แอ่วเจียงฮาย วันที่ 7 เชียงของ (ไร่แสงอรุณ)– ดอยผาตั้ง



ย้อนดูวันที่ 6 เชียงแสง - เชียงของ (ไร่แสงอรุณ) คลิ๊กเลย


วันพฤหัส 20 ธ.ค.55 

วันนี้ตื่นหกโมงเช้า มองออกไปนอกห้องหมอกตรึมเลยครับ อย่างที่เห็นในภาพนั้นแหละ





กำลังงัวเงีย ตาสว่างเลย เดินออกไปตรงระเบียงห้อง ขอดูหมอกชัดๆที่เสริฟมาให้ถึงห้องนอน





เอามาเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ ระหว่างเมื่อวานตอนบ่ายกับตอนเช้า สวยไปคนละแบบเนอะ







เมื่อวานยังไม่ได้พาไปชมไร่แสงอรุณ วันนี้ขอพาไปชมแล้วกันครับ

แผนผังรีสอร์ทไร่แสงอรุณ





ไร่แสงอรุณจะมีห้องให้เลือกตามโซนต่างๆ แต่ละโซนก็จะมีมีจุดเด่นไม่เหมือนกัน...

ริมโขง – ติดแม่น้ำโขง ไม่ต้องเดินไกล เพราะอยู่ใกล้ร้านอาหาร โซนนี้ไม่ต้องเดินข้ามถนนเพื่อไปขึ้นเขา ที่เหลือเดินกันลิ้นห้อยแน่ ใครหัวเข่าไม่ดีแนะนำให้พักริมโขงครับ

บึงบัว – เดินนิดหน่อย มีบันไดทอดลงไปบึง บ้านหลังเล็กหน่อย เตียงควีนไซส์

เดือนแจ่ม – บ้านหลังใหญ่ เห็นวิวกว้างขวางมาก ทั้งแม่น้ำโขง ประเทศลาวอีกด้านนึง แต่เดินไกล กลางคืนเห็นพระจันทร์กลมโตสวยเพลินตา

แสงอรุณ – เป็นบ้านหลังที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้น เดินไกลหน่อยนะ (โปรดดูจากแผนที่)

เพียงออ –แปลว่าเสมอกับยอดไผ่ บ้านเพียงออจะราคาถูกลงมาหน่อย
แต่ไร้วิว มีแต่วิวไผ่ กับหุบเขา ก็สวยแปลกตา และได้ยินเสียงไผ่สีกันด้วย

ทุกห้อง รับรองความเงียบสงบ เพราะแต่ละหลังอยู่กันไกล ไม่มีเสียงมารบกวนแน่ เหมาะกับมาพักผ่อนจริงๆ ใครชอบอ่านหนังสือแนะนำให้หอบมาได้เลย อ่อ..อีกอย่างถ้าใครขึ้นไปแล้ว คิดว่าคงไม่อยากลงมาเดินเล่นข้างล่างแน่ เพราะทางขึ้นเชาประมาณร้อยกว่าขั้นได้

ใครสนใจลองเข้าไปดูในเวปไร่แสงอรุณก่อนได้ครับ เวปไซด์ไร่แสงอรุณ คลิ๊กเลย





ถ้ามาจากเชียงแสน ทางด้านขวามือจะเป็นป้ายของรีสอร์ท อย่าขับเพลินละครับ แต่ยังไงก็ไม่หลงเพราะตลอดเส้นทางจะมีอยู่เจ้าเดียวเด่นมาก







ทางซ้ายมือจะเป็นสำนักงาน ร้านอาหารเอารถเข้าไปจอดได้เลยครับ 









เดินไปทางหลังร้านอาหารก็จะเป็นโต๊ะอาหารกับร่มสีแดงของรีสอร์ท จุดขายอีกที่ของเค้าเลยครับ











เดินลงไปหน่อยก็จะเป็นห้องจัดประชุม สัมนา ติดริมโขง เห็นบรรยากาศฝั่งลาวชัดเจน











ทางซ้ายมือจะเป็นบ้านริมโขง ดูเป็นส่วนตัวดีเหมือนกันครับ







ที่ไร่แสงอรุณจะปลูกผักกินเอง ไม่ฉีดยาฆ่าแมลง เพราะฉะนั้นไว้ใจได้เรื่องสารพิษตกค้างไม่มีแน่ ที่สำคัญสดจากไร่ 













ในส่วนของโซนฝั่งแม่น้ำก็จะมี ตัว Office ห้องครัวห้องอาหาร ห้องประชุมสัมนา และบ้านริมโขง เดินข้ามถนนไปอีกฝั่งก็จะเป็นโซนที่พักอยู่บนเขา มาดูทางขึ้นกันครับ แค่เดินก็เพลินแล้ว ยิ่งถ้ามาฤดูทำนา สองข้างทางจะปลูกข้าวคงจะสวยไม่ใช่เล่น









มาถึงตรงนี้จะมีทางแยกไปทางบ้านบึงบัว ผมไม่ได้เดินเข้าไปชม ได้แต่ถ่ายรูปทางเข้าดูร่มรื่นดีเหมือนกัน







ส่วนที่พักเดือนแจ่ม เดินต่อไป











เดินมาได้ซักพัก ก็มาถึงตีนเขาแล้วครับ





จะว่าไปสูงเอาเรื่องเหมือนกัน ดีที่รีสอร์ทเค้าทำที่พักเหนื่อยให้สองจุด







เดินหอบมาได้ซักพัก ถึงข้างบนจะมีทางแยกไปพักแต่ละส่วน 

บ้านเพียงออจะเดินแยกไปทางขวามือ ส่วนทางซ้ายจะถึงที่พักผมเดือนแจ่ม ต่อไปเป็นบ้านแสงอรุ่ณตามลำดับ





จากทางแยกเดินมาถึงห้องผมแล้ว เดือนแจ่ม 1 จะถึงก่อนเพื่อน 









กุญแจห้องเดือนแจ่ม 1 ไขเข้าไปชมห้องข้างในกันครับ 





บ้านเดือนแจ่ม 1 จะเป็นบ้านไม้หลังเดี่ยว เดินขึ้นบันไดจะมีเรือนชานเล็กๆพร้อมโซฟารับแขกไว้นั่งเล่น เปิดประตูเข้าไปเป็นห้องสี่เหลี่ยมจตุรัส พื้นไม้ขัดมัน มีโต๊ะไม้รับแขก 1 ตัวพร้อมตู้เสื้อผ้า 1 ตู้ สไตล์จีน ดูไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่ หน้าต่างกระจกพร้อมมุ้งลวด มี 2 ด้าน ตรงนี้ชอบครับ ตอนกลางวันไม่ได้เปิดแอร์ แค่เปิดม่าน ปิดมุ้งลวดรับลมเย็นๆสบายมาก ส่วนความปลอดภัยมีเครื่องดับเพลิงขนาดเล็กไว้ให้ด้วย ส่วนไฟมีสำรองให้ด้วย 





ภายในตู้มีหมอนสำรองกับผ้านวมให้อีก 2 ผืน สำหรับคนขี้หนาว ชอบๆๆ





ตรงกลางห้องวางเตียงขนาดคิงส์ไซด์ เบาะนุ่มกำลังดี หัวเตียงมีโคมไฟซ้าย-ขวา





ส่วนปลายเตียง จะเป็นบาร์เล็กๆ มีขนม บะหมี่คัพ ผลไม้ น้ำต่างๆไว้ให้ครบ ทุกอย่างฟรี กินได้หมด ถัดไปวางทีวี ส่วนชั้นล่างวางตู้เย็น ด้านซ้ายมือติดประตูมีโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจก ด้านขวามือเป็นห้องน้ำ 





ห้องน้ำจะแยกแบบเปียกและแห้ง เข้าไปเจออ่างล้างหน้าถัดไปเป็นชักโครกพร้อมสายชำระ 







ถัดไปมีประตูเปิดออกไปจะเป็นห้องน้ำแบบโอเพ่น มีเครื่องทำน้ำอุ่น น้ำแรงมาก ตอนกลางคืนเปิดน้ำอุ่นอาบน้ำท่ามกลางหมู่ดาว แฟนชอบห้องน้ำมาก





ออกจากห้องน้ำซ้ายมือจะเป็นประตูกระจกสองบานเลื่อนพร้อมติดมุ้งลวด สามารถชมวิวได้ตลอด 24 ชม.ห้องเป็นส่วนตัวมากไม่มีใครเห็นได้เพราะด้านนี้อยู่บนภูเขา





เปิดประตูออกจากห้องจะเป็นเชือนลานกว้างมาก มีโต๊ะอาหารให้ 1 ชุด เก้าอี้นอนปรับระดับได้ 2 ตัว ตอนเย็นๆนั่งกินมื้อค่ำชมบรรยากาศตรงเรือนชานนี้ครับ 






รูปนี้ถ่ายจากระเบียงห้องผม วิวสวยมาก







สำหรับไร่แสงอรุณ ที่ชอบอีกอย่างคือได้อ่านสมุดเยี่ยมของแต่ละท่านที่เขียนบันทึกไว้ เขียนได้น่ารักกันทุกคน ส่วนมากจะประทับใจที่พัก การต้อนรับและอาหาร ส่วนที่บ่นก็เป็นระยะทางการเดินทางมาลำบาก ไกล แต่มาถึงแล้วคุ้มค่าครับ นี่ก็เป็นอีกท่านที่เขียนได้น่ารักดี อดใจไม่ไหวต้องถ่ายเก็บไว้ดูเล่น







แนะนำที่พักเสร็จขอตัดมาตอนเช้า ผมชวนแฟนลงมาเดินเล่นข้างล่าง แฟนบอกขอนอนเล่นในห้องพี่ชอบเดินก็ลุยไปคนเดียวเลยมีอะไรค่อยโทรคุยกัน 555 ตามนั้น

ผมเดินลงมาถึงตีนเขาหมอกก็ยังตรึมเหมือนเดิม














ข้ามถนน หมอกหนาแน่นมาก เห็นได้ในระยะไม่เกิน 5 ม.







เดินมาถึงห้องประชุมสัมนา ตอนนี้ไม่เห็นแม่น้ำโขงและฝั่งลาวเลย หมอกคลุมไปหมด











วิวบ้านริมโขงก็เจอหมอกเต็มๆเหมือนกัน







กำลังถ่ายรูปเพลินๆ แฟนโทรมา ตอนแรกนึกว่าจะลงมากินข้าวเช้า (ราคาที่พักรวมอาหารเช้าแล้ว) บอกว่าพี่ขึ้นมาหน่อย ไม่รู้เป็นอะไรบ้านโยกอ่ะ สงสัยแผ่นดินไหว ส่วนผมอยู่ข้างล่างไม่รู้สึกอะไร ก็เลยต้องรีบขึ้นไปบ้านพัก เปิดข่าว แผ่นดินไหวจริงๆด้วยแต่ไม่แรงมาก

ไปถึงถามแฟนจะลงไปกินข้าวเช้าเลยไหม แฟนบอกขึ้นมาแล้วขออยู่ให้คุ้มหน่อย ยอมเสียมื้อเช้าไป ไว้ค่อยลงตอนห้าโมงกินมื้อเที่ยงแล้วคืนห้องทีเดียวเลย ตอนนี้พี่ฟาดมาม่าคัพไปก่อนแล้วกัน 555

มื้อเช้าหนาวๆซดมาม่าร้อนๆอร่อยอย่าบอกใครเชียว





หลังจากซดมาม่าเสร็จ แฟนผมก็นั่งเล่นนอนเล่นอะไรเรื่อยเปื่อย ส่วนผมก็เดินออกกำลังข้างบนนั้นแหละ





ห้าโมงเช้าก็ได้เวลาไปเที่ยวต่อ เดินลงมาถึงตีนเขาก่อนจาก ขออีกซักภาพ





ลงมาได้ก็สั่งอาหาร มื้อนี้มี

ต้มจืดแปะตำปึง ถ้วยนี้แฟนติดใจตั้งแต่มื้อเย็นเมื่อวานแล้วครับ







น้ำพริกลงเรือ อร่อยกว่าน้ำพริกกะปิเมื่อวาน 





ผัดมะเขือยาว ผักสด รสชาดไม่หวานมาก กลมกล่อมกำลังดี





ผัดถั่วแขก เห็ดหอม ถั่วแขกหวามมาก มื้อนี้อร่อยทุกอย่างเลย





ตามด้วยเค้กช้อกโกแลตอีกหนึ่งชิ้น แฟนผมบอกว่าอร่อย ผมชิมไปคำมันขมๆอ่ะ สงสัยลิ้นผมไม่อินเตอร์มั่ง 







ค่าอาหารสองมื้อ 1,100 บาทพอดี ไม่แพงอย่างที่คิด รับได้ครับ





ก่อนจากไร่แสงอรุณขอถ่ายรูปดอกไม้ไว้เป็นที่ระลึกหน่อย









เก็บของเสร็จได้เวลาเดินทางแล้วครับ ตามโปรแกรมที่ผมวางไว้ วันนี้ไม่ได้จองห้องพัก ตั้งใจจะไปกางเต้นท์ที่ภูชีฟ้าหรือไม่ก็หาที่พักเอาข้างหน้า ลุยโลด

ออกจากไร่แสงอรุณเลี้ยวซ้ายไปทางเชียงของ เส้นทางก็สองเลนรถวิ่งสวนกัน นานๆจะเจอรถซักคัน ก็วิ่งๆปุเรงๆตามสภาพถนนไป ดีบ้าง ไม่ดีบ้างก็ตามเรื่อง แต่ถนนเลาะริมโขงวิวสวยกว่ามาจากเชียงแสนอีก









ขับไปเรื่อยๆเห็นรถว่างถนนตรงนี้กว้างหน่อย ไม่ใช่ทางโค้ง เจอหลักกิโล ขอจอดแชะซักหน่อย





ลืมบอก ผมออกจากไร่แสงอรุณเวลา 11.34 น.ระยะหน้าไมล์ที่ 1,232 ก.ม. ขับมาเรื่อยก็มาถึงจุดชมวิวห้วยทรายมาน วิวก็อย่างที่เห็นนะครับ ใครจะแวะลงถ่ายรูปก็ได้หรือขับผ่านไปเลยก็ไม่เสียหาย ตรงจุดนี้ยังไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่











ผมลงไปถ่ายรูปไม่ถึงสิบนาทีก็ขับไปต่อ แล้วก็มาถึงเชียงของ เวลา 12.10 น.ระยะทางหน้าไมล์ 1,256 ก.ม. จากไร่แสงอรุณมาถึงเชียงของประมาณ 24 ก.ม.ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงได้ (ความเร็วประมาณ 80 ก.ม./ช.ม.) แล้วก็มาถึงทางแยกผมเลี้ยวซ้ายไปหาข้อมูลที่ท่าเรือบั๊กก่อนครับ





จากป้ายเลี้ยวซ้ายไปไม่ไกล (ประมาณหนึ่งกิโล)ก็มาถึงท่าเรือบั๊ก หาที่จอดรถได้ก็ลงไปถามข้อมูล เราสามารถเอารถข้ามแดนไปเที่ยวลาวได้แต่ต้องทำใบผ่านแดน แต่ถ้าจะไปเที่ยวหลวงพระบาง ต้องมีพาสปอร์ต ข้ามไปฝั่งลาวจะมีเรือวิ่งไปถึงหลวงพระบางข้อมูลผมให้ไว้ในบล็อกที่แล้วนะครับ สนใจลองกลับค้นดูวันที่ 5 แม่สลอง-เชียงแสน ข้อมูลจะอยู่ในกล่องคอมเมนท์

แถวนั้นจะมีที่รับฝากจอดรถเป็นวันด้วยครับ มีหลายเจ้าอยู่เหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ถามราคา ถ้าใครจะไปเที่ยวลาวผมว่ายอมเสียค่าจอดดีกว่าครับปลอดภัยกว่า เกิดโดนขโมยแค่ข้ามฝั่งไปก็ลาวแล้ว ไม่ได้คืนแน่ ส่วนผมขับลงไปจอดลงลานจอดรถข้างล่างไม่เสียตังค์จ้า

ตรงนี้เป็นด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงของแล้ว





ช่วงที่ผมไปส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติBackpackกันมาเป็นคู่ๆ เห็นนั่งรอเรือข้ามฝากไปลาวกันหลายคู่เหมือนกัน

มาติดต่อขอใบผ่านแดนตรงนี้เลยครับ





เห็นแผนที่ท่องเที่ยว ไทย-ลาว- จีน ถ่ายรูปมาฝากแล้วกัน









ได้ขอมูลมาพอสมควร ก็ขับไปเชียงของต่อ

แผนที่ เมืองเชียงของ ขอบคุณเวปแผนที่เชียงของ ขอบคุณข้อมูลจากเวป คลิ๊กเลย





ก่อนไปผมหาข้อมูลเมืองเชียงของมาพอสมควร เชียงของเป็นเมืองเล็กๆ มีเกสต์เฮาท์น่ารักๆราคาถูกเยอะเลย ส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวBackpack มานอนค้างเพื่อไปเที่ยวต่อยังประเทศลาว

สำหรับเชียงของที่ผมอยากไปดูคือ สาหร่ายไก อยากเห็นเค้าไปเก็บกัน ในเมืองไทยน่าจะมีอยู่สองที่ คือที่เชียงของกับท่าวังผา จ.น่านเสียดายตอนผมไปเที่ยวน่านผ่านวังผาด้วยแต่ไม่ได้แวะชม
ข้อมูล คลี๊กเลย

ผลิตภัณฑ์จากสาหร่ายไกน้ำโขง สินค้าโอทอป 4 ดาว
"สาหร่ายไก" อาหารจากภูมิปัญญาชาวบ้านอำเภอเชียงของ แหล่งปลาบึกแห่งลุ่มน้ำโขงหนึ่งเดียวของประเทศไทย ชาวอำเภอเชียงของมีความเชื่อสืบสอดกันมาหลายชั่วอายุคนว่า ในหนี่งปีควรได้บริโภคสาหร่ายไกอย่างน้อยหนึ่งครั้งเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง และมีอายุยืนยาว ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของสาหร่ายชนิดนี้ด้วยเทคโนโลยีทาวิทยาศาสตร์พบว่า สาหร่ายไกอุดมไปด้วยแร่ธาตุ "ซิลีเนียม" สารต่อต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง และมีในปริมาณสูงกว่าอาหารปรกติทั่วไป รวมทั้งยังมีโปรตีนและใยอาหารในปริมาณที่สูงด้วย และนี่คือสินค้าเพื่อสุขภาพของภูมิปัญญาชาวบ้านที่อยากนำเสนอ

อีกที่ที่อยากเห็นคือ หาดจับปลาบึก
อยู่ที่บ้านหาดไคร้ หมู่ที่ 12 ต.เวียง ซึ่งเป็นแหล่งจับปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของ จังหวัด โดยมีฤดูการจับอยู่ในระหว่างกลาง เดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม ในแต่ละปีมีการผสมพันธุ์ปลาบึก ที่สถานประมงเชียงของเพื่อนำพันธุ์ปลาบึกที่ผสมได้ แจกจ่ายปล่อยตามแหล่งน้ำสาธารณะต่าง ๆ ทั่วประเทศ
ข้อมูลจากเวป คลิ๊กเลย

บ้านหาดไคร้ ช่วงที่ผมไปยังไม่มีการจับปลาบึกแค่อยากไปเห็นสถานที่ก็พอ ผมถามทางชาวบ้านก็บอกไม่ถูก ขับวนไปวนมา สรุปทั้งสองที่ผมไม่ได้ไปเลยครับ ฮือๆ เสียดายมากกกก

ขับออกมาจากตัวเมืองเชียงของ มาติดไฟแดงตรงแยกทุ่งงิ้วเห็นป้ายบอกไปเวียงแก่น เลยเลี้ยวซ้ายไปตามป้าย ถนนเส้นนี้จะวิ่งเข้าตัวหมู่บ้าน ถนนไม่ค่อยดีเท่าไหร ดีตรงร่นระยะทางได้หลายกิโล แล้วก็ออกมาถึงถนนใหญ่ เลี้ยวซ้ายไปต่อ เส้นทางเรียบขับสบายๆ ขับไปได้หน่อยก็มาถึงห้วยเอียนประตูสู่เวียงแก่นครับ





จุดนี้แนะนำแวะพักรถได้ครับ มีร้านอาหารหลายเจ้า จุดชมวิวสวยกว่าห้วยทรายมาน จะอยู่ตรงโค้งพอดีให้จอดได้ทั้งทางซ้ายและขวาของถนน ป้ายนี้จะอยู่ตรงโค้งด้านซ้าย









วิวสวยดีครับ ดูแม่น้ำโขงตรงนี้ยิ่งใหญ่จริงๆ







ถ่ายแบบไม่ซูม จะเห็นเรือหาปลาชาวบ้านลำนิดเดียวเองครับ ถ้าเทียบกับแม่น้ำ





พักรถ ถ่ายรูปได้ซักพัก ก็ขับมาตามเส้นทาง แอบมีขึ้นเขานิดหน่อยไม่ถึงกับสูงชัน แค่เนินธรรมดาๆ แล้วก็มาถึงแยกเวียงแก่นเวลา 13.24 น.ระยะทาง 1,292 ก.ม. มาถึงสามแยกตัวที เลี้ยวขวาจะไปดอยผาตั้งภูชีฟ้า ผมเลี้ยวซ้ายก่อนครับ ไปเที่ยวแก่งผาไดกันก่อน





จากแยกเวียงแก่นไปแก่งผาไดระยะทางประมาณ 13 ก.ม.ได้ครับ ผมมาถึงแก่งผาไดเวลา 13.48 น.หน้าไมล์ 1,305 ก.ม.





ถนนจากแยกเวียงแก่นไปแก่งผาได จะเป็นถนนลาดยางบ้าง ถนนคอนกรีตบ้าง เป็นถนนสองเลนรถวิ่งสวนกัน ถนนไม่กว้างมาก บางช่วงถนนไม่ค่อยดี ก่อนจะถึงแก่งผาไดประมาณ 7 ก.ม.จะถึงหมู่บ้านให้ขับผ่านหมู่บ้านตรงไปตามถนนก็มาถึงแก่งผาไดแล้วครับ (ถนนไม่ค่อยดีอยู่ช่วงหนึ่ง เป็นหลุมเป็นบ่อแต่ไม่ถึงกับเลวร้าย) ช่วงที่ผมไปไม่มีรถวิ่งสวนมาซักคัน แต่ไปถึงแล้วมีนักท่องเที่ยวพอสมควรครับ

ถ่ายรูปแผนผังแก่งผาไดมาฝาก





แก่งผาได เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของตำบลม่วงยาย มีพื้นที่ประมาณ 17 ไร่ เป็นสวนสาธารณะพักผ่อนหย่อนใจ มองเห็นธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนพฤษภาคม จะเป็นช่วงน้ำลดน้อยลง ทำให้มองเห็นโขดหินที่โผล่พ้นแม่น้ำ ปกคลุมไปด้วยพื้นพันธ์ธรรมชาติ ประกอบกับอากาศที่บริสุทธิ์ มองเห็นฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโขง คือ สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว





แก่งนี้นอกจากปกคลุมด้วยทรายแล้ว ยังมีก้อนหินขนาดเล็กมากมาย ก้อนหินเหล่านี้จะเป็นแหล่งกำเนิดไก เช่นเดียวกับแก่งหินใต้น้ำ หาดทรายยังเป็นที่อาบน้ำเล่นทรายของนกอีกด้วย และมีแก่งหินที่มีลักษณะเป็นแท่งหินตั้งอยู่ในแม่น้ำโขง ซึ่งเกิดจากการทับถมของตะกอนแม่น้ำจึงมีพืชริมน้ำขึ้นอยู่ คือ ต้นไคร้ ต้นไคร้หางนาคขึ้นอยู่จำนวนมาก ผาในแม่น้ำโขงบริเวณนี้จมอยู่ใต้น้ำในฤดูน้ำหลาก และโผล่เหนือน้ำในฤดูน้ำลดมีทัศนียภาพที่สวยงาม จนมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาล่องเรือเล็กชมความงดงามของลำน้ำโขง นักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวภูชี้ฟ้า ผาตั้ง ก็จะแวะมาท่องเที่ยวที่แก่งผาไดแห่งนี้ด้วย











เห็นภาพข้างบน ข้ามแม่น้ำไปก็เป็นลาวแล้วครับ ดูไม่กว้างเลยเนอะ แต่อย่าว่ายข้ามไปเชียว แถวนี้น้ำทั้งลึกและไหลแรงมาก และที่ผมมาแวะเที่ยวแก่งผาไดก็ตรงจุดนี้แหละครับ









แก่งผาได เป็นจุดชมทิวทัศน์แม่น้ำโขงจุดสุดท้ายของภาคเหนือก่อนที่แม่น้ำโขงจะไหลเข้าสู่เขตลาว มีสวนหย่อมและศาลาพักผ่อน - มีร้านขายส้มตำ อาหาร เครื่องดื่ม

ที่ตั้ง บ้านห้วยลึก ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น
รถยนต์ส่วนตัว จากตัว อ.เชียงของ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1020 (เชียงของ-เทิง)ไปทาง อ.เทิง ประมาณ 12 กม.เมื่อถึงหลักกม. 124 เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1155 ไป อ.เวียงแก่น เมื่อถึงหลัก กม.67 ตรงข้ามกับวัดหล่ายงาว มีทางแยกซ้ายมือ ปากทางเป็นป้อมตำรวจ ให้เลี้ยวซ้ายไปอีก 7 กม. ผ่าน สภ.อ. เวียงแก่นถึงบ้านห้วยลึก จากนั้นตรงไปตามป้ายบอกทางอีก 5.9 กม. สุดถนนที่แก่งผาไดพอดี

รถรับจ้าง เหมารถสองแถวสีแดง คิวรถอยู่หน้าที่ว่าการ อ.เวียงแก่น ค่าเช่าไม่ควรเกิน 200 บาท 







สิ่งน่าสนใจ 

ชมทิวทัศน์ จากบริเวณแก่งผาไดจะเห็นเกาะแก่งขนาดใหญ่กลางแม่น้ำโขงเป็นโขดหินสีดำ สายน้ำไหลเชี่ยวกราก ต่างไปจากสายน้ำโขงช่วงที่ไหลผ่าน อ.เชียงแสน และเชียงของ จุดนี้เป็นจุดสุดท้ายของแม่น้ำโขงที่กั้นพรมแดนไทย-ลาว ทางภาคเหนือจากนั้นแม่น้ำโขงจะไหลเข้าสู่ฝั่งลาว และแนวพรมแดนไทย-ลาว จะใช้เทือกดอยผาหม่นแทน สามารถชมทิวทัศน์และภาพชีวิตชาวลาวนั่งเรือไปหลวงพระบาง โดยต้องหลบหลีกเกาะแก่งกลางน้ำ
ข้อมูลจากเวป คลี๊กเลย

จุดสิ้นสุดแม่น้ำโขง ตรงจุดนี้แม่น้ำโขงจะมาสุดฝั่งไทยตรงนี้แล้วไหลเข้าประเทศลาว







ที่แก่งผาไดมีจุดกางเต้นท์หลายจุดเหมือนกัน ห้องน้ำ ผมลองเดินเข้าไปสำรวจยังไม่ค่อยดีเท่าไหร ตอนที่ผมไปกำลังพัฒนาและปรับปรุงอยู่ คิดว่าอีกไม่นานคงจะดีขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปกางเต้นท์นอน ส่วนอาหารเห็นเจ้าหน้าที่บอกว่าปิดไม่เกินหกโมงเย็น ถ้าใครจะไปเตรียมอาหารไปทำกินตอนกลางคืนก็ได้นะครับ

สำหรับแก่งผาไดคิดว่าเป็นจุดท่องเที่ยวน่าสนใจอีกที่หนึ่ง ตอนแรกก่อนไปก็หาข้อมูลอยู่เหมือนกัน ถามเพื่อนๆที่เคยไปมาแล้วบางคนก็บอกไม่มีอะไร บางคนก็บอกว่าสวย สำหรับผมถ้ามีโอกาสไปเที่ยวเชียงรายอีก คิดว่าจะไปกางเต้นท์นอนเลยครับ เพราะชอบบรรยากาศธรรมชาติดี เงียบสงบ ถ้าท่านเบื่อคลื่นมหาชนที่ภูชี้ฟ้าผมว่าหลบคนมานอนเล่นที่แก่งผาไดก็ได้ครับ เป็นทางเลือกใหม่แล้วสายๆค่อยขับไปเที่ยวภูชี้ฟ้าก็ยังได้





นั่งชมวิว ถ่ายรูป หาข้อมูลเสร็จก็ได้เวลาขับไปภูชี้ฟ้าต่อครับ

ผมออกจากแก่งผาไดเวลา 14.15 น. ขับไปตามทางจะมีป้ายบอกเป็นระยะ ถึงแยกป้อมยาม สภ.เวียงแก่งก็เลี้ยวซ้าย แล้วก็ขับไปตามทาง ทางก็เริ่มจะขึ้นเขาเป็นบางช่วง จนมาถึงจุดชมวิวอยู่บนเขาก่อนถึงดอยผาตั้ง เป็นภูเขาสุดลูกหูลูกตา พาโนราม่า มากเลยครับ











ใครที่ชอบถามว่ารถเก่งเครื่อง 1500 ขึ้นเขาได้เปล่า ดูคันนี้ครับ ขับฉลุยเลย เจ๋งอ่ะ





จากจุดที่ผมถ่ายรูปขับไปอีกซักพัก ก็มาถึงดอยผาตั้ง จากดอยผาตั้งจะมีทางแยก ผมเลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 2 ก.ม.จะถึงจุดชมวิว ผาบ่องครับ 





ผมมาถึงผาบ่องเวลา 15.30 น.หน้าไมล์ 1,349 ก.ม. รวมระยะทางจากแก่งผาไดมาผาบ่องประมาณ 44 ก.ม.





ขึ้นไปถึงผาบ่องขับตรงไปสุดถนนพอดีจะเป็นลานจอดรถกว้างมาก ผมจอดรถได้ก็เดินกลับไปยังจุดชมวิวผาบ่อง

ทางด้านซ้ายมือจะเป็นร้านขายอาหาร เครื่องดื่มชา กาแฟ ของที่ระลึก มีหลายร้านเรียงตามรายทาง ด้านขวาจะเป็นทางขึ้นไปยังจุดชมวิว ตรงป้ายผาบ่องข้างบนนั้นแหละครับ





ผาบ่อง ประตูสยาม

ทางขึ้นภูผาตั้งได้มีการจัดทำบันไดหินคอนกรีตทำให้สะดวกสบายต่อการเดินขึ้นภูมากขึ้น จากปากทางขึ้นไปประมาณ 20 เมตร จะได้พบกับช่อง “ผาบ่อง ประตูสยาม” อันเปรียบเสมือนประตูจากประเทศไทยสู่ประเทศลาว ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าและสายน้ำโขงที่พาดผ่านเป็นเส้นยาวผ่านแนวป่าอย่างชัดเจน จะอยู่บนภูผาตั้งหรือดอยผาตั้ง ตั้งอยู่ที่บ้านผาตั้ง หมู่ที่ 14 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยเฉพาะจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผาตั้งนี้ เช่นเดียวกับที่ดอยแม่สลอง ลักษณะเป็นสันเขาคดเคี้ยว มองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามจับตาน่าชมยิ่ง โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์อัศดงยามเย็น ท้องฟ้าสดใสประดับทิวเมฆปุยยาวเรียงขนานไปตามแนวพื้นเหนือเนินเทือกเขา ประดับสีสันสีชมพูอมแสด มองเห็นดวงตะวันกลมโตสีส้มฉูดฉาดค่อยๆ ลับทิวเมฆกลืนลงไปตามแนวสันเขายิ่งงดงาม ประทับใจ

ระยะทางเดินเที่ยวบนผาบ่อง

ศาลาอนุสรณ์นายพลหลี่ ระยะทาง 100 ม.
พระพุทธรูป ระยะทาง 150 ม.
ป่าหินยูนาน ระยะทาง 250 ม.
ช่องเขาขาด ระยะทาง 350 ม.
เนิน 102 ระยะทาง 450 ม.
เนิน 103 ระยะทาง 950 ม.







ถ้าใครเดินไม่ไหว จะมีม้าให้นั่งขึ้นไปชมวิวข้างบนได้ครับ เอ่อ..ม้าจริงๆครับ เค้าจะให้เราขึ้นไปนั่งแล้วชาวเขาเค้าก็จะเดินจูงเลาะตามเขาขึ้นไป ผมกับแฟนลองนั่งดู ไปแค่เนิน 102 ราคาไปกลับคนละ 150 บาทผมต่อเล่นๆ เหลือคนละ 130 บาท แฮ่ๆ (ถ้าไปเนิน 103 ราคาคนละ 350 บาทไป-กลับ)







ผมกับแฟนเพิ่งเคยนั่งม้าเป็นครั้งแรกแถมยังขึ้นเขาอีกต่างหาก ตื่นเต้นดีเหมือนกันครับ

ตอนจูงขึ้นเขาระหว่างทาง ทางก็แคบ ด้านขวามือก็ตกเขา ด้านซ้ายมือก็หน้าผาหินทั้งนั้น เวลาเดินขึ้นทางชันให้จับตรงอานหน้าทั้งสองมือพร้อมก้มไปข้างหน้า เวลาลงเขาให้เอามือจับตรงอานด้านหน้า อีกข้างให้จับตรงอานด้านหลัง แล้วเอียงตัวไปข้างหลัง เกิดเพื่อนตกใจแล้ววิ่งยาวผมจะทำยังไงเนี้ย นี่แค่เดินช้าๆมีคนจูงยังเสียวๆอยู่เลย เห้อๆ แต่ก็ได้ประสบการณ์คุ้มค่าครับ

เดินมาถึงจุดแรก ช่องผาขาด แวะลงม้าถ่ายรูปก่อนครับ





ช่องผาขาด ที่ห่างออกไปราว 30 เมตร ช่องเขามีลักษณะเป็นหินผาที่ขาดแยกจากกันเป็นช่องมองลงไปเห็นทิวทัศน์ประเทศลาวและสายแม่น้ำโขงได้ชัดเจนเช่นกันเพียงแต่เป็นหน้าผาสูงชัน ผมเดินไปถ่ายรูปช่องผาใกล้ได้แค่นี้แหละครับ ตอนนี้ยังไม่อยากไปเที่ยวประเทศลาว 555







ถ่ายรูป ชมความงามเสร็จแฟนผมไม่ยอมนั่งม้าขึ้นไปบนเนิน 102 แล้วครับ บอกกลัว ผมก็กลัวเหมือนกันแต่ไม่กล้าบอกกลัวเสียฟอร์ม 555 ตกลงให้ม้าพักตรงช่องผาขาด ผมกับแฟนขอเดินขึ้นไปเองแล้วกัน

นี่ไงม้าผม ถ่ายจากเนิน 102







เส้นทางที่เดินเลาะเขามาครับ จาก A-B ไปกลับส่วนทางขึ้นเนิน 102 สูงชันกว่านี้ ผมไม่ได้ถ่ายรูปมานะครับ แต่ขึ้นไปแล้วบอกได้คำเดียวว่า วิวสุดๆ

















ไม่แน่ใจว่าตรงนี้เป็นเนิน 103 ดูทางขึ้นสิครับ รู้แล้วสิทำไมผมกับแฟนยอมเดินไม่ยอมนั่งม้าขึ้นเนิน หุหุ





มุมมหาชน ใครขึ้นมาเนิน 102 ก็ต้องถ่ายรูปนี้กัน ขอบ้าง แต่ผมถ่ายไม่สวยอ่ะ

เดี๋ยวไปภูชี้ฟ้าก็กลับไปทางนี้แหละครับ





ดูเวลา สี่โมงเย็นแล้ว ยังลั้นล้ากันอยู่เลย ที่พักก็ยังไม่มี แต่ไม่เป็นไร ภูชี้ฟ้าอีก 20 กว่ากิโลเอง เดินเล่นกินน้ำแถวร้านกาแฟตรงข้ามทางลงผาบ่อง ตั้งหลักก่อน





นั่งพักดื่มน้ำเสร็จก็ไปภูชี้ฟ้าต่อ ขับลงมาทางเดิม ถึงทางแยกเลี้ยวซ้าย ขับไปประมาณกิโล เห็นมีรีสอร์ทอยู่สองสามเจ้า เจอผาตั้งฮิลล์ รีสอร์ทอยู่ทางขวามือ วิวติดเขามาก แฟนให้แวะถามก่อนเลยครับ







วันนี้ห้องว่าง ถามราคา 1,200 รวมอาหารมื้อเย็นกับมื้อเช้า แฟนผมตกลงทันที อ้าว..ไหนว่าจะกางเต้นท์นอนที่ภูชี้ฟ้าไง ที่ดอยช้างก็ไม่ได้กางครั้งนึงแล้ว แฟนบอกว่า ภูชี้ฟ้าไปอีกไกล กว่าจะถึงก็มึดแถมอาหารก็ยังไม่รู้กินที่ไหน ที่กางเต็มเปล่าก็ไม่รู้นอนที่นี่แหละ พรุ่งนี้ค่อยไปภูชี้ฟ้าแล้วกัน ก็เลยต้องนอนที่ผาตั้งฮิลล์โดยปริยาย









เจ้าของน่ารักมาก เอากุญแจเดินไขให้ดูทุกห้องชอบใจตรงไหนก็เลือกเอาเลย ผมเลือกห้องข้างล่าง เป็นส่วนตัวดีไม่ยุ่งกับใคร ตรงนี้มีสามห้องเอารถลงไปจอดได้เลย มีอยู่สามห้อง แฟนผมเลือกห้องกลาง ไม่มีใครมาสรุปชั้นล่างผมกับแฟนนอนกันสองคน ส่วนห้องข้างบน ตอนเย็นมีนักท่องเที่ยวเกือบยี่สิบคนได้ มานอนพัก แต่เค้านอนข้างบนกัน เลยค่อยคึกคักขึ้นมาหน่อย 

ภายในห้องพักครับ ไม่มีอะไรมากก็มีเตียง โทรทัศน์ มีห้องน้ำในตัว มีน้ำอุ่นให้ ง่ายๆแต่มองเห็นวิวแจ่มดี ชอบครับ









ผมมาถึงผาตั้งฮิลล์ รีสอร์ท เวลา 16.22 น.หน้าไมล์ 1,352 ก.ม.
วิวมองจากห้องพักผมเลยครับ





หลังจากเก็บของเสร็จ เย็นก็เดินเล่น อยู่ในห้องไม่ไหวแดดส่องพอดี ขึ้นข้างบนเดินคุยกับเจ้าของอัทธยาศรัยดีมาก ใกล้หกโมงเย็นก็นั่งกินข้าวข้างบนเลยครับ บรรยากาศตรงโต๊ะทานข้าวผม วิวสุดยอด

ที่พักจะอยู่คนละส่วนกับร้านอาหาร แต่เดินกันไม่ไกล ที่จอดรถสะดวกสบายอยู่ระหว่างร้านอาหารกับห้องพัก





มาดูอาหารมื้อเย็นกัน มีขาหมูหนึ่งจานกินพร้อมหมั่นโถ อร่อยดีครับ แต่กินมากก็เลี่ยนเหมือนกัน 555 







หมูสามชั้นทำอะไรก็ไม่รู้ จานนี้เฉยๆ 





ส่วนผัดผักอร่อยทั้งสองจานเลยครับ ไม่รู้ทำไมกินผัดผักทางเหนือทำไมถึงอร่อยก็ไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะผักสดเก็บจากสวนเองเลยมั่ง ถึงอร่อย ใครสนใจผาตั้ง ฮิลล์ คลี๊กเลย







ผมกับแฟนก็นั่งกินไปชมบรรยากาศไป ดูพระอาทิตย์ตกตรงที่ผมนั่งทานอาหารมื้อเย็นนั้นแหละครับ วันนี้ขอจบทริปด้วยรูปพระอาทิตย์ตกที่ ผาตั้งฮิลล์ รีสอร์ทครับ ถ่ายจากห้องพักผม











พรุ่งนี้ไปดูดอกไม้ทิวลิป+นอนตัวเมืองเชียงรายกันครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nongmalakor&month=03-2013&date=05&group=15&gblog=31

ระยะทางจากที่วิ่งเที่ยว เชียงของ (ไร่แสงอรุณ)-ดอยผาตั้ง ทั้งหมด 120 ก.ม.

ค่าเสียหายวันนี้


ตอนเที่ยง ไร่แสงอรุณ
- ค่าอาหารกลางวัน 460 บาท

ตอนเย็น
- ค่านั่งม้าบนผาบ่องถึงเนิน 102 ราคา 260 บาท (คนละ 130 บาท)
- น้ำชามะนาว 1 แก้ว 25 บาท
- ค่าที่พัก 1,200 บาท

รวมทั้งหมด 1,945 บาท





 

Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2556
3 comments
Last Update : 26 มีนาคม 2560 16:31:54 น.
Counter : 28139 Pageviews.

 

ข้อมูลทั่วไปและการเดินทางไปดอยผาตั้ง


ตั้งอยู่ บ.ผาตั้ง หมู่ 14 ต.ปอ อ.เวียงแก่น เป็นชุมชนชาวจีนฮ่อสังกัดกองทัพที่ 8 กองพล 93 และชาวเขาเผ่าม้ง และเย้าที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่บนเทือกดอยผาหม่น มีอาชีพด้านเกษตรกรรม ปลูกดอกไม้เมืองหนาวสาลี่ ท้อ และชา เหนือหมู่บ้านเป็นจุดสูงสุด ลักษณะเป็นสันเขาคดเคี้ยวมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อน ในช่วงเช้ามีทะเลหมอกที่สวยงามในหน้าหนาวดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานสะพรั่งดอยผาตั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชมทะเลหมอกที่ขึ้นชื่อของ จ.เชียงราย มานานแต่การเดินทางค่อนข้างยากลำบาก

· มีที่กางเต็นท์พักแรม ที่ลานจอดรถ ติดต่อ อบต.ปอ โทร.053-918-265 , 09-951-9830 มีเต็นท์ให้เช่า ขนาด 2 คน ราคา 200 บาท/คืน

· มีที่พักเป็นเกสต์เฮ้าส์ ติดต่อที่นายอนันต์ บรรลุศักดิ์ โทร.053-918-265 , 09-851-8743 ราคา 400 บาท/คน/คืน รวมอาหารเช้า



ประวัติ :

ดอยผาตั้ง เดิมเป็นพื้นที่ที่รัฐบาล จัดสรรให้ทหารจีนสังกัดกองพล 93 มาตั้งถิ่นฐาน เช่นเดียวกับที่ดอยแม่สลอง ภายใต้การดูแลอย่างเข้มงวด ทหารกองพล 93 วางกำลังเป็นกองร้อย กระจายกำลังไปตามสันดอยต่างๆ เนื่องจากบริเวณดอยผาตั้งมีช่องเขาที่ใช้ผ่านเข้าออกไปยังประเทศลาวเพียงช่องทางเดียว เรียกว่าช่องประตูผาบ่อง ส่วนด้านอื่นของดอยผาหม่น เป็นหน้าผาสูงชันไม่สามารถผ่านเข้าออกได้ ที่นี่จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสมรภูมิดอยผาหม่นทหารสังกัดกองพล 93 ได้เข้าเป็นอาสาสมัครร่วมรบ เคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารไทยเมื่อสถานการณ์คลี่คลายมาตรการควบคุมทหารจีนเหล่านี้ก็ผ่อนปรนลงและเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว



การเดินทาง:

รถยนต์ส่วนตัวจาก อ.เชียงของ ใช้เส้นทางเชียงของ-เทิงจากนั้นเข้าทางหลวงหมายเลข 1155 ผ่าน อ.เวียงแก่น ไปจนถึงหลัก กม.52 เลี้ยวซ้ายที่สามแยกบ้านปางหัด ไปตามถนนขึ้นดอยผาตั้ง ระยะทาง 15 กม.สภาพถนนเป็นทางลาดยาง แต่มีหลุมบ่อ และสูงชัน ควรใช้รถกระบะแรงดีหรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น เมื่อถึงบ้านผาตั้ง จะพบสามแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1093 (ไปภูชี้ฟ้า) ประมาณ 1 กม.มีทางแยกซ้ายมือขึ้นดอยชันไปยังจุดชมวิวดอยผาตั้ง บนยอดเนิน 103 และช่องประตูผาบ่องระยะทาง 1.5 กม. ถนนสิ้นสุดที่ฐาน ตชด. ต้องเดินเท้าขึ้นเนิน เพื่อชมทิวทัศน์อีก200 ม.

รถประจำทางมีรถสองแถวใหญ่สีน้ำเงินสายเชียงของ - ผาตั้งท่ารถอยู่ที่ปั๊มเอสโซ่ ใกล้บ้านหาดไคร้ ค่าโดยสาร 60 บาท มีรถวันละ 2 เที่ยว เวลา09.00 น. และ 15.00 น. ใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง



สิ่งที่น่าสนใจ:

ชมทะเลหมอกจุดชมทิวทัศน์ยอดดอยผาตั้งที่สวยที่สุด อยู่ที่ยอดเนิน 103 เพราะเดิมอยู่ในความดูแลของกองร้อยที่ 103 เป็นยอดดอยสูงประมาณ 1,800 ม.จากระดับน้ำทะเล หันหน้าไปทางทิศตะวันออกของฝั่งลาวในช่วงเช้าจะปกคลุมด้วยทะเลหมอกที่กำเนิดจากแม่น้ำโขงในเขตลาว

ก่อนถึงยอดเนิน 103 จะมีช่องเขา เรียกว่าช่องประตูผาบ่องเป็นช่องเขาที่เป็นทางเดินเท้าผ่านไปยังประเทศลาวเคยมีการสู้รบดุเดือดในสมรภูมิดอยผาหม่น

ข้อมูลจากเวป คลี๊กเลย

 

โดย: nongmalakor 21 กุมภาพันธ์ 2556 17:28:46 น.  

 

จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนดอยผาตั้ง

1. จุดชมวิวผาบ่องประตูสยาม

เป็นหน้าผาหอนขนาดใหญ่ตรงกลางเป็นเนินช่องเขาเหมือนประจู เป็นช่องทางไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว




2.ศาลาเก๋งจีน- พระพุทธมังคลานุภาพลาภสุขสันติ -ป่าหินยูนนาน

ถัดจากช่องผาบ่องขึ้นไปอีกราว 15 เมตร จะเป็นเนินที่ประดิษฐานพระพุทธมังคลานุภาพลาภสุข สันติและ ศาลา ทรงเก๋งจีน อนุสรณ์สถานของนายพลหลี่ ผู้นำ ทจช. ในอดีต จากเนินตรงนี้เดินลงไปอีก 30 เมตร ก็จะพบทางขึ้น ไปชม ป่าหินยูนนาน ซึ่งเป็นหินรูปทรงลักษณะ คล้ายภูเขาในประเทศจีนที่มีรูปทรงสูงๆ หลายแหลมขึ้นสลับ ซับซ้อนสวยงามมาก






3.จุดชมวิวช่องผาขาด

เป็นขุดชมวิวที่อยู่ใกล่วิวผาบ่องประตูสยาม ลักษณะเป็นผาหิน ที่ขาดแยกจากกันเป็นช่องมองลงไปเห็น ทิวทัศน์ ประเทศลาวและสายแม่น้ำโขงได้ชัดเจน




4.จุดชมทะเลหมอกเนิน 102

จากจุดผาขาดเดินขึ้นดอยต่อไปยัง เนิน 102 ระยะทางกว่า 300 เมตร เป็นเนินเขาลูกหนึ่งบนดอยผาตั้ง เป็นจุด ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ที่นักท่องเที่ยว นิยมไปมากที่สุด สามารถมอง เห็นทะเลหมอกได้กว้างไกลสุดตา ละลอกคลื่นอยู่ไกลๆ




5.จุดชมทะเลหมอกเนิน 103
เป็นเนินเขาอีกลูกบนดอยผาตั้ง อยู่ห่างจากเนิน 102 ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 500 เมตร ลักษณะบนเนิน 103 มีหินขนาดใหญ่อยู่บนเนิน เป็นจุดชมวิวที่สวยงามจะเป็น จุดชมทะเลหมอก ที่กล่าวได้ว่าสวยงามที่สุด กว่าทุก ยอดบนดอยผาตั้งเพราะจะชมทะเลหมอกได้กว้างไกลแบบพานอรามา



ที่ดอยผาตั้ง บนเส้นทางขึ้นไปจุดชมวิว มีบริการขี่ม้าชมวิว คิดค่าบริการ 150-300 บาท แล้วแต่ระยะทาง




ที่พักดอยผาตั้ง

ผาตั้งฮิลล์ รีสอร์ท โทร 087 191 5037 //www.phatang.com

อาซาเลีย การเด้นท์ โทร 089 561 3011 //www.doiphatang.com/a-salia.html

เหมยฮัว โทร 087 191 8808 //www.doiphatang.com/meyhwua.html

พัชรี รีสอร์ท โทร 081 950 5731 //www.doiphatang.com/putcharee.html

บ้านกาแฟ โทร 08 4894 1608 , 08 6924 7038 //www.doiphatang.com/baancoffe.html

ผาตั้ง รีสอร์ท โทร 084 894 1608
ร่มฟ้าสยามฮิลล์ โทร 089 851 8743

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
องค์การบริหารส่วนตำบล อ. เวียงแก่น จ. เชียงราย โทร 053 710 300 ,053 918 265

ข้อมูลจากเวป คลี๊กเลย

 

โดย: nongmalakor 21 กุมภาพันธ์ 2556 17:40:50 น.  

 

การเดินทางไปดอยผาตั้ง อีกเส้นทาง

เส้นทางถนนหนทางที่จะขับรถขึ้นมาเที่ยวดอยผาตั้ง วันนี้มีความสะดวกสบายมากกว่าสมัยก่อน ถนนส่วนใหญ่ราดยางแล้ว มักจะมีลูกค้าถามว่า รถเก๋งสามารถขับขึ้นไปเที่ยวดอยผาตั้งได้มั้ย ? หรือได้ยินมาว่าต้องใช้รถ 4x4 มั้ยตอนนี้นะเหรอ ไม่ต้องใช้รถ 4x4 แล้ว ถนนราดยาง รถเก๋ง ทุกชนิด ขับมาได้ ยกเว้นรถบัสทัศนาจร เว็ปบางเว็ปก็มีข้อมูลที่เก่าไม่ได้ปรับปรุงข้อมูล ทำให้นักท่องเที่ยวกลัวและก็ไม่ทราบข้อเท็จจริง ยกเว้นหน้าฝนให้สอบถามกันก่อนมา เส้นทางหากมาจากทาง อ.เวียงแก่น เส้นทางส่วนใหญ่จะเป็นขาขึ้น จะสูงชัน ขอให้รถมีกำลังดี หน้าฝนสอบถามทางกันก่อน


นักท่องเที่ยว มักชอบจะมีคำถามว่า รถเก๋ง รถตู้ ขึ้นได้หรือไม่ ขอตอบว่าได้ เพียงแต่ว่าหากขับขึ้นมาจากเส้น อ.เวียงแก่น ถนนส่วนใหญ่จะเป็นขาขึ้น วิวสวยอย่าเพลินมากในการชมวิวจนลืมดูถนน ต้องระมัดระวังเรื่องเส้นทางคดเคี้ยวและสูงชัน และหากท่านมาจากภูชี้ฟ้าหรือจากผาตั้งจะไปภูชี้ฟ้าจะมีสะพานเบี่ยงบางจุด แต่ก็สามารถขับผ่านมาได้ ดูรูปและหาข้อมูลและเตรียมตัวเตรียมสภาพรถให้ดีแล้วกัน

คำเตือน อย่าเดินทางมาถึงมืดค่ำ เวลาที่เหมาะสมหากท่านอยู่ที่ตัวเมืองหรือแม่สาย ควรเผื่อเวลาการเดินทางก่อนประมาณ 2.30-3 ชม หากมาถึงค่ำ สองข้างทางเป็นขุนเขา จะมืดและท่านก็จะกลัว ขอให้สนุกกับการขับขี่อย่างปลอดภัยค่ะ จาก phatang.com


เชียงราย – เทิง – ภูชี้ฟ้า – ดอยผาตั้ง

จากจังหวัดเชียงรายเราใช้เส้นทางสายเชียงราย – เทิง ( ทางหลวงหมายเลข 1020 ) เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางปางค่า – ภูชี้ฟ้า ( ทางหลวงหมายเลข 1021 ) ที่แยกบ้านปี้ ราว 21 กิโลเมตร ถึงแยกบ้านร่มฟ้าไทย ( เลี้ยวขวาไปทางภูชี้ฟ้า ) เลี้ยวซ้ายตรงไปอีก 20 กิโลเมตร ถึงบ้านร่มฟ้าสยาม จากบ้านร่มฟ้าสยามเดินทางขึ้นมาทางเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร จะถึงทางแยกขึ้นไปภูผาตั้งระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร ถึงปากทางขึ้นภูผาตั้งซึ่งเป็นฐาน ตชด.เดิม มีลานจอดรถกว้างใหญ่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านค้าอาหารและของที่ระลึก และห้องน้ำสะอาดไว้รองรับนักท่องเที่ยว



เชียงราย – เวียงชัย – พญาเม็งราย – บ้านต้า – ดอยผาตั้ง

จากจังหวัดเชียงราย ใช้เส้นทางเชียงราย-เวียงชัย –พญาเม็งราย –บ้านต้า (ทางหลวงหมายเลข 1233, 1173 และ 1152) 50 กิโลเมตร บ้านต้า-บ้านท่าเจริญ (ทางหลวง 1020 ) 45 กิโลเมตร บ้านท่าเจริญ-เวียงแก่น-ปางหัด (ทางหลวงหมายเลข 1155 ) 17 กิโลเมตร และปางหัด-ดอยผาตั้ง อีก 15 กิโลเมตร สภาพเส้นทางบางช่วงสูงชัน


โดยสารรถประจำทาง

จากเชียงของ นั่งรถบัส สายเชียงราย-เทิง-เชียงของ ลงเชียงของ จากนั้นต่อรถขึ้นมาที่ดอยผาตั้ง วันละ 2 เที่ยว ประมาณ 8.00 กับ 12.00 น.


เหมารถสองแถวสีฟ้า

ทางที่สะดวกที่สุดคือเหมารถสองแถวสีฟ้าจากเทิง มาภูชี้ฟ้า - ดอยผาตั้ง

แผนที่ไปดอยผาตั้ง



ข้อมูลจากเวป คลี๊กเลย

 

โดย: nongmalakor 21 กุมภาพันธ์ 2556 17:47:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Google
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
21 กุมภาพันธ์ 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.