ราคาความฝัน
เมื่อเราก้าวเข้าสู่โลกใบที่ธุรกรรมทางการเงิน แทรกแซงไปทุกซอกทุกมุม จึงถึงเวลาที่พ่อค้าต่างดิ้นรนหาหนทางใหม่ๆเพื่อหยิบนำมาเก็งกำไร มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใช่ไหม ที่แม้แต่ "ความฝัน" ยังถูกนำมาตีราคา
ไม่ว่าสิ่งใดในโลกเมื่อมี Demand ย่อมมี Supply ดีมานด์ที่ยิ่งสูงเท่าไร ราคาของมันก็ยิ่งทวีค่าตามมาเป็นเงา พ่อค้าที่ดีจะไม่ทำการค้าที่ขาดทุน...นี่คือความจริงในโลกธุรกิจ แต่คำคำนี้มันจะบาดลึกความรู้สึกยิ่งกว่าเมื่อ การค้าก้าวเท้าเข้าครอบครองโลกแห่งศิลปะ โลกที่คนในนั้น "ใช้ความฝัน" หล่อเลี้ยงชีวิต โลกที่ไม่ใช้ "ราคา" ประเมินค่า "ความรู้สึก" แต่ ในโลกศิลปะ ก็ไม่อาจอยู่ได้ถ้าไม่มี "ราคา" คนที่ท้องกิ่วอาจสร้างสรรค์งานศิลปะที่ประเมินค่าไม่ได้ แต่มันก็อาจ ตาย อยู่อย่างเงียบๆถ้าไม่มี "ราคา" .....นี่ความจริงที่เจ็บปวดในโลกศิลปะ
และเมื่อมันมี ราคา ก็ย่อมมี พ่อค้า การแสวงหาผลกำไรที่สูงสุด ทำให้ศิลปะถูกตีราคา ยิ่งถ้าเป็นงานศิลปะที่ถูกปั่นราคาให้สูงได้ ก็จะถูกตีตราด้วยคำพูด "ประเมินค่ามิได้" ที่มันแฝงด้วยความหมายว่า ประเมินได้ ถ้า....ได้ราคาที่มากพอ เจ็บปวดยิ่งกว่า.............
และในวันนี้ วันที่พ่อค้าไม่ขอเป็นแค่ผู้ประเมินราคา แต่เอามือก้าวมาหยิบจับงานศิลปะ ก่อให้เกิดคำว่า Commercial Arts เป็นโลกที่การเงินนำหน้าศิลปะ ซึ่งเป็นที่แน่นอนคือการหยิบเอาศิลปะมาค้ากำไร มันจะไม่มีทางที่ระหว่างสองสิ่งจะอยู่ร่วมกันครึ่งต่อครึ่ง มันมีแต่อะไรจะมากกว่าอะไร แต่เมื่อพ่อค้าเป็นมือผู้ครอบครอง ศิลปะจึงเป็นได้แค่ฐานที่ถูกเหยียบเพื่อแสวงหาผลกำไร
เมื่อในโลกปัจจุบันที่ความฝันดูจะเป็นสิ่งที่น่าเล่นมากที่สุด โดยเฉพาะความฝันของเด็ก เพราะมันยังดูบริสุทธิ์และงดงาม และเล่นง่าย รายการแบบอคาเดมี่แฟนเทเชีย ถึงได้กำเนิดขึ้น จากแค่ความคาดหวังเล็กๆที่ทำพอไม่ขาดทุนและเป็นรายการขัดตาทัพรอเวลาพรีเมียร์ลีค แต่เมื่อมันกลับกลายเป็นมากกว่านั้น ทำให้พ่อค้าตกใจถึงกำไรที่ได้มาง่ายดายเกินคาด การต่อยอดเพื่อให้ได้กำไรสูงสุดจึงได้ทวีการขึ้น ทำให้หรูหราขึ้น สร้างเรื่องราวเพื่อกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกให้มากขึ้น ไม่ใช่เพื่อเด็กที่ก้าวเข้ามาล่าฝัน แต่เพื่อ คนดูที่รับเอาความฝันของเด็กมาอยู่ในกำมือ รู้สึกให้มาก และมากยิ่งกว่า เพราะพ่อค้ารู้ดีว่า คนมากมายที่เฝ้าดูรายการนี้ ไม่ใช่แค่มองเห็นนักล่าฝัน แต่ มองเห็นเด็กเหล่านั้นเป็นตัวแทนความฝันที่พวกเขาอาจได้โยนทิ้งไปหรือก้าวไปไม่ถึงด้วยเหตุผลร้อยแปด การต่อยอดทางอารมณ์ถึงได้รุนแรงยิ่งกว่าเด็กที่เป็นผู้รับสายตรงเสียอีก และมันมีเหตุผลแฝงที่ดูน่าหัวร่อ จนอาจถึงตกใจได้ เมื่อรายการนี้ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 5 ที่ระบบแฟนคลับก้าวมาเป็นระบบระเบียบราวกับบริษัทข้ามชาติ ที่มีการวางกำลัง วางแผนเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อส่งนักล่าฝันของตนก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุด มันอาจมีความรักเป็นพื้นฐานและถือเป็นเหตุผลใหญ่ก็จริง แต่มีอีกหนึ่งเหตุผลแฝงด้านหน้าตาของกลุ่มตามมา เคยได้ยินไหม...เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ มันเกิดกับบางกลุ่มคนที่เริ่มรู้จักกันในหมู่แฟนคลับ การเกทับเล่นๆที่กลายเป็นจริงเป็นจัง กลุ่มหน้าเดิมๆที่อาจเคยผิดหวังมา จนเริ่มรู้เริ่มคิดถึงวิธีการจะเล่นอย่างไรที่ตนเองจะสมหวัง ตนเองสมหวัง...ไม่ใช่เด็กสมหวังนะ
เมื่อการล่าฝันของเด็กกลายเป็นสงครามแฟนคลับ การเล่นของพ่อค้าก็ยิ่งง่ายดาย แต่...บางทีจังหวะเรียบๆอาจดูไม่เพียงพอ ความกระหายในความสำเร็จที่ ต้อง มากกว่าที่ผ่านมา ทำให้พ่อค้าต้องสั่งรัวจังหวะกลอง ต้องเพิ่มบีทเพื่อความเร้าใจ ต้องการกดอารมณ์เพื่อเพิ่มอารมณ์ ต้องการดราม่าเพื่อสร้างความฮือฮา ต้องการเห็นหุ่นที่ถูกชักเชิดตามจังหวะปี่กลอง จนลืมไปว่า...สิ่งที่พ่อค้ากำลังเล่นอยู่นั้น คือ... คนที่มีชีวิต มีจิตใจ และมีอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งไม่ว่าจะเก่งกาจมาจากไหนก็ไม่สามารถควบคุมไปจนถึงคาดเดาถึงผลลัพธ์ที่ตามมาได้ ผลมันอาจเป็นไปในแง่บวก หรือสุดขั้วที่แง่ลบ แต่ก็น่าแปลก ไม่ว่าผลเป็นอย่างไร ก็กลับจบลงตามแผนที่พ่อค้าวางไว้อยู่ดี คือ ความสำเร็จของรายการ และ กำไรมหาศาลตามอย่างเคย และหลงเหลือ คนที่บอบช้ำและสูญเสียมากกว่าที่ได้รับ คือ เด็กที่มองหาเส้นทางความฝันและหลงอยู่ในเส้นทางนั้น ที่จ่ายราคาความฝันด้วย จำนวนหยดน้ำตาและความเป็นตัวตนที่ถูกถากถูกเฉือนให้ถูกครรลองความพอใจของคนส่วนมาก นี่มันเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม น่ายินดี หรือ...น่าเศร้ากันแน่นะ
ยังมีสิ่งที่ค้างอยู่ในความรู้สึก คือ ถ้ารายการนี้ตกอยู่ในมือของคนแบบพี่เต๋อ เรวัติ พุฒินันท์ รายการนี้มันจะดำเนินไปในรูปแบบไหนนะ นักล่าฝันอาจไม่ใช่แค่สินค้า ความฝันของเด็กอาจไม่ต้องจ่ายเป็นจำนวนหยดน้ำตา ความฝันที่เด็กมาล่าจะถูกส่งเสริมด้วยจินตนาการที่กว้างไกลขนาดไหน เส้นทางความฝันจะถูกต่อยอดไปในทิศทางที่มันควรเป็น และศิลปะคงไม่แค่เป็นฐานที่ถูกเหยียบ แต่คงเดินเชิดหน้าเคียงข้างกับการแสวงหาผลกำไร มันคงเป็นไปได้แค่...ความฝัน...ในโลกที่ทุกอย่างถูกตีราคา จริงไหม!?!
Free TextEditor
Create Date : 27 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 27 มิถุนายน 2551 10:02:13 น. |
|
1 comments
|
Counter : 577 Pageviews. |
|
|
สินค้าที่ได้ชื่อว่ามนุษย์ นี่ยากจะหยั่งถึง
และยากที่จะวัดคุณภาพ เพราะมันเป็นคุณภาพทางด้านจิตใจ
ที่ไม่รู้ว่าสำหรับใคร อย่างไหนจะดีกว่า
แต่ที่แน่ๆ มันต้องมีความสุขแฝงอยู่ในนั้น
นั่นแหละค่ะ keyword ของสินค้าชิ้นนี้