|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
5 มกราคม 2551
|
|
|
|
เรื่องของเรา
กาแฟดำ อย่างเคยสินะ ฉันดึงสายตาตัวเองจากไอน้ำที่ลอยขึ้นช้าๆและช้า ผละผิวจากลำน้ำปาย กระชับผ้าคลุมไหล่ให้แน่นเข้าอีกนิด ผู้ชายผมยาวที่ตอนนี้รวบไว้อย่างลวกๆ ผละจากเคาน์เตอร์ ถือแก้วกาแฟสีขาวเดินมานั่งข้างหน้าฉัน เพื่อน เจ้าของรีสอร์ทเล็กๆ ริมปาย ใช่! เพื่อน
ถามจริง มาทำไม กึก! แก้วกาแฟสีขาว กลิ่นหอมเย้ายวน ถูกวางลงตรงหน้า หอมจัง กาแฟไรนี่ ดมกลิ่นกาแฟ ทำจมูกบาน จิบช้าๆ ก็มันร้อน อะราบีก้า จากขุนวาง ปาท่องโก๋หนึ่งซีกถูกยื่นมาข้างหน้า จะกินขนมปังจิ้มสังขยา ฉันส่ายหน้า บอกสิ่งที่อยากได้ เขาส่ายหน้า ก่อนลุกไปหยิบถุงขนมปังกับตะกร้าใส่แยม เนย มาวางลงตรงหน้า มีแต่นี่ จะกินก็กิน ไม่กินก็ไปซื้อที่ตลาดเอาเอง เสียงชักแข็ง แขกของเธอเขากินอะไร ฉันมองหน้าพ่อหนุ่มผมยาวที่ยังไม่มีรอยยิ้มให้สักนิด ก็กินเหมือนที่เธอกำลังกินนี่แหละ ฉันเตรียมไว้ที่ศาลาตรงกลางนั่น เขาไม่เรื่องมากอย่างเธอ เฮ้อ! ทำไมต้องหงุดหงิดด้วย ไม่เหมือนฉัน ได้กินกาแฟสด หอมกรุ่น ชงโดยเจ้าของรีสอร์ทที่แสนจะใจดี ยิ้มเอาใจ มาทำไม กาแฟนี่ หอมนะ กินทีไรก็ขม ดมทีไรก็หอม มือของฉันกุมถ้วยกาแฟ หวังจะได้ไออุ่น แทนที่ความเย็นยะเยือกจากน้ำเสียงคนตรงหน้า
กี่ปีนะสามปี ใช่ สามปีก่อน ฉันปฏิเสธคำขอแต่งงานจากเขา ผู้ชายคนเดียวกับที่นั่งอยู่ข้างหน้า เหตุผล ? ไม่รู้สิ ฉันไม่รู้ ฉันรู้เพียงว่าตอนนั้นฉันยังไม่พร้อม ฉันยังสนุกกับงาน สนุกกับการใช้ชีวิตในช่วงนั้น จู่เพื่อนที่สนิทมาก มากเป็นพิเศษ เกิดอยากจะแต่งงาน ขอแต่งงาน มึนนิดๆ ทำไมล่ะ การที่เราเป็นเพื่อนกัน ไปไหนต่อไหนด้วยกัน มีปัญหาก็ปรึกษาหารือกัน พบกันวันคิดถึง นั่นมันก็ดีอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องแต่งงานกันเลย ทำไมต้องผูกยึดติดกันด้วยการแต่งงานด้วย ฉันไม่เข้าใจ
และ
เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมฉันปฏิเสธ หลังจากนั้นเขาก็ทำตัวเหินห่าง ค่อยๆถอยห่างจากฉันช้าๆ กว่าฉันจะรู้ตัว ข้างกายก็ว่างเปล่า ความเป็นเพื่อนที่เคยมี เขาเอาไปทิ้งไว้ที่ไหน เพื่อนของเขาบอกฉันว่าเขาลาออกและมาทำรีสอร์ทอยู่ที่ปาย ปาย
เมืองที่เราเคยมาเที่ยว เมืองที่เราแสนจะประทับใจ สักวันฉันจะมาทำรีสอร์ทอยู่ที่นี่ เธอจะมากับฉันมั้ย ฉันเองตอนนั้นได้แต่หัวเราะไม่ได้ตอบคำถามของเขา เพราะไม่คิดว่าเขาจะจริงจัง นั่นสิ!ทำไมฉันถึงคิดว่าเขาจะไม่จริงจัง ความจริงเขาจริงจังกับทุกเรื่องต่างหาก ทุกเรื่อง
ช่วงแรกที่เขาเงียบหายไป ฉันค่อนข้างมึนงงหน่อยๆ เศร้าใจนิดๆ ไม่เข้าใจทำไมต้องเป็นแบบนั้น ทำไมเราสองคนต้องจบแบบนั้น โกรธ
ใช่
ฉันรู้สึกโกรธ โกรธตัวเอง โกรธเขา ได้เลย เมื่ออยากให้เป็นอย่างนั้นก็ได้ ลืมไปเลยว่าเคยมีกันและกัน
ข่าวคราวของเขาส่วนใหญ่ฉันจะได้ฟังจากเพื่อน ไม่ใช่จากเขา ที่อยู่ของเขา ฉันก็ได้จากเพื่อน ไม่ใช่จากเขา เขายังติดต่อกับเพื่อนในกลุ่ม แต่ไม่ติดต่อหาฉัน ที่เคยเป็นยิ่งกว่าเพื่อน เพื่อนสนิทมาก เพื่อนที่เขาขอแต่งงาน
เพื่อนๆไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา อย่าว่าแต่เพื่อน ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา
. มาทำไม น้ำเสียงขุ่นๆนั่นปลุกให้ฉันตื่นจากความคิด ใครๆเขามาปายทำไมล่ะ เธอไม่เหมือนใครๆที่มา มาทำไม เขาว่า ไม่เบื่อรึไงถามคำถามเดิมอยู่นั่น ฉันมองหน้าเขา ไม่สิมองที่ตาของเขา ฉันอยากอยู่เงียบๆ สักพัก
เธอจะนั่งอยู่เงียบๆสักพักได้มั้ย ฉันว่า อาจเป็นเพราะดวงตาของฉันมันคงฟ้องว่าเจ้าของของมันรู้สึกเหนื่อยล้าเพียงใด คนเสียงแข็งจึงเงียบเสียงเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ จิบกาแฟเงียบๆ
ปล่อยให้ความเงียบรายรอบระหว่างเรา
ฉัน
เสียงของฉันมันถูกกลืนหาย เมื่อหันมองผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ และพบว่าเขาจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว มีอะไรบางอย่างที่ฉายจากดวงตา ความอ่อนโยน ห่วงใย แว้บเดียวเพียงแว้บเดียวจริงๆ นั่นก็มากพอแล้วสำหรับฉัน ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ เพลียจัง ฉันลุกขึ้นจะเก็บแก้วกาแฟไปล้าง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมือของใครอีกคนเอื้อมมาแตะหลังมือ ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวฉันเก็บเอง เธอไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนเถอะ เมื่อวานก็มาถึงค่ำ ขับรถคนเดียวอีกต่างหาก พักผ่อนตามสบายนะ มีกระแสของความห่วงใยเบาบางอยู่ในคำพูดนั้น ฉันสัมผัสได้
มาทำไม คำถามนี้ฉันมีคำตอบให้กับตัวเองอยู่แล้ว ขอเวลาอีกนิดหนึ่งเถอะ เย็นนี้ฉันจะบอกเขา จะบอกทุกเรื่อง โดยเฉพาะ เหตุผลที่ต้องมา ถ้าเขาอยากได้คำตอบนัก และถึงไม่ถามอีก ก็จะบอก แต่ตอนนี้
.ขอเวลาตั้งตัวอีกนิด
เสียงเดินลากรองเท้าเล่นของฉันเรียกให้คนผมยาวที่กำลังจัดโต๊ะอาหารเงยหน้าขึ้นมอง ไปไหนมาทั้งวัน ฉันนึกว่าเธอจะนอนๆนั่งๆอยู่แถวนี้ ฉันยิ้มให้เขาบางๆ เสียงไม่เย็นเหมือนเมื่อเช้าค่อยดีขึ้นมาหน่อย มีกำลังใจขึ้นอีกเยอะ ไปไหว้พระ ไปเดินเล่นแถวๆนี้ ปายเปลี่ยนไปเยอะเลย การเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์จริงๆ แต่ปายก็ยังงดงามในใจฉัน ฉันเห็นเขาชะงักเป็นครู่ ไปอาบน้ำก่อนมั้ย แล้วมาทานข้าวกัน เขาว่า และยิ้มให้ เขายิ้มให้ !
อาหารมื้อค่ำผ่านไปท่ามกลางความเงียบ เขาไม่ถาม ไม่มีน้ำเสียงเย็นชา ดูแลตักอาหารเอาใจใส่อย่างดี ฉันรู้ เขากำลังรอเวลา รอเวลาให้ฉันเริ่ม
หลังอาหารเย็น เราย้ายไปนั่งหน้าทีวี เปิดรายการอะไรไม่รู้ ไม่มีใครดู เปลืองไฟ ฉันกดรีโมทปิด เขามองหน้า ฉันเดินไปกดน้ำร้อนลงแก้วที่มีถุงชา เดินกลับมานั่งบนเบาะนุ่มใกล้ๆเขา
พรุ่งนี้ ฉันจะกลับแต่เช้า กลัวมืดบนเขา ฉันเริ่ม สองมือกุมถ้วยชา หวังว่าเขาจะไม่รู้ว่ามือฉันสั่น หวังว่าเขาจะคิดว่ามือฉันสั่นเพราะอากาศเย็น ไม่ใช่เพราะความรู้สึกข้างใน เมื่อหลายปีก่อน
.มีคนๆหนึ่งเข้ามาในชีวิตฉัน เขาคอยดูแล เป็นเพื่อน เป็นที่ปรึกษา เวลาฉันโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเขาก็จะมีวิธีทำให้ฉันหายโกรธ เราสนิทกันมาก ฉันมีความสุขทุกวันที่มีเขาอยู่ใกล้ แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เขาก็มาพูดอะไรบางอย่างกับฉัน มัน..... เอ่อ.. มันทำให้ฉันรู้สึกสับสน ฉันไม่รู้ว่าตัวเองพูดหรือทำอะไรโง่ๆออกไป คนๆนั้นค่อยๆถอยห่างและหายไป ฉันหยุดยกน้ำชาขึ้นจิบ เขาไม่พูดอะไรสักคำ สามปีที่ผ่านมา สามปีที่ฉันใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง ไม่มีเขา ฉันคิดว่าฉันอยู่มาได้ ตั้งสามปีเก่งจัง แต่ความจริงคือ สามปีที่ผ่านมามันแย่มากๆ ไปดูหนังก็ไม่สนุก ทำเค้กก็ไม่มีคนช่วยกิน บ่นก็ไม่มีคนฟัง ฉันไม่รู้ว่าผ่านสามปีนั้นมาได้ยังไง เขามักพูดว่า คนแปลกๆอย่างฉันคงมีแค่เขาเท่านั้นแหละที่จะอยู่ด้วยได้ มันแย่จัง ความรู้สึกเคยชินอย่างนี้ไม่ดีเลย ไม่ดีต่อฉันเลย ฉันหัวเราะเบาๆ ทั้งที่ไม่มีเรื่องให้ขำสักนิด เขายังจ้องมองฉันเงียบๆ อุปทานหรือเปล่าไม่รู้ ฉันคิดว่าฉันเห็นแววตาอ่อนโยนคู่เดิม ฉัน
คือ
ฉัน
. แก้วน้ำชาอยู่ในอุ้งมือ ช่วยทำให้อุ่นขึ้นมาก ฉันสูดหายใจลึกๆหนึ่งเฮือก รู้สึกเหมือนขาดอากาศ ฉันขอโทษ ฉัน
ฉันไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้า มีบางอย่างดูดกลืนคำพูดบางประโยคที่ฉันอยากจะพูดหายไป มีบางอย่างทำให้นัยน์ตาของฉันพร่า
ไม่รู้สึกว่าพูดช้าไปหน่อยเหรอ
ฉันหันไปมองหน้าเขา ใบหน้านั้นปราศจากความรู้สึก นิ่งสนิท ไม่
ไม่นิ่งแน่ ฉันแอบเห็นประกายบางอย่างในดวงตาของเขา เคยไปโรงเรียนสายมั้ย คนไปสายต้องถูกทำโทษ เธอมาสายต้องถูกลงโทษ สายตั้งสามปี โทษหนัก
ฉันได้แต่นิ่ง มองสบตาของเขา มีบางอย่างวิบวับอยู่หลังดวงตาคู่นั้น ฉันจะพูดเพียงครั้งเดียวและจะไม่พูดกับเธออย่างนี้อีก โอกาสสุดท้ายสำหรับเธอ
แต่งงานกับฉันนะ คนที่นั่งเงียบมาตลอดเย็นนี้ เพิ่งจะพูด พูดไม่กี่ประโยค แต่เป็นประโยคที่ฉันรอคอยจะฟัง ...อีกครั้ง เขายื่นมือมาให้ฉัน ยิ้มให้นิดๆอย่างอบอุ่น
.. ฉันปัดมือเขาออกไป เขาชะงักไปครู่ เพียงชั่วพริบตาเดียว และโถมตัวเข้าหาเขา โอบกอดเขาไว้ด้วยสองแขนเล็กๆ พยักหน้า ส่งเสียงปนสะอื้นเบาๆกับไหล่ของเขา แต่งสิแต่ง ฉันจะแต่งกับเธอ กับเธอเพียงคนเดียว ...
Create Date : 05 มกราคม 2551 |
|
1 comments |
Last Update : 6 มกราคม 2551 11:35:20 น. |
Counter : 479 Pageviews. |
|
|
|
| |
โดย: Hah IP: 58.8.236.199 6 มกราคม 2551 23:31:28 น. |
|
|
|
| |
|
|
สิงห์อมบ๊วย |
|
|
|
เรื่องสำคัญ ทำความเข้าใจกันก่อนงานเขียนใน "บล็อกสิงห์อมบ๊วย"
เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน แม้ผลงานจะห่วย ก็เป็นสิทธิ์ของผู้เขียนนะคะ
ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ห้ามคัดลอก ดัดแปลง เผยแพร่
โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นอาจมีความผิด ตาม
พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
................................
|
|
|
น้ามตาจาไหลลล
Y______________Y