แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ เวชศาสตร์ป้องกัน ร.พ.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
เวชศาสตร์ครอบครัวและชุมชน
คนคือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในการบริหารจัดการ
ข่าวสุขภาพที่น่าสนใจ
เรื่องสัพเพเหระที่น่าสนใจ
เรื่องแปลกที่น่าสนใจ
ที่พักข้อมูลไว้เพื่อนำมาลงต่อไป
ข่าวสุขภาพที่น่าสนใจ1
เรื่องสัพเพเหระที่น่าสนใจ1
ข่าวสุขภาพที่น่าสนใจ2
คนคือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในการบริหารจัดการ 1
กลุ่มเรื่องที่น่าสนใจ
เอกสารประกอบการสอน
ข่าวการเมืองที่น่ารู้และควรติดตาม
คนคือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในการบริหารจัดการ2
เรื่องสัพเพเหระที่น่าสนใจ2
รวมข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ที่น่าสนใจ
ข่าวสุขภาพที่น่าสนใจ3
เรื่องแปลกที่น่าสนใจ2
KAP:K-Knowledge,A-Attitude,P-Practise
ชมรมจริยธรรม ร.พ.พนมสารคาม
ข่าวการเมืองที่น่ารู้และควรติดตาม2
<<
ธันวาคม 2549
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
5 ธันวาคม 2549
โครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเพื่อสร้างเสริมสุขภาพคนไทย
ออกกฎป้องหมอ ปฏิเสธคนไข้ได้
เผย"10เทคโนโลยี"เด่น กำหนดทิศทางการแพทย์2550
"พวกเราสามารถช่วยทำให้คนไข้ร.พ.น้อยลงได้ ถ้าช่วยกันตามเสนอ"
"ผู้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล หนุนรณรงค์ให้คนไทยดูแลสุขภาพ "
"มะเร็งต่อมลูกหมาก ภัยเงียบที่ท่านชายคาดไม่ถึง"
"ความก้าวหน้าทางการวิจัยด้านการแพทย์ของไทยเอง แทน การรอรับผลการวิจัยของต่างประเทศ"
12 ข้อสำคัญป้องกันไข้หวัด(รวมทั้งตอน1และตอน2)
หมอลาออกปีละเกือบพันคน.....เกิดอะไรขี้นกับหมอ???
โครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเพื่อสร้างเสริมสุขภาพคนไทย
ออกกฎป้องหมอ ปฏิเสธคนไข้ได้
เผย"10เทคโนโลยี"เด่น กำหนดทิศทางการแพทย์2550
อัมพาต-อัมพฤกษ์ ชื่อเพราะดี แต่หน้าตาน่ากลัว [26 พ.ย. 49 - 14:52]
สธ.ผ่าตัดฟรีผู้ป่วยต้อกระจก8หมื่นคนเฉลิมพระเกียรติ
วิตามินเสริมจำเป็นแค่ไหน โดย...เอมอร คชเสนี
เข้าใจผิดคิดว่ายกเลิก 30 บาท เลขาสปสช. ย้ำชัดเดินหน้าหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า แต่ไม่ต้องจ่าย30บาท
8อ.สร้างสุขภาพเพื่อคนเมืองชลแข็งแรง โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี
คนไทยป่วยเป็นโรคหืด3ล้าน เสียชีวิตปีละพันคน
ออกกฎป้องหมอ ปฏิเสธคนไข้ได้
ข่าวจาก น.ส.พ.มติชนรายวัน วันอังคาร ที่ 05 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10496
ภาพวัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
ออกกฎป้องหมอ ปฏิเสธคนไข้ได้สกัดฟ้อง-กล่าวหาไม่เป็นธรรม แพทยสภาทิ้งทวนก่อนพ้นวาระ
แพทยสภาคลอดประกาศใหม่ เปิดทางหมอปฏิเสธรักษาคนไข้ได้ พร้อมได้รับความคุ้มครองไม่ถูกฟ้องร้อง อ้างหมอรักษาสุดความสามารถทุกคน
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา ได้ออกประกาศแพทยสภา ฉบับที่ 46 /2549 เรื่อง
"ข้อเท็จจริงทางการแพทย์"
ซึ่งเป็นการออกประกาศในวันสุดท้ายก่อนครบวาระและมีการเลือกตั้งกรรมการแพทยสภาชุดใหม่ โดยมีสาระสำคัญ 9 ข้อ คือ
1."การแพทย์"
ในที่นี้ หมายถึงการแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งคือการแพทย์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์ว่ามีประโยชน์
2.การแพทย์ยังไม่สามารถให้การวินิจฉัย ป้องกัน และ/หรือบำบัดให้หายได้ทุกโรคหรือทุกสภาวะ
บางครั้งอาจทำได้เพียงบรรเทาอาการหรือประคับประคองเท่านั้น ยิ่งกว่านั้น บางโรคยังมิอาจให้การวินิจฉัยได้ในระยะเริ่มแรก
3.ในกระบวนการดำเนินการทางการแพทย์อาจเกิดสภาวะอันไม่พึงประสงค์ได้
แม้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจะใช้ความระมัดระวังอย่างเพียงพอแล้วก็ตาม ซึ่งถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย
4.ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมย่อมใช้ดุลพินิจในการเลือก
กระบวนการดำเนินการทางการแพทย์ รวมทั้งการปรึกษาหารือส่งต่อโดยคำนึงถึงสิทธิและประโยชน์โดยรวมของผู้ป่วย
5.เพื่อประโยชน์ต่อตัวผู้ป่วยเอง ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมอาจปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยที่ไม่อยู่ในสภาวะฉุกเฉิน
อันจำเป็นเร่งด่วนและเป็นอันตรายต่อชีวิต โดยต้องให้คำแนะนำหรือส่งต่อผู้ป่วยตามความเหมาะสม
6.ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานและจริยธรรมวิชาชีพ ย่อมมีสิทธิ และได้รับความคุ้มครองที่จะไม่ถูกกล่าวหาโดยไม่เป็นธรรม
7.ภาระงาน
ข้อจำกัดของสถานพยาบาล ความพร้อมทางร่างกาย จิตใจ และสภาพแวดล้อมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ย่อมมีผลต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินการทางการแพทย์
8.การปกปิดข้อมูลด้านสุขภาพและข้อเท็จจริงต่างๆ ทางการแพทย์ของผู้ป่วย
ต่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ทำการวินิจฉัยและรักษาย่อมมีผลเสียต่อการวินิจฉัยและการรักษา
9.การไม่ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำ
ของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือบุคลากรทางการแพทย์ ย่อมมีผลเสียต่อการรักษาและการพยากรณ์โรค
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์ อดีตเลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า แพทยสภาใช้เวลาร่างประกาศนี้เป็นเวลา 3-4 ปี ทั้งนี้ เนื่องจากแพทย์ประมาณ 3 หมื่นคนทั่วประเทศไม่เพียงพอกับคนไข้ และจากการวิจัยพบว่า แพทย์ร้อยละ 86 มีเวลาดูแลคนไข้ไม่ถึง 1 นาที ขณะที่คนไข้ตั้งความหวังกับแพทย์ไว้มากว่าเมื่อเจ็บป่วยแพทย์จะรักษาได้
"ความจริง "หมอเทวดา" ก็ช่วยไม่ได้ หรือบางครั้งคนไข้พบแพทย์ก็มิได้หมายความว่าแพทย์สามารถวินิจฉัยอาการได้ทันที เพราะระยะเริ่มแรกอาจจะยังไม่ปรากฏอาการ ผมได้นำปัญหาจากการไปเยี่ยมแพทย์เสนอต่อแพทยสภา เพราะคิดว่าเมื่อมีเรื่องสิทธิของผู้ป่วย ก็ต้องดูว่าแพทย์มีสิทธิหรือไม่ ในความเห็นผมคิดว่าแพทย์ก็น่าจะมีสิทธิที่จะทำงานในสภาพที่เอื้อต่อการทำงาน แต่ไม่ได้เรียกว่า
"สิทธิแพทย์"
เหมือนกับ
"สิทธิผู้ป่วย"
ให้เรียกว่า
"ข้อเท็จจริงทางการแพทย์"
การออกประกาศข้อเท็จจริงทางการแพทย์ มิใช่ว่าต้องการชนกับผู้ป่วย เพราะโดยหน้าที่แพทย์ก็ต้องทำดีกับผู้ป่วยและรักษาผู้ป่วยสุดความสามารถ" นพ.พินิจกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประกาศดังกล่าวอาจทำให้แพทย์ปฏิเสธการรักษาผู้ป่วย และมีการส่งต่อผู้ป่วยมากขึ้น
นพ.พินิจกล่าวว่า เรื่องนี้ผู้ป่วยได้ประโยชน์ เพราะจะได้พบแพทย์เฉพาะทาง ยกเว้นกรณีที่เป็นคนไข้ฉุกเฉิน แพทย์ไม่สามารถปฏิเสธคนไข้ได้ไม่ว่ากรณีใดๆ อย่างไรก็ตาม ประกาศนี้อาจทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการป้องกันไม่ให้มีการฟ้องร้องแพทย์นั้น ยืนยันว่าถ้าแพทย์รักษาเต็มที่แล้ว ไม่ผิด ก็ไม่ควรฟ้อง เพราะแพทย์ก็มีสิทธิความเป็นมนุษย์และได้รับความคุ้มครองเช่นกัน
ด้าน นพ.สุวัจน์ เฑียรทอง รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก นพ.ปราชญ์ บุญวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับผิดชอบร่างระเบียบคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อคุ้มครองแพทย์และบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ตามหลักวิชาชีพเวชกรรมให้การดูแลคนไข้ถูกหลักวิชาการถูกฟ้องร้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขร่างเดิม โดยตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าจำเป็นจะต้องปรับปรุงกฎหมายใดบ้าง โดยเฉพาะประเด็นไม่ให้แพทย์ถูกฟ้องร้องคดีอาญา ยกเว้นในกรณีประมาท เลินเล่ออย่างร้ายแรง ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีแนวคิดที่จะดึงองค์กรภาคประชาชนเข้ามีส่วนร่วมในร่างฉบับนี้ด้วย
ขณะที่ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ร่างระเบียบฉบับนี้สำคัญต่อประชาชนมาก และมูลนิธิประสงค์ที่จะเข้าไปเป็นตัวแทนภาคประชาชนร่วมกับภาคีองค์กรเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมผลักดันร่างฉบับนี้ด้วย และเสนอว่า
1.ควรนำเรื่องการตั้งกองทุนเยียวยาช่วยเหลือผู้ป่วยที่ได้รับความเสียหายทางการแพทย์ บรรจุไว้ในร่างฉบับนี้ เพื่อลดการฟ้องร้องจากผู้เสียหาย
2.แพทยสภาต้องหยุดทำหน้าที่เหมือนแพทยสมาคม โดยการปกป้องแต่คนในวิชาชีพแต่กลับไม่ทำหน้าที่เพื่อปกป้องประชาชนที่ได้รับความเสียหายอย่างแท้จริง และ
3.กรณีเกิดความผิดพลาดจากการรักษา ควรมีการตั้งองค์กรกลางร่วมพิสูจน์ความผิดร่วมกับแพทยสภาด้วย
.........................................................................
มีข่าวเกี่ยวข้องจาก น.ส.พ.คมชัดลึก วันพุธที่6ธ.ค.2549 2 ข่าว ดังนี้ให้พิจารณา
เรื่องแรก กรรมการสิทธิฯ ร้องรมว.สธ. ทบทวนประกาศคุ้มครองหมอ
"หมอประดิษฐ์ เจริญไทยทวี" เตรียมร้อง รมว.สาธารณสุขทบทวนประกาศคุ้มครองแพทย์ ชี้ละเมิดสิทธิคนไข้
ศ.เกียรติคุณ น.พ.ประดิษฐ์ เจริญไทยทวี กรรมการสิทธิมนุษยชน กล่าวถึงกรณีแพทยสภาออกประกาศ
"ข้อเท็จจริงทางการแพทย์" 9 ข้อปกป้องสิทธิแพทย์ทั่วประเทศ ป้องกันถูกฟ้องโดยให้สิทธิปฏิเสธรักษากรณีไม่ฉุกเฉิน ว่า แพทยสภาไม่สามารถออกกฎระเบียบที่ละเมิดสิทธิของคนไข้ได้ ซึ่งตนไม่เห็นด้วยและอึดอัดใจกับประกาศดังกล่าว
ดังนั้น จะทำหนังสือถึง น.พ.มงคล ณ สงขลา รมว.สาธารณสุข ในฐานะผู้ดูแลและกำกับแพทยสภา ให้ทบทวนประกาศฉบับดังกล่าว
ศ.เกียรติคุณ น.พ.ประดิษฐ์ กล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์มีมากอยู่แล้ว
ตอนนี้เด็กนักเรียนก็ไม่อยากเรียนหมอ เพราะเสี่ยงกับการถูกฟ้องทั้งทางแพ่งและอาญา ส่วนหมอก็ติดคุกไปหลายคนแล้ว การออกประกาศฉบับนี้จะดีหรือเสียแพทยสภาต้องคิดเอาเอง
ด้าน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ไม่ว่าที่ไหนในโลกแพทยสภาต้องมีหน้าที่คุ้มครองสิทธิประชาชน ไม่ใช่ออกหลักเกณฑ์ปกป้องแพทย์ด้วยกันเอง แพทยสภาควรจะเปลี่ยนไปเป็นแพทยสมาคมเพื่อดูแลวิชาชีพแพทย์ด้วยกันเองมากกว่า จะทำหนังสือถึงแพทยสภาให้ทบทวนประกาศดังกล่าวภายใน 2-3 วันนี้
......................................................................
เรื่องที่2หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันวันเดียวกัน
เครือข่ายผู้ป่วยวางหรีดดำประท้วงประกาศแพทยสภา
และ เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ วางหรีดดำ ประท้วงประกาศแพทยสภาขอให้ทบทวนใหม่ "หมอรักษาโรคไม่ผิด"
ด้านเลขาธิการแพทยสภา รับปากเสนอเข้าบอร์ดแพทยสภาอีกครั้ง แจงไม่ได้ปกป้องแพทย์
ศ.นพ.ประเวศแนะพยาบาลบริการด้วยน้ำใจ คนไข้หายไว ประหยัดงบประมาณตรวจวินิจฉัยโรค แนะหลัก 6 ข้อเปลี่ยนระบบบริการสุขภาพจาก นรกเป็น สวรรค์
(6ธ.ค.) นางปรียนันท์ (ดลพร) ล้อเสริมวัฒนา เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ นำหรีดมาวางประท้วงแพทยสภาที่ออกประกาศแพทยสภาที่ 46/2549 เรื่องข้อเท็จจริงทางการแพทย์ ลักษณะการรักษาโรคของแพทย์ไม่มีความผิดไม่สามารถฟ้องร้องต่อศาลได้ มี น.พ.พินิจ กุลละวณิชย์ เลขาธิการแพทยสภา เป็นผู้รับพวงหรีด โดยพวงหรีดเขียนข้อความ ว่า สู่สุคติเถอะแพทยสภา และป้ายประท้วงข้อความว่า พึ่งไม่ได้แล้วแพทยสภายุบไปเลย และ ไว้อาลัยแพทยสภาหน่วยงานที่ตายแล้ว
นางปรียนันท์ กล่าวว่า ประกาศฉบับดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าแพทยสภาปกป้องแพทย์ มากกว่าประชาชน ควรมีองค์กรกลางเข้ามาดูแลความปลอดภัยทางการแพทย์ การเรียกร้องครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อคนไข้อย่างเดียว แต่เพื่อแพทย์ด้วย องค์การอนามัยโลกยอมรับว่า การที่แพทย์ทำคนไข้ตายโดยความผิดพลาดจากการรักษาปีหนึ่งหลายหมื่นคนแต่ไม่มีการแก้ปัญหากลับไปปกป้องแพทย์
ด้าน น.พ.พินิจ กล่าวว่า คงต้องนำประกาศแพทยสภาฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาคณะกรรมการแพทยสภาในครั้งต่อไปว่าจะมีการทบทวนตามที่เรียกร้องหรือไม่ ยังให้คำตอบไม่ได้ในขณะนี้ แต่แพทยสภามีเจตนาที่จะปกป้องสิทธิในการรักษาของผู้ป่วยด้วย ไม่เพียงแต่เฉพาะแพทย์เท่านั้น ต้องอ่านเนื้อหาให้ดีๆ จะเข้าใจเพราะพิจารณามานาน 3-4 ปี รวมทั้งระมัดระวังในเรื่องผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นด้วย คาดสัปดาห์หน้าอาจแถลงข่าวเพื่อสร้างความเข้าใจ
ผมไม่เคยเข้าข้างหมอ หรือปกป้องพวกพ้องที่เป็นแพทย์ด้วยกัน แต่ควรให้ความเป็นธรรมกับหมอบ้าง เพราะบางพื้นที่มีหมอแค่คนเดียว ต้องรักษาผู้ป่วยเป็นร้อยคนในเวลาจำกัด อีกทั้งในความเป็นจริงแล้วคงไม่มีหมอคนใดที่จะปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยได้ น.พ.พินิจ กล่าว
ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส บรรยายพิเศษเรื่อง
"ระบบบริบาลที่มีหัวใจความเป็นมนุษย์"
ในการประชุมวิชาการสภาการพยาบาลครั้งที่ 1 ว่า จากการรายงานของ ดร.วิจิตร ศรีสุพรรณ นายกสภาการพยาบาล ทำให้รู้ว่า ปัจจุบันมีพยาบาลกว่า 150,000 คน กระจายอยู่ทั่วประเทศ ถือเป็นพลังสำคัญในการปฏิรูประบบสุขภาพ เป็นที่ประจักษ์ว่าการให้บริการประชาชนของพยาบาลมีน้ำใจต่อคนไข้มากกว่าแพทย์
เรื่องคุณธรรมถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการมีระบบ พยาบาลชุมชน ให้บริการในลักษณะใกล้บ้าน ใกล้ใจ คาดว่าอีก 10 ปีจะมีพยาบาลของชุมชนเพิ่ม 70,000-100,000 คน จากการสนับสนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คัดเลือกคนในชุมชนส่งเรียนพยาบาล เพื่อกลับไปดูแลคนในชุมชน ได้รับเงินเดือนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ใช่จากกระทรวงสาธารณสุข
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวถึงข้อดีของระบบพยาบาลชุมชนว่า พยาบาลชุมชนจะออกเยี่ยมบ้าน ช่วยเหลือเปลี่ยนสายปัสสาวะให้ผู้ป่วยอัมพาต ซึ่งต้องเปลี่ยนทุก 15 วัน การหอบหิ้วผู้ป่วยไปโรงพยาบาลยากลำบาก แต่หากพยาบาลออกไปให้บริการผู้ป่วยที่บ้าน คนไข้จะได้รับความสะดวก ยิ่งสังคมไทยมีคนสูงอายุเพิ่มขึ้น ระบบพยาบาลเยี่ยมบ้านจะช่วยให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดี อีกทั้ง ระบบสุขภาพชุมชน โดยคนไข้รู้วิธีดูแลตนเอง คนในครอบครัวใส่ใจสุขภาพ จะลดความแออัดของคนไข้ในโรงพยาบาลใหญ่ ระบบการให้บริการสุขภาพจะเปลี่ยนจาก นรก เป็น สวรรค์ โดยดำเนินการ 6 ข้อคือ
1.สำรวจผู้ถูกทอดทิ้งในชุมชน ตำบลให้แล้วเสร็จใน 2 สัปดาห์ ค้นหาว่ามีคนจน คนแก่ ผู้พิการ เด็กกำพร้าถูกทอดทิ้งจำนวนเท่าใด คนในชุมชนรวมน้ำใจตั้งเป็นกองทุนสุขภาพชุมชนให้การช่วยเหลือ
2. ให้ความรู้จนสามารถรักษษโรคง่าย ๆ ด้วยตัวเอง พวกโรคหวัด เจ็บคอไม่ควรมาหาหมอ จะทำให้โรงพยาบาลว่าง ลดความแออัด
3.โรคเรื้อรังเบาหวาน ความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่ต้องให้ความรู้ในการดูแลตนเองลดโรคแทรกซ้อน ซึ่งหากทำได้จะลดภาระการรักษาโรคเหล่านี้
4.จัดบริการให้มีพยาบาลเยี่ยมบ้านรองรับสังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากจะมีโรคคนแก่เพิ่มขึ้น
5.ความเข้มแข็งของชุมจะช่วยป้องกันโรคติดต่อได้ทั้งไข้เลือดออก โรคซาร์ส ไข้หวัดนก
6.การสร้างเสริมสุขภาพให้คนในชุมชนแข็งแรง
การบริการด้วยน้ำใจจะมีพลัง มากกว่าการนำความรู้นำ ผลที่เกิดขึ้นคือ คนไข้มีความสุข ไข้หายง่ายเพราะเอ็นโดฟินหลั่งจากการมีความสุข ค่าใช้จ่ายในการวินิจฉัยโรคลดลง มีนวัติกรรมใหม่ ๆ ในการดูแลคนไข้เพิ่มขึ้น เช่นวิธีแทงเข็มน้ำเกลือโดยไม่สร้างความเจ็บปวดให้คนไข้ ลดการฟ้องร้องแพทย์จากบริการที่มีน้ำใจ ความปลอดภัยในการรักษาพยาบาล ทำให้ทุกคนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มั่นใจปลื้มใจภูมิใจในตนเองศ.นพ.ประเวศ กล่าวและ เสนอให้ทำแผนที่ความดีของพยาบาล เผยแพร่กิจกรรมดี ๆ ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
Create Date : 05 ธันวาคม 2549
Last Update : 6 ธันวาคม 2549 22:12:14 น.
0 comments
Counter : 513 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
samrotri
Location :
ฉะเชิงเทรา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
?
]
น.พ.สำเริง ไตรติลานันท์
แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ เวชศาสตร์ป้องกัน
ตำแหน่ง นายแพทย์เชี่ยวชาญ หัวหน้ากลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชน ร.พ.พนมสารคาม และ ร.พ.สร้างเสริมสุขภาพตำบลเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โทรฯ 0896112714
ป่ามืด
Marquez
เจ้าหญิงไอดิน
อีคิวศูนย์
แมงดาตัวเมีย
panomsarakham
forceps
BlogGang.com
samrotri
หนูเล็กนิดเดียว
โยเกิตมะนาว
wicsir
Webmaster - BlogGang
[Add samrotri's blog to your web]
เวบบ์ร.ร.เบญจมราชรังสฤษฏิ์ ฉ.ช.
สำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
สารานุกรมเสรี(Wikipedia)
กระทรวงสาธารณสุข
ราชวิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวแห่งประเทศไทย
ศูนย์คุณธรรม
ข้าวใจดอทคอม
วิทยุธรรมะออนไลน์
ขบวนการสร้างสุข
โครงการเผยแพร่ธรรมะสู่เยาวชน
อุทยานการเรียนรู้
ศูนย์กลางการเรียนรู้ไอทีแห่งชาติ
เวบบ์หอพักนิสิตเก่าจุฬาฯ
โครงการรักหัวใจใส่ใจโคเลสเตอรอล
Medline Encyclopedia
รับฟังเสียงธรรมจากเวบไซด์
เวบไซด์ของทุกคนในครอบครัว
budpage" เพื่อชีวิตและชุมชนชาวพุทธ
พระจันทร์ ดวงเดือน เพื่อนชีวิต
เวบไซด์อนุรักษ์ธรรม เพื่อผู้ที่ศึกษาธรรม
เวบไซด์วิธีทำอาหารโหระพาดอทคอม
เวบไซด์ออกกำลังกายด้วยไม้พลองป้าบุญมี
Thaipoem.comร้องเพลงกันดีกว่า
คอมพ์ทายใจเราได้
เวบศิษย์เก่านักเรียนเตรียมอุดมฯรุ่น35
เวบประตูสู่ธรรม
เวบคลังสมองชุมชน
ปฏิจสมุปบาท
บล็อกOKNATIONSAMROTRI
"เวบสืบค้นกฎหมายไทย "
ความรู้เรื่องโรคและสุขภาพภาษาไทย
เวบบอร์ดร.พ.พนมสารคาม
เวบบ์ภายในโรงพยาบาลพนมสารคาม
"พุทธศาสนาแนววิทยาศาสตร์สำหรับปัญญาชนผู้แสวงหา"
หลวงพ่อชา สุภัทโท ตอบปัญหาธรรม
Bloggang.com