Sri Lanka Trip 2013 : Kandy










จากโปโลนนารุวะ ใช้เวลาเกือบสี่ชั่วโมงในการเดินทาง เพราะพวกเรานั่งรถหวานเย็น แต่ก็ไม่ได้อะไร สนุกดีออกครับ
มาถึงแคนดี้ตอนค่ำๆ ตอนแรกที่คุยๆ กันไว้ ก็ว่าจะไปพัก Olde Empire Inn โรงแรมชื่อดังสำหรับนักเดินทางแบกเป้
แต่ดันคิดเยอะไปว่ามันคงจะเต็ม เลยให้ตุ๊กตุ๊กพาขึ้นไปหาที่พักบนเขา แต่ทุกที่ๆจอด ก็เต็มครับ
ในที่สุดลองเสี่ยงไป Olde Empire ปรากฏว่ามีห้องจ้าาา เลยต้องเสียค่าคิดเยอะให้ตุ๊กตุ๊กเพิ่มอีกหลายร้อยรูปี เหอๆ



โรงแรมที่ไปพัก Old Empire Hotel อยู่ติดกับวัดพระเขี้ยวแก้วเลย
บรรยากาศคลาสสิคมาก เหมือนหลุดเข้าไปในโรงเตี๊ยมยุคแกสบี้ ตึกนี้ทั้งตึกเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกด้วย
ที่หน้าโรงแรมมีโลโก้UnescoWorld Herritage ติดไว้ชัดเจน









ได้ห้องพักชั้นล่างครับ ดูเก่าๆ ทึมๆ แต่ไม่สกปรกนะ
เหมือนว่าจะเป็นห้องสุดท้ายที่เหลืออยู่ น้ำร้อนไม่มีให้อาบครับ
แต่ไม่ซีเรียสอะไร มีที่ซุกหัวนอนก็ดีถมไปแล้ว


อาบน้ำเสร็จก็ออกไปหาอะไรกิน ไปเจอร้านไวท์เฮ้าส์ เลยเข้าไป
เราฝากท้องไว้กับร้านนี้ทั้งสองวันเลยครับ เพราะขี้เกียจเดินหา กินเสร็จก็กลับไปพักผ่อน

11 กุมภาพันธ์ 2556

ตื่นสายกว่าที่คิดเพราะเมื่อคืนนอนไม่เต็มอิ่ม ทัวร์จีนที่ลงเป็นคันรถส่งเสียงล้งเล้งตลอดคืน ไม่รู้จะอะไรนักหนา
เดินออกไปที่ระเบียง ก็เห็นวัดอยู่ตรงหน้า มีดอกไม้บูชาพระขายอยู่เรียงราย









ดอกบัวสายสีม่วงนั้น เป็นดอกไม้ประจำชาติศรีลังกาด้วยครับ



ที่วัดพระเขี้ยวแก้วเปิดให้เข้าสักการะสองรอบเช้าเย็น
พวกเราตื่นไม่ทันรอบเช้า เลยออกเดินชมเมืองกันดีกว่า ไว้ค่อยกลับมาตอนเย็น



ทะเลสาบซึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2350 ได้ชื่อว่าทะเลสาบแห่งความโหดร้าย
เพราะมีการประท้วงจากแรงงานที่ไม่ยอมขุด
กษัตริย์จึงจัดการด้วยการเผาทั้งเป็นหลายร้อยศพ กลางทะเลสาบที่กำลังขุดนั่นเอง ตำนานว่าไว้อย่างนี้นะครับ







เมืองแคนดี้ (Kandy)เมืองหลวงเก่าของศรีลังกาก่อนที่จะกลายมาเป็นโคลอมโบในทุกวันนี้
Kandy เป็นอดีตราชธานีที่มั่นสุดท้ายของกษัตริย์สิงหล ก่อนจะล่มสลายกลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอังกฤษ
แคนดี้ หรือชื่อเดิม สิงหขันธนคร ในปัจจุบันเป็นเมืองที่บรรยากาศของตะวันตกและตะวันออกมาแตะมือกัน
กลายเป็นเมืองมรดกโลกแสนเสน่ห์ เมืองที่น่ารักที่สุดบนเกาะลังกา

เมืองแคนดี้ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,600 ฟุต ชื่อเดิมคือ ศิริวัฒนานคร หรือ สิงหขันธนคร
คนลังกาชอบเรียกชื่อหลังสั้นๆ ว่า "ขันธะ" ซึ่งเป็นที่มาให้ฝรั่งเรียกตาม และเพี้ยนไปตามสำเนียงจนกลายเป็น "แคนดี้"

หลังจากการล่มสลายของเมืองโปโลนนารุวะ โปรตุเกสได้เข้ายึดดินแดนที่ราบชายฝั่งแถบเมืองโคลัมโบ
ทำให้กษัตริย์สิงหลผู้ปกครอง Kotte และ Sitawaka ได้อพยพและย้ายราชธานีไปยังดินแดนภายในบริเวณศิริวัฒนบุรี หรือเมือง สิงหขันธนคร
สถาปนาเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์แคนดียัน ในปี พ.ศ.2133

เมืองแคนดี้ (Kandy) นับเป็นราชธานีแห่งสุดท้ายของศรีลังกา มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากกรุงโคลอมโบ ศรีลังกา
ครองโดยกษัตริย์ตั้งแต่พุทธศักราชที่ 1 ภายหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานต่อเนื่องยาวนานนับได้ 2300 กว่าปี มีกษัตริย์ทั้งสิ้น 173 พระองค์
จนถึงในรัชสมัยพระเจ้าศิริวิกรมราชสีหะ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์แคนดี้ ประเทศได้ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ
ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ถูกประเทศมหาอำนาจทางทะเลเข้ามายึดครองคือโปรตุเกส และฮอลันดา รวมแล้วเกือบ 500 ปี
จนได้รับเอกราชเมื่อสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491



เดินไปอีกด้านของทะเลสาบแคนดี้ เจอวัดบุปผาราม หรือวัดพระอุบาลี
เป็นวัดที่พระอุบาลีและคณะสมณฑูตจากกรุงศรีอยุธยามาทำการบรรพชาให้ภิกษุชาวศรีลังกาในสมัยพระเจ้าบรมโกศ
นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ นิกายสยามวงศ์



ด้านในเป็นวิทยาลัยสงฆ์ด้วยครับ มีอนุสาวรีย์พระอุบาลีมหาเถระพระสงฆ์จากกรุงศรีอยุธยา
ที่เดินทางไปลังกาเพื่อช่วยฟื้นฟูพุทธศาสนาและมรณภาพลงที่นั่น







เดินลุยฝนปรอยๆ ไปจนใกล้เวลาหกโมงเย็น จึงได้กลับไปที่วัดศรีดลดา มัลลิกวะ ที่ประดิษฐานพระทันตธาตุ หรือพระเขี้ยวแก้วครับ





ก่อนจะให้สาธุชนเข้าไปสักการะ ก็จะมีพิธีโหมโรงอย่างนี้ครับ เสียงปี่เสียงกลองฟังแล้วขลังดีเหมือนกัน







พระเขี้ยวแก้วเป็นอย่างไรไม่ทราบเหมือนกันครับ เพราะประดิษฐานในผอบ
รูปซ้ายคือผอบจริงที่ถ่ายมาได้แค่นั้น รูปขวาคือที่ถ่ายจากภาพถ่ายบนฝาผนัง



เดินชมวัดต่อ ด้านในมีพระพุทธรูปจากไทยอยู่หลายองค์ครับ







มีเท่านั้นจริงๆ เลยหยอดปัจจัยทำบุญแล้วอำลาพระครัฟ




12 กุมภาพันธ์ 2556

เช็คเอาท์จากโรงแรมแล้วแบกเป้เดินกันไปเรื่อยๆ วันนี้เราจะขึ้นรถไฟกลับไปโคลอมโบ
เพื่อจะต่อรถไฟอีกครั้งไปที่ Galle เมืองป้อมปราการติดมหาสมุทรอินเดีย ทางใต้ของเกาะลังกาครับ
เช็คเวลาแล้วว่ารถไฟจะออกก็บ่ายแก่ๆ เลยถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ






แวะกินมื้อเช้าเป็นกาแฟ และขนมอบมุสลิม ในซอยใกล้ๆ กันเห็นคนมุงอยู่
อ๋อ ที่นี่เขาก็มีหวยขายเหมือนกันครับ กระดาษโพยเรียงเป็นแถวเชียว













































สนุกดีครับ แวะตลาด ซื้อของมาฝากแม่กับเพื่อน ได้ผ้า พวงกุญแจ และชาซีลอน
ซื้อของที่นี่ต้องต่อเยอะๆ ครับ อย่าไปเกรงใจ แขกเขาบอกเผื่อเราต่ออยู่แล้วล่ะ
ตลาดศรีลังกาสะอาดนะ ข้าวของก็เรียงเป็นระเบียบ น่าซื้อหามากครับ







ใกล้เวลาแล้วก็เดินไปสถานีรถไฟ ซึ่งอยู่ใกล้ตลาดนั่นเองครับ
ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ คนที่นี่ยิ้มแย้มแจ่มใสจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นคนพุทธ หรือมุสลิม เห็นเรายกกล้องเป็นต้องยิ้มให้
ไม่เคยจะมีหน้าบูดหน้างอเลยครับ น่ารักอ่ะ



























ลาแคนดี้เพียงเท่านี้ครับ บล็อกหน้าไปที่ กัลล์ (Galle) กันครับ







 

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2556
2 comments
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2556 18:02:47 น.
Counter : 3445 Pageviews.

 

ขอบคุณมากเลยค่ะ
ศรีลังกาไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย...
พอดีกำลังลังเลใจว่าจะไป Conference ที่ศรีลังกาดีไม๊
เค้าจัดที่ Colombo ก็กลัว
แต่พออ่านบล็อคนี้แล้ว..รู้สึกดีขึ้นเลยค่ะ

 

โดย: อาเจ้ของน้องๆ 16 พฤศจิกายน 2556 19:06:32 น.  

 

ที่เป็นอุโมงค์ คล้ายลวดลายที่วัดอุโมงค์เจียงใหม่เลยเจ้า

 

โดย: tuk-tuk@korat 20 พฤศจิกายน 2556 20:53:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Nagano
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
16 พฤศจิกายน 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Nagano's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.