ต่อแต่นี้ชีวิตคงไม่มีวันเหมือนเดิม(2)

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ..


***************








01/06/2008 , 07:15:41 » Edit
--------------------------------------------------------------------------------



มี มี เร โด , เร มี ฟา ซอล , โด-ด--..


โอ๊ยยย...
มีเรื่องอยากเล่าเยอะแยะต่ะแปะไก๋มากมายก่ายกองสูงท้วมหัวรวบรวมเรียบเรียงไม่ถูกเลยครับบบ

ทุกๆ เรื่องตอนนี้ถ้าเล่าจริงๆ คงจะมีดีของเค้าเองต่างหาก

ตกลงกับดวงตาไว้ว่า จะขอใช้ครั้งนี้ไม่เกิน 15-20 นาที

สำหรับตอนนี้ คงเล่าได้จำกัดนะครับ(นิสัยยืดยื้อคงแก้ยากหน่อย)



สถานการณ์โดยรวม..
อาการดีขึ้นตามลำดับครับ ภาพรวมสำหรับผมถือว่าน่าพอใจ
อาจจะไม่สามารถเทียบชัดเจนได้ว่า อาการดีขึ้นวันต่อวัน
แต่ถ้าเป็น 2 วัน ต่อ 2 วัน , หรือ 3 วัน ต่อ 3 วัน
ก็จะเห็นว่า อาการมีการพัฒนาขึ้นอย่างมีนัยยะ เป็นที่น่าพอใจ

กำลังใจดีครับ(ขอบคุณบทเพลงนับพันหมื่นที่เราเคยฟังมา)
อาการยังดีขึ้นอยู่ และหวังว่า จะดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก..




ถ้านับวันที่ผมออกจากโรงพยาบาล เสาร์ที่แล้ว
มาถึงวันอาทิตย์นี้ นี่ก็เข้าสู่วันที่ 8 แล้วครับ

เป็น 8 วันที่ “แปลกดี!?..”
..แต่เป็น “แปลกดี” ที่ต้องนับเฉพาะด้านจิตใจนะครับ
เพราะยังไงก็ตาม ถ้านับรวมว่า จู่ๆ สายตาเราต้องมาเป็นอย่างงี้
แปลกยังไง ก็คงจะไม่ดีครับ

เอาเป็นว่า ถ้าอาการผมสามารถกลับมาหายดีได้
(หายดี หายเป็นปกติ-เป็นคำเฉพาะมีความหมายต่างหากครับผม)

เอาเป็นว่า ถ้าอาการผมสามารถกลับมาหายดีได้
สิ่งที่เกิดขึ้นในฃ่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
หรืออาจจะกินเวลา เป็น เดือน , เดือนครึ่ง ต่อไป
..ถือว่าคุ้มค่า คุ้มค่าที่เค้ามาเกิดตอนนี้

เพราะสิ่งที่ได้ทบทวน และเรียนรู้ช่วงนี้
จะเป็นฐานของการมีชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคตแน่นอน
(แต่ตาต้องหายนะครับ , ต้องหายในระดับดีด้วย
อย่างน้อยๆ ต้องขับรถได้เอง – ซึ่งผมเลิกหวังไปแล้วในช่วงต้น
แต่ตอนนี้กลับมาหวังตรงจุดนี้เป็นสำคัญเลย
..แต่สถานการณ์ปัจจุบัน การข้ามถนนเองยังถือว่ามีความเสี่ยงอยู่
ยกเว้นใจจะเย็นมากๆ –ซึ่งช่วงนี้เวลาผมมีเวลาเหลือเยอะ)


23 นาทีแล้ว..


เวลาระหว่างวัน
ทำสิ่งต่างๆ เท่าที่ทำได้ พยายามหาอะไรทำ
เช่นล้างรถกางสายฝน ..
ทำป้ายประท้วงเด็กร้านเนทข้างบ้าน ที่ชอบมายืนสูบุหรี
(ควันมันก็เข้าบ้านผมน่ะสิ )

เวลากลางคืน จะเป็นเวลาแห่งความสุข
2 ทุ่มกว่า-3ทุ่ม เมื่อทานข้างทานยา อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยดีแล้ว
ก็จะมานั่งฟังเพลง (ออกแนวดนตรีบำบัด555)
เพลงส่วนใหญ่ เป็นเพลงคลาสสิก ไม่ก็เพลของ yanni

..เปิดเพลงเบาๆ มืดๆ เย็นๆ ..

จากนั้น ก็ค่อยๆ ปล่อให้ความคิดคลายตัวออกไป
แผ่วเบา ผ่อนคลาย.. ความคิดจะไปไหน เราก็ปล่อยเค้าไป
ติดตามเค้าไป..
..สิ่งที่ปรากฎ คือ การได้ทบทวนถึงสิ่งรอบๆ ตัว ใกล้ๆ ตัว
สิ่งที่ใกล้ตัวมากๆ ที่เราเคยมองข้าม
คนรอบๆ ตัว คนใกล้ๆ ตัว ..
พี่น้อง แม่ หลาน การดำเนินชีวิตในแต่ละวันของตัวเอง
ขยายไปถึงเพื่อนๆ และผู้คนอื่นๆ
สิ่งที่เราเข้าไปเกี่ยวข้อง ปฎิสัมพันธ์ของเรากับคนรอบๆ ตัว
ปฎิสัมพันธ์ของเรากับสิ่งต่างๆ ฯลฯ

เวลาส่วนใหญ่ ใช้ไปกับการพิจารณา ทบทวนถึงสิ่งเหล่านี้ครับ
และก็พบว่า เราทำอะไรได้อีกมากมากขนาดไหน
ในการที่จะทำให้บรรยากาศรอบๆ ตัวเรา หรือที่ๆ เราอยู่มีบรรยากาศดีขึ้น

..เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเยงแค่ทำ แต่สามารถสร้างประโยชน์ได้เยอะแยะ


40 นาทีแล้วครับ

ไม่ว่า ดวงตาจะสามารถหายดีได้แค่ไหน
ถ้าเค้ามีเจตนารมณ์บางอย่าง กับปรากฏการณ์นี้
เช่นการหวังให้ผม มีปฎิสัมพนธ์ที่ดีขึ้นกับคนในครอบครัว
มีเจตนารมณ์ ที่จะให้ผมดูแลเค้าให้ดีขึ้น หรือใช้ชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
..เจตนารมณ์ของปรากฎการณ์ครั้งนี้ บรรลุผลแล้วครับ

(เพียงแต่จะดีกว่ามากๆๆถ้าดวงตากลับมาหายได้เป็นปกติ หรือใกล้เคียงปกติได้)


ไม่ว่ายังไง จากนี้ไป บรายากาศในครอบครัวของผมน่าจะดีขึ้น
(เดิมก็ไม่ได้แย่ ..เพียงแต่บ่อยครั้ง เราดูดายถึงสิ่งที่ทำได้
หรือเพียงแค่พอได้ทำเท่านั้น .. เล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถสร้างสิ่งดีๆ เกิดขึ้นได้มากกมาย
, หรือถ้าเราพร้อมจะแบ่งเวลาส่วนตัวที่เราหวงแหนออกไปบ้าง เวลาเล็กๆ น้อยๆ ของเรา
ก็จะสามารถสร้างผลกระทบที่ดีให้กับคนที่เรารักได้มากมายมหาศาล..


ถ้าสายตาผมสามารถกลับมาใช้งานได้ดี อนาคตผมก็จะดีกว่าอนาคตก่อนหน้านี้ด้วยแน่นอน)


55 นาที

พอแล้วครับ
เรื่องที่เล่านี่ ผิดจาก ที่คิดจะเล่าทีแรกมากเลยครับ

อย่างที่บอกว่ามีเรื่องอย่ากเล่ามากมายก่ายกอง
ยังรวบรวม เรียบเรียงไม่ถูกครับ เยอะมากๆๆ ..








ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกๆ คน ที่เป็นห่วงเป็นใยนะครับ
ผมจะพยายามดูแลตัวเองให้ดีที่สุดครับ


พอทราบมาว่า คุณแม่พี่จูนไม่ค่อยสบาย
เป็นกำลังใจให้นะครับ แบ่งพลังในการฟื้นตัวของผมไปด้วยก็ได้
ขอให้คุณแม่ท่านสุขภาพดีวันดีคืนนะครับผม
และเป็นกำลังใจให้พี่จูนด้วย
(และฝาก happybirthday พี่จูน มาที่นี้ด้วย-จำได้ว่าใกล้แล้ว)


1.05 ชั่วโมง..
แล้วน้องตาจะไม่ประท้วงได้ยังไงเนอะ..
น้องตาไม่ได้ประท้วงขอค่าแรงขึ้น
แต่น้องตาจะประท้วงไล่เจ้านายออก
วันที่ได้ทบทวนว่าตัวเองทารุณกรรม ดวงตาตัวเองมากแค่ไหน
ก็รู้สึกต๊กกะใจ และรู้สึกผิดกับดวงตาตัวเองเป็นอย่างยิ่ง
ช่วงนี้เลยต้องเอาอกเอาใจ ประคบประหงมเค้ามากหน่อย..
..สงสัยเดียวโดนน้องตาโกรธอีกแหงมๆ เลย


ไปแระ ไปก่อนครับ แว๊ปปปปป .....



************

เมื่อ 01/06/2008 , 15:19:58


จริงๆ จะว่าไป ช่วงนี้ ผมก็ยังหลีกเลี่ยง การดูทีวี เล่นคอม
และการอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ (คืออยากให้แต่ละครั้งที่ตัวเองอ่าน รู้สึกว่ามีพัฒนาการขึ้น)

ซึ่งช่วงนี้ ถ้าจะฝืนอ่าน ก็จะสามารถอ่านได้มากขึ้นบ้าง
คอลลั่มที่ไม่ยาวมากนัก พอจะค่อยๆ ฝืนอ่านจนจบได้
(เทียบกับช่วงแรกแล้ว แต่ละบรรทัดเป็นความยากลำบากทีเดียว)


ตอนนี้เวลาเทียบสิ่งที่ผมเจอให้คนอื่นพอจิตนาการได้
ก็คือ ให้นึกถึงการอ่านหนังสือในโรงหนังมืดๆ

ถ้ามีคนเอาไฟฉายมาส่องในหน้งสือพิมพิ์ให้อ่านสัก 1 ดวง
ก็คงจะพอกล้อมแกล้มอ่านไปได้ (ปวดตา เมื่อยตานิดหน่อย)

แต่ช่วงแรกที่ผมเจอ เหมือน มีคนเอาไฟฉาย 3 ดวงมาส่องลงหนังสือพิมพ์พร้อมๆ กันให้เราอ่านในความมืด
ดังนั้นทุกอย่างมันจึงพร่าพรายไปหมด จนไม่สามารถเห็นเส้นเงาของตัวหนังสือได้

สำหรับตอนนี้ เวลาเทียบแบบนี้
ผมก็จะเทียบว่า ไฟฉายที่ส่องลงมาเหลือ 2 ดวง
นี่คืออาการที่ดีขึ้นครับผม..



ไปแระครับ ตอบ คุย เล่ากับป้าวาฬได้ยาวหน่อย
ตบโควต้าสำหรับตอนนี้ครับผม



***********



เมื่อ 02/06/2008 , 10:13:51



ได้โควต้าจากน้องตามาได้ ราวๆ 40-50 นาที
(จริงๆ คือ 9.30-10.10 -ดู ฟิวเจอร์ และหลังตลาดเปิดสัก 10 นาที)


อนนี้เท่าที่ดู พอใจแระ
โค้วต้ากำลังจะหมดพอดี



กระทู้ล่างยังไม่ได้ตามอ่าน (แต่เดี๋ยวอาจจะอ่าน แต่คงไม่ได้ตอบ)


หวัดดีทุกๆ คนครับผม..




วันนี้จะได้โค้วต้าจากน้องตา มาเปิดคอมฯ ดูหุ้นได้นิดหน่อย +ทำอะไรบางอย่างเป็นระยะๆ



วันนี้อาจจะแว๊ปมาอยๆ
แต่ครั้งละได้ไม่นาน (ยังฝืนตาได้ครั้งละเล็กๆ น้อยๆ )
ถ้ามองให้ดีมองว่าฝึกตา 555



ไปก่อนสำหรับตอนนี้ (อ่านยาวๆ ยังยาก พิมพ์ง่ายกว่าครับช่วงนี้)




************


เมื่อ 02/06/2008 , 17:40:52 » Edit
--------------------------------------------------------------------------------

ครับผมพี่จูน จะดูแลตัวเองให้ดีครับ
ขอบคุณพี่จูนมากๆ เลยครับ
(ชื่อโรคยังไม่รู้ พรุ่งนี้นัดเจออาจารย์หมอ จะถามอีกที
แต่อาการยังดีขึ้นครับ ..

จริงๆ วันนี้ตั้งใจจะทำอะไรบางอย่างด้วย
เป็นการเล่าอาการ พร้อมภาพประกอบ
เพียงแต่ เผลอเอาเวลาไปดูหุ้นมากไปหน่อย เลยยังไม่ได้ทำ)



ขอบคุณครับป้าวาฬ..
เพิ่งรู้ว่า เพิ่งพ้นวันคล้ายวันเกิดของป้าวาฬ
ขออนุญาตสุขสันสันต์วันเกิดย้อนหลังด้วยนะครับ
(อ่านลงมาต่อ เลยไม่รู้ว่าผ่านไปแล้ว หรือยังไม่ถึง555)

ส่วนเรื่องคุณหมอ ท่านไม่ได้บอกจริงๆ
ว่าให้พักตา หรือว่าฝึกสายตา
..แต่ผมก็พักตาเมื่อเห็นว่าควรพัก(ส่วนใหญ่)
และบ้างช่วงก็จะฝึกบริหารสายตาด้วย – เย็นๆ ร่มๆ แสงน้อยๆ

..โดยรวมๆ จะพยายามดูแลตัวเองเต็มที่ครับ ขอบคุณครับ





ขอบคุณน้องอายาโกะมากๆ จ้า (พิมพ์ผ่านword-เลยไม่มีรูป)





ป้าโนทิง ทำไมมาแต่หัวใจอย่างเดียวอ่ะ
ดวงเดียวไม่พอ ขอครึ่งโหล 555
..ขอบคุณครับป้าอ้อ..




ขอบคุณมากๆ จ้า ธัมมะ
พยายามจะหายไวๆ อยู่เหมือนกันครับ
..แต่คงต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป มากกว่าสำหรับอาการของโรคนี้

..สำหรับผมเอง แรกๆ เริ่มต้นก็รู้สึกว่า อาการไม่ค่อยทันใจเท่าไหร่
แต่พอช่วงหลังที่อาการของตาไวแสงเริ่มดีขึ้น
ก็รู้สึกเหมือนมีพัฒนาการ ในด้านการใช้งานจริงได้ดีขึ้น เป็นที่พอใจ

การรักษา (ผมสังเกตจากอาการของผมที่มีลำดับ และรูปแบบดีขึ้น
จึงเริ่มเข้าใจ การให้ยาของอาจารย์หมอ)

คือ เริ่มต้น ให้ยาฟื้นฟูในส่วนของสายตา ที่มีปัญหาเสียไปในช่วงแรก
ขณะเดียวกัน การฟื้นฟูตาเสีย ก็ทิ้งอาการ ของตาไวแสงไว้ เป็นผลข้างเคียง
เมื่อรักษาอาการของตา ให้ฟื้นฟูกลับขึ้นมาได้
ก็ค่อยๆ ลดยา เป็นลำดับขั้นที่ละเล็กน้อย เพื่อผล
1. รักษาระดับของสายตาที่เสียไปให้ยืนอยู่
2. ลดผลข้างเตียงของยาที่ทำให้ตาเกิดความไวแสง

ช่วงนี้ สายตาไม่กลับไปแย่ลง และอาการเริ่องตาไวแสงค่อยๆ ดีขึ้น






จริงๆ วันนี้ ตั้งใจจะเล่าอาการประกอบภาพ
คือเริ่มต้นเราคิดของเราเอง ว่าอาการมันค่อยๆ เป็นมาเป็นไปยังไง
คิดไปก็มีรูปประกอบคามคิด พร้อมคำบรรยาย
พอคิดต่อไป เลยคิดว่า จะทำเอามาเล่าให้ฟัง ให้เห็นภาพเลยทีนี้
คิดต่อไปอีก ถ้าทำเป็นลำดับดี น่าจะเอาไปให้อาจารย์หมอได้
เผื่อว่า จะเป็นการเล่ารายละเอียด
ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง เผื่อว่า อาจารย์หมอ จะเอาไปใช้เพื่อประโยชน์
ทางด้านการศึกษาของหมอนิสิตได้ด้วย


แต่ตอนนี้คิดว่าคงทำไม่ทันแล้ว
เพราะพรุ่งนี้นัดหมอแล้ว


สรุป คือ วันนี้เอาโค้วต้าแอบไปใช้ดูหุ้นซ่ะเป็นส่วนใหญ่
เลยไม่ได้ทำ สิ่งที่คิดจะทำวันนี้



พอแระครับ เล่าแล้วงง(เพราะไม่เป็นไปตามลำดับขึ้นที่เราคิดไว้)


ขอบคุณทุกๆ ความห่วงใย ทั้งส่วนที่ผมได้อ่านเจอ
และในส่วนที่ผมยังไม่สามารถกลับไปอ่านได้


ยังไงก็ตามก็ขอบคุณมากๆ ครับผมสำหรับทุกๆ ท่าน..



************

03/06/2008 , 08:20:56


เมื่อคืนนอนเช้า
เช้านี้เลยตื่นเร็วพร้อมความสดชื่น
เห็นอากาศดีๆ แสงดีๆ เลยไปปั่นจักรยานออกกำลังกายมาตั้งแต่ 6 โมงเช้า

ปั่นจักรยานได้แล้ว (จริงๆ ช่วงพักฟื้นก็ปั่นอยู่แล้ว แต่สั้นๆ-ยังขี่มอเตอร์ไซค-รถไม่ได้แน่ๆ )
แต่วันนี้ปั่นไกล คือปกติถ้าจะปั่นแบบนี จะเป็นช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
เช้านี้ไม่ได้ปั่นเท่ากับที่ปั่นวันหยุด แต่ก็ถือว่ามาก
ระยะทางโดยรวม คงไม่น่าจะน้อยกว่า 15-20 กิโล , ใช้เวลา จาก 6 โมงเช้า ถึง 7.40 น.



วันนี้ผมคงไม่เข้าบอร์ดแล้ว
โค้วต้าใช้ตากับคอมฯ ที่เหลืออาจจะเอามาดูหุ้นระหว่างวันได้นิดหน่อย
เย็นนัดคุณหมอไว้ ..


************

เมื่อ 04/06/2008 , 08:21:03











เสียดายจังเลย เสียดายสุดๆ เลย

เธอต้องเป็นคนที่ดีแน่ๆ เลย

เข้าใจว่ามากับคุณแม่ด้วย แต่เธอเป็นคนเดินเรื่องทั้งหมด



เสียดายมั่กๆ ..แต่เรามันซือบื้อเอง

แล้วจริงๆ ผมเองก็ไม่มีทักษะในการเข้าถึงตัวผู้หญิงในครั้งแรกที่ปิ๊งด้วย

ส่วนใหญ่ จะเริ่มต้นจีบใครสักคน ต้องหยั่งเชิงอยู่นาน






***********

Reply #21 เมื่อ 04/06/2008 , 08:26:22 » Edit
----------------------------------------------------------------------------


ข้างล่างนี้ เป็นเรื่องที่บอกว่า

จะเอามาเล่า พร้อมภาพประกอบ (แต่ไม่มีภาพนะครับ)

พิมพ์ก่อนไปหาอาจารย์หมอครับ



เล่าบรรยากาศของ กับความคิดของตัวเองให้ฟัง..




ส่วนผลการตรวจจากอาจารย์หมอ จะอยู่ในรีพลายถัดไปคครับ



---------

ลองคิดถึงดวงอาทิตย์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 ซม.
วันที่แสงเจิดจ้ามากๆ รัศมีของมันอาจจะกินวงขึ้นไปเป็น
4 ซม. 6 ซม. หรือ 8 ซม.

ตอนที่ผมออกมาใหม่ๆ มันเป็น 6 ซม. อ่ะครับ


แรกสุดเลย ก่อนหาหมอ
ดวงอาทิตย์ของผมกินพื้นที่ไป 70-80% ของการมองเห็น
แต่เป็นดวงอาทิตย์ที่ไม่ได้เจิดจ้ามากนัก(คือไม่ไวแสงนั่นแหละ)
คือเป็นแสงพร่าๆ มัวๆ ทับๆ กินพื้นที่ไป 70-80% ของการมองเห็น



หลังจากช่วงนั้นไปหาหมอ 3 วันติดต่อกัน
ต้องหยอดยาขยายม่านตาติดต่อก้น 3 วัน
(หมอตาทุกคนควรที่จะยอดยากขยายม่านตาให้เต็มที่ แล้วไปเดิน
ห้างสรรพสินค้าดูสักชั่วโมง สักครั้ง สนุกมากๆ -..ถ้าตาดีนะ
เพราะวันนั้นผมหยอดเสร็จ ต้องไปที่ร้านมาบุญครองต่อ
ต้องบอกว่า สีสรรคัลเลอรฟูลมั่กๆ ..)

3 วันที่ต้องไปหาหมอ ต้องหยอดยาขยายม่านตาติดต่อกัน
ทำให้ผมไปชินกับการรับแสงจัดๆ
ช่วงหลังจากเข้าโรงพยาบาลเลย เกิดการเปรียบเทียบที่ผิด



ระหว่างอยู่โรงพยาบาล รู้สึกว่าอาการดีขึ้นทุกๆ วัน
มองได้ไกลขึ้น และกว้างขึ้นวันละหน่อย
แสงโรงพยาบาลที่ถูกจัดไว้ดี ทำให้การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเล็กน้อย
ดูถูกขยาใหญ่ขึ้นเกินจริงนิดหน่อย..

ตอนก่อนแอ็ดมิด ตาผมดูจะเสียไป 70-80%(ไม่ไวแสง)

ตอนออกจากโรงพยาบาล ผมคิดว่า ตาผมดีกลับขึ้นมา
จากที่เสียไป 70-80% นึกว่า จะกลับมาเหลือ 40-50%(ที่เสีย)

พอกลับมาใช้งานจริงในสภาพปกติ
ผมคิดว่าช่วงแรก ใช้งานได้เต็มที่ก็ ไม่เกิน 30-40% เท่านั้น



ที่ผมเคยเทียบช่วงแรกว่า การใช้งานอย่างหยาบ
(เดินเหิน กินข้าว เข้าห้องนำ)

และการใช้งานแบบละเอียด
(อ่านหนังสือ ดูทีวี ใช้คอมฯ ทำงาน ขับรถ ฯ)

ตอนหลังผมเปลี่ยนมาเป็น
ปัญหาเรื่องการก่ะระยะ/ปัญหาสายตา= การใช้งานอย่างหยาบ
และ ปัญหาเรื่องแสง = การใช้งานแบบละเอียด



ช่วงอยู่ในโรงพยาบาลก็ดีขึ้นครับ
แต่ส่วนใหญ่ ก็จะเป็นอาการดีขึ้นในส่วนของการก่ะระยะ
พอบรรยากาศในโรงพยาบาลที่เค้าจัดไว้ดี ก็เลยรู้สึกว่าดีขึ้นมากหน่อย

พอกลับมาบ้าน รู้สึกว่า ตายังใช้งานในส่วนละเอียดได้ไม่ดี
เนื่องจากปัญหาเรื่องตาที่ไวแสงมากๆ นั่นเอง
(อย่างที่เล่าให้ฟัง เรื่องอ่านหนังสือพิมพ์ในโรงหนัง
เอาไฟฉาย 1 ดวงส่อง กับเอาไปฉายสามดวงส่อง-ตอนนี้เหลือ 2)


กลับม้าน ช่วงตันอาการดีขึ้นก็จริง
แต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการก่ะระยะ
เรื่องแสงไม่เห็นพัฒนาการเท่าที่ควร
ผมเองก็ยังกังวลใจในส่วนนี้มาก

พื้นที่ตา และขอบเขตการใช้ตาดูมีพัฒนาการที่ใช้ได้กว้างขึ้น
ไกลขึ้นก็จริง แต่จุดบอดที่เป็นดวงอาทิตย์ขนาด 2 เซ็นต์
ในดวงตาดูไม่ค่อยมีพัฒนาการให้เห็น แถมยังไวแสงมาก
รัศมีมันก็เลยทำให้ 2 เซ็นต์ ดูเหมือน 6 เซ็นต์มากกว่า
ความไวแสง ก็ทำให้รับแสงง่ายกระจายไปทั่วตา (อ่านหนังสือไม่ได้)



อาจารย์หมอ ให้ยาก แบบลดหลั่นเป็นขั้นบันได
มือละ 3 เม็ด , วันละ 2 มื้อ 3 วัน (ผมกินไป 4 วัน)
มื้อละ 2 เม็ด , วันละ 2 มื้อ 3 วัน (กินไป 3 )
มื้อละ 2 เม็ด วันละมื้อ ไปอีกต่อเนื่อง 1 สัปดาห์

แต่หลังจากผ่านขั้นบันไดแรกไป
มีการลดยา อาการที่ไวต่อแสงก็เริ่มมีพัฒนาการให้เห็น
คือตาไวแสงน้อยลง รัศมีดวงอาทิตย์ดูจะแคบลง
และตัวดวงอาทิตย์เอง ก็ดูมีความเข้มของแสงน้อยลง

อาการโดยรวมดูดีขึ้น (ผมเอาเอาว่า ยาตัวนี้ให้ผข้างเคียงเรื่องแสง
การรักษาขั้นต้นเป็นการรักษาสายตาที่เสียไปให้กลับคืนมา
แต่ทิ้งความไวแสงไว้ แล้วจึงมาลดปํญหาเรื่องแสงทีหลัง
ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของผม เพราะปัญหาเรื่องแสง
น่าจะลดลงได้อีก-เพราะเมื่อวานเป็นวันแรก ที่มีการลดยาขั้นที่ 3
..ซึ่งผมยังไม่สังเกตึเห็นการเปลี่ยนแลงอะไรมากนัก)


ก็หวังว่า อาการเรื่องแสง ท้ายที่สุดจะลดลงได้อีก

จริงๆ ตอนนี้ ถ้าปัญหาเรื่องตาไวแสงหมดไป
ผมคิดว่า ผมก็น่าจะเป็นแค่ คนที่ อาจจะสายตาสั้น 2 ข้างไม่เท่ากันมากๆ เท่านั้น
-ตอนนี้ ยังรู้สึกว่า ตา 2 ข้างไม่สามัคคีกัน คือจะมองใกล้ มองไกล
เหมือนต้องสลับตามองนิดๆ ซึ่งเรื่องนี้ ผมคิดว่า แว่นตาน่าจะช่วยได้ในสัดส่วนที่มาก


ก็ลุ้นต่อไปครับ ตอนนี้เรื่องแสง
ดูผลของการลดยาขั้นสุดท้าย ว่าแสงจะลดลงด้วยหรือเปล่า
จะหายไปเลยหรือเปล่า ดวงอาทิตย์ ที่ตอนนี้ ดูจะดวงเล็กลง และจางลง จะหายไปหรือเปล่า..

หรือถ้าจะเล็กลงเหลือจุดบอดเล็กๆ ในตา ไม่รบกวนการใช้งาน
ไม่มีปํญหาเรื่องการไวแสง นี่ก็ต้องถือว่า หายสมบูรณ์แล้วครับ


**********


Reply #22 เมื่อ 04/06/2008 , 08:39:52 » Edit
-------------------------------------------------------------------------



รายงานผลเมื่อวาน..





ไปถึงโรงพยาบาล ผมลงรถไปยื่นใบนัดตรวจก่อน


ไปถึงห้องตรวจ ก็เข้าไปหวัดดีทักทายอาจารย์(จำหน้าไม่ได้ ถ้องถามพยาบาล)


เข้าไปหวัดดีอาจารย์ (อาจารย์ท่านจำผมได้)


ท่านถามว่า เป็นยังไงอาการดีขึ้นมั้ย ข้างซ้าย(ท่านชี้ไปที่ตาซ้าย-ดูว่าท่านจะคาดหวังอย่างน้อยก็ตาซ้าย)


"ดีขึ้นครับ.." เสียงดังฟังชัด


"แล้วตาขวาหล่ะ?" เสียงอาจารย์ดูไม่ค่อยมั่นใจเหมือนทีแรก


"ดีขึ้นครับ.." เสียงดังฟังชัด


"ดี.." อาจารย์ยิ้มพยักหน้า ..แล้วผมก็ขอตัวอาจารย์ไปเข้าคิวรอ






มีการตรวจพื้นฐาน 2-3 เรื่อง ก่อน

(เช่นวัดตู้ไฟ-ไปห้องตรวจสายตาประกอบแว่น)



หลังจากหยดยาขยายม่านตา แล้วให้อาจารย์ตรวจ ด้วยเครื่องตรวจ แบบตั้งโต๊ะ

(ทีแรกอาจารย์จะตรวจแบบพาเข้าห้องมืด ส่องไฟ ,แต่ห้องมีคนรอคิวเยอะ อาจารย์เลยตัดสินใจตรวจด้วยเครื่องตั้งโต๊ะ




คำแรกที่อาจารย์เอย่ขึ้นมา..

"แจ๋วนี่..!?"

"ครับ.." ผมยิ้มให้อาจารย์ "วันก่อนที่ผมมา ผมมองไม่เห็นหน้าอาจารย์หมอเลยครับ"

แล้วก็พิจารณาหน้าอาจารย์หมออย่างเคลิบเคลิ้ม..555

..อาจารย์หมอก็แซว" ยิ้มเลยนะๆ ..มาตรวจดูอีกหน่อย"





ผลปรากฎว่า ผมไม่ได้เป็นปํญหาเรี่องยีนส์นะครับ

ตอนผมถามเรื่องนี้ อาจารย์ดูตำหนิหมอเวร ที่ตรวจผมก่อนออกจากโรงพยาบาล ว่าพูดอย่างนั้นได้ยังไง

ที่ผมเป็น คือเชื่อไวรัสไช้เลือดออกเข้าตา ทำให้เส้นเลือดในตาอุดตันนั่นเองครับ!!

(ที่พยาไท เคยวินิจฉัยในกรณีนี้เหมือนกัน-แต่ดูหมอพญาไทเธอก็ไม่ค่อยมั่นใจ จึงได้แนะนำให้ไปรีเช็คที่อื่น

หมอที่โรงพยาบาล ตา หู คอ จมูก ก็ไม่ค่อยมั่นใจ บอกว่ามันเป็นกรณีที่เกิดยาก จึงแนะนำให้มาที่รามาธิบดี)

ท้ายสุด เป็นผลสือเสื่องมาจากไข้เลอดออกครับผม..





ผมบอกอาจารย์หมอ ว่าทีแรกฟังหมอทุกท่านพูดแล้วใจไม่ดีเลย

อาจารย์ก็บอกว่า จำเป็นต้องพูดอย่างงั้น

เพราะแต่ละคนตอบสนองต่อยาไม่เท่ากัน บางคนอาจจะไม่ตอบสนองต่อยาเลยก็ได้

แต่กรณีผม ถือว่าตอบสนองต่อยาดีมาก (เพราะดูอาจารย์ก็แปลกใจหน่อยๆ เหมือนกัน)






ผมเองได้ตรวจ ด้วยเครื่องส่องไฟซ้ำอีกครั้ง เมื่อวานจึงรู้ว่าอาการตัวเองดูแย่แค่ไหนในสายตาหมอ

เพราะตั้งแต่ครั้งแรกเลยที่ไปตรวพยาไท (ผมต้องให้หมอยอดยาขยายม่านตาแล้วส่องไฟทุกคน)

ตั้งแต่ครั้งแรกที่ตรวจ ต้องส่องไฟใส่ตา ผมจะเห็นเงาทับเป็นรูปน้องหมา 5 ขา ขนาดใหญ่พอประมาณ อยู่กลางจอตามาตลอด

(ผมไม่รู้ว่าสายตาคนปกติต้องเป็นยังไง ก็เลยเฉยๆ เพราะเห็นเค้าตั้งแต่ครั้งแรก - ปรากฎว่า ตาปกติ ต้องไม่เห็นอะไรเลยครับ

แต่เงาน้องหมา 5 ขา นั้น ทั้งใหญ่ และทับ)






สรุป ผลกาตรวจ ก็ดีขึ้นอย่างที่เล่าให้ทุกๆ คนฟังตรงนี้

อาการจะไม่กลับไปแย่เหมือนเดิมแล้ว

เพียงแต่จะฟื้นคืนกลับมาแค่ไหนเท่านั้น? และที่สำคัญ มีโอกาสหายขาดได้ครับ ..



.........เย้ยยยยยยยย...........










สำหรับอาการโดยรวมของผมตอนนี้..

ดวงอาทิตย์ที่เคยเป็นแสงทับๆ ยังลอยอยู่

ช่วงที่แย่ๆ มั่นส่องแสงจ้าจ้าน จนรัศมีขยายไปถึง 3 เท่า

..ตอนนี้ มันเป็นดาวฤกษ์ ที่รอวันดับ (เหลือไม่ถึง 1 เท่า)





คือตอนนี้จุดทับแสง ไม่ทับแสงแล้ว แต่จะเป็นวงพร่าๆ พร่ายๆ ที่ยังไวแสงอยู่

อยู่ใกล้ๆ กับจุดโฟกัสตาลงมาทางขวาล่างเล็กน้อย (ตอนนั้นอาจารย์บอกว่า 30 องศา)




ตอนนี้คงยังขับรถไม่ได้

อาจารย์หมอบอกว่าใช้คอมได้แล้ว (แต่ผมคิดว่า ช่วงนี้ยังไง ก็ขอดันอาการที่ยังไม่เต็มร้อย ให้เต็มที่ก่อน)





อาจารย์หมอ ให้ลดยาลงเหลือ วันละ 1 เม็ดเช้า แต่ยิงยาวไป 1 เดือน

และเพิ่มวิตามินเสริมมาให้ 1 ตัว , และเปลี่ยนยาหยดตาเป็นยาตัวใหม่ ยาเดิมตัวไหนมีอยู่กินให้หมด

..หมอไม่นัดแล้ว แต่บอกว่า ถ้ามีอาการอะไรผิดปกติ โทร. หาอาจารย์หมอได้ทันที




อาจารย์หมอ วิชัย ประสาทฤทธา



---------


Reply #24 เมื่อ 04/06/2008 , 09:26:07 » Edit





แถมท้ายนิดหน่อย

มีเรื่องยังเอิญ ที่ดูเหมือนชะตาฟ้านิดหน่อย



ก่อนที่ผมจะมีอาการผิดปกติเรื่องตานี้
ให้บังเอิญว่า อาจารย์หมอ ก็ไปซื้อของที่ร้านบ้านผมที่มาบุญครอง
พี่ชายผมก็บริการอาจารย์ท่านไว้ค่อนข้างดี - ตอนนั้นไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
ก็ขอเบอร์อาจารย์หมอเก็บไว้ ทั้งในฐานะลูกค้า(เผื่อต้องบริการในอานาคต) และก็ในฐานะที่เป็นหมอ




ตอนที่ผมเข้าพญาไท เค้าก็แนะนำให้ไปตรวจเช็คซ้ำที่อื่น
ฟังอาการน่ากลัว ก็ไปเช็คซ้ำทันที่ ที่ ตา หู อ จมูก
หมอที่นั่นก็แสดงท่าทีว่า อากานน่าเป็นห่วง ที่นั่นหมอก็แนะนำให้มาหาที่คลีนิกพิเศษ(คือเน้นใมที่คลีนิคพิเศษเลย
- เพื่อจะได้เจอกับอาจารย์หมอ ให้ชื่อมาด้วยแต่ไม่ใช่หมอวิชัย , หมอที่ตาหูให้มาไม่อยู่เวรในวันที่ผมไปตรวจด้วย)


ปรากฎว่า อาจารย์หมอวิชัยอยู
พี่ชายก็โทร. ปรักษาอาจารย์หมอ
พี่สาวที่พาผมไปถึงโรงพยาบาลแล้ว ก็โทร. ไปหาอาจารย์อีก
อาจารย์ก็บอกให้ลงชื่ออาจารย์เป็นเจ้าของไข้เลย


แล้วก็ได้ตรวจกับอาจาร์วันนั้น แต่ต้องมาซ้ำใหม่วันรุ่งขึ้น , กลังจากฉีดสีแล้ว อาจารย์หมอจึงจำแอ็ดมิดทันที

ตรงนี้ทั้งหมด ดูเหมือนจะเป็นความบังเอิญที่โชคดี เหมือนมีชะตาต้องกันกับอาจารย์อยู่



สำหรับผมเอง ตอนนี้ เมื่อคืนตัดสินใจว่า จนหมดสัปดาห์นี้จะพักผ่อน
และผลักดันอาการให้ดีขึ้นไปต่อให้เต็มที่
..เลยคิดว่า ตัวเองคงจะปิดรับสื่อ(สารมวลชน)ต่อไป

คือยังจะไม่ฝืนอ่านหนังสือพิมพ์ และยังไม่ฝืนดูทีวี(จริงๆ ต้องใช้คำว่าหลีกเลี่ยงด้วยซ้ำ)

ทั้งๆ ที่อาจารย์เค้าไม่ว่าอะไร


จนกว่าจะสัปดาห์หน้า แล้วจึงค่อยมาตั้งโปรแกรมสำหรับทำงานกันใหม่
ซ่ำแน่นอนว่า ต่อจากนี้ไป ผมคงจะไม่ใช้คอมพิวเตอร์แบบแต่ก่อนแล้ว
และคิดว่า ตัวเองก็น่าจะลดการดูทีวีลงเหมือนกัน

..ส่วนเรื่องการอ่าน อาจจะไม่น้อยลง(หรืออาจจะมากขึ้น)
และคงเอาเวลามาฟังเพลงมาขึ้นอีกหน่อย หลังจากที่ห่างหายไปนาน





วันนี้ผมไม่เข้าเวปบอร์ดแล้วนะครับผม..

ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่เป็นห่วง

ตอนนี้มีอาการยังไม่ดี 100%

แต่ก็ดีขึ้นมากแล้ว , ยิ่งเมื่อรู้ว่าสามารถหายได้ ก็อยากจะทำให้ดีที่สุดครับ

ส่วนจะไปได้ถึงไหน คงต้องมาดูกัน..




สำหรับวันนี้สวสดีครับ...




***********
เมื่อ 04/06/2008 , 10:34:16 »





************

Reply #6 เมื่อ 09/06/2008 , 10:32:18

ว่าแล้วตอนนี้ ขอตัวไปทานข้าวก่อน



ช่วงนี้หน้าบวมขึ้นมานิดหน่อย บวมยา บวมกิน(จุ) บวมนอน



แต่ผมชอบให้หน้าตัวเองบวมขึ้นมาหน่อยๆ เพราะมันจะคล้ายตอนเด็กๆ ที่ผมจะดูเจ้าเนื้อหน่อย



โตขึ้นมา พอมันผอมแล้ว มันอ้วนยากเหลือเกิน เพิ่มน้ำหนักเท่าไหร่ ก็ไม่ขึ้น



..พล่ามเยอะแระ ไปหาอะไรกินดีกว่า 555


************


เมื่อ 18/06/2008 , 10:26:26



เมื่อวานไปหาคุณหมอมาครับ เนื่องจากเห็นอาการทรงๆ มาหลายวัน
(ดวงอาทิตย์แรงกล้า เป็นวงแสงโดนัทเรืองๆ , อาการผมเทียบกับตอนแรกถือว่าดีขึ้นมาพอควรแล้ว
แต่วงแสงโดนัทนี้ก็รบกวนสายตาอยู่ เพราะมันก็ไวแสงด้วย
ถ้าคุยกันกับคู่สนทนาในระยะปกติก็ยังเห็นหน้าคู่สนทนาไม่ชัด(มันมีแสงสะท้อน)
อ่านหนังสือ ก็เหมือนเอาโดนัทมาวางแล้วอ่าน เหมือนต้องอ่านเจาะในช่วงสั้นๆ ค่อยๆ ไล่ไป

..แต่ถ้าโดยทั่วไปแล้ว ภาพกว้างๆ อาการดีขึ้นมาก , แสงที่เคยพร่าไปทั่วทั้งดวงตา จอตา
ตอนนี้ไม่มีแล้ว (มีเฉพาะวงโดนัทนี่แหละที่เป็นปัญหาอยู่)




รวมๆ จึงเหลือเฉพาะจุดโฟกัสตานี่แหละ แม้อาการจะดีขึ้นมา

แต่ตรงนี้ปัญหามันดันเหลืออยู่ที่จุดโฟกัส จึงยังรบกวนการใช้งานอยู่
(เดินสวนกันจะจำไม่ได้ ยกเว้นตั้งใจจ้อง ซึ่งไม่มีมรายาท)


ไปหาอาจารย์หมอ อาจารย์หมอก็ดูว่าไม่มีอะไร
เป็นอาการบวมของดวงตา จอตาที่ยังมีเหลืออยู่จากครั้งที่เลือดไม่ได้ไปเลี้ยงที่ดวงตา
อาจารย์บอกว่า ในช่วงท้ายๆ อาการจะดีขึ้นช้าหน่อย ไม่เหมือนช่วงต้น
(อาจารย์ว่า ไม่ต้องห่วง มันจะค่อยๆ ดีขึ้นอยู่-ช้าหน่อย)
..อาจารย์ คงกลัวว่า ผมจะจู่ๆ โผล่มาอีกโดยไม่จำเป็น(เมื่อวานอาจารย์หมอไม่ได้นัด)


เลยให้ยาวิตามินมากินเพิ่มอีก 1 เดือน(ต่อจากยาเก่าที่เหลือ ครึ่งเดือน)
แลวก็นัดผมใหม่ในอีก เดือนครึ่งข้างหน้า(ประมาว่า ระหว่างนี้ เองไม่ต้องมาหาหรอก 555)




จึงมาเล่าเรียนสถานะการณ์เพื่อให้ทราบโดยทั่วกันครับผม..




***************************



จบแล้วนะครับ
ล่าสุดคือถึงที่ตรงนี้
ณ วันนี้ แอบขี่มอเตอร์ไซคได้แล้วช่วงกลางวัน ช้าๆ(ไม่รีบอบู่แล้ว)
แต่กลางคืนยังไม่ค่อยปลอดภัย เนื่องจากยังมีอาการตาไวแสงเหลืออยู่แม้ไม่มาก
แต่ก็ทำให้กะระยะยากสักหน่อย ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าที่ควคครับ




ขอบคุณทุกๆ กำลังใจ จากทุกๆ ที่มา ณที่นี้ด้วยครับผม..







*******************


มาเพิ่มเติม..
อาจารย์หมอของเรา เท่ห์จริงๆ เป็นถึงหัวหน้าภาคเลย
เป็นโชคดีของเราด้วยที่ได้เจออาจารย์หมอ




Create Date : 24 มิถุนายน 2551
Last Update : 4 กรกฎาคม 2551 14:50:16 น. 1 comments
Counter : 596 Pageviews.

 
เชิญร่วมงานมิตติ้ง T3 คร้าบ
รายละเอียดดูที่กระทู้นี้ครับ//www.thaivwclub.com/webboard/index.php?topic=5311.0


โดย: kalamang IP: 203.149.28.114 วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:59:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บุญทับ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




กฎของเราก็คือ
เรามีความสุขสนุกสนาน
ได้มากเท่าที่เราต้องการ
แต่ต้องไม่ทำร้ายจิตใจใคร
..แม้แต่คนเดียว


จากหนังสือ ฟ้ากว้าง..ทางไกล



มวลเมฆ คือเนินเขาทำด้วยไอน้ำ เนินเขา คือมวลเมฆสร้างด้วยศิลา..(รพินทรฯ)
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
24 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add บุญทับ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.