13th/UCL.G group 2nd : ลิเวอร์พูล 0-0 เชลซี
Uefa Champions League : Group G นัดที่ 2
ลิเวอร์พูล 0-0 เชลซี
สนาม : แอนฟิลด์
ประตู : -
เกมรีแมตช์ของสองทีมดังจากอังกฤษ ระหว่าง "หงส์แดง" และ "สิงโตพันล้าน" จบลงด้วยการเสมอกันไปแบบไม่มีประตูอีกครั้ง หลังจากที่เล่นกันได้อย่างสูสีตลอดทั้งเกม
นัดนี้เจ้าถิ่นลงสนามด้วยขุนพลชุดใหญ่โดยมีการปรับทีมเล็กน้อยด้วยการส่งฌิบริล ซิสเซ่ ลงมายืนประจำการทางกราบขวา เช่นเดียวกับฌิมี่ ตราโอเร่ และสตีฟ ฟินแนน ได้กลับมายืนแบ็กซ้ายขวาตัวจริง
ด้านเชลซี เกมนี้ไม่มีอาเซียร์ เดล ออร์โน่ ที่ฟิตไม่ทันทำให้วิลเลี่ยม กัลล่าส์ ต้องกลับไปยืนแบ็กซ้ายตามเดิมและให้ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ยืนคู่จอห์น เทอร์รี่ ต่อไป ส่วนหัวหอกตัวเป้าเป็นของดิดิเยร์ ดร็อกบา โดยมีเฮอร์นัน เครสโป ที่เคยยิงลิเวอร์พูล 2 ประตูในเกมรอบชิงชนะเลิศซีซั่นก่อนเป็นตัวสำรอง
เกมเปิดฉากมาด้วยความรัดกุมทั้งสองทีม ไม่มีฝ่ายใดต่อบอลเข้าทำได้ชัดเจนแต่ทางด้านเชลซี ที่ดูดีกว่าเล็กน้อยในช่วงต้นได้มีโอกาสทักทายก่อนจากลูกฟรีคิกระยะ 25 หลาของแฟรงค์ แลมพาร์ด ที่กดเรียดให้เรน่า ต้องพุ่งสุดตัวปัดออกไป
หลังจากนั้นเกมเริ่มกลับมาเป็นของทางลิเวอร์พูล ที่เน้นการต่อบอลเร็วสามารถกดดันแนวรับเชลซี ได้พอสมควรแต่แนวรับทีมเยือนก็ยังต้านทานเอาไว้ได้หมด
เชลซี ลงไปเน้นเกมรับอยู่พักใหญ่ก็เริ่มค่อยๆกลับมาเป็นฝ่ายรุกบ้างและมีโอกาสที่ชัดเจนอีกครั้งเมื่อร็อบเบน ได้หลุดไปโยกหลอกฮูเปีย ก่อนตัดเข้ากลางมาซัดด้วยซ้ายเน้นๆแต่เรน่า ยังพุ่งปัดออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่จะเล่นกันอย่างสูสีจนกระทั่งจบครึ่งเวลาแรก
ครึ่งหลัง เกมยังดำเนินไปในลักษณะเดิมโดยไม่มีฝ่ายใดเหนือกว่าอย่างชัดเจนเนื่องจากเกมรับยังรัดกุมทั้งคู่ แต่ลิเวอร์พูล ก็เกือบได้จุดโทษจากจังหวะที่คาราเกอร์โหม่งลูกเตะมุมของเจอร์ราร์ด ไปถูกกัลล่าส์ ที่ยื่นแขนไปปัดบอลแต่ผู้ตัดสินไม่เป่าให้เป็นลูกจุดโทษ
จากนั้นเกมเริ่มเร็วและแรงขึ้นตามลำดับโดยเชลซี โดนใบเหลือง 2 ใบติดๆกัน ขณะที่เจ้าถิ่นก็เริ่มทำกดดันได้มากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะจากลูกตั้งเตะทำให้มูรินโญ่ ต้องส่งฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ลงมาเลื้อยแทนร็อบเบน ที่เล่นไม่ออก
ลิเวอร์พูล ครองบอลแทบจะข้างเดียวแต่บอลสุดท้ายยังสะเปะสะปะพลาดง่ายๆ และยังเกือบแจกของขวัญให้ทีมเยือนอีกด้วยเมื่อคาร์ราเกอร์ ไม่รู้กันกับฮูเปีย ออกมาแย่งกันโหม่งทำให้ลูกกระฉอกไปเกือบเข้าทางดัฟฟ์ แต่เรน่า ยังไวออกมาพุ่งใช้มือปัดบอลออกไปได้ทันเวลา
เข้าสู่ช่วงท้ายเกมเชลซี เริ่มจะโต้ตอบกลับมาบ้างโดยได้ฟรีคิกระยะอันตรายแต่แลมพาร์ด ยังซัดไปติดกำแพง ขณะที่เจ้าถิ่นมาได้ฟรีคิกคืนในช่วงทดเวลาบาดเจ็บแต่เจอร์ราร์ด ก็ยิงออกไปไม่ได้ลุ้นก่อนที่จะจบเกมด้วยการเสมอกันไปแบบโนสกอร์
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ มานูเอล เรน่า ,สตีฟ ฟินแนน ,เจมี่ คาร์ราเกอร์ ,ซามี่ ฮูเปีย ,ฌิมี่ ตราโอเร่ ,ดีทมาร์ ฮามันน์ ,ชาบี้ อลอนโซ่ ,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ,หลุยส์ การ์เซีย ,ฌิบริล ซิสเซ่ (ฟลอร็องต์ ซินาม่า ปงโกลล์ น.7 ,ปีเตอร์ เคราช์
ใบเหลือง : อลอนโซ่ น.8
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก ,เปาโล แฟร์เรร่า ,จอห์น เทอร์รี่ ,ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ,วิลเลี่ยม กัลล่าส์ ,โคล้ด มาเกเลเล่ ,มิกาเอล เอสเซียง ,แฟรงค์ แลมพาร์ด ,อาร์เยน ร็อบเบน (ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ น.65) ,เดเมี่ยน ดัฟฟ์ (เฮอร์นัน เครสโป น.75) ,ดิดิเยร์ ดร็อกบา (โรเบิร์ต ฮูธ น.90)
ใบเหลือง : มาเกเลเล่ น.25 ,ร็อบเบน น.60 ,แลมพาร์ด น.62 ,เทอร์รี่ น.89
ผู้ตัดสิน : มานูเอล เดอ ซานติส (อิตาลี)
เบื้องหลังเกม
ราฟาบ่นเปาตาบอดไม่ให้จุดโทษ เอ๋อหงุดหงิดเจอปล้นชัยตลอด
น้ามูไม่แฮปปี้แต่ก็พอรับได้ บอกหงส์ก็โยนยาวเหมือนกัน
ที่มา : //www.soccersuck.com/
Create Date : 29 กันยายน 2548 |
Last Update : 29 กันยายน 2548 14:41:10 น. |
|
29 comments
|
Counter : 525 Pageviews. |
|
|
|
|
แม้ว่าเกมจะออกมา สอง ศูนย์ แต่สกอร์ก็น่าจะเป็น 2-0 ด้วยซ้ำ ถ้า มร.มานูเอล เดอ ซานติส ไม่ทำหูตาตกที่นากับไร่ซะก่อน (จังหวะดร็อกบาเสียบฮูเปียคว่ำ กับ กัลลาส์เจตนาแฮนด์บอล)
อย่างไรก็ตาม สุดสัปดาห์นี้ก็ต้องมาดวลกันอีก ที่เก่า เวลาใหม่