หวานใจนายมาเฟีย ตอนที่ 4


ข่าวคาวที่ผักหวานและเพื่อนๆต้องการให้เกิดขึ้นเล่นงานน้องกิฟท์ซะจนสะบักสะบอมสมใจ นอกจากจะต้องคอยหลบหน้านักข่าวแล้ว หญิงสาวยังโดนเจ้าภูผาเล่นงานจนพลาดจากการเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าไปถึง 2 รายการชวดเงินไปหลายล้านบาทโทษฐานที่ปากดีดึงเอาเจ้าบุญนิศาและครอบครัวเข้าไปเกี่ยวข้อง หลังออกจากโรงพยาบาลแล้ว ตะวันก็นิ่งไปจนเพื่อนๆเป็นห่วง ชายหนุ่มเอาแต่หมกตัวทำงานและอยู่โอทีมืดค่ำทุกวัน ผักหวานเองแม้จะเป็นห่วงเพื่อนคนนี้มากขนาดไหน แต่เนื่องจากทุกเสียงในกลุ่มต่างเห็นพ้องต้องกันว่าควรปล่อยให้ชายหนุ่มได้อยู่กับตัวเองสักพัก และปล่อยให้เวลาได้เป็นเครื่องเยียวยาทุกอย่าง หญิงสาวจึงทำได้แค่เพียงเฝ้ามองอยู่ห่างๆและโทรศัพท์ไปชวนคุยเล่นในยามว่างเว้นจากการทำงานเท่านั้น


วันนี้หลังจากเดินเข้าไปตรวจดูงานมาตั้งแต่เช้า ผักหวานก็ตัดสินใจหอบเอาผลงานเทสต์ทั้งหมดกลับมาวิเคราะห์ต่อที่คอนโด รู้ตัวอยู่หรอกว่าน่าจะอยู่ที่โรงงาน จะได้คอยดูแลเรื่องราวต่างๆ ยามมีปัญหาฉุกเฉิน แต่ยิ่งอยู่งานก็ยิ่งไม่เสร็จเพราะยามาดะซังไดเรกเตอร์ร้อยแรงม้าของเธอนั้นมักจะเอาเรื่องนู้นเรื่องนี้เข้ามาปนกันให้ยุ่งได้ตลอดเวลา หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอาใจเมื่อนึกถึงเจ้านายของตนก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดตรงหน้าร้านขายขนมเค้กชื่อดังจากญี่ปุ่นซึ่งเข้ามาเปิดสาขาในเมืองไทย ... เครียดๆอย่างนี้ขอกินเค้กกับชาร้อนๆสักแก้วคลายเครียดก่อนดีกว่า แล้วเดี่ยวค่อยกลับไปลุยงานต่อ หญิงสาวคิดขณะก้าวเท้าลงจากรถ

เสียงกรุ๊งกริ้งจากกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น ก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดสูทน่าเกรงขามจะก้าวเข้ามา ชายหนุ่มคนนั้นกวาดตามองไปทั่วๆร้านก่อนจะหยุดสายตาลงที่หญิงสาวร่างบางในชุดเสื้อเชิ๊ตสีอ่อนที่กำลังก้มหน้ามองเค้กหลากหลายแบบภายในตู้อย่างตัดสินใจไม่ถูก ... ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีผักหวานของเขาก็รักการกินขนมเค้กเป็นชีวิตจิตใจ

... เวลาหวานเครียดๆนะ พี่ทาคุยะ หวานจะกินขนมเค้ก เค้กนุ่มๆหวานนิดๆเวลาเข้าปากนะ ซู้ดยอด ทำให้หัวโปร่งขึ้นเยอะเลย ที่นี้พอไม่เครียดเราก็จะนึกอะไรดีๆได้แล้วล่ะ …คำพูดของหญิงสาวเมื่อ 7 ปีก่อนย้อนกลับเข้ามาในความคิดอีกครั้ง ทักษ์จงใจเดินไปหยุดยืนอยู่เบื้องหลังของอีกฝ่าย ทำให้เมื่อผักหวานหันหลังกลับมาเพื่อมองหาโต๊ะนั่งหลังจากเลือกขนมเสร็จแล้ว ชนเข้ากับร่างหนาจนเซไปด้านหลัง หญิงสาวรีบกล่าวคำขอบคุณคนที่ช่วยประคองตนไว้ทันที ครั้นเมื่อเห็นใบหน้าของผู้ที่ให้ความช่วยเหลืออย่างชัดๆรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าก็พลันจางหายไป ... นี่มันอีตาขี้เก๊กพี่ชายมาเฟียของไอ้เจ้าเด็กเปรตที่มีเรื่องกับตะวันเมื่อสองอาทิตย์ก่อนนี่ ... หญิงสาวคิด ก่อนจะปัดมือของอีกฝ่ายที่แตะประคองเอวของตนเองออก แววตาของทักษ์ฉายแวววาบวับอย่างไม่พอใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกลับมาเป็นปกติดั่งเดิมในเวลาอันรวดเร็ว

“ขอโทษครับ“ ทักษ์เปิดปากพูดก่อนเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะเดินหนี
“ขอโทษเรื่องอะไรไม่ทราบคะ ขอโทษแทนน้องชายคุณเรื่องเพื่อนของฉัน หรือขอโทษที่คุณชนฉันเมื่อครู่นี้ “

“ขอโทษที่ผมชนคุณ“ ผักหวานเบ้ปากทันทีที่ได้ยินคำตอบ

“เพราะเรื่องเพื่อนของคุณไม่ใช่ผมที่ทำ และคุณก็ไม่ใช่คนที่โดนหาเรื่อง ฉะนั้นผมคิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องขอโทษคุณ“ ทักษ์พูดเสียงเรียบ ผักหวานสบตาอีกฝ่ายอย่างถือดีพลันอดที่จะรู้สึกสะดุดใจกับแววตาคู่นี้ไม่ได้ ความรู้สึกลึกๆบางอย่างบอกว่ามันดูคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก.... แต่ว่า บ้าน่าไอ้หวาน เพิ่งเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวจะรู้สึกคุ้นได้ยังไง โลกบ้าคนหน้าตาดีกำเริบอีกหรืออย่างไรนะ ... หญิงสาวด่าตัวเองในใจ

“คะ ... ขอบคุณนะคะที่อุตสาห์ขอโทษ “ ผักหวานกล่าวอย่างพาลๆเมื่อเริ่มรู้สึกว่ามือไม้ของตนเก้งก้างไปหมดกับสายตาที่อีกฝ่ายจ้องมองมา ร่างบางเดินเลี่ยงไปอีกทางเพื่อมองหาที่นั่ง แต่ก็ถูกร่างหนาของทักษ์ขวางเอาไว้อีก

“แต่ผมไม่ได้บอกว่าจะไม่รับผิดชอบ ... ให้ผมเลี้ยงเค้กคุณมือนี้ก็แล้วกัน ถือว่าไถ่โทษที่น้องชายผมทำให้คุณต้องวุ่นวายกลางดึก “

“ขอบคุณคะ แต่ฉันว่าเปลี่ยนจากเลี้ยงเค้กฉันไปเลี้ยงข้าวเพื่อนฉันดีกว่านะ ... เพราะฉันไม่ใช่คนที่โดนหาเรื่อง “ หญิงสาวย้อนคนตรงหน้ากลับ ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะด้านนอกซึ่งอยู่ติดบริเวณริมสระน้ำแทนที่จะนั่งในร้านเย็นฉ่ำอย่างทุกที ด้วยหวังจะหลีกไปให้ไกลจากชายตรงหน้า ทักษ์ได้แต่มองตามร่างบางที่เดินลอยหน้าลอยตาผ่านไปอย่างนึกเอ็นดู ชายหนุ่มเดินไปเลือกเค้กของตนเองบ้างก่อนจะกดโทรศัพท์หาลูกน้องที่รออยู่หน้าร้านให้ทำอะไรบางอย่างให้

“เอ๊ะ ! คุณ ไม่เห็นเหรอว่ามีคนนั่ง ทำไมไม่ไปนั่งโต๊ะนั้นล่ะ“ ผักหวานต่อว่าเมื่อเห็นพี่ชายของเจ้าเด็กแสบตามมานั่งโต๊ะตัวเดียวกันกับตนเอง

“อย่าทำตัวเป็นเด็กขี้หวงไปหน่อยเลยคุณ แค่เก้าอี้ตัวเดียว หรือว่าหนีงานมาเลยกลัวคนอื่นจะรู้ทัน “ ทักษ์พูดยั่วด้วยท่าทีผ่อนคลาย หากแต่ดูยียวนกวนประสาทยิ่งนักในสายตาของผักหวาน

“พูดให้มันดีๆ ถ้าฉันหนีคุณก็หนีเหมือนกันนะล่ะ “

“ผมเป็นเจ้าของ จะออกจะเข้าตอนไหนก็ได้ “

“ เช๊อะ ... ทำเป็นอวด, ฉันเป็นระดับแมนเนจเมนท์ (management) ย่ะ ... ไม่จำเป็นต้องนั่งอุดอู้อยู่แต่ในออฟฟิตเหมือนกัน” หญิงสาวสวนกลับ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลังพูดอยู่กับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทตนเอง อันที่จริงไม่รู้ก็คงไม่แปลก เพราะปกติงานบริหารที่ญี่ปุ่น ทักษ์มักจะให้คนสนิทอีกคนนามว่าเคนอิจิเป็นคนออกหน้าคอยดูแลแทนให้ และนอกจากประธานสาขาแล้วคนทั่วไปในบริษัทก็รับรู้ชื่อของท่านประธานใหญ่ในนามของทาคุยะ นากาชิตะมากกว่า ผักหวานมองคนตรงหน้าที่นั่งทำเป็นทองไม่รู้ร้อนอย่างนึกหมั่นไส้ ...รีบกินรีบไปก็ได้วะ หญิงสาวคิดในใจก่อนจะรีบจัดการกับเค้กตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

ทักษ์เดินตามหลังผักหวานที่เดินจ้ำอ้าวออกมาจากร้านอย่างสบายๆ เสียงอุทานด้วยความตกใจของผักหวานดังขึ้นเมื่อเห็นว่าล้อรถของตนเองนั้นแบนสนิททั้งสี่ด้าน ... โอ้ย! นี่อีตายามะดะมันสาบแช่งฉันรึไงฟร่ะ ...หญิงสาวได้แต่คร่ำครวญในใจ หารู้ไม่ว่าไม่ใช่ยามะดะหรอกที่สาบแช่ง แต่เป็นฝีมือของลูกน้องทักษ์ที่โดนโทรมาสั่งความเมื่อครู่ต่างหาก

“ยางแบนหมดเลย ... แย่แฮ่ะ “ ทักษ์พูดเบาๆ แต่เรียกค้อนจากคนตรงหน้าได้วงใหญ่ ผักหวานรีบโทรศัพท์ตามช่างให้มาเปลี่ยนยางให้ตนทันทีแต่ดูเหมือนว่าทุกอู่เจ้าประจำต่างก็มีงานล้นมือจนไม่สามารถที่จะปลีกตัวมาทำให้ถึงที่เลยทั้งสิ้น

“ให้ผมไปส่งไหม “ ทักษ์เอ่ยปากชวนหลังจากปล่อยให้หญิงสาวยืนหันรีหันขวางอยู่พักใหญ่

“นี่คุณ ยังไม่กลับอีกเหรอ ว่างมากนักหรือไง “

“ก็ไม่ว่างหรอก แต่เห็นคุณแล้วอดสงสารไม่ได้ โทรไปที่ไหนก็ไม่เห็นมีร้านไหนยอมมาทำให้ “

“ขอบคุณในความหวังดี แต่ไม่จำเป็น ฉันไม่อยากติดหนี้บุญคุณใคร “ ทักษ์มองอาการถือดีของคนตรงหน้าด้วยแววตาที่เริ่มจะหงุดหงิด เขาเองไม่คุ้นชินกับการต้องมาโต้คารมหรือรออะไรนานๆอยู่แล้ว ไหนจะงานที่คั่งค้างรออยู่บนโต๊ะเพราะแอบแว้บมาเจอหน้าหญิงสาวอีก มือหนาคว้าเอากุญแจรถในมือของคนตรงหน้ามาถือไว้หน้าตาเฉย ก่อนจะโยนให้ลูกน้องที่ยืนอยู่ไม่ห่าง

“ซ่อมเสร็จแล้วเอาไปส่งด้วย “ ชายหนุ่มพูดก่อนจะฉุดแขนหญิงสาวให้ตามมาขึ้นรถยนต์ของตน

“นี่จะบ้าหรือไงคุณ ปล่อยฉันนะ “ ผักหวานโวยวายเสียงดัง... จู่ๆก็มาเอากุญแจรถของเธอไปโยนให้ลูกน้องหน้าตาเฉย แล้วนี่ยังจะมาฉุดกระชากลากถูจะพาจะพาไปไหนอีกก็ไม่รู้ เป็นใครใครอยู่เฉยก็บ้าแล้ว

“จะพาไปส่งไง อย่าเรื่องมากนักเลยน่า เสียเวลา “

“ฉันไม่ได้ขอให้มาช่วยซะหน่อย ...นี่ ปล่อยซิ “ ผักหวานโต้กลับพร้อมทั้งพยายามบิดข้อมือให้หลุดออกจากการเกาะกุมของคนตรงหน้า

“ถ้าคุณยังโวยวายอีก ผมจะอุ้มคุณแทนนะ คราวนี้ล่ะ จะได้อายชาวบ้านมากกว่าอีก คิดดูให้ดีๆอยากจะเป็นข่าวเหมือนคนที่คุณแกล้งเค้าหรือไง “

“หมายความว่ายังไง ... คุณหมายถึงใคร “ ผักหวานหยุดขัดขืนทันที แววตาฉายแววสงสัยเมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย หากแต่ทักษ์กลับไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีก ชายหนุ่มจัดการยัดตัวหญิงสาวเข้าไปในรถเบนซ์สีดำปลอดของตนจนได้ก่อนจะรีบแทรกตัวตามเข้าไปและกดล๊อกทันทีเมื่อเห็นว่าหญิงสาวทำท่าจะเปิดประตูอีกข้างลงมา

“ออกรถ “ ชายหนุ่มสั่งคนขับเสียงเข้ม ผักหวานจ้องหน้าคมคายนั้นเขม็งอย่างเริ่มโกรธเต็มที่ ตาบ้านี่มันเป็นใครกันนะ เจอหน้าก็บังคับนู้น บังคับนี่อยู่ได้

“ผมรู้ว่าคุณจะพูดว่าอะไร “ ทักษ์พูดตัดหน้า “ จะบ่นรึจะด่าอะไรก็เชิญ แต่จำไว้ว่าคนอย่างผมอย่างได้อะไรต้องได้ อยากทำอะไรผมก็จะทำ ไม่เคยมีใครขัดคำสั่งผมได้สักคน“

“ อ้อ! งั้นฉันจะไม่พูดไม่บ่นแต่จะลงมือเลย “ ผักหวานพูดพร้อมกับเงื้อมือขึ้นเตรียมจะเล่นงาน หากแต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร ข้อมือก็ถูกกำ ไว้แน่น ก่อนที่ร่างบางจะเซถลาเข้าไปใกล้จนแทบจะเกยกัน

“ผมลืมบอกคุณไปอีกอย่าง ... ผมไม่ใช่สุภาพบุรุษ เพราะฉะนั้นผมจะไม่อยู่เฉยๆแน่ถ้าคุณคิดจะทำอะไรผม “ ทักษ์พูดพร้อมทั้งก้มหน้าลงไปใกล้ ลมหายใจที่รินรดทำให้ผักหวานถึงกับขนลุกซู่ หากแต่ยังทำใจแข็งสบตาอย่างไม่ยอมแพ้

“คงไม่ต้องบอกนะว่า ผมจะทำอะไรกับผู้หญิงสวยๆอย่างคุณ “

ท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียดเสียงเพลงประกอบละครเกาหลีแสนหวานจากมือถือของผักหวานก็ดังขึ้น ทักษ์ตัดสินใจปล่อยข้อมือของอีกฝ่ายเมื่อเห็นว่าโทรศัพท์ไม่มีท่าทีว่าจะเงียบเสียงลงสักที ผักหวานมองเบอร์โทรศัพท์ในมือก่อนจะกดรับสายด้วยอาการเซ็งจิต เนื่องด้วยเบอร์ที่โทรมานั้นเป็นเบอร์ของผู้จัดการฝ่าย QA ( Quality Assurance) ที่ชอบหาเรื่องตนเองอยู่เป็นประจำนั่นเอง

“คะ ฉันเอง “ หญิงสาวตอบรับปลายสายเป็นภาษาญี่ปุ่น คงไม่ต้องกลัวว่าความลับจะรั่วไหล เพราะตามาเฟียนี่ฟังภาษาญี่ปุ่นไม่ออกแหงมๆ (คิดผิดแล้ว หวานเอ๊ยย เฮียเขาลูกครึ่งญี่ปุ่นนะเธอ)

ทักษ์แกล้งทำเป็นมองไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจ แต่ความจริงแล้ว ทุกประเด็นของเสียงปลายสายที่ดังลอดออกมารวมถึงการสนทนาโต้ตอบของผักหวานนั้นล้วนถูกชายหนุ่มลอบฟังอย่างตั้งใจ ... ทาคามะเสะ อิจิโร่ .. ถ้าจำไม่ผิด ทักษ์คิดว่าน่าจะเป็นชื่อของผู้จัดการฝ่าย QA ของบริษัท ชายหนุ่มเริ่มนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจเมื่อได้ยินปลายสายพูดจาไม่สุภาพกับหญิงสาวเท่าที่ควร คำสบถภาษาญี่ปุ่นหลุดออกมาเป็นระยะๆ แต่ดูท่าว่าหญิงสาวข้างกายเขาจะไม่ยอมแพ้เช่นกัน หญิงสาวโต้ตอบอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมจำนน ก่อนที่การสนทนาจะจบลงด้วยอาการเดือดดาลของผักหวาน

“ไอ้กระบือเฒ่าเอ้ย “ หญิงสาวหลุดคำด่าออกมาอย่างลืมตัวว่าไม่ได้อยู่เพียงลำพัง หน๊อย ! มาหาว่าฉันสั่งงานมั่วทำให้งานเทสต์ปน ดาต้า (data) ที่ส่งไปให้บริษัทแม่เลยผิด ชิ ก็ตัวเองนะล่ะ เวลาเจ้าเสือลูกน้องเธอเทสต์งานที่ไรก็ชอบเข้ามาวุ่นวาย หยิบนู้นไปดู หยิบนี้ไปดูก่อนที่ผลเทสต์จะออกแล้วก็เอามาวางผิดที่ แล้วนี่เป็นใครกันคิดจะให้เธอให้ใบเตือนเจ้าเสือโทษฐานที่ดูแลงานไม่ดีอย่างนั้นเหรอ ฝันไปเถอะ คิดจะโยนความผิดมาให้ลูกน้องฉัน ลูกน้องข้าใครอย่าแตะเฟ้ย ผักหวานคิดในใจอย่างเดือดดาล เพราะมัวแต่โมโหอยู่เลยไม่รู้ว่าตอนนี้รถได้มาจอดอยู่หน้าคอนโดของตนเองแล้ว

“ถึงแล้วครับคุณผู้หญิง “

ผักหวานสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงทุ้มของอีกฝ่าย ด้วยมัวแต่โมโหศัตรูหมายเลขหนึ่งในที่ทำงานอยู่ ทำให้หญิงสาวไม่ทันฉุกคิดว่าทำไมคนขับรถของทักษ์จึงมาจอดรถอยู่หน้าคอนโดของตนเองได้อย่างถูกต้องทั้งๆที่ยังไม่ทันได้บอกเส้นทางเลยสักนิด หญิงสาวเอื้อมมือไปยังที่เปิดประตูรถ หากแต่ยังไม่ทันจะถึงที่หมาย ข้อมือก็ถูกทักษ์รวบเอาไว้ก่อน

“อะไรอีกล่ะคุณ “ ผักหวานพูดเสียงเขียว นึกอย่างจะซัดหน้าหล่อๆนั่นเต็มที่ คนยิ่งกำลังอารมณ์เสียอยู่

“ผมลืมบอกคุณไปอีกอย่าง ... ผมไม่เคยทำอะไรให้ใครโดยไม่ได้รับผลตอบแทนหรอกนะ “

“... เอ๊ะ – อุ๊บ !! “ เสียงฉุนเฉียวที่กำลังจะออกจากปากของผักหวานสะดุดลงทันที เมื่อกลีบปากบางถูกริมฝีปากของทักษ์ทาบทับลงมาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว ผักหวานอึ้งไปกับจูบแรกที่เสียไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว มือบางเตรียมจะฟาดใส่ใบหน้าของอีกฝ่ายทันทีที่ตั้งสติได้ หากแต่ยังไม่ทันได้ทำอย่างใจนึก ข้อมือก็ถูกรวบเอาไว้อีก พอจะเปลี่ยนไปใช้อีกมือก็กลายเป็นว่ามืออีกข้างก็โดนชายหนุ่มยึดเอาไว้เช่นกัน

“ผมว่าผมบอกคุณไปแล้วนะ ว่า... ผมไม่ใช่สุภาพบุรุษ “

“ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ดีแต่รังแกผู้หญิง ไอ้ชาติ ... “ ผักหวานได้แต่พ่นคำผรุสวาทอย่างแค้นใจที่ไม่อาจทำร้ายอีกฝ่ายได้อย่างใจนึก

“ ผมไม่ชอบฟังคำหยาบ ถ้าคุณยังคิดจะพูดอีก คนฉลาดอย่างคุณน่าจะเดาได้นะว่าผมจะใช้วิธีไหนในการหยุดคำพูดระคายหูพวกนี้ “ ทักษ์พูดเสียงเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์จนยากที่ผักหวานจะหยั่งความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ หญิงสาวได้แต่มองหน้าคนตรงหน้าอย่างแค้นใจ ตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยมีใครมาทำกิริยาแบบนี้กับเธอได้ ตอนนี้เธอเกลียดผู้ชายคนนี้มากซะจนถ้ามีปืนอยู่ในมือ เธอคงจะไม่ลังเลเลยในการที่จะใช้มันยิงใส่ผู้ชายคนนี้ ปากบางเม้มแน่นอย่างระงับอารมณ์ ก่อนที่มือเรียวจะกระชากประตูเปิดและปิดมันลงอย่างแรงหวังจะให้กระเทือนไปถึงคนข้างใน

“ไปได้ “ สิ้นเสียงคำสั่งรถเบนซ์สปอร์ตสีดำก็เคลื่อนตัวออกจากบริเวณหน้าคอนโดไปอย่างรวดเร็ว ทักษ์เผลอยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงความนุ่มของริมฝีปากบางที่ตนได้สัมผัสไปเมื่อครู่ คนขับรถซึ่งไม่เคยเห็นรอยยิ้มของคนเป็นนายมาก่อนถึงกับชะงักมองผ่านกระจกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา หากแต่เพียงพริบตาเดียวรอยยิ้มนั้นก็จางหายไป แววตาเริ่มฉายแววแข็งกร้าวขึ้นมาแทนที่ โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดจะถูกหยิบออกมาจากกระเป๋าเพื่อต่อสายไปยังเบอร์โทรของลูกน้องคนสนิทอีกคน

“เคน พรุ่งนี้ฉันต้องไม่เห็นรายชื่อของทาคามาเสะ อิจิโร่ ในบอร์ดบริหารที่ประเทศไทยอีก “ พูดเพียงแค่นี้ ก่อนจะกดวางสายลง โดยไม่มีคำอธิบายหรือเหตุผลให้กับอีกฝ่ายได้รับรู้ ไม่จำเป็นที่จะเก็บคนที่พูดจาไม่ดีกับผู้หญิงของเขาเอาไว้ แม้ว่าคนคนนั่นจะทำงานได้ดีแค่ไหนก็ตาม









 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2551
1 comments
Last Update : 28 กรกฎาคม 2551 21:52:37 น.
Counter : 574 Pageviews.

 

สนุกดีค่ะ ชอบค่ะ

แพ้ทาง พระเอกมาเฟีย

หุหุหุหุ

 

โดย: pumpam IP: 58.8.76.147 31 กรกฎาคม 2551 13:57:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Na_Nath
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






✎ งานเขียนทั้งหมดในblog นี้ ✎

สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายพระราช

บัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์

เผยแพร่ หรือ คัดลอกไปกระทำการ

ใดๆก็ตาม..หากผู้ใดกระทำการฝ่าฝืน

เจ้าของ blog สามารถดำเนินการตาม

กฏหมายได้ทุกกรณี (◡‿◡✿)




Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
28 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Na_Nath's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.