BKK - TRAT :: สีสันตะวันออก ณ หมู่บ้านชาวประมงเกาะกูด
ตอนที่แล้วเล่าถึง อาหารมื้อค่ำของปีเตอร์แพนรีสอร์ท กันไปแล้ว สำหรับเช้าวันที่สองของการเดินทาง พวกเราแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกขอนั่งชิวๆ ชมบรรยากาศที่รีสอร์ท กับอีกกลุ่มหนึ่งขอไปชมวิถีชาวบ้าน ณ หมู่บ้านชาวประมง พี่ๆ ททท. ก็จัดให้

 เอาล่ะสมาชิกกลุ่มสองเรานัดกันไว้ประมาณเก้าโมง เมื่อสมาชิกพร้อมก็ไปกันเลย พวกเราเดินทางโดยใช้รถกระบะ จขบ. ได้นั่งข้างหน้ากับพี่ๆ ททท. โชคดีมากๆ เพราะตลอดการเดินทางเราได้สนทนากับพี่คนขับรถคนในพื้นที่เกาะกูดแห่งนี้ แกเล่าให้ฟังว่า "ผู้คนบนเกาะนี้ใช้ชีวิตแบบเรียบๆ มีคนบนเกาะนี้ประมาณพันคน ที่นี่มีพร้อมสรรพไม่ว่าจะเป็นร้านค้าเล็กๆ แต่มีทุกอย่างไม่ต้องพึ่งพาเซเว่น ร้านตัดผมที่ตัดได้ทุกทรงอยากได้ทรงไหนบอก แต่ไม่ตัดใครอยากตัดต้องตามใจช่าง มีโรงไฟฟ้า โรงพยาบาล สนามกีฬา ถือเป็นชุมชนที่น่าอยู่ที่เดียว
สำหรับหมู่บ้านชาวประมงนั้นอยู่ห่างจากรีสอร์ทไปประมาณ ๑๓ กิโลเมตร ขับรถไปตามทางเรื่อยๆ ไปจนถึงอ่าวสลัดนั่นแหละ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์เที่ยวรอบเกาะได้สบายๆ แต่ก็ระวังเส้นทางกันนิดหนึ่งเพราะบางช่วงน่ากลัวเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน




 ไม่นานนักเราก็มาถึงหมู่บ้านชาวประมงแล้ว แต่ดูเหมือนวันนี้ฟ้าฝนไม่เป็นใจเลยล่ะ เพราะฟ้าครึ้มมืดมาเชียว เอานะมากันแล้วเดินไปเที่ยวเลยแล้วกัน


 ที่นี่นิยมทำกุ้งแห้งแฮะ ดูเหมือนเป็นสินค้าโอท็อปเลยก็ว่าได้ เดินมานิดนึ่งพี่ๆ เค้าก้มดูอะไรกันหว่า โห ปูในกระชังขอบอกว่าตัวใหญ่มาก เค้าขายกิโลละ ๓๐๐ บาท สำหรับไซส์นี้เราว่า กรุงเทพฯ ต้องมีประมาณ ๕๐๐ บาทล่ะ เห็นเจ้าหน้าที่บอกว่า ปูที่เรากินกันเมื่อคืน ก็เอามาจากที่นี่แหละ



 พวกเราเดินตามทางปูนมาเรื่อยๆ จนมาเจอพี่คนหนึ่งนั่งแกะปูอยู่ เข้าไปดูกันใกล้ๆ ก้มดูในถังใส่ปูพี่เค้า มีปูอยู่หลายสายพันธุ์เชียว เข้าทางพี่รุตแกเลย อาสาสมัครผู้กล้า เข้าไปหยิบปูขึ้นมาให้พวกเราได้ถ่ายรูปกันชัดๆ รูปร่างประหลาดอย่างที่เห็น ไม่น่าเชื่อว่ามันจะทานได้ด้วยล่ะ


 เดินต่อมากันเรื่อยๆ ก็จะเห็นชีวิตชาวประมงที่อาศัยทำมาหากินกันอยู่ริมทะเลแห่งนี้ เปาะแปะ เอ้าแล้วกันฝนตกงานเข้า เบี่ยงเข้าหลบฝนกันก่อนแล้วกัน ว่าแต่กลุ่มนี้เค้ามุงดูอะไรกันอยู่นะ

 ดูปลาที่เค้าขังไว้ในกระชังนั่นเอง พี่รุต (คนเดิม) พรีเซ็นอะไรให้น้องๆ ได้ดูกันอีกแล้ว แกโยนปลาตัวเล็กลงไป กรี๊ด.. แม่เจ้าปลากินกันอย่างหิวโหย เหมือนไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้วประมาณนั้น ไม่อยากคิดภาพถ้าตกลงไปล่ะอะไรจะเกิดขึ้น หึๆๆ ไปดีกว่าเรา


 พวกเราเดินย้อนกลับมาแล้ว เดินไปยังอีกฝั่งของหมู่บ้าน ท้ายสุดที่นี่เป็นโฮมสเตย์ล่ะ ราคาไม่แพงมีบริการตกหมึกด้วยอ่ะ ดูรูปแล้วน่าสนุกจัง ห้องพักคืนละ ๔๐๐ สำหรับสองคน และ ๑,๒๐๐ บาทสำหรับหกคน


 ที่นี่สามารถให้อาหารปลาในกระชังได้ด้วยนะ แต่ดูเหมือนจะมีคนมาให้เยอะแล้วมั้ง โยนลงไปเงียบกริปเชียว ไม่เหมือนกระชังเมื่อกี้ น่ากลัวมากกก

 เดินผ่านมาเห็นป้ายนี้ดีจัง ชุมชนจะน่าอยู่ก็ต้องอาศัยทุกคนร่วมมือกัน ทั้งชาวบ้านและพวกเราเหล่านักท่องเที่ยว เพือที่จะได้มีสถานที่สวยๆ แบบนี้ให้รุ่นหลังๆ ได้เที่ยวกันอีกนานๆ สังเกตุได้ว่าที่นี่มีถังขยะตั้งเป็นระยะเลยล่ะ
 ตอนขามาแอบเห็นพระใหญ่แว่บๆ เลยเดินขึ้นเขาไปชม โห องค์ใหญ่จัง อยู่ภายในวัดตรงข้ามหมู่บ้านชาวประมง ตรงนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยเชียวล่ะ
 พอดูวิวเสร็จก็ลงกลับมาทางเดิม รอขึ้นรถกลับที่พัก ระหว่างที่รอก็หาซื้อของฝากจากหมู่บ้านชาวประมง พวกของทะเลแห้ง น้ำพริก กะปี ราคาไม่แพงเลยล่ะ จากนั้นก็นั่งรถกลับที่พัก .. ระหว่างนี้ยังไม่ถึงเวลาอาหารเที่ยง จขบ. ก็ขอเวลาชิวๆ เดินถ่ายรูปเล่นหน้ารีสอร์ทก่อนนะคะ



ที่นี่เหมาะสำหรับมาพักผ่อนเดินเล่นชิวๆ จังอ่ะ เพราะมันเงียบสงบดีจัง เอาล่ะเดินไปเดินมาก็ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี จากนั้นต่อด้วยโปรแกรมดำน้ำดูประการัง ณ เกาะรังจ้า ไว้มาต่อกันตอนต่อไปนะคะ
Photo and Story By Patthanid C. www.patthanid.bloggang.com Facebook : patthanidfc
Create Date : 18 พฤษภาคม 2554 |
|
7 comments |
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2556 22:32:31 น. |
Counter : 5568 Pageviews. |
|
 |
|