ส่องกระจกดูตัวเองซิ ..ว่าได้รับความรักเพียงพอแล้วหรือยัง??

.


ปละปะป่าววน้า..
ไม่ได้กำลังว่าใครอยู่หรอกน้า..


เพียงแต่ อยากเขียนประโยค ที่ล้อจากบ้างถอยคำของตัวละครในเรื่อง air doll ต่างหาก..


จากฉากที่ ดูนาเบะ(ตุ๊กตายาง) ได้กลับไปหาช่างทำตุ๊กตาที่สตูดิโอ
และได้เข้าไปในห้องที่เก็บตุ๊กตาชำรุด ทีรอวันถูกทิ้ง (ทุกฤดูใบไม้ผลิ)
ช่างทำตุ๊กตาบอกกับเธอว่า..
“ตุ๊กตาบางตัว แค่เห็นหน้าก็รู้ได้แล้ว ..ว่าได้รับความรักเพียงพอหรือเปล่า..”


คนเราเอง ก็คงไม่ต่างกันมากนัก
แม้มนุษย์เรา จะเกิดมาพร้อมกับความสามารถ ในการเสแสร้งแกล้งทำ
แต่ถึงเราจะฝึกฝนการปกปิดอารมณ์กันมากมายเพียงไหน
ทว่า สิ่งที่อยู่ภายในจิตวิญญาณของเรา มันก็จะสะท้อนออกมาภายนอกให้เราได้เห็นอยู่นั่นเอง




สิ่งต่างๆ คงถูกสร้าง เพื่อให้มาคู่กัน ??
เกสรดอกไม้ยังต้องการแมลง และสายลม
คนเราเองก็ต้องการใครสักคน ที่จะมาเติมเต็มซึ่งกันและกัน



“คุณรู้สึกยังไง?”
“ตอนไหน.. ตอนที่คุณเป่าลมเข้ามาในตัวฉันหรือ?? (อมยิ้ม)....-“
“ไม่ใช่.. ตอนที่ลมออกจากตัวคุณครั้งแรกต่างหาก , มันเจ็บปวดใช่มั้ย??..”







ยอมรับว่า เป็นหนังที่ไม่ได้รู้จักมาก่อน
ทั้งๆ ที่ก็เป็นคนหนึ่ง ที่คิดว่าตัวเองก็เป็นขาประจำของ apex

แต่ช่วงเดือนหลังๆ มานี่ ก็ไม่ค่อยได้ไปแถวๆ สยามเลย
เลยไม่รู้ว่า ที่โรงหนังแถวนั้น มีหนังอะไรใหม่ๆ อัพเดทน่าดู


เผอิญไปอ่านเจอบล็อกหนึ่ง พูดถึงหนังเรื่องนี้ไว้
พอรู้จักตัวหนังแล้ว ก็ชักเริ่มได้ยินกระแสเสียงทีละนิด ในทางที่ดีกับหนังเรื่องนี้

วันนี้ก็เลยตั้งใจว่าจะไปดูหนังแถวนั้นสัก 2 เรื่อง
แต่ออกจากบ้านช้า สุดท้ายก็ได้ดูแค่เรื่องเดียว เรื่องนี้


ไม่ได้คาดหวังกับตัวหนังมากนัก
แต่ยอมรับว่าดูแล้วไม่เสียดายเลย..
ถ้าได้เป็นคนที่ดูก่อน ก็คงจะเอามาแนะนำต่อแน่ๆ
แต่นี่เข้าใจว่าหนังฉายมานานแล้ว มาแนะนำตอนนี้ เกรงว่าจะเอ้าท์


เป็นหนังที่มีสัญลักษณ์เยอะ เป็นสไตล์ที่ผมชอบ
น่าจะตีความกันได้ไม่ยากนัก , มีประโยคที่วางครึ่งหนึ่ง ให้คิดต่ออีกครึ่งหนึ่งเยอะเหมือนกัน
..ไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่หนังให้อารมณ์ของผู้หญิงมาก
อธิบายไม่ค่อยถูกเหมือนกัน แต่รู้สึกว่า การเล่าเรื่องดูเป็นการเล่าเรื่องแบบผู้หญิง (ซึ่งผมเจอไม่บ่อยนัก)


ชอบเป็นพิเศษมากๆ .. ก็คงจะเป็นตัวนักแสดงหญิง ที่เล่นเป็นตุ๊กตายางมีชีวิต (ผิวส้วยสวย-อิอิ)
น้องเค้าเล่นได้ดีจริงๆ .. เก่งมั่กๆ ขอบชม ตบมือให้แปะๆๆ (มีรางวัลอยู่ใกล้ๆ จะมอบให้เลย-ใจง่ายจริงๆ ตู)

เมกอัพก็เก่งมากๆ เพราะคุมโทนออกมาได้ดีตลอดเรื่อง สื่อได้ไม่สะดุด อยากให้ดูไม่มีชีวิต หรืออยากให้ดูมีชีวิต
หรือดูมีชีวิตบางส่วน ไม่มีชีวิตบางส่วน , จากไม่มีชีวิต ค่อยๆ ดูมีชีวิต กลับไปไม่มีชีวิต ทำไปมาได้ดี

และผู้กำกับก็ต้องเจ๋งมากๆ เช่นกัน คุมนักแสดง เมกอัพ และโทนเรื่องโดยรวมออกมาได้ดีลื่นไหล (อาจจะมีสะดุดนิดหน่อย)


โครงเรื่องก็ต้องถือว่า ใหม่ดี , คงเป็นวัฒนธรรมเฉพาะที่มีเฉพาะบ้านเค้าด้วย (บ้านอื่นคงคิดเรื่องทำนองนี้ได้ยาก)

หลังๆ ชักจะประทับใจหนังญี่ปุ่นหลายเรื่องแฮะ


ดีใจที่ได้ดู.. :D





-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




ชีวิตที่ไม่เปลี่ยนแปลง..



เมื่อวานนี้ คุณแม่ไปซื้อของไหว้เจ้าแถวเยาวราช
และก็แวะแถวบ้านเก่า สั่งซื้อของเจ้าประจำ

ขากลับ แม่ซื้อ ราดหน้า-ผัดซี่อิ้ว เจ้าเก่ากลับมาด้วย

ที่ว่าเจ้าเก่า ก็ไม่ใช่ว่าเก่าแก่มากมาย รุ่นคุณแม่ก็หาไม่
แต่อาจจะเรียกได้ว่า เป็นเจ้าเก่ารุ่นผมเนี่แหละ 555

คือเป้นร้านที่มาเปิดเมื่อตอนผมเป็นวัยรุ่น วัยเรียน
ผมเองก็มีหน้าที่สารถีซื้อของ นู้นนี่นั่นให้ที่บ้านเป้นประจำอยู่แล้ว


ทันทีที่ราดหน้าคำแรกเข้าปากเคี้ยว..
รสชาติ กลิน ความข้น ลักษณะของผัก และเส้น ทุกอย่างเหมือนเดิมเป๊ะๆ ไม่ผิดเพี้ยนเลย
ในฐานะ ของพ่อครัว พ่อค้า ..ทำได้อย่างนี้ ต้องยกนิ้วโป้งให้ 2 นิ้ว (เฮียนี่มือเที่ยงจริงๆ)

..แต่ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นหรอก..
ทันทีที่ราดหน้าคำแรกเข้าปากเคี้ยว..
ภาพของอาเฮียคนผัด หน้าตามันๆ ของแก คอกผัดราดหน้ากันด้วยพลาสติกใส
บรรยากาศหน้าร้านของแก ฯ ..ลอยเข้าสูห้วงคำนึง อย่างชัดเจนจนน่าใจหาย..!!


แค่ตัก ราดหน้าของแกคำเดียวเข้าปาก
ก็รู้เลยว่า ชีวิตแกแทบจะเหมือนเดิมจากเมื่อ สิบยี่สิบปีก่อนเป๊ะๆ ..


ป่าวนะ.. ไม่ได้ว่าอะไรหรอก..
แค่รู้สึกใจหาย..



ในฐานะของคนที่ชอบความเปลี่ยนแปลงเป็นระยะๆ
เวลาไปเจอภาพอะไรเก่าๆ ที่เหมือนกับอดีตนานๆ ในความทรงจำของเราเป๊ะๆ
บรรยากาศเหมือนเดิม สีสัน อัธยาศัย ฯลฯ ..
ทั้งๆ ที่เวลาผ่านไปนับสิบๆ ปี ..


เห็น คิด รู้สึกแล้ว ใจหาย..
ชีวิตของคนเราส่วนใหญ่ต้องเป็นไปอย่างนั้นใช่ไหม??
แล้วชีวิตเรา วันหนึ่งจะต้องเป็นอย่างนั้นด้วยหรือเปล่า
หยุด อยู่นิ่งอยู่กับที่ เป็นเวลานับสิบๆ ปี..

ทำหน้าที่ไป การงาน ดูแลขันธ์5!!..



ไม่มีถูก ไม่มีผิด หรอกนะ.. เข้าใจจริงๆ
แต่ด้วยความเคารพ ผมไม่ชอบเลยหล่ะ..


คนเราต้องใช้เวลานานกี่ปี กว่าที่จะสะสมพลัง และสิ่งต่างๆ ให้ได้มากพอ
พอที่จะก้าวเคลื่อนชีวิตไปข้างหน้าสักก้าวหนึ่ง..
จากเด็ก สู่วัยรุ่น สู่วัยทำงาน เข้าสู่วัยสร้างครอบครัว สุดท้ายก็แก่ชรา..

2-3 วัยแรก ผมว่ามันก็มีสีสันดีนะ
แต่ 2-3 วัยสุดท้ายนี่จิ ..บางคนเหมือนนั่งอยู่บนเก้าอี้หยุดเวลา
คือหยุดเวลาของชีวิต มารู้ตัวอีกที ก็แก่ไปเล้ว...



ว่าแล้วก็ทบทวนตัวเอง.. นี่เราหยุดนิ่งมากี่ปีแล้วนะ
(อีกเสียงสวนขึ้นมา) ..เค้าเรียกว่าสะสมพลังเฟ้ย
เอ่อ..ให้มันได้อย่างงั้นนะ , เห็นว่าปีหน้าจะเริ่มมีการเคลื่อนไหวหรือ?
ก็คงประมาณนั้นมั้ง.. (พูดแบบระมัดระวัง ไม่ผูกมัดตัวเอง) ไม่มีอะไรหรอก ก็คงแค่ค่อยๆ ก้าวไป
ปีหน้า.. หลังจากนั้นอีก 3-4 ปี แลถัดจากนั้นอีกราวๆ 10 ปี
..มีโครงการเป็นระยะๆ หวังว่าชีวิตคงไม่นิ่งเกินไปมั้ง?



ปลายทางอยู่ที่เก่า ปลายฟ้ายังอยู่ที่เดิม....




ชีวิตคงจะไม่นิ่งเกินไป ข้างหน้ามีแต่สิ่งที่ไม่รู้จัก ไม่แน่ชัด ไม่แน่ใจ
หวังว่าจะทำได้สำเร็จ ในเวลาที่ตั้งหวังไว้..






ไป..ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันมั้ย.. เดี๋ยวจัดให้ แบ็กแพ็คกัน
โตเกียว เกียวโต ชินจูกุ ฮาราจูกุ อะไรกุกุฯ ทั้งหลายที่อยากไป จะพาไปให้หมด
ฮอกไกโด โอกินาว่า อะไรที่เคยอ่านเจอในหนังสือการ์ตูน
..ว่าแต่ “เธอไปเอาสำเนียงคันไซมาจาไหน!?”




-----------------------------------------------------








 

Create Date : 01 มีนาคม 2553
4 comments
Last Update : 1 มีนาคม 2553 1:41:06 น.
Counter : 478 Pageviews.

 

สวัสดีครับ เข้ามาทักทายตอนดึก

 

โดย: Don't try this at home. 1 มีนาคม 2553 2:20:50 น.  

 

ไปซื้อปอเปี๊ยที่ท่าพระจันทร์ที่กินสมัยเรียน รสชาดเหมือนเดิม คนขายคนเดิม แต่ราคาต่างกันเยอะ เมื่อก่อนชิ้นละบาท เดี๋ยวนี้ 3 ชิ้น 10 บาท

 

โดย: K IP: 203.144.144.165 1 มีนาคม 2553 17:41:38 น.  

 

ว่าจะไม่ล็อคอินเข้ามา แต่ก็อดไม่ได้
ขอบคุณสำหรับข้อคิดของคุณค่ะ

 

โดย: NooNok [MiChiYo] 1 มีนาคม 2553 17:52:06 น.  

 

...หนังเรื่องนี้ เข้าฉายแล้ว คงทำให้ตุ๊กตายางมียอดขายที่เพิ่มมากขึ้น ...แปว...

 

โดย: aotyako IP: 114.128.52.86 2 มีนาคม 2553 7:51:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


บุญทับ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




กฎของเราก็คือ
เรามีความสุขสนุกสนาน
ได้มากเท่าที่เราต้องการ
แต่ต้องไม่ทำร้ายจิตใจใคร
..แม้แต่คนเดียว


จากหนังสือ ฟ้ากว้าง..ทางไกล



มวลเมฆ คือเนินเขาทำด้วยไอน้ำ เนินเขา คือมวลเมฆสร้างด้วยศิลา..(รพินทรฯ)
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
1 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add บุญทับ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.