Bloggang.com : nongmalakor : ฤดูฝน @ เชียงใหม่ (วันที่ 2 แม่กำปอง-ตัวเมืองเชียงใหม่)

ฤดูฝน @ เชียงใหม่ (วันที่ 2 แม่กำปอง-ตัวเมืองเชียงใหม่)

ย้อนดูวันที่ 1 ดอนเมือง-แม่กำปอง คลิกเลย

วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2561

เมื่อคืนอากาศดีมาก ไม่ต้องเปิดพัดลมเปิดแค่หน้าต่าง ลมเข้ามาตลอด เย็นสบายธรรมชาติสุดๆ แต่น้ำในลำธารไหลเสียงดังไปหน่อย

06.00 น.ตื่นมาเดินออกกำลังแถวที่พัก

บรรยากาศดีสุดๆ ถนนเป็นของเรา

เดินลงมาเลาะลำธารแถวที่พัก

เราฝากท้องมื้อเย็นกับมื้อเช้าที่ห้องอาหารของที่พักฮิมดอยวิวหลักล้าน กินข้าวไป ชมลำธารไป สุขสุดๆ

(ที่พัก+รวมค่าอาหาร 2 มื้อ เย็น-เช้า)

ชั้นบนเป็นห้องพักส่วนชั้นล่างเป็นห้องน้ำ มีฝักบัวไว้ให้อาบน้ำด้วย

ส่วนที่พักเรา เป็นบ้านเหมาทั้งหลังเดินเลาะลำธารไปนิดเดียว

หลังนี้แหละ

ที่จอดรถของที่พักฮิมดอยจะจอดข้างๆถนนมีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ครับ

ทางลงไปที่พักบ้านฮิมดอย

ประมาณ 8.30 น.เราอาบน้ำเก็บกระเป๋าเสร็จ เดินไปกินอาหารเช้า

หลักฐานเมื่อคืนนี้ไม่ใช่ชุดผมนะครับ555

มื้อเช้าเป็นข้าวต้มให้คนละถ้วยเติมได้ตลอดกับซาลาเปาคนละลูก ถ้าจะขอเพิ่มลูกละ 15 บาทมั่ง จำไมได้แล้ว ซาลาเปาอร่อยดีครับเจ้าของบอกสั่งมาจากชุมพร ไกลเหมือนกันเนาะ

ซาลาเปามีไส้หมูสับ หมูแดง ไส้ครีมผมกินไส้หมูสับ เหมือนหมูหยองเป็นเส้นๆอร่อยดี จะขอเบิ้ล บอกหมดเหลือแต่ไส้ครีมเลยไม่เอา

นั่งกินกับบรรยากาศแบบนี้ อิจฉาละสิ

อิ่มเสร็จ เช็คเอ้าท์นั่งรถเข้าไปยังหมู่บ้านแม่กำปอง

ปล่อยลงตรงร้านนี้

เมื่อวานมาไฟดับ ไม่ได้อุดหนุน เช้านี้เลยมาชิมบรรยากาศซะหน่อย

วาฟเฟิ้ลอร่อยมากสมาชิกทุกคนคอนเฟิร์ม

เค้กมะพร้าว อร่อยอยู่แต่ยังไม่สุดสู้วาฟเฟิ้ลไม่ได้

หลังจากสั่งน้ำ สั่งขนมเสร็จ ทุกคนก็หามุมถ่ายรูปกัน

มาช่วงหน้าฝนก็ดีไปอย่างนักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะ เลือกมุมได้ตามใจชอบ

ถ่ายรูปไป เห็นปิ้งไส้อั่วควันโขมง

อดใจไม่ไหว สั่งไป 1 จานกับปีกไก่อีก1 ชิ้น

ร้านอยู่ข้างๆลุงปุ๊ด-ป้าเป็งนั้นแหละครับ

ช่วงหน้าพีคจะมีโอกาสได้ถ่ายแบบนี้ไหม

เลือกมุมได้ตามใจ

ถนนเป็นของเรา

ชอบใจมุมไหน ไม่ต้องรอคิว ไม่ต้องรีบไม่สวยถ่ายซ้ำได้

ระหว่างเดินไปขึ้นรถที่วัดแม่กำปอง

ประมาณ 10 โมงครึ่งได้เวลาออกจากแม่กำปอง

ไว้จะมาเยี่ยมใหม่นะ แม่กำปอง

โปรแกรมต่อไป ร้านหุบเขาคนโฉดสมาชิกจองมาก่อนสองเดือน ร้านนี้เสิร์ฟอาหารแบบ ซึ่งเราได้จองมื้อกลางวัน (ราคาหัวละ 2,500 บาทวันจองต้องจ่ายเต็มจำนวน)
คนต่อมื้อนะครับซึ่งทางหุบเขาคนโฉดจะเปิดรับลูกค้ามื้อเทียงกับมื้อเย็น20 เท่าที่สอบถามน่าจะรับไม่เกิน ซึ่งจะจำกัดปริมาณลูกค้าต่อวันChef'sTable

ทางไปค่อนข้างไกลถ้าให้บอกทางมีหลงแน่ ต้องเปิด หรือให้ กูเกิ้ล แมพ นำทางถึงจะมาถูกGPS

ภายในร้าน จัดโต๊ะอลังการงานสร้างมาก

สมาชิกหามุมถ่ายรูปกันไปก่อน

พุทราแกล้มผลไม้สดSherbetวันนี้เป็น Welcome Drink

ส่วนเมนูต่อไปค่อยทยอยเสิร์ฟมาเรื่อยๆ จะทิ้งระยะประมาณ 15-30 นาทีให้ดื่มด่ำกับเมนูอาหารแต่ละจาน

เมนูต่อไปเป็นอะไรจำไม่ได้แล้วแต่ถ่ายคลิปไว้

แต่ละเมนูก่อนเสิร์ฟจะมีคุณกุ่ยมา อาหารแต่ละจาน ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรPresents

จานนี้ถ่ายคลิปเสร็จลืมถ่ายรูปเลยเหลือแค่นี้ 555

ขอยืมรูปจากมือถือแฟนมาแล้วกัน

คลิป เมนูนี้ครับ

หลังจากนั้นก็ค่อยๆทยอยเสิร์ฟมาเรื่อยๆ

เมนูต้มยำกุ้งมั่ง 555

น่าจะเป็นเมี่ยงพวกผักที่วางบนจานสามารถกินได้หมดทุกชนิด

ข้าวหมาก

Main Course

เสิร์ฟพร้อมกับซุปลูกชิ้นปลากรายกับเห็ด3 อย่าง

ตามด้วยของหวานเป็นขนมข้าวเหนียวเปียกลำไย

ตบท้ายด้วยผลไม้ จัดจานมาสวยเชียว

สุดท้าย คุณกุ่ย แอบเซอร์ไพรส์เอาเค้กวันเกิดมาให้สมาชิกในกลุ่มเรา น่ารักมาก

แอบกินก่อน

หลังจากอิ่มเสร็จ คุณกุ่ยได้พาเข้าไปชมบ้านซึ่งได้เก็บสะสมของเก่ามีค่าไว้เยอะมากคุณกุ่ยตั้งใจทำเป็นพิพิธภัณฑ์

เราอยู่ในร้านจนถึงหกโมงเย็นถึงได้ออกจากร้าน

สรุป อาหารจัดจานได้สวยงามมาก ทุกจานอาหารทุกอย่างดูตั้งใจ ประณีตในการทำ แต่บางจานก็ดูลานตา ทั้งลายจานทั้งอาหารในการจัดจานดูเยอะไป ทำให้ดูรกไปหน่อยถ้าจะเน้นการจัดอาหารน่าจะใช้จานเรียบๆ จะได้โชว์อาหารให้เด่น แต่โดยรวมก็สวยอยู่

-รสชาติ ผมว่าอร่อยเหมือนกันนะถึงแม้ผมจะไม่ค่อยชอบอาหารแนวนี้เท่าไหร่ แต่ทำได้อร่อยทุกเมนู นึกว่าสวยแต่รูปอีกรสชาติใช้ได้เลยครับ

-ปริมาณอาหารไม่เยอะสำหรับคนหิวจัดไม่แนะนำมาร้านนี้เด็ดขาด 555เพราะกว่าจะเสิร์ฟแต่ละจานใช้เวลาพอสมควร แถมให้มาน้อยร้านนี้เหมาะสำหรับมาเสพงานศิลปะในการทานอาหาร ค่อยๆละเมียดกันไป กินไปถ่ายรูปอาหาร ห้อง การตกแต่งบนโต๊ะอาหาร ระหว่างรออาหารก็เดินเล่น นั่งคุย ไม่รีบชิวๆ ถือว่ามาซื้อประสบการณ์เพราะชีวิตจริงเร่งรีบ กินอาหารจานด่วนกันปกติอยู่แล้วถามว่าคุ้มเปล่ากับราคา 2,500 บาทต่อคน ถ้าเทียบกับคุณภาพอาหารการปราณีบรรจงการจัดจาน วัสดุในการตกแต่งร้านรวมถึงภาชนะต่างๆที่ใส่อาหาร ก็คุ้มอยู่แต่ให้ไปซ้ำอีกคงไม่ไป 555 ถ้าใครอยากลองไปสัมผัสก็ลองดูได้ครับสักครั้งหนึ่งในชีวิต

ลาด้วยบรรยากาศภายในห้องอาหารครับ

ออกจากร้านประมาณหกโมงเย็นขากลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ แวะชมวัดป่าดาราภิรมย์ ทางผ่าน

เวลามีน้อย เข้าไปไหว้พระเสร็จก็เดินทางเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ส่วนประวัติวัดดูในเวปนี้เลยครับ https://chiangmai.holidaythai.com/2015/10/wad-pa-darapirom-maerim-chiang-mai.html

คืนนี้เรานอนที่โรงแรม บี 2 PANO

ผมได้ห้อง 408

ห้องเป็นระบบคีย์การ์ดเปิดห้องเข้าไปเป็นห้องรับแขก กว้างทีเดียวเลย พื้นปาร์เก้เข้ากับสีห้อง มีโซฟาให้1 ตัว พร้อมโต๊ะนั่งกินข้าว 1 ชุด ผนังมีทีวี พร้อมแอร์ 1 ตัว

หันกลับไปยังประตูมีชุดทำครัวพร้อมซิงค์ล้างจาน ไมโครเวป ตู้เย็น จาน ชาม ช้อน ขี้เกียจบรรยายดูรูปเอาแล้วกันครับ

เข้าไปดูห้องนอนกันบ้าง มีเตียงขนาด 6ฟุต ที่นอนนุ่มมาก อุปกรณ์ต่างๆ สะอาดมาก

ปลายเตียงมีทีวีติดผนัง

ทำไมขี้เกียจบรรยายจังดูรูปห้องเอาแล้วกันครับ

ตู้ใส่เสื้อผ้า ใบใหญ่มาก

ส่วนประตูด้านข้างเปิดไปเป็นห้องน้ำแล้วครับ

ห้องน้ำแยกแบบเปียก-แห้งมีเครื่องไดร์ผมให้ด้วย อุปกรณ์ครบ น้ำอุ่นใช้ได้ปกติ แอร์ เย็นมาก น้ำ-ไฟใช้ได้ปกติตลอด 24 ชม. เป็นโรงแรมเปิดใหม่ ของทุกอย่างเลยโอเค ชอบมากครับ