เยือนเมืองสามหมอก นอนกอดเมือง Plus (วันที่ 1 นนทบุรี – ลำปาง เขลางค์นคร )

วันเสาร์ที่ 3 ธ.ค.59

ทริปนี้วางแผนขับรถเที่ยวแม่ฮ่องสอนเป็นวงกลม ตั้งใจพักไปเรื่อยๆระหว่างทาง จัดการจองที่พัก คนพร้อม รถพร้อม เส้นทางพร้อม ลุยโลด... 

 
 

เวลา 05.51 น.ได้ฤกษ์ล้อหมุนจากบ้านนนทบุรี น้ำมันเต็มถัง เซทไมล์ไว้ที่ 0 เหมือนเดิม

 
 

จากศาลากลางนนทบุรี แยกแครายเลี้ยวซ้ายผ่านปากเกร็ดขับตรงไปเรื่อยๆจะเจอ แยกสมเด็จ แยกบางกระดี่ จนถึงสามแยก รพ.กรุงสยามเซนต์คาร์ลอสผ่านสามแยก รพ.ขับตรงไปแล้วชิดขวาจะมีป้ายบอกไปศูนย์ศิลปชีพบางไทรให้ขึ้นสะพานแล้วเลี้ยวขวา ขับตรงไปเรื่อยๆจะผ่าน เชียงราก- บางปะอิน–แยกอยุธยา-บางปะหัน เข้าเส้นถนนเอเชีย ยิงยาวมาถึงปั๊มบางจากก่อนถึงแยกอินทร์บุรีแวะเติมพลังก่อน

มาถึงปั๊มบางจาก สิงห์บุรี เวลา 7.25 น.ระยะทาง136.7 กม.

 
 

มื้อเช้าฝากท้องไว้ที่ร้านข้าวแกงแม่ทองคำ พะแนงเนื้อ-ไข่ดาว กับ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย-ไข่พะโล้ รสชาติอร่อยพอใช้ได้ รอดตายไปหนึ่งมื้อ




 
 
 

อิ่มเสร็จออกจากปั๊มเวลา 7.50 น.ตียาวผ่าน สิงห์บุรี – ชัยนาท – นครสวรรค์ผมวิ่งเข้าตัวเมือง ไม่ได้ใช้ทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ การจราจรในเมืองรถติดนิดหน่อยแต่ถนนน่าจะโอเคกว่าถนนเลี่ยงเมือง ออกจากนครสวรรค์ใช้ทางหลวง 1 ผ่านกำแพงเพชร – ตาก ถึงทางผ่าน อ.เถิน เวลา 12.15 น.ระยะทาง 491.7 กม.แวะกินก๋วยเตี๋ยวปู่โย่ง (สาขาเถิน) ข้างทางรองท้องมื้อเที่ยงก่อน

กระเพราหมูไข่ดาว ใช้ข้าวกล้องด้วย

 
 

เกาเหลาเนื้อทุกอย่าง 

 
 

หมี่แห้งเนื้อ ลูกชิ้นอร่อยดีครับ รสชาติโดยรวมอร่อยแต่ยังสู้ที่ลำปางไม่ได้ 

 

 

ประมาณครึ่งชั่วโมงออกเดินทางไปลำปาง ก่อนถึงตัวเมืองลำปาง ผมแวะไหว้พระธาตุลำปางหลวงก่อนครับทางผ่านพอดี

วัดพระธาตุลำปางหลวงอยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางประมาณ18 กิโลเมตร ใช้เส้นทางหลวงสายลำปาง-เถิน เมื่อมาถึงหลักกิโลเมตรที่ 586 มีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป ขับไปตามทางเรื่อยๆ จนถึงที่ว่าการอำเภอเกาะคาจากนั้นเลี้ยวขวาไปอีก 3 กิโลเมตร จะเห็นวัดพระธาตุลำปางหลวงอยู่ทางด้านซ้ายมือ วิ่งตามกูเกิ้ล คลิกเลย

 
 
 

ผมมาถึงพระธาตุลำปางหลวงเวลา 14.07 น.ระยะทาง 580 กม. 

***ระหว่างทางแวะปั๊ม 4 จุด ใช้ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม.

 
 

พระธาตุลำปางหลวงมีลานจอดรถกว้างขว้าง สะดวกสบายสามารถรอบรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากที่สำคัญฟรี

 
 

ใครอยากจะนั่งรถม้ารอบพระธาตุหรือถ่ายรูปกับรถม้าก็มีบริการให้ด้วยสนใจสอบถามราคากันเองเลยครับ

 
 

วันนี้แดดแรงมาก ไม่หนาวอีกต่างหาก

 
 

เป็นบันไดนาคขึ้นไปถึงซุ้มประตูใหญ่ที่เรียกว่า “ซุ้มประตูโขง” หรือ “มณฑป”ทางขึ้นไปไหว้พระธาตุ

 

 

ผ่านกำแพงแก้วเข้าไป สิ่งแรกที่เราจะเห็นก็คือ วิหารหลวง เป็นวิหารโถงเครื่องไม้สักขนาดใหญ่

 

 

เมื่อมองขึ้นไปก็พบกับลวดลายไม้ที่แกะสลักด้านหน้าวิหารหลวงเป็นลายสวยงาม

 

 

เข้าไปดูภายในวิหารกัน ตอนผมไปปี 55 ยังบูรณะอยู่เลยตอนนี้เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์สามารถเข้าไปไหว้ พระเจ้าล้านทอง องค์พระประธานประจำวิหารหลวงซึ่งอยู่ภายในกู่ปราสาท ได้แล้วครับ

 

 

รอบวิหารจะมี “ไม้คอสอง”ไม้ที่อยู่ด้านบนของแต่ละช่วงเสาที่มีภาพเขียนพุทธประวัติอันเก่าแก่ ทั้ง 24 แผ่นซึ่งยังคงความสวยงามและสมบูรณ์อยู่มาก

 

 

เพดานตกแต่งด้วยไม้อย่างสวยงาม

 

 

ถัดจากวิหารหลวงก็จะเป็น“องค์พระธาตุลำปางหลวง” ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำทรงกลมแบบล้านนาภายนอกบุด้วยทองจังโก ที่บริเวณยอดฉัตรทำด้วยทองคำภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระเกศาและพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ตามความเชื่อของการไหว้พระธาตุประจำปีเกิด พระธาตุลำปางหลวงถือเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีฉลูด้วยเพราะเริ่มสร้างในปีฉลูและแล้วเสร็จในปีฉลูเช่นกัน

 

 

ด้านข้างเป็นพระวิหารลายคำประวัติอ่านตามป้ายได้เลยครับ

 

 

สิ่งมหัศจรรย์ของวัดพระธาตุลำปางหลวงที่ไม่อยากให้พลาดโอกาสไปชมให้ได้ก็คือ“เงาพระธาตุกลับหัว” ที่อยู่ด้านในของ “ซุ้มพระบาท”แต่การเข้าชมเงาพระธาตุในซุ้มพระบาทนี้มีข้อห้ามไม่ให้คุณสุภาพสตรีขึ้นไปยังซุ้มพระบาทนะครับ

 

 

ซุ้มพระบาทจะอยู่ด้านหลังองค์พระธาตุลำปางหลวง

ตรงซุ้มพระบาทจะมีป้ายเตือนแสดงว่ามีคนแอบอ้างหากินกับซุ้มพระบาท

 

 

ขึ้นไปชมภาพข้างบนกันครับ

สำหรับสุภาพสตรีที่ไม่ได้ขึ้นชมเงาพระธาตุตรงซุ้มพระบาทก็ไม่ต้องเสียใจทางวัดจึงได้จัดสถานที่สำหรับดูเงาพระธาตุไว้อีกแห่งในวิหารลายคำซึ่งทุกคนสามารถเข้าดูได้ และไม่ต้องปิดห้องให้มืดมากก็ยังสามารถมองเห็นได้ชัดเจน

 

 

ไหว้พระ ทำบุญเสร็จได้เวลาเข้าที่พักแล้วครับ ออกจากพระธาตุเวลา 14.50 น.วิ่งเส้นซุปเปอร์ไฮเวย์แวะเติมน้ำมันก่อนถึงตัวเมืองลำปางผมเติมดีเซล วี พาว์เวอร์ ของเชลล์ ที่ลำปางลิตรละ 29.08 บาท (กทม.ลิตรละ 28.08 บาท แพงกว่ากัน 1 บาท เห้อๆ) หน้าไมล์ 594.4 กม.

 

 

ช่วงรอไฟเขียวถ่ายรูปเล่นตรงหลักกิโลยักษ์แยกห้าเชียง

 

 

จากสี่แยกตรงไปเชียงราย จะเข้าตัวเมืองลำปาง เลยเซนทรัลชิดซ้ายเข้าถ.สวนดอกยิงตรงไปอย่างเดียวกี่แยกไม่ต้องสนใจขับจนไปถึงสามแยกตัวทีถึงถนนตลาดเก่าเลี้ยวซ้ายผ่านตลาดกาดกองต้าตรงไปนิดเดียวก็ถึง อาลัมภางค์ ที่พักในคืนนี้  ถ้าใครงงวิ่งตามกูเกิ้ล คลิกเลย

 

 

ที่พักจะอยู่ด้านขวามือ มีที่จอดรถสะดวก ปลอดภัย

ผมมาถึงที่พักอาลัมภางค์ เกสต์เฮ้าท์ เวลา15.30 น.ระยะทาง 601.6 กม.

 

 

เข้าไปติดต่อที่พักกัน Tel.054-225-278  Mobile 081-764-1497,081-817-0899

 

 

ใครไม่ได้ขับรถมาที่พักเค้าจะมีจักรยานให้เช่าด้วย น่าจะให้ปั่นจักรยานฟรีเนอะ

 

 

แนะนำ เช็คอินเสร็จขอแผนที่พร้อมข้อมูลที่เที่ยวที่กิน ได้เลย มีเป็นเล่มเค้าจะฉีกให้มา 1 แผ่น

 

 

ผมจองล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน ได้ห้อง 2 เวียงดินอยู่ชั้นล่าง

 

 

ผมเคยมาพักแล้วครั้งนึง พักห้องบนเป็นห้องเล็กไม่มีแอร์ ไม่มีห้องน้ำ ราคา 350 บาทแต่ครั้งนี้ผมจองห้องแอร์ มีห้องน้ำในตัว ราคา 600 บาท เข้าไปดูห้องกันครับ

 

 

ประตูภายด้านในห้องพร้อมหน้าต่างไม้ติดกระจกสีดูคลาสสิค

 

 

ภายในห้องกว้างอยู่เหมือนกันเป็นเตียงเดี่ยวขนาด 5 ฟุต ที่นอนไม่นุ่ม ไม่แข็งเกินไป ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนผ้าเช็ดตัว มีให้พร้อมสะอาดพอประมาณ ที่สำคัญมีหมอนข้างให้ด้วย ผมเป็นคนติดหมอนข้างซะด้วย ชอบๆๆๆๆ

 

 

ด้านข้างเตียงเป็นห้องน้ำ ด้านนอกจะใช้จักรเย็บผ้าแปลงเป็นอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเก๋ดีครับ

 

 

ถัดมาตรงมุมปลายเตียงจะมีไม้แขวนเสื้อพร้อมรองเท้าสลิปเปอร์ให้2 คู่

 

 

ปลายเตียงจะเป็นชั้นวางของ มีทีวี โต๊ะทำงานตู้เย็น พร้อมแอร์ แถมปลั๊ก 3 ตาให้มาอีกอัน ตรงนี้มันดีงามมาก ส่วนเพดานคล้ายๆเสื่อกระจูดปูทับกันแสงจากร่องไม้ชั้นบนและให้ดูสวยงาม

 

 

ตู้เย็นมีน้ำให้ 2 ขวด

 

 

ดูห้องน้ำกันบ้าง

 

 

ด้านขวามือมีผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดมือให้คนละ 1 ผืน ตรงข้ามจะเป็นชักโครกพร้อมสายชำระ สะอาดมาก แถมพัดลมดูดกลิ่น 1 ตัว

 

 

มุมซ้ายมือมีเครื่องทำน้ำอุ่น ฝักบัวพร้อมแชมพูและยาสระผมเสียดายน้ำไม่แรงเท่าที่ควร แต่น้ำอุ่นใช้ได้ดี

 

 

หน้าห้องจะมีโต๊ะให้นั่งเล่น 1 ชุด

 

 

ออกไปชมตัวบ้านกันบ้าง ที่พักจะเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ใช้โทนสีเขียวตัดขาวทั้งตัวบ้านและภายในห้อง

 

 

ชั้นล่างจะมีพร๊อปให้ถ่ายมุมเก๋ไว้ให้เช็คอินกันด้วย

 

 

ขึ้นไปดูชั้น 2 กันบ้าง

 

 

ผมเคยพักห้องนี้ ห้อง 11 เคียงวัง ตอนนั้นอากาศเย็นมากไม่ต้องใช้แอร์ นอนสบาย ปีนี้ไม่หนาวเลย ตอนกลางคืนก็แค่เย็นๆ เฮ้อ...

 

 

สำหรับห้องน้ำส่วนรวมจะอยู่นอกตัวอาคาร

 

 

วันนี้ที่พักเต็ม มีแขกมาพักอยู่เกรงใจถ่ายมารูปเดียว

 

 

ลงไปสำรวจข้างล่างกันดีกว่า

ด้านข้างจะทำเป็นที่จอดรถอีกที่ (ที่จอดรถมีสองจุด) ส่วนด้านหลังทำเป็นโรงอาหารติดกับแม่น้ำวัง

 

 

อีกหลังจะทาสีชมพู ทำเป็นสำนักงานเราเช็คอินก็ตรงจุดนี้แหละครับ

 

 

ส่วนด้านหลังเมื่อก่อนทำเป็นเรือนไม้โล่ง โปร่งมีโต๊ะ เก้าอี้ ไว้ให้แขกที่มาพักนำอาหารมานั่งกินชมบรรยากาศริมแม่น้ำเดี๋ยวนี้ทำเป็นห้องพักไปซะแล้ว

 

 

สรุป ที่พักเป็นบ้านไม้น่ารักๆ ห้องไม่แคบจนเกินไปแต่ไม่กว้างมาก สมราคา ภายในห้องอุปกรณ์มีให้ครบ ห้องนอน-ห้องน้ำผ้าต่างๆจัดว่าสะอาดดี น้ำแรงไม่มาก ทีวีไม่ได้เปิดเลยไม่รู้ว่าดูได้กี่ช่อง ภาพคมชัดเปล่า เครื่องทำน้ำอุ่น+พัดลมดูดกลิ่นภายในห้องน้ำใช้ได้ปกติ แอร์เสียงดังเป็นระยะๆ แต่เย็นปกติ ตัวห้องไม่เก็บเสียงถ้าชั้นบนเจอเด็กวิ่งเล่นหรือเพื่อนห้องไม่เกรงใจ นรกแตกแน่ โชคดีที่ผมไปสองครั้ง เจอเพื่อนห้องมีมารยาทเลยไม่มีปัญหาตรงนี้ ไวไฟ ไม่ค่อยแรงแต่ดึกๆแรงอยู่เหมือนกันสถานที่ใกล้กาดกองต้าอยู่ในตัวเมืองเดินทางสะดวก เต็ม 5 ผมให้ 4 หักไป 1 คะแนนข้อหาเสียงแอร์ดังไปนิดนอกนั้นให้ผ่านหมด

แนะนำที่พักเสร็จ ไปกินข้าวกันครับออกจากที่พักเลี้ยวซ้ายเดินประมาณ 50 ม.ก็ถึงกาดกองต้าแล้ว

 

 

ก่อนถึงกาดกองต้าจะมีเกสต์เฮ้าท์เพิ่งเปิดใหม่มีแค่ 3 ห้องเอง ราคาห้องละ 700 หรือ 900 นี่แหละ จำไม่ได้แล้ว ใครสนใจก็โทรถามกันเองนะครับห้องน่ารักดีเหมือนกัน เจ้าของก็ใจดี ให้เข้าไปถ่ายรูปได้ เสียดายห้องมีแขกพักอยู่ไม่งั้นเค้าจะเปิดให้เข้าไปชมแล้ว

 

 

เดินมานิดเดียวก็ถึงหัวมุมวันนี้มีถนนคนเดินที่กาดกองต้า จะมีของขายตลอดถนนตลาดเก่า

 

 

เราเลี้ยวขวา เดินตรงไปเจอสี่แยก มีร้านอาหารข้าวต้มอร่อยบาทเดียว

 

 

ร้านจะอยู่ตรงมุมถนนพอดี จัดร้านได้น่ารักบรรยากาศดี ที่พักแนะนำบอกว่าถ้าไปเย็นโต๊ะจะเต็มเร็วมาก

 

 

มีชั้น 2 ด้วย

 

 

ส่วนครัวอยู่ด้านหน้าทำกันให้เห็นๆ ถ้าไม่สะอาดคงไม่มาทำโชว์เนอะ

 

 

มาดูเมนูคราวๆกัน ราคาน่ารัก น่าคบหาที่สุด

 

 

รอไม่นาน อาหารมาแว๊ววววว

ปลานิล 3 รส เหมือนทอดไว้แล้วนำน้ำพริกมาราด เฉยๆอ่ะ

 

 

ถั่วลิสงทอดจานนี้ 10 บาท กินกับข้าวต้มหรือแกล้มเหล้าโอเคเลย

 

 

หมูก้อนทอด เมนูแนะนำ รสชาติไม่จัดเท่าไหร่ ทอดแห้งไปหน่อย อร่อยพอประมาณไม่ถึงกับว๊าววววสั่งมากินเล่นๆไม่เสียหาย

 

 

ผัดผักบุ้ง ทอดผักบุ้งได้กรอบ เค็มกำลังดีรสชาติกลมกล่อมกินกับข้าวต้มแจ่มเลย

 

 

สี่อย่างนี้เสริฟมาพร้อมกัน

 

 

กินไปซักพักอาหารที่สั่งก็เริ่มทยอยเสิรฟต่อ

ผัดเห็ด-กุ้ง จานนี้อร่อยดีครับ ผัดร้อนๆรสชาติกลมกล่อม 

 

 

ผัดมะเขือยาว จานนี้ผัดสดๆ แฟนบอกอร่อยสุด

 

 

สั่งไป 6 อย่าง ข้าวสวย 2 ข้าวต้ม 1 น้ำเปล่า 1 ขวด น้ำแข็ง 1 กระติ๊กทั้งหมด 280 บาท รสชาติโดยรวมจะออกกลางๆ แต่ราคาน่ารักดี ถ้าไม่มีปลาไม่ถึงสองร้อยแน่ ส่วนปริมาณจานไม่ใหญ่ขนาด 2-3 คนกำลังดี

 

 

ระหว่างนั่งกินจะมีนักท่องเที่ยวนั่งรถม้าชมเมือง

 

 

อิ่มเสร็จก็เดินย่อยที่กาดกองต้า แค่ข้ามถนนก็ถึงถนนคนเดิน

เริ่มตั้งร้านกันแล้ว

 

 

อาคารฟองหลี จะอยู่หัวมุมกาดกองต้าหรือจุดเริ่มต้นถนนคนเดิน

 

 

เดินไปก็เป็นหอศิลป์ลำปาง

 

 

ข้างบนจะจัดนิทรรศการเกี่ยวกับในหลวง ร.9

 

 

ข้างบนจะมีสองห้องซ้าย-ขวา ตรงกลางห้องเปิดโล่งจัดนิทรรศการทั้งสามห้อง

 

 

ด้านล่างจะประดับโคมไฟ

 

 

เดินต่อไป เจอชิตาเกสต์เฮ้าท์อยู่กลางกาดกองต้า ชั้นล่างขายพวกกาแฟ ขนม นมเนยผมไมได้อุดหนุนนะครับ

 

 

เดินไปเรื่อยๆ เจอลูกชิ้นปิ้ง หลายร้านมาก เห็นเจ้านี้บอกว่าเป็นเจ้าแรกไม่มีสาขาอดใจไม่ไหวต้องลองชิม ไม้ละ 10 บาท (เจ้าเดียวกับเจ้าของบ้านสวนเกสต์เฮ้าท์)

 

 

ช่วงนี้ร้านเริ่มทยอยเปิด ผมก็เดินชมไปเรื่อยๆ

 

 

เดินได้ซักพักกลับไปตั้งหลักที่เกสต์เฮ้าท์ก่อน พอเริ่มเย็นกลับมาลุยกาดกองต้าอย่างเต็มตัว

ตอนเย็นปิดถนนตลาดเก่า ร้านค้าเริ่มคึกคักกันแล้ว

 

 

เลี้ยวขวาไปเริ่มต้นตรงสี่แยกร้านอาหารข้าวต้มบาทเดียวก่อน

 

 

ร้านแรกขนมปุงปัง โดนไป 1 ตัวไส้ถั่วแดง 7 บาท 

 

 

เดินมาถึงหอศิลป์เริ่มเปิดไฟ สวยจัง

 

 

เดินไปเรื่อยๆ

 

 

ฝากไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยมาเก็บ

 

 

ร้านนี้ไม่ได้อุดหนุน

 

 

เริ่มมืดยิ่งคึกคัก

 

 

เสียดายไม่ได้ลองชิม

 

 

เดินชมไปจนสุดถนนคนเดิน ถึงสะพานรัษฎา

 

 

อยากกินแต่ท้องไม่มีที่จะใส่อยู่แล้ว

 

 

อดใจไม่ไหว หมูทอดร้านนี้เจ้าถิ่นยืนรอคิวแน่นมาก ลองหมูทอดไป 3 ชิ้น 30 บาท รสชาติใช้ได้แต่ราคาแรงอยู่เหมือนกัน ระหว่างทางก็แวะชิมไปเรื่อย

 

 

เดินมาถึงสะพานรัษฏา สุดถนนคนเดินอีกฝั่ง

 

 

ได้เวลาเดินกลับที่พัก อิ่มยังไงก็ขอลองชิมข้าวปั้นโบราณหน่อย มีอยู่ 2-3 เจ้า ผมลองชิมตรงร้านหน้าตึกหม่องโง่ยซิ่น

 

 

ถ้วยละ 5 บาท เห็นเจ้าอื่น 4 บาท

 

 

ลองชิมอย่างละถ้วยก่อน

 

 

ข้าวปั้นโบราณ จะราดซอสโรยหัวไชโป๊เค็มสับและกระเทียมเจียวรสชาติจะเค็ม มัน ผมเฉยๆอ่ะ ส่วนขนมถ้วยคล้ายขนมเปียกปูนกะทิสด เค้าจะราดกะทิโรยงาดำและงาขาว ผมชอบถ้วยนี้มากกว่าออกหวานๆมันๆ

 

 

ถ้วยสุดท้ายบุหลันดั้นเมฆ ทำมาจากไข่ กะทิ น้ำตาลมะพร้าว ตรงกลางใส่สังขยา หากินยากแต่ผมเฉยๆ

 

 

ขนมเฉยๆแต่ได้บรรยากาศตรงนั่งโต๊ะไม้ไผ่เล็กๆ นั่งยองๆกิน ใครมีโอกาสไปเดินกาดกองต้าแนะนำลองชิมดูครับ หลังจากนั้นเดินกลับเข้าที่พัก

 

 

สำหรับวันนี้จบทริปชิวๆ พรุ่งนี้ไปเที่ยว แม่กำปอง นอนแช่น้ำร้อนที่สิปปะกันครับ คลิกเลย

 

***สรุปค่าใช่จ่ายวันนี้

 

-ค่าที่พัก อาลัมภางค์ 1 คืน 600 บาท

-อาหารมื้อเช้าที่ปั๊มน้ำมันบางจาก อินทร์บุรี 100 บาท

-ขนม-น้ำ 7/11 ทั้งหมด 104 บาท

-อาหารมื้อเที่ยง อ.เถิน 115 บาท

-เติมน้ำมันเต็มถัง เชลล์ ลำปาง วี พาว์เวอร์ 1,280 บาท (เติม 44.02 ลิตรลิตรละ 29.08 บาท)

-ทำบุญพระธาตุลำปางหลวง 120 บาท

-อาหารมื้อเย็น ร้านข้าวต้มบาทเดียว 280 บาท

-เซรามิค 50 บาท

-ขนมกินเล่น-น้ำ 247 บาท

 

รวมทั้งหมด 2,896 บาท

 

สรุป ระยะการเดินทางวันนี้ทั้งหมด 601.6 กม.

***จากบ้านมาถึงปั๊มเชลล์ลำปางระยะทางทั้งหมด 594.4 กม.เติม 44.02 ลิตรลิตรละ 29.08 บาท เฉลี่ยน้ำมัน 13.50 ลิตร/ก.ม.

 




Create Date : 11 ธันวาคม 2559
Last Update : 4 ตุลาคม 2564 13:29:05 น. 2 comments
Counter : 3802 Pageviews.

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 12 ธันวาคม 2559 เวลา:0:16:31 น.  

 
ตามไปเที่ยวด้วยนะคราบ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 13 ธันวาคม 2559 เวลา:18:01:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Google
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2559
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
11 ธันวาคม 2559
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.