หวานใจนายมาเฟีย ตอนที่ 6


บอมบาลูบาร์ ผับดังย่านไฮโซของกรุงเทพมหานคร

“ ตะวัน มาเที่ยวนะมาเที่ยว ทำไมทำหน้าง่วงนอนอย่างงั้นล่ะ“ จีนหรือจิดาภา ตะโกนข้ามโต๊ะพูด เหตุที่ต้องตะโกนก็เพราะว่าวันนี้ผักหวานและเพื่อนๆย้ายมานั่งโซนแดนซ์ ต่างจากทุกทีที่นั่งโซนอาร์แอนบีทำให้เสียงดนตรีดังกึกก้องจนกลบเสียงไปหมด ตะวันพยายามฝืนยิ้มให้เพื่อน แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่าภายในใจนั้นชายหนุ่มยังคงเจ็บปวดกับเรื่องราวความรักของตัวเองอยู่

“ แกก็อีกคนไอ้หวาน โมโหอะไรมาวะ กินเตกีร่าเพียวๆไปหลายแก้วแล้วนะ“ ต้าหรือกัญชนินท์บ่นขึ้นมาอีกคนเมื่อเห็นเพื่อนสาวที่นั่งข้างๆตน กระดกเอากระดกเอา ไม่ยอมหยุด

“ ฉันไม่เห็นว่าแกต้องเครียดอะไรเลยนี่หว่า ศัตรูหมายเลข1ก็โดนเด้งไปแล้วนี่นา“ เจษฎาตะโกนแทรกขึ้นมาอีกคน แต่สายตานี่ซิไม่ได้มองหน้าเพื่อนตัวเองหรอก มองเลยไปทางฟลอร์นู้น ก็หน้าเพื่อนกะหน้าสาวๆใสๆใส่เกาะอก เป็นใครใครก็มองสาว

“ จะว่าทะเลาะกับแฟนก็ไม่ใช่ เพราะแฟนก็ไม่มีแถมยังไม่ยอมมองใครอีก“

“ ใครว่าไม่มี พวกแกลืมตาพี่ญี่ปุ่นสุดหล่อคนนั่นไปแล้วเหรอ“ วินธัยพูดแทรก ถ้าเป็นเรื่องผู้ชายหล่อๆละก็ เขามักจะจำแม่นเป็นพิเศษเสมอ เสียดายก็แต่ยัยเบ๊อะนี่นะสิ เอารูปมาอวดไม่ทันไรก็โดนเด็กไอ้เจษฎ์ที่มาอาละวาดโมโหหึงฉีกทิ้งไปซะก่อน แถมกล้องเจ้ากรรมก็ดันพังไปตั้งแต่ตอนที่เจ้าตัวทิ้งสัมภาระในมือ โผเข้ากอดคุณตาวันที่กลับมาเมืองไทยเพราะคุณพ่อ คุณแม่เสียไปซะอีก คิดแล้วเศร้าจริงๆ หนุ่มแอ๊บแมนได้แต่คิดในใจ

“ อ้อ! คนที่เป็นหลานชายเจ้าของร้านขนมเค้กที่ไอ้หวานชอบกินตอนไปเรียนภาษาที่ญี่ปุ่นนะเหรอ...เสียดายนะแก พอซัมเมอร์ปี1 พวกเราอุตสาห์ยกโขยงว่าจะไปยลหน้าพี่แกเป็นบุญตาซักหน่อยก็ดันหนีไปเรียนต่อซะนี่“ จีนพูดแซวเมื่อนึกถึงความหลังของเพื่อนสนิท นี่ถ้าไม่เกิดเรื่องกับครอบครัวซะก่อนไม่แน่นะผักหวานอาจเป็นคนแรกในกลุ่มที่มีแฟนก็ได้ ถึงแม้เจ้าตัวจะบอกว่าเป็นแค่พี่น้องกันก็ตามที

“ จะพูดทำไมเนี๊ยะ เรื่องโบราณสมัยพระเจ้าเหา...กินๆกันเข้าไปสิ ชวนมากินเหล้าไม่ได้ชวนมาเมาท์ซะหน่อย“ ผักหวานพูดพร้อมกับยัดเชอรรี่ที่ประดับอยู่ในแก้วคอกเทลของจิดาภาเข้าปากของเจ้าของ

“ อ๊ะ! เขิน“ วินธัยแกล้งแซว เรียกเสียงเฮจากเพื่อนๆร่วมก๊วน...ทำไงได้ไอ้หวานมันมีเรื่องให้แซวได้แค่นี้นี่หว่า

“ รู้สึกจะลืมจินฮุน ครูสอนภาษาเกาหลีส่วนตัวของหวานไปนะ“ ตะวันที่นั่งเงียบอยู่นานพูดแทรกขึ้น เรียกเสียงเฮจากเพื่อนๆได้อีกครั้ง
ผักหวานทุบหลังเพื่อนตัวดีที่นั่งข้างๆตนดังอึก อุตส่าห์คอยชวนคุย พาไปเที่ยวนั่นเที่ยวนี่เพราะไม่อยากให้เศร้า ไหงมาทรยศกันซะได้เล่าตะวัน รู้งี้ปล่อยให้อยู่คนเดียว นั่งเศร้าซึมกะทือซะให้เข็ดก็ดีหรอก

“ระวังนะแก ขนาดพี่ยองจุนยังโผล่มาเซอร์ไพสต์เจ๊แบมได้ แกเองก็ระวังกิ๊กเก่าตัวเองเอาไว้ให้ดีๆละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า“ กัญชนินท์พูดส่งท้ายเรียกค้อนวงใหญ่ได้จากผักหวาน ไอ้เพื่อนบ้าพวกนี้เห็นเธอไม่มีแฟนสักที พอรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับผู้ชายที่มาข้องแวะกับเธอแค่นิดหน่อยก็เก็บเอามาล้อได้ตลอด ขนาดเรื่องพี่ทาคุยะ จนเธอแทบจะลืมพี่ชายใจดีคนนั้นไปแล้ว ไอ้เจ้าพวกนี้ก็ยังคอยสะกิดต่อมความจำให้ระลึกถึงกันอยู่เรื่อยๆ แค่แก้ปัญหาให้พวกแกฉันก็เหนื่อยแล้วโว้ย ไม่หาเหามาใส่หัวเพิ่มหรอก ผักหวานคิดในใจ ก่อนจะยกเตกีร่าแก้วใหม่เข้าปาก พร้อมกับโยกตัวไปตามจังหวะเสียงเพลง


ทักษ์กวาดสายตาไปทั่วผับก่อนจะหยุดลงที่หญิงสาวในชุดแซกสีเงิน สายตาบ่งบอกถึงความไม่พอใจและอารมณ์ที่เริ่มจะกรุ่นๆเมื่อเห็นการแต่งตัวของคนที่ตนมองหา วันนี้ผักหวานแต่งชุดแซกสีเงินคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดของเลอลองค์ที่พิชานาฎหรือเจ๊แบม พี่รหัสตะวันให้เป็นของขวัญในวันเกิดใจดี...ใช่แล้วล่ะวันที่เกิดใจดี ซึ่งนานๆทีจะมีสักครั้ง แต่เจ๊แบมเองก็มีข้อแม้เช่นกันคือให้ใส่ออกไปเที่ยวด้วย จะได้ช่วยโปรโมทร้านเสื้อแบรนเนมชื่อดังจากฝรั่งเศสของน้าสาวเจ๊แบมไปในตัว ฉลาดไหมล่ะพี่รหัสสุดสวยของนายตะวันเค้า

ดูเผินๆแซกตัวนี้เหมือนจะมิดชิดดี แต่ถ้ามองต่ำลงไปอีกนิด จะเห็นได้ว่าความยาวของแซกนั่นแค่คืบครึ่งเท่านั้น เรียวขาขาวๆของผักหวานที่ตัดกับความมืดในผับเรียกสายตาจากบรรดาหนุ่มๆได้เป็นอย่างดี และยิ่งเมื่อเห็นด้านหลังของตัวเสื้อด้วยแล้ว ทักษ์แถมอยากจะเข้าไปกระชากแขนเจ้าตัวแล้วโยนเสื้อสูทของเขาให้อีกฝ่ายสวมทับ ด้วยด้านหลังของชุดแซกนั้นแหวกลึกลงไปจนถึงกลางหลังขาวๆนั่น ทำไมถึงไม่ได้ระวังตัวบ้างเลยนะ ชายหนุ่มได้แต่คิดคนเดียวอย่างเดือดดาล และยิ่งเดือดเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นผักหวานเอียงศีรษะของตนไปซบไหล่เพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างๆ

“ ไม่ไหวแล้วเหรอหวาน“ ตะวันก้มหน้าถาม ตากลมสวยที่ฉายแววสดใสอยู่เป็นนิจบัดนี้ฉ่ำเยิ้มเต็มไปด้วยแววหวานอันเนื่องมาจากฤทธิ์ของแอลกฮอล์ ผักหวานผงกหัวรับก่อนจะใช้ไหล่หนาเพื่อนเป็นที่พิงศีรษะที่กำลังหนักอึ้งของตนต่อไป กัญชนินท์มองอาการของเพื่อนสนิทอย่างระอาก่อนจะสายหัว ก็เล่นกระดกเตกีร่าเพียวๆเข้าไปเป็นสิบแก้ว ไม่ฟุบลงไปก็บุญแล้ว

“ ก็กระดกเข้าไปติดๆกันเลยนี่นา“ กัญชนินท์เริ่มบ่น

“ แล้วนี่ไอ้เจษฎ์ ไอ้จีน ไอ้วินมันหายหัวไปไหนกันหมดแล้วล่ะ“ หญิงสาวบ่นต่อก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆแล้วเห็นว่าเพื่อนทั้งสามนั้น สองคนกำลังวาดลวดลายอยู่บนฟลอร์อย่างเมามันส์ ในขณะที่อีกคนหนึ่งก็เดินไปป้อหญิงเพื่อขอเบอร์โทรศัพท์สาวๆอยู่อีกโต๊ะหนึ่ง ให้มันได้ยังงี้ซีนา เพื่อนฉัน

“ พากลับก่อนดีกว่า ต้า ดูท่าจะไม่ไหวแล้ว“ ตะวันพูดเมื่อเห็นท่าทางคอพับคออ่อนของผักหวาน ชายหนุ่มค่อยๆโอบประคองเพื่อนสาวให้ลุกขึ้นยืน โดยหารู้ไหมว่ามีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองการกระทำของเขาจนตาแทบลุกเป็นไฟ ผักหวานค่อยๆปลดมือของตะวันออกจากไหลของตนก่อนจะสะบัดศีรษะตนเองสองสามที

“ ไม่เป็นไร เดี่ยวขอไปล้างหน้าก่อน“

“ ทำซ่านะแก มาเดี่ยวฉันพาไปเอง“ กัญชนินท์บ่นหากแต่ร่างสูงโปร่งของหญิงสาวก็คอยโอบประคองร่างบางที่ยืนโซเซของเพื่อนสนิทเอาไว้

“ ตะวันเดี่ยวต้าพาไอ้ตัวยุ่งนี่ไปเอง ตะวันเฝ้าโต๊ะเหอะ เดี่ยวพวกนั้นกลับมาจะไม่เจอใคร“

เจ้าตะวันพยักหน้ารับคำ ก่อนที่กัญชนินท์จะพาผักหวาน เดินลัดเลาะฝ่าผู้คนไปทางห้องน้ำหญิง เงาร่างสูงใหญ่ที่คอยจับจ้องมาทางโต๊ะของผักหวานโดยตลอดหายไปด้วยเช่นกัน พิพัฒน์ได้แต่มองตามร่างของผู้เป็นนายซึ่งเดินจากไปด้วยแววตาพราวระยับอย่างนึกขัน รอยยิ้มถูกจุดขึ้นที่มุมปากเมื่อนึกถึงคำสั่งของคนเป็นนายเมื่อครู่

“ นายคอยดูนายทศกะเจ้าแพทอยู่ที่นี่ล่ะ เดี่ยวฉันมา“ สั่งห้วนๆตามนิสัยก่อนจะเดินจากไปตามทิศทางของห้องน้ำหญิง ดูท่าพัฒนะไพศาลคงจะได้นายหญิงคนใหม่มาแทนที่คุณเมกุมิที่จากไปตั้งแต่คุณทศอายุ 10ขวบแล้วกระมัง ชายหนุ่มคิดในใจก่อนจะเพ่งสายตาไปทางโต๊ะของเจ้านายคนเล็กที่นั่งอยู่อีกริมหนึ่งของผับตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

“ เมฆ ทำไมเพิ่งโทรมา“ กัญชนินท์พูดทันทีที่เห็นเบอร์โทรศัพท์โชว์บนหน้าจอมือถือ หญิงสาวหันมามองเพื่อนรักที่ยืนล้างหน้าล้างตาอยู่ใกล้ๆ

“ ไอ้หวานฉันคุยกับเมฆแป็ปนึงก่อน อย่าเพิ่งออกไปซ่าคนเดียวน่ะแก“

และเมื่อผักหวานผงกศีรษะแสดงท่าทีรับรู้แล้ว กัญชนินท์จึงเดินออกจากห้องน้ำเพื่อไปคุยโทรศัพท์กับแฟนหนุ่มด้านนอกในมุมโทรศัพท์ที่ทางผับจัดไว้ให้โดยเฉพาะ ผักหวานเดินตุปัดตุเป๋ออกจากห้องน้ำเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวหายไปนาน ร่างบางพยายามทรงตัวให้เดินตรงทาง ก่อนจะหยุดยืนอยู่นิ่งๆเมื่อเห็นภาพตรงหน้าเริ่มพล่าเลือนอีกรอบ คิดๆก็ให้แค้นอีตามาเฟียนั่น ถ้าไม่เพราะแค้นที่หาทางโต้ตอบอีกฝ่ายไม่ได้ เธอก็คงคงไม่ลืมตัวดื่มเหล้าเยอะกว่าทุกทีขนาดนี้ (น้าน!! โทษชาวบ้านอีก)

ทักษ์เดินตามหญิงสาวมาไม่ห่างแต่ดูท่าเธอจะเมาจนไม่รู้สึกตัว ตาสีดำสนิทลุกวาบขึ้นเมื่อเห็นชายคนหนึ่งเอื้อมมือมาหมายจะจับแขนของผักหวาน ไม่ทันที่อีกฝ่ายจะได้สัมผัส ทักษ์ก็คว้าเอวของหญิงสาวมาไว้ข้างกาย ก่อนจะปล่อยหมัดไปยังปลายคางของหนุ่มเคราะห์ร้ายคนนั้น ส่งผลให้เจ้าหนุ่มนั่นก้นจ้ำเบ้าลงไปต่อหน้า ไม่ทันที่เจ้าหนุ่มนั่นจะลุกขึ้นมาสวนกลับ ร่างทั้งร่างก็ถูกลูกน้องของทักษ์หิ้วปีกออกไปจัดการด้านนอกอย่างรู้ใจเจ้านายเพียงแค่อีกฝ่ายส่งสายตามาให้เพียงแวบเดียว ผักหวานเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่เข้ามาคว้าเอวตัวเองเอาไว้ ปากเตรียมจะต่อว่าและสะบัดตัวหนี หากแต่ด้วยฤทธิ์ของแอลกฮอล์ที่ดื่มเข้าไป บวกกับรูปร่างที่คล้ายกัน (ตรงไหนฟร่ะ) ทำให้ผักหวานตาลายเห็นคนตรงหน้าเป็นพี่รหัสของตนเองไปเสียอย่างนั้น

“ อ้าว เฮียพีท“ ผักหวานเอ่ยทักเสียงอ้อแอ้ ทักษ์นิ่งเงียบไม่ตอบโต้อะไรอีกฝ่ายแต่ในใจกำลังเดือดปุดๆเมื่อนึกถึงเจ้าของชื่อที่ผักหวานเรียกอย่างสนิทสนม มันเป็นใครกัน แล้วทำไมผักหวานที่มีทีท่าว่าจะสะบัดตัวหนีเขาเมื่อครู่ถึงยอมหยุดยืนอยู่นิ่งได้

“ แต้งกิ้วนะเฮีย หวานเมาวะ ไปส่งบ้านหน่อยดิ“

ทักษ์ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย ถึงขนาดให้พากันไปส่งที่บ้านเลยเหรอ ชายหนุ่มคิดอย่างไม่พอใจกับการกระทำของหญิงสาวที่เที่ยวชวนผู้ชายให้พาไปส่งบ้าน หากแต่ก็ยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไรอยู่ดี มือหนาคอยโอบประคองร่างบางให้เดินตามตนไปยังทิศทางของลานจอดรถ

“ เดี่ยวโทรหาไอ้ต้าก่อน มันจะเป็นห่วงเอานะเฮีย“ ผักหวานพูดหลังจากเข้ามาในรถแล้ว ไม่ได้เอะใจเลยว่าเฮียพีทของตนนั้นไม่มีคนขับรถ ชายหนุ่มขับรถด้วยตนเองเสมอ มือบางล้วงเข้าไปในกระเป๋าถือใบเล็กที่ติดมือมาก่อนจะหยีตาเพื่อมองหารายชื่อปลายสายที่ต้องการ

“ เฮียพีท หาเบอร์ไอ้ต้าให้หน่อยดิ“ หญิงสาวพูดขณะยื่นมือถือให้อีกฝ่ายช่วยกดให้ ทักษ์หยิบมือถือขึ้นมาดูก่อนจะกดหารายชื่อเพื่อนสนิทให้อย่างที่เจ้าตัวต้องการ ผักหวานรับโทรศัพท์ที่อีกฝ่ายกดโทรออกให้แล้วมาถือไว้ ก่อนจะยกเอาออกห่างจากหูแทบไม่ทัน เมื่อได้ยินเสียงโวยวายดั่งลั่นออกมา ด้วยทุกคนตอนนี้กำลังตามหาตัวหญิงสาวกันอยู่จ้าละหวั่น หญิงสาวหัวเราะแฮ่ะๆอย่างสำนึกผิดก่อนจะบอกเพื่อนไปว่าไม่ต้องเป็นห่วงด้วยตอนนี้ตนเองกำลังจะถึงคอนโดที่พักแล้วและได้เฮียพีทพี่รหัสที่เจอกันโดยบังเอิญพามาส่ง ปลายสายจึงวางใจก่อนจะวางหูลง

ผักหวานยัดโทรศัพท์ในมือลงกระเป๋าถือใบเล็กอย่างทุลักทุเลด้วยความมึน ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตอนนี้แซกตัวสวยของตนเลิกขึ้นมาจนจะเห็นไปถึงไหนถึงไหนแล้ว ทักษ์ได้แต่เม้มปากอย่างไม่ชอบใจเมื่อเห็นกิริยาของคนตรงหน้า นี่ถ้าคนที่หญิงสาวเข้าใจผิดไม่ใช่เขาแต่เป็นคนอื่น ตัวเธอเองจะเป็นอย่างไร ยิ่งคิดชายหนุ่มก็ยิ่งโมโห กำลังจะหันมาต่อว่าก็พบว่าหญิงสาวนอนคอพับคออ่อนพิงกระจกรถอยู่อีกด้านนึงไปแล้ว เห็นเช่นนี้ต่อให้โมโหแค่ไหนภายในใจก็ต้องอ่อนยวบ มือหนาเอื้อมไปโอบคนข้างๆให้หันศีรษะมาพิงไหล่ตนอย่างทะนุถนอม

ผักหวานขยับศีรษะไปมาอย่างต้องการจะหาหาองศาที่ตนเองสบายที่สุด ก่อนจะหลับตาพริ้มกอดแขนทักษ์อย่างไม่สนใจอะไรอีก ทักษ์ได้แต่ก้มหน้ามองคนในโอบแขนด้วยสายตาที่บอกไม่ถูก ทั้งโมโหและอ่อนหวานจนแม้แต่เจ้าตัวเองก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตนเองในเวลานี้ ผู้หญิงที่ตามหามานาน ตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้ว แต่เธอกลับไม่มีทีท่าว่าจะจำเขาได้เลยสักนิด แถมยังมองเขาเป็นศัตรูอีกต่างหาก มือที่ว่างอยู่ค่อยๆสัมผัสไปทั่วกรอบหน้าของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา ก่อนที่ริมฝีปากจะกดจูบลงบนขมับของคนในอ้อมแขนอย่างแสนรัก


ผักหวานรู้สึกได้ถึงความนุ่มและกลิ่นของที่นอนที่คุ้นเคย หญิงสาวค่อยๆเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้น สิ่งแรกที่มองเห็นหลังจากลืมตา คือดวงตาสีดำสนิท ตาต่อตาสบกันอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่หญิงสาวจะรำพันเป็นภาษาญี่ปุ่นออกมา

“ พี่ทาคุยะยังงั้นเหรอ“ เสียงแผ่วเบาที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบางตรงหน้าทำให้ทักษ์ถึงกับตะลึง นี่เธอจำเขาได้แล้ว ... จำเขาได้แล้วใช่ไหม

“ บ้าไปแล้วไอ้หวาน จะเป็นจริงไปได้ยังไง“ ถ้อยคำถัดมาทำให้ใจที่ฟองฟูของทักษ์เมื่อครู่กลับมาแน่นอึดอัดดังเดิม แววตาที่ฉายแววยินดีกลับมาหม่นเศร้า แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องมาตกใจกับการกระทำของผักหวานอีกครั้งเมื่อจู่ๆหญิงสาวก็ลุกขึ้นมาโอบกอดตนเองเอาไว้แน่น

“ ฝันงั้นเหรอ“ ผักหวานยังคงบ่นงึมงำต่ออย่างไม่รู้สึกตัว
“ ต้องเพราะคำพูดไอ้วินนี่แน่ๆเลย“ หญิงสาวบอกตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจากอกกว้างที่อบอุ่น มือบางลูบไล้ไปทั่วใบหน้าของทักษ์ก่อนจะหยุดอยู่ที่ข้างแก้มของชายหนุ่ม

“ ถ้าเป็นความฝันเราจะทำอะไร จะพูดอะไรก็ไม่ผิดใช่ไหม“ ผักหวานยังคงพูดคนเดียวต่อไป ทักษ์ได้แต่มองการกระทำของคนตรงหน้าด้วยแววตาที่สับสน นี่เธอกำลังจะทำอะไร กำลังจะทำให้เขาเป็นบ้าใช่ไหม

“ คิดถึงจัง...“ ผักหวานพูดก่อนจะซุกตัวเข้าหาอ้อมอกอุ่นๆของอีกฝ่ายอีกครั้ง ทักษ์ได้แต่โอบกระชับร่างบางในอ้อมแขนของตนให้แน่นขึ้น ถึงจะเป็นแค่ฝันแต่เขาก็ยินดี เพราะนั่นหมายความว่าเธอไม่เคยลืมเขาอย่างที่เข้าใจมาโดยตลอด ดวงตาที่แข็งกร้าวอ่อนแสงลงเหลือเพียงแต่ความอ่อนโยนที่ถูกซุกซ่อนมานานหลายปี...ดวงตาที่มีไว้ให้กับคนในอ้อมกอดนี้เท่านั้น

น้ำตาที่ไหลซึมเข้าไปในเนื้อผ้าทำให้ทักษ์ต้องรีบก้มลงมองคนในอ้อมกอดของตนทันที นี่ผักหวานกลุ้มใจอะไรกัน ถึงได้หลั่งน้ำตาออกมาแบบนี้ หรือว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้เธอดื่มเหล้าจนเมามายในคืนนี้ ชายหนุ่มคิดในใจอย่างร้อนรน มือใหญ่บรรจงเช็ดคราบน้ำตาให้ดวงหน้านวลอย่างแผ่วเบา ก่อนจะก้มลงกระซิบถามอีกฝ่ายด้วยภาษาญี่ปุ่น

“ มีอะไรหรือเปล่า มีใครทำอะไรหวาน บอกพี่สิจ๊ะ“ ผักหวานยังคงปล่อยให้น้ำตารินไหลต่อไปเรื่อยๆ น้ำเสียงอ่อนโยนและถ้อยคำเอาใจใส่เหมือนเมื่อครั้งที่พี่ทาคุยะคอยปลอบโยนเมื่อตอนที่ได้คะแนนสอบอันน้อยนิดเพราะมัวแต่เอาเวลาไปเที่ยวเล่นในสถานที่ต่างๆของญี่ปุ่นไม่มีผิดเพี้ยน ความโกรธความเจ็บช้ำที่โดนดูถูกศักดิ์ศรี ดูจะเบาบางลงเมื่อได้สัมผัสไออุ่นจากคนตรงหน้าอีกครั้ง หรือว่าพี่ทาคุยะจะเป็นรักแรกที่เธอไม่เคยยอมรับอย่างที่พวกไอ้จีนมันบอกไว้จริงๆนะ

“ จูบหวานได้ไหม“ หญิงสาวพูดเสียงสั่น “ จูบหวานที ลบรอยที่ไอ้บ้านั่นมันจูบหวานที“

แววตาอ่อนโยนแปรเปลี่ยนไปแข็งกร้าวทันทีที่ได้ฟัง ไอ้บ้าหน้าไหนมันบังอาจมาจูบผักหวานของเขาหรือว่า หรือว่า....

“ ไอ้บ้าทักษ์นั่น...ทำไม ทำไมจูบแรกของหวานต้องเป็นไอ้บ้านั่นด้วย ทำไมไม่เป็นพี่... เป็นพี่ซะจะยังดีกว่า” หญิงสาวยังคงรำพันต่อไปกับอกกว้าง ทักษ์ได้แต่นิ่งไปอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี นี่ที่มากินเหล้าเมาแบบนี้ก็เป็นเพราะเขาหรอกหรือ เขาควรจะดีใจหรือเสียใจกันดีล่ะ ชายหนุ่มได้แต่คิดอย่างสับสน ก่อนจะก้มหน้าลงมองใบหน้าหวานที่แอบอิงอกกว้างของตนอีกครั้งอย่างพินิจพิจารณา ตาคมสบสายตาหวานฉ่ำที่เต็มไปด้วยแววหวานของคนในอ้อมกอดอย่างต้องมนต์ ก่อนจะค่อยๆก้มหน้าลงประทับริมฝีปากบนกลีบปากนุ่มตรงหน้าอย่างช้าๆ ผักหวานปิดเปลือกตารอรับสัมผัสอันอ่อนโยนนั้นอย่างเต็มใจ ความอบอุ่นค่อยๆลามเลียไปยังหน้าผาก ดวงตาทั้งสองข้าง และวกกลับมายังริมฝีปากอีกครั้ง ทักษ์ขบริมฝีปากล่างของหญิงสาวเบาๆอย่างหยอกล้อส่งผลให้ปากบางที่ปิดสนิทในตอนแรกเผยอออกเล็กน้อย ชายหนุ่มไม่รั้งรอที่จะส่งเรียวลิ้นของตนเข้าไปเสาะแสวงหาความอ่อนหวานภายใน จูบลึกซึ้งดำเนินต่อไปครั้งแล้วครั้งเล่า เนิ่นนานสมกับความรู้สึก ความคิดถึง และความห่วงหาของชายหนุ่มที่มีต่อคนในอ้อมกอดมานานแสนนาน

ทักษ์ค่อยๆถอนจูบออกมาอย่างแปลกใจเมื่อไม่ได้รับการตอบสนองอย่างเคย รอยยิ้มประดับบนใบหน้าอย่างนึกเอ็นดู เมื่อเห็นว่าร่างบางบัดนี้หลับสนิทไปแล้ว มือหนาสัมผัสไปทั่วใบหน้างามอย่างแสนรักอีกครั้งก่อนจะค่อยๆวางศีรษะของหญิงสาวลงบนหมอนอย่างทะนุถนอม ชายหนุ่มถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องน้ำส่วนตัวของอีกฝ่าย ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับอ่างน้ำใบเล็กๆ และห่อกระดาษทิชชู่อเนกประสงค์ที่ใช้สำหรับเช็ดเครื่องสำอาง ทักษ์ค่อยๆบรรจงเช็ดคราบเครื่องสำอางออกจากใบหน้าของผักหวานอย่างเบามือ ก่อนจะใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำผสมโคโลญ์บรรจงเช็ดอย่างแผ่วเบาไปทั่วใบหน้า ซอกคอและลำแขนของหญิงสาว เขาค่อยๆคลี่ผ้าห่มคลุมทับร่างบางที่นอนขดตัวอยู่หลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว จากนั้นจึงนำทิชชู่ไปทิ้งและนำอ่างน้ำไปเก็บไว้ยังที่เดิม

เมื่อเดินกลับมายังเตียงกว้างอีกครั้งหลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ร่างหนาจึงทรุดตัวลงนั่งบนเตียงนอนมองคนที่นอนหลับสบายตรงหน้าอย่างไม่รู้เบื่อ ก่อนจะตัดใจก้มหน้าลงไปประทับจูบที่กลีบปากนุ่มอีกครั้งแทนคำกล่าวลาเมื่อเห็นว่าเวลาล่วงเข้าใกล้เช้าวันใหม่เข้าไปทุกทีแล้ว

“ หลับฝันดี ฝันถึงพี่ทุกคืนนะจ๊ะ“ ตาคมมองใบหน้าหวานที่คลี่ยิ้มเหมือนจะตอบรับคำพูดของตนด้วยแววตาหวานไหว ก่อนจะรีบเดินจากมาอย่างรวดเร็ว ด้วยกลัวว่าถ้าช้ากว่านี้แม้เพียงนาทีเดียวตนจะไม่สามารถตัดใจออกมาได้ มือหนากดล็อคประตูห้องให้หญิงสาวอย่างรอบคอบ ก่อนจะหันมาสั่งความกับชายชุดดำสองคนที่ยืนรออยู่หน้าห้อง

“ ดูแลคุณผักหวานให้ดี ถ้ามีใครมาหา หรือมีอะไรผิดปกติ ให้รีบโทรรายงานฉันทันที“ ชายชุดดำทั้งสองก้มหน้ารับคำสั่งอย่างแข็งขัน ก่อนจะค่อยๆเร้นกายหายไปในความมืดดุจดังไม่เคยมีตัวตนมาก่อน









Create Date : 15 สิงหาคม 2551
Last Update : 15 สิงหาคม 2551 21:07:15 น. 2 comments
Counter : 406 Pageviews.

 
สนุกมากเลยคะ ชอบๆ รีบมาลงต่อนะคะ


โดย: SmileTeppe วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:22:53:43 น.  

 
ชอบค่ะ อย่าให้ใครตายนะคะ แนวนี้กลัวใจเกิดใครตายเศร้าแย่


โดย: นู๋เนน IP: 61.7.175.125 วันที่: 16 สิงหาคม 2551 เวลา:10:12:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Na_Nath
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






✎ งานเขียนทั้งหมดในblog นี้ ✎

สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายพระราช

บัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์

เผยแพร่ หรือ คัดลอกไปกระทำการ

ใดๆก็ตาม..หากผู้ใดกระทำการฝ่าฝืน

เจ้าของ blog สามารถดำเนินการตาม

กฏหมายได้ทุกกรณี (◡‿◡✿)




Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
15 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Na_Nath's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.