<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
23 พฤษภาคม 2551

Moscow 2008 ดูบอลต่างประเทศครั้งแรก

อย่าเพิ่งคิดว่าผมไปดูนัดชิงชนะเลิศถ้วยพี่เบิ้มของยุโรปที่กรุงมอสโกนะครับ

ต้องขอออกตัวล้อฟรีก่อนว่า ไปเหมือนกัน นี่ถ้าไม่ติดว่า ทีมรักไม่เข้าชิง ก็ไม่แน่นะเนี่ย 555

ถือเป็นครั้งแรกในชีวิต (หวังว่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย) ที่ได้มาดูฟุตบอล ต่างบ้านต่างเมือง แม้ว่าจะยังคงดูจากจอสี่เหลี่ยมเหมือนกันอยู่ดี ตึง ! แต่สิ่งที่แตกต่างก็นอกจาก เส้นละติจูดและลองติจูดแล้ว ก็คือความรู้สึกของการอยู่เมืองนอก (เอาน่า ยังไงอัฟริกาก็ไม่ใช่เมืองในละกัน) และได้ดูบอลที่นี่
จึงอยากจะของบันทึกไว้เป็นหลักฐานให้กับชีวิตหน่อยครับ




ภาพการแสดงก่อนแข่ง นี่มันพิธีเปิดยูโร 2008 หรือป่าว





คืนนี้จะเชียร์ทีมไหนดี ?


เป็นคำถามจากพี่ที่ทำงานด้วยกัน เพราะความที่รับทราบว่าผมนั้นดูฟุตบอลเหมือนกัน ทีมรักก็อกหักไม่ได้เข้าชิง ดังนั้น จะเชียร์ทีมไหนจึงไม่น่าจะแตกต่างกัน ...

ใช่ครับ เชียร์ทีมไหนก็ไม่แตกต่าง ยังไงลิเวอร์พูลของผมก็ไม่มีเอี่ยวอยู่แล้ว


แต่แหมจะดูฟุตบอลทั้งที แถมเป็น แมตช์ final ซะด้วยแล้ว จะไม่หาทีมเป้าหมายในการ “ใส่อารมณ์” หน่อยหรือ
แล้วท่านทั้งหลายคิดว่าผมจะเชียร์ทีมอะไรครับ ระหว่าง...

ฝ่ายแดง – ทีมคู่แข่งตลอดกาลที่กำลังแย่งความเป็นหนึ่งในตองอู เอ๊ย ! อิงกะแลนด์ ด้วยการตีตื้นประวัติศาสตร์อันสวยงามในการเป็นแชมป์ลีกสูงสุด 18 สมัย ของ หงส์แดง หนำซ้ำยังทำท่าจะมาท้าทายถึงเวทียุโรปถึงขนาดจะมาทาบความยิ่งใหญ่ 5 สมัยอีกต่างหาก....
(ใครแซวว่าจมอยู่กับอดีตหอมหวาน ก็ยังดีว่า ลอยอยู่บนปัจจุบันอันเหม็นคลุ้งนะครับ อิอิ)


ฝ่ายน้ำเงิน – ทีม แมลง ไม่ใช่! มาแรง มากในไปกี่ปีหลัง ขนาดปลดผู้จัดการที่เก๊กที่สุดในโลกออกไปแล้ว (แต่ผมชอบนะ) ยังมีผลงานดีกว่าเดิม แถมยัง tive ทีมรักผมตกรอบไปอย่างต้องยอมรับแหละ ประกอบกับ เจ้าของเขาก็รวยเหลือเกินแถมยังทุ่มให้ทีมยังไม่บันยะบันยังอีก (ทำไมเจ้าของเราไม่เอามั่งหว่า)

ท้ายที่สุด ผมเลือกเชียร์ทีมหลัง ครับ....555

แต่มีเหตุผลที่ (แถ) เพิ่มไปจากเดิมก็คือการมี “จุดร่วม” ครับ

...อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น....

เมื่อมาอยู่ อัฟริกา บ้านนอกเมืองนา ของเขาแล้ว ก็ต้องเชียร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับอัฟริกามากที่สุดละครับ

ดรอกบาร์ เอสเซียง 2 คนนี้ชัวร์เลย
กาลู มาเกเลเล่ ก็พูดฝรั่งเศส (คนที่นี่ดูบอล ดูรักบี้ตามฝรั่งเศสครับ)



ฟุตบอลคู่ชิงที่มอสโกปีนี้ เตะตรงกับ 3 ทุ่ม 45 นาที ตามเวลาของมาดากัสการ์ จึงไม่ต้องถ่างตารอดู (ตีหนึ่ง45) และแหกขี้ตาตื่นมาทำงาน (บางทีไม่ได้นอน) เหมือนตอนที่อยู่บ้านเรา ซึ่งประมาณกาลแล้วน่าจะจบตอนเที่ยงคืน พอเตะจริงๆ กลับ ยืดเยื้อ...ก็ยิ่งทรมาน บีบคั้น...เมื่อเห็นเธอเปลี่ยนไป เพราะว่า ต่อเวลาอีกทีซิ แล้วก็เตะจุดโทษเอาให้สุดๆไปเลย

เกมทำท่าว่าจะจบแบบไม่ต้องลุ้น โดยทีมผีแดงครองเกมได้มากกว่า จังหวะจะโคนดูดีกว่า จนกระทั่งนาทีที่ 25 ความน่าประหลาดก็เกิดขึ้น
เมื่อ เวส “น้ำตาลตะวันตก” บราวน์ ! ทะลุไปเปิดบอลด้วย เท้าซ้าย ! ไปเข้าหัว “เจ้าหนู” (ห้ามผวน) โด้ ! ส่งลูกจากหัวหนีมือ เช็ก กระทบตาข่ายอย่างสวยงาม




น้ำตาลเปิด โด้โหม่ง




อะไรมันจะดูสมบูรณ์แบบไปซะหมด แม้จะแอบเชียร์เชลซีอยู่ลึกๆ แต่ก็อดยกแชมป์ให้ผีแดงไปแล้วไม่ได้
นัดชิงนี้ เหมือนถูกสร้างมาเพื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โดยเฉพาะ
ดาวซัลโวพรีเมียร์
นักเตะยอดเยี่ยม 3 สถาบัน
แถมด้วยดับเบิ้ลแชมป์ (พรีเมียร์และแชมป์กว่าแชมป์)

อะไรมันจะสมบูรณ์แบบปานนั้น โด้ เอ๋ย...

โชคยังดี ที่นิยายเรื่องนี้ ยังมี แอนตี้ไคลแมกซ์อยู่บ้าง ไม่งั้นคอซาดิสต์อย่างเราท่านคงจะรู้สึกเหมือนกินส้มตำไม่ใส่พริกขี้หนู

เมื่อลูกตีเสมอของ พี่แฟรงค์ แลมพาร์ด จากคววามผิดพลาดของ ริโอ มาเพิ่มความเผ็ดร้อนให้กับเกมยิ่งขึ้น





ประตูกู้สถานการณ์





ณ วินาที นั้น เหมือนว่า คนชี้เป็นชี้ตายของทั้งสองทีม ได้แก่ โรนัลโด้ และ แลมพาร์ด เท่านั้น
ทั้งคู่ต่างก็ทำผลงานได้ดี นู๋โด้เอง แทบไม่ต้องสงสัยเพราะพกสรรพคุณดังที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว
พี่แฟรงค์นี่สิน่ายกย่อง ในหัวจิตหัวใจของแกยิ่งนัก
แมตช์รอบตัดเชือกกับลิเวอร์พูล พี่แฟรงค์ เพิ่งเสียแม่ มาแต่ยังกล้ายิ่งจุดโทษ... (หลังจากนั้น..ละไว้ในฐานที่เข้าใจ)
แมตช์นี้พี่แฟรงค์ก็พาทีมกลับมามีลุ้นอีกครั้ง และโมเมนตัมของเกมก็เปลี่ยนไป
จากครึ่งแรก ผีแดงคุมเกมได้มากกว่า สิงห์น้ำเงินได้แต่สวนกลับแบบฉาบฉวย ทว่าหวาดเสียว

มาจนถึงครึ่งหลัง ผมเริ่มนึกถึงแมตช์ล่าสุดที่ทั้งคู่เจอกัน ซึ่งผลจบลงด้วยชัยชนะของเชลซี
อืม ... ถ้ามันจะเกิดขึ้นอีกสักทีก็ไม่น่าเกลียดนะเนี่ย
เพราะ เชลซีเล่นได้ดีบุกได้ต่อเนื่อง เสียอย่างเดียวจังหวะปิดเกมไม่เด็ดขาด ขณะที่เกมของแมนยู ก็ สั้น (ช็อต) ไปซะดื้อๆ ไม่รู้ว่า ไดร์เป่าผมในห้องแต่งตัวไม่ทำงานหรือไร 555

ที่จริงแล้ว เทอร์รี่ และ แลมพาร์ด น่าจะเป็นผู้ที่ได้ชูถ้วยหูยักษ์ ถ้าหากสามารถปิดเกมได้ จาก โอกาสทั้งในชั้นต้น(ในเกม) อุทธรณ์ (ต่อเวลา) และฎีกา (ดวลจุดโทษ) ทว่า พวกเขาโดนเสา คาน และสนามลื่นปฏิเสธโอกาสนั้นไป

ครึ่งหลังเกมเป็นของเชลซีอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่เด็ดขาดพอ ส่วนแมนยู ก็เก๋าพอที่จะสวนกลับเอาคืนและยื้อจนกระทั่งไปต่อเวลา
ช่วงนี้ ผมคิดว่าโอกาสจะยืดเยื้อจนถึง เตะโทษมีสูง เพราะ แต่ฝ่ายเริ่มโดนตะคริวถามหากันแล้ว เกมพักอยู่บ่อยๆ เพราะนักเตะเมื่อยหลังลงไปนอนยกขา 555 ซึ่งคงไม่สามารถบี้เอาชนะในช่วงนี้ได้ ไปวัดใจกันตอนเตะจุดโทษดีกว่า
และก็เป็นไปอย่างที่คิดครับ จบสกอร์ในเวลาต่อเวลาที่ 1-1 ใบเหลืองเท่ากัน คือ ทีมละ 4 แต่เชลซีชนะที่ใบแดงของ ดรอกบา (ที่ได้มาอย่างชาญฉลาดและทุ่มเทได้อีก)




ไม่เข็ดซะที





อย่างที่บอกไปแล้ว ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับทั้ง 2 ทีม แต่ก็อดที่จะลุ้น ส่งเสียง อื้อฮือ โอ้โฮ้ ไปด้วยไม่ได้ครับ
เสียงนั้นค่อนข้างจะดังเป็นพิเศษ เมื่อ ผู้เล่นชุดแดงหมายเลข 7 เตะเป็นคนที่ 5 ของเกม คนที่ 3 ของแมนยู โชว์จังหวะยึกยัก อย่างที่เคยทำกันมาก แล้วก็ไม่เข้าทางของผู้รักษาประตูที่สวมชุดทำร้ายสายตาอย่างยิ่ง

วินาทีนั้น เหมือนโรนัลโด้จะไม่สมหวังกับแชมป์นี้ซะแล้ว อุตส่าห์ทำดีมาทั้งฤดูกาล ทำประตูขึ้นนำในเกม แต่ดันเตะจุดโทษพลาดเพราะ มัวแต่ ยึกยักเธอนั่นแหละที่ยักยัก สงสัยจะฟังเพลง แหวน ธิติมา มากไปหน่อย 555

พี่แฟรงค์ ก็มาย้ำคววามมั่นใจให้เหล่าสิงห์บลู ขึ้นนำและทำท่าว่าจะมอบของขวัญเป็นโทรฟรีหูยักษ์ให้มารดาผู้ล่วงลับไปได้ถ้าเพียงแต่....เท้าซ้ายอยู่เทอร์รี่อยู่กับที่กับทาง










เทอร์รี่มีโอกาสประกาศชัยชนะท่ามกลางสภาพอากาศของสายฝน หมายความว่า เชลซีสามารถเป็นแชมป์ได้ทันที ที่ลูกยิงของเขาสู่กเนตาข่าย แต่จะด้วยเพราะฝนตก สนามลื่น กดดัน หรือว่า ร่างกายล้าก็ตาม มันก็เป็นเหตุให้เทอร์รี่ต้องร้องไห้อย่างไม่อายใครหลังการดวลเป้าจบลง

โดยไม่มีใครจะนึกถึง ผู้เล่นหมายเลข 39เลย

ยิ่งฝ่ายแมนยูยิ่งไม่ต้องพูดถึง โรนัลโด้ โล่งอก เหมือนยกอกออกจากภูเขา และต้องขอบคุณ พี่ยีราฟ ฟานเดอร์ซาร์อย่างใหญ่หลวง มันเหมือนหนังดังที่หักมุม แล้วหักมุมอีก แต่สุดท้ายเพราะเทพีแห่งโชคเป็นชาวเมืองแมนเชสเตอร์ (ที่ไม่ได้เชียร์ ซิตี้ อิอิ) เป็นคนเขียนบทและกำกับ มิใช่ชาวลอนดอนแต่อย่างใด



ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับ พลพรรคแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยครับ ผลงานฤดูกาลนี้ ต่อให้ผมเชียร์ทีมที่ยังคงครองตำแหน่งแชมป์ลีกสูงสุด ผมก็ยังต้องยอมรับว่า ตารางอันดับ ไม่เคยโกหกใคร แชมป์ทั้ง 2 ที่ได้มา ไม่ใช่มันพิสูจน์ให้เห็นถึงหัวจิตหัวใจและความเก๋าอยู่แล้วในตัวของมันเอง


ส่วนสำหรับ "ดับเบิ้ลรองแชมป์" ขอแสดงคววามเสียใจและเสียดายด้วย
โอกาสมันมักจะโบยบินไปเสมอ ถ้าหากทีมไม่แตก ชุดนี้ก็ยังสามารถลุ้นแชมป์ได้อีก



2 ขุนพลสำคัญที่น่ายกย่อง




Create Date : 23 พฤษภาคม 2551
Last Update : 23 พฤษภาคม 2551 20:13:50 น. 14 comments
Counter : 973 Pageviews.  

 
ปัดฝุ่นหน่อย ยาวเลย 555


โดย: Nutty Professor วันที่: 23 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:50:26 น.  

 
เชลซีเป็น ทริปเปิ้ลรองแชมป์ ตะหาก

แต่สงสาร JT จริงๆนะ ทำเอาปอยดีใจได้ไม่สุดเลยอ่ะ
ประทับใจกับ JT มากกกก ได้ใจจริงๆ

แต่ก็ดีใจมากๆกับแมนยู รอคอยมานานหลายปี อิอิ

มาดากัสการ์เป็นไงมั่งคะ?


โดย: อะ-โล-ฮ่า วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:34:09 น.  

 
พี่ท่าน เนื่องจากหงส์ไม่มีเอี่ยว
จึงไม่มีความเห็น

เรื่องที่ไปเม้นต์ไว้ พี่ท่านกล่าวถูกแล้ว
ถ้าเริ่มต้น แล้วจะถึงได้อย่างไร


โดย: rebel IP: 125.24.122.42 วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:16:44 น.  

 
สงสารหอยง่ะ


โดย: BBwindy IP: 125.25.146.245 วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:47:34 น.  

 
"น้องท่าน ขอแก้ข้อความที่เม้นไว้นิดนึง

ถ้าเริ่มต้น แล้วจะถึงได้อย่างไร



น่าจะเป็น

ถ้าไม่เริ่มต้น แล้วจะถึงได้อย่างไร


ใช่หรือป่าว


โดย: Nutty Professor 25 พฤษภาคม 2551 0:14:27 น."

ง่ะพิมพ์ตก


โดย: ศิษย์น้อง IP: 125.24.120.193 วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:31:08 น.  

 
คืนนั้นตอน โรนัลโด้ ยิงลูกโทษไม่เข้า
ผมนี่ออกอาการ ลิงเข้าร่างเลย ... สะใจอย่างแรง

การกระทำยึกยักอย่างนั้น แม้ไม่ผิดกติกา แต่ผมคิดว่า "มันดูไม่แมน" อย่างมากเลยนะครับ แพ้ชนะก็ว่ากันที่ฝีเท้าซิ ทำเอาต้องชั้นเชิงเล่ห์ทักษิณมาหลอกล่อคู่ต่อสู้ด้วย

สงสัยวันนั้น นายทวารของเชลซี คงเคยได้อ่านหนังสือ "รู้ทันทักษิณ"
ก็เลยไม่หลงกลพุ่งไปก่อนที่ โรนัลโด้ จะยิง

แต่ก็อย่างงว่าแหละครับ วันนั้นนับว่าเป็นวันของผีจริงๆ
ขนาดจะส่งลงหลุมอยู่มะรมมะล่ออยู่แร้ว ยังผุดขึ้นมาชูถ้วยได้อีก

ผมยังอดคิดไม่ได้เลย ว่า ถ้าวันนั้น ผีไม่ได้แชมป์
เจ้า โรนัลโด้ น่านแหละ ที่ทั้งลงหลุม ทั้งตกนรกทั้งเป็น


โดย: merf1970 วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:50:40 น.  

 
ตามมาดูรูป ยังไม่มีอ่ะ

ดูรูปนักบอลไปก่อน


โดย: ตะเกียงแก้ว วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:05:17 น.  

 
ไม่แปลกใจเล้ยที่เลือกเชียร์คู่หลัง
เพราะเด็กหงส์ย่อมเข้าข้างฝ่ายที่เป็นศัตรูกะผีเสมอ 555

-- เก๊าะเห็นด้วยที่แมทนี้สร้างมาเพื่อโด้
เพราะถ้าเกิดเฮีย JT ส่องเข้าไป ชื่อของนังโด้จะเป็นที่จดจำของเด็กผีไปอีกนานเลยทีเดียว

=)


โดย: hunjang วันที่: 26 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:10:30 น.  

 
มาอ่านแระ

แน่นอนสิ หงส์ย่อมเชียร์เชลซี

ปืน ก็เชียร์เชลซี

ใครๆ ที่ไม่ใช่แมนยู ย่อมเชียร์เชลซี




ยังยืนยันว่า หมั่นไส้โด้ และเห็นควรว่าอาการยึกยักจนทำให้ยิงไม่เข้านั้น สมควรแล้ว และหวังว่าจะได้บทเรียนซะที



และยังยืนยันว่าสงสารเทอรี่มากมายฟร่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 26 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:47:36 น.  

 
สวัสดีอีกรอบ

อ่า..เหตุผลฟังขึ้น พอฟังได้

ยอมก็ได้


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 27 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:57:03 น.  

 
ขากลับฝากซื้อถุงย่ามพื้นเมืองของมาดาหน่อยจิ
(เค้ามีกันป่าวฟะ 555)

ฝากซื้อนะ ไม่ได้ซื้อฝาก....แบบว่านิสัยดีขี้เกรงใจ
อ่อ งบห้ามเกิน 200

=)


โดย: hunjang วันที่: 28 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:53:01 น.  

 
เจอท่านรมต.เกษตรรึเปล่า
เห็นว่าท่านก็ไปชมดูด้วย



โดย: keyzer วันที่: 28 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:00:00 น.  

 
ดูหลังไมค์โด้ยยยย

=)


โดย: hunjang วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:03:25 น.  

 
โห่
มาดากัสการ์เป็นเกาะ
ไม่รู้เล๊ยยยยยย
เหอๆ
เอาลึกๆกว่านี้หน่อยสิค๊าบ


โดย: อะ-โล-ฮ่า วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:41:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nutty Professor
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Madagascar : The Island of Opportunity
[Add Nutty Professor's blog to your web]