะใช้ชื่ออะไรก็ได้...ตราบที่ยังเขียนประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านแล้ว..ผมยินดีเสมอ

เพียงแต่ว่าผมไม่ค่อยไปอ่านที่บล็อคไหน พูดได้ว่าแทบไม่มี เพราะชอบหาความรู้มาเก็บไว้อ่านเองในบล็อคมากกว่า...เหมือนเราเขียนไดอารี่....เพียงแต่คนอื่นมาอ่านได้ด้วย....

ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจเรื่องราวความรักความแค้นของใครต่อใครในบล็อคเลย...จึงไม่อาจตอบสนองเหตุการณ์ได้ทันอกทันใจนัก...เรื่องราวในบล็อคนี้จึงย่อมไม่มีบรรดา"ไทยมุง"มาช่วยสร้างบรรยากาศร่วมให้...555

ข้อมูลที่ช่วยเอามาลงในบล็อค ทองคำ จึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อ investor มาก ต้องขอขอบคุณไว้ในที่นี้



โดย: สดายุ... วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:20:35:18 น.  

 
เห็นเข้ามาแต่เช้าแล้ว จะสตาฟนารีปราโมชไว้หน้านี้เหรอคะ
เหมือนจขบ.ไม่ค่อยเขียนนารีปราโมชด้วยกาพย์
กาพย์ห่อโคลงจะใช้พรรณาได้งดงามเช่นเดียวกันนี้ไหมหนอ
เคยอ่านเด็กเด็กเข้ามาเรียนวิชาแปลบทกวีในนี้ น่ารักดีค่ะ
จขบ.ก็ใจดีตอบได้เป็นบทบทเลย สมชื่อวรรณประทีป
และดูเหมือนจะยังอยู่ในซอยเล็กซอยน้อยของบล็อก
แต่มันเยอะจัด กับยังแยกเนื้อหาไม่ได้จากชื่อกลุ่มบล็อก
เปิดทุกหน้ากว่าจะเจอที่ต้องการก็ต้องใช้เวลานานถึงนานมาก
ยิ่งวันไหนเน็ทงุ่มง่ามก็นานที่สุดเลย ถ้ามีสารบัญให้คงดีนะคะ..


บล็อกนี้ติดกล้องวงจรปิดจริงจริงด้วยหรือเจ้าบ้านบอกถอดดีกว่า 55++
ออกไปเลาะเล่นข้างนอกดีกว่าอากาศกำลังสบายเลยเจ้า..



โดย: Peakroong วันที่: 20 สิงหาคม 2554 เวลา:10:21:04 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณกาย..

ฟ้าเห็นคุณบอกให้เรียกชื่อนี้..ก็เลยขออนุญาตเรียกซะเลยค่ะ

ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งสิ้น...มันเกิดขึ้นได้
ไม่ว่าจะเป็นในบ้านคุณหรือบ้านฟ้า

มันก็จะดับลงได้..ด้วยธรรมชาติของกาลเวลา...

เพียงแต่ทำใจให้หยุดนิ่ง..ดูสรรพสิ่งรอบข้างอย่างวางเฉย
แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี

วันนี้..ฟ้าเลยส่งหัวใจอันแข็งแกร่ง..มั่นคงเกิน 100 มาช่วยทำให้ สงบ เพื่อสยบ ความเคลื่อนไหว นะคะ

ฟ้าจะเป็นกำลังใจให้คุณด้วย เช่นกันค่ะ


Image Hosting at ImageHousing.com!





โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 20 สิงหาคม 2554 เวลา:10:44:07 น.  

 
พี่ชาย..

วันนี้เป็นวันหยุดที่น้องมีโอกาสอยู่บ้านแบบสบายๆค่ะ
ไม่ต้องเครียด..ไม่ต้องเร่งรีบ
ไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนนค่ะ..
..วัดพระธาตุลำปางหลวง..น้องไปกับครอบครัว
เมื่อตอนเข้าพรรษานี้เองค่ะ..คนเยอะมาก
ตอนเย็นแวะนอนที่ทิพย์ช้าง 1 คืนค่ะ
ท่านทั้งสองอยากนั่งรถม้ารอบเมือง
บรรยากาศน้องว่ายังเหมือนเดิมค่ะ
ไม่เปลี่ยนไปเร็วเหมือนเมืองเชียงใหม่ค่ะ..
พี่ชายมาอยู่ลำปาง..มาอยู่ตรงจุดไหนคะ
เผื่อว่าน้องผ่านไปจะแวะไปขอข้าวทานซักจานค่ะ..

บทกลอนพี่ชายก็ยังไพเราะเหมือนเดิมนะคะ..
พี่ชายคะ..มีความสุขในวันหยุดกับครอบครัวที่น่ารักนะคะ..


โดย: น้องฟาง IP: 180.180.223.246 วันที่: 20 สิงหาคม 2554 เวลา:11:23:28 น.  

 
คุณปีกรุ้ง....

สวัสดีครับ...กาพย์ห่อโคลงนั้นเนื้อความมักไม่เดินหน้า...เพราะเขียนล้อกันระหว่างกาพย์กับโคลงแต่ละบทในเนื้อหาเดียวกัน...ซึ่งเหมาะกับบทพรรณนาชมธรรมชาติ หรือ ชมอาหารขนมนมเนยแบบ กาพย์ห่อโคลงชมเครื่องคาวหวานของรัชกาลที่ 2 นั่นแหละครับ....

เจ้าฟ้ากุ้งน่าจะเป็นเจ้าแห่งกาพย์ห่อโคลงนะครับ...ผมเองชอบอ่านของวีท่านนี้กว่าใคร






คุณฟ้า....
สำหรับผมไม่ได้มีปัญหาอะไร...แค่คนบางคนเอาชื่อไปพาดพิงแค่นั้น ผมไม่สนใจ...

คนในสังคมไทยใจเร็ว เชื่อง่าย...บ่อยครั้งที่ขาดเหตุผลอย่างรุนแรง...เป็นต้นว่า คนที่ดีๆกันอยู่ย่อมไม่มีประเด็นไปด่าว่า หรือให้ร้ายกันได้...แต่พอมีคนมาบอก(ด้วยความเข้าใจผิด) กลับรู้สึกระแวงตามขึ้นมาทันที...แบบนี้มีเยอะครับ...

ดังนั้นเราจำต้อง ignore อารมณ์ของคนลักษณะนี้ไปเสีย....อย่าใส่ใจให้ราคาครับ...

ขอบคุณสำหรบการให้กำลังใจนะครับ







ฟางน้อย....
สำหรับประโยคนี้...."พี่ชายคะ..มีความสุขในวันหยุดกับครอบครัวที่น่ารักนะคะ.." ต้องบอกน้องว่า พี่อยู่คนเดียวยังเป็นโสดค่ะ...อิๆๆ

พี่มาอยู่ลำปาง...ไม่ไกลจาก big C มากนักหรอกค่ะ...หากน้องผ่านมาแถวนั้นก็โทร.หาพี่ได้ค่ะ...ที่ big C มีร้านอาหารคล้ายในเชียงใหม่ค่ะ น้องคงทานได้...

น้องยังทำงานที่เดิมหรือคะ


โดย: สดายุ... วันที่: 20 สิงหาคม 2554 เวลา:19:57:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.