อาการท้องผูกในสุนัขเกิดจากอะไร และป้องกันอย่างไร อาการท้องผูกในสุนัขเกิดจากอะไร และป้องกันอย่างไร คัดลอกมาจาก //www.nestle.co.th/dogloverzone/vet_talk/talk_07_sep.html หากคนเรามีปัญหาท้องผูกคงไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือเรื่องแปลก เพราะเป็นธรรมดาที่อาจเกิดกับใครก็ได้ ซึ่งเป็นอาการบ่งบอกภาวะร่างกายที่ไม่สมดุลบางอย่างเกิดขึ้น เช่นเดียวกับสุนัขสามารถมีอาการท้องผูกได้เหมือนกัน สพ.ญ.เกิดกันยา โภคาพานิช หรือหมอจิ๊บ กล่าวว่า สุนัขสามารถมีปัญหาท้องผูกได้ และเป็นได้ทุกช่วงอายุไม่ว่าหมาเด็ก หรือหมาสูงวัย ซึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย โดยสาเหตุนี้มักมาจากตัวเจ้าของที่ให้กินเศษกระดูกที่ย่อยยาก หรือตัวสุนัขเองที่ซุกซนชอบแทะก้อนดินกินก้อนกรวด หินทรายเม็ดเล็กๆ ทำให้ทางเดินอาหารอุดตัน เพราะอาหารย่อยไม่ได้ หรือบางตัวเกิดจากประสบอุบัติเหตุ เช่น รถชนกระดูกสันหลังหัก กระดูกเชิงกรานหัก ทำให้ระบบขับถ่ายระบบทางเดินอาหารมีปัญหาได้ มาถึงตรงนี้ผู้รักสุนัขบางคนอาจเกิดคำถามว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าสัตว์เลี้ยงของเรากำลังท้องผูก? หมอจิ๊บบอกว่า เจ้าของต้องสังเกตอาการสุนัขของตัวเอง ว่าขับถ่ายเป็นประจำหรือไม่ ถ้า 3-4 วันไม่ถ่าย สุนัขจะปวดเบ่งแต่ไม่มีอุจจาระออกมา หรือถ้าออก อุจจาระเป็นก้อนแข็ง บางตัวที่ท้องผูกหนักๆ อาจมีอาการอาเจียน หรือไข้ขึ้นร่วมด้วย อาจต้องพามาปรึกษาหมอ สำหรับวิธีการรักษาทั่วไป หมอจิ๊บบอกว่า เบื้องต้นหลังสอบถามพฤติกรรมการเลี้ยง อาการของสุนัขแล้ว เวลาหมอคลำท้องก็รู้สึกได้ว่า มีก้อนแข็งเป็นลำ แสดงว่ามีอุจจาระเต็มท้อง ลักษณะบ่งบอกว่าท้องผูกชัดเจน แต่ถ้าลักษณะอาการไม่ชัดเจนจะใช้วิธีเอ็กซเรย์ หลังจากวินิจฉัยโรคแล้ว ถ้าอุจจาระไม่แข็งมาก ดูแล้วพอถ่ายออกได้ ก็จะให้สุนัขทานยาระบายสำหรับสุนัขช่วยไปหล่อลื่น เพิ่มน้ำให้อุจจาระอ่อนตัว และช่วยเคลือบผนังลำไส้ ไม่ให้ก้อนอุจจาระครูดลำไส้เป็นแผล “ถ้าในขั้นนี้แล้วสุนัขยังถ่ายไม่ออกอีก ก็ต้องใช้อุปกรณ์ช่วย คือลงมือสวนอุจจาระ โดยใช้น้ำเปล่า น้ำเกลือหรือน้ำสบู่ สบู่ที่ใช้ทั่วไปมาละลายน้ำสวนเข้าทางทวารหนัก ทำให้อุจจาระนิ่มขึ้น ซึ่งอาจให้ยาระบายควบคู่ไปด้วย จนสุนัขถ่ายออกมาได้” แต่ในรายสุนัขบางตัวที่อาจท้องผูก เพราะระบบขับถ่ายได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุรถชน กระดูกเชิงกรานหัก กระดูกสันหลังหักอย่างที่กล่าวข้างต้น เมื่อรักษาตามขั้นตอนทั่วไปแล้ว อาจได้ผลไม่ดีนัก ต้องใช้ยาระบาย ถ้าไม่สำเร็จก็ต้องให้การรักษาขั้นสูงขึ้นคือ “การผ่าตัด” สพ.ญ.เกิดกันยาบอกว่า กรณีการรักษาด้วยวิธีผ่าตัดนั้น มักใช้กรณีสุนัขที่มีอาการท้องผูกบ่อยเรื้อรังทำให้ลำไส้ขยายใหญ่กลายเป็นบ่อทำให้มีอุจจาระค้างมาก สะสมจนก้อนใหญ่กว่ารูทวารหนักจนออกไม่ได้ ซึ่งถ้าอุจจาระตกค้างในลำไส้กินช่วงไม่ยาวมากนัก หมออาจต้องตัดลำไส้ส่วนที่ขยายออกทิ้ง เพื่อลดการตกค้างของก้อนอุจจาระไม่ให้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้ทั้งนั้น หลังการรักษาอาการท้องผูกผ่านพ้นไปแล้ว เจ้าของคงต้องปรับพฤติกรรมการเลี้ยงดูด้วย หมอจิ๊บย้ำ เพื่อเป็นการป้องกันอาการท้องผูกกลับมาเยือนเจ้าตัวน้อยสี่ขาอีก ซึ่งวิธีง่ายๆที่หมอจิ๊บแนะนำคือ การให้อาหาร เจ้าของควรเลี่ยงให้กินเศษกระดูก อาหารย่อยยาก แต่อาจให้อาหารเสริมประเภทที่เพิ่มกากใยอาหาร ซึ่งอาจเป็นอาหารเม็ดชนิดหนึ่งที่เสริมกากใย นอกจากนี้ ต้องให้สุนัขกินน้ำเยอะๆ อาจเพิ่มนมเข้าไปด้วย สพ.ญ.เกิดกันยาฝากถึงเจ้าของสุนัขทั้งหลายด้วยว่า แม้อาการท้องผูกอาจดูไม่หนักหนา แต่เป็นอาการเรื้อรังที่อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอย่างมะเร็งลำไส้ได้เหมือนกัน หากเจ้าของละเลย รู้อย่างนี้แล้ว คนรักสุนัขทั้งหลายคงนิ่งนอนใจไม่ได้ ควรหมั่นสังเกตสุนัของดูว่า ทุกวันนี้เขาขับถ่ายสะดวกดีอยู่หรือไม่ ถ้าเห็นว่าทำธุระนานเกินไปควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อการรักษาอย่างถูกวิธี Create Date : 11 เมษายน 2553 Last Update : 11 เมษายน 2553 23:21:23 น. 0 comments Counter : 33657 Pageviews.   Share Tweet ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet