หวานใจนายมาเฟีย ตอนที่ 7



ผักหวานตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยความแจ่มใส การกินเหล้าแรงๆอย่างเตกีร่าหรือวอดก้า มันดีอย่างนี้ละ ถึงจะเมาง่ายไปหน่อย แต่เวลาตื่นขึ้นมาจะไม่มีอาการเมาค้างปวดหัวตุ๊บๆเหมือนกินพวกวิสกี้ หญิงสาวพาร่างตนเองเข้าห้องน้ำไปด้วยอาการกระปรี้กระเปร่า ก่อนจะส่องกระจกด้วยความแปลกใจ นี่เธอเช็ดเครื่องสำอางออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า หญิงสาวมองภาพสะท้อนในกระจกอย่างงงๆ เมื่อวานเมาเหมือนหมาเลยจำอะไรไม่ได้สักนิด จำได้แต่ว่าเธอเจอเฮียพีทและอ้อนให้อีกผ่ายมาส่งที่คอนโด แต่ว่าแล้วเธอขึ้นมาที่ห้องได้ยังไงนี่ซิ หญิงสาวจำไม่ได้จริงๆ แต่ก็ช่างมันเหอะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่นี่นา บอกตัวเองเสร็จสรรพ หญิงสาวก็หยิบแปรงขึ้นมาเตรียมจะแปรงฟัน พลันมือก็เผลอลูบไล้ไปที่ริมฝีปากอย่างเผลอไผลเมื่อนึกไปถึงความฝันอันแสนหวานเมื่อคืน ใบหน้าค่อยๆแดงกล่ำขึ้นเมื่อนึกถึงจูบที่ลึกซึ้งราวกับล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ

บ้า บ้า บ้า ผักหวานพูดเสียงดัง ก่อนจะสะบัดหัวไปมา นี่ฉันดูหนังเกาหลีมากเกินไปจนเก็บเอาไปจินตนาการแหงมๆเลย หญิงสาวคิดในใจขณะก้าวเท้าพาร่างเปลือยเปล่าเข้าตู้อาบน้ำกระจกใส เสียงฮัมเพลงเบาๆดังคลอไปกับเสียงสายน้ำที่ตกกระทบร่าง จนเมื่อชำระล้างร่างกายและแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผักหวานจึงเดินออกมาชงกาแฟดื่มยามเช้าตามปกติ ขณะจิบกาแฟอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ภายในของคอนโดก็ดังขึ้น หญิงสาวเดินถือแก้วกาแฟไปยังมุมรับแขก ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งลงบนโซฟาและหยิบโทรศัพท์ไร้สายขึ้นมากดรับ

“ คุณพิมลพัทธ์คะ มีแขกมาขอพบคะ“ เสียงโอเปอเรเตอร์ดังมาตามสายหลังจากที่หญิงสาวกดรับโทรศัพท์แล้ว

“ ไม่ทราบว่าบอกชื่อไว้หรือเปล่าคะ... ค่ะ! ว่ายังไงนะ ลีจินฮุน“ ผักหวานอุทานออกมาอย่างตกใจหลังจากได้ยินชื่อที่อีกฝ่ายบอก นี่มันอะไรกัน เมื่อวานฝันถึงพี่ทาคุยะ พอตื่นเช้ามาอีตาจินฮุนก็โผล่มาเซอร์ไพร์ส ถึงกรุงเทพอีก โอ้ว! มายก๊อด


ทักษ์ขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินรายงานจากลูกน้อง มีผู้ชายมาหาผักหวาน ที่สำคัญเจ้านั่นไม่ใช่คนไทยแต่เป็นคนเกาหลี อารมณ์สุนทรีที่มีมาตั้งแต่เมื่อคืนหายไปทันทีที่ได้ยิน ชายหนุ่มสั่งให้ลูกน้องจัดการถ่ายรูปเจ้าหนุ่มปริศนานั่นมา ก่อนจะส่งไปให้พิพัฒน์ตามสืบให้ว่าตกลงแล้วผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกับผักหวานกันแน่ ชายหนุ่มเคาะโต๊ะระงับความพลุกพล่านในใจของตนเองอยู่นานหลายนาที ก่อนจะสะกดอารมณ์พลุกพล่านเอาไว้และก้มหน้าลงทำงานต่อ ตอนนี้ผักหวานยังเกลียดนายทักษ์ยังกับอะไรดี แล้วเขาเองก็คงไม่สามารถเดินไปบอกหญิงสาวได้ด้วยว่าทักษ์ พัฒนะไพศาลกับทาคุยะ นากาชิตะคือคนๆเดียวกัน เจ้าตัวคงยอมเชื่อเขาหรอก ฉะนั้นสิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือรอ... รอให้รู้แน่ชัดก่อนว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร และคิดอะไรกับผักหวานกันแน่

ณ.ร้านชิคคลับ (chic club) ร้านอาหารกึ่งผับชื่อดังย่านทองหล่อ

ร้านชิคคลับเป็นร้านอาหารของเจ๊ชุดาพี่รหัสของต้า เจ๊ชุดามีชื่อเต็มๆว่า วิชชุดา เป็นเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกับเจ๊แบมและเฮียพีท หรือภีรภัทรพี่รหัสของผักหวาน โดยปกติแล้วผักหวานและเพื่อนๆมักจะหาโอกาสว่างๆมาทานอาหารที่ร้านนี้บ่อยๆ เพราะถ้าโชคดี นอกจากจะได้เจอะเจอกับบรรดาพี่ๆรหัสแล้วยังอาจจะได้ลาภปากกินฟรีเพราะพวกพี่ๆแข่งกันเลี้ยงอีกด้วย

“ โอ้ว! มายก๊อด พระเจ้าจอช์น ซาร่ามันเยี่ยมมาก ไม่น่าเชื่อเลยนะนี่ว่าปากฉันมันจะแม่นขนาดนี้“ กัญชนินทร์แสร้งอุทานรัวเป็นชุดเมื่อรู้จากผักหวานว่าลีจินฮุนหนุ่มหล่อจากฮาร์วาร์ด รุ่นน้องร่วมมหาลัยของเจ๊แบม ย้ายมาดูแลกิจการโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังที่เมืองไทยด้วยตัวเอง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า ลีจินฮุนมาตามตื้อผักหวานเหมือนตอนสมัยเรียนอยู่ที่อเมริกาแน่ๆ

“ รักจริงหวังแต่งนะเนี่ยะหวาน ทำไมเราไม่ยอมใจอ่อนสักทีล่ะ พี่เห็นเราออกจะคลั่งเกาหลีจะตายไป อุตสาห์ไปเรียนเทคคอร์สซะจนพูดคล่องขนาดนี้ ตอนแรกก็นึกว่าเพราะอยากเป็นสะใภ้แตยังกรุ๊ปซะอีก“ วิชชุดาซึ่งเข้ามานั่งร่วมโต๊ะด้วยพูดแซว ผักหวานได้แต่ส่งค้อนให้รุ่นพี่ทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ

“ หนูไม่ชอบแบบนี้นี่นาเจ๊ หนูชอบแบบสุขุม นุ่มลึก เด็ดขาดเวลาทำงาน แต่อยู่กะเราแล้วอ่อนโยน ขี้เล่นอย่างพี่ยองจุนอ่ะ“ ผักหวานพูดถึงหนุ่มเกาหลีอีกคนนึงซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับลีจินฮุน และเป็นอดีตแฟนเก่าของ พิชานาฎ

“ ทำมาเป็นพูดดี แล้วจินฮุนไม่ดีตรงไหนฮึ“ วิชชุดายังคงซักต่อ

“ ก็จินฮุนอ่ะ เพลย์บอยจะตายเจ๊ พูดเก่ง คุยสนุก ขี้เล่นกะชาวบ้านไปทั่วแบบนี้ ไม่ใช่เป๊กไอ้หวานมันหร๊อก“ เจษฎาพูดขึ้นบ้างหลังจากกลืนช่อกุ้งพลับพลาสามสี อาหารขึ้นชื่อของร้านอาหารลงไปในลำคอแล้ว ในขณะที่กัญชนินท์เองก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของอีกฝ่าย

“ แต่พอเจอหวาน พี่เห็นก็เลิกกับคนอื่นหมด มาตามจีบเราอยู่คนเดียว แบบนี่ยังไม่โอเคอีกเหรอ“

“ มันไม่ใช่อะเจ้ มันม่ายช่าย“ ผักหวานแกล้งทำท่าปัญญาอ่อนเบี่ยงเบนประเด็นเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆและวิชชุดา

“ แล้วแกจะเอายังไง พ่อเล่นเอาจริงตามมาถึงเมืองไทย บอกก็แล้ว พูดก็แล้วไม่เห็นจะยอมวางมือจากแกสักที ฉันว่านะตราบใดที่แกยังไม่แต่งงาน จินฮุนก็ไม่มีวันเลิกตามแกหรอก“ ผักหวานได้แต่ยักไหล่อย่างเซ็งๆกับคำพูดของกัญชนินทร์เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดีเหมือนกัน

“ เออ แล้วนี่ตะวัน เจ้าจีน กะนายวินไม่มาด้วยเหรอ“ วิชชุดาเอ่ยถามหลังจากเงียบกันไปพักใหญ่

“ ตะวันยังไม่หายเฮิร์ทหรอกเจ๊ยังเก็บตัวอยู่เลย ส่วนไอ้วินมันบอกว่ากำลังบำเพ็ญประโยชน์ช่วยไอ้จีนอยู่“

“ ช่วยอะไรวะ เจษฎ์“ ผักหวานถามอย่างอดสงสัยไม่ได้

“ ไม่รู้เหมือนกัน มันบอกแต่ว่ามีเซอร์ไพรส์“

“ ลูกชายคนเล็กของแตยังกรุ๊ปครับ มาบริหารงานที่เมืองไทยด้วยตนเอง เรียนจบโทบริหารจากฮาร์วาร์ด เป็นรุ่นน้องของคุณ วิชชุดาเจ้าของร้านชิคคลับ รุ่นพี่คุณผักหวานสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่เมืองไทย เท่าที่สืบมาได้เห็นว่าตามจีบคุณผักหวานตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่อเมริกาแล้วครับ“

“ แตยังกรุ๊ป ที่ฉันเคยอนุมัติเงินกู้จากธนาคารที่โตเกียวให้ 50 ล้านดอลลาร์ใช่ไหม“

“ ครับ“

พิพัฒน์ตอบรับและเมื่อเห็นว่าเจ้านายไม่มีอะไรจะซักถามต่อแล้ว ชายหนุ่มจึงเดินเลี่ยงออกมาจากห้องอย่างเงียบเชียบ ทิ้งเจ้านายหนุ่มให้ก้มหน้าก้มตาอ่านแฟ้มข้อมูลที่ตนเองตามสืบหามาให้ทั้งวันเพียงลำพัง

“ วิชชุดา...วิชชุดา“ ทักษ์หลับตาอย่างใช้ความคิดเมื่อนึกถึงชื่อนี้ วิชชุดาเพื่อนสนิทของ พิชานาฎ อัครคุณานนท์ หญิงสาวที่เคยเกือบเป็นเพื่อนสะใภ้ของเขา ใช่แล้ว! เมื่อนึกถึงตอนนี้ทักษ์ก็เริ่มจะประติดประต่อความสัมพันธ์ระหว่างผักหวานและเพื่อนๆ กับพิชานาฎได้ ผักหวานเป็นรุ่นน้องของวิชชุดา ก็แสดงว่าเป็นรุ่นน้องของพิชานาฎและดูท่าจะสนิทกันมากด้วยเพราะพิชานาฎถึงขนาดยื่นมือมาช่วยผักหวานกับเพื่อนๆแกล้งดาราสาวคนนั้นและนอกจากวิชชุดาแล้วกลุ่มเพื่อนสนิทของพิชานาฎยังมีชาวี ลูกสาวเจ้าของธุรกิจโรงแรมและประกันภัยรายใหญ่ของประเทศไทย รวมไปถึงภีรภัทรลูกชายคนเดียวของ พล.อ ปราบต์อีกด้วย เมื่อนึกถึงภีรภัทรดวงตาของทักษ์ก็กระตุกวูบอย่างนึกขึ้นมาได้...เฮียพีท ใช่แล้ว คนที่หญิงสาวคิดว่าเป็นเขาเมื่อคืนก็คือ ภีรภัทรนั่นเอง

แล้วนี่มันอะไรกัน! ทำไมรอบๆตัวผักหวานถึงเต็มไปด้วยผู้ชายมากมายขนาดนี้ ถึงแม้จะรู้แน่อยู่แก่ใจจากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ว่าตนเองคือคนแรกที่ได้จูบหญิงสาวก็เถอะ และที่ผ่านมาหญิงสาวเองก็ไม่เคยคบผู้ชายคนไหนมากกว่าเพื่อนหรือพี่ชาย แต่ไอ้ความรู้สึกข้างไหนลึกๆมันยังอดหวั่นเกรงไม่ได้ แค่คิดว่าผักหวานอยู่ในอ้อมกอดของคนอื่นที่ไม่ใช่เขา ในใจก็ร้อนรุ่มพลุกพล่านจนแทบทนไม่ไหว เขาต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่สิต้องทำทุกอย่างเลยต่างหาก ทำทุกอย่างเพื่อแยกผักหวานออกมาจากผู้ชายพวกนั่น


“ กิ้ววววว“

เสียงแซวดังลั่นออฟฟิสทันทีที่ผักหวานก้าวเท้าเข้ามา หญิงสาวได้แต่ทำหน้างงๆก่อนจะถึงบางอ้อเมื่อเดินมาถึงโต๊ะทำงานของตนเองแล้วพบว่ามีดอกไม้ช่อโตวางอยู่ ผักหวานถลึงตาใส่สายตาสอดรู้สอดเห็นของสารัจก่อนจะหยิบการ์ดที่ติดกับช่อดอกไม้ขึ้นมาอ่าน

ดอกไม้ที่สวยที่สุด สำหรับผู้หญิงที่สวยที่สุดในใจผม...ลีจินฮุน
ผักหวานอ่านข้อความตรงหน้าพร้อมกับนึกเลี่ยนอยู่ในใจ ดีนะที่เขียนเป็นภาษาเกาหลีมา ถ้าเขียนเป็นภาษาอังกฤษละก็ ไอ้ลูกน้องตัวแสบต้องมาแอบอ่านแล้วเอามาแซวเธอแน่ๆ

“ เจ๊ๆ เขียนว่าไรเหรอ“ สารัจเดินเข้ามาถามอย่างอยากรู้อย่างเห็น ในขณะที่คนอื่นๆต่างก็แอบเงี่ยหูฟังไม่เว้นแม้แต่กสิน

“ เขียนว่า... ขอบคุณที่เป็นลูกค้าที่ดีของเราเสมอมา“ ผักหวานตอบหน้าตาย

“ ไม่จริงอ่ะเจ้ ไม่ต้องมาแกล้งอำเลย ถ้าเป็นลูกค้าทำไมต้องเขียนภาษาเกาหลีด้วยทำไมไม่เขียนภาษาอังกฤษล่ะ“

“ ก็มันเป็นบริษัทเกาหลีนี่หว่า ว่างมากหรือไงห๊ะแกไอ้เสือ ถ้าว่างมากนักฉันจะได้ส่งงานโมเดล

ใหม่ที่จะเข้ามาให้ทำเพิ่ม “ ผักหวานหันไปถลึงตาใส่อีกฝ่ายพร้อมกับพูดเสียงโหดหลังจากโดนซักมากๆเข้า สารัจแกล้งทำท่าหวาดกลัวก่อนจะรีบวิ่งแจ้นกลับไปยังโต๊ะทำงานของตนหากแต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะนั่งลงเสียงโทรศัพท์มือถือของผักหวานก็ดังขึ้น

“ ยอพอเซโย...“ เสียงนุ่มจากปลายสายที่ทักทายมาเป็นภาษาเกาหลีทำให้ผักหวานรู้ได้ในทันทีว่าเป็นใคร หญิงสาวเหลือบสายตามองไปรอบๆ ครั้นเมื่อเห็นสายตาสอดรู้สอดเห็นที่มองมามากๆเข้า หญิงสาวจึงตัดสินใจพูดตอบเป็นภาษาเกาหลีเช่นกัน

“ ว่าไง จินฮุน“

“ ว่าไงงั้นเหรอ โธ่! ทำไมไม่พูดอะไรหวานๆเหมือนชื่อคุณเองบ้างละครับ“ จินฮุนออดอ้อนผ่านสายโทรศัพท์ ผักหวานได้แต่ส่ายหน้าด้วยความระอาในใจ ก่อนจะเอ่ยตัดบท

“ ก็พูดอย่างนี้ทุกทีล่ะ ไม่อยากฟังก็ตามใจ“

“ เดี่ยวก่อนซิครับ อยากฟังสิได้ยินเสียงสวีทตี้แบบนี้แล้วผมค่อยมีกำลังใจในการทำงานหน่อย“ ผักหวานเบ้ปากทันทีเมื่อได้ยินคำพูดน้ำเน่าที่พูดซ้ำไปซ้ำมาตั้งแต่สมัยเจอกันที่อเมริกาตราบจนปัจจุบันก็ยังตามมาหลอกหลอนเธออยู่

“ ถ้าไม่มีอะไรจะวางแล้วนะ หวานไม่ใช่เจ้าของบริษัทไม่มีเวลามานั่งคุยโทรศัพท์เล่นหรอก “

“ เดี่ยวก่อนสิครับ...ดอกไม้สวยไหม”

“ ก็สวยดีแต่วันหลังอย่าส่งมาที่ทำงานอีก หวานไม่ชอบ อ้อ แล้วก็...“

“ โอเค งั้นต่อไปผมจะส่งไปที่คอนโดแทน “

ยังไม่ทันจะพูดจบประโยคอีกฝ่ายก็ชิงพูดก่อนจะตัดสายหนีไปซะอย่างนั้น สารัจค่อยๆย่องกลับมาที่โต๊ะของผักหวานอีกครั้ง ขณะที่หญิงสาวกำลังยัดโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกงของตนอยู่

“ บริษัทที่เจ้เป็นลูกค้า มันชื่อ จินฮุนอาหรือเจ้“ พูดเสร็จชายหนุ่มก็รีบเด้งตัวเดินหนีไปในสายการผลิตทันที ทิ้งให้ผักหวานได้แต่เข็ดเขี้ยวในใจกับความแสบของลูกน้องตัวเอง นี่ขนาดมันฟังไม่รู้เรื่องนะนี่


เย็นวันศุกร์ แทนที่จะได้กลับมานั่งดูซีรียส์เกาหลีชุดใหม่ที่สั่งซื้อมาอย่างมีความสุขที่คอนโด ผักหวานกลับต้องมาเดินเลือกซื้ออาหารและของใช้เข้าบ้านอย่างเซ็งๆแทน...ก็อีตาจินฮุนน่ะสิ ส่งดอกไม้ไปที่คอนโดทุกวันอย่างที่พูดไว้จริงๆด้วย แถมยังมาดักรอเธอที่ล๊อบบี้คอนโดตอนเย็นๆอีกส่งผลให้หญิงสาวต้องอัปเปหิตัวเองไปอาศัยอยู่ตามคอนโดเพื่อนๆ แต่ว่าวันนี้นายเมฆเพิ่งกลับมาจากการดูงานที่อเมริกายัยศรีริต้าเพื่อนรักเลยรีบแจ้นไปรอรับแล้วหลังจากนั้นก็คงจะไปสวีทกันต่อตามประสาคนรักเหมือนทุกที ส่วนไอ้เจษฎ์ไม่ต้องพูดถึง ศุกร์สุดสัปดาห์แบบนี้มันไปป้อสาวอยู่ตามผับแถวทองหล่อแน่ๆ ยัยจีนก็เกิดบ้างานอะไรขึ้นมาไม่รู้ บอกว่าวันนี้จะค้างที่โรงแรมในภูเก็ต ซึ่งเป็นงานตกแต่งภายในงานใหม่ของตน วินธัยเองวันนี้เป็นวันศุกร์ชายหนุ่มจึงต้องกลับไปทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งตระกูลตามประกาศิตของคุณเตี่ย ตะวันก็กลับเชียงใหม่ไปแล้วกว่าจะกลับมาก็วันจันทร์นู้น

โอ้ย! เซ็ง เซ็งโว้ย ผักหวานตะโกนก้องในใจขณะทำหน้าเบื่อโลกเข็นรถเข็น
ไปตามทางเดินในซุปเปอร์มาร์เกต... นี่ฉันจะต้องเดินวนอีกกี่รอบวะเนี๊ยะ!
ทักษ์ได้แต่มองอาการของคนตรงหน้าอย่างนึกเอ็นดู ทำหน้ามุ่ยเหมือนตอนหาซื้อบัตรคอนเสิร์ตไม่ได้ไม่มีผิด ขณะมองตามร่างบางไปอย่างเพลินๆนั้นจู่ๆผักหวานก็ทำหน้าตาแช่มชื้นขึ้นมาก่อนจะรีบเข็นรถเข็นไปยังเคาเตอร์จ่ายเงินทันที ทำให้ทักษ์ที่คอยตามมาห่างๆอดขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจไม่ได้ ชายหนุ่มค่อยๆก้าวเท้าตามติดร่างบางไปห่างๆ ก่อนจะอมยิ้มออกมาเมื่อเห็นจุดหมายปลายทางของอีกฝ่าย

ที่แท้ก็จะมาดูหนังนี่เอง...ชายหนุ่มคิดในใจหลังจากขึ้นลิฟท์อีกตัวตามขึ้นมายังชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้าแล้วพบว่าผักหวานกำลังยืนมองโปสเตอร์โฆษณาหนังเข้าใหม่ด้วยความสนใจ สายตาของหญิงสาวจดจ้องอยู่กับการอ่านเรื่องย่อตรงหน้า ก่อนจะเดินตรงไปยังช่องขายตั๋วเมื่อเลือกหนังที่ตนต้องการจะดูได้แล้ว ทักษ์เฝ้าสังเกตทุกอิริยาบถของหญิงสาวอยู่พักใหญ่ตราบจนผักหวานเดินออกมาจากช่องซื้อตั๋วหนังและเดินตรงไปยังบริเวณล๊อบบี้เพื่อนั่งรอรอบหนังของตนแล้ว ตั๋วหนังรอบเดียวกันและที่สำคัญต้องเป็นที่นั่งข้างๆกันจึงถูกยื่นมาตรงหน้าของชายหนุ่มอย่างนอบน้อม

“ มีคนอื่นอีกกี่คน“ ชายหนุ่มเอ่ยปากถามขณะยื่นมือไปรับ

“ คุณผักหวานจองโรงพิเศษครับมีรายชื่อที่จองผ่านทางโทรศัพท์ 4 ที่ แต่เราจัดการให้ทางโรงหนังยกเลิกไปแล้ว และจ่ายเงินชดเชยให้กับทางโรงหนัง...“

“ บอกพนักงานให้เข้าไปเสิร์ฟเครื่องดื่มให้เสร็จภายใน 10 นาที แล้วหลังจากนั้นแม้แต่ยุงแค่ตัวเดียวก็อย่าให้เล็ดลอดเข้าไปได้ “ ทักษ์ไม่รอฟังจนจบ ชายหนุ่มออกคำสั่งซึ่งเป็นดังประกาศิตให้กับคนของตนเองทันที ลูกน้องคนสนิทได้แต่รับคำ ก่อนจะเดินจากไปเพื่อทำตามคำสั่งของเจ้านาย

รอยยิ้มและแววตาหมายมาดปรากฏบนใบหน้าคมคายอย่างสมใจ หลังจากที่ลูกน้องเดินจากไปแล้ว ผักหวานอดรู้สึกแปลกๆเหมือนตัวเองถูกเฝ้าสังเกตอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ ครั้นเมื่อหันมองไปรอบๆกลับไม่พบเห็นสิ่งผิดปกติอะไรเลยแม้แต่น้อย

สงสัยจะจิตตก ระแวงว่าจะเจอจินฮุนมากเกินไปแฮ่ะเรา...หญิงสาวได้แต่คิดคนเดียวในใจ ก่อนจะหันเหความสนใจไปยังตัวอย่างหนังเบื้องหน้าของตนเองแทน


ทำไมไม่มีคนเลยแฮ่ะ ตอนที่จองก็เห็นมีคนจองไปแล้ว 4 ที่นี่นา สงสัยจะยังไม่มากัน...ผักหวานคิดในใจขณะกวาดสายตามองไปรอบๆแล้วไม่พบใครเลยนอกจากตัวเอง ก่อนจะส่งรอยยิ้มให้พนักงานสาวที่นำผ้าห่มผืนเล็กมาวางให้

“ รับน้ำอัดลม หรือพันซ์ผลไม้ดีคะ“

“ อืม ... ขอเป็นพันซ์ดีกว่าคะ“

“ จะรับป๊อปคอร์นด้วยไหมคะ“ พนักงานสาวถามต่อ ผักหวานได้แต่พยักหน้ารับ ไม่รู้ว่าจะรีบร้อนไปไหนกัน ยังไม่ทันที่เธอจะถามอะไรอีก แม่คุณก็ชิ่งไปซะแล้ว ไม่ถึงอึดใจดี ป๊อปคอร์นและพันซ์แก้วโตก็ถูกนำมาวางบริเวณที่ท้าวแขนซึ่งทำไว้สำหรับวางแก้วน้ำและถ้วยป๊อปคอร์น ก่อนที่พนักงานสาวคนนั้นจะส่งรอยยิ้มแปลกๆมาให้และรีบขอตัวจากไปทันที ผักหวานได้แต่มองอาการลุกลี้ลุกลนของพนักงานคนนั้นอย่างงงๆ... สงสัยจะมีนัดกับแฟนละมั้ง ... หญิงสาวคิด ก่อนจะหันความสนใจมายังภาพยนตร์ตัวอย่างเบื้องหน้าแทน สักพักหญิงสาวก็สัมผัสได้ถึงแรงยวบตัวของโซฟาแฝดตัวข้างๆ อดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองก่อนจะชะงักไป...ตาฝาดมั้ง หญิงสาวคิด ก่อนจะตัดสินใจยอมเสียมารยาทหันไปมองตรงๆ

“ สวัสดีครับ...ผักหวาน“ ทักษ์เอ่ยทักเสียงนุ่ม ผักหวานได้แต่เบิกตาโพล่งมองอีกฝ่ายอย่างตกใจ...โอ้ย! ทำไมโลกมันแคบอย่างนี้นะ นี่เธอหนีเสือมาปะจระเข้หรืออย่างไร ? หญิงสาวคิดขณะหันรีหันขวางหวังจะมองหาคนดูอีก 4 คนที่จองตั๋วไว้ก่อนหน้าตน หากแต่ก็ไม่เห็นแม้เงา หญิงสาวเม้มปากแน่นอย่างใช้ความคิด ก่อนจะตัดสินใจหอบผ้าห่มเตรียมจะหนีไปนั่งเก้าอี้ด้านหน้า

“ จะไปไหนละครับ“ ทักษ์พูดพร้อมกับฉวยข้อมือบางเอาไว้ ผักหวานตวัดสายตามองชายหนุ่มอย่างฉุนเฉียว

ถือดียังไงกัน ถึงได้มาทำแบบนี้กับเธออีก...หญิงสาวคิดในใจอย่างกราดเกรี้ยว ขณะเดียวกันก็พยายามสะบัดมือให้พ้นจากการเกาะกุม หากแต่ทักษ์ก็กุมข้อมือบางไว้มั่นอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน ในที่สุดผักหวานก็หมดความอดทนกับคนตรงหน้า ตากลมใสบัดนี้ขุ่นควัก

ได้อยากมีเรื่องกับฉันมากนักใช่ไหม...หญิงสาวคิดในใจอย่างหมายมาด ก่อนจะโยนผ้าห่มที่ตนถือไว้ใส่หน้าอีกฝ่าย ตามต่อด้วยการใช้ส้นแหลมของรองเท้าบู้ทกระแทกลงบนหน้าเท้า ทักษ์ได้แต่กัดฟันข่มความเจ็บ มือหนากระชากร่างบางให้ล้มลงมานั่งที่ตักของตนเอง ก่อนจะใช้อ้อมแขนแข็งแรงรัดร่างนุ่มนิ่มของหญิงสาวไว้มั่น

“ ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้า…ไอ้ผู้ชายเฮงซวย เก่งแต่รังแกผู้หญิง“ ผักหวานดิ้นรนไม่หยุดปากก็ด่าทอไปด้วยตามแรงอารมณ์ ทักษ์มองหญิงสาวในอ้อมแขนด้วยแววตาแข็งกร้าว ใบหน้าคมก้มลงหมายจะใช้ริมฝีปากปิดถ้อยคำร้ายๆ หากแต่ไม่ทันได้ทำอย่างใจหวัง ชายหนุ่มก็ต้องหลุดปากออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อหญิงสาวใช้ศีรษะกระแทกเข้าที่จมูกของตนอย่างจัง

ผักหวานมองคนตรงหน้าอย่างสาแก่ใจ ก่อนจะอาศัยจังหวะที่ชายหนุ่มใช้มือข้างหนึ่งจับจมูกตนเอง สะบัดตัวหลุดออกจากอ้อมแขนที่แข็งปานเหล็กคีบนั่น ไม่ทันจะได้ก้าวเท้าจากไปไปอย่างใจคิด ข้อมือบางก็ถูกกระชากอย่างแรงอีกครั้งก่อนที่ร่างทั้งร่างจะถูกกดให้จมลึกลงไปในโซฟา หญิงสาวได้แต่ส่ายศีรษะไปมา มือบางพยายามจะสะบัดให้หลุดพ้นจากพัทธนาการหากแต่ก็ไม่สามารถทำได้

“ ผมว่าผมเคยบอกคุณแล้วนะว่าผมไม่ใช่สุภาพบุรุษ“ ทักษ์ก้มหน้าพูดกับร่างบางภายใต้อาณัติตนด้วยเสียงรอดไรฟัน ผักหวานเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าทำกับเค้าแบบนี้ ตอนนี้อารมณ์ของเขาก็คุกรุ่นไม่แพ้คนหญิงสาวเช่นกัน เขาไม่ได้โกรธที่เธอทำร้าย หากแต่ขัดเคืองกับท่าทางรังเกียจขยะแขยงที่หญิงสาวแสดงมากกว่า

“ ปล่อยฉันนะ“ ผักหวานกัดฟันพูดโต้ตอบ ตอนนี้หญิงสาวหยุดการดิ้นรนลงแล้ว เพราะสำนึกดีว่าถึงดิ้นต่อไปก็ไร้ประโยขน์รั้งแต่จะเสียเปรียบอีกฝ่ายเปล่าๆ ยิ่งตอนนี้ใบหน้าของชายหนุ่มเข้าใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันละกันด้วยแล้ว หญิงสาวยิ่งไม่กล้าแม้แต่จะขยับศีรษะ

“ คุณต้องการอะไรกันแน่...ถ้าต้องการผู้หญิงมาสนองอารมณ์ก็ไปหาคนที่เขาอยากได้ อย่ามายุ่งกับฉัน“

“ เผอิญว่า...ผู้หญิงที่เร้าอารมณ์ผมได้ มีแต่คุณคนเดียวซะด้วยสิ“

“ นี่ คุณ...“ ผักหวานถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินคำพูดเหมือนไม่ให้เกียรติกันของอีกฝ่าย แววตาเปล่งกราดเกรี้ยวอย่างไม่คิดจะระงับอารมณ์เอาไว้ เสียงปืนที่รั่วระห่ำในจอภาพขนาดใหญ่ ดูเหมือนจะไม่สามารถแทรกเข้าไปในโสตประสาทของคนทั้งคู่ได้ พลันแววตาร้อนแรงของทักษ์ก็สลายลงเมื่อเห็นหยาดน้ำตารื้นที่หัวตาของอีกฝ่าย ตอนนี้ผักหวานทั้งโกรธ ทั้งแค้นที่ไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ ภายในอกมันอัดอั้นไปหมด ความร้อนจากเพลิงแค้นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เมื่อหาทางออกไม่ได้ น้ำตาก็ดูเหมือนจะทำหน้าที่ของมัน หน้าที่ที่คอยระบายความร้อนที่เกิดจากเบ้าตา...ไม่ ไม่มีทาง เธอจะไม่มีวันแสดงความอ่อนแอให้ผู้ชายตรงหน้าเห็นเด็ดขาด หญิงสาวคิดก่อนจะปิดเปลือกตาลง

“ อยากจะทำอะไรก็เชิญ โอกาสของคุณแล้วนี่ แต่จำเอาไว้นะ ฉันจะไม่มีวันลืมทุกสิ่งที่คุณทำกับฉัน ไม่มีวัน“ ผักหวานพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว พลันเปลือกตาที่ปิดลงก็สัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่ม หยาดน้ำตาที่ปลายหางตาถูกดูดซับไว้ไม่ให้หลั่งออกมาเปรอะเปื้อนใบหน้า

“ ขอโทษ...“ ทักษ์เอ่ยเสียงแผ่ว เพียงแค่เห็นหยาดน้ำตาคลอเคล้าในดวงตาก่อนที่หญิงสาวจะปิดมันลง หัวใจของเขาก็เหมือนกับจะกระตุกวูบ ผักหวานลืมตาขึ้นทันทีที่ได้ยินคำขอโทษจากปากของผู้ชายคนนี้ ตากลมโตทอดสบดวงตาดำสนิทเบื้องหน้าอย่างจะมองให้ลึกถึงจิตใจ ก่อนที่ความรู้สึกของคืนนั้นวันที่เธอฝันถึงทาคุยะจะสว่างวาบเข้ามาในหัว

“ คุณ...“

“ ผมแค่อยากให้เรารู้จักกันมากกว่านี้ คุยกันดีๆ เหมือน...“ ทักษ์พูดเสียงนุ่มก่อนจะชะงักไป

“ เหมือนเวลาที่คุณคุยกับคนอื่นๆ“

ผักหวานเสหลบแววตาอ่อนโยนที่มองทอดมา ตอนนี้หญิงสาวกำลังรู้สึกหนักอึ้ง ไม่ใช่เพราะแรงกดจากลำตัวอีกฝ่าย หากแต่เป็นเพราะหัวใจของตนเองต่างหากที่จู่ๆก็เต้นรั่ว เหมือนตอน...เหมือนตอนที่ฝันว่าจูบกับพี่ทาคุยะ

“ แล้วคนอื่นๆที่คุณพูด...ใครเขาทำแบบคุณกัน“ ผักหวานพูดเสียงเข้ม พยายามระวังไม่ให้น้ำเสียงที่หลุดออกมาสั่นไหวเหมือนกับจิตใจตนเองในเวลานี้

“ ไม่เคยมีใครบอกคุณหรือไง ว่าถ้าคิดจะเป็นเพื่อนกับใคร ให้ใช้ความจริงใจเข้าแลกไม่ใช่บังคับกันแบบนี้ “ หญิงสาวต่อว่าหากแต่สายตากลับไม่ยอมมองไปที่คนตรงหน้า มันหลุบลงมองที่ปกคอเสื้อของอีกฝ่ายแทน ทักษ์ได้แต่แอบอมยิ้มเมื่อเห็นท่าทางเหมือนจะเขินอายของอีกฝ่าย ดูท่าเขาเริ่มจะมาถูกจุดแล้ว ชายหนุ่มค่อยๆยันกายขึ้น ก่อนจะดึงมือของหญิงสาวให้ลุกขึ้นตาม ผักหวานสัมผัสได้ถึงการกระทำที่อ่อนโยน มือนุ่มสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ล้นทะลัก จนนึกกลัวใจตนเอง ก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือให้หลุดออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย สัมผัสได้ถึงแรงบีบที่เหมือนจะไม่ยอมคลายในตอนแรกก่อนที่มือน้อยจะได้รับอิสระ

“ ก็ผักหวาน...ไม่เคยยอมพูดดีๆกับพี่...“ ทักษ์หลุดปากด้วยความเคยชินก่อนจะรีบเปลี่ยนใหม่เพื่อไม่ให้คนข้างกายสงสัย

“ เออ ... ไม่เคยพูดดีๆกับผมเหมือนเวลาที่พูดกับคนอื่นเลยนี่“

“ แล้วฉันด่าคุณหรือไง”

“ ปากคุณไม่ได้ด่า...แต่สายตาคุณน่ะ ด่าผมซะยับเลย“ ผักหวานอดยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย หมอนี่นี่มันแสนรู้จริงๆเลย พับผ่า! หญิงสาวคิดในใจ

“ คุณไม่ใช่ตัวฉัน รู้ได้ยังไงว่าฉันด่าคุณทางสายตา“

“ โอเค โอเค ผมยอมแพ้แล้ว“ ทักษ์แกล้งพูด

“ งั้นแสดงว่าต่อไป คุณจะคุยกับผมดีๆ ไม่เดินหนี ผม ไม่ด่าผมอีกแล้วใช่ไหมครับ “ ทักษ์พูดพร้อมกับทอดสายตามองหญิงสาวด้วยแววตาพราวระยับ ผักหวานได้แต่เบือนหน้าหนีทำเหมือนกับว่าไม่สนใจ แต่ใจจริงแล้วหญิงสาวกำลังกลัวว่าตนเองจะใจอ่อนกับคนตรงหน้ามากกว่า

“ ก็คงงั้นละ แต่คุณ...ห้ามทำอย่าง...อย่างเมื่อกี้อีก...แล้วก็อย่าง...อย่างวันนั้นด้วย“ พูดไปก็อดรู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้าไม่ได้เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น จูบแรกของเธอ โดนอีตามาเฟียนี่ปล้นไป เมื่อคิดถึงตรงนี้ใบหน้าหวานที่กำลังแดงเห่ออยู่ก็กลับบึ้งตึงขึ้นมาใหม่

“ ตกลงครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอีก...ถ้าคุณห้าม“ ทักษ์รับคำแข็งขันหากแต่ก็ฟังดูกำกวม ถ้าหญิงสาวห้ามเขาก็จะหยุด แต่เขามั่นใจดีว่า ตนเองมีวิธีที่จะทำให้หญิงสาวลืมห้ามแน่ๆ เมื่อเวลานั้นมาถึง ผักหวานมองรอยยิ้มของคนตรงหน้าอย่างไม่วางใจ ถึงจะรับปาก แต่มันก็ดูแปลกๆพิกล

“ ดูสิ หนังเล่นไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้...เพราะคุณเลย คนจะมาดูหนังคลายเครียดซะหน่อย“ ผักหวานบ่นอุบ เมื่อหันมาให้ความสนใจกับภาพยนตร์อีกที เนื้อเรื่องก็ดำเนินไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

“ คุณกลุ้มใจเรื่องอะไร“ เมื่ออีกฝ่ายนิ่งเหมือนไม่ยอมตอบ ชายหนุ่มก็ไม่เซ้าซี้ ทักษ์นิ่งไปอยู่อยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืนอย่างนึกขึ้นได้ มือหนารีบคว้ามือบางให้ลุกขึ้นตามตนทันที

“ เอ๊ะ! คุณนี่“ ผักหวานอุทานอย่างฉุนเฉียวที่จู่ๆอีกฝ่ายก็ทำกิริยาแบบเดิมอีก

“ ขอโทษ... ผมลืมตัวไปหน่อย“ ทักษ์พูดเสียงอ่อนอย่างสำนึกผิด ครั้นเมื่อเห็นแววตาเจิดจ้าของคนตรงหน้าอ่อนแสงลง รอยยิ้มก็ถูกจุดขึ้นที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

“ผมเห็นว่าไหนๆก็ดูไม่รู้เรื่องแล้ว ก็เลยคิดว่าเลิกดูดีกว่า เผอิญนึกขึ้นได้ว่ามีเชฟจากญี่ปุ่นมาสาธิตการทำขนมเค้กแล้วก็วางขายด้วยที่โรงแรมเพลนที เลยกะว่าจะชวนคุณไปทานเล่นก่อนกลับบ้านสักหน่อย“
ผักหวานตาโตทันทีเมื่อได้ยินข้อเสนอของอีกฝ่าย

“ จริงเหรอ แต่พรุ่งนี้ฉันค่อยไปเองก็ได้มั้ง นี่มันสองทุ่มกว่าแล้ว ป่านนี้เชฟเขาไม่กลับบ้านไปแล้วเหรอ“

“ วันนี้เป็นวันสุดท้าย เขาจัดมาอาทิตย์นึงแล้วละคุณ...“ ทักษ์พูด พร้อมกับลอบมองอาการเสียดายของอีกฝ่ายอย่างนึกขำ พอพูดถึงเค้กทีไร ผักหวานของเขาก็ลืมทุกอย่างหมดทุกที

“ เผอิญว่าผมสนิทกับเจ้าของโรงแรม เดี่ยวจะให้เขาเก็บเค้กไว้ให้เราก่อนแล้วกัน เพราะปกติเค้กทางโรงแรมจะทิ้งวันต่อวันถ้าเกิน 3 ทุ่มไปแล้ว“

“ ได้จริงๆเหรอ“ ผักหวานพูดพร้อมกับเขย่าแขนคนตรงหน้าอย่างลืมตัว มือบางถูกยกขึ้นมาดูเวลาก่อนเจ้าตัวจะเป็นฝ่ายลากทักษ์ออกมาจากโรงหนังซะเอง

“ ไปเร็ว จะสองทุ่มครึ่งแล้ว“ หญิงสาวบ่นพึมพำขณะเหลือบมองเวลาบนข้อมือของตนอีกครั้ง ทักษ์เดินตามแรงดึงของอีกฝ่ายไปแต่โดยดี ชายในชุดดำซึ่งเร้นกายอยู่ในมุมมืดได้แต่มองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
ดีกันได้ยังไงวะเนี๊ยะ! ดวงตาของชายในชุดดำทั้งหมดสบกันเหมือนอยากจะพูดออกมาแบบนี้


ลีจินฮุนก้มลงมองนาฬิกาในมือ...สามทุ่มครึ่งแล้วแต่ผักหวานก็ยังไม่ยอมกลับมา ชายหนุ่มถอนหายใจยาวเพื่อระบายความรู้สึกอัดอั้นข้างใน ทำไมนะ ยิ่งเขาวิ่งไล่ ผักหวานถึงยิ่งวิ่งหนี ยิ่งเขาพยายามเท่าไหร่หญิงสาวก็ดูเหมือนจะถอยห่างออกไปทุกที หรือนี่จะเป็นผลมาจากคำสาปแช่งของบรรดาหญิงสาวที่เขาเคยควงเล่นก่อนจะได้เจอผักหวานกันนะ...ชายหนุ่มคิดในใจ แต่ไม่มีทาง... เขาจะไม่มีวันยอมแพ้เจ้าของรอยยิ้มกระจ่างใส ที่ทำให้หัวใจกระตุกตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหรอก เขาทนมามากพอแล้ว รอคอยให้หญิงสาวเห็นใจมานานพอแล้ว ในเมื่อเป็นคนดีแล้วไม่ได้รับการเหลียวแล เขาก็จะขอเป็นคนเลวดูบ้างละกัน ... รอยยิ้มขึ้งเครียดถูกจุดที่มุมปาก ก่อนร่างสูงเพรียวจะเดินออกมาจากคอนโดที่พักของผักหวาน
คุณบีบให้ผมทำเองนะผักหวาน !!









 

Create Date : 16 สิงหาคม 2551
5 comments
Last Update : 16 สิงหาคม 2551 21:13:55 น.
Counter : 528 Pageviews.

 

ตอบเมนท์จร้า

Smile Teppe : มาลงให้เเล้วนะคะ ขอบคุณนะที่เข้ามาทักทายกัน

นู๋เนน : อยากรู้ต้องติดต่ามอ่านนะจ๊ะ ... เรื่องนี้แต่งจบเเล้วล่ะ กำลังอยู่ในช่วงแก้คำผิดก่อนส่งสนพ ดังนั้นลงทุกวันแน่จ้า

 

โดย: ณนาถ(Na_Nath) (Na_Nath ) 16 สิงหาคม 2551 21:19:39 น.  

 

เนื้อเรื่องสนุกดี ค่ะชอบบบแบบนี้อ่ะ อิอิ เดี๋ยวจะติดตามอ่านจนจบเลยนะค่ะ

 

โดย: สาวแสนงอน IP: 117.47.228.74 17 สิงหาคม 2551 0:37:24 น.  

 

จะติดตามผลงานค่ะ

 

โดย: ben IP: 58.136.52.197 17 สิงหาคม 2551 0:37:46 น.  

 

มาเร็วเร็วนะ

 

โดย: bee IP: 118.173.244.207 17 สิงหาคม 2551 5:59:44 น.  

 

สนุกค่ะ จะตามอ่านนะคะ

 

โดย: นู๋เนน IP: 119.42.78.167 18 สิงหาคม 2551 11:28:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Na_Nath
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






✎ งานเขียนทั้งหมดในblog นี้ ✎

สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายพระราช

บัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์

เผยแพร่ หรือ คัดลอกไปกระทำการ

ใดๆก็ตาม..หากผู้ใดกระทำการฝ่าฝืน

เจ้าของ blog สามารถดำเนินการตาม

กฏหมายได้ทุกกรณี (◡‿◡✿)




Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
16 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Na_Nath's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.