Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
20 กันยายน 2556
 
All Blogs
 
จุดดับในดวงตะวัน : ว.วินิจฉัยกุล



จุดดับในดวงตะวัน : ว.วินิจฉัยกุล

พิมพ์ครั้งที่ 1, 2556 / จำนวน596 หน้า / สำนักพิมพ์ ทรีบีส์

ราคาปก440 บาท


คำโปรยจากปกหลัง

   ย้อนนึกทบทวนตั้งแต่รู้จักเสกสุธาปัณณิกาพบด้วยความประหลาดใจว่าแท้จริง จะเรียกว่าเธอไม่รุ้จักเขาเลยก็ว่าได้ เพื่อนรักในวัยเยาว์ที่ชื่อเสกสุธาตายจากไปแล้วฝังอยู่ในดินแดนของอดีต อย่างไม่มีวันฟื้นขึ้นมาได้อีกเสกสุธาคนที่เธอแต่งงานด้วยเป็นชายแปลกหน้าผู้มีดวงหน้าเหมือนเพื่อรักของเธอเท่านั้นแต่ตัวจริงของเขาไม่ใช่...

เขาเป็นภาพลวงตา ซึ่งถูกเหตุการร์หลายเรื่อง หลายวาระ ค่อยๆลอกตัวจริงออกทีละชั้น ทีละชั้น จนประจักษ์

   เสกสุธาเป็นตัวของเขามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เขาคือดวงตะวันสว่างงามจนไม่มีใครเห็นจุดดับมืดในรัศมีอร่ามเรืองเธอเองก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร...นานจนมีลูกกับเขานั่นแหละ ถึงได้เห็นความจริงข้อนี้...


ความคิดเห็นหลังจากที่ได้อ่าน...

   ลัดคิวเรื่องอื่นๆ ขึ้นมาก่อน ต้องรีบเคลียร์ก่อนงานหนังสือเดือนหน้านี้ เลยหยิบเรื่องนี้ออกมาจากกองดองตั้งแต่งานสัปดาห์ฯ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ไม่มีเรื่องย่อละกัน เพราะเรื่องนี้สมาชิกในบล็อกพันทิป รีวิวกันเยอะแล้ว มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันดีกว่า ว่าจุดดับในดวงตะวัน เล่มนี้มีอะไรน่าสนใจสำหรับผลงานชื้นล่าลุดในนามปากา ว.วินิจฉัยกุล ตั้งชื่อเรื่องได้คมจริงๆคล้ายๆกับแนววิทยาศาสตร์ Sunspots หรือ จุดมืดบนดวงอาทิตย์ เปรียบกับชีวิตมนุษย์ ก็คงจะหมายถึงด้านที่เป็นสีเทาหรือสีสีดำมากกว่า เชื่อมีว่าต้องมีกันทุกคน ไม่มีใครมีชีวิตที่เป็นสีขาวสะอาดอย่างกะผงซักฟอกโอโม่หรอก ทุกคนมีจุดดับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเปิดเผยและแสดงออกมาได้มากน้อยเพียงใด..รูปแบบไหน .. เท่านั้นเอง

   จะขอกล่าวถึง เสกพร ผู้เป็นบิดาของ เสกสุธาด้วยชีวิตที่สุขสบายตั้งแต่เด็กหลังจบการศึกษาจากอังกฤษ ก็รักความสันโดษปลีกตัวเองออกจากสังคมวัตถุนิยมด้วยความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง ผันตัวไปเป็นเกษตรกรปลูกส้ม แต่ไม่มีความจริงใจในอาชีพพอหรือไม่ได้เข้าไปคลุกคลีจริงๆเพียงแต่ชี้นิ้วสั่งหรืออาจเปรียบว่า เป็นเพียงแค่ “ เกษตรกรบนแผ่นกระดาษ “ใช้เงินหว่านในการทำงาน เหมือนตำพริกละลายแม่น้ำ.......

รายต่อมา สมฤกษ์ พี่ชายของเสกพร ลุงของเสกสุธาถือว่าเป็นคนเอางานเอาการเลยทีเดียว เมื่อรับอุปการะเสกสุธา และแน่นอนที่จะต้องรักหลานตัวเองซึ่งเป็นบุตรชายน้องชายตัวเองมากกว่าลูกของลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งเป็นญาติห่างๆ เท่านั้น มีเท่าไหร่ก็ทุ่มไปเท่าเต็มเพื่อหลานสุดโปรด แต่เมื่อตอนสุดท้ายรู้ตัวว่าทุ่มไปแล้ว แต่ไม่มีผลอะไรกลับมาก็เริ่มคิดได้ก็ยังถือว่ามีสติดีพอที่สามารถ กลับตัวได้ทัน.

สรุจ พระรองของเราแหม..ช่างโชคร้ายเสียจริงๆ ที่เกิดมาเป็นเพียงแค่ญาติห่างๆไม่ได้เกิดเป็นคุณหนูอย่างกับนายเสกสุธา แต่อาจเพราะการเติบโตมาจากฐานะที่ด้อยกว่าทำให้สรุจต้องเจียมตัว ไม่ได้ตีตัวเสมอคุณเสกฯ แต่ยังมีมุมที่แอบน้อยใจอยู่เหมือนกัน T_T ถึงแม้สุดท้ายจะได้เลื่อนตำแหน่งกลายมาเป็นพระเอกของเรื่อง ผู้ครอบครองหัวใจของปัณณิกาไป.

ส่วนด้านนางเอกอย่าง ปัณณิกา ด้วยชีวิตที่เพรียบพร้อมโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น พี่น้องรักใคร่สมัครสมานกันดี ทำให้เธอเป็นคนมองโลกในแง่ดี ถึงจะมีเหตุการณ์ต่างๆนานา ที่เข้ามาเตือนว่านิสัยของเสกสุธาเป็นอย่างไร และถึงแม้ว่าเธอจะเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แต่เพื่อชายที่เธอคิดว่าเธอรักเขา เธอจึงต้องเชื่อเขาแต่ก็ไม่สนิทใจ..ท้ายสุดเธอก็เป็นผู้หญิงที่แข้มแข็งทีเดียวที่สามารถก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงของชีวิตมาได้.

สลิสา หญิงสาวนำสมัยผู้ที่เปรียบดังหนามที่คอยทิ่มแทงหัวใจของปัณณิกา ด้วยการใช้ชีวิตแบบสาวสังคม แต่เรื่องชีวิตรักกลับกลายมาเป็นผู้หญิงขาดความรัก ท้ายสุดแล้วเธอก็คงไม่เหลืออะไรเพราะเธอเลือกที่จะใช้เงินซื้อความสุขและเติมเต็มความฟุ้งเฟ้อของเธอ.

และท้ายสุด เสกสุธา ชายผู้ที่มีต้นทุนชีวิตสูงแต่บริหารไม่เป็น ผู้ที่อยากหลีกหนีจากความเหงาเมื่อวัยเด็ก ต้องการสังคม เพื่อนและบวกกับได้แรงสนับสนุนจาก สมฤกษ์และสารภี ทำให้ชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อหลับหูหลับสนับสนุนและ ต้องมีสิ่งที่ดีที่สุดเข้ามาอยู่รอบกาย กลับกลายมาเป็นหนุ่มเจ้าสำราญทำตัวหยิบโย่งชอบค้าขาย แต่ขายไม่เป็น.

เมื่ออ่านจบคิดไปถึงเรื่อง เจ้าบ้านเจ้าเรือน ไรวินท์ได้เห็นถึงความล้มเหลวของชีวิตของบิดา-มารดาที่บิดามีภรรยาใหม่แล้วยกย่องภรรยาใหม่อย่างออกหน้าออกตา ทำให้มารดาของเขาต้องช้ำใจ แต่พอตัวเองโตขึ้นมากลับมีชีวิตที่เจริญรอยตามบิดาตัวเองซะงั้น เป็นเหตุภรรยาเสียอกเสียใจเกิดความแค้นรุนแรงเมื่อเสียชีวิตลง...เลยย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องของ เสกสุธา อย่างนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกกันว่า“ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น”




Create Date : 20 กันยายน 2556
Last Update : 20 กันยายน 2556 12:35:05 น. 5 comments
Counter : 2769 Pageviews.

 
อ่านจบแล้วครับ....สนุกตามมาตรฐาน อ.วินิตา ... อ่านแล้วรู้สึกว่า เสกสุธา กับ สลิสา นี่ หญิงร้ายชายเลว จริงๆ ...


โดย: อุ้มสม วันที่: 20 กันยายน 2556 เวลา:18:35:40 น.  

 
ถ่ายรูปหนังสือสวยจังค่ะ ตัวเองถ่ายทีไรลืมเพิ่มแสงทู๊กที (รูปมืดมากๆ)

เรื่องนี้อ่านแล้วค่ะ ชอบวิธีการเล่าเรื่องค่ะ


โดย: Sab Zab' วันที่: 20 กันยายน 2556 เวลา:19:03:13 น.  

 
ถ่ายรูปหนังสือมุมนี้เก๋ มากเลยค่ะ ชอบ

เรื่องนี้อ่านแล้วค่ะ งานของ อ.วินิตา ไม่ผิดหวังอยู่แล้วนะคะ


โดย: Serverlus วันที่: 20 กันยายน 2556 เวลา:23:56:08 น.  

 
เรื่องนี้ตอนอ่านเป็นตอนๆ ยิ่งสนุกครับ เพราะคาดเดาตอนต่อไปไม่ถูกเลยว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร
ชอบชื่อเรื่องมากเลยครับ


โดย: สามปอยหลวง วันที่: 23 กันยายน 2556 เวลา:7:43:24 น.  

 
น้อง อุ้มสม / คุณ Sab / คุณ Serverlus / คุณ สามปอยหลวง ใช่ครับ นิยายอาจารย์สนุกแถมให้ข้อคิดเยอะอีก อยาให้อาจารย์มีผลงานออกมาเร็วๆจัง



โดย: Nat_NM วันที่: 23 กันยายน 2556 เวลา:12:18:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

blissfultime
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Friends' blogs
[Add blissfultime's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.