จุดเริ่มต้นแห่งความหายนะ? >> คอลัมน์ ทุ่งหญ้าX โดย บอ.บู๋
ในที่สุด....โครงการ "ขนตูดลูกโซ่" ซึ่งผมร่วมมือกับท่านพระครูวิจิตร ธรรมโชติ(เจ้าแห่งจดหมายลูกโซ่)ก็มีอันต้องพังทลายลงไปเป็นทีเรียบร้อย หลังจากพลพรรคราชสีห์น้ำเงินขนตูดสีทองโดนถีบตกรอบเอฟ เอคัพ อย่างบอบช้ำคือก่อนหน้านี้ ผมเคยลั่นสัตย์ปฏิญานเอาไว้บนหน้ากระดาษว่า....ถ้าเชลซี จากภูมิปัญญาสากลของ โชเซ่มูรินโญ่ คว้า 4 แชมป์ได้สำเร็จจริง ผมจะยอมถอนขนตูดหรือขนที่ขึ้นล้อมรอบทวารหนักของตัวเองเป็นจำนวน 50 เส้น ใส่ซองจะหมาย และส่งต่อไปยังผู้อื่นอีก 50 คน (คนละเส้น) เพื่อเป็นการบูชายัญเจ้าพ่อสิงโตทองแห่งสแตมฟอร์ดบริดจ์สำหรับท่านที่ได้รับจดหมายสอดขนตูดของผม ก็ต้องถอนขนตูดของตัวเองใส่ซอง ติดสแตมป์ แล้งส่งให้ผู้อื่นต่ออีก 50 คนเช่นกัน มิเช่นนั้นจะประสบเคราะห์กรรม หรือมีอันเป็นไปต่างๆ นาๆส่วนท่านที่ได้จดหมายขนนตูดลูกโซ่แล้ว ยอมถอนขนตูดตัวเองใส่ซอง ส่งต่อไปในที่ต่างๆ อีก 50 ฉบับ ท่านก็จะประสบแต่ความสุขและความโชคดี ไม่มีที่สิ้นสุดตอนนั้น (ตอนที่ตั้งโครงการนี้ขึ้นมา) ผมคิดว่าในฐานะสื่อมวลชลที่ดี เราจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสดุดีวีรกรรมและความยอดเยี่ยมของเชลซี โทษฐานที่พวกเขามีโอกาสงาบสี่แชมป์เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ลูกหนัง ซึ่งมันไม่ใช่เกิดขึ้นง่ายๆเมื่อได้รับแรงบรรดาลใจจากท่านพระครู "ขูดต๋น" ธรรมโชติ (หรือนามเดิม วิจิตร ธรรมโชติ) ซึ่งสาวกของท่านขยันส่งจดหมายลูกโซ่ให้กู-เอ๊ย-ให้ผมจังเลยครับ (ฉบับล่าสุดเมื่อตอนปีใหม่นี่เอง) จึงได้พุทธิไอเดียว่า...ไหนๆ เราก็ไม่เคยบ้าจี้ทำตามคำสั่งสอนของท่านสักครั้ง (ที่บอกให้เราส่งจดหมายต่ออีก 29 ฉบับ เพื่อความโชคดีมีสุข) เพราะฉะนั้น เราควรทำอะไรที่มันสร้างสรรค์และแปลกใหม่กว่าจดหมายลูกโซ่ธรรมดาบ้างเพื่อเป็นการสนองตัณหาของท่านพระครูด้วยนั่นจึงเป็นที่มาของโครงการ "ขนตูดลูกโซ่" ในกรณีที่ เชลซี ได้ 4 แชมป์น่าเสียดายครับที่ผมไม่สามารถทำตามแรงบรรดาลใจอย่างบรรเจิดที่ได้รับจากท่านพระครูวิจิตร ธรรมโชติ เนื่องเพราะชนกลุ่มแรกที่จะได้รับ "ขนตูด" คือคนข่าวรุ่นน้องบนกองบัญชาการซอคเก้อร์ของพวกเรานี่แหละ ซึ่งเรื่องนี้น้องอาร์ท หรือนายไก่ป่าผู้น่ารักน่ากระทืบยืนยันว่าทันทีที่ได้รับขนตูดลูกโซ่ คนแรกที่เขาจะบรรจงถอนขนตูดใส่ซองส่งไปให้ด้วยความรักและเคารพคือเจ๊ย์หมวย มาเฟียรี่ นั่นเอง (อิอิอิ)แต่สาวทันสมัยอย่างเจ๊ย์หมายของน้องๆ จะเชื่อเรื่องพวกนี้หรือไม่ ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมของเธอถึงบอกไงครับว่ามันน่าเสียดายพูดถึง เชลซี ที่เพิ่งกระเด็นตกรอบ เอฟ เอ คัพ นอกจากมันจะทำให้พวกเขาชวดการทำสี่แชมป์ตามคำคุยโวของ "เฮียเครียด" กุนซือผู้จองหองแล้ว มันยังทำให้พวกเขาอดได้ "ทริปเปิลแชมป์" อีกต่างหาก แม้จะคว้า 3 แชมป์ ที่เหลือก็ตาม เนื่องจากโทรฟี่ คาร์ลิ่ง คัพ ไม่จัดเป็นหนึ่งในสามถ้วยระดับ"ไตรภาคี" ที่ประกอบด้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก พรีเมียร์ชิพ และเอฟเอ คัพหมายความว่าถึงจะได้ 3 แชมป์ (ที่เหลือ) ก็จะเป็น "ทริปเปิลแชมป์" ที่ไม่สมบูรณ์แบบทว่าสาระสำคัญมันไม่ได้อยู่เพียงแค่นั้น การพ่ายศึกที่ เซนต์ เจมส์ ปาร์ก อาจส่งผลกระทบข้างเคียงอย่างรุนแรงต่อ เชลซี ในเส้นทางที่เหลือเนื่องเพราะต้องสังเวยผู้เล่นระดับเสาหลักเพิ่มเติมเช่นเดียวกับความมั่นใจที่อาจประสานงากับความกดดันจนยับเยิน"เฮียเครียด" ถูกกล่าวหาว่าประมาทที่จัดทัพแบบนั้น เช่นเดียวกับการเปลี่ยนผู้เล่นพร้อมกันถึง 3 คน หลังหมดครึ่งแรก ซึ่งไม่ค่อยมีกุนซือที่ไหนเขาทำ แต่อย่าลืมว่าเขาก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน "บิ๊กหอย" เปลี่ยนผู้เล่นทีเดียวพร้อมกัน 3 ตัว แสดงให้เห็นว่ากุนซือวัย 43 ไม่มีเจตนาหมางเมินถ้วยดึกดำบรรพ์อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่โชคเริ่มไม่เข้าข้างเชลซีแล้วบ้างเท่านั้นเองกระนั้นผู้ที่ต้องรับผิดชอบคงหนีไม่พ้นคนหน้ายับอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ เพราะมาตราวัดการวางกลยุทธ์ จัดตัวผู้เล่น และแก้เกมของผู้จัดการทีมจะถูกหรือจะผิด ขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันนั่นแหละหมายความว่าถ้าเชลซีพลิกสถานการณ์ควักชัยชนะออกมาจากถิ่นไทน์ ไซด์ ได้สำเร็จ ผู้ที่จะได้รับคำชมคือ มูรินโญ่ และการเปลี่ยนผู้เล่นทีเดียวพร้อมกันถึง 3 คน จะกลายเป็นการแก้เกมที่ยอดเยี่ยมอย่างกล้าหาญชาญชัยอย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเปลี่ยนผู้เล่นแบบยกชุดยังสะท้อนบุคลิกของ โชเซ่ มูรินโญ่ อย่างชัดเจนว่าเขาเป็นกุนซือแนวขวางโลกที่กล้าได้กล้าเสีย แถมยังกล้าล้อเล่นกับความ....เสี่ยง เสียอย่างเดียวมันเป็นการเสี่ยงที่ยังไม่จำเป็นต้องเสี่ยงผู้เป็นจ่าฝูงแห่งสิงห์บลูจึงถูกมองว่าผลีผลาม พอๆ กะวู่วามที่ทะลึ่งทำอย่างนั้นโดยปราศจากความสุขุม แต่ มูรินโญ่ ก็ไม่ใช่กุนซือคุณภาพบัดซบที่ทำอะไรไม่ยั้งคิด ผมหมายความว่าเขารู้อยู่แล้วว่าการเปลี่ยนตัวในลักษณะนี้คือการ "เสี่ยง" ประหนึ่งว่ายน้ำแข่งกะจระเข้ และในเมื่อยอมเสี่ยงแล้วก็ต้องกล้าที่จะชนกับความสูญเสียหรือผิดหวังแต่เสี่ยงแบบห้าวๆ อย่างนี้ เด็กช่างกลหมีแพนด้าวิทยายังต้องอุทานว่า "แม่งโคตรบ้า"เพราะถ้าไม่บ้าคงไม่กล้าทำอย่างนั้นและเมื่อความปราชัยคือคำตอบของการเสี่ยงครั้งนี้ นั่นหมายถึงความผิดพลาดของเฮียเครียดถึงแม้มุมนึงมันอาจแสดงให้เห็นถึงการติดสินใจที่ห้าวหาญและเด็ดเดี่ยว อีกมุมนึงมันยังบ่งถึงความใจร้อนจนเกินไปของเขาอีกด้วยขออนุญาตตั้งกระทู้ถามว่าทำไมถึงต้องใจร้อนขนาดนั้น ทั้งที่เพิ่งตามหลังเพียงประตูเดียวจุดนี้ มันอาจบ่งบอกถึงสภาพความกดดัน ซึ่งซ่อนเร้นอยู่ในจิตใจของ โชเซ่ มูรินโญ่ตามหลักกุนซือศาสตร์ ไม่พบว่าบ่อยครั้งว่าโค้ชหรือผู้จัดการทีมคนใดเปลี่ยนผู้เล่นรวดเดียว 3 ตัว ในช่วงพักครึ่งและส่วนใหญ่พบว่าการกระทำแบบนี้มักจะเกิดขึ้นในยามคับขันหรือต้องจวนตัวเท่านั้นอธิบายง่ายๆ ว่าเฮียแกตัดสินใจที่จะ "เสี่ยง" เร็วเกินไป ทั้งที่ยังไม่จำเป็นทำไมเขาไม่ยอมดูสถานการณ์เฉพาะหน้าต่อไปเรื่อยๆเสียก่อน แล้วค่อยๆ เปลี่ยน ทีละคน สองคน และตัดสินใจเสี่ยงเมื่อไม่มีอะไรจะเสีย(เช่นถอดกองหลังแล้วส่งกองหน้าลงไปเพิ่ม)คำตอบที่อาจเผยให้เห็นถึงสภาพจิตใจที่เริ่มแกว่งของ มูรินโญ่ อาจเป็นได้ที่เขากลัวความพ่ายแพ้มากเกินไปและไม่รู้จักรับมือกับความกดดันยามโดนนำที่ดีพอบางทีอาจเป็นเพราะพลพรรคสิงห์น้ำเงินในยุคของกุนซือจอมโอหัง ไม่คุ้นเคยกับการตามหลังคู่แข่งโอเคย์...เชลซีบนกองเงินกองทองของเสี่ยหมีอาจได้ชื่อว่าเป็นทีมที่มีขุมกำลังอันสมบูรณ์แบบ และสามารถลงมาทดแทนกันได้อย่างไม่เหลื่อมล้ำ แต่การกระทำของผู้เป็นกุนซือกลับบอกเราว่าเขาไม่ไว้ใจนักเตะชุดแรกที่ตัวเองจัดลงไปเผชิญหน้ากับนิวคาสเซิ่ล ด้วยซ้ำ(ถึงต้องรีบส่งตัวหลักลงไปกู้สถานการณ์)มูรินโญ่ ต้องการชัยชนะแบบรวบรัดและตัดตอน เขาคงมั่นใจในระดับหนึ่งว่าการส่ง ดาเมี่ยน ดัฟฟ์ , ไอเดอร์ กุ๊ดยอนห์เซ่น และแฟร้งค์ แลมพาร์ด ลงไปพร้อมกันจะช่วยให้เชลซีกลับมา ถึงต้องยอมเสี่ยง (หรือยอมทำอะไรบ้าๆ แบบนั้น) ขณะเดียวกันมันแสดงให้เห็นถึงสภาพจิตใจที่ไม่นิ่ง ไม่มั่นคง ไม่เยือกเย็น พอๆ กับความร้อนรนของผู้แก้เกมเช่นกันหมายความว่าลึกๆ แล้ว เชลซี หรือแม้แต่ โชเซ่ มูรินโญ่ ชักไม่มั่นใจว่าตัวเองจะรักษาฤทธิเดชล้ำเลิศของตัวเองไปจนตลอดรอดฝั่ง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องปราศจากแนวรุกระดับนรกต้องซูฮกทั้งให้ทั้งอาร์เยน ร็อบเบน และดาเมี่ยน ดัฟฟ์ ในเส้นทางที่โรยด้วยเศษกระเบื้องทิ่มตีน แน่นอนว่าการเสียกุญแจสำคัญพร้อมกัน มีค่าเท่ากับการเสียสมดุลในทีม ซึ่งอาจมีผลต่อมาถึงแรงพลังในการขับเคลื่อน และความบอบช้ำจากนัดล่าสุด อาจทำให้ ช่วง เชลซี เป็น เชลซี ที่แทบไม่ต่างจากหนอนที่เพิ่งลอกคราบใหม่ๆ ซึ่งเป็นช่วงที่อ่อนแอที่สุด ถ้าจะกระทืบให้ยุบก็ต้องอาศัยช่วงเวลานี้แหละครับ ท่านเซอร์ และ ป้าแหวง โปรดทราบนอกจากจะต้องติดตามด้วยใจระทึกพลางทำจมูกบานเข้าบานออกบานเข้าบานออกรอดูว่า "เฮียเครียด" จะแก้ปัญหาอย่างไร และด้วยวิธีไหนแล้ว มันยังบอกเราอีกว่าประตูสู่แชมป์พรีเมียร์ชิพของทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล กลับมาเปิดกว้างอีกครั้งอย่างไม่เป็นทางการและบางทีความปราชัยเพียงนัดเดียวที่ เซนต์ เจมส์ ปาร์ก อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความหายนะของ เชลซี ก็ได้....ใครจะไปรู้รู้แต่ว่าถึงโครงการ "ขนตูดลูกโซ่" สดุดี 4 แชมป์ มีอันต้องยกเลิกไปแล้ว แต่ผมและท่านพระครูวิจิตร ธรรมโชติ ยังไม่หมดกำลังใจง่ายๆ ครับในเมื่อเชลซีไม่มีทางเป็น 4 แชมป์อย่างแน่นอนแล้ว ผมในนามผู้เป็นสถาบันแห่งรูตูด จึงกราบขออนุญาตผู้อ่านตั้งโครงการ "ขนตูดลูกโซ่" ฉบับ "รีเมก" ขึ้นมาใหม่อีกครั้งในนาม "The Return of The chain Hair Ass Hole Project" กรณีที่สโมสรโคตรเศรษฐีแห่ง เดอะ บริดจ์ เสียหลักไถลไปชนความหายนะ ไม่ได้แชมป์ห่.....อะไรเลยสักอันถ้า เชลซี ชวด 4 แชมป์ จริงๆ ผมจะยอมถอนขนตูดตัวเอง 29 เส้น ใส่ซองจดหมายส่งต่อไปอีก 29 ฉบับ จึงขอเรียนเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาครับบอ.บู๋Tungya_x@hotmail.comอันนี้เป็นตัวอย่างจดหมายลูกโซ่ขอให้ท่านนำเรื่องนี้ไปบอกต่อเป็นวิทยาทาน ท่านจะมีความสุขตลอดกาล ตำรานี้ใช้แก้โรครูตูดตะลึง ผู้เป็นโรครูตูดตะลึงจะหายโดยไม่คาดคิด สำหรับโรครูตูดตะลึง ถ้าได้รับประทานยานี้จะหายภายใน 9 วันวิธีรักษาไปที่ร้านขายยาจีน ซี้อปลัดขิกบดเป็นผง 1 ตำลึง ซื้อหัวขิง 1 ตำลึง ก้อนเกลือ 1 ตำลึง นำมารวมกันแช่ทิ้งไว้ 1 วันในน้ำ 1 ชาม ใช้ดื่มทั้งวันทั้งคืนจนหมดชามสรรพคุณในการรักษาหลังจากดื่มยานี้แล้วควรดื่มน้ำตามมากๆ นำส่วนที่เหลือมารับประทาน ยานี้จะขับเอาของเสียออกมาทางอุจจาระ หรือ ปัสสาวะ ไม่ต้องตกใจ เป็นการขับของเสียออกมาทางรูตูดจนหมด จะเป็นปกติ ตำรานี้ห้ามซื้อขายหรือคิดเป็นค่ารักษา และขออย่าได้เก็บไว้เป็นส่วนตัวเด็ดขาด หากท่านให้ผู้อื่นด้วยใจศรัทธาและกุศลจิต ท่านและครอบครัวจะมีแต่ความสุข ความสมหวังทุกประการคุณนิมิตร เจ้าคุณวัดกลาง ให้ท่านบอกเถิดตัวอย่าง-ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อลไม่ยอมบอกต่อก็ถึงแก่ความหายนะ คาถิ่นตัวเอง อาการ "รูตูด" ตะลึงยังไม่หายขาดจนถึงบัดนี้ -คุณ อัญชลีย์ โคล อยู่เฉยๆ ได้รับจดหมายแล้วไม่ทำตามที่พระครูบอก ดันให้ "นายหน้า" ทำแทน นายหน้าถูกรางวัลที่ 2 ถึง 2 ฉบับ ส่วนตัวเองถูกจับได้ว่าแอบนอกใจไปเล่นชู้กับผู้อื่นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง-คุณโชเซ่ มูรินโญ่ ได้รับจดหมายแล้ว ไม่ปฏิบัติตามที่พระครูบอก เพียง 10 วัน ตกรอบ 3 รายการ (เอฟเอคัพ แชมเปี้ยน ลีกและ คาร์ลิ่ง คัพ)และอาจถูกตัดอีก 4 แต้ม -ท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้รับจดหมายแล้วส่งไป 20 ฉบับ ลูกทีมพากันป่วยกะทันหัน แถมบาดเจ็บอีกหลายคนผลงานห่วยแตกหลังจากนั้นจึงส่งต่อไป 29 ฉบับ ปรากฏว่าลูกทีมหายป่วย แล้วถูกรางวัลที่ 1 ถึง 3 ฉบับ มีความสุขมากๆ-ส.ส.จังหวัดชลบุรีไม่ยอมบอกต่อก็ถึงแก่กรรม เมื่อท่านได้อ่านจดหมายแล้ว กรุณาบอกต่อไปในที่ต่างๆ 29 ฉบับ ท่านจะประสบแต่ความสุขและความโชคดี ไม่มีวันสิ้นสุด มีผู้ไม่เขียน ไม่ศรัทธา ไม่ปฏิบัติตามเหมือน ส.ส.จังหวัดชลบุรี ที่ไปราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ 7 วัน ก็หัวใจวายถึงแก่กรรม จดหมายฉบับนี้ ห้ามแจกตามหมู่บ้านเป็นอันขาด ตามตำราผีบอกต้องมีครองแล้ว ส่งต่อแล้วซื้อล็อตเตอรี่เลขอะไรที่ท่านชอบ ไม่เชื่อลองทำตามขอให้โชคดีพระครู "ขูดต๋น" ธรรมโชติ***ฮ่า ฮ่า ฮ่าๆๆๆๆๆ อ่านแร้วฮามากเรยค่ะ พี่บู๋เค้ามีอารมณ์ขันซะเหลือเกินเจงๆ อย่าซีเรียสนะคะ อ่านไปยิ้มไปกับความคิดกับมุมมองของพี่เค้า กับเรื่องจดหมายลูกโซ่ ที่ท่าทางพี่บู๋คงจะได้รับเยอะมาก จนนำมาเขียนให้มันเป็นเรื่องตลกได้และที่ชอบมากก้อตอนที่ว่าเฟอร์กี้นี่แหละ อิ อิ เซอร์ยอมทำตามด้วยการส่งต่อไปอีก 29 ฉบับ แล้วปรากฏว่าถูกรางวัลที่ 1 ถึง 3 ฉบับ มีความสุข 55555+(3 ฉบับของพี่เค้าม่ายรุว่าหมายถึง 3 แชมป์รึป่าวคะ) นำมาให้อ่านกันค่ะ ขอบคุณพี่บอ.บู๋ หนังสือพิมพ์สตาร์ซอคเก้อร์
หรือว่าเป็น.......(นักขุดทอง)
ฮ่าๆๆๆ