Group Blog
 
 
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
11 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
พวกเรา พวกเขา

ไม่คิดเลยว่าจะต้องเริ่มเขียนถึงรายการอคาเดมี่ แฟนเทเชีย ที่ตัวเองเป็นแฟนรายการแบบหัวปักหัวปำมาเป็นปีที่ห้าด้วยเรื่องแบบนี้


ตอนแรกกะเอาเรื่องสยิวกิ๊วหัวใจมาประเดิมบล็อค แต่ว่า เหตุของการณ์ของ AF5 เมื่อวานนี้ คือวันที่ 10 มิถุนายนมันร้อนแรง กระทบใจแบบเกินห้ามใจจริงๆ


เหตุการณ์มันเริ่มต้นด้วยนักล่าฝัน V8 เด็กชายปั๊ม(เป็นเด็กชายจริงๆที่ยังไม่ใช่นายตามอายุ) เด็กที่จุดเดือดต่ำ ประมาณว่ามีแอลกอฮอลเป็นส่วนผสมเกินครึ่งในร่างกาย เพราะจุดปุ๊บติดปั๊ม


ถ้ามองที่แค่แววตามันก็เห็นชัดมาก เด็กตากลมดำ ใสแจ๋วแบบเด็กอนุบาล มองเห็นเลยว่าเติบโตมาแบบสบายๆ ใช้ชีวิตแบบชิวๆ เรื่องราวในสมองคงไม่มียกกำลังไม่มีสแควร์รูท ไม่ต้องถอดสมการ ประเภทถ้า 1+1 ไม่เท่ากับสอง ก็คงงงเป็นไก่ตาแตกไปเลย


ชักจะเลยไปไกล ขอชักรอกกลับมาก่อน


เรื่องมันกลายร่างใหญ่โต จากที่ปั๊มนั่งปลอบใจกรีนสองคนที่ห้องนั่งเล่นจากการที่กรีนปวดหัวศรีษะฟาดพื้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่ริมสระว่ายน้ำ


ในขณะที่รอจะไปโรงพยาบาล การปลอบใจก็เริ่มกลายพันธุ์เป็นการสุมไฟในใจของปั๊ม


ประโยคบอกเล่าจากกรีนที่บอกเล่าว่ามีการพูดถึงการแอบไปร้องไห้คนเดียวของปั๊ม กล้องที่ตัดไปมาระหว่างห้องเรียนทำให้ปะติดปะต่อไม่ได้ว่าจริงๆแล้วกรีนพูดอะไรกันแน่ ที่ทำให้ปั๊มถึงกับหลุดปากว่า ถ้ากรีนไม่บอกปั๊มก็ไม่รู้


แค่นี่...ห้องเรียลในพันทิปก็ขยับตามจังหวะปี่กลอง การวิเคราะห์คาดเดา ทำให้เกิดการเฝ้ารอเวลาที่ปั๊มจะกลับมาจากโรงพยาบาล ไปจนถึงเฝ้ารอคลาสครูใหญ่ ราวกลับสิงห์โตที่ได้กลิ่นเลือดโชยมาเอาทีเดียว


แล้วเด็กอย่างปั๊มก็ไม่ทำให้ผิดหวัง


การยกมือพูดประโยคที่ว่าขอออกจากรายการ ที่ถือว่าเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีมา ทำให้ครูปุ้มถึงกับบางอึ้ง เพื่อนในกลุ่มของปั๊มเองถึงกับผงะ ส่วนเพื่อนคนอื่นๆก็งงผสมงวยไปตามๆกัน


การเรียกปั๊มคุยเดี่ยว กลายร่างเป็นคุยกลุ่ม มีกี๋ที่ไม่ยอมปล่อยให้ปั๊มอยู่ตัวคนเดียว มีแต็ปที่ตามมาอยู่แบบมึนๆ


เด็กมันก็อยากพูด แต่ก็ชั่งใจอยู่ส่วนหนึ่งว่าพูดออกไปก็ซวยแน่ แต่การเป็นปั๊ม แน่นอนว่าความรู้สึกอยากระบายมันรุนแรงกว่าจนมองไม่เห็นความหายนะที่ตามมาแน่ๆกับผลที่จะตามมาหลังจากคำพูดมันหลุดออกไปจากปาก


เรื่องราวที่หลุดๆออกมาทำให้จับได้ว่า ปั๊มคิดว่า เพื่อนสนิทในกลุ่มสามกุมารเป็นคนเอาเรื่องปั๊มไปพูดแน่ๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าใครเท่านั้นเอง


เรื่องที่วิ่งวนในสมองเป็นมาริโอ้เกมนั้นคือ เพื่อนที่เราไว้ใจเอาเราไปว่า หาว่าที่เราแอบไปร้องไห้เพื่อเรียกซีน เรียกร้องความสนใจ เรียกขอคะแนนโหวต และ...หาว่าเราเฟค


ไอ้เรื่องพวกนี้ แค่คนทั่วๆไปมาว่า มันก็เจ็บแล้ว แต่นี่คิดเป็นเพื่อนสนิทที่ให้ใจไปมันเลยยิ่งกว่าคำว่าเจ็บ มันมีความรู้สึกของการเหมือนโดนหักหลังตามมาอีก


ถ้าปั๊มมีเวลาก่อนหน้านี้ ปั๊มเองก็บอกออกมาว่าคงเข้าไปเคลียร์ ถามในกลุ่มว่าใครกันแน่ที่เอาไปพูด เรื่องมันก็อาจจบแบบไม่อึกทึกเท่าไร แต่นี่มันล่วงเลยจากการเข้าคลาสว้อยซ์ เลยมาคลาสครูปุ้ม ทำให้ระเบิดมันลงตูมใหญ่ ที่รอเวลาเก็บซากศพกันเลยทีเดียว


เมื่อเพื่อนในกลุ่มเคลียร์จนแน่ใจว่าไม่มีใครพูด เรื่องมันก็ก้าวไปอีกขั้น คือ ถ้าไม่ใช่เพื่อนเราพูด เราจะไปแคร์ทำไม


ขั้นต่อมานี่มันดูจะรุนแรงในสายตาคนเฝ้าเชียร์มวยอยู่นอกเชือก มีมันเอาทุกซีซั่น


การแบ่งกลุ่ม


แฟนมวย เอ๊ย แฟนรายการ ส่วนมากหรือตรงๆก็คือในพันทิป ข้อกล่าวหานี่ "ยอมรับไม่ได้"


การที่เด็กแบ่งกลุ่มถึงมันจะเห็นๆอยู่ มันรู้สึกได้ แต่อย่าพูดออกมาอย่างชัดเจนเชียวนะว่า พวกฉันพวกเธอ....ถึงตาย


การปลอบใจเพื่อน มันก็ปกติมากที่เพื่อนจะบอกว่า เรื่องเลวๆที่ได้ยินมาถ้ามันไม่จริงถ้าไม่ใช่เพื่อนเราพูด จะไปแคร์มันทำไม ถ้าไม่ใช่เพื่อนเรา คำพูดนั้นก็ไร้ค่าที่จะใส่ใจ


มันเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของการปลอบใจ แต่ที่มันกลายเป็นเรื่องร้ายแรงขึ้นมาเพราะในอีกด้านหนึ่ง คนที่ไม่ใช่เพื่อนน่ะเค้าก็มีคนที่รักเค้าอยู่มากไม่แพ้กัน


แค่การกันเป็นกลุ่มอีกกลุ่ม การเป็นพวกฉันพวกเค้า มันก็ยังไม่เท่าไร แต่ที่มันสุมอยู่ลึกลงไปอีกขั้นก็คือ ใครกันแน่ที่เป็นคนพูดประโยคเจ้าปัญหานั้น


ทุกคน(ที่หมายถึงแฟนคลับพวกเค้าและบางทีอาจรวมพวกเราอยู่ด้วย)ต่างกลัวระเบิดด้านลูกนี้อยู่ลึกๆ เป็นระเบิดลูกที่รอวันถอดสลัก ตู้มทีเดียว บ้านแมคซีซั่นนี้ได้กลายร่างเป็นโรงบาลโรคจิตเต็มตัวเอาง่ายๆ


....แล้วก็ตามคาด ระบิดที่ลงมาคราวนี้ ห้องเรียลในพันทิปแทบแตก กระทู้ที่ผุดขึ้นนับร้อยภายในหนึ่งคืน ประสานเป็นเสียงเดียว


การเป็นปั๊ม เท่าที่ผ่านมาก็มีข้อหารายวันอยู่แล้ว มาเจอเรื่องนี้เข้าไป เป็นไฟสุมฟืนที่ยังมองไม่เห็นเวลาที่มันจะมอดเอาง่ายๆ


ทุกคำพูด ถูกเก็บรายละเอียด มีทั้งด่าเอามัน มีทั้งวิเคราะห์ค้นหา มีทั้งความไม่พอใจ เต็มไปด้วยความผิดหวัง


ความเกลียดที่ไม่รู้มาจากไหน มันก็มาจากไหนต่อไหน เข้ามารุมสุมไอ้พวกเราที่ไม่ใช่พวกเค้า


น่าแปลกไหม ที่คนเราทำเป็นยอมรับการแบ่งพรรคแบ่งพวกไม่ได้


ทั้งๆที่ในโลกความเป็นจริง มันมีให้เห็นได้โดยทั่วไป มีตั้งแต่ในกลุ่มสังคมที่เล็กที่สุด พูดง่ายๆขอแค่มีอีกหนึ่งคนนอกจากเรา มันก็มีแล้ว


เด็กเล็กๆที่ไม่รู้ประสีประสาก็ยังมีพวก เป็นเรื่องธรรมดาสามัญของโลกใบยุ่งๆใบนี้


ไม่งั้นพ่อแม่เวลาส่งลูกเข้าโรงเรียนอนุบาล คงไม่มีคำถามเวลารับลูกกลับจากโรงเรียนตั้งแต่วันแรกหรอกว่า หนูมีเพื่อนรึยัง


อ้าว...ก้าวเข้าไปก็เจอเพื่อนๆเต็มห้อง แต่มันก็ไม่ใช่เพื่อนในความหมายกว่า "เพือน" ที่มันเป็น


แค่มีวันไหนที่ลูกกลับมาเล่าว่า ออกไปเล่นกับเพื่อน แค่นี้ก็เรียกรอยยิ้มสบายใจจากพ่อแม่ได้แล้วว่า ลูกเราจะไม่เหงาโดดเดี่ยวอีกแล้ว


ยิ่งชีวิตดำเนินก้าวต่อไป การแบ่งพรรคแบ่งพวกก็มีตามลำดับขั้น พวกเราคือคนที่เราสบายใจเวลาคบ เพื่อนที่ไลฟ์สไตล์แบบเดียวกัน หรือแค่คุยกันแล้วถูกคอ


ในกลุ่มพวกเรา ถ้ามันมีกันมากกว่าสามคน เชื่อสิว่ามันยังมีsubgroupอยู่ในgroupอีกที ถามว่ารู้กันไหม แน่นอน รู้แน่ๆ แต่เลือกที่จะมองเมินผ่านไป ถ้ามองเมินไม่ได้ ถ้าเอามาใส่ใจ มันก็จะก่อให้เกิดพวกเค้าในกลุ่มพวกเรา



เมื่อหันมามอง เด็กในAF5 มันเป็นการแบ่งกลุ่มที่ชัดเจนตั้งแต่แรกจนขนาดรายการเป็นคนชงเองด้วยซ้ำไป


ถามตัวเองว่ารู้ไหม....แหม ตาไม่บอดนะจะได้มองไม่เห็น


ตัวเด็กเองก็รู้ ไม่ได้ซื่อบวกบื้อกันนี่นา


ถ้าถามต่อไปว่า เด็กมันพยายามที่จะปรับตัวไหม เข้าหาพูดคุยกันไหม มันก็เห็น


แต่ว่า...ความต่างมันก็จะยังคงอยู่ จิ๊กซอว์คนละภาพจะให้มาฟิตเป็นเนื้อเดียวก็ดูจะเป็นเรื่องอุดมการณ์มากไป


ตอนที่ยังไม่เกิดเรื่องปั๊มขึ้นมา AF5 ยังถูกกล่าวขวัญอยู่เลยว่า เด็กๆมันรักกันดี รุ่นนี้เด็กดีเด็กน่ารัก ดูแล้วสบายใจสบายตา


....นี่มันก็เป็นเครืองพิสูจน์อย่างหนึ่งที่ว่า เด็กที่แตกต่าง ต่างก็พยายามปรับตัว จนเรารู้สึกไปได้แบบนั้นในขั้นต้น


แต่เด็กที่ต่างการเติบโต ต่างนิสัยใจคอ ถูกจับยัดเข้ามาในบ้านที่มีกล้องนับพันคอยจับตา ผ่านมา 4 ซีซั่นแล้ว เด็กทุกคนต่างรู้ดี ทุกการกระทำ ทุกคำพูด ไม่ว่าแค่เศษเสี้ยวก็ถูกจับตามอง ถูกเอาไปวิเคราะห์ตามใจฉันจากคนภายนอกอยู่ตลอดเวลา


ไอ้ประเภทยิ่งรู้มาก มันก็ยิ่งกดดันมาก จึงไม่แปลกที่ทุกคนสร้างเกราะขึ้นมาป้องกันตัวเอง บางคนก็เกราะหนาบ้างบางบ้าง บางคนแค่เกราะดูจะไม่พอก่อเป็นกำแพงซ้อบทับขึ้นมาอีก


ถามว่าผิดไหม...มันจะผิดได้ยังไงกัน มันก็แค่เป็นวิธีการป้องกันตัว เอาตัวรอดของคนก็เท่านั้นเอง


แล้วเมื่อไอ้เด็กที่เกราะมันเปราะกว่าคนอื่นเกิดปริขึ้นมา บางทีไม่ปริเปล่า ดันระเบิดเกราะ เศษแหลมคมปลิวไปกระทบคนรอบข้างเลือดซิบมากน้อยตามระยะห่าง


ในเมื่อเรามองว่าเด็กมันมีเกราะไม่ผิด ไอ้เด็กที่เกราะปริระเบิดออกมาถึงผิดก็ควรที่จะได้รับความเห็นใจจากน้ำใจของคนได้เหมือนกัน...มันไม่ยากเกินไปไม่ใช่เหรอ



คนชอบพูดว่ารายการAFไม่ใช่การประกวดร้องเพลง


เป็นรายการที่เป็นเหมือนโรงเรียนที่ร่วมสร้างความฝันของเด็กที่มีฝันเดียวกัน


แต่จริงๆแล้ว


รายการนี้เป็นรายการที่จับเอาหัวใจคนมาเล่น ศึกษาพฤติกรรมของคนในภาวะกดดัน


ไม่ต่างจากนักวิทยาศาสตร์ที่จับหนูพุกมาอยู่ในกรงแล้วเพิ่มอุปกรณ์เข้าไปเป็นระยะเพื่อเฝ้าศึกษาวิธีการจัดการปัญหาต่างที่เข้ามา


และที่แน่กว่าก็คือ


รายการนี้ไม่ได้แค่เล่นกับความฝันของเด็กที่ถูกจับมารวมกัน


แต่


เล่นและเล่นหนักกว่ากับคนที่เป็นแฟนรายการ


เคยเห็นเห็นจิ้งหรีดที่มันถูกปั่นหัวไหม


หัวมันหมุนติ้วไปตามไม้ที่มาปั่นหัวมัน กระเซอะกระเซิง มึนงง โกรธเกรี้ยว ไม่ยอมแพ้ อยากเอาชนะ เจ็บช้ำและเสียน้ำตา


จะว่าไปแล้ว แฟนรายการนักล่าฝันต่างหากที่เป็นคนประเภทที่น่าศึกษามากมาย


อารมณ์ความรู้สึกที่ต่อยอดมาจากนักล่าฝัน มันทวีความรุนแรงจนคาดเดาไม่ได้ว่าจะไปได้ขนาดไหน


เรื่องไม่ได้เกิดกับตัวเราเอง เราไม่ได้เป็นคนเจ็บ ไม่ได้ถูกกระทำเอง แต่เจ็บยิ่งกว่า เศร้ายิ่งกว่า ผิดหวังมากกว่า


และ


รักมากกว่า






Free TextEditor



Create Date : 11 มิถุนายน 2551
Last Update : 16 มิถุนายน 2551 1:04:05 น. 2 comments
Counter : 468 Pageviews.

 
แวะมาอ่าน


โดย: NaNongPloy วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:15:48:48 น.  

 
ปรบมือให้ดังดังเลยนะคะ อ่านทุกเรื่อง คมทุกเรื่อง เขียนดีจังเลยอ่ะ ชอบมากเลยค่ะ แล้วก็เห้นด้วยทุกประการอีกแล้ว คิดเหมือนกันแต่ว่าไม่สามารถกลั่นกรองออกมาเป็นคำพูดที่ตรงใจขนาดนี้อ่ะค่ะ เห็นงี้จริงๆ ไม่ได้อี้จุ๊


โดย: damie_fowler (damie_fowler ) วันที่: 25 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:25:58 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.