 |
 |
 |
 |
 |
|
 |
 |
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
 |
7 กรกฏาคม 2550 |
|
 |
 |
|
 |
|
|
|
 |
 |
 |
 |
|
 |
 |
 |
 |
|
"สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเปลี่ยนชื่อสลับเอาสังคมขึ้นก่อนเศรษฐกิจ"
นายกฯสั่งรื้อบทบาทสภาพัฒน์ ข่าวเศรษฐกิจ น.ส.พ.ไทยรัฐ วันเสาร์ 7 ก.ค. 50

 พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดการประชุมประจำปี 2550 สำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
เรื่องความอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันในสังคมไทย
ว่า ได้ขอให้ สศช.จัดลำดับการพัฒนาประเทศใหม่ โดยเน้นให้ความสำคัญในการพัฒนาด้านสังคมก่อนด้านเศรษฐกิจ จึงควรเปลี่ยนชื่อสำนักงานมาเป็นสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติ โดยต้องมีความเป็นธรรมและเป็นไทย เพื่อเป็นแนวทางนโยบายอยู่เย็นเป็นสุข
เริ่มจากการเปลี่ยนองค์กรของรัฐการให้ความสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พร้อมกับให้ความสำคัญดัชนีชี้วัดการกระทำความดี มีคุณธรรม แม้ว่าจะทำลำบาก แต่ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องสร้างจิตสำนึกให้กับเด็กและเยาวชน
และขอย้ำว่ารัฐบาลนี้ไม่คำนึงถึงตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศมากนัก แต่คำนึงถึงสภาวะที่สอดคล้องในทุกๆด้าน ทั้งสภาวะครอบครัว สังคม สิ่งแวดล้อม ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งต้องแบ่งปันหลายๆอย่างด้วยกัน
ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาการพัฒนาประเทศไทย อยู่ภายใต้การดูแลของ สศช.เป็นการมองในภาพกว้างแต่ตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 เริ่มมีการหันมาให้ความสนใจพัฒนาคนมากขึ้น ขณะที่ พ.ร.บ.การศึกษาได้ กำหนดให้คุณธรรมนำความรู้และในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10 ได้ให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาคนและเมื่อรัฐบาลนี้เข้ามารับหน้าที่
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมปีที่ผ่านมา ได้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประกาศใช้ทำให้หลายฝ่ายเกรงว่าจะปิดประเทศไม่ค้าขาย โดยข้อเท็จจริงแล้วได้นำแนวคิดมาจากแผนฯ 10
ส่วนที่หลายคนสอบถามว่าหลังรัฐบาลนี้ไปแล้วแนวความคิดในการพัฒนาประเทศที่เป็นอยู่ปัจจุบันจะเป็นอย่างไร เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะนำไปพูดคุยกันด้วยเหตุผล และไม่ว่าใครจะทำหน้าที่เป็นรัฐบาลก็ต้องทำในสิ่งที่ประชาชนอยากจะเห็นมากกว่ารัฐบาลเป็นผู้กำหนด เพราะแท้จริงรัฐบาลมีหน้าที่อำนวยความสะดวกและสนับสนุนในเรื่องต่างๆ

นายประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแบบตะวันตก ที่เน้นความเป็นบุคคลมากเกินไป จึงกลายเป็นสาเหตุสำคัญของความไม่อยู่เย็นเป็นสุข ขณะที่ประเทศไทยมีวัด 30,000 แห่ง มีพระสงฆ์ 250,000 รูป แต่ดัชนีทางศีลธรรมก็ไม่ดีขึ้น ดังนั้นจำเป็นต้องเร่งพัฒนารากฐานของไทยให้มีคุณภาพมากขึ้น

นายอาชว์ เตาลานนท์ ประธานกิตติมศักดิ์สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า
ปัจจุบันสถานการณ์ความขัดแย้งของสังคมที่แต่ละฝ่ายไม่คำนึงถึงความเสียหายของประเทศ ทำให้ตัวเลขดัชนีชี้วัดความสุขตั้งแต่ช่วง พ.ย.-ธ.ค. 49 อยู่ในระดับสูงกว่า 100 แต่ลดลงเหลือ 91 ในเดือน พ.ค.

นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า
แผนพัฒนาฉบับที่ 10 จะเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เพราะว่าเดิมการพัฒนาเน้นคนเป็นศูนย์กลาง และมีมาตั้งแต่แผนพัฒนาฉบับที่ 8 แต่ไม่ได้นำมาใช้ในการปฏิบัติมากนัก ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงระบบคิดและวิธีคิดจะไม่นำไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้น ในแผนพัฒนาฉบับที่ 10 สิ่งที่อยากเห็นใน 2 ส่วน คือ เรื่องดัชนีชี้วัดระดับตำบล จังหวัด และระดับชาติและการจัดระบบการจัดการในการนำแผนพัฒนาที่ทางสภาพัฒน์ ได้เขียนขึ้นมาใช้ได้จริงเป็นรูปธรรม

นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงการปรับตัวของค่าเงินบาทว่าต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ควรรีบร้อนที่จะนำเงินมาซื้อดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อแทรกแซงให้ค่าเงินบาททรงตัว เพราะเกรงว่าจะมีกองทุนเก็งกำไรจากค่าเงินระดับโลกนำเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯเข้าสู้กับประเทศไทยอีก ส่งผลให้ ธปท.ต้องสูญเสียเงินทุนสำรองระหว่างประเทศโดยไร้ประโยชน์ และที่สำคัญก่อให้เกิดความผันผวนกว่าเดิม จนอาจนำประเทศไทยสู่วิกฤติค่าเงินรอบ 2 เหมือนปี 40 ได้

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยมีโอกาสดอกเบี้ยจะลดลงต่ำได้อีกเล็กน้อย ประมาณ 0.25-0.5% ส่วนความผันผวนค่าเงินบาทนั้นหากมีการนำเข้าเครื่องจักรเพื่อลงทุนอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะช่วยคลี่คลายความผันผวนค่าเงินบาทได้ระดับหนึ่ง.
 
Create Date : 07 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 7 กรกฎาคม 2550 10:37:49 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1585 Pageviews. |
 |
|
|
| |
|
|
 |
 |
 |
 |
|
|