|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
|
|
|
18 กุมภาพันธ์ 2552
|
|
|
|
ร้อยเหตุผลฯ 2
ร้อยเหตุผล ( คนจะโสด ) 2
เฮ้อ!.ให้ตายเถอะ
ถ้าไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุเมื่อวันก่อนฉันคงไม่ต้องนั่งปั้นหน้ามากับอีตาพี่โตในวันนี้ และอาจจะมีอีกในวันต่อๆไปจนกว่ารถยนต์ของฉันจะซ่อมเสร็จ แค่เผลอหันหน้าไปหัวเราะ กับหลานสุดรักเพียงแวปเดียว รถเก๋งคันเล็กของฉันก็ชนท้ายเข้ากับรถโฟร์วีลส์คันโตที่ติดกันชนอย่างดี โถ!ก็วิ่งมาดีๆจู่ๆก็ไฟแดง จู่ๆรถคันหน้าก็หยุด ผลน่ะเหรอ รถของฉันหน้าย่น หน้าของฉันก็ย่นเมื่อเห็นว่าเจ้าของรถคู่กรณีคือใคร และที่ย่นกว่าก็คือเจ้าของรถคันนั้นทั้งที่บั้นท้ายรถยังสวยเหมือนเดิม
โชคดีที่รถของฉันมีประกัน โทรศัพท์ตามตัวแทนประกันมาจัดการ แต่ดูเหมือนว่าพ่อโตของคุณนายเป็นคนจัดการตัวแทนประกันแทน เป็นคนเลือกอู่ที่จะซ่อมรถ เป็นอู่ของเพื่อนเขา ตอนแรกตัวแทนทำท่าจะไม่ยอม พ่อโตของคุณนายก็ไม่ยอมเหมือนกัน ท้ายที่สุดตัวแทนประกันก็ต้องยินยอม โถ!เป็นใครก็คงยอมแหละท่าทางพ่อโตของคุณนายเวลาเจรจาความ หน้านิ่งๆเรียบๆนั้น น่าเกรงน้อยซะเมื่อไหร่
จริงๆก็ตลกดีที่ถกเถียงกันแทนที่จะเป็นเรื่องการซ่อมรถของพ่อโตซึ่งคู่กรณีของฉันกลับกลายเป็นถกเถียงกันเรื่องการเลือกอู่เพื่อซ่อมรถของฉัน คู่กรณีของฉันเลือกอู่เพื่อซ่อมรถให้ฉัน น่าขำน้อยซะเมื่อไหร่ ...
สามสี่วันนะ ถ้าเสร็จเมื่อไหร่จะโทร.ไปบอกนายละกัน นายช่างใหญ่เจ้าของอู่ซ่อมรถที่พ่อโต ของคุณนายพาฉันเอารถไปซ่อม เขาบอกว่าเป็นอู่ของเพื่อนเขาจะได้บอกให้ตรวจเช็คสภาพและทำให้ดีๆ ทั้งที่ฉันบอกว่าจะไปซ่อมเองได้ ให้เขาซ่อมรถของเขาเถอะ ค่าซ่อมฉันรับผิดชอบเอง พ่อโต บอกว่าไม่เป็นไร รถเขาไม่เสียหาย แต่รถของฉันสิหน้าย่นไม่มีดี ไฟหน้าก็แตก ฉันว่าชนไม่แรงนะแต่ทำไมหน้ายับเชียว เฮ้อ!
แล้วยังไง ? รถก็รถของฉัน แถมฉันผิดที่ไปชนท้ายรถของเขา แต่กลับเป็นเขาที่มาวุ่นวายจัดการทุกอย่าง และฉันก็ต้องจำยอม เมื่อเจอหน้าเรียบเฉยนั่น
เดี๋ยวคุณแม่กับแม่เล็กจะมาว่าได้ว่า
.พี่
ไม่ดูแล น้อง เน้นหนักคำว่า น้องทิ้งท้าย
และด้วยความสงสารหลานกลัวจะร้อน ประกอบกับวันนั้นฉันต้องรีบตามคุณนายและคุณพ่อไปทำบุญที่วัด ที่มีน้องชายน้องสะใภ้มารับแต่เช้าและพาพ่อกับแม่ไปที่วัดก่อน ส่วนฉันต้องไปเอาของบางอย่างที่สั่งไว้มีหลานสาวน่ารักขอไปกับคุณป้าด้วย แน่นอนมีคุณพ่อและคุณแม่ของเขาไปด้วย จะไปทำบุญแท้ๆเชียว เฮ้อ!
หลังจากออกจากอู่เขาก็พาฉันกับหลานตามบรรดาพ่อแม่ไปทำบุญต่อที่วัด ทำบุญเลี้ยงพระเสร็จพ่อกับแม่ของฉันบอกจะติดรถกลับกับพ่อกับแม่พี่โต น้องชายน้องสะใภ้รับหลานกลับบอกจะพาหลานไปเที่ยวต่อ ส่วนฉันถูกจับยัดเข้ารถพี่โตเหตุผล รถพ่อแน่นแล้ว โตแหนะไปส่งน้องที นี่น่ะพ่อของเขา และมีกำชับก่อนขึ้นรถ ช่วงนี้น้องจะไม่มีรถขับไปทำงาน โตแหนะไปรับไปส่งน้องหน่อยนะลูก นี่น่ะคุณแม่ของเขา อุ๊ย!ไม่เป็นไรค่ะแม่นุช ข้าวไปเองได้ นั่งรถเมล์ไปได้ ไม่ลำบากอะไร ฉันรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน ตายสิให้นั่งรถไปกับพ่อโตทุกวัน ดูหน้าสินั่น เพิ่งทำบุญมาแท้ๆไหงบอกบุญไม่รับก็ไม่รู้
พี่ก็ไม่ได้ลำบากอะไร บทจะพูดนะพ่อคุณ เฮ้อ!
ผลของการทำบุญวันนั้นจึงออกมาเป็นวันนี้ เมื่อเช้าอุตส่าห์ตื่นแต่เช้า ตั้งใจจะออกไปโบกรถเมล์แต่เช้า ไม่ใช่อยากหนีหรอกนะ แต่ไม่อยากรบกวนเขาต่างหาก รถฉันเข้าอู่คราวนี้ดูเหมือนว่า แม่ของฉันกับแม่ของพ่อโตจะแฮปปี้เป็นพิเศษ ก็พอจะรู้อยู่บ้างหรอกนะว่าวางแผนอะไรไว้ กับแผนนั่นฉันก็ไม่เดือดร้อนหรอก เราไม่เล่นตามแผนใครจะทำไม จะสงสารก็แต่พ่อโตของคุณนายนั่นแหละจะไม่มีเวลาแวปไปหาหญิงสาวน่ารักคนนั้น เพราะมัวแต่มารับมาส่งฉันตามคำบัญชาของท่านแม่ของเขา นี่ก็อีกคนไม่เข้าใจเลย ความจริงเขาจะปฏิเสธเสียก็ได้ นี่อะไรยังยินยอมทำตามคำสั่งหน้าตาเฉย ท่าทางก็ไม่ใช่ลูกแหง่ที่กลัวแม่นี่นา อันที่จริงเรื่องที่ฉันเคยเจอเขากับหญิงสาวคนนั้นเดิมทีตั้งใจจะเล่าให้คุณนายฟังจะได้เลิกวุ่นวายกับชีวิตโสดของฉันเสียที แต่จนกระทั่งวันนี้ฉันก็ไม่ได้เล่า ไม่ใช่เรื่อง รู้อย่างนี้เล่าให้ฟังตั้งแต่วันนั้นก็ดี
แล้วยังไงล่ะ ที่อุตส่าห์ตื่นแต่เช้าแต่ดันเจอคนที่ตื่นเช้ากว่า นั่งรออยู่โต๊ะรับแขกมีแก้วกาแฟกับขนมปังวางอยู่ข้างหน้า แถมเปิดทีวีดูข่าวสบายใจอีกต่างหาก ฉันยกมือไหว้และเขาก็รับไหว้ ไม่มีคำทักทาย ไม่มีรอยยิ้ม ก็คนยิ้มไม่ออกนี่นา
ชีวิตโสดของฉันกำลังถูกผู้หญิงสองคนสั่นคลอน
พี่โต มารอแล้วลูก ไปหาอะไรกินก่อนไป๊ อย่าให้พี่เขารอนาน ฟังคุณนายบอก เฮ้อ!ฉันถอนหายใจเบาๆ แฟนไปไหนคะ คุณนาย ฉันถามหาคุณพ่อและเดินไปชงกาแฟที่เคาน์เตอร์บาร์ที่ตั้งกั้นบริเวณห้องรับแขกกับทางเดินไปครัวหลังบ้าน รดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน แล้วนั่นน่ะ เขามาทำไมแต่เช้า ที่บ้านเขาไม่มีกาแฟจะกินรึไง ฉันหมายถึงคนที่นั่งสบายใจในห้องรับแขกนั่นแหละ ผลคือ เพี๊ยะ! ฝ่ามือคุณนายตีลงที่ต้นแขน เจ็บจนต้องลูบ คุณนายนะคุณนาย พี่เขามารับ ทำไมพูดไร้น้ำใจ แม่ไม่เคยสอนให้เป็นคนแบบนี้นะ
ขอโทษค่ะขอโทษ กอดเอาใจคุณนาย แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะ พ่อโต เนี่ย!
กาแฟวันนี้รสชาติมันช่างขมและขื่น ยี่ห้ออะไรเนี่ย..ใครซื้อมาไม่อร่อยเอาเสียเลย
กาแฟหมดแก้ว คนรอมองหน้า จะทำไงได้ ได้แต่เดินตามหลังขึ้นรถของพ่อโตออกไปไม่ต้องหันกลับไปมองก็รู้ คุณนายยิ้มหน้าบานล่ะสิ ก็เบี้ยสองตัวยอมถูกจับเดินตามแผนง่ายๆ
แล้วก็มานั่งคอเชิดมองข้างทางไป เมื่อยจะแย่ ไม่มีบทสนทนา ความเงียบวิ่งวนไปมาภายในรถ
เขาขับมาส่งฉันที่ที่ทำงาน ไหว้ขอบคุณเขาก่อนเอื้อมมือจะเปิดประตู ตอนเย็นจะมารับ คำพูดลอยๆ ฉันหันหน้าไปมองเขา ไม่ต้องก็ได้ค่ะ เดี๋ยวข้าวกลับเองได้ เผื่อพี่โตติดธุระ หรือมีนัดจะได้ไม่เสียเวลามารับ ข้าวเกรงใจ
ประโยคธรรมดา น้ำเสียงธรรมดา ยิ้มเล็กน้อยแต่พองามของฉัน นึกว่าพูดดีแล้วเชียว ผลตอบรับกลับกลายเป็น ใบหน้าเรียบเฉยนั่น แววตาคู่นั้นมองจ้องตาฉันตรงๆ ก่อนพูดด้วยเสียงราบเรียบไม่บอกความรู้สึกว่า ถ้าติดธุระจะโทร.มาบอก ถ้าไม่โทร.มาก็หมายความว่าจะมารับ โอ๊ย!คนอะไรอย่างนี้นะ ไม่สงสัยสักนิดหรอกว่าเบอร์โทร.ของฉันพ่อคุณได้มายังไง
บ่ายสี่โมง ใกล้เวลาเลิกงาน เฮ้อ! ฉันเก็บงานตรงหน้า เก็บข้าวของลงใส่ลิ้นชัก เตรียมตัวก่อนกลับ เป็นอะไรยะ วันนี้ได้ยินเสียงถอนหายใจหลายรอบ มีอะไรหนักใจนักหนา อยากเล่ามั้ย พี่ฟ้า เพื่อนร่วมงานที่แสนดีคงรำคาญเสียงถอนหายใจของฉันเต็มที ถึงออกปากถาม ฉันเลยเล่าเรื่องราวให้ฟัง มิน่าเมื่อเช้าพี่ไม่เห็นรถข้าวจอดอยู่ในที่จอดรถ อย่างนี้เอง ก็ดีแล้วนี่มีคนรับส่ง ดีตายล่ะ ฉันว่า ทำหน้าเซ็ง ทำไมไม่ดีล่ะ ข้าวไม่ต้องขึ้นรถเมล์ สบายจะตาย
สบายจริงหรอกแต่ข้าวรู้สึกเหมือนเป็นเบี้ยบนกระดานให้คุณนายกับแม่นุชจับเดินยังไงก็ไม่รู้ ไม่หรอกมั้งผู้ใหญ่เขาหวังดี เป็นห่วง คุณโตอะไรนั่นเขาก็มีน้ำใจ พี่ฟ้านางฟ้าผู้แสนจะมองโลกในแง่ดี ไม่รู้สิ ข้าวรู้สึกว่าอุบัติเหตุคราวนี้ ส่งผลให้ผู้ใหญ่ในร่างเด็กสองคนวางแผนขึ้นมาซ้อนแผนอ่ะ แถมเบี้ยอีกตัวก็เต็มใจเดินตามแผนซะด้วย อย่างหลังนี่ไม่ค่อยจะเข้าใจ เขาคงไม่อยากขัดใจแม่ของเขา และคงอยากช่วยข้าวนั่นแหละ คิดมากไปได้ โถพี่ฟ้าไม่ลองมาเป็นข้าว นั่งรถมาด้วยไม่รู้จะคุยอะไรด้วย หน้างี้ไม่รู้ไปโกรธใครมาตั้งชาติ ข้าวนั่งตัวลีบติดประตู กลัวว่าพี่ท่านจะกระโดดกัดคอ ทำท่าสยองขวัญประกอบ เกินไปแล้วยัยข้าว พี่ฟ้าหัวเราะเบาๆ ใช่สิไม่มาลองเป็นฉันดูนี่ เฮ้อ!
แวะไปดูรถที่อู่ได้มั้ยคะ หลังจากขึ้นมานั่งตัวลีบบนรถคันโตของ พ่อโต
โทร.ไปถามเจ้าศักดิ์ให้แล้ว มันบอกว่ายังไม่เสร็จ รออะไหล่บางอย่าง วันเสาร์ เห็นว่าอย่างนั้นนะ น้ำเสียงราบเรียบ หน้าตรงมองไปข้างหน้า เหรอคะ ฉันจะว่าอะไรได้ ต้องอาศัยเขาอีกสี่วันหรือนี่ เขาก็คงอยากให้เสร็จเร็วๆเหมือนกันนั่นแหละไม่งั้นจะโทร.ไปทำไม เฮ้อ! หรืออยากไปดู .. พี่..พาไปก็ได้นะ เขาหันมาบอก ฉันมองตอบและส่ายหน้า ไม่เป็นไรค่ะ รอวันเสาร์ค่อยไปทีเดียวก็ได้ เกรงใจค่ะ หลังจากนั้นก็ไม่มีเรื่องราวใดๆจะคุย ขณะติดไฟแดง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น อืมว่าไง ได้ๆเดี๋ยวกลับไปดู ได้ ได้
หวัดดี สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว รถคันโตเคลื่อนออกช้าๆ ฉันมองไปข้างหน้า มองดูข้างๆ ทาง หลังเลิกงานอย่างนี้ติดไฟแดงทีกว่าจะเคลื่อนตัวได้ก็ใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน ถ้านั่งรถเมล์คงเหนื่อยน่าดูกว่าจะถึงบ้าน บางทีก็เห็นเหมือนเงาสะท้อนกระจก เจ้าของรถหันมามองดูฉันบางครั้งบางคราว
ขอบคุณค่ะ ฉันไหว้ขอบคุณพ่อโต ก่อนพูดต่อด้วยรอยยิ้มบางๆ ก่อนเปิดประตูลงจากรถ พรุ่งนี้ ข้าวไปเองก็ได้นะคะ เขามองหน้าฉัน ใบหน้าเรียบเฉย แต่แววตานั่น เหมือนขึ้งโกรธ โกรธฉันเหรอ พูดอะไรผิดล่ะนี่ พรุ่งนี้จะมารับ พูดจบก็ออกรถไปเลย คำสั่งหรือเปล่าล่ะนั่น ก็ได้ๆๆๆๆๆ อยากมาก็มาเลย เชิญ เชอะ !ดีเหมือนกันมีคนขับรถให้นั่งสบาย
ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา พ่อโตของคุณนายมารับฉันไปทำงานทุกวัน หลังจากวันแรกที่เขามานั่งรอ วันต่อๆมาฉันเลยต้องรีบตื่น ไม่อยากให้เขาเป็นฝ่ายรอแต่กลับกลายเป็นว่าวันต่อมาเขามาช้ากว่าวันแรก แต่ทั้งที่มาช้าก็ใช่ว่าจะทานอาหารเช้ามาจากบ้านกลับมานั่งทานที่บ้านฉัน คุณนายก็แสนจะหน้าบานเดี๋ยวทำข้าวต้มไก่ ข้าวต้มเห็ดหอมและอีกสารพัดให้พ่อโต แต่หน้าที่ชงกาแฟกลับยกให้ฉัน อะไรนี่มันอะไร โอ๊ย!คุณนายของฉัน
นอกจากพ่อโตจะทานอาหารเช้าอย่างเอร็ดอร่อยแล้ว ยังพูดคุยกับคุณพ่อกับคุณนายอย่างออกรส บางทีก็ได้ยินเสียงหัวเราะผสมผสาน เออนะหัวเราะได้ด้วยเหรอ นั่งรถไปด้วยกันตั้งอาทิตย์ฉันยังไม่เคยเห็นรอยยิ้มสักนิด คนอะไรพิลึก! แต่จะว่าไปในความพิลึกนั่นเขาก็มีน้ำใจเหมือนกัน
เช้าวันพุธที่เขามารับไปทำงาน ฉันบอกเขาว่าตอนเย็นไม่ต้องมารับก็ได้ อีตาพี่โตทำหน้าเบื่อๆ เข้าใจว่าจะเบื่อที่ฉันบอกเขาสองสามครั้งเรื่องไม่ต้องมารับมาส่ง กลัวสายตาพิฆาตและน้ำเสียงเย็นยะเยือกเลยต้องรีบบอกต่อ คือข้าวจะไปงานศพพ่อของเพื่อนน่ะค่ะ กว่าจะเสร็จงานก็คงราวๆสองทุ่ม ขากลับจะให้เพื่อนไปส่งที่บ้านเองค่ะ ไม่เป็นไร ตอนเย็นพี่ว่าง เดี๋ยวเลิกงานจะมารับ น้ำเสียงทุ้มนุ่ม บอกสั้นๆมีวงเล็บท้ายประโยคว่าห้ามขัดคำสั่ง คือ
.ข้าว.. ใบ้กินสิฉัน
แล้วตอนเย็นเขาก็มารับอย่างที่บอก พาไปงานเพื่อฟังสวดอภิธรรมศพ อยู่จนจบงานเพื่อนหลายคนทำหน้ายิ้มๆล้อเลียน บางคนก็แอบแซว พี่โตนะเหรอ เห็นคุยกับเพื่อนๆได้ดี แถมยังแจกยิ้มโปรยเสน่ห์อีกต่างหาก แต่พอหันมาเจอฉันจ้องมอง เขากลับส่งรอยยิ้มผ่านมาทางแววตาแทน ตายแล้ว!ฉันไปอ่านสายตาเขาออกได้ไง
เมื่อวานเย็นวันศุกร์ ตอนที่ พี่โต ไปรับฉันทำงานยังไม่เสร็จ มีบางอย่างต้องเคลียร์ บอกให้เขากลับก่อนเดี๋ยวจะหาเพื่อนไปส่งที่บ้านเอง ไม่อยากให้เขานั่งรอนาน ผลจากความหวังดีของฉันกลับกลายเป็น พี่รอได้ เข้มจริงๆน้ำเสียง กว่าหกโมงเย็นถึงเคลียร์เสร็จ พี่ฟ้าแอบยิ้มล้อเลียนให้ฉัน เฮอะ!ไม่มีอะไรซะหน่อย สาวโสดอย่างฉันไม่รู้สึกสั่นคลอนอะไร จริงๆนะ แวะทานข้าวก่อนนะพี่หิว เขาบอกฉันตอนที่หันหัวรถบ่ายหน้าไปห้างสรรพสินค้า หิวข้าวแวะเข้าห้างสรรพสินค้า จะมีอะไรอร่อยให้ทานเชียว ฉันแอบคิดในใจ จะซื้อของใช้บางอย่างด้วย พูดต่อเหมือนรู้ว่าฉันคิดอะไร
ร้านอาหารครบเครื่องที่มีทั้งอาหาร เบเกอรี่และกาแฟ คงจะหิวจริงๆนั่นแหละฉันเห็นเขาทานเอาๆ ท่าทางน่าอร่อย ตอนแรกฉันไม่ค่อยหิวแต่พอเห็นเขาทาน ก็พลอยทานอย่างเอร็ดอร่อยไปด้วย รู้ตัวอีกทีผัดไทกุ้งสดของฉันก็เกลี้ยงชาม เขามองฉันยิ้มๆ โอว์ยิ้มได้ด้วย พี่นึกว่าพี่หิวอยู่คนเดียว เพราะรอยยิ้มนั่นทำให้ฉันอดที่จะยิ้มตอบไม่ได้ มื้อนี้ข้าวเลี้ยงพี่โตนะคะ ได้ยังไง เขาว่าทำหน้าเฉยอีกแล้ว ก้อ
ข้าวอยากขอบคุณที่พี่โตช่วยเหลือเทียวรับเทียวส่งตั้งอาทิตย์ เลี้ยงแค่นี้ ลงทุนน้อยไปหรือเปล่าน้องข้าว น้ำเสียงเรียบเรื่อยนั้นทำเอาอึ้ง พอดีฉันเห็นแววตาขี้เล่นของเขาที่ฉายออกแวปหนึ่ง เลยยิ้มให้เขา อืมม
งั้น..วันหน้าข้าวเลี้ยงชุดใหญ่ละกัน บอกไปแล้วอยากกัดลิ้นตัวเอง พี่จะจำไว้ ซะงั้น!
รู้สึกคล้ายๆ
หล่นลงหลุมที่มีคนขุดไว้.. ชีวิตโสดถูกโยกคลอนด้วยมือที่มองไม่เห็น
Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
20 comments |
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2553 4:57:29 น. |
Counter : 528 Pageviews. |
|
|
|
| |
โดย: บู้บี้ IP: 123.225.95.71 19 กุมภาพันธ์ 2552 20:00:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปณาลี 20 กุมภาพันธ์ 2552 18:19:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: mangotip IP: 118.173.239.2 21 กุมภาพันธ์ 2552 3:18:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชญาลี 21 กุมภาพันธ์ 2552 9:48:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: โก้ IP: 58.9.59.156 21 กุมภาพันธ์ 2552 18:37:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: สิงห์อมบ๊วย IP: 118.174.214.228 24 กุมภาพันธ์ 2552 16:22:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรายทราย 26 กุมภาพันธ์ 2552 1:58:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: วรบรรณ 26 กุมภาพันธ์ 2552 11:38:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: นรพัลลภ IP: 203.155.190.5 5 มีนาคม 2552 0:56:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: สิงห์อมบ๊วย IP: 118.173.245.136 5 มีนาคม 2552 8:22:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: วรบรรณ 9 มีนาคม 2552 8:51:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: sAnake IP: 222.123.15.220 9 มีนาคม 2552 13:36:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: สิงห์อมบ๊วย IP: 118.173.244.202 10 มีนาคม 2552 8:39:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 1 พฤศจิกายน 2553 15:28:01 น. |
|
|
|
| |
|
|
สิงห์อมบ๊วย |
|
|
|
เรื่องสำคัญ ทำความเข้าใจกันก่อนงานเขียนใน "บล็อกสิงห์อมบ๊วย"
เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน แม้ผลงานจะห่วย ก็เป็นสิทธิ์ของผู้เขียนนะคะ
ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ห้ามคัดลอก ดัดแปลง เผยแพร่
โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นอาจมีความผิด ตาม
พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
................................
|
|
|