เรื่อยเปื่อย.. : ..ทบทวน



บล็อกวันนี้ ต้องบอกว่าเรื่อยเปื่อยจริงๆ


วันนี้วันที่ 18 พ.ค. 2552


ที่จริง ตั้งแต่เดือนที่แล้ว
ตั้งใจว่า วันไหนสักวัน จะมารวบรวม สิ่งต่างๆ ที่ปรากฎขึ้นกับตัวเองในรอบปี

สิ่งที่คิดว่า จะเลือกเวลาช่วงเดือนเมษา ต่อพฤษภานี้
ไม่ได้มีวันดีเดย์อะไรเป็นพิเศษ


แต่มันเป็นช่วงเวลาที่ครบรอบปี ของ อาการสายตาเสียเมื่อปีที่แล้ว




ปีที่แล้วช่วงๆ เมษายนมั้ง อาจจะปลายๆ เดือนเมษา หรือต้นเดือน พฤษภาคม


ใช้วันหยุดวันหนึ่งไปบริจาคเลือด
ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำประจำอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ตั้งเป็นเกณฑ์ตายตัว
ว่าจะต้องทุก 3 เดือนตามกำหนด หรือ 4 เดือน , ไม่มีเกณฑ์
ใช้เกณฑ์ที่ว่า วัน-เวลา ที่เราสะดวก และรู้สึกแข็งแรงดีในช่วงนั้น
และไม่มีภาระกิจที่ต้องเอาชีวิตไปสมบุกสมบันหลังจากนั้น..


ปีที่แล้วช่วงนี้ ก็ไปบริจาคเลือดตามปกติ
หลังจากนั้น ประมาณไม่ถึง 2 สัปดาห์ พบว่าตัวเองเป็นไข้เลือดออก


ไปหาหมอไข้เลือดออก โชคดี ที่(คล้ายๆ ว่าร่างกายแข็งแรง)
อาการของไข้เลือดออก จึงไม่รุนแรงนัก


ขณะไข้เลือดออก กำลังจะหายซาๆ ลงไป
จู่ๆ ในวันหนึ่ง นัยย์ตา ก็มีอาการจุดบอดขาว พร่าเลือนลงไป
และอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว..

เพียงแค่ราวๆ 3 วัน จากเริ่มต้นเป็น
ความสามารถในการมองเห็น สูญเสียไปกว่า 80%(ประมาณเอาเอง) ที่กลางจอประสาทตา

โชคดีที่ วันนั้น ไปหาหมอได้ทันท่วงที
(อาจารย์หมอบอกว่า ช้ากว่านี้อีกวัน คงฟื้นไม่ได้อย่างนี้)



โชคดีที่ไปหาหมอได้ทันท่วงที และโชคดีที่เจออาจารย์หมอที่เก่ง
จับเรานอนโรงพยาบาลอยู่หลายวัน
และพักฟื้นอีกเป็นเดือนๆ


(โรคที่ว่านี้คือ เชื้อไข้เลือดออกขึ้นตา
คล้ายๆ ว่า ไข้เลือดออก ออกตามร่างกายน้อย-เพราะแข็งแรง-เลยหนีไปออกที่ส่วนอ่อนแอ คือลูกตา)




..มาวันนี้ ความสามารถในการมองเห็นน่าจะกลับคืนมากกว่า 90% แล้ว

ล่าสุดไปตรวจมา (เดือนที่แล้ว)
อาจารย์บอกว่า อาการเราดีขึ้นเยอะแล้ว
ที่เราห่วงนั่นห่วงนี่ เป็นเพราะเรากังวลไปเองมากกว่า

เอาเป็นว่า อาการดีขึ้นมาไม่น้อยกว่า 90% แล้ว
(แต่คงไม่มีทางหายขาด นี่คงเป็นอะไรที่ดี และทรงตัวที่สุดแล้ว)


อาการปัจจุบัน ก็ทรงๆ นะ
บางวันดีหน่อย บางวันอาจจะแย่หน่อย

ส่วนใหญ่ จะเป็น comfort zone ที่แคบ
คือแสงจ้าไปนิดตาก็จะพร่า แสงสลัวไปหน่อย ตาก็มัวเบลอ
สาตาก็ยังล้าง่าย ใช้ตาเสร็จทุกวัน ต้องพักตา
(มีแสงตกค้างในลูกตา กระพริมตายังเห็นลูกไฟอยู่)


แต่เอาเป็นว่า เคยชินแล้ว 555




*****************




วันนี้ไม่ได้ตั้งใจ มาคุยเรื่องอาการที่ตาอะไร


ใจจริงๆ อยากจะคุยเรื่อง
"ความเปลี่ยนแปลงหลังจากอาการตาเสีย" มากกว่า


แต่ก็ยอมรับว่า ไม่ได้มีอารมณ์จะมาเขียนอะไรเป็นพิเศษ
คือไม่ได้อยู่ในช่วงมีแรงบันดาลใจให้เขียนอะไรเป็นพิเศษ





เผอิญ ว่า วันนี้ ไปตอบความเห็นในบอร์ดประจำ
ตอบแล้ว แม้จะไม่ตรงประเด็น เรื่อง "ความเปลี่ยนแปลงหลังจากอาการตาเสีย" ซ่ะทีเดียวนัก

แต่ก็ถือว่า เป็นการพูดถึงภาวะการณ์ปัจจุบันของตัวเอง ไว้ระดับหนึ่ง



1 ปีที่ผ่านมา ต้องถือว่า มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นกับตัวเองมากเหมือนกัน
มีการปรับเปลี่ยน วิธีคิด วิธีใช้ชีวิตไปบ้าง
..ให้ตรงหน่อย น่าจะพูดได้ว่า มีการปรับเปลี่ยนทัศนะคติของตัวเองไป
โดยมีจุดเริ่มต้นจากอาการตาเสีย , ซึ่งเป็นที่มา ให้เราเปิดประตูสู่ ทัศนะใหม่ๆ

ซึ่งโดยหลักๆ แล้ว อาจจะพอพูดได้ว่า
เป็น ทัศนะธรรม ..ที่เข้ามาปูพื้นแนวความคิดตัวเองเสียใหม่
มีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางความคิด และการตัดสินใจใหม่ในหลายประการ

โดยได้ ธรรมะ ที่เคยสังกัดอยู่ในฐานะชาวพุทธ (แต่ไม่เคยได้รู้จักธรรมะจริงๆ)
มาเป็นโครงสร้าง มาเป็นฐานความคิดใหม่ๆ



คนคนเดิม ที่เป็นมาตลอดมา ยังคงอยู่
แต่ก็ได้ฐานความคิดเชิงธรรมะ มาช่วยเสริมให้อะไรๆ
ให้เป็นไปในเชิงคุณค่ามากยิ่งขึ้น..




ช่วงที่ตายังเสียอยู่ อยู่ระหว่างพักฟื้น ได้ทบทวนอะไรต่อมิอะไรมากมาย
ค้นพบหลายสิ่งหลายอย่าง..

สิ่งหนึ่งที่ตอนนั้นคิด และวันนี้ก็ยังคิดเช่นนั้น
คือเรานี้ถือว่าโชคดี ที่มาเกิดเหตุการณ์อย่างนี้(ตาเสีย)กับตัวเองในวัยนี้

ในวัยที่ยังสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรหลายสิ่งหลายอย่างได้อยู่

..ถ้าเทียบกับบางคน ที่อาจจะต้องเผชิญโรคร้าย
ในวัยที่เวลาของชีวิตเหลือน้อยแล้ว เค้าเหล่านั้น คงมีเรื่องให้แก้ไขได้น้อย




การได้ทบทวนถึงชีวิตอย่างจริงจัง
มีเวลาเต็มที่ ให้ไต่ถาม อย่างละเอียดละออกับตัวเอง
ถือว่าเป็นโชคดี..


สิ่งใดมีคุณค่าสำหรับเรา
สิ่งใดเป็นแต่การหลงทิศหลงทางไป
..ถ้าไม่มีความตาย หรือสิ่งที่ใกล้เคียงกัน มาเคาะประตูให้เราได้ฉุกคิด
บางที คนเรา อาจจะไม่ได้มีเวลามาทบทวนมันอย่างจริงจังเลยทั้งชีวิต

..หรือจนกว่า จะถึงช่วงวัยที่ทำอะไรไม่ได้มากนักแล้ว





***************


ส่วนนี้เป็นเรื่องที่ไปคุยที่อื่นไว้ ขอเอามาลง
(เมื่อเย็นวาน ไม่รู้กินอะไรผิดสำแดง จู่ๆ ตอนหัวค่ำ เกิดอาการหัวหมุนติ้วๆ
อาการส่วนหนึ่ง คล้ายอาการแพ้ผงชูรสที่ตัวเองเป้นอยู่แล้ว คือตัวเย็น แต่เหงื่อออก
..แต่เมื่อค่ำวาน กลับมีอาการหัวหมุนมาผสมอย่างแรง ทีแรกคิดไปต่างๆ นานาตั้งแต่
โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน-จริงๆ หูก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว
โรคเกี่ยวกับปลายประสาท ระบบประสาท ไปจนถึงเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

สุดท้าย แหวะออกมา อาการก็ค่อยๆ ดีขึ้น ..)




.....


(คอมเม้นท์ เกี่ยวกับเรื่องคนอ่านกรรมได้ )





ผมเฉยๆ นะ ..
ไม่ค่อยสนใจจะไปตรวจกรรมอะไรเท่าไหร่


เพราะถ้าเชื่อกรรมจริงๆ เราก็จะรู้ว่ากรรมเก่าเราแก้ไม่ได้นะ
เราได้แต่สร้างกรรมใหม่เท่านั้น


ถ้ากรรมใหม่ดี กรรมแรง
ก็อาจจะวิ่งแรงแซงกรรมเก่ามาให้ผลเราได้ก่อนก็ได้

ถ้าเราสร้างกรรมดีสม่ำเสมอ เจริญภวานา วิปัสนา บ่อยๆ
ขออโหสิกรรม และแผ่ส่วนบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรอยู่ต่อเนื่อง

ทำทาน ศีล ภวานา ให้ดี เจตนาดี สะอาด บริสุทธ์

เจ้ากรรมนายเวร ก็อาจจะอโหสิกรรมให้เรา
กรรมร้ายเก่าๆ ก็อาจจะเจือจางไปได้ในแง่นั่น



แต่การตรวจกรรมตัวเอง
(ถ้าเป็นแต่ก่อน ผมอาจจะไม่เชื่อเลยนะ แต่เดียวนี้เชื่อ ซึ่งก็ต้องแล้วแต่คน ต้องเป็นคนที่น่าเชื่อ)
ผมว่า มันก็อาจจะไม่ได้อะไรขึ้นมา

คือยังไงๆ เราก็ย้อนอดีตไปทำอะไรไม่ได้
ทำได้แต่ปัจจุบันนี้ ทำให้ดี อะไรที่เราบกพร่อง บุญกุศลใดที่เราดูจะอ่อน ก็ต้องฝึกฝืนทำให้มาก


อย่างผม เดี๋ยวนี้ ทาน ศีล ก็ถือว่าผมทำให้ตัวเอง ได้น่าพอใจนะครับ
แต่ภาวนา ยังถือว่า อ่อนด้อยอยู่



แต่เดี๋ยวนี้ ผมเป็นศิษย์มีครูแล้ว อิอิ
บอกหลวงพ่อทุกวัน ว่าจะพยายามเป็นศิษย์ที่ดี
ตั้งใจว่าจะพยายามเป็นพุทธสานิกชนที่ดี

บางเรื่องบางอย่าง ทำได้เลยก็พยายามทำ
บางเรื่องบางอย่าง ยังไม่เข้มแข็งพอจะฝืนใจตัวเองทำ ก็คงต้องอาศัยการตะล่อมๆ เค้า(ใจ)ไป


จริงๆ เดี๋ยวนี้ ก็มีธรรมะในใจตลอดนะ
อ่าน ฟัง คิด ไตร่ตรอง ปฎิบัติ ฯ

จริงๆ ผมว่า เดี๋ยวนี้ ผมดูดีขึ้นนะ ในแง่ความเป็นพุทธ






อย่างเมื่อวาน ตอนที่หัวหมุนมากๆ
มีโรคหนึ่งที่คิดขึ้นมาในห้ว

คือโรค "เยื่อหุ้มสมองอักเสบ"
ไม่รู้ทำไม คิดถึงพี่จูน คิดถึงอาจารย์เจ้านายพี่จูน



จริงๆ ผมกล้าพูดนะ ว่าผมเป็นคนไม่กลัวความตาย (ไม่กล้วมาเป็นสิบปีแระ)
เมื่อวานก็คิด ตอนหัวหมุนๆ ว่า..

ไม่เป็นไรหรอก จะตายตอนนี้ ก็ไม่มีอะไรให้ห่วง
อย่าให้เดือนร้อนคนอื่นก็พอ ตัวเองไม่เป็นไร
เกิดมาวันนี้ ได้รู้จักพระพุทธศาสนา ตามสมควร
จากที่ก่อนหน้านี้แทบไม่รู้จักเลย ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี (ที่ได้รู้จักพระพุทธศาสนาก่อนตาย)




คือจริงๆ แล้ว ผมเป็นคนไม่ค่อยมีห่วง
ไม่ค่อยห่วงอดีตเท่าไหร่ (ถ้าเรื่องความรักที่เคยมีอาจจะอาวรณบ้าง)

ถ้าจะเสียหน่อย ก็ชอบเป็นห่วงอนาคต
เป็นคนประเภทที่ชอบฝันเพ้อถึงอนาคต
..คือแต่ก่อนนี้นี่ แทบจะเป็นพวกที่มีความคิดแต่อยู่ในความฝันในอนาคต


เดี๋ยวนี้ ก็ยังเป็นอยู่ แต่น้อยลง

ก็ตั้งแต่ที่ตาเสียปีที่แล้ว..
และก็ได้มีโอกาสรู้จักธรรมะของพระพุทธเจ้า ได้รู้จักพระอริยะสงฆ์ที่ดี
(ได้รู้จักพระรัตนไตร)


เดี๋ยวนี้ก็มีความสุขดี ฉิวๆ
ทำสิ่งที่ทำได้ ทำสิ่งที่อยากทำ ทำดี
ทำบุญ ทำทานตามสมควรเมื่อมีโอกาส
รักษาศีล ก็อยู่ในข่ายว่าผมพอใจในตัวเอง (มีก็ข้อ 5 แต่ก็น้อยลงมากๆ แล้ว)
ภวานา ก็อาจจะยังทำได้ไม่ดี คือไม่ค่อยทำกรรมฐานนัก แต่ก็สวดมนต์ทุกวันมากได้พักใหญ่แล้ว


มีโอกาส ก็อ่านหนังสือธรรมะบ้าง แบบที่เข้ากับจริตตัวเอง
และเป็นธรรมะจริงๆ ของพระพุทธเจ้า (ธรรมะใจกว้าง เป็นประชาธิปไตย)


คือรวมๆ น่าจะเข้าข่าย ว่าเป็นพุทธที่ดีประมาณหนึ่งนะ



เมื่อเราคิดว่า เราประพฤติดี ทำดี
พยายามรักษา กาย วาจา และใจแล้ว
(ใจรักษายากมากๆ บ่อยครั้งทะลึ่งตึงตัง จาบจ้วง ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ไม่สำรวม)


ผมก็ว่า ok แล้วเหมือนกันนะ






*****************








Create Date : 19 พฤษภาคม 2552
Last Update : 19 พฤษภาคม 2552 0:01:11 น. 4 comments
Counter : 401 Pageviews.

 

แวะมาปลุกแล้วเม้นท์เรื่อยเปื่อยเหมือนกันค่ะ
สรุปจบแบบห้วนๆ ว่าหลับฝันดีจ้า


โดย: อุ้มสี วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:1:41:02 น.  

 
พี่กระต่ายไม่กลัวความตายเช่นกันค่ะ

แต่ยังไม่พร้อมที่จะตายตอนนี้

พี่ก็เชื่อในพุทธศาสนามากค่ะ


โดย: Moon~JulY วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:7:46:07 น.  

 
ไม่เจอกันนาน เจ็บไข้ได้ป่วยก็หายไวๆเน้อ


โดย: j' sung IP: 58.10.33.157 วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:0:40:02 น.  

 

เจ้ซัง มาได้ไงเนี่ย


หวัดดีครับ สบายดีครับ

หวังว่าเจ้ซัง และทุกคนสบายดีนะครับ


คิดถึง เพชร พลอย ฮง เหมือนกัน


โดย: บุญทับ วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:23:10:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บุญทับ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




กฎของเราก็คือ
เรามีความสุขสนุกสนาน
ได้มากเท่าที่เราต้องการ
แต่ต้องไม่ทำร้ายจิตใจใคร
..แม้แต่คนเดียว


จากหนังสือ ฟ้ากว้าง..ทางไกล



มวลเมฆ คือเนินเขาทำด้วยไอน้ำ เนินเขา คือมวลเมฆสร้างด้วยศิลา..(รพินทรฯ)
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
19 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add บุญทับ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.