BKK - KOHCHANG :: ช้างบุรีรีสอร์ทแอนด์สปา ณ เกาะช้าง
ตามสัญญาจากตอนที่แล้วบอกไว้ว่าจะรีวิวที่พักแบบหนึ่งตอนเต็มๆ การเดินทางของพวกเราทริปนี้ เลือกพักที่ "ช้างบุรีรีสอร์ทแอนด์สปา" เหตุผลที่เลือกที่นี่คือดูรูปที่พักจากเว็บไซต์ประกอบกับคำนวณราคาเพื่อทำการตัดสินใจ ราคาสมเหตุสมผล ฟันธงเอาที่นี่ล่ะ โดยราคาห้องละ ๑,๖๐๐ บาท บวกเตียงเสริมอีกห้องล่ะ ๕๐๐ บาท ก็รวมเป็น ๒,๑๐๐ บาทหารกันสามคนตกค่าที่พักคนละ ๗๐๐ บาทล่ะ



เรามาดูห้องพักกันเลยดีกว่า จริงๆ แล้วที่นี่มีหลายราคาห้องที่พวกเราพักถูกที่สุดแล้ว โดยพักบริเวณฝั่งที่ไม่ติดกับทะเล ตามเราเข้ามาดูห้องนอนกันเลยดีกว่า


พวกเราจองห้องไว้สามห้อง ห้องแต่ละห้องก็มีเตียงแตกต่างกันโดยมีทั้งเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ สะระสำคัญอยู่ที่เตียงเสริมด้วยความที่เราวางแผนพักห้องละสามคนต้องขอเตียงเสริม

ซึ่งเตียงเสริมของที่นี่ก็ถือว่าโอเคเลยทีเดียว ทำให้ไม่ต้องสงสารคนนอนเตียงเสริมมากนักเพราะเหมือนกับเตียงปกติล่ะ เพราะเคยเจอบางทีเอาเตียงเสริมแบบบางมาให้

ส่วนอุปกรณ์ที่นี่ก็มีตู้เย็น ทีวี และตู้เซฟซึ่งต้องบอกว่าเอาเข้าจริงๆ ไม่กล้าใช้สักที เพราะกลัวจำรหัสไม่ได้นั่นแหละปัญหาใหญ่เลยล่ะ ต้องเดือนร้อนเจ้าหน้าที่เค้าอีก

ห้องน้ำที่นี่เค้าออกแบบโดยใช้ประตูกระจกกั้นห้องอาบน้ำ ก็เข้าท่าดีและอุปกรณ์ในห้องน้ำเค้าก็ทำขวดใส่แชมพูกับครีมอาบน้ำสวยดี ส่วนด้านนอกก็จะมีระเบียงให้นั่งชมวิวสระว่ายน้ำด้วยล่ะ แต่ละมุมก็ถูกใจผู้มาพักที่ชื่นชอบการถ่ายรูปแบบพวกเรามากๆ


นอกจากนี้ด้านล่างยังมีเรือนไทย คาดว่าสำหรับแขกชาวต่างชาติมากกว่า ดูเหมือนสถานที่สำหรับจัดเลี้ยงอะไรทำนองนี้ล่ะ ซึ่งแน่นอนมันเหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง



ด้านในโรงแรมก็มีตู้โชว์ของเก่าและมีงานไม้แกะสลักส่วนใหญ่เน้นรูปช้างล่ะ ก็อย่างว่าแหละเค้าชื่อ "ช้างบุรีรีสอร์ทแอนด์สปา" นี่น่า

เอาล่ะข้ามฝั่งมาดูรีสอร์ทฝั่งทะเลกันบ้าง ซึ่งต้องบอกว่า "สวย" มากๆ แต่ก็อย่างว่าล่ะนะความสวยมักจะมาพร้อมราคาที่แพงตามมาด้วย ฝั่งนี้ราคาค่าห้องต่อคืนเริ่มต้นที่ ๖,๐๐๐ บาท นี่แค่เริ่มต้นนะจ๊ะ

จากป้ายด้านหน้าเดินเข้ามาจะเจอร้านกาแฟที่เค้ามีสามล้อคันหนึ่งจอดโชว์อยู่ และแน่นอนมันจึงกลายเป็นอีกหนึ่งมุมยอดฮิตที่เปิดกล้องใครก็เจอสามล้อขวัญใจคันนี้ล่ะ

จากนั้นก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ ก็จะพบกับบันไดทางลงไปสู่รีสอร์ทฝั่งทะเล ซึ่งพอเห็นแล้ว อยากจะเก็บของเปลี่ยนห้องโดยทันใด เพราะฝั่งนี้สวยมากก็สมราคาเค้านั้นล่ะ


ฝั่งทะเลรีสอร์ทจะเป็นหลังๆ โดยด้านหน้าจะมีสระน้ำให้ลงเล่น โดยสระจะเชื่อมกับสระใหญ่ที่อยู่ติดทะเลล่ะ อำนวยความสะดวกกันถึงหน้าบ้านเลยล่ะ




จากสระน้ำใหญ่ลงไป ด้านหน้าก็จะเป็นทะเลลักษณะเป็นโขดหิน ไม่ใช่หาดทรายเหมือนปกติ ตรงนี้จึงเหมาะสำหรับให้นักท่องเที่ยวอาบแดดเสียมากกว่า หากแดดแรงๆ นะ รับรองว่ามุมนี้นอนแป๊บเดียวดำแน่ๆ เลยล่ะ



ฝั่งทะเลกับฝั่งภูเขาช่างมีความแตกต่างคนละอารมณ์เลยล่ะ เสียดายนะเนี่ยที่เมื่อวานไม่ได้มาเล่นน้ำฝั่งนี้ ไม่งั้นน่าจะสนุกกว่านี้ล่ะ แต่จะว่าไปแล้วก็ถือว่าเป็นโชคดีของแขกด้วยล่ะ เพราะถ้าพวกเราลงเล่นกันจริงๆ มีหวังเสียงดังสระแตกกันพอดี



ทริปนี้ช่างเป็นโชคดีที่พวกเรามีน้องคนหนึ่งกำลังศึกษาเรื่องกล้อง ความโชคดีจึงตกอยู่กับผู้ร่วมทริป แต่ตอนตั้งกล้องตรงสระน้ำเล่นเอาลุ้นแทบแย่ ที่ลุ้นไม่ใช่อะไรหรอก กลัวกล้องน้องมันตก ไม่อยากเห็นเด็กนั่งร้องไห้เสียดายกล้องเท่านั้นล่ะ



ส่วนรูปนี้ได้มาโดยบังเอิญที่พอถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว ตากล้องเห็นว่าลุกจังหวะพอดีจึงกดมาหนึ่งแชะ ทำให้เพื่อนๆ หลายคนชอบรูปนี้จัง และทริปนี้เราก็มีกระโดดกับเค้าด้วยนะ


เนื่องจากทริปนี้มีคู่รักมากันสามคู่ ไม่ต้องบอกว่าหวานกันซะขนาดไหน โดยเฉพาะสองคู่ที่กำลังจะเข้าสู่ประตูวิวาห์ สวีทวี่วีกันสุดๆ ส่วนคนที่ไม่มีคู่ก็แอบยืมคู่คนอื่นนั่นแหละถ่ายรูปทำเนียนๆ


ตอนแรกพวกเราตั้งใจว่าจะไปน้ำตก แต่พอมาถ่ายรูปชนิดว่าถ่ายทุกมุมปาเข้าไปเกือบสามชั่วโมง โปรเจคน้ำตกจึงต้องล่มไปโดยปริยาย ประกอบกับฝนจะตกแล้วล่ะ คงต้องเตรียมตัวกลับกันเลย
Create Date : 27 พฤษภาคม 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 18 สิงหาคม 2556 0:28:46 น. |
Counter : 12871 Pageviews. |
|
 |
|