Group Blog
 
<<
มีนาคม 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
28 มีนาคม 2557
 
All Blogs
 
ทานตะวัน : ว.วินิจฉัยกุล


ทานตะวัน  : ว.วินิจฉัยกุล

พิมพ์ครั้งที่ 4,กุมภาพันธ์ 2554 / จำนวน 579 หน้า / สนพ.ทรีบีส์ / ราคาปก 370 บาท


เรื่องจากปกหลัง

       “ จำได้ไหมว่าอาม่าเคยสอนเอาไว้.... ทำตัวอย่างดอกทานตะวัน  ดอกไม้อื่นกลัวความร้อน มันจะเหี่ยวเฉาเมื่อกระทบแดด  ทานตะวันเป็นดอกไม้อย่างเดียวที่สู้แดด  ไม่เคยหันหนี  มันจะหันตามตะวันตลอดวัน มันไม่กลัวความร้อน เหมือนคนที่ไม่เคยกลัวความยากลำบาก  แล้วเห็นไหมว่าทานตะวันเป็นดอกไม้ที่สวย สง่า ใหญ่  เห็นที่ไหนก็สะดุดตากว่าดอกไม้อื่นๆ”


เรื่องราวเพิ่มเติม

       ความเหลื่อมล้ำทางสังคม  เป็นผลทำให้เกิดการแบ่งชนชั้น  ระหว่างคนจนกับคนรวย  คุณนายเกยูรอดีตภรรยานายทหารใหญ่ผู้มีความถือตัวในความร่ำรวยและทนงตนว่าเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วนิสัยเก็บตัวไม่ชอบสุงสิงกับใคร รับ “สาริศ”  ลูกชายของน้องสาวมาเป็นบุตรบุญธรรม  เพื่อมาดูแลรับใช้ใกล้ชิด และอีกประการหนึ่งก็เพื่อมาขัดขวางผลประโยชน์จากลูกเลี้ยงอย่างเช่นมธุรสกับศมน  ลูกติดของท่านนายพล สามีคุณนายนั่นเอง....

       “หลีส่วง ” หลานสาวคนโตของอาม่า  ผู้ที่มีความหลังฝังใจเกี่ยวกับเรื่องของการแบ่งชนชั้นของสังคมระหว่างคนรวยกับคนจน  เมื่อวันวานในอดีตที่เธอและครอบครัวเคยโดนหยามเกียรติจากครอบครัวตระกูลผู้ดีภายใต้ชายคาบ้านหลังใหญ่แห่งนั้น  ซึ่งอยู่ติดกับตึกคูหาเล็กๆอดีตบ้านหลังเก่าของเธอนั่นเอง...

       เมื่อวันหนึ่งเธอกลับมาเพื่อซื้อบ้านและที่ดินผืนนั้น   เธอจะทุบทำลายบ้านหลังนั้นเพื่อลบคำสบประมาท    และพัฒนาที่ดินสร้างเป็นคอนโดมิเนียมหรู ภายใต้โครงการหลายร้อยล้านบาทของธุรกิจครอบครัวเธอนั่นเองซึ่งบัดนี้ครอบครัวของเธอได้กลายเป็นเจ้าของ  ซิตี้ เกรท เซ็นเตอร์  ธุรกิจก่อสร้างหลายพันล้านบาท...

       หลังจากที่ครอบครัวสร้างอาณาจักรธุกิจก่อสร้างมีฐานะร่ำรวย  อาม่าซึ่งสนิทกับหลานสาวคนโตและอาศัยอยู่ด้วยกันบนตึกสูง  ชีวิตบนคอนโดมิเนียมอันน่าเบื่อหน่ายทำให้อามาไม่มีความสุข   หลีส่วงและน้องๆ จึงตัดสินใจพาอาม่ากลับไปอยู่บ้านเดิมตึกเก่าๆ หลังนั้น   กลับไปเปิดร้านขายของชำซึ่งเดิมเป็นอาชีพเก่าของอาม่าและเลี้ยงดูพวกเธอมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าหลานๆจะต้องปรับตัวจากสังคมคนรวยต้องมาอยู่ห้องเล็กๆ แคบๆ  แต่ทุกคนก็มีความสุข เพราะทั้งสามเคยเติบโตมากับชีวิตละสังคมแบบนั้น...

       แต่หลีส่วงกลับมีใจชอบพอกับ “สาริศ”  ลูกบุญธรรมของคุณนายเกยูร เรื่องราวมันคงไม่ง่ายนัก ครอบครัวของเธอไม่เห็นด้วยกับความรักของทั้งสอง เธอยังมี “วันชาติ” ชายหนุ่มที่ครอบครัวหมายมั่นปั้นมือว่าจะได้เป็น “ว่าที่ลูกเขย”  แต่เพราะความรักมันไม่ได้อยู่ที่คนสองคนมันยังต้องมีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทั้ง พ่อแม่ ยิกกวงและหลีย้ง (น้องชายและน้องสาว)และศมนเพื่อนชายในอดีต  รวมทั้งอดีตภรรยาเก่าของสาริศอย่าง“บุญฑริกา” ที่เข้ามาพัวพันด้วย...

       เมื่อความจริงเปิดเผยว่าครอบครัวเด็กผู้หญิงที่วันหนึ่งเธอเคยดูถูกดูแคลนเอาไว้กลับมาเพื่อแก้แค้น  และได้รู้ว่าหลีส่วงชอบพออยู่กับสาริศ  คุณนายเกยูรกลัวว่าหลีส่วงจะพรากลูกชายคนโปรดออกไปจากชีวิต  คุณนายไม่สามารถรับได้จึงต้องยอมคืนเงินค่าบ้านงวดแรกเพื่อตัดปัญหาความวุ่นวายไป แต่สาริศมอบเงินขายบ้านทั้งหมดให้กับศมนผู้เป็นน้องชายไปแล้ว...

       เมื่อความรักเจอเข้ากับทางตันหลีส่วงและสาริศจึงต้องตัดสินใจเลือก สาริศเลือกคุรนายเกยูรผู้เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กเพื่อตอบแทนบุญคุณ แต่เขาก็ไม่ต้องการเลิกกับหลีส่วง เขาจึงกลับมางอนง้อเธออีกครั้ง...

หลีส่วงจะตัดสินใจอย่างไรกับปัญหาหัวใจในครั้งนี้...

ความคิดเห็นหลังจากที่ได้อ่าน

       เรื่องนี้ดองเอาไว้นานแล้วตั้งแต่งานหนังสือเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ยังทลายกองดองไม่สำเร็จเลย สำหรับเรื่องนี้จะบอกว่ายังไงดีละ อ่านแล้วเครียดกับสังคมแบบนี้  เครียดกับเรื่องราวหลายๆอย่างและตัวละครที่ดำเนินเรื่องไป แต่อ่านแล้วมันก็วางไม่ลงจริงๆ  แม้เครียดแต่ก็อ่าน อ่านแบบเครียดๆ

       ไม่รู้สึกว่าหลีส่วงและสาริศจะรักกันจริงๆ เพราะเมื่อครั้งในอดีตสาริศเคยล่วงเกินเธอบางอย่าง พอกลับมาเจอกันอีกครั้ง จากความรู้สึกที่ไม่ดีกับคนในตระกูลนี้ กลับกลายเป็นว่าเธอรักสาริศ...(ได้อย่างไร?)  ทั้งที่เจอกันเพียงไม่เท่าไหร่

       สาริศ ผู้ชายที่อ่อนแอในเรื่องของการต่อสู้ในเรื่องราวของความรัก คุณนายเกยูรว่าอย่างไร  เขาก็พร้อมที่จะโอนอ่อนผ่อนตามไปในทิศทางนั้นเสมอ  ชีวิตสมรสที่มีบุคคลที่สามเข้ามาแทรกอยู่ตรงกลางอยู่ตลอดเวลา มันกลายเป็นข้อผิดพลาดในชีวิตสมรสของเขากับบุญฑริกามาแล้วครั้งหนึ่ง...

       ชอบบุคลิคของหลีย้ง  แม้ว่าเธอจะทำตัวเหมือนเด็กๆ ในบางครั้ง   ตามประสาลูกคนเล็กเอาแต่ใจนิดๆ  แต่เมื่อเจอกับปัญหาหรือเมื่อมีเรื่องราวของบุคคลภายนอกที่เข้ามากระทบกับบุคคลในครอบครัว เธอก็พร้อมที่ต่อสู้โวยวายแบบเด็กๆ ง๊องแง๊ง งอแง  แสดงอารมณ์เต็มที่ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ฮาดีครับ...

       นิยายเรื่องนี้แฝงแง่คิดในการดำรงชีวิตเอาไว้หลายอย่างการใชชีวิตแบบสังคมคนจีนของครอบครัวอาม่ากับหลานๆ  แม้ว่าจะอาศัยอยู่ในตึกเช่าคูหาเล็กๆอาศัยค้าขายเล็กๆน้อยๆ  แต่เขาก็มีความสุข ในรูปแบบชีวิตแบบนั้น...

       เรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคม แบ่งฐานะคนรวยกับคนจนออกมาได้อย่างชัดเจน  จนบางทีน้ำใจมันเลือนหายไปจากสังคม   ชอบคำสอนของอาม่าที่ชอบสอนหลานๆเกี่ยวกับเรื่องของการใช้ชีวิตในสังคมและแสดงการน้ำใจอยู่ประโยคหนึ่ง ว่า...

   “ หลีย้ง ต้องคิดอย่างนี้  เรามีน้ำใจกับเขา  ถึงเขาไม่เห็น  น้ำใจเราก็ยังมีอยู่  การที่เขาไม่มีน้ำใจกับเรา  ไม่ได้ทำให้เรากลายเป็นคนไม่มีน้ำใจไปด้วย  น้ำใจอยู่ที่คนให้  ไม่ใช่คนรับ”






Create Date : 28 มีนาคม 2557
Last Update : 28 มีนาคม 2557 15:51:44 น. 10 comments
Counter : 8657 Pageviews.

 
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ แต่ชอบอาม่ากะหลีย้งมากกว่าพระเอกนางเอก เพราะไม่ชอบลักษณะนิสัยทั้งพระเอกนางเอกเลย

รำคาญหลีส่วงตรงที่นางหลงผู้ชายเอามากๆๆ แถมเป็นผู้ชายอ่อนแอที่อยู่ภายใต้การควบคุมของแม่ด้วย

สงสารภรรยาคนแรกของสาริศมาก อยากให้หลีส่วงทิ้งสาริศไปหาคนใหม่ที่ดีกว่า ปล่อยให้พระเอกแห้งตายไปกับแม่นั่นแหละ


โดย: ข้าวปั้น IP: 192.99.14.36 วันที่: 28 มีนาคม 2557 เวลา:16:55:05 น.  

 
จำได้ว่าชอบเรื่องนี้มาก ชอบชีวิตของแม่อร (ถ้าจำชื่อไม่ผิด) และเรื่องราวตระกูลของฝ่ายสาริศ


โดย: Boyne Byron วันที่: 28 มีนาคม 2557 เวลา:17:34:58 น.  

 
อ่านนานมากจนลืมไปแล้วค่ะเล่มนี้


โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 28 มีนาคม 2557 เวลา:18:39:13 น.  

 

Like ให้เป็นคนที่ 1
แวะมาดูรีวิวหนังสือน่าอ่านจังค่ะ



โดย: อุ้มสี วันที่: 28 มีนาคม 2557 เวลา:20:35:29 น.  

 
งงกับเรื่องย่อ
เลยทำให้อ่านรีวิวงงไปด้วย

ทางแก้...ต้องหามาอ่านเองซะละ


โดย: รินบุญญา วันที่: 28 มีนาคม 2557 เวลา:22:33:02 น.  

 
เรื่องนี้ยังไม่เคยอ่านครับ
ตอนนี้เพิ่งได้กลับไปสู่วันฝันมาครอบครอง รออ่าน...


โดย: อุ้มสม วันที่: 29 มีนาคม 2557 เวลา:9:31:06 น.  

 
เรื่องนี้ยังไม่ได้ซื้อเลยค่ะ แต่อ่านรีวิวแล้วพอจะเดาเรื่องได้ค่ะ


โดย: Sab Zab' วันที่: 29 มีนาคม 2557 เวลา:23:00:31 น.  

 
เรื่องนี้เคยอ่านแล้วค่ะ
ชอบคติสอนใจของอาม่านะคะ ชอบความรักความผูกพันธ์ในครอบครัวของหลีส่วง....แต่ก็ตะหงิด ๆ กับความรักของพระนางเหมือนกัน

ผู้เขียนเค้าจบแบบให้คิด ซึ่งเราก็เลือกให้ หลีส่วงตัดใจได้จริง ๆ ไม่ใจอ่อนค่ะ


โดย: Serverlus วันที่: 30 มีนาคม 2557 เวลา:23:11:34 น.  

 
คุณ Serverlus / ขัดใจกับความรักของพระนางจริงๆ ครับ คนอื่นๆ เค้าเครียดๆกัน แต่สาริศกับหลีส่วงรักกันเฉัยเลย เครียดจริงๆ เรื่องนี้

คุณ Sab zab / ลองอ่านนะครับ

น้อง อุ้มสม / จะรออ่านรีวิวกลับไปสู่วันฝันนะครับ

คุณ รินบุญญา / ขอโทษครับ ผมเขียนเรื่องย่อแบบว่า ตัวเองอ่านเข้าใจคนเดียวเท่านั้น สับสนตัวเองเหมือนกันจะเขียนเรื่องย่อยังไงให้คนอื่นอ่านแล้วเข้าใจ คงต้องทบทวนประโยคใหม่แล้วสิ..

คุณ อุ้มสี / ขอบคุณครับที่แวะมาทักทาย และนำภาพปลากรอบ มาฝาก

คุณ หวานเย็นผสมโซดา / ถ้าลืมแล้วต้องรื้อมาอ่านใหม่นะครับ

คุณ Boyne Byron / ใช่ครับ แม่อร แม่ของสาริศ และครอบครัวของสาริศดูวุ่นวายดี โดยเฉพาะนางเงินคนรับใช้ตัวดี ส่วนแม่อร ดูเป็นหญิงที่อ่อนแอครับ ไม่กล้าต่อสู้เพื่อลูกทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าพี่สาวเห็นแก่ตัวยอมพี่สาวตลอดเลย สาริศรับนิสัยแม่มาเต็มๆ

คุณ ข้าวปั้น / สงสัยจะอินหนัก 555+ ตามคคห.คุณข้าวปั้นเลยครับ หลีส่วงหลงสาริศมากๆ เข้าใจหัวอกบุณฑริกาเลยว่าเจอกับแม่ผัวแบบนี้ มีทางเดียวคือเลิก ส่วนพระเอกเป็นเหมือนผู้ชายอ่อนแอไม่มีความรับผิดชอบ แล้วใครจะอยากอยู่ด้วย

อ่านแล้วเครียดครับเรื่องนี่ เครียดจนบรรทัดสุดท้ายเลยว่านางเอกจะตัดสินใจยังไง



โดย: Nat_NM วันที่: 31 มีนาคม 2557 เวลา:10:40:21 น.  

 
เรื่องนี้ชอบอาม่าค่ะ แกสอนหลานๆ ดี


โดย: คอเล่า วันที่: 3 เมษายน 2557 เวลา:15:39:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

blissfultime
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Friends' blogs
[Add blissfultime's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.