หลังจากกางเต้นท์เสร็จก็ขับรถไปหาของกิน (ที่ขุนสถานมีแค่ บะหมี่สำเร็จรูปกับกาแฟ นะครับ ใครไปต้องเตรียมอาหารไปเอง) ผมลงจากขุนสถานเลี้ยวซ้ายกลับไปทางเดิมประมาณ 4 ก.ม.ก็ถึงหมู่บ้านมีอาหารตามสั่งขาย ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ ผมนั่งกินเสร็จก็สั่งอาหารนิดหน่อยไว้เผื่อมื้อเย็น
อิ่มเสร็จได้เวลากลับ ไปถึงก็ถ่ายรูป เดินเล่นที่ขุนสถาน ขอยิงรูปยาวเลยนะครับ
บ่ายๆเริ่มมีนักท่องเที่ยวมากางเต้นท์เพิ่มขึ้นแล้วครับ
อุโมงค์ต้นพญาเสือโคร่ง
เห็นเต้นท์ผมด้วย ตอนนั้นยังมีแค่เต้นท์ผมเต้นท์เดียว ตอนแรกนึกว่าจะไม่มีใครมากางตรงบริเวณนี้เป็นเพื่อนอีก
ที่กางเต้นท์เค้าจะปรับบริเวณที่กางเป็นขันบันไดและเอาฟางมาปูรองอีกที ชอบครับ เคยมาครั้งที่แล้วตั้งใจว่าจะต้องมากางตรงนี้ให้ได้ วันนี้ได้มาแล้วไม่ผิดหวังครับ
ยิงยาวไป
ตอนแรกนึกว่าดอกบ๊วย พอถามเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นดอกไหงครับ
ลงไปเดินข้างล่างทางเข้า สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน ข้างหน้าก็บานเต็มถนนเหมือนกันครับ
อาบเสร็จก็มาทำอาหารกินกัน ถามเจ้าหน้าที่แล้ว ให้ใช้แก๊สได้เลยทำการอุ่นอาหารและเจียวไข่กิน มากินด้วยกันครับ (ผมหอบอุปกรณ์ทำครัวมาจากบ้านเองครับ)
กินเสร็จเก็บของ เดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ทริปนี้นางแบบประจำตัวได้รูปสวยๆมาเพียบ ประมาณหนึ่งทุ่มมืดมาก เงียบสนิทแถมหนาวอีกต่างหาก ไม่รู้ทำอะไรเข้านอนในเต้นท์เล่นๆ แต่หลับจริงๆ 555 ตัดมาตอนเช้าเลยแล้วกัน
วันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค.57
เต้นท์มากางเยอะเหมือนกัน
ส่วนนี้เต้นท์ผม ไม่ได้จัดฉาก เลยดูเละๆหน่อย 555 หลังจากเดินเล่นได้ซักพักก็มาเก็บเต้นท์แล้วอาบน้ำเดินทางต่อ
ส่วนอาหารเช้าที่ขุนสถาน มีแค่กาแฟซอง บะหมี่สำเร็จรูป ไว้บริการนิดหน่อย
จ่ายค่าเข้าคนละ 20 บาทก่อน
ผมเดินเล่นแค่วัดมหาธาตุ เองครับ ตรงอื่นจัดงานคนเดินกันเยอะ
กินข้าวประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เดินทางกลับมาถึงอ่างทอง เห็นมีป้ายชิดซ้ายเป็นทางเลือกกลับปทุม-นนทบุรี-กทม. ลองไปแล้วกันครับ จะมีป้ายบอกตลอด วิ่งไปตามป้ายจะมาออกตรงแยกวรเชษฐ์ แล้ววิ่งเข้าปทุม-นนท์ได้เลย เส้นนี้ทางค่อนข้างมืดหน่อย แอบเปลี่ยวนิดๆ แต่วิ่งสบายๆ มีช่วงเส้นอ่างทอง-อยุธยา ที่เป็นทางสองเลนส์วิ่งสวนกัน ทางไม่ค่อยดีเป็นบางช่วง เหมาะกับเป็นทางเลือกช่วงเทศกาลได้ดีเลยครับ ผมกลับมาถึงบ้านเวลา 22.57 น. ระยะทางทั้งหมด 1,412 ก.ม. น้ำมันก็เห็นตามรูปนั้นแหละครับ เกือบหมดถังพอดี
ทริปนี้ขับรถพันกว่ากิโล เพื่อไปกางเต้นท์นอนแค่หนึ่งคืน ถึงเหนื่อย ถึงมีเวลาน้อยแต่ก็คุ้มค่ากับการเดินทาง ไว้มีโอกาสจะไปสัมผัส ปล่อยใจไปกับธรรมชาติ อีกซักครั้ง
รถผมคันนี้แหละที่พาไปตลอดการเดินทาง น้องวีโก้ เครื่อง 2,500
สรุป ค่าใช้จ่ายวันศุกร์
- ขนมร้าน 7/11 ปั๊มน้ำมัน 173 บาท
- ค่าโรงแรมพิษณุโลก 350 บาท
วันเสาร์
- เติมน้ำมัน ปตท.สูงเม่นเต็มถัง 1,500 บาท (ทั้งหมด 49 ลิตรๆละ 30.59 บาท)
- ข้าวเช้าที่สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน 239 บาท
- กับข้าวไว้ทำมื้อเย็น 50 บาท
- ค่ากางเต้นท์ที่ สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน 100 บาท
วันอาทิตย์
- สตอเบอรี่ อย่างละ 1 โล 650 บาท
- อาหารมื้อเช้าร้านเมตตา 130 บาท
- ทำบุญที่วัดพระธาตุช่อแฮ 240 บาท
- อาหารมื้อเที่ยงร้านไซทอง 210 บาทซื้อกลับบ้าน 330 บาท รวม 540 บาท
- หอมแดง 100 บาทกระเทียม 1 โล 150 บาท รวม 250บาท
- ค่าเข้าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย 2 คน 40 บาท
- หมูทอด 70 บาท
- เฉาก๋วย 15 บาท
- ข้าวมื้อเย็นที่ร้านอินทบุรี 420 บาท
รวมทั้งหมด
4,767 บาท
- สัญญาณโทรศัพท์ใช้ได้แค่ค่าย ทรู แอบมี 3 G เป็นบางช่วง ส่วนค่ายอื่นดับสนิท
- ข้างบนมีห้องพักหลายหลัง ส่วนมากห้องนึงจะพักได้ 10 คนขึ้นไป ค่าบ้านพักหลังละ 500 มีอุปกรณ์ที่นอนกับห้องน้ำในตัว แค่นั้น ส่วนเต้นท์ถ้าเอามาเองคิดเต้นท์ละ 100 บาทถ้าเอาของสถานีวิจัยต้นน้ำ คิดเต้นท์ละ 250-350 บาทพร้อมเครื่องนอน ห้องน้ำสะดวก พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ชอบแนวนี้ ใครสนใจ คลิ๊กจ้า ช่วงที่ผมไปเต็มทุกหลัง
- อาหาร มีแค่บะหมี่สำเร็จรูปขายถ้วยละ 20 หรือ 25 บาทหว่า ไม่ได้ถามครับ 555 กับซองกาแฟน้ำร้อนให้ ใครจะไปค้างคืนให้เตรียมอาหารไปเองด้วยครับ หรือจะไปซื้ออาหารที่หมู่บ้านก็ได้มี 2-3 เจ้า อ้อ...ที่สถานีวิจัยมีเตาให้เช่าพร้อมถ่าน 80 บาท
- ทางขึ้นได้สองทาง ทางนาน้อยระยะทางประมาณ 35 ก.ม.ทางไกลขับผ่านหมู่บ้านตลอด ขึ้นทางนี้จะผ่าน อช.ขุนสถานก่อน หรือขึ้นทางบ้านห้วยแก๊ตที่ผมขึ้นมาก็ได้ (ที่ อ.นาน้อยจะตลาดใหญ่ไว้บริการให้กับนักท่องเที่ยวใครผ่านทางนี้ก็แวะซื้อของที่นี้ได้เลยครับ)
- ไฟ มีตลอด 24 ชั่วโมง ใครกางเต้นท์สามารถมาชาร์ทไฟได้ตรงจุดบริการนักท่องเที่ยว (หน้าบ้านพักเงาไม้) สำหรับใครนอนบ้านพักคงไม่มีปัญหาเนอะ ตรงจุดกางเต้นจะมีไฟเปิดให้ตลอด ไม่อันตรายครับ
เอาข้อมูลคราวๆที่ผมไปสัมผัสมาฝาก ใครไปปีหน้าควรโทรไปถามข้อมูลกับเจ้าหน้าอีกครั้งด้วยครับ เผื่อมีการเปลี่ยนแปลง