ความรัก...บางครั้งก็เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ แต่...บางครั้งก็เป็นสิ่งที่น่าค้นหาและอยากเรียนรู้ที่จะรัก...
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
1 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 

**นักธุรกิจหนุ่มปากกล้ากับเลขาซ่าส์จอมเปิ่น** (ตอนที่ 1)



สายลมพัดเอื่อย ๆ บรรยากาศเย็นสบาย ท่ามกลางความเงียบสงัด มีเพียงหญิงสาวร่างบางที่ยืนคร่ำครวญคิดถึงผู้เป็นบิดาที่จากไปแบบไม่มีวันกลับ โดยการสั่งเสียครั้งสุดท้ายก่อนจากไป
“ฝากดูแลแม่ด้วยนะลูก”
คำสั่งเสียครั้งสุดท้ายที่ผู้เป็นบิดากล่าวกับลูกสาววัยยี่สิบเจ็ด ก่อนจะสิ้นลมหายใจต่อหน้าต่อตาของผู้เป็นบุตรสาว ทำให้หญิงสาวผู้ที่ยืนอยู่ท่ามกลางสายลมพัดเย็นครุ่นคิดถึงเรื่องที่จะสืบทราบให้ได้ว่า ใครอยู่เบื้องหลังการล้มละลายของผู้เป็นบิดา จนความดันกำเริบเส้นเลือดฝอยในสมองแตก โดยการผันตัวเองจากนักธุรกิจสาว มาเป็นนักสืบสาวที่หัวใจสู้เต็มร้อย..

“เข็ม ตื่นรึยังลูก” คุณหญิงนงคราญ ปลุกหญิงสาวผู้ที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียงน่ารักลายโดเรมอน
“ขออีกงีบนะคะแม่” เมื่อคืนเข็มนอนดึก เสียงตอบรับของหญิงสาวอย่างสลึมสลือเมื่อได้ยินเสียงมารดาปลุก
“ตามใจ ถ้าไม่อยากไปวัดทำบุญให้คุณพ่อก็นอนอยู่บนเตียงนี่แหละ” มารดาพูดประชดซึ่งหล่อนรู้ดีว่าการที่หล่อนเอ่ยอย่างนี้บุตรสาวคงปฏิเสธไม่ได้แน่ เพราะหล่อนรู้อยู่แก่ใจว่าบุตรสาวรักและเคารพผู้เป็นบิดาอย่างมาก
หญิงสาวม้วนตัวลงจากเตียง พร้อมคลานไปหยิบผ้าขนหนูผืนหนา เข้าห้องน้ำแต่โดยดี โดยที่มีเสียงตามหลังของมารดาอยู่ด้านนอก
“แล้วแม่จะให้ป้าน้อมเตรียมอาหารรอนะลูก” มารดากำชับเหมือนจะรู้ดีว่าผู้เป็นบุตรสาวกำลังทำอะไรอยู่ในห้อง
เสียงวิ่งลงจากบันไดพร้อมกับเสียงร้องทักทำให้ผู้เป็นแม่บ้านตกใจจนผวา!!!
“เสร็จรึยังคะป้าน้อม เข็มเสร็จแล้วนะ”
“คุณเข็มน่ะ ! วิ่งลงมายังกับหนีอะไรงั้นแหละ ป้าตกใจหมดเลยค่ะ” ผู้เป็นแม่บ้านค้อน
“แหม ทำตกใจเหมือนคนแก่ๆๆๆ ไปได้ค่ะ” หญิงสาวตอบแบบกวน ๆ
“ก็ป้าแก่แล้วนี่คะ จะให้เหมือนสาว ๆ อย่างคุณเข็มได้ยังไง” หญิงผู้เป็นแม่บ้านย้อน พร้อมกับลุกขึ้นถือตะกร้า ที่เต็มไปด้วยข้าวของที่เตรียมมาพร้อมที่จะเดินทาง

“โอ้ โห วันนี้คุณแม่ของเข็มสวยมากๆ เลยค่ะ” บุตรสาวทำตาโต พร้อมส่งยิ้มหวาน ๆ ให้มารดาเล็กน้อยพร้อมวิ่งไปกอดเอวมารดาอย่างเด็กขี้อ้อนไม่รู้จักโต
“ไม่ต้องมายอคนแก่หรอก” ดูซิทำท่าเข้า อย่างกับเด็กอายุ สิบแปดนะเข็ม มารดาทัก
“เอ้า...ไปกันได้แล้วจ๊ะ สายแล้วนะ”

“วันนี้มีอะไรทานบ้างคะป้าน้อม เข็มหิวแล้วค่ะ “ หญิงผู้เป็นบุตรสาวมองหน้าแม่บ้านอย่างอ้อนวอนหลังจากกลับจากทำบุญที่วัดก่อนที่จะวิ่งเข้าครัวไปนั่งที่โต๊ะรับประทานอาหาร
“ก็ของชอบคุณเข็มทั้งนั้นแหละค่ะ” แม่บ้านตอบพลางส่งยิ้มอย่างเอ็นดู
“ขอบคุณค่ะป้าน้อม” หนู(ไม่ค่อยจะ)น้อยส่งยิ้มตาหยีให้กับผู้เป็นแม่บ้านที่เธอทั้งรักและเคารพดังบุพการีคนที่สองของเธอ
“ทานเยอะ ๆ นะคะ”
หญิงสาวยิ้มรับพร้อมกับทำท่าทางรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย ท่ามกลางความสนใจของผู้ที่เป็นมารดา และแม่บ้าน
“น้อมไม่เข้าใจเลยค่ะคุณหญิง ที่จู่ ๆ คุณเข็มก็ไปสมัครงานที่บริษัทเพื่อนคุณท่าน” ทั้ง ๆ ที่บริษัทของคุณท่านก็ยังไม่มีใครดูแล ลำพังจ้างพนักงานก็คงไม่เหมือนเราดูแลเองนะคะ เสียงแม่บ้านพึมพำพร้อมกับยิงคำถามให้ผู้เป็นเจ้านายตอบเพื่อให้หายข้องใจ
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะแม่น้อม เพราะเข็มเขาบอกว่าเขามีเหตุผลส่วนตัวของเขา ฉันก็ไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของลูกมากจ๊ะ” แล้วเราคอยดูแลอยู่ห่าง ๆ แล้วกันนะ
เสียงผู้เป็นนายจ้างตอบแบบยังไม่หายข้องใจ แต่ก็ไม่มีใครล่วงรู้ได้นอกซะจาก ผู้ที่เป็นบุตรสาวเพียงผู้เดียว

“ชื่อ เพียงระวี เกษมหิรันด์ค่ะ”
“ทำอะไรเป็นบ้างล่ะ” หนุ่มร่างสูงเพรียว ถามหญิงสาวขณะที่สอบสัมภาษณ์พนักงานใหม่อย่างเอาจริงเอาจัง พร้อมทำท่านั่งมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยทีเดียว
“ฉันมีอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่นนะ มองอยู่ได้” หญิงสาวนึกในใจก่อนที่จะตอบคำถามออกไปอย่างไม่ค่อยจะพอใจกับคำถามเท่าไหร่นัก
“ก็ทำได้ทุกอย่างน่ะคะ” หญิงสาวตอบแบบห้วน ๆ
“ตำแหน่งแม่บ้านทำได้มั้ย” ชายหนุ่มถามกวน ๆ ทั้งที่รู้ว่าคุณวุฒิที่เธอนำมาสมัครคนละเรื่องกันแลยกับคำถามที่เขาถามไป
“นี่คุณ! ฉันมาสมัครเป็นเลขานุการนะ ไม่ได้มาสมัครเป็นแม่บ้าน” เสียงตอบรับแบบโมโหสุด ๆ ของหญิงผู้นั่งทำตาค้อนอยู่ตรงหน้า
“คุณชอบกีฬาประเภทไหน” นี่อีกหนึ่งคำถามที่ทำให้หญิงสาวไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่ที่จะต้องตอบคำถามแบบไร้สาระของว่าที่นายจ้างผู้ที่เธอมาสมัครเพื่อของานทำ
“นี่มันไม่เกี่ยวกับงานที่ฉันมาสมัครนะคะ” หญิงสาวย้อนพร้อมทำจมูกย่นแสดงให้เห็นว่าเขาไม่พอใจกับคำถามที่ถามมา
“กล้าดีนิ เดี๋ยวผมจะติดต่อกลับไปละกันนะ ออกไปได้” เสียงตอบรับจากหนุ่มหน้าคมที่นั่งตรงหน้าหญิงสาวเช่นกัน

“คนบ้า เป็นผู้จัดการอะไรก็ไม่รู้ สัมภาษณ์ไม่เห็นเกี่ยวกับเรื่องงานเลย” เธอบ่นพึมพำพร้อมกับสาวเท้ายาวๆ คิดจะให้พ้นจากบริษัทนี้ให้เร็วที่สุด โดยไม่สนใจว่าผู้ที่เธอพูดถึงจะเดินตามมาหรือไม่
“คุณบ่นอะไรน่ะ” เสียงจากหนุ่มที่เดินตามหลังเธอมาอย่างเงียบ ๆ ทำให้เธอรู้สึกตกใจกับคำพูดของตนเองที่บ่นออกไปอย่างไม่มองหน้ามองหลัง
“เปล่าค่ะ ฉันเพียงคิดว่าบริษัทนี้น่าอยู่จัง” เสียงตอบแบบเลี่ยง ๆ เหมือนคนแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ทำให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าอมยิ้มอย่างพอใจกับคำตอบ ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าเป็นการแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ของหล่อน และรู้อยู่แล้วว่าผู้เป็นบิดาของเขาเป็นเพื่อนกับบิดาของหล่อนเลยทำให้เขาปฏิเสธการรับสมัครงานของหล่อนไม่ได้ โดยที่ไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังของบิดาทั้งสองเป็นอย่างไรบ้าง เพราะหนุ่มหล่อสูงขาวอย่างเขา เป็นหนุ่มไฟแรงที่เพิ่งเรียนจบจากเมืองนอกไม่ค่อยจะสนใจเรื่องส่วนตัวของบิดาสักเท่าไหร่เพราะเขาเพิ่งจะเข้ามาบริหารงานของบิดาได้เดือนเศษเท่านั้นเอง
“เจ้านาย ! จะรับคุณเพียงระวี เข้าทำงานจริง ๆ เหรอคะ” คำถามที่ฝ่ายบุคลากรถามอย่างตกใจเมื่อเธอได้รับคำสั่งให้โทรเรียก เพียงระวี เข้ามาทำงานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
“อ้าว ทำไมล่ะ ลดา” เสียงถามกลับจากชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายที่ได้ยินหัวหน้าฝ่ายบุคลากรเอ่ยขึ้นอย่างงงๆ
“เปล่าค่ะเจ้านาย ไม่มีอะไรค่ะ” เสียงตอบรับแบบมีเลศนัยของหัวหน้าฝ่ายบุคคล แต่เขากลับไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเธอสักเท่าไหร่ เพราะมัวแต่ยุ่ง ๆ อยู่กับงานที่กองพนึนทึนทึกอยู่ตรงหน้าแล้วบ่นพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง
“พ่อนะพ่อ ทำไมต้องไปพักผ่อนไกลตั้งยุโรปแหนะ ปล่อยให้ลูกชายสุดหล่อ(ค่อนข้างจะหลงตัวเองนิดหน่อย)มานั่งวุ่นอยู่กับงาน แทนที่จะได้พักผ่อนหลังเรียนจบ เฮ้อ!...” เสียงบ่นเบา ๆ ไม่ได้ทำให้เขาละสายตาจากงานที่อยู่ตรงหน้าแม้แต่น้อย แต่กลับยิ่งตั้งใจหมกมุ่นอยู่กับมันจนดึกดื่นเพราะต้องทำความเข้าใจกับงานที่ผู้เป็นบิดาได้ทิ้งไว้ให้ก่อนจะอ้างกับลูกชายว่าอยากพักผ่อนตามประสาคนชรา และต้องการจะวางมือทางธุรกิจแล้ว งานนี้เขาไม่เคยที่คิดว่าจะสานต่อธุรกิจของบิดาเลยแม้แต่น้อยเพราะเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยที่จะถนัดในด้านนี้ซักเท่าไหร่นัก ผิดกับธนกร ผู้เป็นพี่ชายของเขาซึ่งเก่งไปซะทุกอย่างทั้งเรื่องงาน เรื่องครอบครัว เขาจะเป็นคนที่ค่อนข้างเอาใจใส่ดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี โดยเฉพาะคุณสายไหม ภรรยาแสนสวยของเขา ที่ทั้งรักและเอาใจใส่ดูแลเธอเป็นอย่างดี

“เทวิน วันนี้เข้าประชุมแทนพี่ด้วยนะ พี่ติดลูกค้าของบริษัท” เสียงอันทุ่มนุ่มนวลของพี่ชายเอ่ยปากให้ผู้เป็นน้องชายรับผิดชอบภารกิจแทนพี่ชาย
“อ้าว! พี่กร ทำไมต้องเป็นผมด้วยล่ะ” เสียงคัดค้านของน้องชาย แบบไม่ค่อยจะเต็มใจซักเท่าไหร่นัก
“ก็พี่อยากให้เราได้เรียนรู้งานให้เยอะ ๆ นะสิ จะได้รับผิดชอบงานบางอย่างแทนพี่ได้” ธนกรเอ่ยตอบ
เทวินทำท่าไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นงานของบริษัทบิดาของตน และผู้ที่ออกคำสั่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่กลับเป็นพี่ชายแท้ๆ ของตัวเอง
“ได้ครับ ผมจะพยายามละกัน” ชายหนุ่มตอบรับพร้อมกับหันไปทำหน้าแหย ๆ ใส่สายไหมผู้เป็นพี่สะใภ้ที่ยืนยิ้มมองดูพี่น้องคู่นี้คุยกัน
“อ้อ ! มีอีกอย่างนะ วันนี้ช่วยต้อนรับพนักงานคนใหม่แทนพี่ด้วยนะพี่คงไม่เข้าบริษัททั้งวันเลย” เสียงสั่งจากพี่ชายแกมบังคับน้องชายนิด ๆ
“อีกแล้วเหรอครับพี่กร แหมถือโอกาสเลยนะ” เทวินทำค้อนนิดๆ แต่ก็อดดีใจไม่ได้เพราะจะได้เจอกับหญิงสาวที่เขาคิดว่าเป็นผู้หญิงปากกล้าคนหนึ่งเลยทีเดียว ในใจคิดว่าจะแกล้งซะให้เข็ดโทษฐานที่ชอบเถียงเขาอยู่เรื่อยไป แถมยังว่าเขาอีกต่างหาก

“เข็ม ตื่นได้แล้วลูกสายแล้วนะ” เสียงตามสายของผู้เป็นมารดาของหนูน้อยที่ไม่ยอมลุกจากเตียงตามเคย
“ขออีกนิดนะคะแม่” สัญญาณตอบรับดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลเมื่อหญิงสาวยังคงมีความสุขกับการนอนในตอนเช้า ๆ อากาศเย็นๆ อยู่เรื่อยไป
เวลาผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมงหญิงสาวผู้หลับใหลก็ยังไม่ยอมย้ายร่างกายอันบอบบางลงจากเตียงอันหนานุ่มของเธอ
“คุณเข็มคะ ตื่นได้แล้วค่า.....” ป้าน้อมร้องตะโกนปลุกหญิงสาวที่เธอเลี้ยงมาอย่างกับลูกตัวเองเมื่อรู้ว่ามันสายยย......มากกก...แล้ว
“สายแล้วเหรอคะป้าน้อม!..” หญิงสาวรีบดีดตัวจากที่นอนพร้อมตะโกนกับผู้เป็นแม่บ้านอย่างตกใจสุดขีด พร้อมคว้าผ้าขนหนูอันหนานุ่ม วิ่งเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่ถึง 10 นาที
“คุณเข็มจะทานข้าวก่อนไหมคะ” ป้าน้อมถามด้วยความห่วงใย
“ไม่ค่ะป้าน้อม ไม่ทันแล้วค่ะ วันนี้เข็มทำงานเป็นวันแรกด้วย” หญิงสาวตอบรับพลางกระดกกาแฟพร้อมแซนวิส ก่อนจะเข้าไปหอมแก้มป้าน้อมแล้วขอตัวไปทำงาน....
“คุณหนูของป้าน้อมไม่รู้จักโตซะที แล้วเมื่อไหร่จะได้อุ้มหลานล่ะทีนี้” ผู้เป็นแม่บ้านบ่นพึมพำก่อนจะเดินเข้าครัวทำหน้าที่แม่บ้านอย่างทุกวัน

ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก..เสียงเคาะประตูดังขึ้นเมื่อเวลา 08.40 นาที
“ขออนุญาตค่ะ” ต้นเสียงมาจากหน้าประตูห้องของผู้บริหารที่กำลังหงุดหงิดกับงานที่ยุ่ง ๆ อยู่
“เชิญครับ” ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มที่ก้มหน้าก้มตาทำงานโดยไม่สนใจคนที่เข้ามายืนอยู่ตรงหน้าแม้แต่น้อยเลย ทำให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าอดที่จะรบกวนสมาธิเขาโดยการทำท่ากระแอมเล็กน้อย
เมื่อมีเสียงทำให้เขาเสียสมาธิ เขาจึงเงยหน้าขึ้นและพบว่าบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นหญิงสาวที่เขาสอบสัมภาษณ์เองกับมือ ทำให้เขาหาวิธีแกล้งหญิงสาวโดยการมองนาฬิกา
“เวลาทำงานหรือครับเนี่ย ขนาดวันแรกนะครับ” ชายหนุ่มพูดแบบกวน ๆ
“ขอโทษค่ะ ดิฉันมาสายแค่สิบนาทีคงไม่ทำให้บริษัทคุณเจ๊งหรอกมั้งคะ” หญิงสาวตอบแบบไม่ค่อยจะเต็มใจยอมรับผิดสักเท่าไหร่
“เหรอครับ งั้นคุณก็ต้องเลิกงานประมาณห้าโมงสิบนาทีเหมือนกันนะ” ชายหนุ่มต่อปากต่อคำกับหญิงสาวผู้เป็นลูกจ้างใหม่ พร้อมกับทิ้งแฟ้มงานให้เธอตั้งเบ้อเร่อพร้อมกับออกคำสั่งให้เธอเรียนรู้งานให้หมดภายในวันนี้..แล้วก็เดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่สนใจว่าลูกน้องจะทำได้หรือไม่...
“คนอะไร ปากจัดชะมัดเลย เป็นผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ได้แต่สั่งๆๆๆ อีตาบ้านี่” หญิงสาวบ่นพึมพำหลังจากที่ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายเดินออกจากห้องไป พร้อมก้มหน้าก้มตาเรียนรู้งานจากแฟ้มที่เจ้านายกองไว้ไห้

“เป็นไงคุณ ทำได้มั้ย” คำถามจากชายร่างโต ที่เดินมายืนอยู่ข้างหลังเธอได้ประมาณสักพักหนึ่งแล้วพร้อมกับยืนฟังเสียงเธอบ่นอยู่ในห้องคนเดียว (บ่นนินทาเจ้านายแสนจะปากร้านเหลือเกิ๊น...)
“คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ไม่ให้สุ้มให้เสียงเลย” หญิงสาวหันมาทำหน้ายักษ์ใส่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ (พลันคิดในใจว่าเขาจะได้ยินที่หล่อนนินทารึเปล่านะ แถมยังเข้าข้างตัวเองอีกว่าคงไม่ได้ยินหรอกมั้ง) ความคิดนี้ยังไม่ทันพ้นจากสมองน้อยๆ ของเขาเลย เสียงตอบรับจากชายหนุ่มหน้าคมก็สอดแทรกขึ้นมา
“ก็มาทันได้ฟังคนแอบนินทาผมน่ะสิ”
“แย่ละสิ ความคิดที่คิดไว้ผิดถนัด” เขาได้ยินจนได้หญิงสาวทำท่าตกใจ แต่ก็ทำเป็นควบคุมอารมณ์ให้เป็นปกติดที่สุด
“ฉันไม่ได้ว่าอะไรคุณซะหน่อย” หญิงสาวพูดตะกุกตะกัก โดยพยายามไม่มองหน้าเขา
ชายหนุ่มได้แต่พยักหน้ารับ เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก เพราะรู้ว่าหล่อนแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ทั้ง ๆ ที่เขาได้ยินว่าหล่อนนินทาเขาเต็มสองรูหู
เพียงระวี พยายามปรับสีหน้าให้ปกติที่สุดเมื่อรู้ว่าผู้ที่เป็นเจ้านายยืนจ้องอยู่อย่างกับรู้ว่าเธอโกหกเขาที่หล่อนบอกว่าไม่ได้นินทาอะไรเลย
“คุณเทวิน มีอะไรจะใช้ดิฉันเหรอคะ” หญิงสาวถามแบบห้วน ๆ ก่อนที่จะหันไปใช้สายตากับเจ้าแฟ้มกองโตที่อยู่บนโต๊ะทำงานข้าง ๆ โต๊ะของเทวิน
“เปล่าหรอก ผมเพียงแต่จะมาบอกคุณว่าถ้างานไม่เสร็จคุณห้ามทานข้าว ข้อหามาสาย” ชายหนุ่มบอกแกมออกคำสั่งกับเธอนิด ๆ แล้วเดินออกจากห้องไปอีกหน
“คนบ้า คนผีทะเล ฮือ ๆๆๆๆ คนยิ่งไม่ได้ทานข้าวเช้ามาด้วย” เพียงระวีบ่นพร้อมทำท่าจะร้องไห้ซะให้ได้เลยกับคำพูดที่เจ้านายสั่งเมื่อตะกี้นี้ แต่ก็ยังก้มหน้าทำงานต่อไป เพราะการที่หล่อนเข้ามาทำงานที่นี่ก็เพราะว่าหล่อนต้องการรู้ว่าบิดาของเทวินมีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้มละลายของบิดาเธอหรือไม่ พลางคิดในใจว่าเราจะต้องทนให้ได้เพื่อรู้ความจริง แต่โถ....เจ้าพยาธิตัวน้อยในท้องของเธอก็ร้องเรียกให้ผู้เป็นเจ้าของหาอะไรรองท้องให้ก่อนละกัน

“ทำอะไรน่ะ!!!” เสียงดังมาจากหน้าห้องกาแฟที่อยู่ซ้ายมือของห้องทำงานเทวิน พลางทำให้หญิงผู้ที่ยืนชงโอวัลติน ต้องตกใจสะดุ้งเฮือก!!!
“เปล่านิ” เสียงปฏิเสธแบบสั่น ๆ ของเธอทำให้ชายหนุ่มอดที่จะขำปฏิกิริยาของเธอไม่ได้ ได้แต่ยืนยิ้มและแอบหัวเราะ แต่ยังคงเสียงแข็งใส่เธออีกจนได้
“ผมบอกว่า ถ้างานไม่เสร็จไม่ต้องทานข้าวไง” ชายร่างโตย้ำคำสั่งที่สั่งไว้ก่อนออกจากห้อง
สมองอันน้อยนิดแต่เต็มไปด้วยความชาญฉลาดและไหวพริบของเธอทำให้เธอรอดจากข้อกล่าวหานี้ไปได้ไม่ยากนัก
“ฉันไม่ได้ กินข้าวซะหน่อย ฉันกินโอวัลตินต่างหากล่ะ” หญิงสาวตอบพร้อมเลิกคิ้วทำหน้าตากวน ๆ ให้ชายร่างโตที่ยืนจ้องเธออยู่ตรงหน้า พร้อมถือถ้วยโอวัลตินเดินเลี่ยงออกไปจากห้องกาแฟนั้น ทำให้ชายหนุ่มอดขำสาวน้อยที่เถียงคำไม่ตกฟากไม่ได้ ได้แต่คิดชื่นชมกับความอดทนและความน่ารักแบบกวน ๆ ของเธออยู่ในใจ

ติ๊ด..ติ๊ด..เสียงนาฬิกาข้อมือดังเตือนเมื่อได้เวลาเลิกงาน แต่หญิงสาวกลับทำหน้างอเมื่อนึกถึงคำพูดของชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายของเธอสั่งไว้เมื่อตอนเช้า
“เข็ม ยังไม่กลับเหรอจ๊ะ” จีระนันท์ เพื่อนใหม่ในบริษัทคนแรกของเธอทักทายเพื่อนร่วมงานพร้อมกับส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“อ๋อ..อีกซักพักจ๊ะนันท์” เสียงตอบรับแบบเอื่อยๆ ของเพียงระวี ทั้งที่อยากจะบอกเพื่อนว่าฉันถูกบังคับแต่ทำไม่ได้....เพราะไม่รู้ว่าอีตาบ้าในสายตาของเธอจะดักฟังอยู่หรือไม่
“นันท์ว่าจะชวนเข็มไปทานไอศกรีมก่อนกลับบ้านน่ะ แต่ไม่เป็นไร โอกาสหน้าแล้วกันนะ” จีระนันท์กล่าวชวนอย่างมีไมตรีต่อเธอ จนทำให้เธออดรู้สึกดีกับเพื่อนใหม่คนนี้ไม่ได้..
เพียงระวีได้แต่ส่งยิ้มให้เพื่อนใหม่ก่อนที่ จีระนันท์จะเดินจากไปเหลือไว้แต่เพียงสาวสวยนั่งใจจดใจจ่อกับเจ้าแฟ้มหนา ๆ ตรงหน้าที่เหลือเพียงไม่กี่แฟ้มเธอก็จะทำสำเร็จ....



“กลับมาแล้วค่ะ” เสียงใสจากหนูน้อยของป้าน้อมร้องทักเมื่อกลับมาถึงบ้าน
“วันนี้มีอะไรทานบ้างคะเนี่ย..หอมจัง ขอทานก่อนละกันนะคะ” สิ้นเสียง เธอนั่งลงพร้อมกับตักข้าวคำโตเข้าปากอย่างกับอดอยากมาจากที่ไหน (ก็ไม่ได้ทานข้าวมาทั้งวันนี่คะ -_-!)
เพี๊ยะ!!! “ไปล้างมือก่อนค่ะคุณหนู” เสียงตีมือหนูน้อยของป้าน้อมก่อนที่จะเอ่ยปากขึ้น
“แหม นิดหน่อยค่ะป้าน้อม” หญิงสาวแย้ง
“ไม่ได้ค่ะ ต้องล้างมือก่อน” ป้าน้อมทำค้อน จนทำให้หญิงสาวปฏิบัติตามแต่โดยดี

“เข็ม นอนแล้วเหรอลูก แม่เข้าไปได้มั้ย” เสียงของมารดาเหมือนอยากจะคุยกับเธอทำให้เพียงระวีต้องมาเปิดประตูให้ทั้ง ๆ ที่ในใจไม่อยากจะตื่นขึ้นมาเปิดเลย
“เหนื่อยมั้ยจ๊ะ ทำงานวันแรก” มารดาถามอย่างห่วงใยก่อนที่จะเดินไปนั่ง ข้าง ๆ บุตรสาวที่นั่งอยู่ขอบเตียง แล้วใช้มือที่อบอุ่นลูบหัวบุตรสาวเบาๆ (แต่หล่อนทำท่าจะหลับซะให้ได้)
“นิดหน่อยค่ะแม่ แต่ก็งานนี่คะก็มีเหนื่อยบ้างธรรมดาค่ะ” หล่อนตอบแบบอ่อยๆ ทั้งที่ในใจอยากจะบอกว่าเหนื่อยมากกก.......เพราะโดนเจ้านายใจร้ายแกล้งทั้งวัน แต่ก็กลัวผู้เป็นมารดาเป็นห่วงและอาจสั่งห้ามให้เธอไปทำงานอีก เพราะเป็นความสมัครใจของเธอเองที่จะเข้าไปทำงานในบริษัทนี้
“เนี่ยเหรอนิดหน่อย เข็มจะหลับแล้วนะแม่ว่า แม่ไม่กวนแล้วนะ” คุณหญิงนงคราญกล่าวกับลูกสาวก่อนเดินออกจากห้องลูกสาวไป


กริ๊ง...งง....เสียงนาฬิกาปลุกที่เธอตั้งไว้เพื่อจะได้ตื่นแต่เช้า แต่ไม่ได้ผลเธอเอื้อมมือไปกดปุ่มปิดเพื่อให้มันหยุดร้องแล้วเธอก็ยังคงหลับสบายใต้ผ้าห่มผืนหนาของเธอต่อไป แต่!!!เธอก็ต้องดีดตัวขึ้นจากที่นอนอย่างรวดเร็วเมื่อเธอนึกได้ว่า มีเจ้านายใจร้ายคอยจ้องที่จะเล่นงานเธออยู่เนือง ๆ ที่บริษัท ทำให้เธอต้องรีบจัดการภารกิจส่วนตัวของเธอให้เสร็จภายในเวลา 08.00 น.
“วันนี้ตื่นเช้าจังเลยนะ ลูกสาวแม่” เสียงมารดาทักแต่เช้าเพราะน้อยนักที่จะเห็นเธอตื่นแต่เช้าแบบนี้
“แหม คุณแม่ไม่ต้องประชดเข็มเลยค่ะ” หญิงสาวตอบรับ เหมือนจะรู้ตัวว่าไม่ค่อยจะได้ตื่นแต่เช้าสักเท่าไหร่นัก
“ค่อย ๆ ทานก็ได้ค่ะคุณหนู” ป้าน้อมทักด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นคุณหนูของเธอหม่ำข้าวซะคำโตเหมือนจะไปแข่งกินวิบากที่ไหน
“ไม่ได้ค่ะ ต้องทำเวลาไม่งั้นเดี๋ยวสาย...ไปนะคะ” หญิงสาวตอบก่อนที่จะวิ่งไปหอมแก้มผู้เป็นมารดาและแม่บ้านที่เปรียบเสมือนแม่คนที่สองของเธอ


“รู้จักมาแต่เช้าเหมือนกันนิ คุณเพียงระวี” เสียงทักจากหนุ่มร่างโต คิ้วหนา ๆ ตาคมๆ ที่ถือว่าเป็นคำทักทายตอนเช้าสำหรับเธอ
เธอไม่ตอบโต้แต่กลับยิ้มให้อย่างแหย ๆ และเลิกคิ้วทำลอยหน้าลอยตาใส่ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านาย (ที่แสนจะใจร้ายสำหรับหล่อน) ก็แหงล่ะ ขืนฉันมาสายเดี๋ยวก็โดนเหมือนเมื่อวานอีกหรอก หล่อนคิดในใจพร้อมอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป





 

Create Date : 01 ตุลาคม 2550
5 comments
Last Update : 23 ตุลาคม 2550 15:54:45 น.
Counter : 568 Pageviews.

 

แวะมาอ่านตรงนี้อีกครั้งคะคุณน้ำค้าง

อ่านแล้วรู้สึกรักเทวินขึ้นมาแล้วจิ ผู้ชายอาไร้ ปากร้ายได้ใจจริงๆ ฮา...

 

โดย: หนึ่งเดียวในใจ 1 ตุลาคม 2550 21:13:38 น.  

 

แวะมาทวง... เมื่อไหร่จะเอามาอัพ หา... เร็วๆนะ จะรออ่าน

 

โดย: ปาณิกดา... IP: 203.151.46.130 4 ตุลาคม 2550 11:43:04 น.  

 

มาสวัสดียามดึกค่ะ คุณ น้ำค้างฯ
เขียนเก่งจังเลยค่ะ

 

โดย: มาลัยแก้ว 5 ตุลาคม 2550 0:37:56 น.  

 

อิอิ สนุกจังเลยยยยย ชอบค่ะๆๆๆ

 

โดย: I love Garfield 16 ตุลาคม 2550 16:15:15 น.  

 

ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ แล้วจะพยายามพัฒนาฝีมือนะคะ

 

โดย: น้ำค้างกลางใจ 24 ตุลาคม 2550 19:16:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


น้ำค้างกลางใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




**น้ำค้าง**
ผู้หญิงที่มีความฝัน (ฝันเฟื่อง)
มีจินตนาการค่อนข้างสูง
ชอบแต่งกลอนมากค่ะ (แต่ก็ไม่ค่อย
ได้เรื่องเลย)แต่จะลองแต่งนิยาย
ดูบ้างน่ะค่ะก็ลองติดตามละกันนะคะ

Emo น้องลิง
Emo หัวหอม
Emo เหลืองดุ๊กดิ๊ก
X
X
X
Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
Friends' blogs
[Add น้ำค้างกลางใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.