โดยทั่วไปผู้ป่วยเบาหวาน เรื่องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดนั้นสำคัญอย่างมาก เพราะการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้นั้น เท่ากับช่วยป้องกันและควบคุมอาการเบาหวานไม่ให้หนักขึ้นได้ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ทำการศึกษาวิจัยพบว่า มีพืชสมุนไพรไม่น้อยที่มีคุณสมบัติช่วยละระดับน้ำตาลในเลือด

1.ใบชะพลู(wild peper)

ใบชะพลูเป็นผักพื้นบ้านที่เชื่อกันว่า ช่วยย่อยอาหารและบำรุงธาตุได้ในขณะเดียว ในตำรับยาพื้นบ้านไทย ใบชะพลูสามารถนำมาต้มเพื่อแก้โรคเบาหวานได้ เนื่องจากมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์รวมแคลเซียม วิตามินเอ และซีสูงมาก

2.มะระขี้นก(bitter cucumber)

มะระขี้นก สมุนไพรเลื่องชื่อในด้านการลดน้ำตาลในเลือดได้อย่างดีเยี่ยม และเป็นที่รู้จักกันในหลายประเทศ นิยมนำมาทานเป็นผึกลวกจิ้มกับน้ำพริกหรือนำมาทานเป็นผักลวกจิ้มกับน้ำพริกหรือนำมาประกอบอาหารอื่นๆ การลวกก่อนรับประทานจะช่วยลดรสขม มีวิตามินเอและซีค่อนข้างสูง โดยมะระขี้นกจะออกฤทธิ์คล้ายกันกับอินซูลิน ช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ยับยั้งการสังเคราะห์กลูโคส

3.ใบเตยหอม(pandan)

ใบเตยหอมมีประวัติการใช้มาอย่างยาวนานและอยู่คู่อาหารคาวหวานคนไทย เตยหอมมีฤทธิ์ที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ และลดความดันโลหิต ลดอัตราการเต้นของหัวใจและช่วยขับปัสสาวะอีกด้วย

4.ใบกะเพรา(holy basil)

กะเพราะเป็นพืชสมุนไพรที่มีคุณค่าทางยามากประเภทหนึ่ง จากการศึกษาทางเภสัชวิทยาพบว่า กะเพรามีฤทธิ์ในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มีคุณสมบัติช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เซลล์ของตับอ่อนสามารถผลิตอินซูลินได้ดียิ่งขึ้น การรับประทานผงใบกะเพราวันละ 2.5 กรัม เป็นเวลา 4 สัปดาห์ จะสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้

5.ตำลึง(lvy gourd)

ผักพื้นบ้านที่หารับประทานได้ง่าย มีคุณค่าอาหารสูงมาก มีผลการศึกษาวิจัยยืนยันในด้านของการเป็นสมุนไพรลดระดับน้ำตาลในเลือด อุดมด้วยวิตามินเอและซีสูงมาก มีวิตามินบี2 ธาตุเหล็ก บำรุงเลือดและช่วยในเรื่องการะบายท้องเนื่องจากมีเส้นใยอาหารสูงด้วย

6.ว่านหางจระเข้(aloe)

จากการศึกษาวิจัยถึงคุณประโยชน์จากว่านหางจระเข้ ทั้งด้านยาและเครื่องสำอางพบว่า ทางยานั้นสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ทั้งจากการทดลองของสัตว์และคน ช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญในร่างกาย โดยรับประทานเนื้อว่านหางจระเข้วันละ 15 กรัม ติดต่อกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ จะเห็นผล

7.อบเชยจีน(chinese cinnamon)

หนึ่งในเครื่องเทศที่มีความสำคัญตั้งแต่เอเชียจนสู่ยุโรป มีการค้นพบสรรพคุณในอบเชย ซึ่งช่วยน้ำตาลในกระแสเลือดได้ เนื่องจากอบเชยมีสาร metylhydroxy chalone polymer(MHCP)ซึ่งทำให้เซลล์ของไขมันสามารถตอบสนองการทำงานในอินซูลินได้มากขึ้น ทำให้ระบบการทำงานของอินซูลินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยังมีฤทธิ์ซึ่งคล้ายกับอินซูลินที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือดลงได้ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ ลดไขมันร้าย LDL และลดคลอเลสเตอรอลให้มีปริมาณน้อยลงจากกระแสเลือด

ที่มา

นิตยสารชีวจิต