หวานใจนายมาเฟียตอนที่ 9



ทักษ์ยืนมองลูกน้องที่กำลังดำเนินการถอนรหัสประตูคอนโดตรงหน้าอย่างร้อนใจ ในใจของเขาอยากจะยิงไอ้ประตูบ้านี้ทิ้งให้รู้แล้วรู้รอดไป ถ้าไม่เกรงว่าประตูบานนี้อาจจะตั้งระบบเตือนภัยอัตโนมัติเอาไว้และเรื่องจะยิ่งยุ่งยากเข้าไปใหญ่ จริงอยู่ที่ทักษ์ พัฒนะไพศาล บ้าบิ่นและไม่เคยกลัวอะไร แต่ตอนนี้เขากลับกังวลถึงชื่อเสียงของผักหวานจนไม่กล้าที่จะทำอะไรบุ่มบ่ามเหมือนเช่นทุกที

ทักษ์รีบก้าวเท้าเข้าไปในห้องทันทีที่เสียงติ๊ดเล็กๆบ่งบอกว่าประตูห้องได้ถูกปลดล๊อกออกแล้ว เบื้องหลังชายหนุ่มคือบอดี้การ์ดจำนวน 4 นายที่คอยสอดส่องมองไปรอบๆห้องอย่างระแวงภัย ชายหนุ่มยกมือขึ้นเป็นสัญญานให้ลูกน้องที่เหลือรออยู่บริเวณห้องรับแขกด้านนอกก่อนที่จะเดินดุ่มตรงไปยังประตูห้องนอนเบื้องหน้าเพียงลำพัง

ห้องแรกผ่านไปพร้อมกับความว่างเปล่า...ห้องที่สองก็เช่นกัน ทักษ์กระชากประตูห้องสุดท้ายออกอย่างแรง ก่อนจะแทบคลั่งเมื่อมองเห็นภาพตรงหน้า ลีจินฮุนที่ท่อนบนเปลือยเปล่ากำลังปลดกระดุมเสื้อของผักหวานออกที่ละเม็ด มาถึงนาทีนี้สติของทักษ์ดูเหมือนจะหายไปทันที ชายหนุ่มก้าวพรวดเดียวไปถึงเตียงนอนก่อนจะกระชากผมของลีจินฮุนอย่างแรงเป็นผลให้อีกฝ่ายผงะหงายมาทางเบื้องหลัง หมัดหลุนๆถูกส่งเข้าปลายคางไม่ยั้งจนลีจินฮุนถึงกับหงายหลังตกจากเตียงไป เลือดอุ่นๆไหลทะลักออกมาท่ามกลางความตกตะลึงของเจ้าตัวที่ไม่คาดคิดว่าจะมีบุคคลที่สามก้าวเข้ามาในห้องพักเช่นนี้ ดูเหมือนว่าทักษ์จะยังไม่หน่ำใจกับสภาพของคนตรงหน้า ชายหนุ่มก้าวตามไปกระชากศีรษะของลีจินฮุนให้แหงนเงยอีกครั้ง ก่อนที่กำปั้นขวาจะตามไปทะลวงหน้าชายหนุ่มอีกหลายหมัดจนหมดสติไปทั้งๆที่ยังไม่ทันจะได้ต่อสู้ ชายหนุ่มลุกขึ้นคว้าเอากล้องวิดีโอบันทึกภาพที่วางอยู่ไม่ไกลนักเขวี้ยงทิ้งอย่างแรงจนตกแตกไม่มีชิ้นดี ใบหน้าแข็งกร้าวมองร่างของคนที่สลบอยู่แทบเท้าอย่างเหี้ยมเกรียมก่อนที่ฝ่าเท้าจะบดขยี้ลงไปบนใบหน้าโชกเลือดที่นอนแน่นิ่งอยู่อย่างเกลียดชัง

ดวงตาของผักหวานยังคงปิดสนิทอยู่เมื่อทักษ์ก้าวไปหา ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมออย่างคนที่ไม่รับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองเลยแม้แต่น้อย ทักษ์ค่อยๆกลัดกระดุมที่หลุดออกให้หญิงสาวอย่างเบามือ ก่อนที่วงแขนแข็งแรงจะช้อนร่างบางให้เอนอิงมายังอกอุ่นอย่างทะนุถนอม ชายหนุ่มโอบอุ้มร่างบางผ่านหน้าลีจินฮุนที่นอนสลบอยู่กลางห้องอย่างไม่สนใจสภาพเจียนตายของอีกฝ่าย ก่อนจะตวัดสายตามองผ่านไปยังบอดี้การ์ดของตนเมื่อเดินผ่านหน้า เป็นสัญญาณให้ตามไปจัดการต่อที่เหลือ

เมื่อมาถึงรถ ชายหนุ่มจัดแจงให้ร่างบางเอนอิงอกหนาของตนเองไว้ก่อนจะค่อยๆโอบประคองอย่างทะนุถนอม บอดี้การ์ดที่เหลือพาร่างไร้สติของลีจินฮุนขึ้นรถอีกคันที่จอดรออยู่เบื้องหลัง ก่อนจะเดินกลับมารับคำสั่งยังรถที่ทักษ์นั่งอยู่

“ เอาไปเก็บไว้ในห้องใต้ดินที่บ้าน อย่าเพิ่งทำอะไรมัน ฉันจะจัดการด้วยตัวเอง“

ทักษ์สั่งเสียงเหี้ยม ก่อนประตูรถจะถูกปิดโดยมือของลูกน้องคนนั้น ท่ามกลางความมืดมิดของราตรี รถเบนซ์สีดำค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากคอนโดอย่างรวดเร็ว โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่คฤหาสน์หลังงามของตระกูลพัฒนไพศาล

เนื่องจากท่านทำนุติดภารกิจไปเจรจาการการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน บ้านพัฒนะไพศาลจึงเหลือเพียงบุตรชายทั้งสองที่พักอาศัยอยู่ในตอนนี้ ตอนที่ทักษ์อุ้มผักหวานเข้ามาในบ้านนั้น ทศยังไม่กลับมาจากการเที่ยวเตร่ภายนอกกับภาสกรผู้เป็นทั้งเพื่อนและญาติสนิทเลย หากแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปรายงานทักษ์เนื่องด้วยใบหน้าของผู้เป็นนายในยามนี้มันช่างเย็นเยียบจนน่าขนลุก

ทักษ์ค่อยๆวางร่างบางของผักหวานลงบนเตียงนอนของตนเองอย่างทะนุถนอม ชายหนุ่มรับเอาอ่างน้ำที่บรรจุน้ำและผ้าขนหนูผืนเล็กมาจากพิสมัยแม่บ้านใหญ่ประจำบ้าน ก่อนจะค่อยๆซับไปทั่วใบหน้าและลำตัวของหญิงสาวอย่างเอาใจใส่ ร่างท้วมของสตรีวัยกลางคนค่อยๆถอยห่างออกไปรออยู่เบื้องนอกอย่างรู้หน้าที่ ทำให้ตอนนี้ภายในห้องเหลือเพียงแต่ทักษ์และผักหวานเท่านั้น มือหนาของทักษ์ค่อยๆไล้แผ่วๆไปทั่วใบหน้าหวานหลังจากที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มปัดเส้นผมที่ละใบหน้าออก ก่อนจะค่อยๆไล่จูบไปตามวงหน้านวลดุจจะลบร่องรอยที่ลีจินฮุนได้ประทับไว้ก่อนหน้าให้หมดไป

เกือบไปแล้ว ถ้าเขาไปช้ากว่านี้แค่เพียงนิด ผักหวานของเขาจะเป็นอย่างไร...เมื่อนึกมาถึงตอนนี้ ใบหน้าคมคายก็กลับมาแข็งกร้าวดุดันอีกครั้ง...ไอ้เกาหลีนั่น นอกจากจะทำชั่วแล้วมันยังคิดที่จะบันทึกเทปวิดีโอไว้เพื่อข่มขู่ผักหวานอีกด้วยสารเลวเกินที่จะทนจริงๆ ทักษ์คิดในใจอย่างเคียดแค้น ถ้าไม่เพราะคุณตาของเขารู้จักกันดีกับท่านประธานใหญ่ของแตยางกรุ๊ป เขาคงจะทำให้กิจการของครอบครัวหมอนั่นสิ้นชื่อไปแล้ว แต่ก็ดี ในเมื่อไม่อาจเล่นงานตรงๆได้ เขาก็จะใช้วิธีสกปรกเช่นเดียวกันตอบแทน อยากจะรู้นักว่ามันจะทำหน้ายังไง ถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้ครอบครัวญาติพี่น้องต้องมาอับอายเสื่อมเสียชื่อเสียงเพียงเพราะการกระทำสิ้นคิดของตัวเอง รอยยิ้มเหี้ยม
เกรี้ยมปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าคมคายเมื่อนึกถึงตอนนี้ ก่อนที่ดวงตาแข็งกร้าวจะกลับอ่อนแสงลงเมื่อทอดมองคนตรงหน้าอีกครั้ง

“ ผักหวานคนดี รู้ไหมว่าพี่ห่วงเรามากแค่ไหน พี่ทุรนทุรายแค่ไหนตอนที่หาเราไม่เจอ“ แววตาของชายหนุ่มทอประกายห่วงใยลึกซึ้งขณะเกาะกุมมือบางมาวางไว้แนบอก

“ แค่คิดว่าหวานจะเป็นอะไรไป พี่ก็คลั่งจนแทบจะคุมสติไม่อยู่ พี่สัญญา...ต่อไปจะไม่มีใครมาทำอะไรหวานได้อีก พี่จะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก พี่สัญญา“ ทักษ์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะประทูบจูบลงบนฝ่ามือบางดุจดั่งประทับคำสัญญา ชายหนุ่มค่อยๆวางมือที่ตนเกาะกุมอยู่ลงข้างกายก่อนจะเอื้ยวตัวไปกดอินเตอร์คอมที่หัวเตียงเพื่อเรียกพิสมัยที่ยืนรออยู่ภายนอกให้เข้ามาผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ผักหวาน ตราบจนพิสมัยจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาแล้ว ชายหนุ่มจึงสั่งการให้อีกฝ่ายเตรียมทุกอย่างไว้ให้ตามที่ตนเองต้องการ

“ พรุ่งนี้ให้คนไปรอซื้อเค้กช๊อกโกแลตของร้านเลอปูตองส์ที่โรงแรมเพลนทีแต่เช้า แล้วจัดให้คุณผักหวานคุณผู้หญิงในห้องทานตอนน้ำชาด้วย ส่วนอาหารเช้าทำทั้งแบบไทย จีน แล้วก็แบบฝรั่งด้วยแล้วกัน พรุ่งนี้คุณผักหวานจะพักฟื้นอยู่ที่นี่ทั้งวัน ถ้าเธอต้องการอะไรให้หาทุกอย่างที่เธอต้องการมาให้ได้ จำเอาไว้ คำพูดของคุณผักหวานก็คือคำพูดของฉัน...ยกเว้นอย่างเดียวเท่านั้น อย่าให้เธอออกไปข้างนอกจนกว่าฉันจะอนุญาตเอง“

“ คะ คุณทักษ์“ สตรีร่างท้วมรับคำก่อนจะค้อมศีรษะแล้วเดินจากไปเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าอนุญาตแล้ว ทักษ์เปิดประตูเข้ามาในห้องนอนของตัวเองอีกครั้ง ชายหนุ่มหยุดยืนดูร่างบางที่ครอบครองเตียงนอนของตนเองอย่างสบายใจอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการชำระร่างร่างกายของตนเองบ้าง เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยทักษ์จึงกลับขึ้นไปบนเตียงนอนของตนเองอีกครั้ง ชายหนุ่มเอี้ยวตัวไปปิดสวิตซ์บนโคมไฟ ก่อนจะหันมาช้อนศีรษะของผักหวานให้วางลงบนท่อนแขนและโอบกอดร่างบางเอาไว้ในแนบอก

ผักหวานดิ้นน้อยๆอย่างรู้สึกอึดอัดในตอนแรก ก่อนจะค่อยๆซุกหน้าลงแอบอิงอกอุ่นในที่สุด ใบหน้าหวานยิ้มน้อยๆอย่างคนที่กำลังฝันดีทำให้ทักษ์อดที่จะก้มหน้าลงจูบที่ขมับของคนในอ้อมกอดอีกครั้งอย่างแสนรักไม่ได้ ชายหนุ่มเอ่ยราตรีสวัสดิ์กับหญิงสาวเบาๆ ก่อนจะปิดเปลือกตาของตนเองลงอย่างเป็นสุข



เจ็ดโมงเช้าของวันใหม่ ผักหวานปรือตาขึ้นอย่างเกียจคร้าน หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆเพื่อปลุกสติของตนเอง ก่อนจะพลิกตัวไปอีกด้าน ด้วยยังไม่อยากจะลุกจากเตียงนอนอันแสนนุ่มในตอนนี้ กลิ่นที่ไม่คุ้นเคยจากหมอนที่ตนแนบหน้าอยู่ทำให้หญิงสาวเริ่มสะดุดใจ ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก เมื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานก่อนที่ตนเองจะหมดสติไปขึ้นมาได้

“ ลีจินฮุน”

ผักหวานครางชื่อหนุ่มเกาหลีออกมาด้วยน้ำเสียงปวดร้าว...นี่สินะผลตอบแทนของการล้อเล่นกับหัวใจคน ถึงจะโกรธลีจินฮุนมากเพียงไหนแต่หญิงสาวก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็เพราะการกระทำของตนเองด้วยเช่นกัน ถ้าไม่เพราะเธอต้องการแกล้งคิมซุนมี ถ้าไม่นึกสนุกจนยอมเล่นไปตามเกมที่เจ๊แบบวางเอาไว้เรื่องในวันนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น

หยาดน้ำตาค่อยๆไหลรินออกมาจากดวงตาที่ปิดสนิท ตอนนี้ผักหวานอยากจะหลับตาอยู่อย่างนี้ อยากจะให้ทุกสิ่งเป็นเพียงแค่ฝันไป ไม่อยากจะลืมตาขึ้นมาเผชิญกับความจริงที่โหดร้ายอีกต่อไปแล้ว

ทักษ์ค่อยๆทรุดตัวลงนั่งที่เตียงนอน ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะซับน้ำตาให้อีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา ดวงตาที่ทอดมองเต็มไปด้วยความหวงแหนและห่วงใยอย่างลึกซึ้ง ผักหวานได้แต่กลั้นสะอื้นอยู่ในอก ถึงจะรู้สึกดีกับสัมผัสอ่อนโยนนี้เพียงใด แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนที่ทำแบบนี้คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลีจินฮุนหญิงสาวก็ได้แต่ร่ำไห้ในอกอย่างปวดร้าว

“ ผมเอง ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นหรอก“

ผักหวานลืมตาขึ้นทันทีที่ได้ยิน ไม่ใช่ภาษาเกาหลีนี่

“ คุณ“ ผักหวานครางออกมาอย่างสับสน...เป็นหมอนี่ได้ยังไงกัน ร่างบางรีบผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนทันที ก่อนจะรับรู้ได้ถึงความโล่งของร่างกายส่วนล่างทำให้ต้องรีบก้มหน้าลงมอง ภาพที่เห็นคือตัวเธอมีเพียงเสื้อนอนผู้ชายตัวเดียวเท่านั้นที่ปกคลุมร่างกาย แถมตอนนี้มันยังเลื่อนขึ้นมาจนถึงโคนขายังผลให้ต้นขาขาวๆโผล่ออกมาโชว์สายตาคนตรงหน้าอีกด้วย

“ นี่มันอะไรกัน แล้วคุณ... คุณทำอะไรฉัน“

ไม่ทันที่ทักษ์จะได้ตอบคำถาม หมอนข้างสีขาวก็ลอยมากระทบใบหน้า ชายหนุ่มรีบยกมือขึ้นปัดป้อง ก่อนที่หมอนอีกใบ และอีกใบจะลอยละลิ่วตามมา ผักหวานได้แต่หันรีหันขวางเมื่อเห็นว่าอาวุธตรงหน้าตนหมดลงแล้ว หญิงสาวตัดสินใจใช้มือของตนเองเป็นอาวุธประทุษร้ายฝ่ายตรงข้ามแทน แต่นั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เพราะแค่พริบตาทักษ์ก็จับข้อมือบางทั้งสองข้างเอาไว้ได้ ก่อนจะกดร่างบางที่ดิ้นไปมาอย่างไม่ยอมแพ้ลงบนเตียงนอนตรงหน้า...ให้ตายสิแม่คุณ เมื่อกี้ยังน้ำตาคลออยู่เลย แค่พริบตาเดียวก็แปลงร่างเป็นนางเสือซ้อมเขาซะแล้ว ทักษ์ได้แต่คิดในใจอย่างขำๆ ขณะทอดสายตาลงมองแม่เสือสาวที่ขู่ฟ่อเอาฟ่อเอาเบื้องล่าง

“ ปล่อยนะ ไอ้ผู้ชายสารเลว อุตส่าห์นึกว่าเป็นคนดีแล้วเชียว ไอ้....“ ผักหวานดิ้นไป ด่าไป ไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้ชายเสื้อของตนรั้งขึ้นจนเห็นไปถึงไหนถึงไหนแล้ว ทักษ์ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอเมื่อเหลือบสายตาไปเห็นเขาพอดี ชายหนุ่มพยายามไม่มองต่ำลงไปอีก ด้วยกลัวว่าตนเองจะอดใจไม่ไหวขึ้นมาจริงๆ

“ คุณ... ผักหวานฟังกันบ้างสิ คิดให้ดีๆก่อน“ ทักษ์ตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายเสียงดัง ทำให้ผักหวานเริ่มนิ่งเมื่อเห็นท่าทางเอาจริงของอีกฝ่าย

“ หมายความว่ายังไง“ ดวงตากลมโตเริ่มฉายแววสับสนอย่างไม่แน่ใจ...ตกลงเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่

“ ผมเห็นคุณถูกผู้ชายคนนึงหิ้วปีกขึ้นรถไปตอนจะเข้าผับ เลยตามไปดูเห็นเขาพาคุณเขาไปในคอนโด ก็เลยตามไปช่วย” ทักษ์เลือกที่จะไม่เล่าความจริงที่ว่าเขาตามหญิงสาวไปทีหลังต่างหาก และที่ไปถูกก็เพราะว่าส่งคนคอยติดตามเธอเอาไว้ถึงสองคนด้วยกัน

“ แล้วที่นี่มันที่ไหนกัน...แล้วฉันใส่เสื้อผ้าของใคร แล้วใครเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน“ ผักหวานถอนหายใจอย่างโล่งอกทันทีที่ได้ฟัง ก่อนจะเริ่มถามรัวเป็นชุด เมื่อความหนักอึ้งในใจผ่อนคลายไปจนหมดแล้ว แววตาที่มองชายหนุ่มเริ่มดีขึ้นแต่ก็ยังไม่วายเต็มไปด้วยสงสัย ทักษ์มองคนตรงหน้ายิ้มๆอารมณ์อยากแกล้งเริ่มพุ่งขึ้นมาอีกทั้งๆที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน

“ บ้านผม แล้วนี่ก็ห้องนอนผม... ก็ ผมไม่รู้จะพาคุณกลับยังไงนี่“

“ แต่คุณรู้จักคอนโดฉัน“ ผักหวานสวนทันที

“ แต่ผมไม่รู้จักห้องคุณนี่“ ทักษ์โกหกหน้าตาย ผักหวานได้แต่เม้มปากแน่นเมื่อได้ฟัง...จริงของอีตาทักษ์แฮ่ะ หญิงสาวคิดในใจ ก่อนจะถามต่อ

“ แล้วเสื้อนี่“

“ ของผมเอง ก็มันไม่มีเสื้ออื่นให้เปลี่ยน“ ชายหนุ่มรีบพูดเมื่อเห็นแววตาวาวโรจน์ของอีกฝ่าย

“ แล้วใครเป็นคนเปลี่ยน“

“ ตอนนั้นมันดึกแล้ว ผมเกรงใจแม่บ้านน่ะ...“ ทักษ์แกล้งพูดค้างเอาไว้อย่างนั่น ทำให้ผักหวานแทบสิ้นสติเมื่อได้ฟัง...อย่าบอกนะว่าตานี่ เห็นของเธอหมดแล้ว...ยิ่งคิดแก้มของหญิงสาวก็ยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ

“ คุณ...คุณนี่มัน...“ ผักหวานได้แต่อ้ำอึ้งอย่างพูดไม่ออก จะด่าก็ไม่ได้ เนื่องด้วยอีกฝ่ายเป็นคนช่วยตนเองไว้ ทักษ์แทบจะหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเห็นอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของผักหวาน ชายหนุ่มยอมเฉลยออกมาในที่สุด เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มจะหน้าแดงตัวแดงขึ้นเรื่อยๆแล้ว

“ แต่ถึงจะเกรงใจยังไง สุดท้ายก็ต้องเรียกขึ้นมาอยู่ดี“

ผักหวานแทบอยากจะใช้ไม้หน้าสามฟาดใส่ใบหน้าหล่อๆนี่สักทีโทษฐานที่ล้อเล่นไม่รู้จักเวร่ำเวลา สายตาที่มองทักษ์เต็มไปด้วยความอาฆาต เหมือนกับจะบอกว่าฝากไว้ก่อนเถอะ หากแต่ทักษ์กลับไม่สนใจ ชายหนุ่มมองคนตรงหน้าด้วยสายตาหวานเชื่อม จนผักหวานเริ่มจะทำอะไรไม่ถูก หญิงสาวเสหลบสายตาก่อนจะอ้อมแอ้มพูดเสียงเบา

“ แล้วจะปล่อยได้หรือยัง หนักจะตายชัก”

ทักษ์ค่อยๆยันตัวขึ้นอย่างแสนเสียดาย ก่อนจะยื่นมือตนเองให้หญิงสาวใช้เป็นหลักยึดฉุดตนเองให้ลุกขึ้นตาม ผักหวานรีบนั่งคุกเข่าตัวตรงทันที ใบหน้าหวานยังคงมีสีแดงระเรื่ออยู่ขณะเอ่ยคำขอบคุณเสียงแผ่ว

“ ขอบคุณนะ“

“ เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม“ ผักหวานเงยหน้าขึ้นสบสายตาคมเข้มเบื้องหน้าทันทีที่ได้ยิน ตากลมโตเริ่มที่จะฉายแววไม่สบอารมณ์เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดเหมือนจะทวงบุญคุณ

“ นี่คุณ ใครเขาทำดีเพื่อหวังผลกันบ้าง“

“ ก็ผมไง“ ทักษ์พูดหน้าตาเฉย ผักหวานได้แต่มองคนตรงหน้าอย่างนึกเข็ดเขี้ยว...ให้ตายเถอะคนคนนี้ ทำไมถึงได้ขยันกวนประสาทกันนักนะ

“ อย่าเพิ่งด่าผมทางสายตาสิ ผมไม่ได้ขออะไรมากซักหน่อย ก็แค่อยากให้คุณแทนตัวเองว่าหวาน แล้วเรียกผมว่าพี่ทักษ์ก็เท่านั้นเอง“

“ แล้วทำไมฉันต้องพูดแบบนั้นด้วยล่ะ“

“ เพราะหนึ่ง ผมอายุมากกว่าคุณเกือบห้าปี สองเพราะคนไทยจะเรียกคนที่คุ้นเคยและอายุมากกว่าว่าพี่และสามการแทนชื่อตัวเองว่าหวานมันทำให้คุณน่ารักกว่าเดิมมากๆ ส่วนข้อที่สี่ข้อสุดท้าย...“ ทักษ์ลากเสียงเมื่อมาถึงตรงนี้

“ เพราะพี่ขอร้อง...นะครับผักหวาน” ทักษ์พูดเสียงอ้อนขณะทอดสายตามองคนตรงหน้าด้วยแววตาหวานเชื่อม ผักหวานอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางออดอ้อนของอีกฝ่าย ดูขัดกับภาพมาเฟียเย็นชาที่เจอกันวันแรกจริงๆ หญิงสาวคิด ก่อนจะรีบเก็กหน้าด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะจับความรู้สึกของตนเองได้

“ ก็ได้...เห็นแก่ความดีที่ทำหรอกนะ“ ผักหวานพูดอย่างไว้ฟอร์ม ทักษ์ยิ้มแก้มแทบปริเมื่อได้ฟังคำตอบ ในที่สุดผักหวานก็ยอมเรียกเขาว่าพี่และแทนตัวเองว่าหวานเหมือนเดิมแล้ว

“ ถ้าอย่างนั้น ผักหวานพูดให้พี่ฟังหน่อยสิครับ“

ผักหวานมองอาการรอลุ้นของคนตรงหน้าอย่างนึกหมั่นไส้ หญิงสาวแกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะยอมพูดอุบอิบออกมาในที่สุดเมื่อโดนเซ้าซี้หนักๆเข้าและชายหนุ่มบอกว่าจะไม่ยอมให้เธอไปไหนทั้งนั้นถ้ายังไม่ยอมพูดให้ฟัง

“ พี่ทักษ์ค่ะ หวานจะเข้าห้องน้ำ หลีกทางให้หวานด้วยคะ”

ทักษ์ยิ้มกว้างทันทีที่หญิงสาวพูดจบ ร่างหนารีบลุกขึ้นจากเตียงนอน ก่อนจะหลีกทางให้อีกฝ่ายเดินเข้าห้องน้ำแต่โดยดี ผักหวานมองรอยยิ้มบนใบหน้าอีกฝ่ายอย่างนึกสะดุดใจด้วยว่ามันดูคุ้นในความรู้สึกของตัวเองชอบกล ก่อนจะสะบัดศีรษะไปมาอย่างแรงเมื่อเดินมาถึงในห้องน้ำแล้ว
ไม่หรอกน่าเป็นไปไม่ได้ จะเหมือนกันไปได้ยังไง คนนึงเป็นญี่ปุ่น ในขณะที่อีกคนเป็นคนไทยแท้ร้อยเปอร์เซนต์... ผักหวานคิดในใจอย่างขันๆ ก่อนที่ความคิดจะสะดุดลง เมื่อระลึกได้ว่าอีกฝ่ายมีสายเลือดญี่ปุ่นอยู่ในตัวครึ่งนึงในตัวด้วยสายเลือดจากทางมารดาตามคำบอกเล่าของเจษฎา

บ้าน่า ไอ้หวาน ตานี่แค่ลูกครึ่ง แต่พี่ทาคุยะเป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆ อาจจะแค่หน้าตาคล้ายกันเท่านั้น จะเป็นคนคนเดียวกันไปได้ยังไง ผักหวานรีบปัดความคิดของตนเองออกไปทันที ...ก็แค่คนขี้เก๊กที่นานๆใบหน้าจะแสดงความรู้สึกกับเขาขึ้นมาสักทีก็เท่านั้น...หญิงสาวสรุปเอาเองในใจก่อนจะอาบน้ำชำระร่างกายและสวมใส่เสื้อผ้าที่อีกฝ่ายให้คนเตรียมไว้ให้ในที่สุด

ร่างสูงใหญ่ที่ยืนรออยู่ภายนอกดูสง่าผ่าเผยอย่างคนที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดีจนผักหวานอดที่จะนึกขอดขอนอยู่ในใจไม่ได้เมื่อได้เห็น...ดูเอาเถอะ ขนาดแค่ยืนรอยังมีมาดมากขนาดนี้ ไม่นึกสงสัยเลยว่าทำไมคนในวงสังคมถึงได้ดูจะเกรงชายหนุ่มผู้นี้อยู่ไม่น้อย ทักษ์อดอมยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีหลบสายตาไม่รู้ไม่ชี้ของอีกฝ่าย... นี่คงจะนินทาอะไรเขาอยู่ในใจแน่ๆ ถึงได้แกล้งเสมองไปทางอื่นแบบนี้

“ พอรึยังครับ“

ผักหวานขมวดคิ้วทันทีที่ได้ฟัง...พออะไรกัน อีตาทักษ์พูดถึงเรื่องอะไรกันนะ

“ พออะไร...” ปากไวเท่าความคิด หญิงสาวถามออกไปทันที

“ ก็ที่นินทาพี่อยู่ในใจไง พอได้รึยัง“ ผักหวานสะดุ้งทันทีที่ได้ยิน อีตานี่เลี้ยงโหงพรายไว้หรือยังไงนะ ถึงได้อ่านใจชาวบ้านเก่งขนาดนี้

“ นินทาอะไร้ ไม่มีสักหน่อย“ ผักหวานพูดกลบเกลื่อน ก่อนจะรีบเดินหนีไปอีกทาง หากแต่ดูเหมือนว่า แม้แต่พรมก็ยังจะไม่เข้าข้าง หญิงสาวเซถลาไปเบื้องหน้าทันทีที่เดินผ่านจุดซึ่งทักษ์ยืนอยู่ก่อน มือหนารีบคว้าเอาเอวบางมาแนบชิดชิด ทำให้หญิงสาวรอดพ้นจากสภาวะอับอายอันเกิดมาจากความซุ่มซ่ามของตนได้อย่างหวุดหวิด หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาแทนที่ดูจะหนักหนายิ่งกว่า ด้วยว่าตอนนี้กระไออุ่นที่โอบล้อมรอบกายกำลังทำให้หญิงสาวทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าหวานแดงซ่านเต็มไปด้วยความประหม่า ทักษ์ถือโอกาสนี้ดื่มด่ำกลิ่นหอมจากคนร่างเล็กจนหน่ำใจ แขนแข็งแรงเผลอโอบกระชับแน่นเข้าจนผักหวานเริ่มรู้สึกตัว หญิงสาวรีบดันร่างหนาให้ออกห่างทันที ก่อนจะเอ่ยคำขอบคุณเสียงอุบอิบในลำคอ และก้มหน้าก้มตาเดินหนีไป

บ้าที่สุด...ให้ตายสิผักหวาน เกิดมาซุ่มซ่ามอะไรเข้าตอนนี้นะ หญิงสาวได้แต่ก่นด่าตัวเองในใจ ยิ่งได้ยินเสียงทุ้มดังลอยมา บอกว่าเธอเดินผิดทางยิ่งทำให้หน้าหวานแดงกล่ำมากเข้าไปใหญ่ นึกอยากสาปให้ตัวเองหายจากตรงนี้ไปซะให้รู้แล้วรู้รอด

ทักษ์ทอดสายตามองตามร่างบางไปด้วยแววตาพราวระยับ คงจะอายละซิท่า ถึงได้เดินจ้ำเอาจ้ำเอาแบบนี้ เขาชักจะชอบเวลาที่หญิงสาวเขินขึ้นมาซะแล้วสิ เพราะนอกจากหน้าหวานๆนั่นจะแดงซ่านจนน่าจูบแล้ว หญิงสาวยังขาดความระมัดระวังตัวเฉกเช่นยามปกติ ชายหนุ่มอดสูดลมหายใจเข้าลึกๆไม่ได้เมื่อนึกมาถึงตอนนี้ กลิ่นหอมรวยรินที่ประทับอยู่ปลายจมูกทำให้ใบหน้าคมคายเผลอคลี่ยิ้มออกมาโดยไม่ทันรู้สึกตัว

รอยยิ้มของชายหนุ่มทำให้พิสมัยแม่บ้านใหญ่ถึงกับมองตาค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา กี่ปีมาแล้วนะ ที่ไม่ได้เห็นรอยยิ้มเต็มตาแบบนี้บนใบหน้าของคุณทักษ์คุณชายใหญ่ของบ้านหลังนี้ ร่างท้วมอดที่จะลอบมองสตรีร่างบางซึ่งตนเป็นผู้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับมือเมื่อคืนไม่ได้... ดูท่าผู้หญิงคนนี้คงจะเป็นคนสำคัญสินะ เจ้าชายน้ำแข็งของเธอถึงได้เปลี่ยนแปลงไปได้มากขนาดนี้แค่เพียงชั่วข้ามคืน

“ ผักหวานครับ นี่พิสมัยเป็นแม่บ้านของที่นี่...พิสนี่คุณผักหวาน“ ทักษ์เอ่ยแนะนำสตรีร่างท้วมที่ยืนรออยู่ก่อนหน้าแล้วกับผักหวาน หญิงสาวส่งรอยยิ้มนำทางไปให้ยังผู้สูงวัยกว่า ก่อนจะรีบกุมมืออีกฝ่ายเอาไว้แทบไม่ทันเมื่อหญิงวัยกลางคนทำท่าจะพนมมือไหว้ตนเอง

“ ตายแล้ว พี่พิส มาไหว้หวานทำไมคะ เดี่ยวหวานก็อายุสั้นหรอก“ กิริยาของหญิงสาวเรียกคะแนนจากใจสาวใหญ่ไปได้โข รอยยิ้มจริงใจฉายชัดไปทั่วใบหน้าของสตรีร่างท้วม ก่อนที่เจ้าตัวจะออกไปเรียกเด็กให้ยกอาหารเช้ามาให้คนทั้งคู่ ทักษ์ค่อยๆเลื่อนเก้าอี้ออกให้ผักหวานได้นั่ง ก่อนจะเดินอ้อมไปยังเก้าอี้ตรงกันข้ามและนั่งลง

“ หวานจะทานอะไรดีจ๊ะ“ น้ำเสียงอ่อนโยนและกิริยาเอาใจใส่ที่ชายหนุ่มแสดงทำให้เด็กสาวที่เดินเข็นรถอาหารเข้ามาเผลอจ้องมองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ก่อนจะรีบหลุบตาลงกับพื้นเมื่อเจอสายตาปรามของพิสมัยที่มองมา

“ แล้วมีอะไรให้ทานบ้างล่ะคะ“ ผักหวานถามกลับ

“ มีข้าวต้มกุ้ง ติ่มซำ ปาท๋องโก๋ น้ำเต้าหู้ กระเพาะปลา ไส้กรอก ไข่ดาว แฮม ขนมปังปิ้งหน้าต่างๆ น้ำชา กาแฟ นมสดและน้ำผลไม้คะ” พิสมัยที่ยืนอยู่ข้างๆเป็นผู้จาระไนรายการอาหารที่ถูกทยอยนำมาวางเรียงรายไว้บนโต๊ะแทนผู้เป็นนาย

“ จะเลี้ยงคนทั้งกองทัพเหรอคะพี่ทักษ์“

“ เลี้ยงหวานคนเดียว ก็พี่ไม่รู้นี่ว่าหวานชอบอะไร“ ผักหวานที่พูดประชดไปในทีแรกนึกอยากจะตบหัวตนเองแรงๆทันทีที่ได้ฟังคำตอบจากอีกฝ่าย พูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาเลยนะพ่อเศรษฐีใหญ่ หญิงสาวอดที่จะขอดขอนอีกฝ่ายในใจไม่ได้

“ ขอเป็นกระเพาะปลา น้ำส้มคั้น แล้วก็กาแฟแก้วนึงแล้วกันคะ“ หญิงสาวบอกพิสมัยก่อนจะหันกลับมาพูดกับทักษ์เสียงเครียด
“ วันหลังไม่ต้องทำมากมายแบบนี้นะพี่ทักษ์ เสียดายของจริงๆเลย“ หญิงสาวอดบ่นไม่ได้ ไม่ทันได้คิดเลยสักนิดว่าที่พูดแบบนี้เหมือนกับว่าตนเองจะกลับมาที่นี่อีก

“ แล้วหวาน ชอบทานอะไรจ๊ะ“

“ อะไรก็ได้ หวานน่ะลิ้นจระเข้ ทานได้ทุกอย่างนะล่ะ“ ผักหวานตอบก่อนจะก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารที่สาวใช้นำมาวางไว้ตรงหน้า ทักษ์ยกแก้วกาแฟในมือขึ้นจิบบ้างอย่างอารมณ์ดี...จะดีแค่ไหนนะ ถ้าทุกเช้าได้ทานอาหารเช้ากับคนตรงหน้าก่อนจะออกไปทำงาน

“ เออ แล้วรถหวานอยู่ไหนล่ะคะ พี่ทักษ์“ ผักหวานเอ่ยถามอย่างนึกขึ้นมาได้

“ พี่ให้คนขับไปจอดที่คอนโดให้แล้ว“ ผักหวานพยักหน้ารับรู้ก่อนจะพูดต่อ

“ ถ้างั้นพี่ทักษ์ช่วยแวะไปส่งหวานที่คอนโดด้วยนะคะ“

“ ไม่ต้องรีบไปหรอก พี่โทรไปลางานให้แล้ว“

“ ค่ะ“ ผักหวานอุทานเสียงดัง ทักษ์พูดเหมือนสิ่งที่ตนเองทำเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับผักหวานแล้ว นี่มันหายนะชัดๆ วันนี้มีมีทติ้งกับท่านประธานด้วย โอ้ว พระเจ้า!!!

“ จะบ้าเหรอ วันนี้หวานมีประชุมนะ ยังไงก็ต้องไป“

“ หวานโดนยานอนหลับอย่างแรงนะ ต้องพักผ่อนเยอะๆ แล้วอีกอย่างพี่ก็โทรไปลากับประธานให้แล้วด้วย“

“ ห๊า! ว่าไงนะ แล้วไปรู้จักกับประธานหวานได้ยังไงกัน แล้วพี่ทักษ์พูดอะไรออกไปบ้าง บอกมาเดี่ยวนี่เลยนะ“ ผักหวานอุทานอย่างตกใจ ก่อนจะเอ่ยซักเป็นชุด แต่ทักษ์ก็ยังคงมีทีท่าทีไม่เดือดร้อนแต่อย่างใด ชายหนุ่มหยิบผ้าบนตักขึ้นมาเช็ดปากก่อนจะยกแก้วน้ำตรงหน้าขึ้นดื่มอย่างใจเย็น

“ ก็โทรไปธรรมดา รู้จักกัน เคยตีกอฟท์ด้วยกัน มิสเตอร์คานาซาวา อุเคดะ ใช่ไหมหล่ะ“ นี่เขาไม่ได้โกหกนะ ทักษ์คิดในใจ เขาเคยตีกอฟท์กับอุเคดะจริงๆในงานแข่งขันระดับแมเนจเมนท์ของบริษัท

ผักหวานมองอาการไม่รู้ร้อนรู้หนาวของคนตรงหน้าอย่างหงุดหงิด ในใจกรุ่นโกรธเต็มไปด้วยความโมโห อีกแล้วนะ ทำแบบนี้อีกแล้ว คนบ้าอะไรเอาแต่ใจตัวเองที่สุด กล้าดียังไงถึงได้ตัดสินใจทำอะไรไปโดยไม่บอกกันก่อน...

“ พี่ขอโทษ แต่พี่ทำไปเพราะหวังดีนะครับ“ ทักษ์รีบเอ่ยเมื่อเห็นอาการกรุ่นโกรธของคนตรงหน้า

“ หวานเพิ่งเจออะไรร้ายๆมา ถึงใจหวานจะไหว แต่ยังไงร่างกายก็ต้องการการพักผ่อนนะครับ เชื่อพี่นะ หวานพักอยู่ที่นี่รอดูอาการไปก่อน แล้วเย็นนี้พี่จะรีบกลับมานะ...ครับ“ ทักษ์พูดเสียงอ่อน จากหลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้ชายหนุ่มเรียนรู้ว่า เมื่ออีกฝ่ายเป็นไฟ เขาควรจะใจเย็นให้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์จะยิ่งแย่ไปกันใหญ่

“ ถ้าอย่างนั้นหวานจะกลับไปนอนที่คอนโด“

“ ไม่ได้ ที่นั่นไม่มีใครอยู่ด้วยเลย เป็นอะไรไปจะทำยังไง”

“ เอ๊ะ! มันจะมากไปแล้วนะพี่ทักษ์“ ผักหวานเสียงสูงอย่างเริ่มโมโหจัด ตานี่เป็นใครกัน กะอีแค่ช่วยเธอครั้งเดียวไม่ได้หมายความว่าจะมาคอยบงการเป็นเจ้าชีวิตเธอได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ตากลมสวยเปล่งประกายวาวโรจน์บ่งบอกอารมณ์ของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี ทักษ์มองอาการเดือดดาลของคนตรงหน้าอย่างใจเย็น ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ ที่พี่ทำดีที่สุดแล้ว หวานอยู่ที่นี่อยากได้อะไรก็บอกพิสมัยหรือไม่ก็เดช เขาจะจัดหาทุกอย่างมาให้ แล้วเดี่ยวเย็นนี้พี่กลับมา พี่ก็ไปส่งหวานอยู่แล้ว พี่ไม่ได้จะกักขังหวานไว้สักหน่อย อย่าดื้อเลยนะจ๊ะ“ ตาคมเข้มที่ฉายชัดไปด้วยความหวังดี ทำให้อารมณ์ที่ร้อนดั่งไฟค่อยๆคลายลง แต่ก็ยังไม่หมดไปซะทีเดียว...ก็ได้ อยากให้อยู่นักก็ได้ แล้วเดี่ยวจะได้สำนึกว่าคิดผิด

“ ทุกอย่างใช่ไหม จะหาให้ทุกอย่างใช่ไหมคะ“ ผักหวานทวนคำพูดของอีกฝ่ายอย่างจงใจ ในเมื่อไม่ให้กลับและที่นี่ก็ถิ่นของเขา เธอจะยอมอ่อนข้อให้ก็ได้ คนฉลาดจะต้องรู้จักยืดหยุ่นหญิงสาวพร่ำบอกตัวเองในใจ ทักษ์มองอาการเชิดหน้าจนจมูกรั้นขึ้นของอีกฝ่ายอย่างนึกเอ็นดู ไม่ต้องเดาก็รู้ได้เลยว่า เตรียมจะก่อเรื่องวุ่นให้คนของเขาแน่ๆ แต่ก็ดีเหมือนกัน เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าหญิงสาวจะออกฤทธ์มากขนาดไหน

“ จ๊ะ ทุกอย่าง คำพูดของพี่ก็เหมือนคำพูดของหวาน”ทักษ์ยืนยันคำพูดอย่างเอาใจ ตากลมสวยฉายแววเจ้าเล่ห์ทันทีเมื่อได้ฟัง ภายในใจเริ่มนึกถึงเรื่องสนุกๆที่คิดจะทำในวันนี้ ...ได้เลย ไม่ให้กลับก็ไม่กลับ แล้วอย่ามานึกเสียใจภายหลังก็แล้วกันนะ คุณพี่ทักษ์
หึ หึ หึ










 

Create Date : 19 สิงหาคม 2551
4 comments
Last Update : 19 สิงหาคม 2551 16:12:55 น.
Counter : 462 Pageviews.

 

bee --- ขอบใจจ้า อัพช้าไปวันนึง มัวเเต่ไปลงอีกเรื่อง(ซึ่งก็คือภาคต่อของเรื่องนี้) ที่สิรินดา อิอิ

พี่หมูน้อย --- จะงงแค่ช่วงเเรกล่ะจ้า แบบว่ามีให้พระเอกรำลึกความหลังเล็กน้อยก่อนลุยหน้าต่อไป

au_ja --- แค่แวะมาอ่านก็ดีใจแล้ว แต่ยิ่งเมนท์ยิ่งดีใจยิ่งกว่าสรุปว่าเอาแบบในนี้ล่ะที่ส่งสนพ เรื่องหนูจีนก็ลงให้เเล้วนา สลับวันกัน อิอิ

 

โดย: ณนาถ IP: 202.91.18.204 19 สิงหาคม 2551 17:02:34 น.  

 

น่ารักดีน้า พระเอกของเรา อิอิ

 

โดย: ตามติด ตามติด (พี่หมูน้อย ) 19 สิงหาคม 2551 23:23:26 น.  

 

ตอนนี้ก้อน่ารัก เหมือนเดิมนะ มาอัพอีกนะค่ะ

 

โดย: au_ja IP: 58.136.49.12 22 สิงหาคม 2551 9:50:35 น.  

 

ชอบจังเลย
ก่อนหน้านี้ มีเรื่องอื่นอีกไหม
จะติดตาม

 

โดย: มะนาว IP: 116.68.151.35 22 สิงหาคม 2551 13:18:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Na_Nath
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






✎ งานเขียนทั้งหมดในblog นี้ ✎

สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายพระราช

บัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์

เผยแพร่ หรือ คัดลอกไปกระทำการ

ใดๆก็ตาม..หากผู้ใดกระทำการฝ่าฝืน

เจ้าของ blog สามารถดำเนินการตาม

กฏหมายได้ทุกกรณี (◡‿◡✿)




Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
19 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Na_Nath's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.