หวานใจนายมาเฟียตอนที่ 10



“ คนไหนชื่อเดช” ผักหวานเอ่ยถามขณะเดินผ่านแถวลูกน้องของทักษ์ที่ยืนเรียงรายอยู่เบื้องหน้า หลังจากที่ทักษ์ออกจากบ้านไปแล้ว หญิงสาวก็ให้พิสมัยเรียกคนทั้งบ้านให้ออกมารวมตัวกันที่ห้องโถงของบ้าน ใบหน้าหวานนิ่งสนิทขณะกวาดสายตามองกลุ่มชายฉกรรจ์เบื้องหน้า

“ ผมเองครับ“ ชายวัยสามสิบต้นๆผู้มีใบหน้าเรียบเฉยอยู่เป็นนิจก้าวออกมาจากหัวแถว ผักหวานจ้องมองใบหน้าคร้ามเฉยนั้นอย่างหมายมั่น...เก๊กดีนักนะทั้งลูกพี่ลูกน้อง ดูซิว่าจะทำหน้าไร้ความรู้สึกได้อีกนานแค่ไหน

“ คุณทักษ์บอกว่าถ้าฉันต้องการอะไรให้บอกนาย แล้วนายจะหามาให้ฉัน...ทุกอย่าง” ผักหวานเน้นคำในท้ายเสียง

“ ครับ”

“ ฉันอยากดูหนังเกาหลี ไม่เอาพากย์ไทยนะไม่สนุก เอาแบบเสียงเกาหลีออริจินัลเลย ส่วนแผ่นเอาแบบดีวีดีมา วีซีดีไม่เอานะ ภาพมันไม่ชัด” ผักหวานพูดเหมือนสิ่งที่ตนต้องการเป็นเรื่องธรรมดา ก่อนจะส่งแผ่นกระดาษซึ่งเขียนรายชื่อซีรีย์ที่ตนต้องการให้อีกฝ่าย

“ แล้วผมต้องไปซื้อที่ไหนครับ“ ชายวัยสามสิบเอ่ยถามขณะก้มลงมองตัวอักษรที่ปรากฎบนกระดาษแผ่นน้อยด้วยสีหน้างงงัน ขนาดอ่านยังอ่านไม่ออก แล้วจะไปหามาให้คนตรงหน้าได้ยังไง นี่ละปัญหา

“ ไม่รู้สิ“ ผักหวานตอบหน้าตาเฉย พิสมัยลอบยิ้มในใจอย่างนึกขำเมื่อเห็นแววตาที่เหมือนจะเหวอไปของเดชเมื่อได้ยินคำตอบของผักหวาน

“ ก็ส่วนมากเพื่อนฉันที่อยู่เกาหลีจะส่งมาให้ดูน่ะ ไม่รู้ล่ะฉันอยากดู จะดูวันนี้ก่อนเที่ยงด้วย“ ผักหวานแกล้งพูดอย่างเอาแต่ใจ เดชกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ คุณผักหวานเคืองคุณทักษ์แล้วทำไมความซวยต้องตกมาอยู่ที่เขาด้วยนะ ถ้าหาไม่ได้ นอกจากคุณผักหวานจะเคืองแล้ว คุณทักษ์ก็คงจะโกรธอีก ชายวัยสามสิบได้แต่ถอนหายใจในอกเมื่อนึกมาถึงตอนนี้ ...เอาวะ ตอนนี้อันดับแรกที่ต้องทำคือแกะให้ออกก่อนว่า ที่คุณผักหวานอยากจะดูมันคือเรื่องอะไรกันแน่ หนุ่มวัยสามสิบคิดในใจก่อนจะรีบผลุนผลันขอตัวจากไป


เมื่อหมดตัวลูกพี่แล้ว ผักหวานก็เริ่มไล่บี้บอดี้การด์ที่เหลือไปทีละคน หญิงสาวเดินสำรวจคฤหาสน์โดยรอบ เข้าออกห้องนู้นห้องนี้เป็นว่าเล่น จนพิสมัยและเหล่าชายฉกรรจ์ที่เหลือซึ่งเดินตามมาถึงกับเวียนหัว ตากลมสวยเหลือบมองไปยังแชนเดอเลียร์สูงค่า ซึ่งมีแขวนอยู่เกือบทุกห้องในบ้านอย่างหมายมาด ก่อนจะใช้ให้บอดี้การณ์ที่เหลือช่วยกันปีนขึ้นไปทำความสะอาดทั้งหมด โดยอ้างว่าหยากไย่ขึ้นไปเกาะอยู่จนเต็มทำให้มองดูแล้วไม่งามตา เหล่าบอดี้การ์ดซึ่งตอนนี้เปลี่ยนหน้าที่มาเป็นพนักงานทำความสะอาดชั่วคราว ต่างพับแขนเสื้อของตนขึ้นอย่างเตรียมพร้อม ก่อนจะวิ่งวุ่นไปหาบันไดเพื่อนำมาปีนขึ้นไปทำความสะอาดตามคำสั่ง ผักหวานลอบยิ้มอย่างสมใจเมื่อเห็นความวุ่นวายตรงหน้า นี่แค่ยกแรกเท่านั้นนะคะ พี่ทักษ์ ...


ร่างบางยังคงเดินสำรวจไปเรื่อยๆ ตอนนี้ผักหวานเดินขึ้นมาถึงชั้นบนแล้ว หญิงสาวไม่ได้เดินตรงเข้าห้องพักเพื่อพักผ่อนอย่างที่พิสมัยคิดไว้แต่ทีแรก หากแต่กลับเดินไปยังทิศทางตรงกันข้ามแทน พิสมัยรีบระล่ำระลักห้ามทันทีเมื่อเห็นมือบางเอื้อมไปหมุนลูกบิดประตูห้องตรงหน้า

“ คุณหวานคะ ห้องนั้นเป็นห้องของคุณทศนะคะ“
รอยยิ้มหมายมาดฉายชัดบนใบหน้านวลทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่า คุณทศที่พิสมัยว่าก็คือหนึ่งในสองเด็กหนุ่มที่สั่งให้คนไปซ้อมตะวันและเจษฏาเพื่อนรักของตนนั่นเอง

“ คุณหวานคะ คือว่าคุณทศเธอยังไม่ตื่นเลยคะ พิสว่าเรารอ...“

“ นี่มันจะ 10 โมงจะครึ่งอยู่แล้ว คุณชายคนเล็กของพี่พิสยังไม่ยอมลุกจากเตียงนอนอีกเหรอคะ เด็กอะไรนอนกินบ้านกินเมืองจริงๆ“ ยังไม่ทันที่พิสมัยจะพูดจบ ผักหวานก็บ่นออกมาซะก่อน หญิงสาวมองอาการนิ่งเงียบของคนตรงหน้าอย่างขัดใจ...ก็สมควรที่จะเสียเด็กจริงๆนะล่ะ พี่ชายก็มัวแต่ไปทำงาน แม่บ้านก็เอาแต่โอ๋...ดีละ ในเมื่อไม่มีใครสั่งสอน เดี่ยวผักหวานคนนี้จะสอนให้เอง หญิงสาวคิดในใจ ก่อนจะเอ่ยถามคนตรงหน้าต่อ

“ แล้วนี่ไม่ต้องไปเรียนหนังสือ หนังหากันเหรอคะ พี่พิส“

“ คุณทศอยู่ในช่วงรอมหาวิทยาลัยที่อังกฤษเปิดคะเธอเลยว่าง แต่จะมีมิสเตอร์มาสอนภาษาเพิ่มเติมให้ตอน 10โมงถึงบ่ายสามของทุกวันจันทร์ถึงศุกร์คะ“

“ นี่มันสิบโมงจะครึ่งแล้ว แต่คุณทศของพี่พิสยังไม่ยอมตื่นเลยเนี๊ยะนะคะ“ ผักหวานถามเสียงสูง ก่อนจะส่ายหัวอย่างระอาใจ นิสัยลูกคนรวยจริงๆไม่รู้จักคุณค่าของเงิน เธอเองยอมรับว่าตนเองและเพื่อนๆก็จัดได้ว่าอยู่ในระดับของคนมีอันจะกิน แต่ทุกคนก็ไม่เคยเหยาะแหยะ โดดเรียนแบบนี้... ไม่ได้การล่ะ ยังไงก็ต้องปลุกให้มาเรียนหนังสือก่อน แล้วเดี่ยวค่อยมาชำระบัญชีแค้นกันภายหลัง หญิงสาวคิดในใจ ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตูตรงหน้าแรงๆถึงสามครั้งด้วยกัน หากแต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากภายใน พิสมัยได้แต่มองการกระทำของหญิงสาวด้วยใจเต้นระทึก จะห้ามก็ไม่กล้าเนื่องด้วยคุณทักษ์สั่งเอาไว้ว่าอย่าขัดใจหญิงสาวเป็นอันขาด ผักหวานจุ๊ปากอย่างขัดใจเมื่อเอื้อมมือไปบิดลูกบิดเบื้องหน้าแล้วพบว่าประตูติดล๊อกอยู่ หญิงสาวหันกลับมาสั่งพิสมัยที่ยืนอยู่ข้างๆทันที

“ พี่พิส ไขคะ“ ผักหวานพูดเสียงเรียบ แม่บ้านสาวใหญ่ได้แต่กำกุญแจในมือแน่น ดวงตาฉายแววสับสนด้วยเจ้าตัวเป็นห่วงคุณคนเล็กที่เลี้ยงมาเองกับ หากแต่เมื่อสบสายตาคมกล้าของผักหวาน อีกทั้งนึกถึงคำสั่งของทักษ์ที่พูดกับเธอเมื่อคืนและยังย้ำชัดอีกครั้งเมื่อเช้า หญิงร่างท้วมจึงจำต้องไขประตูห้องให้ผักหวานในที่สุด

ผักหวานลอบยิ้มในใบหน้า ไอ้เจษฎ์ ตะวัน ฉันมีโอกาศแก้แค้นให้พวกแกแล้ว...พี่ทักษ์ หวานไม่ได้คิดแกล้งน้องชายพี่นะ หวานจะช่วยอบรมสั่งสอนให้ต่างหาก ผักหวานคิดในใจก่อนจะขยับลูกประตูในมืออีกครั้ง คราวนี้เกลียวหมุนบิดได้อย่างง่ายดาย พิสมัยรีบขยับเท้าเตรียมจะเดินตามหากแต่ก็ต้องชะงักอยู่กับที่ เมื่อหญิงสาวหันกลับมาสั่งเสียงเรียบ

“ พี่พิส รออยู่ข้างนอกนี่ล่ะคะ“

“ แต่ว่าคุณเป็นผู้หญิง...แล้วคุณทศก็“

“ พี่พิส“น้ำเสียงที่กดให้ต่ำลงอย่างจะปรามไม่ให้พูดต่อ บวกกับแววตาที่ทอดมองมา ทำให้สตรีร่างท้วมได้แต่ยืนก้มหน้า หลุบตาลงมองพื้นอย่างยอมจำนน

“ อ่อ แล้วถ้าได้ยินเสียงเรียก หรือเสียงอะไรก็ตาม ห้ามเข้าไปจนกว่าหวานจะอนุญาตเด็ดขาดเข้าใจไหมคะ“พิสมัยได้แต่พยักหน้ารับ อดที่จะทอดสายตามองตามหลังร่างบางไปด้วยความเป็นห่วง ไม่ได้ ไม่ได้ห่วงหญิงสาวผู้นี้หรอกนะ หากแต่ห่วงคุณทศของเธอเหลือเกิน หญิงร่างท้วมได้แต่หันซ้ายหันขวาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี ก่อนจะตัดสินใจแนบหูตนเองลงกับประตูห้องในที่สุด รู้ทั้งรู้ว่าห้องนี้เป็นห้องเก็บเสียงแต่ก็ขอให้ได้ลองดูหน่อยแล้วกัน เพื่อจะได้ยินเสียงอะไรต่อมิอะไรบ้าง


ผักหวานกวาดตามองสภาพห้องที่เกลื่อนกลาดไปด้วยรูปภาพอย่างสนใจ อดที่จะก้มหยิบรูปภาพซึ่งถูกขย้ำจนยับย่นขึ้นมาดูไม่ได้ คิ้วเรียวสวยถูกขมวดอย่างใช้ความคิด ก่อนที่เจ้าตัวจะไล่ตามเก็บรูปภาพใบอื่นๆมาดูเปรียบเทียบไปด้วย

นี่มันรูปถ่ายของนายทศกับเด็กผู้หญิงหน้าใสคนหนึ่งนี่นาดูๆไปแล้วถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทก็น่าจะเป็นแฟนกันเพราะมีทั้งภาพเดี่ยว ภาพคู่ แถมบางภาพยังมีการโอบกอดบ่งบอกความสนิทสนมได้เป็นอย่างดี ตากลมโตทอดมองร่างสูงโปร่งที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียงด้วยแววตาที่อ่อนลง สงสัยเจ้าเด็กนี่คงจะโดนทิ้งก็เลยเป๋ไปกินเหล้าจนมีเรื่องแน่ๆ หญิงสาวคิดในใจ...แต่ถ้าตัวเองไม่สมหวังก็ไม่ควรไปพาลเอากับคนอื่นนี่ ตะวันเพื่อนเธอก็อกหักเหมือนกัน ยังไม่เคยหาเรื่องใครเลย เมื่อคิดมาถึงตอนนี้ ดวงตาที่อ่อนแสงลงก็กลับมาลุกวาวอีกครั้ง ดูท่าจะต้องช่วยพี่ทักษ์สั่งสอนน้องชายคนเดียวซะหน่อยแล้ว จะได้ไม่ไปทำนิสัยแย่ๆกับใครอีก

เมื่อคิดได้ดั่งนี้ ร่างบางก็ก้าวอาดๆไปยังเตียงนอนตรงหน้าทันที มือบางกำผ้าห่มที่ห่อหุ้มร่างกายเด็กหนุ่มไว้แน่น ก่อนจะกระชากสุดแรง ยังผลให้คนที่กำลังนอนหลับสบายกลิ้งตกลงมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว

“ ตื่นได้แล้ว“ ทศซึ่งตอนนี้นอนเค้เก้อยู่บนพื้นสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียง หน้าขาวใสที่แลดูสวยจนคล้ายผู้หญิงแดงกล่ำอย่างโกรธจัด เด็กหนุ่มเหลือบตาขึ้นมองผู้ที่กระทำการอุกอาจกับตนด้วยแววตาวาวโรจน์ ก่อนที่แปรเปลี่ยนเป็นงุนงงเมื่อมองเห็นหญิงสาวร่างบางยืนเท้าสะเอวมองมาที่ตนด้วยแววตาไม่แตกต่างกัน

ยัยผู้หญิงบ้านี่เป็นใครกัน แล้วทำไมพี่พิสถึงปล่อยให้คนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวเดินเข้ามาถึงในห้องนอนของเขาได้ เด็กหนุ่มคิดในใจอย่างสับสน ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน และตะคอกใส่หน้าผักหวานเสียงดังลั่น

“ เธอเป็นใคร กล้าดียังไงเข้ามาในห้องฉัน ห๊า! พี่พิส พี่พิส“ เด็กหนุ่มตะโกนเรียกแม่บ้านใหญ่ ผู้เป็นพี่เลี้ยงของตนเสียงดังลั่น ผักหวานได้แต่มองท่าทางอาละวาดเป็นเด็กๆของน้องชายเพียงคนเดียวของทักษ์อย่างนึกขำ ตาพี่ก็โหด ดีแต่เก๊กหน้าไปวันๆ ในขณะที่ตาคนน้องก็หง๊องแหง๊งทำตัวเป็นเด็กๆ ดูท่าสิ่งที่เหมือนกันคงมีแค่เรื่องเดียวคือ ...เอาแต่ใจตัวเองพอๆกัน

“ เรียกให้คอแตก พี่พิสของนายก็ไม่กล้าเข้ามาหรอก...ถ้าฉันไม่อนุญาตแม้แต่ยุงตัวเดียวก็บินเข้ามาไม่ได้“ ผักหวานพูดเสียงเรียบ แกล้งตีสีหน้าไร้ความรู้สึกเหมือนที่ทักษ์กระทำอยู่เป็นนิจ ทศได้แต่หันรีหันขวางอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเรียกเท่าไหร่พี่เลี้ยงสาวใหญ่ของตนก็ไม่ยอมเข้ามาสักที หากแต่ก็ยังไม่วายอวดเก่ง ตะโกนใส่หน้าผักหวานเสียงดังสนั่นดุจจะข่มขวัญอยู่ในที

“ เธอเป็นใครกันแน่ แล้ว..แล้วนี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันวะ“

“ ความจำสั้นจริงนะน้องชาย พี่สาวอุตสาห์ตบสั่งสอนนึกว่าจะทำตัวดีขึ้นมาบ้าง ดูท่าเราคงต้องอบรมกันใหม่หมดเลยนะทั้งเรื่องความประพฤติแล้วก็เรื่องมารยาท เฮ้อ! นี่เป็นงานช้างที่จะต้องเหนื่อยมากๆแน่เลยแต่เพื่ออนาคตของชาติ ฉันจะอดทนละกัน“

“ พูดบ้าอะไรของเธอ ห๊ะ!!“ ทศพูดสวนทันทีที่ผักหวานพูดจบ ก่อนจะเริ่มสะดุดกับคำพูดที่อีกฝ่ายพูดออกมา...ตบหน้า คนที่ตบหน้าเขานอกจากยัยเจ๊โหดเมื่อเดือนก่อนที่มีเรื่องกันบนโรงพักแล้วก็ไม่มีใครกล้าที่จะแตะเขาแม้แต่ปลายก้อยอีกเลย หรือว่า เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นก่อนจะหันไปจ้องหน้าผักหวานเขม็ง

“ ดูท่าความจำจะดีขึ้นแล้วสิน่ะ...เอาล่ะ ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว 11 โมงตรงฉันต้องเห็นนายนั่งอยู่ในห้องเรียนกับมิสเตอร์ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันใจร้ายนะ“

“ แล้วทำไมฉันจะต้องเชื่อเธอด้วย...โอ๊ะ!“ ทศพูดสวนหากแต่ไม่ทันจบก็ต้องร้องอุทานออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อแขนขวาถูกพับไปด้านหลังอย่างแรง เด็กหนุ่มพยายามดิ้นสะบัดให้หลุดแต่ผักหวานก็ใช้ทักษะที่มีมากกว่าเตะข้อพับจนอีกฝ่ายล้มลงไปกองตรงผ้าห่มนวมผืนโต ทศพยายามที่จะสะบัดตัวให้หลุดพ้นจากการเกาะกุมอีกครั้งแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องด้วยผักหวานใช้แรงทั้งหมดกดลงไปบนแขนที่ถูกบิดไพล่หลังอย่างแรง สำหรับหญิงสาวที่เรียนคาราเต้ ไอกิโดและเทควันโดมาตั้งแต่อายุเพียงสามขวบ พลังของข้อมือย่อมต้องมีมากพอๆกับหนุ่มฉกรรจ์คนหนึ่งอยู่แล้ว หญิงสาวทอดสายตามองอาการฮึดฮัดของเด็กหนุ่ม อย่างนึกสนุก... ดูท่าวันนี้จะมีอะไรดีๆให้ทำมากกว่าการป่วนลูกน้องของทักษ์เสียแล้ว

“ ก็น่าจะรู้ว่าสู้ไม่ได้...เฮ้อ“ ผักหวานแกล้งถอนหายใจขณะพูด

“ ไม่มีใครสอนรึยังไง รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง รู้ว่าสู้ไม่ได้ก็ออมแรงเอาไว้ดีกว่าไอ้น้อง วันหน้าจะได้มีแรงมาเอาคืนใหม่“ หญิงสาวพูดส่งท้าย ก่อนจะคลายแรงที่ข้อมือลง และลุกขึ้นยืนกอดอกมองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าที่เรียบสนิท

“ ฉันจะบอกพี่ทักษ์ ว่าเธอทำอะไรเอาไว้บ้าง“ ทศพูดอย่างเคียดแค้น ผักหวานแกล้งส่ายหัวนิดๆอย่างคนที่เต็มไปด้วยความเอือมระอา

“ เฮ้อ! ข้อที่สองนะคะคุณน้อง นิสัยช่างฟ้องน่ะมันเป็นของผู้หญิง ไม่แมนเลยนะไม่แมน พี่จะบอก“

“ เธอ...“

“ ต้องเรียกว่าพี่สิ พี่ผักหวาน หรือจะเรียกว่าพี่หวานก็ได้ พูดใหม่“

“ ไม่“

“ แน่ใจ๋“ ผักหวานขู่เสียงเหี้ยม ก่อนจะจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยแววตาคมกริบ ทศลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างหวาดหวั่น ทำไมมันถึงได้ดูเหมือนสีหน้าของพี่ชายเขาเวลาโกรธจัดเลยนะ

“ พะ พะ พี่ผักหวาน“ พูดตะกุกตะกักออกมาในที่สุด หลังจากผ่านเกมจ้องตากับหญิงสาวคนนี้มานานเกือบห้านาที

“ จำเอาไว้ คำพูดของฉันก็คือคำพูดของพี่ทักษ์…ถ้าไม่ทำตามที่ฉันพูด ก็เท่ากับว่าเธอกำลังขัดคำสั่งของพี่ชายตัวเอง“ ผักหวานพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทศได้แต่ตะลึงงันมองตามจนกระทั่งอีกฝ่ายปิดประตูห้องนอนของตนเองลง... นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ เด็กหนุ่มได้แต่สบถออกมาอย่างฉุนเฉียว ก่อนจะรีบก้าวเท้าไปยังหัวเตียง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพี่ชายของตนเองทันที


ดวงตาคมเข้มทอประกายอย่างนึกขันขณะวางสายโทรศัพท์ที่ถูกต่อตรงมาจากลูกน้องคนสนิท ดูท่าผักหวานจะแกล้งป่วนลูกน้องเขาเป็นการโต้กลับที่ถูกบังคับไม่ให้กลับคอนโดเป็นแน่ ชายหนุ่มนึกเอ็นดูไม่น้อยกับการกระทำเป็นเด็กๆของอีกฝ่ายไม่ทันจะได้ทำงานต่อ เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมาอีก ทักษ์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะกดรับด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นชื่อของน้องชายปรากฏบนหน้าจอมือถือ

“ ว่าไงนายทศ“

“ พี่ทักษ์ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันครับ“ เสียงฉุนเฉียวจากปลายสายดังขึ้นอย่างคนที่เก็บอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ ทักษ์ขมวดคิ้วด้วยอดแปลกใจในน้ำเสียงของน้องชายตนเองไม่ได้ หากแต่ยังไม่ทันจะได้สอบถามหาสาเหตุ อีกฝ่ายก็ชิงพูดออกมาเสียก่อน

“ ยัยผู้หญิงคนที่มีเรื่องกับผมกับนายแพทที่โรงพัก มาอยู่บ้านเราได้ยังไงกันครับ แล้วทำไมยัยนั่นถึงอ้างว่าคำพูดของเขาก็คือคำพูดของพี่...“

ดูท่าเรื่องสนุกของผักหวานจะไม่ได้มีแค่ก่อกวนลูกน้องของเขาเท่านั้น ทักษ์คิดในใจ แต่ถึงอย่างไรชายหนุ่มก็ยังเชื่อมั่นในตัวหญิงสาวอยู่ดี ถึงแม้อีกฝ่ายจะเคยมีเรื่องกับนายทศมาก่อนแต่เขามั่นใจว่าเธอจะไม่ทำอะไรรุนแรงเป็นแน่ จะว่าไป เขาเองก็ชักอยากจะรู้เหมือนกันว่าผักหวานจะจัดการอย่างไรกับนายทศต่อไป

“ พี่เข้าใจแล้ว“เสียงเรียบๆของพี่ชายที่ดังขึ้นบ้างหลังจากปล่อยให้น้องชายพูดอยู่เป็นนาน ทำให้ทศใจชื้นขึ้น...คอยดูนะเขาจะเอาคืนยัยเจ๊โหดนั่นให้ได้ ให้มันรู้ไปว่าระหว่างน้องชายกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ใครจะสำคัญกว่ากัน

“ ผักหวานพูดถูก พี่ให้สิทธิ์เขาเอง และพี่ก็เป็นคนบอกเองว่าให้ทุกคนทำตามที่เขาต้องการ คำพูดของผักหวานก็คือคำพูดของพี่“ทศอ้าปากค้างทันทีที่ได้ยินประโยคต่อมาตอนนี้ในหัวของเด็กหนุ่มกำลังมึนงงเหมือนถูกทุบด้วยค้อนปอนด์อย่างแรง...นี่มันหมายความว่ายังไงกัน!

“ แล้วก็เรียกผักหวานว่าพี่ด้วย เขาอายุมากกว่าทศตั้งหลายปี...โอเคนะ ถ้าเข้าใจแล้วก็แค่นี้ก่อน เย็นนี้เราค่อยคุยกัน“ทักษ์พูดตัดบทอย่างไม่รอให้อีกฝ่ายได้ท้วงติงก่อนจะกดตัดสายไป ทิ้งให้น้องชายเพียงคนเดียวจมอยู่ในความสับสน...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน พี่ทักษ์สั่งให้เขาเชื่อฟังคำพูดของยัยเจ๊โหดนั่น อย่าบอกนะว่าผู้หญิงคนนี้คือว่าที่พี่สะใภ้ของเขา! เพียงแค่คิดเด็กหนุ่มก็ขนลุกแล้ว ดวงตาคมเข้มคล้ายผู้เป็นพี่ชายเผลอเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังห้อง ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบกระโจนเข้าห้องน้ำในทันที... เหลืออีกแค่ 10 นาที ก็จะ 11 โมง แล้ว เขายังไม่อยากโดนยัยเจ๊นั่นซ้อมอีกหรอกนะ ยังไงก็ต้องรักษาตัวรอดไปคุยกับพี่ทักษ์เย็นนี้ให้รู้เรื่องเสียก่อน เมื่อคิดได้ดังนี้เด็กหนุ่มจึงรีบอาบน้ำชำระล้างร่างกาย แข่งกับเข็มเวลาที่กำลังเดินไปในทุกๆวินาที


“ ไม่ต้องทำหน้างงหรอกนายทศ มีอย่างที่ไหน นัดเรียนตอนสิบโมงเพิ่งจะเสด็จลงมาตอนนี้ อาจารย์เขาคงรอหรอกนะ พวกผู้ดีอังกฤษนะเคร่งเรื่องเวลาจะตาย นี่คงทำบ่อยจนเขาเหลืออดแล้วละสิ“

ผักหวานบ่นออกมา เมื่อเห็นอาการชะงักก่อนจะสอดส่ายสายตามองหาของทศ เมื่อกี้หลังจากไปลากน้องชายของทักษ์ลงจากเตียงนอนแล้ว หญิงสาวก็เดินลงมารออีกฝ่ายที่ห้องหนังสือ ทันเจอมิสเตอร์แอนเดอสันซึ่งกำลังหน้ามุ่ยเดินสวนออกมาตรงทางเดินพอดี เพียงแค่ส่งเสียงทักทายไปก่อนตามมารยาท เธอก็โดนไอ้มิสเตอร์นั่นด่าแบบสุภาพเรื่องไม่สั่งสอนน้องชายให้เล่งเห็นถึงความสำคัญของการการตรงต่อเวลาทันทีแถมด่าเสร็จก็เดินหนีออกไปเฉยเลย ทิ้งแต่หนังสือเอาไว้ให้พลิกดูต่างหน้านี่ล่ะ

“ งั้นก็ว่างแล้วนะสิ“ ทศพูดด้วยน้ำเสียงยินดี สีหน้าไม่ได้สลดลงเลยสักนิดกับความผิดของตนเอง ผักหวานรีบลุกเดินไปดักหน้าทันทีเมื่อเห็นเด็กหนุ่มหันหลังกลับเตรียมจะเดินออกจากห้อง ดวงตากลมสวยจ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาตำหนิอย่างชัดเจน

“ แค่เวลายังรักษาไม่ได้ แล้วคิดหรือว่าจะทำเรื่องอื่นสำเร็จ ฉันไม่แปลกใจเลยนะ ถ้าผู้หญิงในรูปเขาจะทิ้งนายน่ะ“ ผักหวานพูดเนิบๆแต่ซัดเข้ากลางใจอีกฝ่ายอย่างจัง แววตาของทศฉายแววเจ็บปวดก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นกราดเกรี้ยวตามแรงอารมณ์ เด็กหนุ่มตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างเหลืออดหากแต่ยังไม่ทันได้พูดจบก็ต้องร้องโอดโอยออกมาเสียก่อน

“ อย่าคิดว่าพี่ทักษ์ให้ท้ายแล้วเธอจะทำอะไรก็ได้นะ...โอ๊ะ“ ทศร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อโดนมะเหงกเขกลงกลางศีรษะอย่างแรง ผักหวานมองท่าทางลูบหัวปอยๆของอีกฝ่ายด้วยความสะใจ ดูท่านอกจากจะเอาแต่ใจแล้ว ยังเป็นคนไม่ยอมรับความจริงอีก

“ บอกแล้วว่าให้เรียกพี่ผักหวาน สอนไม่รู้จักจำ...แล้วก็ไม่ต้องดีใจไป ถ้ามิสเตอร์ไม่สอนเธอ ฉันสอนเองก็ได้“ ผักหวานพูดกับอีกฝ่ายด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน ทศพูดสวนกลับมาด้วยสำเนียงอิงแลนด์อย่างไม่ยอมแพ้กัน

“ผมไม่เรียนกับคุณหรอก เก่งแค่ไหนเชียว สำเนียงก็อเมริกันจ๋ามาเชียว ใครจะไปเชื่อ สอนผิดขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ“ สำเนียงของเด็กหนุ่มถือว่าเกือบใช้ได้ มีแค่บางคำเท่านั้นที่หลุดไปบ้างแต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร

“ พูดจาให้มันดีๆ ใครสั่งใครสอนให้เที่ยวไปพูดจาดูถูกคนอื่นเค้า อย่าได้ไปว่าใครถ้าเราเองยังไม่ดีพอ“ ผักหวานพูดสอนหลังจากเขกมะเหงกซ้ำลงไปที่เดิมแล้ว คราวนี้หญิงสาวกลับมาพูดด้วยสำเนียงผู้ดีอังกฤษสนองใจเด็กหนุ่มเรื่องมากทันที ตัว t ก็ออกเสียง เถอะ ไม่ใช่เสียง ด เหมือนสำเนียงอเมริกันที่คุ้นเคย ทศถึงกับเหวอไปเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายก็กลับสำเนียงการพูด ซ้ำยังพูดเสียงสูงต่ำได้เพราะพริ้งจนถ้าเขาหลับตาฟังต้องนึกว่าแหม่มอังกฤษเป็นคนพูดจริงๆ หาใช่ยัยเจ๊โหดตรงหน้า

“ แล้วอีกอย่าง ถ้าฉันสอนเธอไม่ได้ ใครจะสอนได้ ฉันน่ะวิศวะเกียรตินิยมจากเอ็มไอทีนะ“

“ เอ็มไอที พูดเป็นเล่นไป“ทศอุทาน นั่นมันสถาบันในฝันของเขาเลยนะ

“ เรื่องอย่างนี้ใครเค้าพูดตลกกันบ้าง เอาละนั่งลง แล้วก็ลองเล่าประวัติการเรียน การทำกิจกรรมเป็นภาษาอังกฤษซิ ฉันจะฟัง ภาษาเราพอใช้ได้ก็จริงแต่ก็มีบ้างตัวที่ยังออกเสียงเพี้ยนอยู่ เออ แล้วนี่เลือกยูได้รึยังล่ะ จะได้รู้ว่าควรจะปรับสำเนียงการพูดไปเป็นแบบไหนเวลาไปสัมภาษณ์“


เวลาผ่านไปกว่าชั่วโมง แต่นายน้อยของเธอและว่าที่นายหญิงของบ้านยังไม่ยอมออกมาจากห้องหนังสือเลย พิสมัยได้แต่เดินเป็นหนูติดจั่นอยู่หน้าห้องด้วยความกระวนกระวายใจ อยากจะเปิดประตูเข้าไปดูใจแทบขาดแต่ก็ติดคำสั่งของคุณผักหวานที่ย้ำหนักย้ำหนาเอาไว้

“ คุณหวานล่ะ“ เดชซึ่งวิ่งกระหือกระหอบเข้ามาเอ่ยถามเสียงห้วน พิสมัยอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย ลืมความกังวนใจของตัวเองไปชั่วขณะ

“ อยู่ในห้อง กับคุณทศ“

“ ห๊า! ว่าไงนะ“เดชอุทานเสียงหลงทำให้พิสมัยพลอยตกใจตามไปด้วย หญิงร่างท้วมรีบถามคนสนิทอีกคนของทักษ์อย่างร้อนใจทันที

“ ทำไมเหรอนายเดช มีอะไรกันเหรอ“ยังไม่ทันที่เดชจะพูดตอบประตูห้องทำงานก็เปิดขึ้นมาก่อน พร้อมๆกับที่ผักหวานและทศเดินคุยกันออกมาอย่างออกอรรถรส

“ พี่พิส มีอะไรกันรึเปล่า“ทศเอ่ยปากถามออกมาก่อนด้วยความแปลกใจ ทำให้พิสมัยต้องรีบระร่ำระลักตอบกลบเกลื่อนทันที

“ ปะ เปล่าคะคุณทศ พี่พิสมารอถามว่าจะรับข้าวกลางวันตอนไหน ส่วนนายเดชเขามารอพบคุณผักหวานคะ“

“ อ้อ!“ ผักหวานอุทานออกมาอย่างนึกขึ้นได้

“ ไหนละ ซีรียส์ของฉัน“

“ นี่ครับ คุณหวาน“ เดชรีบพูดก่อนจะยื่นดีวีดีซีรียส์ละครเกาหลีเจ้าปัญหาที่เขาต้องค้นหาทางอินเตอร์เนตแทบตาย ก่อนจะตะกายไปเอาดีวีดีนี้ถึงสะพานควายบ้านของเด็กสาวที่รับทำขายให้กับหญิงสาว ผักหวานรับดีวีดีมาพลิกดูหน้าปก ก่อนจะเอ่ยปากขอบใจคนตรงหน้า

“ อืม เรื่องนี้ล่ะ ขอบใจนะ แต่คงจะไม่ได้ดูแล้วเพราะต้องสอนหนังสือนายทศก่อน...ไปทศ ไปกินข้าวกันแล้วเดี่ยวพี่จะสอนต่อว่าเวลาสัมภาษณ์ต้องทำยังไง“ พูดกับเดช ก่อนจะหันมาพยักเพยิดชวนทศไปทานข้าวด้วยกัน เดชมองตามคนทั้งคู่ไปด้วยแววตาที่คาดไม่ถึง เช่นเดียวกันกับพิสมัย ที่ออกอาการเหวอไปเหมือนกันเมื่อเห็นนายน้อยของตนมีท่าทางนับถือผักหวานขึ้นมาอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งๆที่เมื่อเช้าเพิ่งจะทะเลาะกันมาหยกๆ...ดูท่า คุณผักหวานจะเอาอยู่ทั้งนายใหญ่ และนายน้อยของบ้านพัฒนะไพศาลซะแล้ว

“ พี่จะบอกอะไรให้ฟังนะทศ จะเชื่อหรือไม่ก็ได้ แต่ในฐานะที่เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน มีเพื่อนผู้ชายมาก็มาก ไอ้เรื่องอกหักสำหรับวัยอย่างเราน่ะมันเรื่องเล็ก ไม่เคยมีเพื่อนผู้ชายคนไหนของพี่ที่ไม่เคยโดนหักอกหรอก บางคนนะ นิสัยดีสุดๆจนพี่อยากจะด่าผู้หญิงเลยว่าควายมากที่ทิ้งไป...ยังไงดีล่ะ ไอ้เรื่องพวกนี้มันไม่ใช่แค่เพราะเราไม่ดีพอหรอก แต่มันขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่างด้วย นิสัยเอ้ย ไลฟสไตล์เอ้ย ไหนจะตัวตนลึกๆอีก เรื่องพวกนี้ ถ้าคบกันไปนานๆมันจะยิ่งปรากฏ สันดอนมันขุดได้ แต่สันดานมันขุดยาก พ้นช่วงโปรโมชั่นไปแล้วอะไรที่ว่าดีมันก็อาจจะกลายเป็นไม่ดีไปก็ได้ คนเราน่ะนะ ถ้าเป็นคู่กันแล้ว ยังไงก็ไม่แคล้วกันหรอก คิดซะว่ามันเป็นบทเรียน สร้างภูมิต้านทานให้จิตใจเราแข็งแกร่งขึ้นจะดีกว่า “

ผักหวานสอนอีกฝ่ายอย่างหวังดี ขณะนั่งทานขนมเค้กจากเชพชื่อดังด้วยกันในยามบ่ายที่ห้องนั่งเล่น หลังจากพูดคุยกันมากว่าครึ่งวัน ผักหวานก็นึกเอ็นดูเด็กหนุ่มตรงหน้าอยู่ไม่น้อย หญิงสาวสัมผัสได้ว่าทศเป็นเด็กใฝ่ดี ตั้งใจเรียนและไม่ใช่เด็กก้าวร้าวชอบหาเรื่องคนอื่นอย่างที่คิดไว้ในตอนแรก ที่วันนั้นมีเรื่องกันก็เพราะเด็กหนุ่มที่ชื่อแพทนั่นเป็นคนสั่งการ จริงอยู่ถึงเจ้าตัวจะพูดว่าเพื่อนเป็นห่วงเลยสั่งลูกน้องไปโดยพลการ และตัวเองก็ผิดที่เมาเหล้าจนไม่มีสติเลยไม่ทันได้ห้ามอะไร แต่หญิงสาวก็รู้ได้ในทันทีว่าทศโทษตัวเองเพื่อปกป้องเพื่อน คะแนนนิยมของเจ้าเด็กหัวดื้อ สมญานามที่เธอให้ในตอนแรกจึงพุ่งปรี๊ด จนผักหวานยอมยกอีกฝ่ายให้เป็นน้องชายคนโปรดอีกคนอย่างเต็มใจ

“ ไม่เชื่อสินะ เอาตัวอย่างง่ายๆ ใกล้ๆตัวเราเลย จำเพื่อนพี่ที่เราไปมีเรื่องด้วยวันนั้นได้หรือเปล่า“ ผักหวานเอ่ยถามหลังจากเห็นแววตาดื้อดึงอย่างไม่ยอมรับของอีกฝ่าย ทศพยักหน้ารับอย่างแกนๆขณะยกแก้วน้ำชาของตนขึ้นมาดื่มบ้าง

“ เพื่อนพี่คนนั้นชื่อเจ้าตะวัน ณ.เชียงแสน เป็นลูกชายคนเล็กของเจ้าบุญนิศากับเจ้าถิ่นไทย จบโทจากเอ็มไอที ทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของอเมริกา แถมยังเป็นประธานและเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรเลอคอนลาร์ดที่ถูกจองจนเต็มตั้งแต่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ เป็น1ใน10ของหนุ่มโสดในฝันจากนิตยสารคูล นิสัยดีมากๆ ตั้งแต่เรียนมามีแฟนอยู่คนเดียวก็ยัยน้องกิฟท์นางเอกดังนั่นไงละ วันนั้นที่มีเรื่องกันเป็นวันที่เพื่อนพี่ถูกทิ้งพอดี ไหนเราลองบอกพี่หน่อยซิว่ามีเหตุผลข้อไหนบ้างที่เพื่อนพี่ควรจะโดนทิ้ง ในเมื่อมันนะ หล่อก็หล่อ รวยก็รวย เรียนก็เก่ง หน้าที่การงานก็ดี ตระกูลก็มีเชื้อเจ้า แถมยังมั่นคง รักใครรักจริงอีก คบกับยัยกิฟท์มา 7 ปีไม่เคยที่จะวอกแวกเลยสักครั้ง“

ทศนิ่งอึ้งเมื่อฟังพี่สาวคนใหม่เล่าเรื่องราวของเพื่อนสนิทให้ฟัง ผู้ชายที่เพอร์เฟกต์ขนาดนั้นยังถูกทิ้งอีกเหรอ... แววตาเด็กหนุ่มฉายแววสับสน อย่างไม่อยากจะเชื่อ ผักหวานยิ้มในมุมปากเมื่อเห็นท่าทางครุ่นคิดของเด็กหนุ่ม คนหัวดื้ออย่างนายทศต้องปล่อยให้คิดเอง ตกตะกอนความคิดด้วยตนเอง เธอมีหน้าที่แค่กวนน้ำให้ขุ่นรอวันที่ตะกอนจะจมอยู่ภายใต้น้ำที่ใสสะอาดเท่านั้น

“ สำหรับผู้หญิงนะทศ บางคนต้องการแค่ใครสักคนที่รักเราก็พอ บางคนต้องการมากกว่านั้น ต้องการให้ผู้ชายคนนั้นมีฐานะพอที่จะดูแลไม่ให้เธอต้องลำบากด้วย ในขณะที่บางคนต้องการมากกว่านั้นอีก ต้องการให้ผู้ชายคนนั้นรักเธอเพียงคนเดียว ทุ่มเทให้เธอเพียงคนเดียว และให้ในทุกๆอย่างที่เธอต้องการได้ แต่สำหรับบางคนกว่าจะรู้ใจตัวเองได้ก็ทำให้คนที่ตัวเองรักต้องเสียใจไปแล้วก็มี... เรื่องราวของความรักมันมีเป็นร้อยพัน บางคนอาจจะแฮปปี้สมหวังไม่ต้องอกหัก คนรักคนแรกกับคู่ชีวิตคือคนคนเดียวกัน ในขณะที่อีกหลายคนกว่าจะพบคนที่ใช่ ก็ไขว่ขว้าซะจนแทบหมดแรง“
ผักหวานยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆโดยไม่ซักถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทศเลยสักนิด เรื่องอย่างนี้ถ้าเจ้าตัวไม่อยากพูด เธอก็ไม่อยากจะบังคับ

“ แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรจะนึกถึงให้มากก็คือศักดิ์ศรีของเราเอง ป่วยการจะไปยื้อแย่งถ้าใจเขาไม่อยู่กับเราแล้ว ยิ่งเราออกแรงมากเท่าไรคนที่เจ็บมากขึ้นก็คือตัวเราเท่านั้น ถ้าเราเองยังไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง ใครที่ไหนจะมองเห็นคุณค่าของเรา ถ้าจะเอาเวลาไปยื้อแย่ง ไปแก้แค้นคนที่ที่ทำให้เราเจ็บ สู้เอาเวลาไปเปิดรับคนใหม่ๆเข้ามาไม่ดีกว่าหรือ... แก้แค้นไป ยื้อแย่งไปสุดท้ายคนที่เจ็บหนักมันก็ตัวเราเอง ไหนจะต้องฝืนความรู้สึกทำในสิ่งที่ตัวเองก็รู้ทั้งรู้อยู่ว่ามันไม่ดี ไหนจะต้องทนกับสายตาประณามหยามเหยียด เกลียดชังจากคนที่เรารักเพราะไปทำร้ายเขากับคนที่เค้ารักอีก ทศอายุยังน้อย ยังต้องเจอคนอีกมาก ไม่แน่นะ วันนึงข้างหน้าถ้ามองย้อนกลับมา อาจจะมานั่งนึกขำตัวเองในวันนี้ก็ได้“

ทศซึบซับคำพูดของผักหวานเข้าสู่สมองอย่างช้าๆ...จริงของพี่หวาน ต่อให้เขาพยายามสักแค่ไหนมีนาก็คงไม่หันกลับมายืนอยู่เคียงข้างเขาอีก ยิ่งเขายื้อแย่งหญิงสาวกลับมาอย่างที่นายแพทบอก มีนาก็ยิ่งห่างจากเขาไปทุกที แววตาหวังดีและรอยยิ้มปลอบประโลมที่อีกฝ่ายมีให้ทำให้ทศรู้สึกราวกับว่าตนเองได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เด็กผู้ชายตัวน้อยที่ยามเจ็บตัวกลับมาบ้านทีไรก็จะมีอ้อมแขนอบอุ่นของเมกุมิผู้เป็นแม่คอยโอบประคองทุกครั้ง ผักหวานอุทานในลำคออย่างตกใจเมื่อจู่ๆเด็กหนุ่มก็โผเข้ามากอดตนเองไว้แน่น หากแต่เมื่อสัมผัสได้ถึงน้ำอุ่นๆที่ซึมผ่านเนื้อผ้าบริเวณหัวไหล่ของตนเองแล้ว ใจของหญิงสาวก็พลันอ่อนยวบลง ผักหวานได้แต่ลูบหลังอีกฝ่ายเบาๆอย่างปลอบโยนและให้กำลังใจอยู่ในที รอยยิ้มหวังดีประดับไปทั่วใบหน้าหวาน

คงคิดได้แล้วสินะ ...... เด็กน้อย


เสียงกระสุนที่สาดใส่กันอย่างเมามันส์ ทำให้ทักษ์ที่เปิดประตูห้องเข้ามาถึงกับนิ่วหน้าด้วยความปวดหู หากแต่ดูเหมือนว่าบุคคลทั้งสองซึ่งกำลังเล่นเกมส์แข่งกันอย่างเอาเป็นเอาตายจะไม่ได้สนใจเลยสักนิด บุคคลที่สามซึ่งเพิ่งก้าวเข้ามาคลี่ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเห็นภาพตรงหน้า น้องชายและคนที่เขารักดูเข้ากันได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ผักหวานไม่ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ จะด้วยวิธีใดก็ตามขอแค่ทั้งสองคนเข้ากันได้เขาก็พอใจแล้ว ชายหนุ่มหยุดยืนดูคนทั้งคู่อยู่ครู่ใหญ่ ครั้นเมื่อเห็นว่าไม่มีใครล่วงรู้ในการมาของตนเป็นแน่ จึงค่อยๆก้าวเท้าเดินตรงไปยังโซฟาฝั่งที่ผักหวานนั่งอยู่อย่างเงียบเชียบ ก่อนจะจรดปลายจมูกลงบนแก้มนุ่มอย่างไม่ทันให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว ผักหวานสะดุ้งทันทีกับสัมผัสที่ได้รับ สมาธิซ่านกระเซ็นจนลืมที่จะปกป้องดินแดนของตน ทำให้ทศได้โอกาสกดระเบิดปาใส่ฝั่งของผักหวานทันที เสียงระเบิดดั่งสนั่นหวั่นไหวก่อนที่ตัวอักษรสีแดงจะปรากฏบนจอโทรทัศน์แสดงว่าหญิงสาวแพ้แล้ว

“ เย้”

เสียงเฮของทศทำให้ผักหวานได้สติ หญิงสาวถลึงตาใส่ทักษ์อย่างกินเลือดกินเนื้อ หากแต่ไม่ทันได้ต่อว่าและประทุษร้ายอีกฝ่ายตามที่คิดไว้ ทศก็เอ่ยทักพี่ชายขัดจังหวะเสียก่อน ทักษ์สบตากลมวาวด้วยแววตาพราวระยับ ชายหนุ่มแกล้งทำท่าบุ้ยใบ้ไปทางน้องชายเหมือนกับจะบอกให้รู้ว่าที่ตรงนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เขาและเธอ หญิงสาวจึงได้แต่ส่งสายตาอาฆาตไปให้ ก่อนจะหันหน้ามาทางทศที่ทวงสัญญากับตนเองยิกๆ

“ สามหมื่นพี่หวาน สามหมื่น จ่ายมาซะดีๆ อย่าได้เบี้ยว“ ผักหวานมองทักษ์ด้วยสายตาขุ่นเคืองเหมือนกับจะบอกให้รู้ว่าเพราะเขา เธอถึงต้องเสียทั้งเงินเสียทั้งหน้าเช่นนี้

“ เออ ... ไม่เบี้ยวหรอก แต่พี่ไม่ได้เอาเงินสดมาด้วยตอนนี้ เย็นนี้กลับคอนโดแล้วจะฝากพี่ทักษ์มาให้ละกัน“

“ จริงนะ แล้วเรื่องจะทำกับข้าวเลี้ยงล่ะ“ ทักษ์หันมามองใบหน้านวลทันทีที่ได้ฟัง นึกขอบใจน้องชายอยู่ลึกๆ ที่รู้จักหาโอกาสสร้างสถานการณ์ให้หญิงสาวได้มาบ้านนี้อีกครั้ง

“ เอาเป็นวันอาทิตย์นี้แล้วกัน...แต่ว่า“ ผักหวานลากเสียงอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหันมาสบสายตากับทักษ์
“เอาเพื่อนมาด้วยได้ไหม“ ทักษ์นิ่วหน้าทันทีที่ได้ฟัง ทำให้ผักหวานต้องรีบส่งสายตาเว้าวอนไปให้...เพื่อแกเลยนะนังจีน งานนี้ฉันยอมส่งสายตาออดอ้อนผู้ชายเป็นครั้งแรกก็เพื่อแกเลยนะ...หญิงสาวคิดในใจขณะยิ้มหวานให้คนตรงหน้าที่ดูจะตะลึงงันไปกับรอยยิ้มที่ได้รับ

“ ยัยจีนไงพี่ทักษ์ นะ มาคนเดียวมันเขินๆ...อีกอย่างคนเยอะสนุกดีออก“ หญิงสาวพูดก่อนจะ

แสร้งทำสีหน้าเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้

“ อืมม ชวนคุณแอนดี้มาด้วยสิคะ ยัยจีนจะได้มีเพื่อนคุย...นะ“

ตอนแรกที่ได้ยินว่าผักหวานให้ชวนแอนโทนี่เพื่อนสนิทของตนเองมาด้วยนั้น ทักษ์ยอมรับว่าเขาหงุดหงิดจนอยากที่จะบอกปัดไปซะ แต่เมื่อได้ยินประโยคถัดมา ชายหนุ่มก็เริ่มสะกิดใจและเข้าใจในที่สุด...ดูท่าผักหวานจะริเป็นแม่สื่อให้เพื่อนตัวเองซะแล้ว แต่จะพูดไปนั่นก็เป็นสิ่งที่เขาคิดจะทำอยู่เหมือนกัน แอนโทนี่เพื่อนรักของเขาปิดกั้นตัวเองเพราะเรื่องในอดีตมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ชายหนุ่มควรจะเปิดรับและศึกษาคนใหม่ๆเสียที ยิ่งประกอบกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตั้งแต่ได้เจอจิดาภา สถาปนิกสาวเพื่อนสนิทของผักหวานด้วยแล้ว เขาก็ยิ่งมั่นใจว่าหญิงสาวน่าจะเป็นคนลบบาดแผลและอคิติในใจของเพื่อนตนเองได้

“ ได้สิ กี่โมงดีล่ะ“ จากนั้นการสนนาก็เปลี่ยนเป็นการนัดแนะเรื่องเวลาและรายการอาหารที่นายทศอยากกิน ผักหวานได้แต่ลอบยิ้มในใจเมื่อทุกอย่างดูจะเป็นไปตามที่ตนเองวางแผน

ในที่สุดฉันก็หาทางช่วยแกได้แล้วนะไอ้จีน ที่เหลือก็ต้องพึ่งมารยาสารไถของแกนะล่ะ ว่าจะได้ผลแค่ไหน ...หญิงสาวคิดก่อนจะลอบมองไปที่ทักษ์ด้วยแววตาหมายมาด

นี่ก็อีกคน เห็นเธอเป็นอะไรกัน แค่ช่วยครั้งเดียว ไม่ได้หมายความว่าอยากจะทำอะไรกับเธอก็ทำได้นะ...ใบหน้าหวานร้อนผ่าวเมื่อนึกไปถึงสัมผัสที่ได้รับ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นขึ้งเครียด ... แล้วจะได้รู้สำนึกนะ ไอ้คุณพี่ทักษ์ ว่าอย่ามาทำเจ้าชู้ยักษ์ใส่คนอย่างผักหวาน ...










Create Date : 23 สิงหาคม 2551
Last Update : 23 สิงหาคม 2551 12:42:31 น. 3 comments
Counter : 445 Pageviews.

 
ตอบเมนท์จ้า

พี่หมูน้อย --- พระเอกของเราจะน่ารักขึ้นเรื่อยๆคะ อิอิ

au_ja --- จ้า ที่ไม่ได้อัพเพราะไม่มีเวลาลงมากกว่า ที่ลงในนี้จะเป็นอันที่ส่งสนพจริงๆจ้า ต่อบทเลยจะยาวอ่ะนะ อ่านกันตาเเฉะเลยนิ

มะนาว --- เรื่องนี้เป็นเรื่องเเรกจ้า ตอนนี้กำลังแต่งเรื่องแผนรัก(ความจริงก็เเต่งได้ครึ่งเรื่องแล้วล่ะที่เด็กดีอ่ะนะ) ภาคเหมือนจะต่อของเรื่องนี้ เป็นเรื่องของหนูจีนจ้า รีไรท์ใหม่กำลังทยอยลงที่สิรินดานะ เดี่ยวหวานใจจบก็จะเอามาลงต่อเหมือนกัน กลัวคนในบล๊อกงงเลยต้องค่อยๆทยอยลง


โดย: ณนาถ (Na_Nath ) วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:12:51:46 น.  

 
หนุกค่ะ น่ารักดี


โดย: นู๋เนน IP: 119.42.77.102 วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:15:27:52 น.  

 
จะติดตามผลงานต่อไปเรื่อย ๆ
ขอเป็นแฟนคลับด้วยคนน่า.........................


โดย: มะนาว IP: 116.68.151.35 วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:7:43:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Na_Nath
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






✎ งานเขียนทั้งหมดในblog นี้ ✎

สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายพระราช

บัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์

เผยแพร่ หรือ คัดลอกไปกระทำการ

ใดๆก็ตาม..หากผู้ใดกระทำการฝ่าฝืน

เจ้าของ blog สามารถดำเนินการตาม

กฏหมายได้ทุกกรณี (◡‿◡✿)




Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
23 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Na_Nath's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.