|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
คุณนายแม่กับงูเห่า
เมื่อบล๊อกที่แล้ว อิฉันบอกว่าอยากเป็น"จำเลย"
ค่ะ..สมใจอยากของนางกอปากพระร่วงจริงๆ
ว๊าย...อย่าเข้าใจผิดนะคะ ว่าจู่ๆผู้พันเกิดอินละคร"จำเลยรัก"ขึ้นมา แล้วเลยชวนอิฉันเล่นบท ตบๆจูบๆ
คนเเรียบร้อยอย่างฮี ไม่ตบ ไม่จูบ หรอกค่ะ แค่เอาโซ่ล่าม หางกระเบนโบย เท่านั้นเองค่ะ คุณขา
ยิ่งตอนนี้ ฮีบอกว่า อิฉันน่ารักมากที่สุดตั้งแต่เกิดมา เพราะทอมซิลอักเสบ ไม่มีเสียงอันก่อให้เกิดมลภาวะเป็นพิษทางอารมณ์ต่อฮี
เชื่อไหมคะ..ว่าหลังจากบล๊อกนั้น อิฉันได้เหยียบย่างขึ้นโรงพักของจริง สมใจอยาก แต่มิใช่ในฐานะน้องดาจำเลยหัวใจของหมวด กฤตติน แห่ง "ยุทธการหักคานทอง"แต่อย่างใด
แต่ในฐานะโจทก์ ของหัวขโมยรายหนึ่ง ที่บังอาจเข้ามากระทำชำเรา เรือนมยุราของ คุณพ่อ และ คุณนายแม่ของอิฉัน ให้เป็นที่คับแค้นใจแก่ผู้พัน ผู้พิทักษ์ยิ่งนัก
เรื่องของเรื่องคือ เมื่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สมัยที่คุณป้ายังมีชีวิตอยู่ ได้มีครอบครัวหนึ่ง อันประกอบด้วยตาลุง ยายป้า ผอมโกรก หน้ากร้านเกรียม ซัดเซพเนจรมาจากไหนไม่รู้ มาอาศัยที่ท้ายวัดละแวกบ้าน ปลูกกระต๊อบอยู่ พอกันแดด กันฝน
ความที่อิฉันเองก็ไม่ได้สนใจ ว่าครอบครัวนี้มีกี่คน ลูกเต้าเล้าอ่อนมีหรือเปล่า แต่ที่รู้ คือ หลังจากที่ตาลุงแกลาจากโลกนี้ไปด้วยโรคพิษสุราเรื้อรังนั้น คุณป้าอิฉันสงสารยัยป้าคนนี้ยิ่งนัก อนุญาตให้มาเก็บผัก หักฟืน ไปขายเลี้ยงตัว เจือจานข้าวสารของแห้งเป็นระยะๆ คุณป้าท่านว่า เอาบุญเถอะ อย่าเอาคุณเลย
เจือจานกระทั่งว่า แนะนำอาชีพใหม่ คือ ให้พับถุงขาย กระดงกระดาษล้วนบริจาคให้ทั้งสิ้น จนกลายเป็นวัตรปฏิบัติ ธรรมเนียมของบ้านไป ว่าจะต้องเก็บหนังสือพิมพ์เก่า กระดาษไม่ใช้แล้ว ให้แกเอาไปรีไซเคิล (เห็นมะคะ บ้านอิฉัน อินเทรนด์ตลอดกาล พร้อมรับภาวะโลกร้อนมาก่อนที่ ลุง กอร์ จะโห่ซะอีก )
ยัยป้าคนนี้แกก็ดีนะคะ เวลาที่บ้านอิฉันมีงาน แกก็มาช่วยหยิบๆจับๆ ล้างถ้วยล้างชาม เก็บกวาด ตัดหญ้า กวาดใบไม้ในสวนให้
จนคุณป้าเสีย... ยัยป้าคนนี้เลยกลายเป็นส่วนหนึ่งของมรดกที่ชีทิ้งไว้ให้ จนเป็นที่รู้กันว่า แต่ละอาทิตย์คุณนายแม่อิฉันจะสั่งการให้เด็กที่บ้านมีหน้าที่ ขี่มอไซค์หน้าเริดเอากระดาษ กะปิ น้ำปลา ข้าวสารไปให้ หรือหากชีไม่อยู่ (ซึ่งก็ไม่อยู่ปีละหลายเดือนแหละค่ะ) อิฉันเป็นคนที่จะต้องจัดการตามลายแทง
และแล้ววันดี คืนดีก็มาถึง....
เมื่อปลายปีที่แล้ว ยัยป้าคนนี้ แกพาเจ้าหนุ่มรุ่นไก่(เลย)กระทง เห็นบอกว่า เป็นลูกชาย เพิ่งพ้นการเกณฑ์ทหาร แต่ขอโทษ สงสัยโดนเกณฑ์ตอนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ผ่านสงครามโลกครั้งที่สอง ถึงได้ปลดระวางเอาจนหน้าแก่ขนาดนั้น
ยัยป้าแกจาระไนว่ายังไม่มีงานทำ อยากให้คุณช่วย ( คุณนี่ คุณนายแม่อิฉันนะคะ )
วันนั้น คุณนายแม่อิฉันเรืองรองด้วยรัศมีเก้าฮวง จากลมปากยัยป้าแก แต่การให้งานคนก็ต้อง Put the right man on the right job ชิมิคะ
ชีเล็งเห็นสารรูปแล้ว คงทำอย่างอื่นไม่ได้แน่ ครั้นจะให้เป็นยามที่อพาร์ตเมนต์หรือ เราก็จ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยเป็นรายเดือน ส่งยามหนุ่มๆ หน้าตาดีๆ(ตามที่อิฉันไปทำคอนแทคต์)วนเวียนมาตลอด
ตำแหน่งสุดท้ายของเจ้างูเห่านี่คือ มีหน้าที่ ดูแลรดน้ำต้นไม้ ถางหญ้า เก็บใบไม้แห้งมาใส่บ่อทำปุ๋ยหมัก ตัดกิ่งไม้ ใบหญ้า ไปตามประสา โดยรับค่าจ้างเป็นรายวัน
ใหม่ๆก็ขยันมาก ขยันจนตัดกิ่งไม้ ต้นไม้ที่กระท่อมรจนาของอิฉันจนเหี้ยนไปเป็นแถบๆ
ต้องคอยบอก คอยสอน แล้วอิฉันขัดใจมากเลยนะคะ เวลาพูดด้วยเนี่ย มันจะหลบตา เหมือนกลัวผีกะ(เทย) ในเรือนกายอิฉันจะขย้ำเป็นภักษาหารว่าง
โอ๊ยตาย...ถึงปอบในตัวจะหิวเก่ง ชั้นก็เลือกกินจ้ะพ่อคุณ ผู้ชายบางประเภท กินแล้วเสาะท้อง ไม่เหมาะกับลำไส้ไฮซ้อ
จนกระทั่ง...วันหนึ่ง คุณพ่อ คุณแม่อิฉัน นัดกับเพื่อนฝูงของท่าน เพื่อเข้าไปถวายบังคมพระบรมศพของ สมเด็จพระพี่นางเธอฯ โดยมีอิฉันทำหน้าที่ชวนป๋วยแป่ปี่กอ ตราลูกกตัญญู ทำหน้าที่เชิญเครื่องอัฐฎบริขารติดตาม
หลังจากถวายบังคมแล้ว อิฉันก็นั่งอ้อร้อ ปลูกต้นสะตอกับบรรดาเพื่อนๆและลูกๆ(ชาย) ของคุณพ่อ คุณแม่
เพราะขี้เกียจเสนอหน้าเข้าออฟฟิศเต็มทน.....
ยังไม่ทันจะดีใจที่คุณอาท่านหนึ่งเมตตาจะให้ยืมหนังสือเกี่ยวกับการเสด็จเยือนอิหร่านอย่างเป็นทางการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่อิฉันควานหามานาน(ที่อยากได้ เพราะอิฉันคาใจตอนไปเที่ยว ได้เห็นงาช้างคล้องด้วยฆ้องลงรักปิดทองใน white palaceน่ะค่ะ เลยอยากรู้แหล่งที่มา ซึ่งในเล่มนั้นอาจจะมีก็ได้)
แม่หลานสาวโทรมาขัดจังหวะค่ะ...แถมเรื่องที่หล่อนโทรแจ้งนั้น เหมือนหล่อนเอาเข็มเจาะใจฟูๆแบบลูกโป่งจนแตกโพล๊ะ
ทันทีที่อิฉันกระซิบใส่หู คุณนายแม่ถึงแก่อาการเรอเอิ้ก เหมือนจะเป็นลม หน้าซีดเผือด
"ตายแล้ว ลูก เมื่อเช้าแม่รีบ เอาข้าวของออกมาขัด แล้วยังไม่ได้เก็บเข้าเซฟ เอาใส่ไว้ในถาดหัวเตียง หยิบมาเฉพาะสร้อยมุกกับแหวนวงนี้ ก็คุณพ่อน่ะซิ เร่งแม่ซะ พ่อแกนะไปไหนมาไหนรีบเหมือนไก่จะบิน โอย แม่ลมจะใส่..."
ต๊ายยยยยย อย่าเพิ่งเป็นค่ะ คุณนายแม่ขา ให้หนูเป็นก่อน....
สรุปว่า วันนั้นสามคนพ่อแม่ลูก นั่งรถกลับเคหาสน์ริมคลองข้าวเม่า หัวใจร้อนเป็นไฟ ตามปกติ คนขับเหยียบถึงร้อยเมื่อไหร่ คุณนายแม่อิฉันจะดมยาดมเอิ้กๆๆๆ คราวนี้ชีกลับบ่นว่าขับช้า
ถึงบ้าน...เห็นสภาพแล้วอนาถใจยิ่งนัก พระพุทธรูปเชียงแสนสำริด กลิ้งลงมาคาบันได ส่วนฐานที่เป็นไม้สักลงรักปิดทอง บิ่นร้าวจนรักกระเทาะเห็นเนื้อไม้ พระเมาลีกระเด็นหายไปไหนก็ไม่รู้
คุณพ่ออิฉันแทบทรุด ความดันทะยานทะลุ ๑๘๐ คุณนายแม่อิฉันโจนพรวดเข้าไปในห้องแทบไม่น่าเชื่อว่าชีเจ็ดสิบกว่า
"โล่งอก...เครื่องประดับแม่อยู่ครบ"
ค่ะ...แต่หลังจากนั้น ชีลมใส่อีกครา เมื่ออิฉันเช็คพระตามรายการที่ทำบัญชีไว้ครั้งทำประกันบ้าน (ซึ่งประกันไม่ครอบคลุมถึงการโจรกรรม แค่ภัยพิบัติ หรือ อัคคีภัยเท่านั้น )ในห้องพระ หายไปทั้งหมด สิบแปดรายการ
โอย...จะเป็นลมด้วยความเสียดาย
อิฉันมิได้งกนะคะ เพราะไม่เคยตีค่าพระพุทธรูปออกมาเป็นเม็ดเงิน แต่เสียดายคุณค่าความงามของพุทธประติมากรรมในแง่ของศิลปะ ที่ต้องมีศรัทธาก่อเกิดเสียก่อนจึงจะรังสรรค์พระพุทธรูปองค์งามๆออกมาได้ อีกทั้งแต่ละองค์ก็มีที่มาที่ไป สืบสาวราวเรื่องถึงบรรพบุรุษได้
บางครั้ง เวลาเดินผ่านร้านขายของเก่า อิฉันเห็นพระพุทธรูปที่วางขาย แล้วมักจะรู้สึกว่าพระพักตร์ท่านเศร้าหมองต่างจากที่เห็นท่านตั้งวางตามวัด หรือ บนแท่นบูชา
แล้วนี่ พระที่บรรพบุรุษของอิฉันเคยกราบไหว้บูชา จะมีองค์ไหนบ้าง ที่ตกไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมอย่างนั้น
เศร้าใจเหลือจะเอ่ย....
งานนี้ คนที่เต้นเป็นเจ้าเข้า พิโรธโกรธกริ้วกระทืบบาท (น่าถ่ายคลิปมาให้ชมยิ่งนัก) คือ ตาผู้พัน ฮีทำหน้าที่ได้เหมาะสมกับปู่โสมเฝ้าคลังแสงยิ่งนัก คือ โทรจิกตำรวจมาได้ภายในไม่ถึงสิบนาทีและตามจับได้ภายในไม่ถึงครึ่งวัน หรือ เป็นเพราะ คุณพ่อคุณแม่อิฉันโทรหาญาติโยมที่เป็นตำรวจให้ร่วมด้วยช่วยกัน ก็มิอาจ ทราบได้
จากจำนวนพระที่หายไปหลายองค์เนี่ย ทำให้รู้ว่าไอ้เจ้านี่มันค่อยๆทยอยขนไป โดยที่เราไม่รู้ตัว ที่บ้านก็มีคนอยู่
แล้วมันดอดขึ้นไปขโมยตอนไหน เข้าไปในห้องพระได้อย่างไร เพราะระบบล๊อกนั้นทำอย่างดี คนที่ถือกุญแจก็มีแค่คุณพ่อคุณแม่ พี่สาว และ ตัวอิฉันเอง
จะว่าเด็กในบ้านเป็นใจ ก็ไม่ใช่ เพราะเด็กได้ยินเสียงฐานพระหล่นหรอกค่ะ ถึงจับได้คาหนังคาเขา (ไม่ใช่เด็กทำงานบ้าน หรือหลานสาวอิฉันไล่จับมันได้นะคะ แต่ชี้ตัวได้ )
อีกทั้งคราวนี้มันโลภมาก ขโมยของใหญ่ องค์พระขนาดหน้าตักสิบนิ้วเชียวค่ะ คุณ...
แล้วทั้งๆที่ คุณพ่อ คุณแม่ เข้าไปสวดมนต์ไหว้พระในห้องนั้นทุกวัน ก็ไม่เคยสังเกตุว่าอะไรหายไป ก็ห้องพระออกจะมืดๆทึมๆ เพราะคุณพ่อท่านว่า แสงจ้านัก สวดมนต์ไม่ได้บรรยากาศ
ขอสารภาพว่า..สมัยเด็กๆน่ะ อิฉันกลัวห้องพระอันดับหนึ่งเลยค่ะ ทั้งๆที่ ควรจะกลัวเงาตัวเองจากกระจกหน้าห้องพระมากกว่า แถมข้าวของในนั้นเยอะมาก ขนาดที่ว่าจะทำความสะอาดทีนึง อิฉันต้องมีเวลาว่างอย่างน้อยสองวัน
กว่าตำรวจจะง้างปากให้มันสารภาพได้ ผู้พันเองเกือบจะต้องเข้าคุกแทน ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาและละเมิดเจ้าพนักงานบนโรงพัก
จนอิฉันต้องสะกิดไม่ให้ฮีลืมตัวว่า อยู่บนโรงพักของประชาชนไม่ใช่เขตทหารห้ามเข้า
ฮีว่า คนที่ขโมยพระนี่ แสดงว่า จิตใจมันชั่วสุดๆ บาปหนาชนิดที่หาอะไรมาเปรียบไม่ได้อีกแล้วในอเวจีมหานรก
แต่คนที่น่าสงสารคือยายป้านั่น นั่งเกาะลูกกรงร้องไห้ น้ำตาร่วง ชนิดที่ว่า แม่พิกุล(เรื่องปี่แก้วนางหงส์ช่องสาม) ที่รอคอยเป่าปี่แก้วน้องแดนจนไม่ยอมไปผุดไปเกิด อายแหละค่ะ.....
พอเห็นอิฉัน โผล่ขึ้นมาบนโรงพัก แกเกาะแข้งเกาะขา ขอให้ช่วยประกันตัวลูกน้อยกลอยใจของแกที
เมื่อผู้พันถลึงตามอง แกก็ละจากเรียวขางดงามของอิฉันไปเกาะซี่ลูกกรงซะทีหนึ่ง ร้องไห้คร่ำครวญซะจน อิฉันอยากส่งไปเป็นนางร้องไห้หน้างานแต่งงานคนที่เราชังน้ำหน้า แล้วมันก็ตลกนะคะ คนแจ้งจับกลายเป็นคนประกันตัวให้แทนนี่ อีกอย่าง มันกลายเป็นคดีอาญายอมความกันไม่ได้อยู่แล้ว
แถมประวัติเจ้านี่ไม่เบาทีเดียว ที่ยายป้าแกมาสะตอใส่คุณแม่อิฉันว่าเพิ่งพ้นเกณฑ์ทหาร นี่ก็ไม่ใช่นะคะ แต่เพิ่งออกจากคุกข้อหาเสพยาบ้า เฮ้อออ...เวรกรรม
อธิบายจนปากจะฉีก แกยังไม่ยอมเข้าใจ ตามมาร้องไห้เกาะรั้วหน้าบ้าน จนคุณพ่อคุณแม่ รวมทั้งคนในบ้านและอิฉันประสาทจะกินตาย
คนที่น่าสงสารที่สุด คือ คุณนายแม่อิฉันค่ะ โดนคุณพ่อต่อว่าซะหลายยกว่า หลงเอางูเห่าเข้าบ้าน แล้วยังพาลพาโลไปถึง บรรดาน้องหมาทั้งหลาย ที่มีคนเข้ามาไม่รู้จักเห่า เด็กในบ้านก็โดน หลานสาวที่เผอิญวันนั้นดวงซวย เป็นไข้หัวลม นอนซมอยู่กับบ้านก็โดนหางเลขกับเค้าด้วย
มีที่ไม่โดนก็ฮีคนเดียวแหละค่ะ..ทั้งๆที่ตอนคุณนายแม่จะรับไอ้หมอนี่เข้ามาทำงานก็ไม่รู้จักคัดค้าน อิฉันขอแอบกระซิบนะคะ ว่า หนึ่งในหลายวันที่มันดอดเข้ามาขโมยน่ะ ฮีก็อยู่บ้านค่ะ
งานนี้ ตาผู้พันได้หน้า ค่าเต้นคนเดียวเต็มๆ
โชคยังดีที่ตำรวจทำงานรวดเร็ว ได้พระองค์สำคัญๆกลับคืนมาแล้ว เหลืออีกสององค์ที่ไปตกอยู่กับผู้มีอิทธิพลซะด้วย ก็กำลังเจรจากันอยู่ ไม่อยากเป็นความให้บาดหมางน้ำใจกันน่ะค่ะ
แต่ที่แน่ๆ คือ ตอนนี้ ชื่อเสียงบ้านอิฉันเหม็นเน่าสุดๆ ด้วยว่า ปากยัยป้า โพนทะนาหาว่าใจร้าย รังแครังคัดเอากับคนยากคนจน อย่างแกกับลูกชาย
เฮ้อ...คนหนอคน...ทำไมยางอายมันหลบในได้เยี่ยงนี้คะ
ลป.ที่แน่ๆคือ ผู้หมวดหน้าใส คนทำคดี น่ารักมากๆค่ะ เล่นเอาอยากขึ้นโรงพักเช้าเย็น กรี๊ดดดดดดดดดดด
เดี๋ยวออกไปแจ้งความดีกว่า
"หมวดขา หนูเหงา..."
อ๊ะ...อย่าหาว่าอิฉันพูดพล่อย พูดเล่นนะคะ ก็พระท่านว่า "ความเหงา"เป็นความทุกข์ชนิดหนึ่ง
แล้วคำขวัญของตำรวจว่าอะไร "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ชิมิคะ
ดังนั้น หมวดหนุ่มน้อยคนนั้น ก็ต้องมาบำบัดความเหงาให้อิฉันด้วยซิ ถึงจะเป็นตำรวจของประชาชน
จริงป่ะ....
Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2551 |
|
31 comments |
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2551 6:00:49 น. |
Counter : 713 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ณ มน 4 กุมภาพันธ์ 2551 11:12:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: angy_11 4 กุมภาพันธ์ 2551 12:27:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 4 กุมภาพันธ์ 2551 14:52:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: Sirinut 4 กุมภาพันธ์ 2551 17:51:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: zardamonoxication (zardamon ) 6 กุมภาพันธ์ 2551 17:31:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: mungkood 8 กุมภาพันธ์ 2551 22:28:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 9 กุมภาพันธ์ 2551 21:26:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: thienkam 10 กุมภาพันธ์ 2551 15:52:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: ณ มน 14 กุมภาพันธ์ 2551 10:38:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: Dr.Manta 15 กุมภาพันธ์ 2551 13:24:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: Dr.Manta 15 กุมภาพันธ์ 2551 13:25:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: Dr.Manta 15 กุมภาพันธ์ 2551 13:25:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: Dr.Manta 15 กุมภาพันธ์ 2551 13:26:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: Mutation 21 กุมภาพันธ์ 2551 16:56:50 น. |
|
|
|
|
|
|
ไม่มีไรค่ะ ชีวิตอิฉันคือการเดินทางค่ะ เดินทางมันหมดทุกสัดส่วนตั้งแต่สมอง หัวใจ และ ปลายเท้า ได้พบได้เห็นอะไรมากมายเท่าฝุ่นธุลีของสุริยจักรวาล ทั้งมีสาระและไม่มีสาระ แล้วแต่เราจะเลือกอย่างไหน ขอให้ผุ้อ่านเรื่อง(ไร้)สาระของอิฉันมีความสุขนะคะ อาเมน
http://www.hanahouse.net/sozai/bg/bg8/tuyu25.gif
|
|
|
|
|
|
|
จะเศร้าตามไปด้วยดีมั้ย
แต่สำนวนสนุกสนานเสียจนลืมไปเลยว่าเป็นเรื่อง " เศร้า "
แต่ที่สำคัญสุด คือ เศร้าใจครับ
กับงูเห่าเเละเเม่ของมัน
แนะนำว่าให้พกน้ำยาล้างห้องน้ำติดตัวไปด้วยสักขวด
เจออีเเม่มันก็ เอาให้มันบ้วนปากเสียหน่อย
เผื่อปากมัน กับ สมอง มันจะทำงานได้ดีขึ้น
......................
ขออนุญาตเอาชื่อไปแปะไว้ที่บล๊อกนะครับ
ชอบสำนวนคุณจัง