Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
17 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
‘ปัญญาอ่อน’




...ช่างเป็นวาทะ ‘เจ็บ’ ที่คู่ควรจริง จิ๊ง



ทันทีที่ประโยคนี่โพล่งปิดท้ายหลุดจากปากครูรัก
ข้าพเจ้าก็หลุดก๊ากรับทันควัน...ฮ่า ฮ่า ฮ่า





‘ปัญญาอ่อน’


แม้นเจ็บอื่นหมื่นแสนก็แคลนคลาย เจ็บจนตายนั้นเหน็บให้ ‘เจ็บใจ’





โอ้ว~ครูรักคะ นี่คือสิ่งที่หนูเฝ้ารอมาตลอดทั้งสามวีคนี้เลยค่ะ
แม้ว่ายังตงิดอยู่นิดหน่อยว่ามันไม่น่าใช่แค่การเหน็บแต่มันคือการด่าแบบโต้งๆมากกว่า...เอิ้ก เอิ้ก ก ก ก



...ผ่านเข้าวีคที่สามของ AF6
ซีซั่นที่ทำให้คนประเภทเรา...ประเภทไหนเหรอ~???
ประเภทที่น้ำตาไหลพราก พราก เวลานั่งดูหนังเกี่ยวกับ เด็ก สัตว์และคนชราน่ะ
ครือว่าเป็นพวกประเภท ‘อิน’ ง๊าย ง่าย


เพราะงั้นเวลานั่งดูรายการเรียลลิตี้แล้ว มันถึงมีอาการเคลิบเคลิ้ม และ “หลงรัก”เด็ก(ผู้ชาย)แบบไร้ซึ่งความยั้งคิด...ฮ่า ฮ่า ฮ่า


แต่...อีกที
ผ่านมาวีคสามแล้วนะเฟ้ย หาเด็ก(ผู้ชาย)ที่กวักเรียก ดึงให้คอยมองไม่ได้สักที
เพราะอย่างงี้ ซีซั่นนี้สำหรับเราแล้วมันถึง....


จืด สนิท



ทุกคลาสในซีซั่นนี้ บอกได้เลยว่า ดูก็ได้ ไม่ดูก็ไม่เห็นพลาดอะไรเลย
ขนาดตอนวันคอนเสิร์ตนะ พอเวลาเดินทางมาถึงสี่ทุ่ม ใจดันกระวนกระวาย ตูเปลี่ยนช่องไปดู FRINGE ก่อนดีไหมว้า เนื้อหากำลังงวด เข้าด้ายเข้าเข็มพอดี ดีกว่าดูไปหาวไปแบบนี้
...บอกตามตรงว่านี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกแบบนี้ตั้งแต่ตามดูAFมา



ชีวิตประจำวันของเด็กในบ้าน แย่งชิงความอยากดูซีรี่ส์เรื่องต่างๆในปีนี้ไม่ได้เลย
แม้กระทั่ง CSI ที่ทุกปีเราจะตามดูตามเก็บหลังจากAFจบไปแล้ว ปีนี้ก็ยังมีชัยเหนือความอยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้านของตัวเองจนได้
และยิ่งเอาชนะพี่ Simon Baker จาก the mentalist ยิ่งไม่ได้เล้ย


จำได้ว่าทุกซีซั่นที่ผ่านมา AF มักตรงกับช่วงซีรี่ส์แต่ละเรื่องกำลังงวดได้ที่ อย่าง Lost หรือไม่ก็ Damage แต่ความน่าดูของตัวรายการนี้ก็ยังดึงเราไว้ได้ โดยเลือกที่จะตามดูซีรี่ส์พวกนี้ตอนตีสองตีสามแทนด้วยซ้ำ



แต่มาปีนี้...ช่วงวีคแรกกับกลางๆวีคสอง ก็ยังพอจะทำแบบเดิมอยู่เหมือนกัน
แต่หลังจากต้องพยายาม ‘อดทน’ กับความจืด...ก็ต้องบอกตัวเองว่า ตูจะทนทรมานความรู้สึกของตัวเองไปทำไมฟะ เมื่อมันดึงไว้ไม่ได้ ก็คือดึงไม่ได้ ปล่อยมันไปจะสบายใจสบายกายมากกว่า

โห~พอคิดได้อย่างนั้นนะ โอย~ตัวเบาลงราวกับน้ำหนักลดไปสิบโล....กร๊ากกก

นี่ข้าพเจ้า ‘ทน’ มาตลอดเลยเหรอนี่!!!

หรือว่า...เรามันจะถึงจุดอิ่มตัวกับรายการนี้ไปเสียแล้วก็ไม่รู้?




เราเองไม่ได้คิดว่าเด็กปีนี้ ‘จืด’ หรือว่า รายการซีซั่นนี้ไม่สนุก


เพราะสำหรับเราแล้ว รายการแบบนี้มันมีความสนุกในตัวมันเองอยู่แล้ว
มันมีเพียงแค่ปัญหาเดียวคือ
ในรายการมันจะมี “คนที่เราให้ความสนใจได้” พอที่จะดึงให้มองผ่านจอสี่เหลี่ยมได้หรือเปล่า...ก็เท่านั้น


ทุกซีซั่นที่ผ่านมา สำหรับเราแล้วมันสนุก เพราะ มีเด็กที่ดึงให้เราสนใจได้อยู่
พอมันจุดประกายแค่นั้น...มันก็ติดหนึบอยู่หน้าจอ...ก็แค่นี้


สำหรับการที่หลายต่อหลายเสียงร้องป่าวประกาศว่า ปีนี้สนุก ปีนั้นไม่สนุก น่าสนใจ ไม่น่าสนใจ
สำหรับเราแล้ว...มันก็แค่คุณมีเด็กที่คุณสนใจอยู่ในซีซั่นไหน...ก็เท่านั้น


ปีไหนคุณไม่ปลื้ม ปีนั้นก็ไม่สนุกสำหรับคุณ

ปีไหนมีเด็กที่คุณ ‘ปลื้ม’ เป็นพิเศษ ปีนั้นก็คือปีพิเศษในความทรงจำของคุณ

...ง่ายๆแค่นี้ล่ะ ไม่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรมากมาย ไม่จำเป็นต้องเอาเหตุผลร้อยพันมารองรับ
จริง จิ๊ง ความรู้สึกคนเรามันง่ายแค่นี้จริงๆ



เพราะฉะนั้นในเมื่อซีซั่น 6 ไร้เด็กในสังกัด ปีนี้ถึงได้ “จืดสนิท” สำหรับเรา
ไม่เกี่ยวกับวิธีการดำเนินรายการ ไม่เกี่ยวกับวิธีการสอน ไม่เกี่ยวกับครูบาอาจารย์
และยิ่งไม่เกี่ยวกับนิสัยใจคอความเป็นเด็ก ‘ดี’ ที่หลายต่อหลายเสียงพยายามชื่นชมแฝงกดหัวเด็กบางคนจากซีซั่นที่ผ่านๆมาหรอก


แต่ก็ใช่ว่า เราจะไร้ซึ่งความสนใจจนไม่ถึงขั้นทิ้งรายการนี้ไป
ก็บอกแล้ว~ รายการนี้มันถูกจริตคนอย่างเราเป็นที่สุด ~^ o ^~@

ก็ยังพอเปิดทิ้งไว้เวลาไม่มีอะไรดู...กร๊ากกกก มันกลายมาเป็นแบบนี้เข้าจนได้

ก็คิดดูสิ ขนาดตามบ้างไม่ตามบ้าง
อ่านกระทู้ห้าวันที สิบวันครั้ง ยังพอรับรู้กระแสความฮึ่มฮั่มบางอย่างที่เริ่มโชยจนฉุนไม่พลาดเล้ย




ถ้าคุณไม่ GAY คุณก็ STRAIGHT



ชาติตะวันตกเขาแบ่งกันตรงไปตรงมาประมาณนี้ล่ะ แบ่งแบบไม่เอาความเป็นหญิง-ชายเข้ามาเกี่ยวข้อง
พูดตามประสาเราก็เป็นว่า ถ้าคุณไม่ตรง คุณก็เขวล่ะ...ฮ่า ฮ่า ฮ่า


การที่คนที่คุณรักเป็นเพศเดียวกับคุณ
มันต่างกับกรณีของคนที่รู้สึกว่าตัวเองเกิดมาผิดเพศนะ




กรณีแบบนี้เกิดเป็นข้อข้องใจเป็นประจำAF(หรือเหมารวมวงการบันเทิงด้วยดีหวา!)
เพียงแต่ว่าที่ผ่านมามันไปร้อนแรงทางฝ่ายชาย
และไม่ว่าเราจะช่างจินตนาการมากมายแค่ไหน ก็ไม่เคยคิดว่าไอ้เรื่องทำนองนี้มันจะมาดังกับฝั่งผู้หญิงเอาบ้าง
กับซีซั่นนี้ ถึงแม้จะมีจำนวนหญิงมากกว่าชายก็ตามทีเถอะ มันก็ไม่เกิดแม้เสี้ยนเล็กๆสะกิดใจว่ามันจะเอนเอียงเกิดกรณีขึ้นมาจนได้
(หรือจนมันขึ้นหน้าหนึ่งนสพ.ไปแล้วเราก็ยังไม่รู้สึกถึงมันอยู่ดี)


แต่มาจนถึงตอนนี้ ที่ทุกเหตุการณ์ราวกับพุ่งเป้า มองอิค์ชด้วยสายตาประเมิน
จนกระทั่งบางความเห็นฟันธงลงไปแล้วด้วยซ้ำว่าเธอ ‘ใช่’
ใช่ไม่ใช่เปล่า ยังด่วนสรุปด้วยอีกว่าเธอเป็นดี้ ด้วยเอาฐานมาจากการกล่าวหาว่าซานิคู่กรณีเป็นทอม

เมื่อเล่นแบ่งทอม-ดี้ ด้วยการแต่งหน้า แต่งตัว
สรุปเอาเองว่า ทอมจะไม่แต่ง ส่วนดี้จะแต่งสวย
มันก็เลยโป๊ะเช๊ะ วางอิช์คเป็นดี้ ให้ซานิเป็นทอม

ไอ้การเหมาโหลถูกกว่านี่
มันไม่ต่างจากกระแสที่ฟันธงผู้ชายช่างแต่งตัว ดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพด้วยการเล่นฟิตเนสว่าเป็นเกย์เลยว่ะ

การด่วนสรุปแบบนี้มันวิ่งตามความเป็นจริงของโลกใบนี้ไม่ทันแล้ว
คนมีความคิดแบบนี้คงยังไม่เคยเห็นผู้หญิงสวยพริ้งสองคนครองคู่อยู่ด้วยกัน
คงยังไม่เคยเห็นผู้ชายแมนเรียกพี่สองคนร่วมชีวิตกันอย่างเป็นสุข

คู่ครองแบบนี้ เขาไม่ได้แบ่งว่าตัวเองเป็นชาย อีกฝ่ายเป็นหญิง(ไม่ว่าจะทางจิตใจหรือทางเพศสัมพันธ์)
เพียงแค่...คนที่เขารักเป็นเพศเดียวกันกับเขาเท่านั้นเอง
ส่วนรสนิยมความชอบในเรื่องทั่วไป การแต่งกาย อะไรต่างๆ มันก็ไม่แตกต่างจากพวกStraight ที่คู่รักของตนมีรสนิยมต่างออกไป หรือการต่างนิสัยใจคอหรอก



ไอ้ความรู้ในเรื่องแบบนี้ ถ้าพอเปิดใจกว้าง รับรู้เรื่องราวของโลกภายนอกบ้าง ก็ไม่ยากจะทำความเข้าใจหรือยอมรับได้หรอก



กล่าวอ้างมาทั้งหมด
...ไม่ใช่ว่าตัวเราเองจะบอกว่า อิชค์เป็นเกย์หรือไม่เป็น

สำหรับเราแล้วรสนิยมทางเพศของใครก็ตาม เราก็ยังมองไม่เห็นประเด็น
ไม่ว่าอิค์ชจะเป็นไม่เป็น
ซานิจะเป็นไม่เป็น


นี่คือเรื่องส่วนตัวสุดๆชนิดที่ต่อให้เข้ามาอยู่ในรายการเรียลลิตี้ก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่มย่าม
และยิ่งไม่รู้ว่าจะหาสิทธิ์ไหนไปดูถูกดูแคลน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดจากการคิดเหมาเอาเองฝ่ายเดียว หลงอยู่ในความคิดตัวเอง
แล้วสุดท้ายปล่อยไปทำร้ายคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่ไร้หนทางโต้ตอบได้ในตอนนี้อย่างอิค์ช



สำหรับเราแล้วอิค์ชก็เป็นแค่นักล่าฝันซีซั่น 6 ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้
บอกตรงไปตรงมาก็คือ ไม่ว่า หน้าตา บุคลิกภาพ นิสัยที่เปิดออกมาให้รู้จัก...ก็ไม่ใช่สำหรับเรา

เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ได้มองกรณีอิค์ชด้วยสายตาที่เข้าข้าง
ไม่อย่างแน่นอน


เราเองแม้อึดอัดกับกรอบที่อิค์ชครอบตัวเองเอาไว้ จนแทบจะเหนื่อยหน่ายเวลามองเขา
แต่เราก็ยังรู้สึกเห็นใจกับกรณีที่ระอุตอนนี้

เรายอมรับว่าต้นตอก็มาจากเจ้าตัวนั่นล่ะ
ถ้าอิค์ชเป็นแค่เด็กน้อยเพิ่งจบชั้นมัธยม หรือเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย บางทีเราเองจะมอบความเห็นใจไม่ปนความคลางแคลงบางอย่าง

แต่นี่อิค์ชก้าวเข้าสู่โลกการทำงานที่ไม่ใช่ซื่อๆ แต่ปะปนความเขี้ยวลากดินอย่างวงการบันเทิงมาก่อนหน้าแล้ว
แถมรายการAFนี่ ก้าวเข้ามาสู่ปีที่ 6
ในแต่ละซีซั่นมีกรณีศึกษามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งซีซั่นที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆนี่น่ะ
เราไม่เชื่อว่าอิค์ชจะไม่รู้กระแสแรงๆเหล่านั้น
และยิ่งไม่เชื่อว่าอิค์ชจะเป็นคนประเภทไม่มีหัวคิด อิค์ชดูเป็นผู้หญิงแกร่งและฉลาดพอตัว
พอที่จะรู้ว่า แม้จะมีกล้องจับอยู่ทั่วบ้านแบบนี้ ห้องคอนโทรลก็พร้อมจะตัดเอาซีนน่าสนใจที่สุดในขณะนั้นมาออกอากาศ

ถ้ามองในแง่ดี
คงมองว่าเป็นเรื่องที่เขาเคยทำเป็นปกติทั่วไปมาทั้งชีวิต
เมื่อเข้ามาอยู่ในบ้าน ความคิดระมัดระวังว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางกล้องมันจางหายไปก็เลยนึกไปไม่ถึงว่ามันจะกลายเป็นกรณีระอุขึ้นมา
ไม่มองว่าจะกลายเป็นเรื่องไม่ดีไม่งาม

ถึงแม้ว่าเรายังไม่บรรลุเป็นเซียน แต่ก็อยากมองในแง่ดี

ไอ้แง่ความคลางแคลงก็ไม่ใช่ว่าไม่มี
แต่เมื่อคิดว่าผู้หญิงไม่โง่อย่างอิค์ช
จะไม่รู้เชียวเหรอว่าการเล่นกับกระแสทาง “เพศ” แบบนี้ มันจะเอียงไปทางลบมากกว่าทางบวก
ผลเสียมันมากกว่าผลดีเห็นๆ
อิค์ชไม่น่าโง่จนนึกไปไม่ถึง


ความรู้สึกที่มีต่ออิค์ชจึงไปทางกึ่งๆกลางๆยังไงบอกไม่ถูกนะเนี่ย


สิ่งหนึ่งที่เรานึกคือ
เหตุการณ์นั้นเกิดจากความประมาทของอิค์ชมากกว่า
ประมาทที่คิดไปไม่ถึงว่าเรื่องราวมันจะมีผลกระทบตามมา
มันคือช่วงที่อารมณ์มันพาไปมากกว่าคิดบวกลบคูณหารหาประโยชน์จากการกระทำนั้น


ไม่ว่ากรณีจูจุ๊บกุญแจซอล ณ เวลานั้นจะเกิดด้วยความรู้สึกใดก็ตาม
อาจเป็นแค่การเล่นกันของเด็กผู้หญิง การหมั่นเขี้ยวของพี่สาวที่มีต่อน้องสาวบ้องแบ๊ว
หรือแฝงความรู้สึกใดใดก็ตาม
(ใครมีความสามารถทางโทรจิตก็บอกด้วยละกัน จะตามมาไขปริศนานี้ดู)


แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นคือ ทั้งหมดทั้งมวล
เกิดจากความยินยอมพร้อมใจจากทั้งสองฝ่าย
อิค์ชไม่ได้บังคับ
กุญแจซอลไม่ได้ขัดขืน


แม้จะดูว่าอิค์ชเป็นฝ่ายให้เกินที่กุญแจซอลร้องขอ
แต่เมื่อจูจุ๊บเสี้ยววินาทีนั้นจบลง
เราก็ไม่ได้เห็นความไม่พอใจของกุญแจซอล


ถ้าจะเอาความไม่ควร ไม่เหมาะสมในการกระทำนี้มากล่าวอ้าง
เราเองยังรู้สึกว่า อิค์ชก็ไม่สมควรจะโดนรุมสกรัมอยู่คนเดียว

ยิ่งไอ้กรณีจูจุ๊บในบ้านหลังนี้ปีนี้
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก
กับอิค์ช-กุญแจซอลก็ยิ่งไม่ใช่ครั้งแรก

ถ้ามันทำให้คนนอกบ้านรังเกียจ ไม่พอใจอิค์ช

งั้นตอนซานิ นิวตี้ นุกนิก
มันคือความสนุกสนาน มันแค่การเล่นของเด็กๆ
มันคือความควร ต่างจากความไม่ควรของอิค์ช-ซอลตรงไหน

!!!?


ทำไมคนถึงมองผ่านเด็กคนอื่น
แต่พร้อมมาลงที่อิค์ชเพียงแค่คนเดียว


พูดกันตรงไปตรงมา
ก็คือความเป็นอิค์ชที่คนมองเห็นแล้วเกิดรู้สึกแง่ลบนั่นล่ะที่ทำให้มันผิดในสายตา
อย่างแบบที่อ่านเจอข้อกล่าวหาผ่านแชทนรกหน้าจอแล้วขำแบบหัวเราะไม่ออก

ผิดที่เป็นคนสวยแต่ดันไม่ต๊อง
ผิดที่ไม่เป็นธรรมชาติตามครรลองความคิดของคนคอยมอง
ผิดที่สวยแต่ด้อยความสามารถอย่างที่(คนคิดว่า)ควรจะมี
ผิดที่ทำอะไรก็ดูเกินดูมาก
ผิดที่โบ๊ะหน้าตาตัวเองจนฉ่ำตลอดเวลา
ผิดที่ไปยุ่งเกี่ยวกับคนที่ใช่จนทำให้เกิดข้อกล่าวหาว่าทำคนของเขาแย่ลงหรือซวยเมื่อมาอยู่กับอิค์ช
(ซึ่งซ้ำซ้อนต่อเนื่องคนที่ใช่อันดับหนึ่งมาอันดับสองในข้อหาเดียวกันชวนปวดตับ)



สิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกกับกรณีของอิค์ชที่ถูกรุมเป็นปลาสวายตอดเหยื่ออยู่ตอนนี้ก็ไม่ต่างจากที่ครูรักโพล่งออกมาเมื่อคลาสคืนวันอังคาร


เราคิดว่า คลาสครูรักคืนนั้นคงเป็นคลาสที่ได้รับเรตติ้งสูงนำลิ่วตั้งแต่เปิดซีซั่นนี้มา
คงมีคนเฝ้ารอว่าครูรักจะมาพูดคุยกับอิค์ชไหม พูดตรงๆคือ จะเตือนกรณีอิค์ชจูจุ๊บกุญแจซอลแบบไหน จะว่ากล่าวถึงความไม่เหมาะในกิริยาที่ผ่านมาอย่างไร


รอแล้วรอเล่า รอจนเล่นเกมจบ


ครูรักก็เป็นครูรัก ขวัญใจห้องเรียลพันทิป
ก่อนแยกย้ายจบคลาส อยู่ๆครูรักก็พูดถึงกรณีการเรียกทั้งอิค์ชและซานิไปคุยเมื่อวีคก่อน โดยโยงว่าก่อนซ้อมใหญ่วันพฤหัส ครูแต่ละคลาสจะมารวมกันพูดคุยปัญหาเด็กแต่ละคน
แล้วเมื่อวีคที่แล้ว ทั้งอิค์ชและซานิต่างถูกบรรดาครูทุกคลาสพูดเป็นเสียงเดียวกันเรื่องความตั้งใจ มุ่งมั่นที่ลดลง
ครูรักย้ำ ก็แค่นี้ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้


อืมมมม


ครูรักตอบคำถามให้กับหลายต่อหลายชีวิตที่พยายามตีความเมื่อครานั้นเคลียร์และเกลี้ยง

เผอิญข้าพเจ้ายังไม่บรรลุเป็นเซียนจนหัวใจบริสุทธิ์ไร้ซึ่งรักโลภโกรธหลง....สาธุ

จึงบังเกิดข้อข้องใจ ติดสงสัยบางประการ
ว่า...จริงเร้อ~???
วันนั้น ครูรักต้องการ ‘แค่’ นั้น แค่เตือนทั้งซานิและอิค์ชให้กลับมาตั้งใจแค่นั้นจริงนะ
ไม่ใช่เพราะ ครูบวกความพยายามต้องการเตือนแบบอ้อมโลกแต่ก็อ้อมไปไม่ถึง ด้วยความยากจัดการกับความเป็นเด็กผู้หญิงที่ครูเอ็นดูเป็นปกติหรือเปล่า

คือไม่ว่าเมื่อไร เราก็รู้สึกว่า ครูรักจะให้ความเอ็นดูและใจอ่อนเป็นประจำสม่ำเสมอกับเด็กผู้หญิงเป็นพิเศษ

ถ้ากรณีนี้เป็นเด็กผู้ชาย อยากพนันตามนิสัยจริงๆว่า ครูรักจะพูดตรงไปตรงมาและแรงกว่านี้ จนเคลียร์ เข้าใจ และจบไปแล้วตามอย่างเคย



แต่เมื่อมาเป็นเด็กผู้หญิงที่ครูรักแพ้ทาง (ปากเสียแซวผู้หลักผู้ใหญ่อีกแล้วตู)
มันก็เลยซอท์ฟลงโดยอัตโนมัติ ไม่ตรงไปตรงมาอย่างเคย
แม้เราจะเข้าใจอย่างสุดซึ้งว่าแล้วไงล่ะ จะให้ครูรักโพล่งไปเหรอว่า เด็กสองคนอย่าตัวติดกัน อย่านัวเนียกัน จนทำให้คนข้างนอกเขาเข้าใจผิดในเชิงชู้สาวน่ะ


โอย~ พูดอย่างงี้ งานเข้าแน่นอน เด็กก็ตาย ครูรักก็เสีย ข้างนอกฟาดฟันกันเลือดสาดอีกแน่
ไม่ว่าจะมองแง่มุมไหน การพูดเรื่องแบบนี้ในสังคมไทยๆแม้ในที่รโหฐานแต่ส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมแบบนี้
มันไม่เป็นเรื่องชวนกระดากก็ยากอยู่
เพราะอย่างงี้ครูรักถึงไม่พูดรวมทั้งไม่รู้จะพูดยังไงมากกว่า
คืนนั้นครูรักจึงสรุปจบได้แค่ให้เด็กทั้งสองคนโฟกัสที่ “ความตั้งใจ” หวังให้เข้าใจ
...จะเข้าใจถึงไหนก็ตามแต่
แล้วหลังจากนั้นคือช่วงเวลาการนั่งฟังคำรำพึงรำพรรณ ความคับข้องใจไหลตามสายน้ำหาที่ลงไม่เจอตามประสาผู้หญิง




แต่แล้วเมื่ออิค์ชยังคงมีกรณีไม่เลิกรามายังหนูน้อยขวัญใจมหาชนอย่างกุญแจซอล
คนก็เฝ้ารอให้ครูรักประสานสิบทิศอย่างเคย


ก่อนคลาสเราก็คิดแทนไปล่วงหน้า
ถ้าครูรักพูด...ครูรักจะพูดยังไง


โอย~เรื่องอิค์ช-กุญแจซอล พูดยากกว่าอิค์ช-ซานิ เป็นร้อยเท่า
กรณีแบบนี้ไม่รู้ทำไมเรากลับนึกถึงครูขวัญขึ้นมา
ถ้าเป็นครูขวัญ...เจ้าพระคุณทูนหัวเอ๊ย...มีอะไรสนุกมันส์สิบเท่าให้รอดูแน่
ผู้หญิงมักทันผู้หญิงด้วยกัน จะตะล่อม จะตบ จะกล่อมมันก็เท่าทัน ยิ่งบวกฝีปากครูขวัญเข้าไปด้วยแล้ว...เอิ้ก~


แต่ยังไง...เป็นครูรักแล้วไง ครูรักก็ไม่ทำให้ห้องเรียลผิดหวัง
นอกจากตอบคำถามความข้องใจของนักท่องเน็ตจนเกลี้ยงไปแล้วนั้น

ครูรักสรุปจบ “ง่าย” ไม่ให้ความสำคัญกับมัน
ด้วยการตบท้ายตามมาว่า ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้
และพูดความในใจผ่านความนัยกับกรณี...เอิ่ม...ไอ้เรื่องไร้สาระต่างๆนั่นว่ามัน...



ปัญญาอ่อน




โอย~ คือว่าถ้ากำลังดื่มน้ำอยู่มันคงพุ่งพรวดออกจากปากทันทีที่คำคำนั้นพุ่งสวนเข้าสมอง
จากนั้นมาเราก็นั่งหัวเราะแล้วหัวเราะอีก หัวเราะจนน้ำตาริด
ซู้ดปากด้วยทั้งเจ็บทั้งแสบผ่านคำสั้นๆแต่ได้ใจความครบถ้วน



ให้เราไปพูด หรือแค่คิดเกี่ยวกับกรณีจูจุ๊บ หรือเรื่องรสนิยมทางเพศของใคร
เราคงนึกไปไม่ถึงคำคำนี้
ด้วยตัวเราเองมองเหตุการณ์นี้ด้วยความคิดแค่ว่า “เรื่องไม่เป็นเรื่อง”


แต่พอมาเจอเทียบวาทะของครูรักเข้าไป "ปัญญาอ่อน"



หนูขอซูฮกค่ะครู ไม่อาจหาญเทียบเคียง พร้อมน้อมกายเดินถอยห่างด้วยความเคารพ
มันตอบคำถาม จบทุกข้อสงสัยได้หมดจดและงดงามอย่างที่สุด
แถมปิดปากใครบางคนได้ชะงัดนัก


ทั้งตลกและสะใจ
ใครจะสำนึกได้หรือไม่ก็ช่างเถอะ
แค่พอรู้ว่า มีคนมองกรณีแบบนี้เป็นแค่เรื่องปัญญาอ่อน ไม่ควรให้ราคาไร้ซึ่งความสนใจด้วยซ้ำไป
ก็น่าพอสะกิดความรู้สึกบางอย่างให้เกิดขึ้นมาบ้างละน้า




พูดตามตรงในใจลึกๆเราคงผิดหวังถ้าครูรักเปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมา โดยไม่ว่าจะเตือนทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม
เพราะมันคงทำให้นึกย้อนไปถึงกรณี “หอคอยของสามลิง” ในซีซั่น 4
การเต้นไปตามเสียงรอบข้างโดยหาเหตุผลมารองรับแบบเบาหวิว
จนป่านนี้เราก็ยังไม่เข้าใจและยิ่งไม่เห็นความผิดจนต้องโดนกักขัง ณ เวลานั้น


มา ณ เวลานี้ เราก็ยิ่งหาเหตุ มารองรับผลประหลาดพิลึกพิลั่นที่เกิดขึ้นตอนนี้ยิ่งไม่เจอ


ถึงแม้ว่าถ้าเป็นเรา โดนเพื่อนสาวมานัวเนีย หอมซ้ายหอมขวาจนจบจูจุ๊บตรงริมฝีปาก
รับรองได้ว่าเกิดการถีบจนกระเด็นขึ้นแน่นอน แล้วคงชี้หน้าถามว่าเป็นบ้าอะไรวะ!


แต่เราก็ไม่คิดประเมินคนที่ทำแบบนี้จนเป็นเรื่องปกติ จนเคยชินเห็นเป็นเรื่องธรรมดาสามัญไม่แปลกประหลาด
ไม่ได้เกิดความรู้สึกว่ามันไม่น่าจะมี ไม่ควรมี น่ารังเกียจจนกระทั่งดูถูก
เพราะคำตอบมันมีอย่างเดียวคือ คนเราต่างกัน
ต่างที่มา ต่างการเลี้ยงดูและต่างความคิด


ถ้ากรณีแบบนี้เกิดขึ้นด้วยความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย
คนนอกจะใช้สิทธิ์อะไรไปรังเกียจรังงอนจนเดียดฉันท์การกระทำนั้น

!!!??





ฉันไม่ทำ ไม่ได้แปลว่าคนอื่นไม่มีสิทธิ์ทำ
ฉันไม่ชอบ ไม่ได้แปลว่าคนอื่นจะต้องไม่ชอบตาม
ฉันว่ามันผิด ผิดด้วยทำนองคลองธรรม ผิดด้วยจารีตประเพณี แต่ไม่ใช่ว่าคนอื่นจะเห็นต่างไม่ได้ ยิ่งบอกว่ามันถูกยิ่งไม่ได้




ถ้าเกิดความคิดแบบนั้นขึ้นมาแล้วล่ะก็ สะกิดบอกตัวเองบ้างเถอะว่า
โลกไม่ได้หมุนรอบตัวคุณเอง เพราะในขณะที่โลกนั้นมันหมุน
มันก็หมุนรอบคนอื่นเช่นกัน




ชักไม่จืดแล้วสินะปีนี้





Create Date : 17 กรกฎาคม 2552
Last Update : 17 กรกฎาคม 2552 12:49:51 น. 6 comments
Counter : 529 Pageviews.

 
สวัสดีค่า ดูเหมือนกันแต่ก็ดูแค่ไฮไลท์ตอนเย็นเพราะที่หอไม่มี UBC ค่ะ

กับอิค์ช หนูไม่ชอบนะคะ ไม่ใช่เพราะเรื่องจูจุ๊บหรอก แต่เพราะหนู "คิดว่า" เค้าไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่เค้าแสดงออกเลย



โดย: หมูน้อยแก้มใส วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:46:41 น.  

 
สวัสดีคะ
....สะดุดใจกับคำพูดที่จั่วหัว เลยอ่านเรื่อยมาจนจบ...
เห็นด้วยกับความจืดของซีซั่นนี้อย่างยิ่ง.....โดยเฉพาะคอนเสริ์ตเปิดตัว.....อยากจับฝ่ายคอสตูมมามัดติดกันแล้วเอาไปโยนทิ้งถังขยะเปียกจริงๆ
เพราะความที่ห่วงธีมของเสื้อ เลยสร้างปัญหาใหญ่หลวงให้กับเหล่าAF โดยเฉพาะน้องๆผู้หญิง เสื้อผ้าอะไร๊ ทำไมๆๆๆมันทำให้คนใส่ดูแย่ได้ขนาดนี้ ทั้งขาใหญ่ ทั้งย้วย ทั้งพะรุงพะรังเต้นก็ไม่ได้.........เฮ้อ...และก็อีกนั่นแหละ ไปดูseries ไม่งั้นก็ไปฮาที่เกมส์โชว์เกาหลียังดีซะกว่า......เข้ากับคำคมของเหล่าสาวกที่กระทู้UBC....ไม่ชอบก็ไม่ต้องดูซะสิ....เป็นงั้นไป


โดย: pinklilac วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:56:16 น.  

 
ต๊กใจ!!!
เจอคอมเม้นต์เข้าไป

พี่เองไงก็ได้นะ
กับอิค์ชก็อย่างที่เขียนไป รู้สึกกับเขาแบบนั้น แค่นั้น
ดูปีนี้ดูแบบกว้างๆ ก็สนุกดี

ไร้เดียงสาเหรอ...ไม่ใช่เด็กแล้ว เจอสังคมการงานแล้ว ก็นั่นล่ะ
อิค์ชในสายตาพี่เขาเป็นคนมีกรอบ กรอบที่ครอบอยู่ไม่แค่ชั้นเดียวด้วยล่ะ
ความระวังตัวก็เป็นหนึ่งในนั้น
ความคิดมากก็เป็นอีกชั้น
แต่ถ้าจะบอกว่า "เล่นเกม" อยู่เป็นกรอบอีกชั้นไหม...
ทุกคนมีสัญชาติญาณเอาตัวรอดนะ
ถ้าเล่นก็มีรอดกับไม่รอด
แต่ถ้าไม่ได้เล่น ก็จบที่รอดหรือไม่รอดอยู่ดี๊

...งงมะ


โดย: Quaver วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:04:50 น.  

 
คอสตูมเหรอ


เราน่ะสมัยเรียนจะต้องลงตัวแฟชั่นด้วยค่ะแม้ว่าตัวเองจะเชยจะชุ่ยก็เถอะ
แต่เรื่องหนึ่งที่ถูกสอนคือ แฟชั่นที่ดีต้องดูองค์ประกอบโดยรวม โดยเฉพาะผู้สวมใส่
คิดแต่เสื้อผ้าไม่ได้ ต้องคิดว่าคนใส่ใส่แล้วจะดูดีหรือเปล่าด้วย
แฟชั่นนิสต์ที่ดีก็ต้องเป็นแบบนั้น ไม่ใช่คิดจะขาย คิดแต่ว่าเสื้อตูดี ถ้าคนเอาไปใส่แล้วดูไม่ดีก็อยู่ที่ตัวคนใส่
คือโทษคนใส่มากกว่าโปรดักส์ของตนน่ะ
แล้วจะขายใครล่ะ

ยิ่งการโชว์แล้วยิ่งต้องคิดสองชั้นสามชั้นน่ะ



โดย: Quaver วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:19:44 น.  

 
สวัสดีค่ะเจ้าของบลอค

AF6 ปีนี้ดูกร่อยไปจริงๆด้วยนะคะ อาจจะเป็นเพราะว่าปีที่แล้วแรงไปหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ อิอิ เราก็คิดเหมือนเจ้าของกระทู้เลยค่ะว่า ดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้ หรือดูเฉพาะวันคอนเสิร์ตยังได้เลย เพราะไม่มีอะไรน่าติดตามเลย - -" แหะๆ

ไม่รู้ว่าปีนี้ทรูจะได้เงินจากเราหรือเปล่านะ เพราะไม่มีแรงกระตุ้นให้โหวตเลยง่ะ ปีที่แล้วโหวตน้องปั๊มไปหมดตัวเลย 555 ของเค้าแรงจริงๆก


โดย: ดีดี (chichimaru_dd ) วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:43:55 น.  

 
คุณดีดี
เราเองก็ยังไม่เสียตังส์สักบาทเลยค่ะปีนี้
เราว่าดูแบบนี้ก็สบายใจดีนะ เสียแต่ค่าไฟ
ไม่รู้สึกมาก ก็ไม่เสียดาย...ประมาณนั้น


โดย: Quaver วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:09:33 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.