|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
4 เมษายน 2551
|
|
|
|
เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย...
.. อากาศร้อน อบอ้าวมาก ว่ากันว่าร้อนมากถึง 41 องศาเซลเซียส ที่เดียวเชียว บ่ายวันนี้รู้สึกปวดหัว บริเวณหัวคิ้วย่นยู่ ยุ่งเหยิง กลุ่มอาการปวดหัว นี่มันยากจะวินิจฉัยซะจริงเชียว กาแฟขมๆสักแก้ว เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น ตามด้วยยาแก้ปวดสักสองเม็ดก็แล้วกัน ทำไมไม่มีใครออกแบบขนาดยาแก้ปวดให้มันเป็นเม็ดเล็กๆและรสหวานๆมันๆเหมือนนมอัดเม็ดนะ ฉันต้องทานยาแก้ปวดถึงสี่เม็ด ไม่ใช่สองเม็ด ก็เพราะสองเม็ดแรกถูกอาเจียนออกมา ก็มันขมและติดคอ ใครไม่เคยกินยายากจะไม่มีวันเข้าใจหรอก ว่ามันทรมานขนาดไหน เฮ้อ
เพราะไม่สบายแน่ๆถึงได้รู้สึกแย่ไปหมด
หลังทานยา ดื่มกาแฟ และนอนพัก สามารถหลับได้ทั้งๆที่เพิ่งทานกาแฟ อาจเป็นเพราะกาแฟยังไม่ทันได้ออกฤทธิ์
สายลมพัดอ่อนๆ ผ้าม่านบางเบาปลิวตามสายลม รู้สึกเย็นๆคล้ายฝนตก ข้างนอกดูครึ้มๆ ฉันมองดูนาฬิกาที่โต๊ะข้างเตียงจะห้าโมงเย็น นี่เผลอหลับไปนานขนาดนี้เชียว ตื่นขึ้นมาอาการปวดหัวทุเลานิดหน่อย นิดซะจนแทบไม่รู้สึกถึงอาการทุเลาที่ว่า มีอาการปวดเมื่อยตามตัวและมีน้ำมูกข้นๆเขียวๆเหนียวๆ เพิ่มมาอีก หิมะละลาย..อีกแล้ว มิน่าถึงได้ปวดหัวนัก ไซนัส..อักเสบ เรื้อรังเป็นๆหายๆ ยิ่งหน้าร้อน เหมือนภูเขาหิมะ
โดนความร้อนน้ำแข็งละลาย เจออากาศเพี้ยนๆ เดี๋ยวร้อนถึงร้อนจัด แล้วมาเจอฝนหลงฤดู ไม่รอด
หมายถึงฉันไม่รอดจากอาการป่วยไข้ ยิ่งมีโรคประจำตัวอย่างไซนัสอักเสบอย่างนี้ด้วย เคยรักษาแล้วก็หยุดไประยะหนึ่ง ก็หมอที่รักษาบอกว่า ใกล้หายแล้วนะ เลยเลิกรักษา
เบื่อทานยาจะแย่ และแย่มากๆเพราะทานยายาก
ใครบางคนเคยว่า ทานยายากยังกับเด็ก ก็มันขม จริงๆนะ ฉันแย้งและทำหน้าให้เขารู้ว่าอมยาขมเป็นยังไง และใครคนนั้นก็โต้กลับแบบไม่ถนอมน้ำใจว่า ทีกาแฟขมๆกินเข้าไปได้ทุกวัน ทำเอาสำลักกาแฟทีเดียวเชียว แค่คิดถึงใครบางคนก็ทำให้มีรอยยิ้มแต้มที่หน้า อยากให้ใครคนนั้นอยู่ด้วยในตอนนี้จัง
. ฟ้าครึ้ม ฝนปรอยๆพอให้รถมีลายด่าง ฮั้ดชิ้ววววว!!! แค่กๆ โอ้ย
.เจ็บคอ เอาเข้าไป อะไรมันจะแย่ขนาดนี้นะคนเรา เสียงโทรศัพท์มือถือดังอย่างร้อนรน ตัวเครื่องสั่นเหมือนเจ้าเข้า แถมเสียงที่สั่นก็ดังอืดๆ อยากจะหัวเราะเจ้าโทรศัพท์แต่ก็ไม่มีเสียงเอาซะเลย สวัสดีค่ะ แค่กๆๆ
ฉันได้ยินเสียงอันแหบโหยของตัวเอง ไม่ต้องส่องกระจกก็พอจะรู้ว่าหน้าตาของตัวเองจะอิดโรยขนาดไหน นั่นคุณรึนั่น ทำไมเสียงมันถึงได้แย่ขนาดนั้น เมื่อตอนบ่ายผมโทร.เข้าไม่เห็นรับ มันแย่ ทานยาแล้วก็หลับ หลับยาวเลย เพิ่งตื่น ฉันเดินลากรองเท้าออกไปนอกห้อง เปิดไฟในห้องนั่งเล่น เดินไปเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่ม อย่าดื่มน้ำเย็นนะ เดี๋ยวจะแย่กว่าเดิม เสียงปลายสายเตือนเหมือนตาเห็น ฉันยิ้มนิดๆ วางขวดน้ำเย็นลง เดินไปรินน้ำธรรมดา กดน้ำร้อนจากกระติกลงไปให้พออุ่น ก่อนยกขึ้นดื่ม คุยไม่นานก็วางสาย มีกระแสห่วงใยในน้ำเสียง เป็นอย่างนี้เสมอ สม่ำเสมอไม่เปลี่ยนแปลง . . ถ้าเพียงแต่พ่อกับแม่จะไม่หย่ากัน ถ้าเพียงแต่พี่สาวจะไม่แยกทางกับพี่เขย ถ้าเพียงแต่เพื่อนรักจะไม่ล้มเหลวในชีวิตแต่งงาน ฉัน
อาจจะแต่งงานกับเขา เขาขอแต่งงานหลายครั้ง แต่ทุกครั้งฉันก็ได้แต่บอกปัด เราอยู่ด้วยกันได้นะฉันไม่ว่าถ้าคุณต้องการ แต่ไม่แต่งงานนะ ไม่อยากมีข้อผูกมัด ไม่อยากมีสิ่งเตือนใจหากวันใดวันหนึ่งข้างหน้า เปลี่ยนแปลง แม่คนรักอิสระอย่างแรง ใจกว้างจริงๆ เขาโกรธ ฉันรู้ แต่เขาก็โกรธฉันได้ไม่นาน เขาบอกว่า ผมคงบ้าเพราะรักผู้หญิงแปลกอย่างคุณ จะไม่มีคำขอแต่งงานจากผมอีก หากจะมีคงเป็นคุณที่ต้องขอผม และขอเตือนไว้ก่อนเลย ขอผมแต่งงานไม่ง่ายนะ
ความสัมพันธ์ระหว่างเราราบรื่น งดงาม ฉันไม่ได้ย้ายไปอยู่กับเขา เขาไม่ได้ย้ายมาอยู่กับฉัน คนดีอย่างนั้นน่ะไม่มีทางซะล่ะ เราเป็น คู่รัก ที่ประหลาด มีจุดเริ่ม ไม่มีจุดจบ
. เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นตอนเกือบสามทุ่ม นี่ฉันเผลอนอนหลับหน้าทีวีในห้องนั่งเล่นอีกแล้ว แอบนิ่วหน้านิดไม่ได้ แง้มม่านหน้าต่างดู รถที่คุ้นตา คนที่คุ้นใจยืนชะเง้อชะแง้ชะโงกอยู่หน้าบ้าน
ไหนบอกจะกลับพรุ่งนี้ไง ฉันทักด้วยเสียงแหบแห้ง เขาช่วยเลื่อนรั้วหน้าบ้านปิดก่อนเดินข้างฉันเข้าบ้าน ช่วยเปิดและปิดประตูให้ ฉันทิ้งตัวลงบนโซฟา เขาเดินมาทิ้งตัวลงข้างๆใช้หลังมือแตะหน้าผาก ตัวไม่ร้อนเท่าไหร่นี่ มีความห่วงใยในน้ำเสียง ฉันยิ้มรับความห่วงใยนั้น ง่วงจังเลย ฉันเอนตัวลงนอนบนโซฟา ตาปรือมองเขา ทานอะไรมายัง มีขนมเค้กในตู้เย็น มี..
เสียงกุกกักดังอยู่ข้างนอก ผ้าม่านปลิวไหว ฉันมองการเคลื่อนไหวของสายลมที่หน้าต่าง เมื่อคืน จำได้ว่านอนบนโซฟา บอกเขาเรื่องอาหาร แล้วก็หลับไป แล้ววันนี้ฉันลืมตาตื่นบนเตียงในห้องนอน ฝีมือคนข้างนอกนั่นล่ะไม่ใช่ใคร วันนี้ไม่ยักมึนหัวเหมือนเมื่อวาน คงเป็นเพราะนอนทั้งวันทั้งคืน ไอโขลกๆสองสามครั้ง เจ็บคอนิดหน่อย มีน้ำมูกเล็กน้อย วันนี้ดีจัง
ก๊อก ก๊อก
ใครบางคนเคาะประตูตามมารยาทก่อนผลักเข้ามาโดยที่เจ้าของห้องอย่างฉันยังไม่อนุญาต เขาเดินมานั่งที่ขอบเตียง โอบรอบฉันด้วยแขนสองข้าง ก้มหน้าลงมายิ้มใส่ตา เป็นไงบ้างดีขึ้นหรือยัง ไหนดูซิไข้ลดหรือยัง ฉันยิ้มก่อนจะตอบ แต่ยังไม่มีคำพูดหลุดจากปาก ริมฝีปากยังไม่แย้มด้วยซ้ำ เมื่อเขาก้มหน้าลงมาหา ภาพใบหน้าของเขาพร่าเลือน แต่เขายังอยู่ สัมผัสอ่อนโยน หวานละมุนที่ริมฝีปากยังอยู่ อืม
ฉันส่งเสียงครางเบาๆก่อนส่ายหน้าหลบ เมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่เปลี่ยนไป ความอ่อนหวานแปรเปลี่ยนเป็นรุมร้อน เขายอมถอนริมฝีปากออก ใบหน้าระบายยิ้ม ไม่มีไข้แล้วนี่ ฉันคงหน้าแดงแน่ๆ คนเจ้าเล่ห์นั่งมองยิ้มๆก่อนประคองฉันลุกขึ้น ไปทานอาหารเช้ากัน เขาลุกขึ้นยืนฉุดดึงมือฉันขึ้น 10 นาที ขอเวลา 10 นาที ฉันบอกเขา และดันหลังเขาออกไปนอกห้อง เขาขืนตัวไว้ก่อนพ้นประตู ถ้ามากกว่านั้นผมจะเข้ามาตาม ทิ้งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ไว้หลังคำพูด
หอมจัง ฉันเดินไปนั่งโต๊ะอาหาร มองชามข้าวต้มควันฉุยที่เขาตักมาวางลงตรงหน้า ส่วนข้างหน้าของเขาคือจานขนมปังปิ้ง ไข่ดาว ไส้กรอก และถ้วยกาแฟ เขาเห็นสายตาที่จ้องถ้วยกาแฟของฉัน และส่งสายตาดุมาที่ฉัน แค่มองก็ไม่ได้รึไง ฉันว่าก่อนตักข้าวต้มเข้าปาก อืม..อร่อยจังฉันพยักหน้ากับชามข้าวต้ม เขาเดินไปชงโอวัลตินมาวางลงข้างชามข้าวต้ม รินน้ำให้ ผู้ชายตัวโตเดินไปเดินมาในครัวเล็กๆของฉัน เมื่อคืนเขาคงนอนที่นี่ ชุดที่เปลี่ยนใหม่ ผมที่ยังไม่แห้งจากการสระ
ฉับพลันของความรู้สึก อยากมีวันอย่างนี้ทุกวัน อยากมีเขาเดินไปเดินมาในบ้าน อยากตื่นขึ้นมาแล้วเจอหน้าเขา
วิธีเดียวที่จะให้มีวันอย่างนี้ คงต้องขอเขาแต่งงาน แต่งงาน เมื่อไหร่กันที่รู้สึกอย่างนี้ เพราะเขา
เพราะเขาที่ทำให้ฉันเป็นอย่างนี้
ฉันสะดุ้งเมื่อเขาเอื้อมมือมาจับมือฉันเขย่าเบาๆ เป็นอะไรหรือเปล่า ผมเรียกตั้งหลายครั้ง ฉันยิ้มให้เขา คุณจะให้ฉันทำยังไง คุณถึงจะรับปากแต่งงานกับฉัน เขาปล่อยมือฉัน นั่งกอดอก เอนตัวไปข้างหลังพิงพนักก้าวอี้ มองฉันยิ้มๆ ยิ้มเจ้าเล่ห์ เมื่อไหร่กันที่คุณเกิดอยากผูกมัด ผูกพัน เมื่อเช้า ฉันว่า เขายกคิ้วข้างหนึ่ง เครื่องหมายคำถามเต็มหน้า ฉันแค่.. หยุดยิ้มใส่ตาเขา อยากถูกวัดไข้เหมือนเมื่อเช้าเวลารู้สึกไม่สบาย
.ก็เท่านั้นเอง เขาหัวเราะเบาๆ เลื่อนเก้าอี้ออกแล้วเดินอ้อมโต๊ะมาหาฉัน เท้าแขนลงบนเก้าอี้กักขังฉันไว้ในเก้าอี้ ตกลงผมจะแต่งงานกับคุณ ยิ้มใส่ดวงตา ทำไมง่ายนักล่ะ ไหนบอกว่ายากไง ฉันว่า ก็ตอนนั้นผมโกรธ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ วันจันทร์เราไปจดทะเบียนกัน แล้วค่อยโทร.บอกพ่อ แม่ พี่เพื่อน แล้วเชิญทานข้าวด้วยกันวันหลัง รอคุณหายไข้ก่อน
คุณอยากจัดงานมั้ย ฉันรีบส่ายหน้า ผมรู้ ๆ แล้วเขาก็ก้มลงปิดปากของฉันด้วยริมฝีปากของเขา นุ่มนวล อ่อนหวาน ยาวนาน ไม่ต้องรอให้มีไข้ผมก็วัดไข้คุณได้
ทุกวัน เขาว่าอย่างนั้น
. จากวันนี้ ฉันมีเวลาตลอดชีวิตที่จะบอกเขาว่าทำไมฉันจึงเปลี่ยนใจแต่งงานกับเขา ไม่ใช่เพียงแค่จูบเดียวนั่น มีเหตุผลมากมายเป็นร้อยที่ฉันจะยกมาบอกเขา แต่จะมีแค่เพียงสามคำที่จะบอกเขาตอนนี้และจะบอกทุกวันจากนี้ ฉันรักคุณ . . ฮั้ดเช้ย!! เสียงจามจากคนตัวโตที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉันเอี้ยวตัว ขยับเข้าใกล้และวัดไข้ที่ริมฝีปากของเขา เพียงแผ่ว คงต้องรอให้เราหายไข้ทั้งคู่ หวังว่าวันจันทร์นี้เราทั้งคู่จะดูดีกว่านี้ตอนที่ไปจดทะเบียนสมรส ฉันว่า เขาหัวเราะเบาๆ ดึงตัวฉันเข้าสู่อ้อมเขนของเขา หายทันแน่ ผมสัญญา เขาว่า
ฮั้ดเช้ย!!! ฮั้ดชิ้ว!!!
อย่าได้สงสัยเชียวว่าทำไมเราทั้งคู่ถึงได้จามแข่งกัน
..
Create Date : 04 เมษายน 2551 |
Last Update : 5 เมษายน 2551 14:33:40 น. |
|
7 comments
|
Counter : 488 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: mangotip IP: 118.173.239.145 วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:15:49:03 น. |
|
|
|
โดย: อักขราษร วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:11:48:34 น. |
|
|
|
โดย: สิงห์อมบ๊วย IP: 61.7.133.81 วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:12:11:05 น. |
|
|
|
โดย: Kondee IP: 125.25.146.155 วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:16:37:08 น. |
|
|
|
โดย: สิงห์อมบ๊วย IP: 61.7.133.16 วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:1:18:57 น. |
|
|
|
โดย: Camille IP: 71.81.178.101 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2553 เวลา:9:43:06 น. |
|
|
|
| |
|
|
สิงห์อมบ๊วย |
|
|
|
เรื่องสำคัญ ทำความเข้าใจกันก่อนงานเขียนใน "บล็อกสิงห์อมบ๊วย"
เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน แม้ผลงานจะห่วย ก็เป็นสิทธิ์ของผู้เขียนนะคะ
ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ห้ามคัดลอก ดัดแปลง เผยแพร่
โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นอาจมีความผิด ตาม
พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
................................
|
|
|