หวานใจนายมาเฟีย ตอนที่ 8



ผักหวานอดที่จะลอบมองใบหน้าคมคายของคนที่เดินเคียงข้างตนเข้าไปยังอาคารสูงเบื้องหน้าไม่ได้ เพราะอะไรกันนะ ทำไมเธอถึงได้ยอมยกโทษให้เขาง่ายๆ หญิงสาวได้แต่เฝ้าถามตัวเองในใจ ทั้งๆที่การกระทำของเขาก่อนหน้าล้วนหยาบคาย เอาแต่ใจ ทำไมแค่เพียงคำขอโทษและสายตาเว้าวอนกลับทำให้ใจของเธออ่อนยวบลงไปได้ในพริบตา หญิงสาวได้แต่คิดอย่างไม่เข้าใจตนเองนัก

ภาพร่างสูงใหญ่ที่ทอดสายตามองหญิงสาวร่างบางซึ่งเดินเคียงข้างกันมา และรอยยิ้มที่แทบจะไม่มีใครเคยเห็นนั้น ทำให้แขกของโรงแรมที่นั่งอยู่บริเวณล๊อบบี้ก่อนหน้าซุบซิบกันอย่างคาดไม่ถึง จิดาภาอดที่จะทอดสายตามองตามคำพูดชี้ชวนของหญิงวัยกลางคนที่ตนเดินผ่านไม่ได้ แผ่นหลังที่คุ้นตาทำให้หญิงสาวรีบเร่งฝีเท้าเดินตามไปทันทีด้วยนึกสังหรณ์ใจว่าหญิงสาวคนดังกล่าวจะเป็นเพื่อนรักของตนเอง

“ ผักหวาน”

เสียงหวานใสคุ้นหูที่ดังมาจากเบื้องหลังทำให้ผักหวานถึงกับสะดุ้ง นี่มัน...เสียงไอ้จีนนี่ แต่คงไม่ใช่หรอกมั้งก็มันบอกว่าจะนอนค้างที่ภูเก็ตนี่นา หญิงสาวคิดก่อนจะหันหลังมองกลับไปยังทิศทางของเสียง

“ ไอ้จีน“ ผักหวานอุทานชื่อเพื่อนออกมาอย่างตกใจ...ไหงมันมาโผล่ที่นี่ได้นะ หญิงสาวได้แต่คิดอย่างมึนงง

แค่สบสายตาแพรวพราวของเพื่อนรัก ทักษ์ก็นึกรู้ได้ในทันทีว่าการที่ผักหวานเจอกับจิดาภาในวันนี้ไม่ใช่ความบังเอิญแต่เป็นความจงใจของเพื่อนสนิทตนเอง

“ แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง“

ผักหวานถามต่อ ขณะเหลือบตามองดูหนุ่มร่างสูงที่เดินเคียงคู่มากับเพื่อนสนิท รอยยิ้มจริงใจที่ถูกส่งมาให้ก่อนทำให้หญิงสาวเผยยิ้มตอบกลับโดยอัตโนมัติ แอนโทนี่ นาคะรักษ์ จาง แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ กับสายตาขุ่นขวางที่ทักษ์มองมา ในขณะที่จิดาภาเองเลือกที่จะตอบคำถามเมื่อครู่เพื่อเบียงเบนสายตาต้องจับผิดของผักหวาน

“ ฉัน...เผอิญคุณแอนดี้เขามีธุระด่วนน่ะ เลยรีบกลับฉันเห็นไหนๆแล้ว ก็เลยกลับมาพร้อมกันด้วยเลยดีกว่า” จิดาภาพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่กับผักหวานแล้วหญิงสาวจับพิรุธได้ตั้งแต่เพื่อนรักยังพูดไม่ทันจบด้วยซ้ำ

“ อ้อ...อย่างนั้นเหรอ“ น้ำเสียงทอดยาวที่จงใจพูดทำให้จิดาภาอดรู้สึกหนาวๆร้อนๆขึ้นมาไม่ได้ นึกเสียใจขึ้นมาตงิดๆที่เข้ามาทักอีกฝ่าย รู้อย่างนี้เก็บเอาเรื่องที่เห็นไปซักวันหลังก็ดี หญิงสาวได้แต่คิดอย่างนึกเสียดาย รับรู้ได้ทันทีว่าตนเองได้พลาดไปแล้ว

“ เออ ทักษ์ ที่แกให้ฉัน...“

“ รู้แล้ว“ ยังไม่ทันที่แอนโทนี่จะพูดจบ ทักษ์ก็ขัดคอขึ้นมาก่อน ผักหวานรู้ได้ในทันที่ว่าเพื่อนที่ทักษ์บอกกับตนเมื่อครู่คือใคร และใครเป็นนายจ้างที่เพื่อนสาวกล่าวอ้างกับตนตอนที่โทรไปขอความช่วยเหลือเมื่อกลางวัน ตากลมสวยวาบไหวขึ้นมาเมื่อนึกถึงคำพูดของเจษฏาเมื่อวันก่อน ดูท่าเรื่องเซอร์ไพรส์ที่วินธัยว่าคงจะเป็นเรื่องผู้ชายคนใหม่ของจิดาภานี่เอง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาบนใบหน้าทันทีหลังจากพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้แล้ว

“ คุณ คงเป็นเพื่อนคุณทักษ์ใช่ไหมคะ“ เอ่ยถามเพื่อยืนยันความคิดของตนเองทันที

“ ครับ“ แอนดี้ตอบรับ

“ผม แอนดี้ แอนโทนี่ นาคะรักษ์ จาง เป็นเพื่อนสนิทไอ้คุณทักษ์ แล้วก็เป็นนายจ้างคนใหม่ของคุณจีนด้วยครับ“

“ ดีจัง มีแต่คนรู้จักกันทั้งนั้น“ พิมลพันธ์หรือไอ้หวานของเพื่อนๆกล่าวเสียงใส ไม่สนใจอาการคิ้วขมวดบนใบหน้าของทักษ์ และสายตาเขียวๆของเพื่อนสาวที่ลอบส่งมาให้

“งั้นเราไปทานเค้กด้วยกันดีกว่าเน๊อะ คนเยอะ สนุกดี“ หญิงสาวหันหน้ามาพูดกับคนข้างกาย ที่ได้แต่พยักหน้ารับอย่างยอมจำนน นึกเสียดายโอกาสดีๆ ที่จะได้ทำความสนิทสนมสานต่อความสัมพันธ์ครั้งใหม่กับคนตรงหน้า แอนโทนี่เป็นคนเดินนำทุกคนไปยังห้องอาหารญี่ปุ่นที่มีเชฟจากร้านขนมชื่อดังมาประจำการอยู่ จิดาภารีบฉุดแขนผักหวานให้เดินรั้งท้ายไปด้วยกันทันที ปล่อยให้สองหนุ่มเดินนำหน้าตนเองไปก่อน

“ นี่ใช่ไหม เรื่องเซอร์ไพร์สของแก“ ผักหวานพูดเสียงเบาให้ได้ยินกันสองคน จิดาภายิ้มหวานหากแต่ดูเหมือนเป็นการแยกเขี้ยวซะมากกว่าในสายตาของผักหวาน

“ ถ้าแกทำฉันเสียเรื่อง ฉันจับแกฆ่าหมกป่าแน่ แถมเป็นป่าที่มีจินฮุนอยู่ด้วย“ หญิงสาวพูดเสียงเหี้ยม ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นสดใสทันควันเมื่อแอนโทนี่หันมามอง ผักหวานได้แต่มองอาการเพื่อนด้วยความแปลกใจ ร้อยวันพันปี เวลามีหนุ่มมาจีบไม่เห็นเจ้าตัวจะดูหวงและรักษาภาพพจน์แบบนี้ รอให้กินเสร็จก่อนเถอะจะจับซักให้หนักเลย

“ กลับก่อนนะคะ ขอบคุณมากสำหรับเค้กที่อร่อยๆแบบนี้“ ผักหวานเอ่ยคำขอบคุณเจ้าของโรงแรมหนุ่ม ขณะเดินออกมาจากห้องอาหารญี่ปุ่น ทักษ์ได้แต่ยืนนิ่งหากแต่ภายในใจนึกหมั่นไส้เพื่อนสนิทอยู่ไม่น้อย...ขอบคุณไอ้แอนดี้ทำไม มือนี้เขาต่างหากที่เป็นคนจ่าย ไอ้เจ้าของโรงแรมที่งกจนเกลือเรียกพี่อย่างแอนดี้ ไม่มีทางเลี้ยงใครง่ายๆหรอก ...

“ ขอบคุณ คุณด้วยนะ ที่พาฉันมากินของอร่อยๆ“ ไม่ลืมที่จะหันมาหยอดชายหนุ่มอีกคน ต้องแกล้งทำดีไว้ก่อน นายคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของตาแอนดี้นี่นา เผื่อจะหาประโยชน์เรื่องไอ้จีนได้ภายหลัง ผักหวานแก้ตัวในใจเมื่อเผลอยิ้มรับรอยยิ้มที่อีกฝ่ายส่งมาให้โดยไม่รู้ตัว

ให้ตายเถอะ ไอ้ทักษ์ยิ้ม ทาคุยะ นากาชิตะยิ้มง่ายๆแบบนี้นี่นะ! แอนโทนี่ได้แต่คิดอย่างประหลาดใจตั้งแต่ขึ้นชั้นมัธยมและเขาทั้งคู่ย้ายมาเรียนที่ญี่ปุ่นด้วยกัน สาบานได้เลยว่าเขาเห็นมันยิ้มแทบจะนับครั้งได้ แต่กับผู้หญิงคนนี้ ดูเหมือนรอยยิ้มจะเป็นเรื่องธรรมดาที่เพื่อนเขามีให้

“ แล้วรถฉันล่ะ“ ผักหวานถาม เมื่อเดินมาถึงหน้าโรงแรมแล้วไม่พบรถญี่ปุ่นราคาแพงของตนมาจอดรอเทียบท่า (แหงละ อยู่โรงงานรถญี่ปุ่น ขับบีเอ็มคงโดนตื้บแหงมๆ –คนเขียน)

“ อยู่ที่คอนโดคุณแล้ว“ ยังไม่ทันจะถามต่อ กุญแจรถก็ถูกวางลงบนมือของคนถาม จิดาภาที่กำลังคุยเรื่องงานกับแอนโทนี่อยู่หันขวับมาจ้องเพื่อนสนิททันทีที่ได้ยิน

นี่ไอ้หวานมันไปสนิทกับทักษ์ พัฒนะไพศาลตั้งแต่เมื่อไหร่ฟร่ะ ไหนบ่นว่าเกลียดท่าทางมาเฟียของอีกฝ่ายหนักหนา ทำไมถึงมีกุญแจรถกันด้วย ผักหวานรีบส่งสายตาปรามทันทีเมื่อเห็นจิดาภาอ้าปากเตรียมจะเอ่ยถาม ตากลมโตเหลือบมองไปทางแอนโทนี่อย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า...เออ งวดนี้เป็นทีของแก นังแม่มด! จิดาภาได้แต่เข็ดเขี้ยวในใจเมื่อเห็นรอยยิ้มเหนือกว่าของอีกฝ่าย

“ ขอบคุณนะ... คะ งั้นเดี่ยวฉันกลับกับจีนเลยละกัน“ ผักหวานพูดก่อนจะลงหางเสียงให้ต่างจากทุกทีเนื่องจากเห็นว่ามีบุคคลอื่นอยู่ด้วย แอนโทนี่จับจ้องทุกกิริยาของเพื่อนสนิทอย่างไม่วางตา อดจะเอ่ยปากแซวไม่ได้เมื่อเห็นตาคมเข้มทอดมองตามร่างบางไปจนสุดสายตา

“ ไม่เดินตามไปส่งเลยละ“

“ ไม่หรอก ยังไม่ถึงเวลา“ ทักษ์ตอบเรียบๆ ก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปยังตัวโรงแรม


“ ไม่มีเรื่องจะเล่าให้ฟังบ้าเลยเหรอ“ แอนโทนี่เอ่ยถามเมื่อเดินตามมาทันกัน

“ ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ“ ทักษ์สวนกลับ สองหนุ่มยืนมองตาเหมือนกับจะวัดใจกันครู่ใหญ่ก่อนที่ทักษ์จะไหวไหล่และเดินนำหน้าไปยังทิศทางของผับหรูภายในโรงแรมที่ทั้งสองมักจะนั่งดื่มด้วยกันเป็นประจำ



“ แก...ไปกับนายทักษ์ได้ยังไง“ จิดาภาเปิดฉากซักทันทีที่อาบน้ำเสร็จ วันนี้หญิงสาวตกลงใจจะค้างที่คอนโดของอีกฝ่ายแทนที่จะกลับไปยังคอนโดของตนเองที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ผักหวานค่อยๆหยุดการใช้ผ้าขนหนูในมือซับผมที่เริ่มจะหมาดๆของตนเอง ก่อนจะหันหน้ามาคุยกับจิดาภาที่ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงนอน

“ แกต่างหากที่จะต้องตอบไม่ใช่ฉัน เล่ามาก่อนเลย ไม่งั้น...“

“ ไม่งั้นแกจะทำอะไร ไอ้หวาน“ จิดาภาพูดสวนขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายชะงักเสียงไป มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ฉายแววเจ้าเล่ห์จนไม่อาจวางใจได้

“ ฉันก็จะจีบอีตาแอนดี้นายจ้างคนใหม่ของแกไง จะว่าไปหน้าตาก็คล้ายแดเนียลนะนี่ สเป๊คเลย “ ผักหวานเปรียบเทียบหน้าตาของนายจ้างคนใหม่ของจิดาภากับหนุ่มลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกัน พระรองละครเรื่องโปรด จิดาภาทุ่มหมอนบนเตียงที่วางอยู่ใกล้ๆมือใส่เพื่อนรักที่นั่งลอยหน้าลอยตาพูดอยู่ทันที

“ ลองดูสิ ฉันจะจับแกแหกอก ไม่สิฉันจะโป๊ะยาสลบแกแล้วใส่พานส่งไปให้จินฮุนดีกว่า รับรองว่าแกไม่รอดแน่“ จิดาภาพูดเสียงโหด ก่อนจะล้มตัวลงนอนเคียงข้างผักหวานที่นอนกอดหมอนที่เธอขว้างใส่เมื่อครู่แนบอก หญิงสาวได้แต่ถอนใจยาวก่อนจะเริ่มต้นเล่าเรื่องราวที่อีกฝ่ายอยากรู้ให้ฟัง

ไอ้จีนตกหลุมรัก เป็นไปได้ยังไงกัน! ผักหวานได้แต่อุทานในใจขนาดลอบมองใบหน้าสวยใสของเพื่อนสนิทซึ่งนอนอยู่เคียงข้าง ไอ้จีนที่ไม่เคยรักผู้ชายคนไหน ไอ้จีนที่ชอบหว่านเสน่ห์ไปทั่ว แต่ไม่ยอมตกลงใจกับใครสักทีแม้คนพวกนั้นจะดีเลิศเพอร์เฟกต์ขนาดไหน ตกหลุมรัก แอนโทนี่ นาคะรักษ์ จาง ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นอีกฝ่ายบนปกหนังสือ โอ้ว! มายก๊อด ทำไมมันง่ายแบบนี้นะ บทจะตกหลุมรักใครสักคนเนี๊ยะ! หญิงสาวได้แต่คิดในใจขณะเหม่อมองฝ้าเพดานตรงหน้า อดจะปวดหัวไม่ได้เมื่อนึกถึงคำขอของเพื่อนสนิทที่ตนตกปากรับคำไปเมื่อครู่

“ ไม่รู้ล่ะ แกต้องช่วยฉัน... ฉันเห็นนะว่าแกกะตาทักษ์นั่นสนิทกัน แกไม่ต้องมาปฎิเสธเลย“ รีบเอ่ยห้ามเมื่อเห็นผักหวานเตรียมจะพูดขัด
“ ฉันไม่โง่พอจะมองไม่เห็นหรอกนะเว้ย ถึงแม้ตอนนี้ความรักจะบังตาไปบ้างก็เหอะ ผู้ชายที่ไม่เคยมีข่าวกับผู้หญิงคนไหนสักที อยู่ดีๆก็เกิดอยากจะเป็นเพื่อนกับแก ไม่ต้องใช้สมองตรองดูก็รู้ ว่าเขาต้องชอบแกแหงมๆ“ จิดาภาพูดอย่างมั่นอกมั่นใจในความคิดของตนเอง

“ เพราะฉะนั้นแกต้องช่วยฉัน...ตาทักษ์นั่นเป็นเพื่อนกับคุณแอนดี้ ถ้าเมื่อไหร่เขาชวนแกไปไหน แกต้องตอบตกลงแล้วบอกให้เขาชวนเพื่อนไปด้วย ส่วนแกก็จะชวนฉันไปด้วยเหมือนกัน แกต้องบอกเขานะว่าหลายๆคนสนุกดี เข้าใจไหม“

“ ไม่... เรื่องของแก แกจัดการเอง เรื่องอะไรฉันต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงด้วย“ ผักหวานปฏิเสธเสียงแข็ง ก่อนจะใจอ่อนยวบ เมื่อเห็นน้ำตาค่อยๆไหลลงมาจากหางตาของเพื่อนสนิทช้าๆ

“ แกจะไม่ช่วยฉันเหรอ แกก็รู้นี่ว่าฉันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน“ จิดาภาพูดเสียงสั่นเครือ ไหล่บางเริ่มไหวระริกเหมือนกับกำลังกลั้นไม่ให้น้ำตาหยดลงมาอีก

“ ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่กวนแกก็ได้ ฉันรู้ว่าแกลำบากใจ ช่างมันเถอะ ฉันคงทำบาปมามากเกินไป ถึงต้องมาอกหักทั้งๆที่อีกฝ่ายยังไม่ทั...”

“ เออ เออ ฉันยอมแล้ว เลิกบีบน้ำตาเหอะ เดี่ยวตาช้ำพรุ่งนี้ตื่นมาไม่สวยหรอก“ ผักหวานพูดเสียงสะบัด นึกเจ็บใจตนเองไม่น้อยที่แพ้ทางอีกฝ่ายอยู่ร่ำไป จิดาภาโถมตัวเข้าใส่เพื่อนสนิททันทีที่อีกฝ่ายรับปาก

“ จริงเหรอ แกพูดจริงๆนะ แกเป็นเพื่อนที่น่ารักที่สุดเลยไอ้หวาน...ฉันร้าก...รักแกวะ“

พูดจบจิดาภาก็หอมแก้มซ้ายขวาของเพื่อนสนิททันทีด้วยความดีใจจนอดไม่อยู่ ผักหวานทำท่าสยองขวัญใส่เพื่อน ก่อนทั้งคู่จะหัวเราะให้กัน และล้มตัวลงนอนเคียงข้างกันในที่สุด

เขาชอบเธออย่างนั้นเหรอ ผักหวานคิดตามคำพูดของจิดาภา มือบางเผลอลูบไล้ไปตามกลีบปากนุ่มของตนเอง ไม่ ไม่ใช่หรอก หญิงสาวรีบสั่นศีรษะ นายนั่นคงแค่เห็นว่าเธอไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆที่เคยเจอมา เลยอยากคบเป็นเพื่อนก็เท่านั่น หญิงสาวคิดในใจก่อนจะรีบปิดเปลือกตาลงพยายามไม่คิดต่อให้จิตใจฟุ้งซ่าน

จิดาภาขยับตัวเปลี่ยนมานอนตะแคงข้างจ้องหน้าเพื่อนสนิทหลังจากได้ยินเสียงลมหายใจทอดยาวบ่งบอกว่าอีกฝ่ายได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว ความจริงหญิงสาวยังไม่ได้หลับแต่แสร้งทำเป็นหลับเพราะไม่อยากโดนผักหวานซักอีกก็เท่านั้น ตาคมสวยไม่แพ้กันมองไปยังเปลือกตาที่หลับพริ้มก่อนจะพูดเบาๆในความมืดแต่กลับก้องสะท้อนไปทั่ว

“ เขาไม่ได้ชอบแกหรอกหวาน...แต่เขา รักแกต่างหากล่ะ“ หญิงสาวพูดเสียงเบา

“ แววตาที่เขามองแกเวลาเผลอ มันก็เหมือนกับฉันเวลาที่แอบมองแอนดี้น่ะล่ะ“ หญิงสาวยิ้มให้กับตนเองในความมืด ก่อนจะปิดเปลือกตาลงบ้าง
ดูท่าเพื่อนรักสองคนในกลุ่มผู้ไม่ยอมเปิดหัวใจให้ใครสักที จะมีความรักพร้อมๆกันแล้วสินะ



อาจจะด้วยน้ำเสียงหม่นเศร้าหรือเพราะความรู้สึกผิดลึกๆในใจก็ตาม ทำให้วันนี้ผักหวานยอมออกมาทานอาหารมื้อค่ำกับลีจินฮุนเพียงลำพังโดยไม่ได้โทรไปบอกเจษฎาหรือตะวันให้รับรู้เช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

ใช่แล้วเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา นับตั้งแต่ได้รู้จักเพลย์บอยหนุ่มชาวเกาหลีผู้นี้ ผักหวานไม่เคยวางใจในตัวเขาเลยสักนิด ทุกครั้งที่มีการนัดหมาย หญิงสาวจะให้เพื่อนสนิทคอยตามประกบเฝ้าดูตนเองอยู่ห่างๆเสมอ ภาพหนุ่มเพลย์บอยควงผู้หญิงไม่เลือกหน้าทำให้เธอไม่กล้าที่จะเปิดใจให้อีกฝ่ายได้ก้าวเข้ามา...นึกๆไปก็น่าขันไม่น้อยด้วยอุปนิสัยของลีจิฮุนจะว่าไปมันก็นิสัยเดียวกับเจษฎาชัดๆแต่ทำไมเธอถึงรับไม่ได้ก็ไม่รู้สิ... หญิงสาวได้แต่คิดในใจขณะกวาดสายตามองไปรอบๆร้านอาหารกึ่งผับหรูที่ลีจินฮุนนัดหมายไว้ บริกรหนุ่มรีบปราดเข้ามาให้การต้อนรับทันทีเมื่อมองเห็นลูกค้าก้าวเท้าเข้ามา ครั้นเมื่อทราบว่าหญิงสาวมาตามนัดหมายที่ได้รับการจองล่วงหน้าไว้แล้ว จึงรีบกุลีกุจอก้าวเท้าเดินนำไปยังจุดหมายปลายทางที่หญิงสาวต้องการทันที ด้วยกิริยาที่นอบน้อม

ผักหวานอดที่จะรำลึกถึงความหลังที่ทำให้ตนเองได้รู้จักกับลีจินฮุนขณะก้าวเท้าเดินตามหลังบริกรหนุ่มคนดังกล่าวไปไม่ได้ ลีจินฮุนเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่ซนยองจุน อดีตแฟนเก่าของเจ๊แบมพี่รหัสของตะวัน ตอนที่เจ๊แบมตกลงใจเป็นแฟนกะพี่ยองจุนนั้นสาเหตุส่วนหนึ่งก็เพราะหมั่นไส้ยัยคิมยันฮี เอ้ย! ยัยคิมซุนมี เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยของเจ๊ชุดาที่ชอบทำท่าเริ่ด เชิด หยิ่ง เหมือนกับว่าโลกนี้ไม่มีใครเทียบตัวเจ้าหล่อนได้ เจ๊แบมก็เลยจัดการสั่งสอนด้วยการสอยพี่ยองจุนหนุ่มที่ยัยคิมซุนมีแอบหลงรักมาเป็นแฟนซะเลย ทำเอายัยนั่นจ๋อยไปเป็นเดือน ก่อนจะกลับมาทำท่าเชิดได้เหมือนเดิมเพราะได้ลีจินฮุนมาเป็นคู่ควงแทน ด้วยคุณสมบัติแล้วถึงลีจินฮุนจะรวยไม่เท่าพี่ยองจุน แต่ครอบครัวของเขาก็จัดได้ว่าเป็นเศรษฐีระดับต้นๆของเกาหลีเหมือนกัน แถมแม่ของเขากับแม่ของพี่ยองจุนยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกันอีก เจ๊แบมได้แต่มองอาการระริกระรี้ของยัยยันฮีอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะทนไม่ไหวในที่สุดและหันมาขอความร่วมมือจากพวกเธอให้ช่วยกันแกล้งยัยหน้าพลาสติกนั่น

จะว่าไปทั้งเธอทั้งเจ๊แบมรวมไปถึงยัยจีนยัยต่างก็นิสัยไม่ดีจริงๆน่ะล่ะ ทุกคนแท็คทีมกันระดมสมองเพื่อหาทางแกล้งยัยคิมซุนมีสุดฤทธิ์และเผอิญเสียเหลือเกินว่าเจ๊แบมเลือกที่จะส่งเธอเข้าไปหว่านเสน่ห์ใส่จินฮุนในเกมนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่าเจ๊มั่นใจว่าเธอจะไม่ใจอ่อนไปกับลูกอ้อนลูกตื้อของหนุ่มเกาหลีจอมเพลย์บอยนี่แน่ๆ และที่สำคัญที่สุดทั้งเจ๊แบมและยัยจีนต่างก็สังเกตได้ว่าลีจินฮุนแอบมองเธอตอนเผลอบ่อยๆ...แล้วเป็นอย่างไรล่ะที่นี่ ผลที่ได้เกิดคาดจริงๆ นอกจากลีจินฮุนจะเลิกกับคิมซุนมีแล้วชายหนุ่มยังเลิกกับผู้หญิงคนอื่นๆที่เคยควงเล่นด้วยแล้วหันมาตามตื้อเธอเพียงคนเดียว เหมือนกับที่พี่ยองจุนไม่ยอมเปลี่ยนใจไปมองคนอื่นเลยสักนิดแม้ว่าเวลาจะผ่านไปสักกี่ปีก็ตาม ยิ่งคิดผักหวานก็ยิ่งรู้สึกผิด สิ่งที่เธอทำเพื่อแกล้งผู้หญิงคนนึงที่ไม่ชอบหน้ากันนั้นกลับกลายเป็นการล้อเล่นกับหัวใจของผู้ชายคนนึงมานานถึงสามปี

“ สวัสดีครับสวีตตี้“ ลีจินฮุนเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลขณะลุกขึ้นมาเลื่อนเก้าอี้ให้ผักหวานได้นั่งเหมือนเช่นทุกทีที่เคยปฏิบัติ ผักหวานได้แต่ยิ้มรับก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่อีกฝ่ายเลื่อนให้

“ สวัสดี จินฮุน วันนี้มีอะไรพิเศษหรือเปล่า อยู่ดีๆถึงชวนมาฟังเพลงได้“

“ ผมชวนคุณมาตลอดน่ะล่ะ แต่เป็นคุณเองที่ไม่ว่างเสมอไม่ใช่เหรอครับ“ ชายหนุ่มกล่าวย้อนด้วยน้ำเสียงน้อยใจจนผักหวานรู้สึกได้ หากแต่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“ วันนี้เป็นวันที่เราพบกันครั้งแรกเมื่อสามปีก่อน คุณจำได้ไหม“ ลีจินฮุนพูดเสียงเศร้า

ใช่แล้ววันนี้เป็นวันครบรอบวันแรกที่เขาได้เจอกับผักหวาน และก็จะเป็นวันที่เขาใช้ผูกมัดหญิงสาวให้อยู่ข้างกายตนเองไปตลอดกาลด้วยเช่นกัน เมื่อนึกมาถึงตอนนี้ประกายตาเศร้าสร้อยก็เปลี่ยนเป็นวาวโรจน์ ก่อนที่รอยยิ้มสมใจจะปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลาโดยที่ผักหวานไม่ทันได้สังเกตเห็นเลยสักนิด



“ นายครับ พี่เดชโทรมา บอกว่าตอนนี้คุณผักหวานอยู่ที่ผับแถวทองหล่อกับผู้ชายเกาหลีที่ชอบมานั่งเฝ้าที่คอนโดบ่อยๆครับ“ สิ้นเสียงรายงาน ทักษ์ที่กำลังพิจารณาแฟ้มในมือด้วยท่าทางเคร่งเครียดอยู่ถึงกับชะงักไป ตาคมฉายแวววาบวับอย่างไม่พอใจก่อนแฟ้มในมือจะถูกปิดลง

“ ไปเตรียมรถ...ฉันจะออกไปผับนั่น“

สิ้นเสียงสั่ง ร่างหนาของบอดี้การ์ดประจำตัวก็รีบออกไปสั่งการภายนอกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของทักษ์จะก้าวตามออกมา โทรศัพท์ถูกต่อไปยังปลายสายของคนชื่อเดช คนสนิทอีกคนที่ชายหนุ่มสั่งให้คอยเฝ้าดูแลผักหวานอยู่ห่างๆ ก่อนที่รถเบนซ์สีดำปรอดจะพุ่งทะยานไปยังถนนทองหล่อทันทีที่ออกมาจากบริเวณคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยความเร็วที่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นั่นก็ยังคงช้าอยู่ดีในความรู้สึกของทักษ์


ทักษ์กวาดสายตามองไปรอบๆผับอย่างร้อนใจทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามา เสียงเพลงไพเราะที่ขับร้องโดยนักร้องเสียงหวานไม่ได้ทำให้ใจที่ร้อนรุ่มเย็นลงได้แต่อย่างใด พลันโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงก็สั่นไหวอย่างรุนแรงเป็นสัญญาณให้รับรู้ว่ามีสายเรียกเข้า ทักษ์รีบกดรับทันทีเมื่อเห็นรายชื่อที่โชว์บนหน้าจอมือถือ

“ ว่าไงเดช“ ดวงตาคมเข้มเปล่งประกายวาวโรจน์ทันทีที่ได้ฟัง ร่างสูงรีบพลุนพลันออกมาจากผับชื่อดัง ก่อนจะสั่งการผ่านทางโทรศัพท์เสียงเหี้ยม แววตาขณะก้าวเดินกรุ่นไปด้วยเพลิงโทสะที่พร้อมจะแผดเผาทุกคนที่ขวางทางให้ลุกไหม้เป็นจุน

“ ตามไปอย่าให้คลาดสายตา ถ้าคืนนี้ฉันหาผักหวานไม่เจอ ก็ไม่ต้องมีตาไว้มองหาอะไรกันอีก“



ลีจินฮุนโอบอุ้มร่างบางในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม แววตายามทอดมองเต็มไปด้วยความรักอย่างลึกซึ้ง ชายหนุ่มค่อยๆผ่อนร่างบางในอ้อมอกลงบนเตียงนอนขนาดคิงไซด์เมื่อก้าวเข้ามายังบริเวณห้องนอนส่วนตัวอย่างช้าๆ แม้จะรู้ว่าหญิงสาวไม่มีสติรับรู้อะไรแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังระมัดระวังและทำทุกอย่างอย่างเบามืออยู่ดี มือเรียวและขาวใสด้วยกรรมพันธ์ทางเชื้อชาติค่อยๆสัมผัสใบหวานอย่างเบามือเหมือนกลัวว่าถ้าแรงไปคนตรงหน้าจะหายวับไปกับตา ภาพความทรงจำเมื่อครั้งเจอผักหวานครั้งแรกในวันนี้เมื่อสามปีก่อน ค่อยๆแจ่มชัดขึ้นมาราวกับว่าเหตุการณ์นั้นเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เท่านั้น

“ ผู้หญิงไทย ฟังดูไม่เห็นจะน่าสนใจเลยนะพี่ยองจุน“ ลีจินฮุนในวัยยี่สิบสามปี พูดขึ้นขณะนอนเล่นบนเตียงนอนในห้องพักของลูกพี่ลูกน้องตนเอง เรื่องราวระหว่างพี่ชายและคนรักชาวไทยของเขาโด่งดังไปทั่วในหมู่คนคนเกาหลี ด้วยใครๆต่างก็รู้ดีว่าชายหนุ่ม คือทายาทคนเดียวของซนยองกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่ผู้กุมอำนาจเด็ดขาดทางเศรษฐกิจของเกาหลี ทุกการกระทำของเขาล้วนอยู่ในสายตาของเพื่อนร่วมชาติทั้งสิ้น

“ นายไม่เคยเจอ อย่าเพิ่งพูดเลยดีกว่า เดี่ยวจะกลืนน้ำลายลงคอไม่ทัน“ ซนยองจุนพูดโต้ตอบอย่างอารมณ์ดี ขณะหยิบเสื้อโค้ทที่แขวนอยู่มาสวมใส่ วันนี้เขามีนัดปาร์ตี้กับพิชานาฎและเพื่อนๆของเธอที่อพาตเมนต์ของวิชชุดาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของหญิงสาว พิชานาฎบอกว่าวันนี้จะทำอาหารไทยให้เขาลองทานดู เพียงแค่นึกถึงรอยยิ้มก็เกลื่อนไปทั่วใบหน้าของซนยองจุนหนุ่มยิ้มยากประจำตระกูล

ลีจินฮุนได้แต่มองใบหน้าของญาติผู้พี่อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ตั้งแต่เกิดมาเขาจำได้ว่า เห็นรอยยิ้มของคนคนตรงหน้าแทบจะนับครั้งได้ แล้วนี่อยู่ดีๆก็ยิ้มขึ้นมาเพียงแค่พูดถึงแฟนสาว ...ดูท่าเขาจะต้องไปยลโฉมว่าที่พี่สะใภ้ซะหน่อยแล้วว่าเป็นเธอมีดีอะไรกันถึงได้ทำให้หนุ่มยิ้มยากกลายเป็นหนุ่มน้อยผู้มีแต่รอยยิ้มแต่งแต้มบนใบหน้าได้

“ ไปด้วยคนสิ“ ลีจินฮุนเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีพิธีรีตองครั้นเมื่อเห็นว่าพี่ชายไม่ว่าอะไร ชายหนุ่มก็รีบสปริงตัวขึ้นมาจากเตียงนอน ก่อนจะคว้าเอาเสื้อโค้ทที่วางพาดอยู่มาสวมใส่และก้าวเท้าเดินตามเจ้าของห้องออกไปทันที


“ อันยองฮัทเซโย ยองจุนอุมป้า“ เสียงหวานใสดังขึ้นพร้อมๆกับที่หน้าหวานๆในชุดผ้ากันเปื้อนลายน่ารักจะโผล่พ้นประตูห้องพักออกมา ลีจินฮุนผู้ไม่เคยมองเห็นความแตกต่างของผู้หญิงถึงกับชะงักทันทีที่สบตา ลมหายใจของเขาติดขัดขึ้นมาก่อนที่จะสะดุดลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่า ผู้หญิงคนนี้สินะ...ว่าที่พี่สะใภ้ของเขา

“ สวัสดีจ๊ะ ผักหวาน“ ซนยองจุนเอ่ยตอบรุ่นน้องคนสนิทของแฟนสาวเป็นภาษาเกาหลี ชายหนุ่มค่อยๆพูดช้าๆเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในช่วงหัดเรียนรู้ภาษาเกาหลีของตนอยู่และยังไม่คล่องมากนัก

“ นี่น้องชายพี่ ลีจินฮุนเขาขอมาทานอาหารไทยด้วย“ ชายหนุ่มแนะนำญาติผู้น้องของตนให้กับผักหวานที่ยิ้มรับอย่างอัธยาศัยดี ก่อนจะก้าวเท้าเดินตามเข้ามาในห้อง ตอนนั้นเองที่ลีจินฮุนได้รู้ว่าผักหวานไม่ใช่แฟนสาวของลูกผู้พี่อย่างที่เข้าใจในตอนแรก เธอเป็นรุ่นน้องร่วมมหาลัยของพิชานาฎแฟนสาวของซนยองจุนต่างหาก นอกจากผักหวานแล้วเขายังได้รู้จักกับเพื่อนๆของผักหวานและได้เห็นความใส่ใจที่หญิงสาวมีให้กับตะวันเพื่อนสนิทซึ่งนอนป่วยอยู่ ตอนแรกเขานึกว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน หากแต่ก็ไม่ใช่ พิชานาฎบอกว่า ทุกคนเป็นเพียงเพื่อนรักกันเท่านั้น ภาพผักหวานที่เดินเข้าออกระหว่างในครัวกับโซฟาที่ตะวันนอนพักเพื่อคอยเปลี่ยนผ้าชุบน้ำที่ทาบทับบนหน้าผากเพื่อนสนิท รวมไปถึงวิธีการบังคับให้อีกฝ่ายกินยาเหมือนบังคับเด็กตัวเล็กๆ มันทำให้ผู้ชายที่คิดถึงแต่เรื่องเซ็กส์เพียงอย่างเดียวอย่างเขา เริ่มซึมซับความอบอุ่น ในใจเริ่มโหยหาและอยากเป็นคนที่หญิงสาวคอยดูแลเอาใจใส่บ้าง

ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะเห็นใจในคำอ้อนวอนของเขา เพราะในที่สุดซนยองจุนก็ใจอ่อนยอมพาเขาไปร่วมเล่นสกีกับกลุ่มของพิชานาฏจนได้หลังจากที่ตามตื้ออยู่นาน ในทริปนั้นคนอย่างเขายอมที่จะอาบน้ำโดยไม่ผสมน้ำอุ่นและถอดเสื้อเดินบนระเบียงห้องพักตอนกลางคืนเพียงเพื่อให้ตนเองได้กลายเป็นคนป่วยเหมือนเช่นตะวันในวันนั้น ในที่สุดเขาก็ไม่สบายสมใจผักหวานคอยดูแลเขาเหมือนกับที่คอยดูแลตะวัน หญิงสาวยอมไม่ไปร่วมทริปกับคนอื่นและยืนยันที่จะอยู่ดูแลเขาเพียงคนเดียวซึ่งนั่นยิ่งทำให้เขาประทับใจในตัวหญิงสาวจนก่อเกิดเป็นความรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเฉกเช่นทุกวันนี้

ทันทีที่จบทริปเขาก็ขอผักหวานออกเดท แต่หญิงสาวกลับตอบปฏิเสธ เธอบอกว่าไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ และนั่นก็เป็นสาเหตุให้เขากลับไปบอกเลิกผู้หญิงทุกคนที่ควงด้วยในตอนนั้น แต่ต่อให้พยายามเท่าไหร่ สิ่งที่ได้กลับมาก็เป็นเพียงแค่ความเอาใจใส่และน้ำใจอย่างเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้นซึ่งเขาไม่เคยต้องการ เขาไม่ได้อยากเป็นเพื่อน แต่อยากเป็นคนที่ผักหวานอยู่ข้างๆ คอยเอาใจใส่และดูแลเพียงคนเดียวเท่านั้น ลีจินฮุนคิดก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นมาจากเตียงนอน

ต่อให้สิ่งที่เขากำลังจะทำในวันนี้จะถือว่าเป็นการกระทำที่สิ้นคิดเพียงใด ต่อให้ต้องถูกเหยียดหยามที่ใช้วิธีสกปรกมากเพียงไหน และถึงแม้ว่าผักหวานจะเกลียดเขาหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็ตาม แต่เขาก็จะทำ เพราะนี้คือวิธีเดียวที่จะทำให้หญิงสาวคนนี้อยู่ข้างๆกายเขาตลอดไป

ลีจินฮุนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆอย่างเรียกกำลังใจก่อนจะเปิดลิ้นชักชั้นล่างสุดและหยิบกล้องวิดีโอรุ่นใหม่ล่าสุดที่อยู่ภายในออกมา มือของชายหนุ่มสั่นเล็กน้อยขณะเซทโปรแกรมตั้งค่าการถ่ายอัตโนมัติ ก่อนที่กล้องในมือจะถูกจัดวางในทิศทางที่สามารถมองเห็นภาพบนเตียงได้อย่างชัดเจน










Create Date : 17 สิงหาคม 2551
Last Update : 17 สิงหาคม 2551 16:39:08 น. 4 comments
Counter : 307 Pageviews.

 
ตอบเมนท์จ้า

สาวเเสนงอน - - ขอบคุณคร่า อย่าลืมมาทักทายกันอีกนะ ไม่ชอบใจอะไรบอกกันได้ จะได้เอาไปปรับปรุง

ben - - ขอบคุณเช่นกันคร้า . . . ติดตามเเล้วติได้นะจ๊ะไม่ว่ากัน แต่ถ้าชมก็จะดีใจมากกว่า

bee - - มาเเล้วฮับ ทันใจไหมเอ่ย อัพเร็วเเลวตามอ่านให้ทันล่ะ


โดย: ณนาถ(Na_Nath) (Na_Nath ) วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:16:45:03 น.  

 
มาแล้วหนุกดีมาอีกนะ


โดย: bee IP: 118.173.244.207 วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:20:18:21 น.  

 
สนุกดีค่ะ แต่ตอนแรกงงๆ นึกว่ามีหลายหวาน (ลืมอ่านวันที่ค่ะ ว่าย้อนอดีตอยู่)

พรุ่งนี้มาตามอ่านใหม่ค่ะ


โดย: พี่หมูน้อย วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:2:36:05 น.  

 
แหะๆๆ จิงแล้วก้อเข้ามาหลายครั้งแล้วนะค่ะ แต่ต้องขอโทดด้วยที่ไม่ได้เม้นท์ คือพอดีว่า มือใหม่นะค่ะ ยังไม่ค่อยคล่องในการใช้บล็อค วันนี้ว่างๆเลยลองเข้ามาลองใช้ แล้วก้อคือโอกาสเม้นท์ด้วย เนื้อเรื่องในนี้ ตอนที่ผักหวานเจอกับพี่ทักษ์ก้อโอเค นะค่ะ แต่โดยรวมก้อยังสนุกเฟมือนเดิม (แต่ตอนนี้รออ่านหนูจีนอยู่อ่ะค่ะ) อิอิอิ อัพไวๆนะค่ะ


โดย: au_ja IP: 58.136.49.12 วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:14:52:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Na_Nath
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






✎ งานเขียนทั้งหมดในblog นี้ ✎

สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมายพระราช

บัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์

เผยแพร่ หรือ คัดลอกไปกระทำการ

ใดๆก็ตาม..หากผู้ใดกระทำการฝ่าฝืน

เจ้าของ blog สามารถดำเนินการตาม

กฏหมายได้ทุกกรณี (◡‿◡✿)




Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
17 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Na_Nath's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.