Resident พลัดถิ่น
ไอติมนอนไม่พอมาสองสามวันตั้งแต่คืนวันพุธ เนื่องจากพยายามเคลียร์ Case Autopsy (ผ่าศพ) ที่คั่งค้างอยู่สองสามเคส ซึ่งเป็นงานเอก่สารเสียสาม พรีเซ้นต์หนึ่ง และดูสไลด์หนึ่ง เช้าวันเสาร์(๒๗ พฤศจิกายน) ก็ตื่นแต่เช้าไปช่วยพี่อ๋อม ( Resident ๑) อพยพย้ายหอ ที่จริงไอติมก็ตั้งใจจะย้ายหอเหมือนกันตอนบ่ายๆ ทั้งนี้ด้วยความที่ลืมคิดไปว่าอยู่เวรตัดเนื้อติดกันทั้งเสาร์และอาทิตย์
เช้าวันเสาร์ เป็น ธรรมดาอยู่เองที่ชิ้นเนื้อและอวัยวะจากห้องผ่าตัดเมื่อเย็นวันศุกร์จะมากมายก่ายกองจนล้นโต๊ะรับเนื้อของพาโธและล้นไปจนกระทั่งถึงกับต้องแบ่งให้เวรวันอาทิตย์ไปบางส่วน แม้กระนั้นก็เป็นธรรมดาอีกเช่นกันที่ Resident จะตัดเนื้อกันจนหัวฟู ไอติมยิ่งแล้วใหญ่ เนื้อทั้งเสาร์ทั้งอาทิตย์ถล่มทับ พอตัดของวันเสาร์เสร็จบ่ายสามโมง ก็กลับไปเก็บของออกจากหอเก่า ซึ่งอับ ชื้น และร้อน ไม่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของหมอพาโธซึ่งชื่นชอบที่มืดและเย็น
พอเก็บของเสร็จ ไอติมก็กลายเป็นอีบ้าหอบฟางอีกครั้ง สะพายเป้ เอากระเป๋าอีกใบแขวนไว้กับหน้าผาก มือหนึ่งถือถังพลาสติกข้างในมีผ้าเช็ดตัวกับขันน้า อีกมือถือตะกร้าผ้ายังไม่ซัก เดินตุปัดตุเป๋แบบคนจร ทำให้นึกถึงสมัยเป็น Extern ที่ต้องย้ายไปย้ายมา ยิ่งบางกลุ่มย้ายมันทุกเดือนเหมือนผีตองเหลือง ส่วนไอติมนี่ย้ายน้อยหน่อย แค่เขมรอพยบ แล้วก็เลยรู้สึกว่า นี่ตูมาทำอะไรอยู่ที่นี่เนี่ย ถิ่นฐานเดิมของเราก็เป็นหมออยู่กลางทุ่งนา ตอนนี้กลายเป็นหมอริมแม่น้ำไปซะละ แล้วความรู้สึกพลัดถิ่นก็บังเกิดขึ้นโดยพลัน
ยิ่งตอนสี่โมงเย็น ได้รับโ?รศัพท์ว่ามี Autopsy (อีกแล้ว) ยิ่งเครียดจนสติแตก วันจันทร์ก็ตัดเนื้ออีก เอาเวลาที่ไหนอ่านสไลด์ วันอังคารพรีเซ้นต์เคสเบอร์ ๑๓๙ เอาเวลาที่ไหนเคลียร์งาน ไหนจะมีน้องๆมาถ่ายทำ VDO ชีวิต Resident อีก ตายแน่ๆ หลังจากนั้น พอเริ่มเครียดจัดๆ ทำงานไม่ทัน มือซ้ายก็สั่นแหงกๆเหมือนคนเป็นโรคทางประสาท แต่ไอติมก็ยังฝืนตัดเนื้อต่อไป จนเสร็จ...
หอใหม่ที่กลับไปนอนเหมือนโรงแรมมาก และด้วยความที่เป็นเตีงสองชั้นตั้งติดกับตู้ ซึ่งตู้ก็บังหน้าต่างอีก เตียงชั้นล่างเลยกลายเป็นช่องที่มืด พอเปิดแอร์ก็กลายเป็นที่มืดและเย็น เหมาะอย่างยิ่งกับการนอน และเป็ยสถานที่ที่หมอพาโธโปรดปราน
Create Date : 29 พฤศจิกายน 2552 |
|
6 comments |
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2552 14:36:44 น. |
Counter : 709 Pageviews. |
|
|
|
โยเกิตมะนาว
"5555555555555
resident patho ที่ไหนคะเนี่ย"
fondakelly