ลงทุนในกองทุนรวมอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
สวัสดีครับเพื่อนๆ นักลงทุนทุกท่าน ใกล้สิ้นปีเข้าไปทุกทีแล้ว... มาถึงช่วง โค้งสุดท้าย ของเวลาที่เราต้องหากองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีส่วนบุคคลกันแล้วครับ ในตอนแรกของการลงทุนในกองทุนรวมไม่ยากเราได้กล่าวถึงประโยชน์ของการลงทุนเพื่อลดภาษีกันไปแล้ว (คลิ๊กอ่านตอนแรกที่นี่ครับ) มาถึงในตอนนี้เราจะมาดูแนวทางการลงทุนในกองทุนรวมว่า... เราควรจะลงทุนอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ มีเงินใช้หลังเกษียณในระยะยาว... มาติดตามกันได้เลยครับ หากเราเป็นข้าราชการในสมัยก่อนจะมี เงินบำนาญ ไว้ใช้หลังเราเกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ในปัจจุบันข้าราชการยุคใหม่ที่จะมีเงินบำนาญนั้นมีจำนวนที่ลดลงไปมากครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานอยู่ในภาคเอกชนนั้นคำว่า เงินบำนาญ เป็นอะไรที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลยครับ... นั่นเป็นที่มาของแนวคิดของบทความนี้ก็คือ จะดีมั้ย... ถ้ามนุษย์เงินเดือนจะมีเงินบำนาญเป็นของตนเอง? หลายคนคงอยากรู้วิธีว่าทำอย่างไรจึงจะมีเงินบำนาญเป็นของตนเอง... คำตอบก็คือ การลงทุนในกองทุนรวม สิ่งที่จะทำให้การลงทุนเพื่อสร้างเงินบำนาญไว้ใช้ยามเกษียณของเราประสบความสำเร็จมี 3 องค์ประกอบ ได้แก่ - การเลือกกองทุนรวมที่มีผลตอบแทนเฉลี่ย 10-15% ต่อปี เพราะผลตอบแทนระดับนี้เป็นผลตอบแทนเฉลี่ยที่กองทุนรวมควรจะทำได้ครับ
- วินัยในการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ โดยให้ตัดเงินจากบัญชีแบบอัตโนมัติทุกๆ เดือนเท่าๆ กัน คิดง่ายๆ ว่าหากเราอยากมีเงินไว้ใช้หลังเกษียณเดือนละ 5 พันบาทโดยไม่ต้องทำงานแล้ว ก็ควรตัดเงินจากบัญชีไปลงทุนในกองทุนรวมอย่างน้อย 4 พันบาทต่อเดือนครับ
- ระยะเวลาในการ ทบต้น องค์ประกอบนี้สำคัญมากๆ ครับ ผมลองจำลองการลงทุนโดยใช้เงื่อนไขการลงทุน 4 พันบาทต่อเดือน และไม่ถอนเงินจากกองทุนเลยตลอดระยะเวลา 20 ปี ผลที่ได้ก็คือเราสามารถมีเงินสะสมแบบทบต้นได้ตั้งแต่ 1-5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับผลตอบแทนเฉลี่ยของแต่ละกองทุน หากเราได้รับเงินปันผลราว 5% ต่อปี (ในกรณีที่เลือกกองทุนแบบปันผล) เราจะมีเงินใช้ต่อเดือนได้ตั้งแต่ 5 พันบาทต่อเดือน ถึง 2 หมื่นบาทต่อเดือนโดยไม่ต้องทำงาน! ถือว่าไม่เลวเลยใช่มั้ยครับ
การเลือกกองทุนที่ให้ผลตอบแทนต่างกัน จะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป 20 ปี! แบบจำลองการลงทุนในกองทุนรวม จากที่กล่าวไปด้วยปัจจัย 3 ประการที่จะทำให้การลงทุนของเราประสบความสำเร็จ ผมเลยทำแบบจำลองง่ายๆ มาให้พิจารณาดังต่อไปนี้ (คำอธิบาย... แบบจำลองดังกล่าวคิดเฉพาะผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้น แต่ในความจริงอาจมีปัจจัยต่างๆ เข้ามากระทบและเปลี่ยนแปลงการลงทุนได้นะครับ) จากแบบจำลองดังกล่าวหากเราลงทุนในกองทุนรวมโดยใช้เงินลงทุนเพียงเดือนละ 4 พันบาท สร้างวินัยในการลงทุนด้วยการให้ตัดจากบัญชีออมทรัพย์ทุกเดือน และกองทุนนั้นสามารถทำผลตอบแทนได้ราว 10% ต่อปีโดยเฉลี่ย ในปีที่ 20 เราจะมีเงินออมกว่า 1.05 ล้านบาท ซึ่งหากกองทุนทำผลตอบแทนได้ราว 15% ต่อปีโดยเฉลี่ยเราจะมีเงินออมกว่า 5.5 ล้านบาท! ในปีที่ 20 ซึ่งเป็นปีที่สิ้นสุดการออม จะเห็นว่าการเลือกกองทุนที่ให้ผลตอบแทนต่างกัน จะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป 20 ปี! แล้วเราควรลงทุนในกองทุนรวมไหนดี? คำตอบก็คือเราควรเลือกกองทุนรวมที่มีนโยบายทางการเงินที่เหมาะสมกับเรา และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หากเราคิดจะลงทุนระยะยาว เพื่อการเกษียณอย่างมั่งคั่ง มีเงินไว้ใช้ในยามเกษียณแบบสบายๆ ไม่เป็นภาระของลูกหลาน LTF&RMF ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่ใช่น้อยนะครับ ในวันนี้กองทุนรวมที่ผมจะยกมาให้พิจารณาคือ กองทุนรวมภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.ไทยพาณิชย์ เพื่อไม่ให้เสียเวลาแนะนำกองทุนเด่นๆ เลยก็แล้วกันนะครับ นั่นคือ SCBLT3 และ SCBLTT ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร เรามาดูกันครับ SCBLT3 (ไม่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล) SCBLTT(มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล) เน้นการลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่มีการเติบโตสูงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากหุ้นในระยะยาว และสามารถรับความเสี่ยงจากผลขาดทุนในบางช่วงเวลาได้ มาดูที่ผลการดำเนินการงานของทั้ง 2 กองนี้กันบ้างครับ SCBLT3 ผลการดำเนินงาน YTD อยู่ที่ 18.22% และหากเทียบผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนทำได้สูงถึง 148.13% ส่วน SCBLTT ผลการดำเนินงาน YTD อยู่ที่ 17.31% และหากเทียบผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนทำได้สูงถึง 84.87% ทำผลงานดีแบบนี้กด LIKE ให้เลยครับ ส่วนนักลงทุนที่อยากจะเน้นการลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากหุ้นในระยะยาว และสามารถรับความเสี่ยงจากผลขาดทุนในบางช่วงเวลาได้ก็แนะนำ SCBLT 2 ครับ ซึ่งเมื่อดูผลการดำเนินงาน YTD ทำได้ 12.66% หากเทียบตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 133.65% ในส่วนของกองทุน RMF แนะนำให้ลงทุน SCBRMGW และ SCBRMGWP ที่เน้นการลงทุนในต่างประเทศทั้งตราสารหนี้ต่างประเทศ ตราสารทุนต่างประเทศ และสินค้าโภคภัณฑ์ โดยมีการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน (สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับสกุลเงินบาท) เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนปานกลางในระยะยาวและความผันผวนปานกลางตามสภาวะการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และอีกกองที่น่าสนใจคือ SCBRMS50 ซึ่งให้ผลตอบแทนตามดัชนี SET50 ก็ถือเป็นกองทุนที่น่าจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าสินทรัพย์อื่น ผลการดำเนินการ YTD อยู่ที่ 16.80% หากดูที่ผลการดำเนินงานนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 56.99% เป็นอย่างไรบ้างครับ นับว่าบลจ.ไทยพาณิชย์ก็ทำผลงานได้ดีทีเดียว หากสนใจลงทุนยังทันนะครับเหลืออีกไม่กี่วันเท่านั้นก็จะสิ้นปี อย่าลืมรีบไปซื้อกันนะครับ ไว้คราวต่อๆ ไปเราจะมาเจาะลึกกองทุนรวมกันอีก แต่จะเป็นกองไหนนั้นติดตามชมกันให้ได้นะครับ (นายแว่นธรรมดา) เปิดรับสมัครสมาชิก เว็บบล็อก นายแว่นธรรมดา เปิดรับสมัครสมาชิกรายปีครับ โดยท่านที่สมัครจะได้รับของที่ระลึกจากนายแว่นธรรมดา พวงกุญแจ นกฮูกนำโชค สัญญาลักษณ์แห่งภูมิปัญญา และความโชคดีร่ำรวย สนใจรายละเอียดการสมัครติดตามได้ที่นี่เลยครับ คลิ๊กเพื่อดูรายละเอียดการสมัครสมาชิก "ร้านหนังสืออีบุ๊กส์ นายแว่นธรรมดา" มีหนังสือเกี่ยวกับการเงิน การลงทุน การทำธุรกิจส่วนตัว ให้เลือกซื้อแล้วนะครับ สำหรับสมาชิก 9 ปี ดาวน์โหลดหนังสือฟรี 1 เล่มครับ... เข้าไปดูวิธีการสั่งซื้อหนังสือได้ที่นี่ครับ //naiwaenstore.com/store/how-to-order/
หาบทความเก่าไม่เจอ?" เพื่อนๆ ที่หาบทความเก่าๆ ในเว็บนายแว่นธรรมดาไม่เจอแนะนำให้เข้าไปหาที่ site map ตาม link นี้นะครับ//www.naiwaen.com/?page_id=1773มีครบทุกบทความในเว็บ หาอะไรรับรองเจอแน่นอนครับ
เปิดรับสมัครสมาชิก เว็บบล็อก นายแว่นธรรมดา เปิดรับสมัครสมาชิกรายปีครับ โดยท่านที่สมัครจะได้รับของที่ระลึกจากนายแว่นธรรมดาพวงกุญแจ นกฮูกนำโชคสัญญาลักษณ์แห่งภูมิปัญญา และความโชคดีร่ำรวย สนใจรายละเอียดการสมัครติดตามได้ที่นี่เลยครับคลิ๊กเพื่อดูรายละเอียดการสมัครสมาชิก
แนะนำเว็บไซค์สำหรับคนอยากมีบ้านหลังแรก และต้องการมองหาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ //www.topofliving.com/ (โดยนายแว่นธรรมดา เช่นเคยครับผม)
Create Date : 29 ธันวาคม 2557 |
Last Update : 29 ธันวาคม 2557 10:40:23 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2375 Pageviews. |
|
|