รัสเซีย 0 - สเปน 3 ความแตกต่างของทรัพยากรบุคคล
สเปนโชว์ฟอร์มม้วนเดียวจบ หมดจดจริงๆ ครับ ในฐานะที่แอบเชียร์มานาน ผมก็อดปลื้มใจด้วยไม่ได้ นี่ยังไม่นับว่า สเปนชุดนี้ เป็นกระทิงในคราบหงส์ตั้ง 4 คนเชียวนะ อิอิ เมื่อเป็นเช่นนี้ จะไม่ให้เอาใจช่วยได้อย่าง
รอบรองชนะเลิศคู่ที่สอง เป็นการพบกันของทีมจากสาย C ที่เจอกันในนัดแรกของรอบแรก โดยที่สเปนเอาชนะไปได้อย่างสวยหรู 4-1 โดยนัดนั้น ดาวิด บีย่า ซัดแฮตทริกได้สำเร็จ
ท่ามกลาง สายฝนโปรยปรายคล้ายกับนัดแรกรอบแรกที่เจอกัน เกมนี้ขรัวเฒ่า หลุยส์ อาราโกเนส ยังคงยืนหยัดใช้ชุดหลักที่เล่นเข้าขากันมาทั้งทัวร์นาเม้นต์ และก็เป็นชุดเดิมในนัดแรกที่เจอกันกับรัสเซีย แม้ว่าจะมีเสียงเชียร์ให้ เชส ฟาเบรกาสที่โชว์ฟอร์มได้ดีมาก ลงเป็นตัวจริงก็ตาม ดูจากผลงานที่ออกมาแล้วก็ต้องบอกว่า ปู่หลุยส์ ตัดสินใจไม่พลาด
ขณะที่ทีมหมีขางของ กุส ฮิสดิ้ง มีความแตกต่าง ในทางที่ดีขึ้น คือ ได้ อังเดร อาร์ชาวิน ที่กำลังโชว์ฟอร์มถ้าเป็นข้าวต้องเรียกว่า ขึ้นหม้อ มาบัญชาการเป็นจอมทัพหมีขาว หากจะบอกว่า เขานี่แหละคือ ทั้งหมดของรัสเซีย ก็คงไม่เกินไปนัก
ทุกนัดที่ลงสนามก็เหมาระวางแมนออฟเดอะแมตช์ด้วยฟอร์มการเล่นระดับเทพ 10 เต็ม หลังจากพ้นโทษแบนมา ทั้งสร้างสรรค์เกมและยิงประตูเอง ในนัดชนะ สวีเดน 2-0 และเกมกับทีมกังหันลม ก็เป็นเขานี่และที่ป่วนเกมรับของฮอลแลนด์จนกระทั่งมายิงประตูตอกฝาโลง 3-1 ในช่วงต่อเวลา ส่งอัศวินสีส้มจมน้ำตากลับบ้าน แล้วพาหมีขาวทยานมาพบกับกระทิงดุในนัดนี้
ทว่า การเป็นทุกๆ อย่างของรัสเซีย นัด ก็กลายเป็นจุดอ่อนสำคัญได้ในที่สุด
สเปนยังคงเล่นในสไตล์ที่ถนัด ต่อบอลแน่นอน เคาะกันจนแน่ใจแล้วจึงทะลุตามช่องเข้าไปสังหาร อย่างไรก็ตาม นับว่ากุส ฮิสดิ้ง ทำการบ้านมาดี โดยรับมือกับสเปนได้อย่างสูสี รูปเกมจึงผลัดกันรุกผลัดกันรับยังไม่มองไม่ออกว่าใครจะเข้าวิน
แต่ที่แน่ๆ ดาวิด บีย่า ฮีโร่จากนัดแรก และกองหน้าตัวความหวัง เข้าวินไปนั่งพักก่อนแล้ว เพราะบาดเจ็บ ทำให้ ปู่หลุยส์ ต้องแก้เกม แบบจำเป็น โดยส่ง เชส ฟาเบรกาส ลงมาสร้างสรรค์เกมตามสไตล์ที่ถนัด
ทว่าจนจบครึ่งแรกก็ยังไม่มีเหตุการณ์น่าตื่นเต้นเกิดขึ้น
เข้าสู่ครึ่งหลัง สเปน บุกแบบเน้นๆมากขึ้น แล้วก็ได้ประตูนำเร็วตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง จากการประสานงานของ คู่หูบาร์ซ่า อิเนียต้า เปิดบอลให้ ชาบี้ โฉบเข้าไปยิงประตูเบิกร่องอย่างสวยงาม ถือเป็นการปลดเปลื้องความกดดันให้กับทีมเต็งแชมป์ไปได้
ชาบี้ยิงประตูขึ้นนำ
เมื่อไร้ความกังวลใจ สบายเหมือนไม่ใส่อะไรเลย สเปนก็ครองบอลกันอย่างมันใจและเล่นง่ายขึ้นแต่รัสเซียก็ยังไม่สามารถกลับเข้าสู่เกมของตนได้ โดยที่ อาร์ชาวินนั้นหายไปจากเกม แทบไม่มีส่วนร่วมเลย
ดูเหมือนว่า ปู่หลุยส์ จะมั่นใจในเกมของตนแล้ว จึงส่ง ส่งตัวสำรองมาเป็นดับเบิ้ล เปลี่ยน ดาเนี่ยล กีซ่า มามายืนค้ำแดนหน้า แทน ตอร์เรส ที่ยังต้องหาฟอร์มสุดยอดของตัวเองต่อไป และ ชาบี้ มาแทนชาบี้ (อลอนโซ่ แทน เอร์นานเดส) เพื่อเน้นเกมรับมากขึ้น
ตอร์เรสพยายามแล้ว แต่ยังต้องหาฟอร์มให้เจอ
จะสังเกตว่า ปู่หลุยส์ เปลี่ยนตัวแบบเฉียบขาดมากเลยนะครับ แม้ว่า ชาบี้ เอร์นานเดส จะทำประตูแรกที่สำคัญได้ แต่เมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนแท็คติก ก็ไม่มีลังเล ผลของการเปลี่ยนตัวแสดงให้เห็นจาการทำชิ่งของฟาเบรกาส ข้ามแผงหลังมาให้กีซ่าลงไปยิงประตูย้ำความมั่นใจ และ เป็นฟาเบรกาสอีกครั้งที่ทะลุกราบซ้ายเปิดบอลเข้ากลางให้ ซิลบา ยิงประตู 3-0 จับหมีเข้ากรงส่งกลับมอสโค
ซิลบ้า ยิงประตูปิดท้าย
สิ่งที่แตกต่างระหว่างสองทีมที่เห็นได้ชัดเจนมากๆ คือ ทรัพยากรบุคคลครับ
ทีมรัสเซียของกุส ฮิสดิ้ง นั้น แม้จะเล่นด้วยระบบการเล่นที่แน่นอน เป็นแบบแผน บวกเข้ากับความสดของนักเตะรัสเวียที่ดูอายุเฉลี่ยแล้วน่ารักน่าลุ้นต่อไปอีก รวมทั้ง ประสบการณ์และกึ๋นของกุนซือ ทำให้รัสเซียผ่านรอบคัดเลือกตามโครเอเชียเข้ามาเล่นใน ยูโรรอบสุดท้ายได้
แต่ตัวการที่ทำให้หมีขาวเป็นที่น่าเกรงขามอยู่ได้ นั้นคือ ผู้เล่นหมายเลข 10 นัดไหนที่ขาด อาร์ชาวินไป หมีขาวก็แทบจะขาดใจ เรียกได้ว่า อาร์ชาวิน คือจิ๊กซอที่มาเติมเต็มแผนการเล่นของ กุส ฮิสดิ้งได้อย่างสมบูรณ์
ทว่า เมื่อจอมทัพเล่นไม่ออก ทีมก็เล่นไม่ออกไปด้วย นัดนี้เรไม่ได้เห็นใบหน้าแดงๆ ของเขาเท่าไหร่ จะเรียกว่า ฟอร์มตก หรือว่า ถูกนักเตะสเปนตามเป็นเงา ก็ไม่ทราบได้ แต่การขาดหายไปของเขาทั้งที่อยู่ในสนาม ก็ส่งผลต่อเกมของรัสเซียอย่างใหญ่หลวง
นักเตะคนอื่นๆ นั้นไม่สามารถทดแทนเขาได้ หากจะบอกว่า พากันฟอร์มตกทั้งทีม ก็คงเป็นการดูเบาแผนของปู่หลุยส์และพลพรรคกระทิงเกินไป
อาร์ชาวินเล่นไม่ออก
ตรงกันข้าม สเปนนั้น แม้ว่าจะยึดผู้เล่นตัวหลักชุดเดิมชุดเดียวไม่เปลี่ยนแปลง แต่เราก็เห็นความยืดหยุ่นของระบบการเล่น การทดแทนของผู้เล่นต่างๆ ในหลายนัดที่ผ่านมา เรียกว่า พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง เสมอ รวมทั้งการขาดหายไปของดาวิด บีย่า ปู่หลุยส์ ก็แก้เกมโดยปรับแผน มาเน้นคุมเกมแดนกลางมากขึ้น เมื่อต้องการกองหน้าที่แข็งแกร่งค้ำกองหลังได้ ก็ส่ง ดาเนี่ยล กีซ่า ลงมาแทน เฟร์นานโด ตอร์เรส
3 ตัวสำรองที่ทดแทนตัวจริงได้ดี
ครั้นเมื่อทีมนำแล้วต้องการปิดเกม ก็ส่ง ชาบี้ อลอนโซ่มา แทน ซาบี้ เอร์นานเดส ซึ่งก็ทดแทนกันได้เป็นอย่างดี
นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมทีมใหญ่จึงมีโอกาสประสบความสำเร็จในฟุตบอลระดับทัวร์นาเม้นต์ มากกว่า ทีมเล็ก
และคู่ชิงชนะเลิศ ยูโร 2008 ก็ได้คู่ชิงอย่างสมศักดิ์ศรี ระหว่างเจ้าสัตว์ปีก อินทรีเหล็กเยอรมัน และ สัตว์บกอย่างกระทิงดุสเปน
Create Date : 27 มิถุนายน 2551 |
|
8 comments |
Last Update : 27 มิถุนายน 2551 6:54:38 น. |
Counter : 467 Pageviews. |
|
|
ถือว่าทายถูกละกัน 55