 |
| |
เกาะสมุยกับปันปรีดา ฮิปรีสอร์ท 31 Dec.2006 - 7 Jan.2007
 
วันปีใหม่เราจะไปไหนกันดี ตอนแรกจองไปฮ่องกง
ตั๋วเครื่องบินได้แล้ว ออกเดินทางวันที่ 27 ธันวาคม
กลับวันที่ 3 มกราคม
กะว่าขาไปจะไปนอนโรงแรมใกล้ดิสนีย์
พอวันที่ 31 ก็จะย้ายเข้าไปอยู่โรงแรมในตัวเมือง
จนแล้วจนรอดผ่านมา 4 เดือน
ในการจองโรงแรมใกล้ดิสนีย์จองไม่ได้เลย
ได้แต่ตั๋วเครื่องบิน 3 คนพ่อ แม่ ลูก กับ
โรงแรมในตัวเมืองเกาลูน
พอไม่ได้โรงแรมใกล้ดิสนีย์ก็ำพาล
ไม่เอาทั้งตั๋วและโรงแรมในเมือง
ไว้วันเกิดลูกเดือนมิถุนายนค่อยไปก็ได้
ไปวันที่ไม่มีเทศกาลน่าจะดีกว่า
ว่าแล้วก็ไปตอดเพื่อนที่ทำงานขายตั๋วเครื่องบินและทัวร์ว่า เราขอโทษนะ
ไม่ไปแล้วฮ่องกงอ่ะ
เพราะไม่ได้โรงแรมใกล้ดิสนีย์ก็ไม่เอา ไว้โอกาสหน้านะจ๊ะ
แล้วเราก็จะเปลี่ยนโปรแกรมเป็นเกาะสมุยแล้วกัน
อยากเดินทาง
วันที่ 27 และกลับวันที่ 3 มกราคมขอตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักแถวเฉวง
เพื่อนบอกรอแป๊บเดี๋ยวดูให้ (แล้วก็หายไปเช็คข้อมูล)
สายก็ต่อกลับมาบอกว่า......
แหะๆ เป็นอันว่าไฟล์ทบินเต็มหมดเลย ไปว่างวันที่ 31 ธันวาคม
และเหลืออยู่ 4 ที่นั่งของบางกอกแอร์เวย์
และโรงแรมแถบเฉวงก็เต็มหมด เหลือแต่แถวบ่อผุดอีก 2 ที่เท่านั้น
ที่แรกก็ปันปรีดาราคาอยู่ที่ สามพันกว่าบาท ต่อคืน
กับอีกที่จำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร ราคาตกต่อคืนประมาณ เจ็ดพันกว่าบาท
เรา :- แล้วขากลับล่ะ วันที่ 3 มกราคมกลับได้หรือเปล่า?
เพื่อน :- ไฟล์ทเต็มหมด มีว่างวันที่ 7 มกราคมบินไฟล์ท 7 โมงเช้า
เรา :- เออ งั้นรีบจองตั๋วเครื่องบินให้ก่อนแล้วกัน 3 ที่
ส่วนที่พักไปปรึกษาฝาละมีก่อน
จากนั้นเราก็ไปปรึกษาที่รักของเรา
เพราะต้องพึ่งสปอนเซอร์ที่จะไปเที่ยวด้วยกัน
สรุปแล้วก็พักที่ปันปรีดานั่นแหละ พักตั้งหลายวัน
ไม่รู้จะไปพักที่เจ็ดพันกว่าทำไม (ก้อคิดกันแบบนี้)
ตกลงเราก็โทรกลับบอกเพื่อนไปภายในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง
เพื่อนบอก เออ ปันปรีดาน่ะดีแล้ว เป็นรีสอร์ทเพิ่งเปิดใหม่
จากสนามบินไปโรงแรมใช้เวลาแค่ 3 - 5 นาทีขับรถเท่านั้นเอง
ใครๆเขาก็พักกันนะจ๊ะ
จากวันนั้นผ่านมา 10 วันเฉียดๆก็เป็นวันที่ 31 ธันวาคม
ตื่นนอนกันตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง เจ้าลูกก็ยังนอนหลับอุตุอยู่บนเตียง
ส่วนพ่อแม่ก็รีับอาบน้าแต่งตัวเตรียมไปสนามบินสุวรรณภูมิ
ส่วนลูกน้าไม่ต้องอาบกัน เอาชุดเดินทางไปเปลี่ยนเอาก็ได้
หอบลูกขึ้นรถทั้งที่ยังหลับๆนั่นแหละ (แล้วก็หลับต่อไป)
เพราะเที่ยวบิน PG 109 ออกเวลา 6:30 A.M.
แหกขี้ตาตื่นกันไป แต่ก็ดีค่ะรถไม่ติดเลยจากปากเกร็ดถึงสุวรรณภูิมิ
กินเวลาไป 40 นาทีเอง เพราะถนนว่างใครๆเขาก็หนีกรุงเทพฯกันไปหมดแล้วแหละ
บนเครื่องมีแต่ฝรั่งเต็มที่นั่ง บินแค่ 45 นาทีก็ถึงเกาะสมุย
ลูกก็ได้ของบนเครื่องเป็นถุงสีเขียวมีแผนที่เกาะสมุย
ภายในบรรจุพลาสติกเป็นที่ตักทราย
ส่วนอีกถุงเป็นผ้าโปร่ง ข้างในคือเทียนหอมในรูปช้าง
 
ถึงสนามบินเกาะสมุยก็หอบกระเป๋ากันขึ้นรถตู้ที่บริการ
ส่งนักท่องเที่ยว เสียค่าหัว คนละ 50 บาท
รถขับไปไม่เกิน 5 นาทีก็ถึงปันปรีดา ฮิปรีสอร์ท
อยู่ที่บางรักษ์ ติดกับบ่อพุด ที่พักเราอยู่ชั้น 3 ติดถนน
มีที่พักติดทะเลเหมือนกันแต่เราไม่ได้อยู่
อยู่ตั้งหลายวันกันน่าจะย้ายห้อง แต่ขี้เกียจย้ายและเก็บข้าวของ
กันทั้งสามีและภรรยา เพราะตอนกลางคืนหนวกหูค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นผับเปิดเพลงดิสโก้ (แถมจุดพลุทุกคืนอีก)
แต่ก็นอนหลับนะ อิ อิ
ภายในที่พักและบรรยากาศสระว่ายน้าติดทะเล
แต่ทะเลแถวนี้ไม่สะอาดเลยค่ะ
เพราะติดสถานที่ประมงและเป็นท่าเรือสำหรับไปเที่ยวเกาะอื่นๆ
 
ส่วนรูปนี้เป็นอ่างจากุชชี่
มีอยู่ห้องเดียวอยู่หน้าทะเลติดกับสระว่าย
/
/
วันส่งท้ายปีเก่า ที่บริเวณสระว่ายน้าทางที่พักจัดปาร์ตี้ด้วย
แต่ครอบครัวเราไม่ได้ไป เพราะคิดว่าแพง อีกทั้งลูกเราคงหลับ
ในช่วงเวลาcountdown ก็ไม่รู้จะไปจอยกับเขาทำำไม
เลยไปหาที่กินแถวเฉวงดีกว่า
ส่วนตัวคิดว่าแถวนั้นคงสนุก ก็แต่งตัวเพื่อสนุกกับเขา
โดยทำผมและเสียบเขากวางบนหัว
ที่ไหนได้เงียบไม่คึำกเลย รีบแกะเขาออกจากหัวดีกว่า แหะๆ เขิลล์
 
 
 
พวกเรา 3 คนพ่อแม่ลูก ก็ไปกินอาหารอิตาเลียน
ชื่อร้าน RICE เป็นร้านอาหารอิตาเลียน เป็นร้านหนึ่ง
ที่ดูทันสมัยในเฉวง
พวกเราสั่งเครื่องดื่ม ,สลัดผัก, อาหารจานหลักคนละจาน
ร้านอาหารอิตาเลียน นั้นหาไม่อยากหรอก
เพราะบนเกาะนี้มีเป็นร้อยๆร้านเลย
ดูไปแล้วบนเกาะนี้น่าจะมีไทยครึ่ง ฝรั่งครึ่ง
จากการอ่านข่าวของเมืองไทย
ที่ดินบนเกาะนี้กำลังบูม ถึงขนาดมีมาเฟียเข้าแทรกแซง
 
 
 
ห้องอาหารของปันปรีดา มีชื่อว่า " ดาราดาษ "
ค่ะจริงตามบรรยากาศยามคำคืน
เพราะที่นั่งอยู่ติดสระว่ายน้า
แหงนคอมองขึ้นท้องฟ้า ก็เห็นดาวเต็มท้องฟ้า
ยามเช้าก็สดชื่น ทะเลไม่น่าลงเล่นเพราะสวะเยอะเต็มหน้าหาด
พนักงานของที่พักจะมาเก็บขยะหรือสวะทุกวัน
เพื่อให้เนื้อที่หน้าที่พักดูแล้วสะอาดตาขึ้น
 
 
กิจกรรมไปเที่ยวรอบๆเกาะก็มีทุกวัน
ถ้าเป็นทริปที่ต้องจองมีอยู่หลายที่
เราเลือกไปแค่ที่เดียวคือ หมู่เกาะอ่างทอง กับทัวร์ลมพญา
กิจกรรมในทัวร์นี้ก็มีดำน้า และ พายเรือคายัค
รถเริ่มมารับออกจากที่พักเวลา 7:00 น.
พาไปที่ท่าเรือ และทานอาหารเช้า
ประมาณว่า ขนมปัง, ชา ,กาแฟ ง่ายๆ
จากนั้นก็พานักท่องเที่ยวประมาณ 30 คนได้
ลงเรือสปีดโบ๊ท
วันนั้นอากาศดีแต่มีคลื่นแรงมาก ขนาดเรากินยาแก้เมาก็เอาไม่อยู่
ผู้หญิงฝรั่งที่มีลูกก็โว้ยวาย ขอกลับเข้าฝั่งเพราะดูเด็กอื่นๆ
ท่าทางจะเมากันหมด คนเรือก็ขอโทษ ขอโพยว่า
ขอโทษด้วยเพราะคลื่นลมแรง ขากลับจะดีขึ้นครับ
ผู้หญิงฝรั่งคนเดิม ถามว่าทุกคนว่า ใครอยากกลับเข้าฝั่งตอนนี้
ให้ยกมือขึ้น เพราะเพิ่งออกจากท่าเรือมาได้แค่ครึ่งชั่วโมงเดียวเอง
ก็มีแต่กลุ่มเขานั่นแหละซึ่งมีเด็กและผู้ใหญ่ด้วยประมาณ 10 คน
ที่เหลือรวมดิฉันด้วยก็ไม่ยกมือหรอก เพราะไหนก็มากันแล้ว
แค่อ้วกก็อ้วกไปซิว่ะ และแล้วก็แจกถุงอ้วกแตกกันหญ่าย
รวมดิฉันและลูกก็อ้วกเหมือนนัดกัน
มาถึงทะเลในก็มีแรงปีนขึ้นไปดูวิวทะเลสีมรกต ก็หายเป็นปลิดทิ้ง
และไปอีกหลายเกาะ กว่าจะกลับก็ประมาณห้าโมงเย็นถึงที่พัก
 
 
 
 
เนื่องจากอยู่หลายวัน พอตอนกลางวัน วันไหนว่างๆ
เราก็นั่งรถสองแถว ไม่ก็แท๊กซี่ไปกันเองก็หาทริปสั้นๆไปเที่ยวกันเรา 3 คนพ่อแม่ลูก
ก็มีไปดูการแสดงลิง ที่ลูกชอบ ไปถึงที่ทำการแสดง
มีเด็กและผู้ใหญ่สนใจดูกันประมาณแค่ 20 คน
ไม่เหมือนไปดูสัตว์น้า มีการโชว์นก และ เสือ
คนดูกันตรึม การแสดงนี้น่าจะดีที่สุดบนเกาะสมุย
กับเนื้อที่คนดูพอประมาณ เราว่ามันทั่วถึงดีนะ
 
 
 
 
 
ใกล้บริเวณที่พักห่างเพียงแค่หนึ่งกิโล
มีที่เที่ยวคือวัดพระใหญ่ อยู่ติดทะเลมองเห็นได้
มีร้านอาหารอยู่ด้านหน้าทางเข้าวัดด้วย
ไปกินอยู่ 2 ครั้งในตอนกลางวัน
เพราะสามีชอบดูแล้วบรรยากาศดี
ส่วนเราชอบกิน แต่ว่าสั่งแล้วอาหารมาช้าประจำเลยค่ะ
 
 
แถบบริเวณที่พักอาศัยด้านนอกที่พัก
ก็มีอยู่ร้านที่ขายไก่ย่าง ชื่อร้าน Hot Chicken
เป็นเด็กฝรั่งหนุ่มอัธยาศัยดีขาย
มีกาแฟ,เบียร์. พาย และ พิซซ่า มีให้ซื้อในร้าน
พวกเราเดินผ่านทุกวันจะทักทายเสมอถึงแม้จะไม่ซื้อ
ไม่ได้แค่เราหรอก คนอื่นเขาก็ทักทาย เฮ้ๆทุกคนเลย
ข้างร้านมีร้านส้มตำ ด้วย ขายเฉพาะตอนกลางวัน
แซ่บอร่อยดีค่ะ
 
กิจกรรมยามว่างก็กระโดดลงสระว่ายน้า
ส่วนดิฉันจะอ่านหนังสือนิยายไปเรื่อยเปื่อย
กิจกรรมอีกอย่างคือนวดเท้า, นวดตัว ทุกวัน
เพราะสถานที่นวดอยู่ฝั่งตรงข้ามที่พัก
ชั่วโมงละ 200 บาท ส่วนใหญ่สามีไป ดิฉันจะดูลูก
พอออกไปดิฉันก็จะแอบกินหนมกระจุ๊กกระจิก
ทำไมต้องแอบกินด้วย เพราะพ่อบ้านเห็นก็จะด่านะซิ
ด้วยว่าดิฉันอ้วนขึ้นเรื่อยๆเพราะกินขนมพวกนี้แหละ
เราว่าคนอื่นเขาก็กินกันนะ ยามว่าง เช่น
กล้วยแขก ,ถั่วต้ม ,ข้าวโพดย่าง, เฉาก๊วย ,มันฝรั่งทอด
พี่แกจะให้ฉันกินแต่อาหาร 3 มื้อ แล้วห้ามกินอย่างอื่น
ขอบอกว่ามันเป็นที่น่าขัดใจเป็นอย่างยิ่ง (มากๆเลยด้วย)
สถานที่นวด
/
/
วันที่ 7 มกราคมเป็นวันกลับ
2 วันก่อนกลับจนถึงวันที่บินกลับ ฝนตกหนักทุกวันเลย
@@จบแล้วนะ ห้ามไปบอกสามีฉันนะว่า ฉันแอบกินหนม*
| Create Date : 16 มกราคม 2550 |
| Last Update : 14 ธันวาคม 2551 8:13:41 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 3553 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
| |
|
 |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 70 คน [
