Bloggang.com : Nagano : Myanmar Trip 2012 : Yangon

Myanmar Trip 2012 : Yangon - ย่างกุ้ง

สวัสดีครับ ห่างหายจากการเขียนบล็อกไปสักพัก ...เอิ่ม ไม่นานเท่าไหร่ 8 เดือนพอดีครับ แหะๆ
ตั้งแต่ธันวาปีก่อน หนีน้ำท่วมกลับไปกบดานที่บ้านนอกครับ แต่ก่อนเข้าบ้านแวะหาเพื่อนสนิทที่เชียงใหม่ก่อน
แล้วยืมมอเตอร์ไซค์ออกไปหาถ่ายรูปวัด รูปวิหารเก่าๆ คิดยังไงไม่รู้อยากไปแม่แจ่ม ก็ไปเที่ยวแม่แจ่มครับ ว่าจะกลับบ้านแล้วนะ
แต่เห็นว่าแม่ฮ่องสอนอยู่ใกล้ๆ เลยไหลไปแม่ฮ่องสอนต่ออีก ไปแบบพะรุงพะรังด้วยสัมภาระหนักอึ้ง
เพราะไม่ได้ตั้งใจจะไปเที่ยวแต่แรก กว่าจะกลับถึงบ้านได้ก็เลยกำหนดไปเป็นอาทิตย์ หุหุ..

อยู่บ้านได้เป็นเดือนแหละครับ น้ำลดกลับมาก็ไปเที่ยวพม่าต่ออีกสิบวัน จากนั้นก็งาน งาน และงาน มาตลอดเลย
เพิ่งมีช่วงนี้ที่เบาลง...

วันนี้เอารูปที่ไปเที่ยวมาเมื่อเดือนมกราคมปีนี้มาใส่บล็อกครับ เริ่มจากย่างกุ้งก่อนก็แล้วกัน ช้าไปครึ่งปีเอง
แหะๆ ไม่ค่อยมีเวลาย่อรูป ฝากรูปครับ รูปมันใหญ่
จะฝากไว้ที่นี่บางทีก็ไม่ผ่าน เกรงใจกลัวเซิฟเว่อร์เขาจะทำงานหนักครับ
คือผมเป็นคนเยอะ เอารูปลงที่ไหน ไซส์มักจะไม่เท่ากัน ตีตราก็ไม่เหมือนกันด้วย
ถ้า Bloggang มีให้อัพโหลดรูปแบบ Ctrl+ เหมือนเว็บอื่นก็ดีสิเนอะ...

ครั้งนี้เป็นทริปพม่าครั้งที่สองแล้วครับ ไปกับคนเดิมแต่ไปพร้อมกล้องตัวใหม่
คราวก่อนเมื่อกลางปี 53 เครื่องลงตอนหัววัน ตกค่ำก็ไปมัณฑะเลย์ต่อเลย

แต่คราวนี้เดินทางจากทุ่งบางพลีวันที่ 6 มกราคม 2555 ไปถึงสนามบินมิงกะลาดงตอนหัวค่ำ เลยต้องหาที่พักกันในย่างกุ้งก่อนหนึ่งคืน
การเดินทางเป็นแบบแบกเป้ครับ กินง่ายอยู่ง่าย ประหยัดได้ก็ประหยัด นอนเกสต์เฮ้าส์ กินข้าวริมทาง อาหารท้องถิ่น
โชคดีที่เป็นคนบ้านนอก ไปที่ไหนก็ปรับตัวได้ง่าย อันนี้ผมคิดเอาเองนะ..

เดือนมกราคม ที่พม่าก็เหมือนบ้านเรา คือเป็นฤดูการท่องเที่ยว ที่พักที่เคยนอนในราคาถูกๆ คืนละ 10 - 15 US$ เต็มหมด
แพงกว่านั้นก็ยังเต็มเลยครับ อาศัยแท็กซี่นุ่งโสร่ง พาไปส่งที่ White House Inn เกสต์เฮ้าส์แห่งเดียวที่หาได้ในย่านสุเล
ซึ่งเป็นแหล่งรวมของเหล่า backpacker
ราคาคืนละ 18 US$ พร้อมอาหารเช้าครับ รีบตกลงเลย เพราะกลัวไม่มีที่นอน

บริเวณด้านนอกเกสต์เฮ้าส์ ใช้เศษหินอ่อนตกแต่ง งานไม่ละเอียดหรอกครับ แต่ก็ดูเก๋ดี สภาพภายในห้องไม่กล้าถ่ายมา เพราะเยินมาก
ยังไงก็นับว่าโชคดีที่ยังหาที่ซุกหัวนอนได้แหละครับ
ในฤดูท่องเที่ยว ย่านดาวน์ทาวน์เต็มเอี๊ยด ได้ราคานี้ มีอาหารเช้าด้วย ก็หรูแล้วสำหรับขี้นกแบกเป้อย่างพวกผมครับ

อาบน้ำอาบท่ากันแล้วก็ออกไปหามื้อเย็นกิน ต่อด้วยน้ำชากาหนึ่งแถววงเวียนเจดีย์สุเล แล้วก็กลับมาพักผ่อนครับ ย่างกุ้งตอนกลางคืนไม่ค่อยมีอะไรให้ดูนักหรอก
นี่เป็นวิวเมืองตะโก้ง(ชื่อเดิมของเมืองหลวงเมืองนี้) มองจากเกสต์เฮ้าส์ครับ เห็นมหาเจดีย์ชเวดากองอยู่ลิบๆ

ตอนเช้าก็ยังเป็นมุมนี้ครับ ชเวดากองเห็นได้จากทุกมุมของย่างกุ้ง เพราะนอกจากจะเป็นเจดีย์ไซส์มหึมาแล้ว ยังตั้งอยู่บนเนินสูงอีกด้วย

เมื่อเย็นวาน เราซื้อตั๋วรถทัวร์ไปมัณฑะเลย์กันไว้แล้ว แต่กว่าจะถึงเวลารถออกก็ช่วงเย็น ก็เลยมีเวลาว่างหลายชั่วโมง ออกไปหาแลกเงินแล้วเดินเที่ยว ถ่ายรูปฆ่าเวลาครับ

ไม่ได้มาปีกว่าๆ ย่างกุ้งไม่เปลี่ยนไปมากเท่าไหร่ แต่เท่าที่สังเกต เห็นมีการปรับปรุงอาคารเก่าหลายแห่ง
เพื่อรับการเลือกตั้งทั่วไปครั้งสำคัญของประเทศ(ซึ่งเราก็ทราบผลแล้วว่าใครได้รับชัยชนะ)

"Sule Paya" วงเวียนเจดีย์สุเล ย่านนี้เปรียบเสมือนถนนข้าวสารของย่างกุ้ง มีที่พักราคาประหยัดสำหรับนักเดินทางแบกเป้อยู่มากมาย
เจดีย์สุเล ตามตำนานสร้างในสมัยพุทธกาล นั่นหมายความว่าเก่าแก่กว่าชเวดากองเสียด้วยซ้ำ
แต่ปัจจุบันองค์เจดีย์ถูกรายล้อมไปด้วยร้านค้าที่รัฐบาลสลอร์กสร้างให้คนเช่าขายของ สร้างทัศนียภาพอันน่าเกลียด
รถเมล์แทบทุกสายจะผ่านจุดนี้ นั่นทำให้สุเล พยาเป็นดั่ง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ!

ประชากรพม่าในย่างกุ้งส่วนใหญ่เป็นแขกนะ ไอ้หนูคนนี้มาตื๊อขายโปสการ์ด ถ่ายรูปมันซะเลย แต่ไม่ซื้อ ฮ่าๆ

คนพม่ายังมีอัธยาศัยดีเหมือนเดิม คุณลุงคนนี้ ไม่ต้องเอ่ยปากขอ แค่ยกกล้องแกก็พยักหน้าให้ยิ้มๆ

พ่อค้าขายหนังหมู เครื่องในหมูเสียบไม้จุ่มในน้ำมันร้อนๆ ของกินแบบนี้มีขายทั่วไปในพม่า ผมเคยกินครั้งเดียว ไม่ชอบครับ เลี่ยนเกินไป

ศาลาว่าการกรุงย่างกุ้ง Yangon City Hall มาครั้งก่อนเป็นอาคารเก่าคร่ำคร่า ตอนนี้ทาสีใหม่ขาวโพลนสดใส

ย่านนี้มีชาวพม่ามุสลิมอยู่เยอะเหมือนกันครับ พบเห็นสุเหร่าแบบเปอร์เซียอย่างนี้ได้ทั่วไป

เดินไปทางทิศเหนือ เจอวัดคริสต์สวยๆ อาสนวิหารเซนต์แมรี่ (St.Mary's Cathedral)

ตึกเก่านี้สวยมาก อังกฤษเคยใช้เป็นฐานบัญชาการระหว่างยุคอาณานิคม ปัจจุบันเห็นมีครอบครัวตำรวจอาศัยอยู่ครับ

Government Press Building เคยได้ยินคำบอกเล่าว่า หากเห็นอาคารสถานที่ใดในพม่าที่มีธงชาติติดไว้ ห้ามถ่ายรูป
เพราะมีคนในบอร์ดแบ็คแพ็คเคยโดนทหารที่คุม ดุด่าจะทุบกล้องมาแล้ว แต่นี่เห็นไม่มีใคร เลยขอแชะนึง

ขนส่งมวลชนย่างกุ้ง ถูกมาก ขากลับพวกผมนั่งรถเมล์กลับไปสุเล เพราะเดินจนเมื่อย ค่าโดยสารตกคนละ บาทห้าสิบตังค์ เองครับ

บริเวณหน้าวัดหลวงพ่อทันใจ

หนูน้อยลูกสาวพ่อค้าขายเครื่องดื่ม อ้วนท้วน น่ารักเชียว

เดินไปตามซอกซอย พบอะไรอย่างนี้เป็นระยะๆ คนพม่าคลั่งไคล้บันเทิงเกาหลีไม่แพ้คนไทย เผลอๆ จะมากกว่าด้วยซ้ำ ที่บ้านนอกของผม
ไม่เห็นจะมีบ้านไหนเปิดดูละครเกาหลีกันสักเท่าไหร่ แต่ที่พม่า ตั้งแต่ในเมืองไปจนถึงหมู่บ้านในหุบเขา ติดละครเกาหลีกันงอมแงม
หม่องพม่านุ่งโสร่ง ทำผมเกาหลี เดินกันให้ว่อน

ย่านนี้มีคนรับแลกเงินเดินกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ จะแลกเงินต้องเดินผ่านไปเรื่อยๆ พวกเขารู้จักกันหมด ปฏิเสธไปก่อน แล้วสุดท้ายอัตราแลกเปลี่ยนก็จะเพิ่มขึ้นจนคุณพอใจ

High Court Building ตึกนี้สีสวยดีครับ

ย่างกุ้งมีผังเมืองที่ดีทีเดียว เพราะอังกฤษวางไว้ให้ แบ่งเป็นบล็อกๆ จำง่าย และมีตึกเก่าสวยๆ แบบนี้เหลืออยู่มากมาย

แอบถ่ายเจ๊คนนี้มา...เห็นแกเหม่อได้ใจดี

ตลาดสก๊อตต์ Aungsan Bogyoke Market แหล่งช๊อปปิ้งชื่อดังของย่างกุ้ง แต่สำหรับผมเฉยๆ นะ รู้สึกว่าไม่มีอะไรน่าซื้อ ยังกับตลาดวโรรส เจียงใหม่แน่ะ...

ในตลาดครับ

เห็นส้มสีสวยๆ ก็อยากกินเหมือนกัน แต่อากาศร้อน เลยเลือกน้ำเปล่าดีกว่า

ลองกินมาแล้วครับ รสชาติเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ

..........................

ไม่มีอะไรมากกว่านี้ เพราะกลับที่พักไปเช็คเอาท์ นั่งแท็กซี่ไปขนส่ง อ่องมิงกะลา เพื่อเดินทางไปมัณฑะเลย์ครับ
รูปที่เหลือ กลับมาถ่ายเอาวันสุดท้าย ซึ่งกลับมาตอนค่ำๆ แล้ว ผมอยากจะไปเก็บภาพพระมหาเจดีย์ชเวดากองยามค่ำคืนพอดี
เพราะมาครั้งก่อน ฝนตก แสงไม่ดีเลยครับ
(ภาพถ่ายวันที่ 15 มค. 2012)