Bloggang.com : nongmalakor : ฤดูฝน @ เชียงใหม่ (วันที่ 1 ดอนเมือง-แม่กำปอง)

ฤดูฝน @ เชียงใหม่ (วันที่ 1 ดอนเมือง-แม่กำปอง)

วันเสาร์ที่ 18 – วันจันทร์ที่ 20 ส.ค.61

ทริปนี้ไม่มีอะไรมาก แค่สมาชิกอยากเจอ อยากไปเที่ยวด้วยกัน จึงเกิดทริปนี้ขึ้นมา ส่วนโปรแกรมวางแผนคร่าวๆ ไม่เน้นอะไรมาก ตามไปเที่ยวด้วยกันครับ

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม 2561

เวลา 05.30 น. สมาชิกนัดเจอที่สนามบินดอนเมือง

ตอนจองมีทั้งหมด 8 คน วันจริงติดงานด่วนไปไม่ได้ 1 คน เหลือเดินทางจริง 7 คน

ทริปนี้เราบินกับนกแอร์

ไป-กลับ ราคาคนละ 1,510 บาท จองล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน เลือกที่นั่งได้ฟรี แต่น้ำหนักกระเป๋าต้องซื้อ ขาไปสมาชิกเราไม่มีใครซื้อน้ำหนักกระเป๋า ปริ้นตั๋วเช็คอินไปจากบ้านเดินเข้า GATE อย่างหล่อ สะดวกดีครับ

ผ่าน ตม.แวะกินของรองท้องในสนามบินนิดหน่อย

เราบินไฟล์ DD8302 เวลา 07.00 น. กับนกฟ้าคราม โบอิ้ง 737-800

บินตรงเวลาครับ

ภายในไม่แคบมาก วางขาได้สบาย

ใช้เวลาประมาณ 1.10 ชม. ยังไม่ทันหลับ ถึงเชียงใหม่ซะแล้ว อ๋อ.. บนเครื่องมีแจกน้ำฟรี 1 ขวดเล็กให้ด้วย

ถึงสนามบินเชียงใหม่ น้องฝนตกต้อนรับคณะเรา ขอบคุณครับ

อยู่ กมท.แดดเปรี้ยงเชียว

สนามบินดอนเมืองต้องนั่งรถโค้ชมาส่งที่เครื่องบิน สนามบินเชียงใหม่เดินเข้างวงสบาย

เรามาลำนี้

ออกจากสนามบิน รถตู้มารอเราแล้ว (เหมารถตู้วันละ 1,800 บาท ทั้งหมด 3 วัน 5,400 บาท น้ำมันต่างหาก ทั้งทริปเติมน้ำมันทั้งหมด 1,800 บาท)

รถคันนี้พาเราเที่ยวตลอดทริป

สมาชิกขอไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย ที่วัดพระธาตุดอยคำ

วัดนี้สมาชิกเคยมาขอพรแล้วสำเร็จ เลยแนะนำให้มาขอพร ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับวัดและการเดินทาง ลองดูเวปนี้ได้ครับ https://www.emagtravel.com/archive/wat-pratatdoikam.html

เราไปแต่เช้า

คนมาไหว้พระยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ถามสมาชิกที่เคยมาบอกว่าตรงที่ไหว้ขอพรแทบจะไม่มีที่ยืน หรือว่าวันนี้ฝนตกคนเลยยังไม่มากัน

เห็นสวนราชพฤกษ์ด้วย

หลวงพ่อทันใจ ศรัทธาหรือไม่ดูพวงมะลิที่มาถวายแก้บนแล้วกันครับ

ใครจะเดินบันไดขึ้นมาก็ได้นะครับ

ของถวายสังฆทาน เหมือนเอามากองๆทิ้งไว้ เสียดายน่าจะไปแจกวัดที่ยากจนหรือทำประโยชน์ได้มากกว่านี้

สมาชิกไหว้พระขอพรเสร็จกลับไปขึ้นรถที่ลานจอดรถ จะผ่านพระพุทธรูปหลวงพ่อพูดได้ พระพุทธรูปขนาดใหญ่ หน้าวัดพระธาตุดอยคำ

ลานจอดรถ ฝนยังตกอยู่เลย

สถานที่ต่อไป วัดอุโมงค์ ไปยังไง ทางไหนไม่รู้ครับ บอกคนขับรถ เค้าพาไปเอง จบ...

ประวัติวัดอุโมงค์ ใครสนใจกดดูตรงลิงค์ได้เลยครับ คลิ๊กตรงนี้

วัดนี้สงบดีครับ ไม่มีคำบรรยาย

วัดนี้สมาชิกอยากมาถ่ายรูปตรงกำแพง สวยดี

ประมาณห้าโมงเช้าได้เวลาไปหาอะไรกิน สมาชิกเลือกร้าน ข้าวมีนา อยู่ตรงสันกำแพงแต่แถวไหนไม่รู้ มีหน้าที่หลับกับกินพอ 555

ทางเข้าร้านจะซับซ้อนไปหน่อย แต่ก่อนจะถึงร้านมีนาจะเหมือนทางเข้าหมู่บ้าน มีร้านอาหาร ร้านขายของหัตถกรรมฝีมือชาวบ้านวางขายในบ้าน

จากวัดอุโมงค์มาร้านมีนาประมาณ 40 นาที

ภายในร้านตกแต่งน่ารักดี ธรรมชาติมาก

หลังจากเดินชมร้านได้ เริ่มสั่งอาหาร

เมนูแรก ผักโชมผัดไข่ รสชาติกลางๆไม่เค็มมาก ไม่จืดเกินไป ยังไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่ สมาชิกส่วนมากชอบกัน ส่วนผมเฉยๆ แต่ตกแต่งจานได้สวยดี

ห่อหมกอันดามัน เมนูนี้ผมชอบมาก ใส่ใบยอ เนื้อห่อหมกละเอียดหมกหอมพริกแกง กินไปไม่รู้ใส่อะไรบ้าง น่าจะมีปู กุ้ง หอยมั่ง จำไม่ได้ 555 เมนูนี้ต้องสั่งเบิ้ลมาอีกจาน

น้ำพริกกระท้อน ไม่เผ็ดมาก ใส่อะไรไปบ้างก็ไม่รู้ มีปลาทอดอยู่ 3 ชิ้น ให้ผักมาเยอะมีทั้งผัดสดและผักต้ม ส่วนรสชาติผมเฉยๆ ไม่ชอบกินพวกน้ำพริก

ข้าวจี่เห็ดย่าง (เจ) ข้าวจี่ลองชิมไปคำ อร่อยดีเหมือนกัน ข้าวเหนียวดีมีรสชาติออกเค็มนิดๆ กินคู่กับเห็ดย่างจิ้มน้ำจิ้มเข้ากัน ข้างๆมีแรดิช (radish)

ต้มแซ่บปลา รสจัดดีครับ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ลงตัว ใครยังไม่แซ่บพอ มีพริกป่นกับมะนาวมาให้เติมอีก ส่วนปลาไม่รู้เป็นปลาอะไร ชิ้นใหญ่ ให้มาหลายชิ้นอยู่เหมือนกัน เมนูนี้อร่อยมากกก

น้ำพริกอ่องธัญพืช เฉยๆถ้าให้เทียบกับน้ำพริกกระท้อน ผมชอบน้ำพริกกระท้อนมากกว่า

ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้ง เนื้อนุ่มมาก น้ำราดกลมกล่อม เค็มนำไม่เลื่ยน จานนี้อร่อยเลย

กะเพราหมูดอกขจร จะว่าอร่อยก็อร่อย จะว่าไม่อร่อยก็ได้ พอดีผมชอบกะเพราแบบบ้านๆมากกว่า จานนี้เลยเฉยๆ

ไฮไลท์ ข้าวเป็น 5 สี แต่ละจานจะประดับบนข้าวไม่เหมือนกัน สั่งข้าวมา 6 จาน ไม่มีซ้ำกันเลยครับ

ข้าวแต่ละสี แยกประเภทดังนี้

สีดำ เป็น ข้าวไรซ์เบอร์รี่

สีน้ำตาล เป็น ข้าวกล้องแดง

สีม่วง เป็น ข้าวอัญชัน

สีเหลือง เป็น ข้าวดอกคำฝอย

สีขาว เป็น ข้าวหอมมะลิ

ซึ่งในแต่ละเมนูเราสามารถเลือกเปลี่ยนเป็นข้าวแบบไหนก็ได้ตามใจชอบ (You can Mix and Match your own plate of RICE) ตามสโลแกนในเมนู

ค่าเสียหายทั้งหมด 1,475 บาท

ราคานี้ถูกกว่าที่คิด เห็นบรรยากาศภายในร้าน พนักงาน และการตกแต่งอาหาร นึกว่าสองพันอัพแน่ เรียกว่าราคารับได้ ไม่แพงเวอร์ ส่วนรสชาติ อาหารจะออกแนวสุขภาพซื่งไม่ตรงกับจริตผมเท่าไหร่ 555 แต่สมาชิกที่ไปด้วยมีแต่สาวๆทั้งนั้น จะชอบอาหารแนวนี้กัน ทุกคนจะชมว่าอาหารอร่อยทุกอย่าง อันนี้แล้วแต่ลิ้นใครนะครับ ถ้าเพื่อนชอบแนวอาหารสุขภาพ มาเชียงใหม่แนะนำร้านนี้ครับ สนใจโทรล่วงหน้าหรือเปิดเข้าไปดูในเฟสได้เลย facebook คลิ๊กตรงนี้

เปิด : 10.00-17.00 น. (ปิดทุกวันพุธ)
ที่อยู่ : 13/5 หมู่ 2 ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
เบอร์โทร : 096-073 7422 , 087-177 0523 , 086-390 4277

ร้านอาหารมีนา’ ร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่มีคอนเซ็ปต์เก๋ๆ ว่า ‘เพราะมีนา จึงมีข้าว’

ประมาณบ่ายโมงออกจากร้านมุ่งตรงไปแม่กำปอง ผ่านบ่อสร้าง แวะดูร่มหน่อย มาเชียงใหม่หลายครั้งไม่เคยแวะบ่อสร้างเลย ครั้งนี้ถือโอกาสแล้วกัน

ช่วงนี้ขี้เกียจบรรยาย หาข้อมูลในเนทมาแปะให้แล้วกัน สะดวกดี คลิ๊กตรงนี้

เข้าไปดูข้างในกันครับ เวลาปิด-เปิด ตามป้ายเลยครับ

ข้างในมีผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับร่มเยอะมาก

พัดก็มีเหมือนกันนะ

ไม่เห็นนักท่องเที่ยวเลย หรือว่าวันนี้ฝนตก

ด้านหลังจะเป็นการวาดร่ม หรือจะให้นักท่องเที่ยววาดเองก็ได้

อีกด้านเป็นมุมทำก้านร่ม

ทำกระดาษสา

เดินชมได้สักพัก ถึงเวลาไปแม่กำปองแล้วครับ
ลาบ่อสร้างด้วยรูปนี้แล้วกัน

จากบ่อสร้างมาแม่กำปองประมาณ 45 นาที
ใกล้ถึงแม่กำปองแล้ว

ทางไม่กว้างมากจะขึ้นเนินไต่ระดับไปเรื่อยๆ แต่ไม่ชันมาก ถนนลาดยางอย่างดี

ถึงแม่กำปองแล้ว คืนนี้เราจองบ้านฮิมดอยไว้ 1 หลัง ตอนแรกเราขับเลยเข้าไปถึงวัดแม่กำปอง ต้องขับย้อนกลับมาประมาณ 2 กม.ได้

มาดูบ้านฮิมดอยกันครับ ที่จอดจะอยู่ไหล่ทาง มีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ถ้าช่วงเทศกาลไม่รู้จะพอให้จอดเปล่า ทางลงเป็นบันไดธรรมชาติ ลงไปสู่ลำธาร บ้านที่ผมจองจะติดกับลำธารเลย ธรรมชาติมาก

เหมาหลังนี้เลยครับ ทั้งหลัง 6,500 บาท รวมอาหารมื้อเย็น-เช้า พร้อมที่นอนให้คนขับรถด้วย

บ้านมี 2 ชั้น ชั้นล่างมี 1 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว เป็นเตียงเดี่ยวพร้อมอุปกรณ์การนอนครบ

ภายในหัองเป็นพื้นไม้ ผนังปูนเปลือยทาสีส้มออกแดง มีเตียงเดี่ยวขนาด 5 ฟุตปลายเตียงไปทางลำธาร โซฟา 1 ตัว ติดพัดลมผนัง 1 ตัว

มุมห้องทำเป็นที่ก่อไฟให้ความอุ่นหน้าหนาว ไม่รู้ใช้ได้จริงเปล่า ข้างบนมีโคมไฟ 1 ดวง ถัดไปเป็นกาน้ำร้อนพร้อมเครื่องดื่มชนิดซอง แถมน้ำเปล่าให้ 2 ขวด ไม่มีแอร์ ไม่มีทีวีนะครับ

ด้านในมีห้องน้ำในตัว เป็นปูนฉาบเรียบ มีเครื่องทำน้ำอุ่นแบบไฟฟ้าพร้อมสายฝักบัว

เดินเข้าไปทางขวาจะเป็นชักโครกพร้อมสายชำระ

ห้องชั้นล่างเปิดประตูได้ 2 ทาง ด้านข้างจะเห็นลำธาร

ด้านหน้าเป็นส่วนของระเบียงนั่งเล่น

ขึ้นไปดูชั้น 2 กันบ้าง บันไดจะอยู่ด้านข้างชั้น 1

ขึ้นไปจะเจอห้องครัว มีอุปกรณ์ให้ครบ แต่บางอย่างก็ใส่กุญแจ ใครไปอยากจะเอาอาหารไปทำเองลองโทรคุยกับเจ้าของได้เลยครับ

ด้านขวามือจากบันไดเป็นห้องโถง ใครมาหลายคนสามารถเอาที่นอนมาปูนอนหรือทำกิจกรรมนับเลขได้สบายเลย ตรงนี้ปูที่นอนให้คนขับรถได้พักด้วยครับ

เข้าไปด้านซ้ายมือมีห้องนอนให้ 1 ห้อง

***มีเลาเตอร์ไวไฟให้ด้วย ช่วงเย็นถึงสามทุ่มสัญญาณเงียบกริบ พอหลังสามทุ่มสัญญาณไฟไวมาเร็วมาก ที่นี่ ทรู ไม่มีสัญญาณใดๆทั้งสิ้น บอดสนิท แต่เอไอเอส สัญญาณแรงมาก ส่วนดีแทคไม่ทราบครับ สมาชิกไม่มีใครใช้

ผมนอนห้องนี้ ห้องเล็กมีแค่ที่นอนเท่านั้น กับพื้นที่วางกระเป๋าขนาด 16 นิ้ว 2 ใบเต็มพอดี หัวเตียงมีปลั๊กไฟให้ 2 จุด นอกนั้นไม่มีอะไร อยู่กับธรรมชาติจริงๆ

พื้น ผนังเป็นไม้ทั้งหมด มีหน้าต่างเป็นบานเกร็ดพร้อมมุ้งลวดทั้งสองด้าน มีม่านกัน อากาศเย็นมากไม่ต้องใช้แอร์ พัดลม เย็นสบาย ชอบสุดๆ ตอนกลางคืนน้ำในลำธารไหลเสียงดังมาก

ตรงข้ามกับห้องผมเป็นห้องน้ำ ทาสีส้มอมแดงสีสรรบาดใจจริงๆ

เปิดเข้าไปเป็นชักโครกพร้อมสายชำระ ด้านข้างเป็นหน้าต่างมองเห็นวิวภายนอก ธรรมชาติสุดๆ

ด้านขวามือเป็นซิ้งค์ล้างหน้า กระจก 1 บาน พร้อมชั้นวางของทำจากไม้

หน้าชักโครกเป็นห้องน้ำเป็นปูนปูด้วยกระเบื้อง ไม่มีประตูใช้ผ้าม่านพลาสติกกั้น มีฝักบัวให้แต่ไม่มีน้ำอุ่น อาบกันเพียวๆ น้ำเย็นมากกกกก ถ้ามาหน้าหนาวน้ำคงเย็นกว่านี้แน่

กลางห้องมีบันไดขึ้นไปยังชั้นลอย

ชั้นลอยมีที่นอนให้ 2 หลังพร้อมอุปกรณ์การนอนครบ ห้องไม่กว้างมาก สมาชิกนอนได้ 3 คน

ด้านข้างจะมีโต๊ะให้นั่งเล่น 1 ชุด หันหน้าเข้าลำธาร นั่งตรงนี้เพลินมาก

บรรยากาศข้างบ้าน

หลังจากเก็บกระเป๋า ได้ห้องแล้ว เรานั่งรถไปยังบ้านแม่กำปอง ถามเจ้าของบอกเดินไปไมไหว ไกลประมาณ 2 กม.ทางเดินขึ้นเขา ต้องนั่งรถไป

แม่กำปองผมเคยมา 1 ครั้ง แต่ไม่ได้มาค้างคืน มาช่วงหน้าหนาวคนเยอะมาก ครั้งนี้มานอนหน้าฝนดูบ้าง

ผมให้รถจอดตรงร้านลุงปู๊ด-ป้าเป้ง เป็น Signature อีกที่ของแม่กำปอง แล้วให้รถไปจอดรอที่วัดแม่กำปอง

จะเข้าไปอุดหนุน ไฟดับยังไม่ติดเลยครับ ร้านขายน้ำปั่นไม่ได้ หยุดบริการชั่วคราวจนกว่าไฟจะติด สมาชิกเลยเดินถ่ายรูปเล่นไปพรางๆ

มุมนี้ถ้าช่วงหน้าพีค ไม่มีโอกาสได้ยืนเต็มๆอย่างนี้แน่

มาเที่ยวหน้าฝนก็ดีไปอย่าง นักท่องเที่ยวน้อย เงียบดี แต่ร้านอาหารก็เปิดน้อยเช่นกัน ได้อย่างเสียอย่างเนอะ

เดินไปเรื่อยๆ ชมบรรยากาศแม่กำปองช่วงหน้าฝน
***ตอนนี้ฝนหยุดตกแล้วครับ

เดินต่อไปเรื่อยๆ เพลิดเพลินมาก

ยินดีต้อนรับ แม่กำปอง

จากป้ายนี้เดินไปอีกนิดเดียวก็ถึงวัดแม่กำปองที่มีโบสถ์กลางน้ำแล้วครับ
ครั้งนี้ลืมถ่ายรูปโบสถ์น้ำ ลองดูทริปที่ผมมาตอนหน้าหนาวแล้วกัน คนอย่างเยอะ

คลิ๊กตรงนี้

ไหว้พระที่โบสถ์กลางน้ำ เป้าหมายต่อไปร้านชมนก ชมไม้ เดินไปเรื่อยๆ ระว่างทางแวะร้านนี้ก่อน

ไฟยังไม่ติด พวกน้ำปั่นต่างๆรวมถึงอาหารยังบริการไม่ได้ แต่เจ้าของร้านอนุญาตให้เข้าไปนั่งเล่นถ่ายรูปได้

นั่งเล่นได้ซักพัก ไฟยังไม่มา เดินไปร้านชมนกชมไม้ต่อ

ทางเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ จากร้านป้อหลวง แม่หลวง ไม่ไกลจากร้านชมนก ชมไม้ แต่เดินเหนื่อยครับ
ถนนเป็นของเรา

ถึงแล้ว บ้านชมนก ชมไม้

มีลูกค้าพอสมควร แต่ยังพอมีโต๊ะว่างให้นั่ง นั่งสักพักไฟมา สั่งน้ำแก้เหนื่อยก่อน

ยื่มแก้วสมาชิกมาถ่ายรูปหน่อย ของผมน้ำเปล่า 1 ขวดพอ พวกขนม น้ำปั่นไม่ชอบกินเท่าไหร่

วิวร้านนี้มองลงไปยังหมู่บ้านแม่กำปอง สวยจริงๆ

นั่งเล่นได้ซักพัก ร้านปิด 5 โมงเย็น กรุ๊ปเราออกเป็นกลุ่มสุดท้าย ถ่ายวิวจนคุ้มครับ
ก่อนจาก ไว้มีโอกาสจะมาใหม่

หน้าฝน ถนนเป็นของเราจริงๆ

เดินมาที่วัดแม่กำปอง ขึ้นรถตู้กลับที่พัก

ได้เวลามื้อเย็น จากบ้านพักเดินเลาะลำธารประมาณ 20 ม.ขึ้นไปยังห้องอาหาร
ทางเดินเลาะลำธาร เย็นสบายมาก

ชั้นล่างเป็นห้องน้ำ ห้องอาหารต้องเดินขึ้นไปอีกชั้น

ห้องอาหาร เป็นเรือนไม้ เป็นระเบียงโล่ง

เจ้าของร้านเป็นแม่ครัวด้วยทำอาหารให้เรากินมื้อเย็น

ดูวิวจากห้องอาหารก่อนครับ

ได้เวลากินข้าวกันแล้ว อาหารเป็นกับข้าว ให้มา 2 ชุด ส่วนคนขับรถ แยกไปกินต่างหากอีก 1 ชุด
ผัดฟักแม้ว

ไส้อั่ว

ต้มยำกระดูกอ่อน

ไข่เจียว

กับข้าวทุกอย่างเติมได้ตลอด ชอบผัดฝักแม้ว กินตอนหนาวๆ บรรยากาศกลางธรรมชาติมันอร่อยดี พอมาทำกินที่บ้านไม่เห็นอร่อยเลย 555 สงสัยความอร่อยอยู่ที่บรรยากาศแน่ๆ

ส่วนบะหมีสำเร็จรูปวางไว้คู่กับพวกเครื่องดื่มที่เป็นซองพร้อมกระติกน้ำร้อน ใครอยากกินก็บริการตัวเองได้เลย ฟรี มีแค่ยำยำ รสต้มยำกุ้ง กับมาม่าหมูสับ

อิ่มเสร็จ แยกย้ายนอน คืนนี้ฝันดีครับ

พรุ่งนี้ไปนอนตัวเมืองเชียงใหม่กัน คลิกเลย

สรุปค่าใช้จ่าย

จ่ายก่อนเดินทาง

-ตั่วเครื่องบินไป-กลับดอนเมือง-เชียงใหม่-ดอนเมือง คนละ 1,510 บาท

-ค่าโหลดกระเป๋าขากลับ 800 บาท(ซื้อน้ำหนัก 40 กก. แชร์รวม 7 คน)

-ค่าที่พักฮิมดอย เหมาทั้งหลัง 6,500 บาท (รวมอาหารมื้อเย็น-เช้า)

-ค่าอาหารร้านหุบเขาคนโฉด 17,500 บาท (คนละ 2,500 บาท

-ค่าที่พัก 2,311 บาท (จอง 4 ห้อง) B2 Pano

-ค่ารถตู้ 6,000 บาท (วันละ 1,800 บาท3 วัน เป็นเงิน 5,400 บาท ทิปคนขับ 600 บาท)

-ค่าน้ำมันตลอดทริป 1,800 บาท

วันเสาร์ที่ 18 – วันจันทร์ที่ 21 ส.ค.61

เก็บเงินค่ากองกลางคนละ 2,000 บาท-

***ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างหาก

***ค่าแท็กซี่ขาไป 140 บาท (มิเตอร์133 บาท)

***ค่าขนม-ของกิน-ของใช้ 275 บาท

***ของฝาก 800 บาท

***ของกินเล่น 300 บาท

***ค่าแท็กซี่ 150 บาท(มิเตอร์ 145บาท)

เฉลี่ยคนละ 7,496 บาท

Create Date : 16 กันยายน 2561

Last Update : 12 มกราคม 2565 14:41:22 น.

3 comments

Counter : 1747 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณKavanich96

ขอบคุณที่แบ่งปัย

โดย: Kavanich96

วันที่: 17 กันยายน 2561 เวลา:3:03:25 น.

Nice trip ครับ อยากหาเวลาไปชิลที่แม่กำปองบ้างจัง ชอบข้าว 5 สีครับ แปลกดี

โดย: IFINDNOI (Ces

) วันที่: 18 กันยายน 2561 เวลา:6:41:28 น.

พี่ต้อง ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าคิดถึงมาก เพราะไม่ได้เข้าบล็อกนานมากไม่ได้มาดูมาอ่านเรื่องราวต่าง ๆ ของพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในบล็อกเลย วันนี้ว่างเลยเปิดเข้ามาดู โฮ้ ไปเที่ยวเหนือหน้าฝนมานี้เอง ดูแล้วเหมือนได้เดินทางไปด้วยเลย นีไปเชียงใหม่ทุกครั้ง ที่ที่ขาดไม่ได้คือการไปไหว้หลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำคะ ไปทีก็จะแวะซื้อดอกมะลิขึ้นไปไหว้ ฮ่าๆๆ ก็เนอะขอพรไว้ ได้มาก็ต้องมากราบมาไหว้ตามที่สัญญาไว้ นี้พี่ต้องไปมีแต่สาว ๆ ทั้งนั้นเลย เป็นหนุ่มหล่อคนเดียวในกลุ่มสินี้

เดียวตามอ่าน ตอนต่อไปก่อนนะคะ

โดย: paerid

วันที่: 9 พฤศจิกายน 2561 เวลา:12:31:49 น.