เมษายน 2555

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
รีวิว วิตามินซี part 1



วิตามินซี



  จากรูป : Ascorbic Acid Structure

ถึงแม้ว่าการใช้และการวิจัยวิตามินซีจะมีต่อเนื่องกันมาเป็นเวลายาวนาน ย้อนหลังไปหลายศตวรรษแล้ว ตั้งแต่ที่มีการค้นหาสาเหตุของการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟันหรือลักปิดลักเปิดในหมู่กะลาสีเรือ ซึ่งรอนแรมกันอยู่ในทะเลเป็นเวลานาน จนกระทั่งตอนนี้ เราก็ยังต้องศึกษากันอีกมากว่า... วิตามินซีทำงานอย่างไรในร่างกายของเรา เราทราบว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตในไม่กี่ชนิดที่ไม่สามารถสร้างวิตามินซีเองได้ แต่เราก็ยังคงไม่ทราบเหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร แต่เมื่อความรู้เรื่องสารแอนตี้ออกซิแดนท์แพร่หลายมากขึ้น การกินวิตามินซีเพิ่มขึ้น ก็น่าจะเป็นความคิดที่ดี

                 จากกระแสผิวขาวใส ในปัจจุบันทำให้วิตามินซีได้รับความสนใจอย่างมากในหมู่หนุ่มสาวที่อยากสวยอยากหล่อทั้งหลาย ทำให้มูลค่าการซื้อขายวิตามินซีเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ โฉบลงมารับส่วนแบ่งนี้กันอย่างมากมาย มีการโหมทำการตลาดอย่างหนักหน่วง โปรโมทสารพัด ให้ข้อมูลที่เป็นจริงบ้าง ปิดบังอำพรางบ้าง พูดความจริงแค่ส่วนหนึ่งบ้าง ก็แล้วแต่นโยบายของแต่ละแบรนด์ แต่ที่น่าเป็นห่วงมากยิ่งกว่านั้นก็คือ พ่อค้าแม่ขายที่รับมาขายอีกทอดหนึ่ง ยิ่งใช้คำโฆษณาที่ "เกินจริง" ไปมากอยู่หลายประเด็น ส่งผลให้วัยรุ่นหนุ่มสาวที่ขาดวิจารณญาณ "หลงเชื่อ" ทำโฆษณาเหล่านั้น ทั้งๆที่วิตามินซีหลายตัวที่ขายๆกันอยู่นั้น บางทีไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าวิตามินซีธรรมดาๆตัวหนึ่ง หรือ ส่วนประกอบไม่ครบถ้วน หรือส่วนประกอบที่ใส่มาไม่ได้เสริมฤทธิ์วิตามินซีแต่อย่างใด หรือ ใส่สารที่ยังไม่ได้รับการรับรอง ฯลฯ สิ่งต่างๆเหล่านี้ดูเหมือนว่า พวกเราจะไม่ได้ใส่ใจ ไม่ได้สนใจ อาศัยเพียง "เสียงลือเสียงเล่าอ้าง" หรือ โฆษณาที่ใช้คำแรงๆ อย่างเช่น ประสิทธิภาพสูงสุด แรงที่สุด ขาวที่สุด ใสที่สุด สุดยอดแห่งเทคโนโลยี เห็นผลตั้งแต่เม็ดแรก กินแล้วจะขาวใสเหมือนดาราเกาหลี ฯลฯ ก็เชื่อ ใครบอกว่าดี ก็เชื่อตามเค้า ยิ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ยิ่งได้รับการเชื่อถือ ผมจึงอยากให้ทุกๆคนคิดเยอะๆ ก่อนเลือกซื้อวิตามินซีซักตัวมากิน เพื่อความปลอดภัยของเราเองนะคับ




ประโยชน์ที่จะได้รับจากวิตามินซี

1.เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง และป้องกันโรคอันเป็นผลมาจากอนุมูลอิสระ เช่น มะเร็ง หรือโรคชราต่างๆ

2. ป้องกันการเกิดปฎิกิริยาออกซิเดชันของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี(LDL)

3. ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะจากการวิจัยพบว่า วิตามินซีจะไปช่วยเพิ่มระดับกลูต้าไทโอนใน lymphocytes (เป็นเซลล์ที่สร้างเม็ดเลือดขาวประมาณ 25% ในเลือด) จึงทำให้เม็ดเลือดขาวมีความสามารถในการโจมตีและโอบล้อมแบคทีเรียที่บุกรุกเข้ามาได้ นอกจากนี้วิตามินซียังทำหน้าที่เร่งกระบวนการผลิต อินเตอร์เฟียรอนของเซลล์ ซึ่งอาจเป็นสารสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส อีกทั้งวิตามินซียังเป็นสารสำคัญที่มีส่วนร่วมในการผลิตเอนไซม์กลุ่มที่มีความจำเป็นสำหรับร่างกายในการทำลายยาและสารเคมีอื่นๆที่ร่างกายถือว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม

4. ช่วยป้องกันมะเร็งหลายชนิด

5. ช่วยต่อต้านการสร้างสารไนโตรซามีน(สารก่อมะเร็ง)---ใครชอบกินหมูกระทะ ไส้กรอก เบคอน เนื้อรมควันชนิดต่างๆ แหนม หมูยอ ระวังให้ดีนะ

6. ต่อชีวิตให้เซลล์ โดยช่วยให้โปรตีนในเซลล์เกาะเกี่ยวกันได้ดีขึ้น

7. เพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ ทางลำไส้ เนื่องจาก วิตามินซี จะไปลดศักย์ทางเคมีและและทำให้เหล็กกลายเป็นเหล็กซีเลต ทำให้เหล็กถูกดูดซึมได้ง่าย หากพี่น้องเป็นโรคเลือดจางชนิดขาดธาตุเหล็ก ควรกินธาตุเหล็กชนิดเม็ดธรรมดาพร้อมกับวิตามินซีสัก 100-200 มิลลิกรัม วิธีนี้จะทำให้ธาตุเหล็กถูกดูดซึมเพิ่มขึ้นอีกราว 30-40 % ครับ นอกจากนั้น วิตามินซียังไปเปลี่ยนกรดโฟลิกให้อยู่ในรูปที่ทำงานได้คือ ไดไฮโดรโฟลิก คร้าบ เพราะฉนั้นบางทีการขาดวิตามินซี อาจมีอาการคล้ายกับอาการเลือดจางจากการขาดกรดโฟลิกได้นะครับ เพราะความเกี่ยวเนื่องกันของกรดโฟลิกและวิตามินซีนั่นเอง

8. ช่วยลดระยะเวลาในการเป็นไข้ (10% ในผู้ใหญ่ 15% ในเด็ก)

9. ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน

10. รับบทเป็นพระเอกในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างและซ่อมแซมเซลล์เนื้อเยื้อต่างๆ มีผลต่อสุขภาพผิวที่ดี ถ้าปริมาณของวิตามินซีน้อยเกินไปจะทำให้ไม่มีการสร้างคอลาเจน ขบวนการซ่อมแซมก็จะเชื่องช้า ไร้ประสิทธิภาพ กระดูกก็จะอ่อน เอ็นและผนังหลอดเลือดก็จะอ่อนแอไปตามๆกัน ยังผลให้แบคทีเรีย และไวรัสแทรกซึมเข้าร่างกายได้ง่าย จนเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อตามมา (เนื่องจากว่า คอลลาเจน ประกอบด้วย ไฮดรอกซีโพลีน และ ไฮดรอกซีไลซีน แล้วกรดอะมิโนที่ได้รับการเติมอนุมูลไฮดรอกซีเหล่านี้ ถูกสังเคราะห์มาจากวิตามินซีนั่นเอง ดังนั้น การขาดวิตามินซีจึงทำให้เกิดความบกพร่องในการสร้างคอลาเจน บกพร่องในการสมานแผล หากมีวิตามินซีไม่พอเนื้อเยื้อบริเวณรอบๆเส้นเลือดฝอยจะฉีกขาดพลอยทำให้เส้นเลือดฝอยฉีกไปด้วยทำให้เลือดซึมออกมารอบๆ เกิดเป็นสีดำและสีฟ้า หรือเรียกกันว่า "เปื้อนพลายน้ำ")

11. ลดความดันโลหิตได้ อ่ะเชื่อมะ แค่กินวันละ 500 mg เท่านั้น แต่ถ้าใครเป็นเบาหวานแล้วจะกิน ควรปรึกษาผมก่อนหรือปรึกษาแพทย์ประจำตัวของพี่น้องก่อนกินนะครับ 

12. วิตามินซีในรูปของเครื่องสำอางค์ทาผิว จะช่วยป้องกันผิวหนังไม่ให้ถูกทำลายโดยแสงแดด ต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากปัจจัยภายนอกเช่น แสงแดด มลพิษ สารเคมี และยังช่วยสร้างคอลาเจน จึงช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ช่วยให้ผิวนุ่มใส ไม่หยาบกร้าน

13. วิตามินซีช่วยการดูดซึม สารสกัดเห็ดหลินจือ เบต้ากลูแคน โอพีซี และสารที่ดูดซึมดีในสภาวะกรด

14. ลดความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เนื่องจากว่า วิตามินซีจะเร่งให้ต่อมหมวกไตผลิตคอร์ทิโซนและฮอร์โมนชนิดอื่นๆ ที่ทำหน้าที่รับมือกับความเครียด ดังนั้นต่อมหมวกไตจึงมีวิตามินซีสูงมาก อีกทั้ง วิตามินซี ยังไปเติมอนุมูลไฮดรอกซี ให้กับ "โดปามีน" ให้กลายเป็นสารสื่อประสาทที่ชื่อคุ้นหู ก็คือ "นอร์อิพิเนฟริน" นอกจากนี้ วิตามินซี ยังมีความสำคัญต่อการสังเคราะห์ เแอล-คาร์นิทีนSmiley อีกด้วย

15. วิตามินซีเพียงเล็กน้อยก็ช่วยสลายคอเลสเตอรอลในเลือดได้

   และสรรพคุณอื่นๆอีกแสนล้านสิ่ง ยิ๊บย่อยไปหมด ที่ยังไม่ได้กล่าวถึง และ กำลังเป็นหัวข้อในการวิจัยในปัจจุบัน


ผลเสียของวิตามินซี

1. งดกินวิตามินซีหรือระมัดระวังการใช้วิตามินซี ในผู้ที่เป็นนิ่วในไต โรคไต โรคฮีโมโคมาโตซิส (Hemochromatosis --เป็นโรคทางพันธุกรรม โดยร่างกายจะเก็บสะสมเหล็กไว้ในร่ากาย) โรคเกาท์ โรคตับแข็ง และผู้ป่วย G6PD

2. วิตามินซีอาจทำให้ผลการตรวจปัสสาวะบางอย่างผิดไป เช่น การตรวจวัดระดับสเตอรอยด์ตามธรรมชาติ การตรวจวัดระดับน้ำตาลในปัสสาวะ (จะทำให้พบว่ามีระดับน้ำตาลสูง) แต่ต้องกินวิตามินซีในปริมาณที่สูงถึงจะเกิดผลเช่นนี้ หรือ อาจจะทำให้การตรวจเลือดบางอย่างแปลผลผิดไป เช่น การตรวจวัดค่าบิลิรูบิน(ดัชนีวัดประสิทธิภาพของตับ) ผิดความเป็นจริงไป หรือ อาจจะทำให้อ่านค่าคอเลสเตอรอลได้ต่ำลง(สำหรับผู้มีอายุต่ำกว่า 25 ปี) และ วัดได้สูงไป (สำหรับผู้ที่มีปัญหาคอเลสเตอรอลอยู่ก่อนแล้ว) ทำให้การอ่านระดับกรดยูริก สูงเกินจริง ทำให้ผลตรวจอุจจาระให้ผลผิด คือเป็นลบ อาจทำให้การแปลผลเกี่ยวกับ โรคเบาหวาน มะเร็งลำไส้ รวมถึงการตรวจมะเร็งปากมดลูก (แป๊ปสเมียร์) และจำนวนเม็ดเลือดแดง ผิดเพี้ยนได้ พี่น้องที่กำลังจะไปตรวจโรค ควรงดกินวิตามินซีไปก่อน หรือแจ้งแพทย์ก่อนทำการตรวจ

3. หากโลภกินมาก(เกิน 2000 mg/day) หรือ กินไม่ถูกวิธี อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น เกิดนิ่วในไต อาเจียน ท้องเสีย ท้องร่วง เป็นต้น

4. ห้ามกินวิตามินซีร่วมกับ
Smileyพี่น้องที่กินโสม โปรดฟัง ห้ามกินวิตามินซีพร้อมกับโสมนะฮัฟ ถ้าจะกินต้องเว้นก่อนหรือหลังอาหารประมาณ 2 ชั่วโมง
Smileyยาในกลุ่มซัลฟาและกรดอะมิโนซาลิซิลิก(PAS)--ยารักษาวัณโรค เพราะจะเพิ่มโอกาสให้ยาตกผลึกในน้ำปัสสาวะ แต่ต้องกินวิตามินซีปริมาณสูงถึงจะเกิดภาวะนี้
Smileyยารักษาอาการซึมเศร้าประเภท ไทรไซคลิน เนื่องจากวิตามินซีจะไปลดปริสิทธิภาพของยา โดยเพิ่มอัตราการขับออกนอกร่างกาย
Smileyแอลกอฮอร์ วิตามินซีจะไปเพิ่มอัตราการทำลายแอลกอฮอร์ในร่างกายขึ้นเล็กน้อย ซึ่งอาจจะทำให้เมาน้อยลงเพราะการขับแอลกอฮอร์เร็วขึ้น แต่ต้องกินวิตามินซีปริมาณสูง และกินติดต่่อกันเป็นเวลานาน
Smileyเอสโตรเจน เพราะวิตามินซีจะไปเพิ่มระดับเอสโตรเจนให้สูงขึ้นทำให้เกิดอาการเป็นพิษได้
Smileyยาลดความหนืดของเลือดชนิดรับประทาน เนื่องจากวิตามินซีจะไปขัดฤทธิยาลดความหนืดของเลือด แต่ต้องกินมากกว่าวันละ 10 กรัม
Smileyยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน โดยเนื่องจากวิตามินซีเพียง 1 กรัม ขึ้นไปจะไปเพิ่มระดับเอสโตรเจน ทำให้เกิดพิษได้ (ก่อมะเร็งที่เกี่ยวเนื่องกับฮอร์โมนในระยะยาว เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม เป็นต้น)
Smileyวิตามินบี 12 เนื่องจากวิตามินซีจะไปช่วยการดูดซึม บี12 เมื่อกินตามขนาดปกติ แต่ถ้ากินในปริมาณมาก จะไปทำลาย บี12 ที่มีอยู๋ในอาหาร
Smileyทองแดง(Cu) เนื่องจากวิตามินซีจะไปลดการดูดซึมทองแดงแต่ต้องกินวิตามินซีในปริมาณสูง

ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับวิตามินซี

1. วิตามินซีเป็นน้ำตาลชนิดหนึ่งซึ่งโมเลกุลเปลี่ยนรูปไป และเป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้ หน้าที่สำคัญประการหนึ่งของวิตามินซีก็คือ "เป็นสารจับออกซิเจนชนิดละลายน้ำ" และ "เป็นสารเก็บกวาดอนุมูลอิสระ"

2. คนที่สุบบุหรี่ต้องกินวิตามินซีเยอะขึ้นกว่าปกติ และ เมื่อเครียดวิตามินซีจะถูกใช้หมดไปอย่างเร็วเว่อร์ ดังนั้นเวลาเครียดๆ ควรกินวิตามินซีเพิ่มขึ้นจากเดิมครับ

3. ขนาดแนะนำ คือ 500 mg-4000 mg (ถ้ากินเกิน 750 mg ต้องกินแมกนีเซียม+B6+กินน้ำเยอะๆ ด้วยนะ จะได้ไม่เป็นนิ่ว) อืม อีกอย่างนึงคนที่เป็นโรคทาลัสซีเมีย หรือ ฮีโมโครมาโตซีส กินโดสสูงไม่ได้นะ และผมก็ไม่อยากให้พี่น้องกินเกินวันละ 2000 mg ด้วยเพราะมันอาจส่งผลข้างเคียงได้ เช่น คลื่นใส้ อาเจียน เป็นต้น ถึงแม้ว่าอยากสวย อยากหล่อ ก็อย่าให้เกิน 2000 mg เห๊อะ ขอร้อง ถ้ากินแล้วมีอาการดังกล่าวก็ปรับลดขนาดยาลงนะ จำไว้ว่า ทางสายกลางดีที่สุดนะฮ๊าฟฟฟ

4. ในการทดลองเกี่ยวกับความกระจ่างใสของผิว ลดเลือนจุดด่างดำ ต้องกินวันละ 2000 mg - 3000 mg ถึงจะเห็นผล (โอ้แม่เจ้า จะเยอะไปใหน ผมว่า 3000mg ไม่ไหวนะ) 

5. คนที่ต้องสูดดมแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็นประจำต้องกินวิตามินซีให้เยอะขึ้นกว่าปกตินะ เพราะแก๊สชนิดนี้ทำลายวิตามินซี

6. พี่น้องที่กินยาคุม ก็ต้องกินวิตามินซีให้เยอะกว่าปกติ (มากกว่า 90 mg เล็กน้อย)

7. ต้องกินพร้อมกับ เกลือซิตรัสSmiley วิตามินอี หรือ โอพีซี แคลเซียมSmileyและแมกนีเซียมSmiley จะทำให้วิตามินซีมีพลังสุดๆ(supercharger)

8. พี่น้องที่กินแอสไพริน ก็ต้องกินวิตามินซีให้เยอะกว่าปกติ 

9. ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าวิตามินซีชนิดพิเศษ เช่น เอสเทอร์ไบโอ ฯลฯ จะดีกว่า กรดแอสคอร์บิกธรรมดาๆ ทำให้พี่น้องสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

10. วิตามินซี 200 มิลลิกรัมจะทำให้ปริมาณความอิ่มตัวในเลือดอยู่ที่ 80% เนื่องจากระบบเอนไซม์จะ "อัด" วิตาวินเข้าสู่เซลล์โดยตรง ดังนั้น ทั้งเซลล์เม็ดเลือดละเซลล์เนื้อเยื่อของร่างกายจะอิ่มตัวไปด้วยวิตามินซีในปริมาณ 200 มิลลิกรัม แต่ถ้าหากต้องการให้วิตามินซีอิ่มตัวในเลือดต้องกินวิตามินซี 500-1000 มิลลิกรัมต่อวัน

11. แหล่งวิตามินซีที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่ในผลไม้ตระกูลส้ม ตามที่พี่น้องเข้าใจกัน แต่ แหล่งที่ดีที่สุดของวิตามินซีคือ โรสฮิพส์ บรอกโคลี กระหล่ำปม พริกหวาน มะขามป้อม เป็นต้น

12. วิตามินซีเป็นสารที่ไม่มีความคงตัว มักจะถูกทำลายได้ง่าย เช่น ในผลไม้แห้ง วิตามินซีจะถูกทำลายไปกว่า 54 % เลยทีเดียว นอกจากนี้ วิตามินซียังสลายตัวง่ายเมื่อเจอกับแสงและอากาศ และหากเก็บผักผลไม้เป็นเวลานานๆ เอนไซม์ในผลไม้เองก็จะทำลายวิตามินซีในผลไม้นั้นด้วย!!! อีกทั้งการเก็บเกี่ยวผลไม้ มักเก็บเกี่ยวเมื่อผลไม่แก่จัด หรือ ยังไม่สุกดี ดังนั้นการผลิตวิตามินซีจึงยังไม่ครบถ้วนตามปริมาณที่ควรจะเป็น หรือ จะเป็นการแช่แข็ง การแช่แข็งไม่ทำลายวิตามินซีหรอก แต่ วิตามินซีจะสลายตัวอย่างรวดเร็วในตอนที่เรากำลังรอให้น้ำแข็งละลาย!!! ยังมีอีกนะ การหุงต้ม ก็ยังทำให้เสียวิตามินซีไปกว่า 30-60% เลยทีเดียว หรือ การปรุงอาหารที่ทำในภาชนะเหล็กหรือทองแดง วิตามินซีจะถูกทำลายไปเกือบหมด ดังนั้นพี่น้องคิดว่าจะเหลืออะไรบ้างที่มีวิตามินซีสูงรอบๆตัวเรา ทั้งผักผลไม้ตามซุปเปอร์มาเก็ต  น้ำส้มแท้ 100 % แบบกระป๋อง ผักผลไม้ที่ผ่านการหุงต้ม เหล่านี้พบว่าแทบไม่มีวิตามินซีเหลือเลย



วิตามินซีที่ควรเลือกซื้อ

1.เนื่องจากวิตามินซีจะถูกขับออกจากร่างกายภายใน 2-3 ชั่วโมง ดังนั้นพี่น้องต้องเลือกแบบแตกตัวช้าๆ (8 ชั่วโมงขึ้นไป) และควรแบ่งกินเช้าเย็น แต่หากเป็นสูตรแตกตัวเร็ว ควรแบ่งกินเช้า กลางวัน เย็น พร้อมอาหาร (หากเป็นสูตรระคายเคืองกระเพาะอาหาร) หรือเวลาใหนก็ได้ ขณะท้องว่างก็ได้ (หากเป็นสูตรไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร) เพื่อให้ระดับวิตามินซีในเลือดสูงตลอดเวลา ให้กินทีละ 200 mg - 500 mg ก็พอ ไม่ต้องโลภกินทีละ 1000 mg เสียเงินเปล่า เหมือนเอาเงินไปทิ้ง เพราะร่างกายไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทัน สมมติร่างกายรับได้ทีละ 300 mg แต่พี่น้องเล่นกินไป 1000 mg มันก็เหลือ 700 mg แล้วไปใหน แน่นอน...ฉี่ออกนั่นเอง เงินทั้งนั้น 

2. ต้องมีเกลือซิตรัส(ประกอบด้วยไบโอฟลาโวนอยด์ประมาณ 100 mg ทุกๆวิตามินซี 500 mg  และปริมาณไบโอฟลาโวนอยด์ 500 mg ต่อรูตินและเฮสเพอริดิน 50 mg แต่ถ้ารูตินและเฮสเพอริดินไม่เท่ากัน รูตินควรมีประมาณ 2เท่าของเฮสเพอริดิน แต่ปกติจะกินอย่างละ 100 mg นะไม่ยุ่งดี) หรือ มี dihydroquercetin (เป็นพวก flavonoid ครับ) หรือ มีวิตามินพีSmiley เพราะมันจะทำให้วิตามินซีมีประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยคงความเข้มข้นของวิตามินซีในร่างกาย ช่วย recycle วิตามินซีโดยสามารถกลับมาทำงานใหม่ได้อีก และช่วยไม่ให้วิตามินซีถูกทำลายจากปฎิกิริยาออกซิเดชัน

3. วิตามินซีจากโรสฮิปเป็นแหล่งวิตามินซีตามธรรมชาติที่ดีที่สุด (แต่ไม่ได้หมายความว่าวิตามินซีจากธรรมชาติจะดีกว่าแบบสังเคราะห์)

4. อาจจะเลือกที่ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหารก็ได้ฮ๊าฟ

เห็นมั๊ยครับพี่น้อง ว่าจะเลือกวิตามินซีซักขวดเนี๊ย มันยุ่งยากแค่ใหน เอาล่ะ ทีนี้การที่เราจะได้วิตามินซีที่มีสมบัติดังที่กล่าวมาครบทุกข้อเลย คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากปัจจัยในการผลิตหลายอย่าง ผมจึงจะให้คะแนนหนักไปทางส่วนผสมและความสามารถในการแตกตัวเป็นหลักนะครับ  เอาล่ะ!!  เรามาเริ่มดูรีวิววิตามินซีทีละตัวเลยดีกว่า 

Smiley view label

Smiley ดูสินค้าที่ร้าน

DOUGLASLABS : Natural C Plus 1000 mg 
POTENCY            : 1000 mg/1 Tablet 
QUANTITY          : 250 Tablets 
PRICE                   : 1400 บาท 

ส่วนที่ดี
มี Bioflavonoids 100 mg

ส่วนที่แย่
1. แตกตัวเร็ว ซึ่งมีข้อเสียดังที่กล่าวไปแล้ว วิธีแก้ก็คือ แบ่งกินให้ถี่ที่สุดตลอดวัน (ให้กินพร้อมอาหารทุกมื้อ แต่ห้ามกินก่อนนอน หรือ ในขณะท้องว่าง) 
2. มี pH ที่มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการกินพร้อมกับมื้ออาหารซะ 
3. เค้าไม่ได้ใส่พวก แมกนีเซียม แคลเซียม หรือ วิตามินบี6 มาให้เรา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเพิ่มฤทธิ์ของวิตามินซี และป้องกันนิ่วในไต ดังที่กล่าวมามาแล้วข้างต้น อยากได้ต้องหาซื้อเพิ่มนะคับ 
4. มี bioflavonoids complex มาให้แค่ 100 mg ซึ่งน้อยไป และไม่ทราบสัดส่วนของสารแต่ละชนิดในนั้นว่ามีอะไรบ้าง มี rutin และ hesperidin มั๊ย ถ้ามีอัตราส่วนเท่าไหร่? 
5. ขนาดยา 1000 mg ต่อ 1 เม็ด ซึ่งเยอะเกินไปควรแบ่งกิน 

สรุป
วิตามินซีตัวนี้ ข้อมูลคลุมเครือ ส่วนประกอบไม่ได้เรื่อง อืม...ผมคิดว่าไม่เวิร์คนะ ไม่น่าซื้อครับ คือ..วิตามินซีตัวนี้ มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้นะ


POTENCY    : 500 mg/1 Vtablet. หรือ Vcapsule. 
QUANTITY  : 225 Vtablets. / 240 Vcapsules. 
PRICE           : 650 บาท / 900 บาท 

ส่วนที่ดี
1. ขนาดยา 500 mg ขนาดนี้ผมว่าโอเคเลยล่ะ 
 2. มีแคลเซียมมาให้ เพื่อเพิ่มฤทธิ์ของวิตามินซี 
3. ให้ bioflavonoids complex 200 mg ซึ่งไม่รู้ปริมาณของ bioflavonoid ว่ามีเท่าไหร่ แต่ถ้าให้ผมเดาแบบคิดบวกอ่ะนะ ก็คงมากกว่า 100 mg แหละครับ แต่จริงๆแล้วมีเท่าไหร่ไม่รู้นะ กินแบบเสี่ยงโชค 555 (ผมเลยไม่รู้ว่าจะจัดให้ข้อนี้เป็นข้อดีหรือข้อเสียดี) 

ส่วนที่แย่
1. bioflavonoids complex ให้มาเยอะก็จริง แต่ไม่รู้อัตราส่วนของ bioflavoniod, rutin, hesperidin ครับ ว่ามีมากน้อยแค่ใหน 
2. ไม่มีแมกนีเซียม และ วิตามินบี 6 
3. มี pH เป็นกรดจึงระคายเคืองกระเพาะอาหาร แก้โดยกินพร้อมอาหารซะ 
4. แตกตัวเร็ว ซึ่งมีข้อเสียดังที่กล่าวไปแล้ว วิธีแก้ก็คือ แบ่งกินให้ถี่ที่สุดตลอดวัน (ให้กินพร้อมอาหารทุกมื้อ แต่ห้ามกินก่อนนอน หรือ ในขณะท้องว่าง) 

สรุป
เป็นวิตามินซีที่พอใช้ได้ ราคาก็ไม่ได้ถูกมาก ถ้าเทียบกับคุณภาพ ค่อนข้างแพงไปนิดด้วยซ้ำ


POTENCY    : 1000 mg/1 Vtablet. 
QUANTITY  : 120 Vtablets. 
PRICE           : 650 บาท 

ส่วนที่ดี
1. มีแคลเซียมมาให้ เพื่อเพิ่มฤทธิ์ของวิตามินซี 
2. ให้ bioflavonoids complex 200 mg ซึ่งไม่รู้ปริมาณของ bioflavonoid ว่ามีเท่าไหร่ แต่ถ้าให้ผมเดาแบบคิดบวกอ่ะนะ ก็คงมากกว่า 100 mg แหละครับ แต่จริงๆแล้วมีเท่าไหร่ไม่รู้นะ กินแบบเสี่ยงโชค 555 (ผมเลยไม่รู้ว่าจะจัดให้ข้อนี้เป็นข้อดีหรือข้อเสียดี) 

ส่วนที่แย่
1. ขนาดยา 1000 mg เป็นขนาดที่ผมคิดว่ามากเกินไป สำหรับการกิน 1 ครั้ง (ควรแบ่งกิน) 
2. bioflavonoids complex ให้มาเยอะก็จริง แต่ไม่รู้อัตราส่วนของ bioflavoniod, rutin, hesperidin ครับ ว่ามีมากน้อยแค่ใหน 
3. ขนาดของ bioflavonoids complex จะน้อยไปเลย (ควรมีอย่างต่ำๆ 200 mg/1 Vtablet.) 
4. ไม่มี วิตามินและแร่ธาตุที่เสริมฤทธิ์วิตามินซี มาให้เลย 
5. มี pH เป็นกรดจึงระคายเคืองกระเพาะอาหาร แก้โดยกินพร้อมอาหารซะ 
6. แตกตัวเร็ว ซึ่งมีข้อเสียดังที่กล่าวไปแล้ว วิธีแก้ก็คือ แบ่งกินให้ถี่ที่สุดตลอดวัน (ให้กินพร้อมอาหารทุกมื้อ แต่ห้ามกินก่อนนอน หรือ ในขณะท้องว่าง) 

สรุป
เป็นวิตามินซีที่ไม่ค่อยดี ราคาก็ไม่ได้ถูกมาก ถ้าเทียบกับคุณภาพ


Smiley view label

Smiley ดูสินค้าที่ร้าน

SOURCE NATURALS : C-B-R 
POTENCY                      : 500 mg/1 Tablet 
QUANTITY                    : 250 / 500 Tablets 
PRICE                             : 560 บาท / 1170 บาท 

ส่วนที่ดี
1. ราคาก่อนเลยครับ ถูกม๊ากกกกกกก มากกว่าค่ายอื่นๆอีกครับ 
2. ส่วนผสมอัดแน่นครับ ให้ bioflavonoids มาตั้ง 500 mg ทีเดียว และก็ให้ Rutin มา52 mg ให้ Hesperidin มา 50mg ซึ่งถือว่าโอเคเลยนะ
3. ให้แคลเซียมมาตั้ง 125 mg เลยคับ 
4. ปริมาณยา 500 mg ถือว่าเหมาะสมในการกินแต่ละครั้ง (แต่ก็ต้องแบ่งอยู่ดี เนื่องจากมันแตกตัวเร็ว) 

ส่วนที่แย่
1. แตกตัวเร็ว ซึ่งมีข้อเสียดังที่กล่าวไปแล้ว วิธีแก้ก็คือ แบ่งกินให้ถี่ที่สุดตลอดวัน (ให้กินพร้อมอาหารทุกมื้อ แต่ห้ามกินก่อนนอน หรือ ในขณะท้องว่าง) 
2. มี pH ที่มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการกินพร้อมกับมื้ออาหารซะ 
3. ไม่ให้แมกนีเซียมและวิตามินบี6 ซึ่งเสริมฤทธิ์วิตามินซีและป้องกันการเกิดนิ่วที่ไต แก้ไขโดยพี่น้องก็ไปหากินเอาเอง 555 

สรุป
วิตามินซีตัวนี้ถ้าเทียบกับราคากับสิ่งที่ได้รับแล้วถือว่าคุ้มสุดๆครับ 


Smiley view label

Smiley ดูสินค้าที่ร้าน

SOURCE NATURALS : Mega C-B-R 
POTENCY                      : 1000 mg/1 Tablet 
QUANTITY                    : 250 Tablets 
PRICE                             : 950 บาท 

ส่วนที่ดี
1. ราคาก่อนเลยครับ ถูกม๊ากกกกกกก มากกว่าค่ายอื่นๆอีกครับ 
2. ส่วนผสมอัดแน่นครับ ให้ bioflavonoids มาตั้ง 500 mg ทีเดียว และก็ให้ Rutin มา52 mg ให้ Hesperidin มา 50mg ซึ่งถือว่าน้อยกว่ามาตรฐานไปนะ 
3. ให้ Acerola มา 10 mg 

ส่วนที่แย่
1. แตกตัวเร็ว ซึ่งมีข้อเสียดังที่กล่าวไปแล้ว วิธีแก้ก็คือ แบ่งกินให้ถี่ที่สุดตลอดวัน  (ให้กินพร้อมอาหารทุกมื้อ แต่ห้ามกินก่อนนอน หรือ ในขณะท้องว่าง) 
2. มี pH ที่มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการกินพร้อมกับมื้ออาหารซะ 
3. ไม่ให้แคลเซียม แมกนีเซียมและวิตามินบี6 ซึ่งเสริมฤทธิ์วิตามินซีและป้องกันการเกิดนิ่วที่ไต แก้ไขโดยพี่น้องก็ไปหากินเอาเอง 555 
4. ปริมาณยา 1000 mg ต่อ 1 เม็ด ซึ่งถือว่ามากไปควรแบ่งกินนะคับ 

สรุป
วิตามินซีตัวก็ยังเหมือนน้องของมันทุกประการ เพียงแต่ว่า มันมีขนาดวิตามินซีมากขึ้นแค่นั้นเอง แต่นี่ก็ไม่ใช่จุดแข็ง กลับกลายเป็นจุดอ่อนซะงั้น เนื่องจากเป็นวิตามินซีที่แตกตัวเร็วนั่นเอง 


POTENCY     : 500 mg /1 capsule 
QUANTITY   : 100/250/360 Capsules 
PRICE            : 600 บาท/1000 บาท/1300 บาท 

ต่อมาเป็นวิตามินซีจากค่าย solaray ตัวนี้เนี๊ยผมคิดว่าสมบูรณ์ที่สุด ส่วนประกอบที่ลงตัว ผมขอเชียร์ตัวนี้สุดใจครับ

ส่วนที่ดี
1. ให้ Bioflavonoids, Rutin, Hesperidin มาครบเลยครับ แล้วให้มาเยอะด้วยโดยเฉพาะ Bioflavonoids ให้มาตั้ง 500 mg ซึ่งผมขอชื่นชม ส่วน Rutinและ Hesperidin ก็ให้มาเยอะเลยทีเดียว ประมาณว่าไม่กระหน่ำใส่เข้าไป 555 ผมชอบมากๆๆๆ 
2. ดีใจมากที่มันเป็นแบบแตกตัวช้า 
3. ดีใจเข้าไปอีกที่มันไม่ระคายเคืองกระเพาะครับ เพราะเป็นแบบ Buffered 
4. ยี่ห้อนี้เค้ามีเทคโนโลยีที่เรียกว่า TSTR(Two stage Time Release)ครับ ก็คือ วิตามินซีของเค้าเนี๊ย มันจะแตกตัวสองช่วงครับ ช่วงแรกมันจะแตกตัวไปครึ่งหนึ่งและแตกตัวค่อนข้างเร็ว ช่วงต่อมามันจะแตกตัวช้าๆได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 12 ชั่วโมงครับพี่น้อง โอ้...มันสุดยอด 
5. ขนาด 500 mg ต่อ 1 แคปซูล ซึ่งพอดีกับการกินในแต่ละครั้ง 

ส่วนที่แย่
ไม่มีแคลเซียม แมกนีเซียม วิตามินบี6 มาให้ เพราะฉนั้น ก็ต้องหากินเองตามเคยครับ 

สรุป
วิตามินตัวนี้ เอาใจผมไปเลยครับ สุดยอดๆ





Create Date : 20 เมษายน 2555
Last Update : 25 พฤษภาคม 2555 14:01:49 น.
Counter : 32684 Pageviews.

19 comments
  
อยากให้ช่วยวิเคราะห์วิตามินซี ของ dhc , ยูนิซิตี้ค่ะ
โดย: jang IP: 58.97.116.147 วันที่: 10 พฤษภาคม 2555 เวลา:17:32:37 น.
  
ตอบคุณ jang
รับทราบ แล้วจะรีบรีวิวให้ดูนะครับ
โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 10 พฤษภาคม 2555 เวลา:21:40:57 น.
  
อยากทราบของ DHC เหมือนกันค่ะ
ไม่ทราบว่ารีวิว ไปแล้วหรือยังคะ อยู่ Part ไหน
โดย: Aom IP: 10.84.1.143, 10.80.253.226, 223.27.233.126 วันที่: 17 พฤษภาคม 2555 เวลา:16:19:31 น.
  
รบกวนอีกนิดค่ะ
พอดีแฟนเป็นคนที่ไม่ทานผลไม้เลย (ทุกอย่างที่เป็นผลไม้)
แต่ทานผักเป็นปกติ
อยากทราบว่า ถ้ากินวิตตามินซี จะช่วยชดเชยส่วนนี้ได้มั้ยคะ
แล้วแฟนสูบบุหรี่ด้วย ช่วยแนะนำหน่อยได้มั้ยคะ ว่าจะทานตัวไหนดี
โดย: Aom IP: 10.84.1.143, 10.80.253.226, 223.27.233.126 วันที่: 17 พฤษภาคม 2555 เวลา:16:29:13 น.
  
ตอบคุณ Aom
ยังไม่ได้รีวิวเลยครับ ช่วงนี้งานเยอะเวอร์ เดี๋ยวจะรีบๆๆๆ เลยนะครับ

เอาเป็นว่า DHC ประกอบไปด้วยวิตามินซี และวิตามินบี 6 ซึ่งขอรวบรัดตัดตอนว่าได้ 1 ดาวครับ
โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 17 พฤษภาคม 2555 เวลา:19:31:23 น.
  
ตอบคุณ Aom
แทนที่จะหาวิตามินกิน ควรเลิกสูบดีกว่ามั้งครับ แต่ก็นั่นแหละ มันก็เลิกยากอ่ะนะ (แนะนำให้กินยารักษาดีกว่านะครับ แต่อันนี้มันก็แล้วแต่กำลังใจของคนเลิกด้วย เป็นอย่างมาก)

เอาเป็นว่าถ้าเลิกไม่ได้ ก็หาวิตามินกิน ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเนอะ

วิตามินที่ต้องกิน
1. วิตามินซี เนื่องจากบุหรี่แต่ละมวนทำลายวิตามินซี ประมาณ 25 - 100 mg ทำให้สารต้านอนุมูลอิสระน้อยลง Oxidative Stress ก็จะถามหา ซึ่งเสี่ยงต่อมะเร็งปอดมิใช่น้อย อีกทั้ง Oxidative Stress ยังส่งผลต่อ โรคหัวใจ และโรคปอด มากกว่าคนที่ไม่ได้สูง
2. แค่วิตามินซีไม่พอ ต้องเอาพวกมันมาให้หมด ไม่ว่าจะเป็น เอ อี และ ซีลีเนียม เพื่อป้องกัน Oxidative Stress อย่างจริงจัง
3. วิตามินเกลือแร่ รวมเข้มข้น
4. สารสกัดจากใบแปะก๊วย (อันนี้ ถ้ามีงบเยอะก็กิน งบน้อยก็ตัดไปได้ครับ)
5. เบต้ากลูแคน (อันนี้จำเป็นมากๆ แต่แพงนิดนึงนะคับ) ซึ่งเป็นตัวฆ่ามะเร็งตัวยง

คงประมาณนี้คับ ถ้างบเยอะก็สามารถหัวสารต้านอนุมูลอิสระชนิดต่างๆ กินเสริมเข้าไปได้อีกครับ
โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 17 พฤษภาคม 2555 เวลา:19:44:59 น.
  
ตอบคุณ Aom
อีกนิดนึงคับ ที่ว่าคุณแฟนไม่กินผลไม้เลยนั้น ผมว่าทดแทนด้วยวิตามินซี แล้วก็วิตามินเกลือแร่รวมเข้มข้น แค่นี้ก็พอแล้วครับ
โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 17 พฤษภาคม 2555 เวลา:19:47:30 น.
  
ขอบคุณ คุณเฟยเฟย สำหรับข้อมูลดีดี :)
เท่าที่อ่านจากใน Part วิตามินซีของ SOLARAY น่าจะโอเคสุดใช่มั้ยคะ
โดย: Aom IP: 10.84.1.143, 10.80.253.226, 223.27.233.126 วันที่: 18 พฤษภาคม 2555 เวลา:9:04:06 น.
  
ตอบคุณ Aom
จากที่ผมดูวิตามินซีกว่า 500 รายการ ผมชอบตัวนี้สุดครับ และคิดว่าดีสุดละ แต่หากอนาคต ผมเจอตัวอื่นที่ดีกว่านี้ ผมแนะแนะนำให้อีกทีครับ

วิตามินซีตัวนี้ เป็นแคปซูล เม็ดค่อนข้างใหญ่ เพราะอัดแน่นด้วยสารต่างๆ อย่างจริงจัง 1 กระปุกกินได้ประมาณ 3 เดือนกว่านู้นล่ะ

โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 18 พฤษภาคม 2555 เวลา:9:50:23 น.
  
ลองค้นหา ข้อมูล เกี่ยวกับ วิตามินซีSolaray
ไม่พบข้อมูลเลยค่ะ ไม่ทราบว่าผลิตมาจากประเทศไหน
ไม่ค่อยเป็นที่นิยมหรอคะ อยากทราบรายละเอียดค่ะก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ

ทานยังไง วันละกี่เม็ด สั่งซื้อจากที่นี่ได้เลยใช้มั้ยคะ
แล้วต้องมีค่าจัดส่งเท่าไหร่
ขอโทษที่ต้องรบกวนคุณเฟย เฟย บ่อยๆนะคะ
โดย: Aom IP: 10.84.1.143, 10.80.253.226, 223.27.233.126 วันที่: 18 พฤษภาคม 2555 เวลา:14:25:24 น.
  
ตอบคุณ Aom
1. ผมไม่สนใจว่าจะมีชื่อเสียงหรือไม่ แต่ผมดูจาก แหล่งที่ผลิต มาตรฐานโรงงาน วัตถุดิบ ทีมวิจัย และที่สำคัญที่สุดคือสูตรผลิตภัณฑ์

2. solaray ไม่ได้ทำการตลาดเองครับ แต่เป็น supplier ให้กับ drug store , health food strore ทั่วไป ทั้งในอเมริกาและฝั่งยุโรป (กว่า 8000 ร้าน ในปัจจุบัน) แต่ว่าจะนิยมไม่นิยมนั้น ผมไม่ทราบ (แต่จากที่เค้ากล่าวอ้าง ก็เป็นอันดับต้นๆของอเมริกา ซึ่งข้อมูลตรงส่วนนี้ไม่มีแหล่งอ้างอิงชัดเจน) ทราบแต่เพียงว่าสูตรวิตามินซีเค้าเวิร์ค แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผลิตภัณฑ์ของ solaray ทุกตัวจะดีหมด มันก็แล้วแต่สูตร ส่วนมาตรฐานทั่วๆไปนั้นผ่าน หากจะเอารางวัลล่ะก็เค้ามีให้คุณ Aom ดูเยอะแยะ ลองหาดูนะครับ หรือ

Vity Awards
The magazine Vitamin Retailer is distributed to over 5,000 US health food stores. Every year, a random poll of retailers is conducted to determine the best selling products in over 90 categories for the magazine's Vity Awards. In 1998 alone, Solaray and Nutraceutical received awards in 40 categories (44%) - the highest number awarded to any single manufacturer or brand.

3. solaray ผลิตในอเมริกา ตั้งแต่ คศ. 1973 แต่ฐานการผลิตบางส่วนก็อยู่ในยุโรปและอังกฤษ

4. ปัจจุบัน solaray ผลิตโดย Nutraceutical สืบค้นได้จาก //www.nutraceutical.com ซึ่งเป็นโรงงานต้นสายการผลิตอาหารเสริมให้กับหลายผลิตภัณฑ์ (สูตรเป็นของแต่ละผลิตภัณฑ์ ไม่เกี่ยวข้องกับ nutraceutical)

5. ส่วนการกินเพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์นั้น กินวันละ 500mg ก็เหลือเฟือแล้วครับ โดยกินวันละ 1 เม็ด แนะนำให้กินตอนกระเพาะมีอาหารอยู่ (แต่จริงๆแล้วสามารถกินตอนท้องว่างได้)

6. สั่งได้จากเวปนะครับ ลองเข้าไปดู หากซื้อครบ 3000 บาท ค่าจัดส่งฟรีครับ แต่หากซื้อไม่ถึงค่าจัดส่ง 60 บาทครับ (เป็นพัสดุส่ง EMS แต่หากต้องการแบบลงทะเบียนก็เขียน แนบมาได้ครับ ค่าใช้จ่าย 30 บาท)

ขอบคุณครับ
โดย: เฟยเฟย (ultramaths ) วันที่: 20 พฤษภาคม 2555 เวลา:19:39:12 น.
  
ถ้าสั่ง วิตามินซีของ Solaray โอนเงินวันนี้ประมาณเที่ยง จะได้รับของวันไหนคะ
โดย: ... IP: 10.84.1.143, 10.80.253.226, 223.27.233.126 วันที่: 28 พฤษภาคม 2555 เวลา:10:52:55 น.
  
เนื้อหาดีมากค่ะ ทำไมถึงไม่ไปโพสในพันธิปค่ะจะได้ขึ้นกระทู้แนะนำอะคะ จะได้เปิดหูเปิดตาให้เพือนๆห้องแป้งได้เจอยี้ห้ออื่นบ้างเพราะเห็นมีแต่คนกิน แบคมอกับอเชโลร่าเชอรรี่และเนทซี
โดย: Filmzamarang IP: 14.207.215.201 วันที่: 14 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:57:28 น.
  
ขอสอบถามหน่อยค่า
อยากรู้ว่า วิตามินซี ของยี้ห้อไหน ที่กินแล้ว จะช่วยให้ผิวกระจ่างใสจริง ๆ ค่ะ เพราะเรา ทาน nat c แต่ไม่เห็นผลเท่าไหร
โดย: กระต่าย IP: 223.204.11.198 วันที่: 19 กันยายน 2555 เวลา:16:43:25 น.
  
รบกวนวิเคราะห์ lypo vitamin c ตัว softgel และตัว age blocker ที่อยู่ใน line เดียวกันกับ lypo gluta gsh ให้หน่อยค่ะว่าคุ้มค่าหรือไม่ที่จะซื้อมาทาน
โดย: โย IP: 49.48.7.120 วันที่: 1 ตุลาคม 2555 เวลา:15:42:19 น.
  
ทานแต่ Blackmore มาเกือบตลอด 3 ปี
เคยกินขององค์การเภสัช แล้วสู้ไม่ได้เลย
เพิ่งจะรู้ว่า BM นี่ยังห่างชั้นกับยี่ห้อดีๆที่ไม่มีในไทย
ขอบคุณน้องเฟยมากๆค่ะ ที่ทำ blog ดีๆให้ได้ความรู้
โดย: Pook IP: 122.154.22.34 วันที่: 15 ธันวาคม 2555 เวลา:9:01:21 น.
  
อ่านแล้วงงนิดนึงคับ
ที่ว่าวิตามินซี ห้ามกินกับเอสโตรเจน เพราะจะทำให้เอสโตรเจนเพิ่มจนเกิดการเป็นพิษ และห้ามกินยาคุมเพราะวิตตามินซี 1 กรัมก็จะทำให้ เอสโตรเจนสูงจนเป็นพิษได้

แต่ว่า อีกไม่กี่บรรทันต่อมา เขียนว่า ถ้ากินยาคุมควรกินวิตามินซีให้เยอะกว่าปกติ 90 mg

รบกวนขอความรู้ด้วยคับ
โดย: ตั้ม IP: 49.49.50.107 วันที่: 28 กรกฎาคม 2556 เวลา:20:26:52 น.
  
อยากสอบถามคุณเฟยๆนิดนึงค่ะ พอดีว่าสนใจตัวนี้ของ solaray เหมือนกันแต่ยังหาข้อมูลไม่ได้
1.super bio C buffered มันมีแบบ 500 mg และแบบ 1000 mg ด้วยใช่ไหมคะ พอดีเสริ์ชเจอมา แต่ที่สงสัยคือในส่วนประกอบบอกว่ามี vitC อยู่ 1000 mg ทั้งสองแบบเลย??
2.การแตกตัวสองครั้ง ที่บอกมา เช่น vitC 1000 mg รอบแรกจะแตกตัวให้ vitC500 mg อย่างรวดเร็ว และอีก 500 mg ที่เหลือจะแตกตัวช้าๆ จนถึง 12 ชม. แบบนี้ถูกไหมคะ ?? แล้วถ้าอยากทานเพื่อบำรุงผิวโดยเฉพาะควรทานแบบไหนดี เพราะแอบคิดว่าแบบ 500 mg น้อยไป เพราะมันแตกครั้งแรกแค่ 250 mg ซึ่งถ้าเรากินคู่กับ NAC หรือกลูต้าตัวอื่นๆ มันจะเพียงพอรึป่าวเอ่ย? ขอบคุณมากค่ะ
โดย: yu IP: 110.164.181.203 วันที่: 19 กันยายน 2556 เวลา:23:31:57 น.
  
วิธีสั่งวิตามิน iherb
โดย: narusu วันที่: 8 เมษายน 2557 เวลา:16:47:31 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ultramaths
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]



ผม..เฟยเฟย รายงานตัวค้าบ
ultramaths ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความทั้งหมดในblogนี้ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
All rights reserved.