Bloggang.com : Quaver : Nutty Attack

Nutty Attack

....ถ้าเราเป็นแม่ของนัตตี้ เราจะเข้าไปเอาลูกตัวเองออกจากบ้านหลังนี้เอามันตอนนี้เลย

นี่คือความรู้สึกตอนเรานั่งดูเหตุการณ์Nutty Attack

ไม่ใช่เพราะลูกของเราแตะไม่ได้
ไม่ใช่เพราะลูกของเราไม่ผิด

เหตุผลเดียวเลยคือ เด็กผู้หญิงแต่ละคนในบ้านไม่มีใครสักคนประคองใครได้
และ
เด็กแต่ละคนก็ไม่จำเป็นต้องมาประคองใครด้วย

ไมใช่แค่กลุ่มเด็ก 15 แต่เรามองว่าเด็กในบ้านทุกคนตอนนี้ แค่รับมือเรื่องตัวเองก็เต็มกลืน
ถ้าต้องแบ่งเวลา หรือต้องมานั่งขบคิดว่าจะรับมือตัวนัตตี้อย่างไรโดยที่รักษาไว้ได้ทั้งใจของนัตตี้และตัวเองด้วย

....เรามองไม่เห็นศักยภาพแบบนี้จากตัวเด็กไหนสักคนในบ้านนี้

เพราะเหตุผลเดียวเลย

AF7 คือกลุ่มเด็กที่เด็กเกินไปกับการรับมือปัญหาคนอื่น

ไม่ต้องไปถึงว่าจะคิดหาวิธีการรับมือเลย
แค่การพูดความจริงโดยยังรักษาน้ำใจซึ่งกันและกันน่ะยังยากเลย

เพราะงั้นไอ้การต้องไปถึงการวิเคราะห์ว่าเขาทำอย่างนั้น เพราะเหตุนี้ มองหาที่มาที่ไป แล้วจนทำความเข้าใจ ไปถึงยอมรับและหาทางช่วยหรือแก้ไข

เด็กมันจะทำได้ไงวะ ก็มันเด็กเหมือนๆกันน่ะ

พูดตรงๆเรารู้สึกว่าเด็กรุ่นนี้ โลกแคบมาก การเรียนรู้จัก เรียนรู้ที่จะยอมรับความแตกต่างน่ะ มันไปตามประสบการณ์กว้างแค่แวดวงตัวเองเท่านั้นเอง

เพราะงั้นเด็กที่มีปัญหาการจัดการทางสังคมรอบตัวเองที่จู่ๆก็กว้างกว่าเดิมโดยยังไม่ทันตั้งตัวอย่างนัตตี้ ถึงได้ดูสร้างปัญหาให้เพื่อนรอบข้างไปหมด

...นัตตี้ที่เรามองไปแล้วว่าไม่อยากเรียกเด็ก15 ด้วยซ้ำไป
นัตตี้ให้ภาพเป็นเด็กประถมเลยล่ะ ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอยู่กลางสนามเด็กเล่นกับเพื่อนๆ วิ่งหัวเราะไล่จับ ชนกัน หันมายิ้มร่าให้แก่กันทั้งๆที่เมื่อกี้เพิ่งทะเลาะกันไปแหมบๆ

เราว่านัตตี้น่ะเป็นเด็กคิดอะไรตื้นมาก ไม่ใช่การดูถูก แต่คือทำนองว่าไม่ใช่พวกคิดอะไรสลับซ้ำซ้อน สองแง่สองมุมอย่างนั้น
ถ้าจะอ่านนัตตี้...พอให้ความเข้าใจแล้ว...อ่านง่าย คือยังไม่โตเป็น 'คนไทย' เต็มตัวที่ติดปากพูด "ไม่มีอะไร" ทีไร ดั๊น "มีอะไรมากมาย" ทุกทีน่ะ

ป้า(

)อ่านนัตตี้แบบนี้นะลูก...
หนูไม่ใช่เด็กที่มีโลกหมุนรอบตัวเองหรอก แต่หนูน่ะเป็นเด็กที่หมุนตัวเองเพื่อจะไปขออยู่ในโลกคนอื่น
หนูเป็นคนต้องการความรักจากคนอื่นเอามากๆโดยมองทิศทางลมไม่เป็น

พร้อมวิธีการเอาความรักจากคนที่หนูชอบ หนูรู้แค่ว่าต้องเอาใจเขา ชมเขา เกาะติดเขา
เพราะหนูแค่คิดว่า คนเรารักกันน่ะมันต้องอยู่ใกล้ๆกัน เป็นเพื่อนกันน่ะไปไหนก็ต้องไปด้วยกัน
หนูทำกับคนอื่น เพราะลึกๆในใจตัวหนูเองอยากได้รับการกระทำและความรู้สึกแบบนั้น

โดยที่นัตตี้ไม่เคยนึกเลยว่า คนเราน่ะมันต่างความรู้สึกกัน
ตัวเราคิดและรู้สึกแบบนี้ ใช่ว่าคนอื่นจะต้องรู้สึกและคิดแบบดียวกับเรา

ซึ่งเราว่ามันยัง..ยังนะ...ยังไม่ใช่ความผิดของนัตตี้ เพราะเด็กแบบนัตตี้ยังโตไม่พอที่จะเรียนรู้เรื่องแบบนี้มาก่อน
และเราก็ไม่มีทางโทษว่าเป็นความผิดของคนอื่น

คือถ้าจะมองว่าแล้วทำไมอย่างปั๋มก็โตไม่ห่างจากนัตตี้ ถึงได้เรียนรู้มากกว่า

ก็คงตอบแบบกำปั้นทุบดินล่ะว่า คนเราน่ะไม่เหมือนกัน โตมาต่างกัน โชคดีก็ต่างกัน

คนบางคนเรียนรู้ได้เร็วกว่า สัมผัสความรู้สึกคนอื่นรอบกายได้ไวกว่า
แต่คนบางประเภทกลับช้าไปหมดซะทุกเรื่อง(แบบนัตตี้นี่ล่ะ)

คงเคยได้ยินกันกับคำพูดที่ว่า "โตกว่าอายุ"
และมันจะมีคำอีกคำคู่กันมา "เด็กกว่าอายุ"

ไอ้เด็กกว่าอายุนี่นะ ถ้าไม่ใช่การพูดถึงรูปลักษณ์ภายนอกที่มักถือเป็นคำชมให้คนฟังกระดี๊กระล่ะก็...
มันมักแฝงการตำหนิกลายๆ โดยที่คนพูดเหมือนจะเป็นการออกตัวให้แทน แต่กลับแฝงความรู้สึกด้านลบต่อคนคนนั้นอยู่ด้วย

แล้วคนที่โดนกับถ้อยคำนี้เข้าไป เราว่ารู้สึกได้นะ

เราว่านัตตี้น่ะสาหัสมาตั้งแต่เปิดใจครั้งแรกนั้น แผลยังไม่ทันปิด ด้วยตัวเด็กมันก็แก้ตัวมันเองไม่ได้ นอกจากไม่รู้ว่าต้องแก้ตรงไหน แค่ไหนแล้ว ก็ยังมีเวลาน้อยเกินไปที่จะแก้ไขน่ะ
เพราะงั้นเด็กก็ทำเป็นอย่างเดียวล่ะ คือให้ความรักคู่กรณีมากๆเป็นการทดแทน รักเขาให้มากๆ เขาจะได้รู้สึกดีกลับคืนมาให้(บ้าง)

โดยไม่รู้ตัว(อีก)ว่า นอกจากคู่กรณีที่มองออกชัดๆแล้ว(ให้ไปจนเขารำคาญนั่นล่ะ) มันยังมีคู่กรณีที่ตัวเองมองไม่เห็นอีกเพียบอ่ะ

อย่างเกรบนี่ เราว่านัตตี้มองไม่ออกแถมไม่รู้สึกอีกนะว่าเขาเป็นคู่กรณีของตัวเองเหมือนกัน
อย่างที่นัตตี้หลุดออกมาอย่างประหลาดใจเมื่อคืนไงที่ว่าตัวเองรู้สึกว่าเกรบเป็นคนเดียวที่ยอมฟังเขาน่ะ
ซึ่งเราก็เห็นนะ ที่นัตตี้มันตามติดจะเล่าเรื่องตัวเองให้เกรบฟังตลอด
...คือพูดตรงๆนะนัตตี้ คือหนูน่ะกะพูดเอาฝ่ายเดียว โดยไม่สนว่าอีกฝายเขาต้องการจะฟังไหม ฟังได้นานแค่ไหน

เห็นสีหน้าตอนที่นัตตี้ฟังที่เกรบว่าตัวเองเฟค ไม่จริงใจน่ะ เด็กมันคงเหมือนโลกถล่มลงมาไงงั้น
...คำคำนี้ใครไม่โดนว่าใส่ตัวไม่รู้สึกหรอก จริงๆ
เฟคจริง เฟคไม่จริง โดนว่าใส่หน้าของขึ้นทุกคนล่ะ

เราน่ะไม่อยากให้มันเป็นแบบว่า เพราะคนโดนเป็นนัตตี้ มีบางคนจึงคิดไปว่าสมควรที่จะโดน หรือไม่ก็ไม่เกิดความเห็นใจในตัวคนถูกว่าบ้างเลย
จนพร้อมจะปรามาสซ้ำไปว่า นี่ไงล่ะ เพื่อนๆเขาถึงไม่อยากพูดอะไร แนะอะไรกับนัตตี้ เพราะมันเป็นเด็กแบบนี้ ไม่ยอมฟังคนอื่นแบบนี้

เราว่ามันต้องแยกกรณี กรณีไป
ไอ้ที่รุมมาว่ากันน่ะ เราก็เห็นนัตตี้มันไม่เถียงสักคำ แทบอยากตายอยู่ตรงนั้นสูดน้ำมูกซื้ดๆ จนหน้าหักไปหมดนั่นน่ะ
เจ้าหนูนี่ก็ยอมรับ รู้ตัว แถมยังเข้าใจอีกว่าเรื่องมันต้องใช้เวลา จะให้มันยิ้มร่ารับคำตำหนิทันทีเอามันตรงนั้นเลยมันทำไม่ได้

ที่เราเคยบอกว่าเด็กมัน "ผู้ญิ๋ง ผู้หญิง" น่ะ
อยากกลับคำพูด น้องจริงมากเลยว่ะ ใจกับปากตรงกันเด๊ะ ไม่ผ่านการไตร่ตรองจากสมองด้วยซ้ำ

ไอ้การขอถามครูรักให้บอกได้ไหมว่าใครนินทาตัวเองน่ะ
พูดตรงๆน่ะ...ผู้ใหญ่บางคน บางประเภท ไม่กล้าที่จะทำด้วยซ้ำด้วยไม่ก็กลัวความจริง ก็คิดบวกลงคูณหารผลได้ผลเสียไปล่วงหน้า

แต่ด้วยความเป็นด็กนี่ทำให้ใจอยากรู้แค่นั้น ถึงได้ถาม แล้วพอรู้ โลกตัวเองก็ถล่มอีกรอบ เฟลไปตามที่ออกปากนั่นล่ะ
โดยที่หลังจากนั้น เรากลับไม่เห็นการเอาไปเก็บคิดเล็กคิดน้อยกับคนที่นินทาตัวเองเลยสักนิด

คือว่าถ้าเป็นเรา เราทำใจลืมได้ไม่เร็วเท่านัตตี้นะ
ความตะขิดตะขวงใจ แม้จะรับรู้เรื่องราวทั้งหมดก็ตามทีเถอะ มันก็ยังมีอยู่

ไอ้พวกแก่โลกแล้ว ก็มักเป็นอย่างนี้ล่ะ
พวกเด็กอ่อนโลกถึงได้แก้ไข ยอมรับ และลืมเจ็บได้ง่ายกว่า

แล้วการที่เด็กมันออกปากมาทันทีที่ครูรักตีกินล่วงหน้าว่าอย่าไปถึงกับไม่พูดไม่ยุ่งกับใครเขาว่าหนูก็คิดจะทำแบบนั้นพอดี

บอกตรงๆว่าเราไม่แปลกใจ
คนเราที่โดนรุมว่าน่ารำคาญเพราะตามติดมากไป
แล้วโดนสั่งสอนว่าต้องดูสถานการณ์ คอยดูความรู้สึกคนอื่น

เด็กมันคงคิดไม่ออกว่าจะดูยังไง ทำแค่ไหน
มันยากเกินไปจะปรับแก้ไขสำหรับเด็กมากๆแบบนี้

ถึงเป็นผู้ใหญ่ก็เถอะ มันก็ไม่ใช่เรื่องทำกันได้อย่างง่ายดายและถูกจังหวะ
การโดนเตือนแบบนี้มันจะยิ่งเกร็งในการคบหากัน(ยิ่งถ้าโดนเตือนแบบไม่ระวังสาดเป็นบาซูก้าแบบนั้นนะยิ่ง...

)

เพราะคนแต่ละคนมีพื้นที่ส่วนตัวกว้างแคบไม่เท่ากัน
ช่วงเวลาของอารมณ์ก็ต่าง ไม่ใช่แค่ต่างแค่ตรงอารมณ์ตัวเอง แต่กับต่างที่จะเปิดให้บางคนด้วย

ไม่ใช่เรื่องเรียนรู้กันง่ายๆนะ

เพราะงั้นไม่ใช่แค่เด็กหรอกที่จะคิดว่าในเมื่อไม่ชอบให้เข้าใกล้มาก ขอระยะห่างบ้าง งั้นตัดปัญหาที่ตัวเองดีกว่าคือ

"อย่าไปยุ่งกับเขาก็สิ้นเรื่อง"

ไอ้ผู้ใหญ่ ที่ว่ามีวุฒิภาวะเยอะๆนี่ล่ะ ตัดปัญหาด้วยการทำแบบนี้มาแยะแล้ว

ยิ่งเด็กมันโดนใส่เต็ม กลายเป็นขนมตุ้บตั้บแบบนี้โดยทุกคนต่างทำโดยไม่ยั้งที่จะคิดถึงจิตใจเพื่อนในตอนนั้นสักนิดว่าใจจะช้ำแค่ไหน
เราว่าไม่แปลกเลยที่นัตตี้จะคิดแบบนั้นออกมา

ในเมื่อมองอารมณ์คนอื่นไม่ออก อ่านไม่เป็น

แก้ง่ายสุด ตรงสุด คือแก้ที่ตัวเอง...ง่ายนิดเดียว

เสียอยู่นิด นี่มันดันเป็นที่ปิด โดนบังคับด้วยเวลาไง
ถ้าเป็นที่เปิด ก็เดินจากไปได้ ไปโต ไปเรียนรู้ โดยค่อยใช้เวลากับคนที่พร้อมจะมอบความเข้าใจให้ก็จะง่ายกว่านี้เยอะ
คนที่พร้อมจะยอมรับเราที่เราเป็นเรานี่ล่ะ แล้วค่อยแก้ ค่อยปรับกันไป
เพราะบางทีกับบางคนเขาก็ไม่พร้อมจะยอมรับตัวตนของเราเหมือนกัน...ก็ต้องเข้าใจตรงนี้ด้วย

เราถึงได้จั่วตรงหัวว่า ถ้าเราเป็นแม่เจ้าหนูนี่ เราคงไปเอาลูกตัวเองออกมาแล้ว
เราใจแข็งไม่พอ เพราะนี่มันไม่แค่ปล่อยเกาะนะ แต่มันเหมือนลอยคออยู่กลางทะเล แล้วแต่ละคนต่างก็ตะกุยตะกายเอาตัวรอด ไม่สามารถยื่นมือมาช่วยคนว่ายน้ำไม่เป็น(ไม่ใช่แค่ไม่เก่งนะ)ไหว
สู้พายเรือเอาลูกออกมาสอนว่ายน้ำก่อนดีกว่าก่อนจมน้ำตายดีกว่า

ขอให้แค่ดูผิดเหอะ ขอให้เป็นแค่เด็กทะเลาะกัน แล้วคืนดีกัน ลืมเรื่องบาดหมางได้ง่ายไม่จำฝังใจแค่นั้น
ขอให้เป็นแค่ดราม่าประจำคืนของเด็ก15เถอะ

...ไม่ใช่อะไรหรอก กลัวเจ้าหนูนัตตี้จะไม่มาโตในบ้านแต่ดันกลายเป็นลูกกรอกของจริงน่ะ
จะเอาตัวรอดไหวไหมวะเนี่ย

ไม่รู้ทำไม ดูมาเข้าซีซั่นที่ 7
จะรู้สึกเอามันทุกปีว่า ในแต่ละรุ่นจะมีเด็กบางคนที่จะเป็นจิ๊กซอว์ที่ไม่มีวันฟิคเข้าหากันได้ แม้จะต่อลงร่องได้ แต่พอต่อเสร็จมันกลับกลายเป็นคนละภาพกันไปเสียฉิบ

เราก็ไม่รู้ว่านัตตี้จะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นนั้นไหม
แต่ในสายตาเรามีแล้วล่ะรุ่นนี้(...ขอออกตัวว่าไม่ใช่มาร์คหรอกนะ) ที่เห็นแล้วเสียดายว่าน่าจะอยู่อีกรุ่น
หรือรอต่อไปอีกปี
เห็นแล้วเสียดายแทน ไม่งั้นเสน่ห์คงฉายออกมาให้เห็นมากกว่านี้

...ดูปีนี้เหมือนจะไม่สนุก แต่จะเรียกว่าสนุกก็ไม่เต็มปาก
มันคือAFล่ะมั๊ง

Create Date : 15 กรกฎาคม 2553

Last Update : 15 กรกฎาคม 2553 13:42:06 น.

7 comments

Counter : 537 Pageviews.

ทักทายยามบ่ายจ้า อิอิ :)

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว

วันที่: 15 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:58:20 น.

ชอบตรงนี้

" ป้า()อ่านนัตตี้แบบนี้นะลูก...
หนูไม่ใช่เด็กที่มีโลกหมุนรอบตัวเองหรอก แต่หนูน่ะเป็นเด็กที่หมุนตัวเองเพื่อจะไปขออยู่ในโลกคนอื่น
หนูเป็นคนต้องการความรักจากคนอื่นเอามากๆโดยมองทิศทางลมไม่เป็น

พร้อมวิธีการเอาความรักจากคนที่หนูชอบ หนูรู้แค่ว่าต้องเอาใจเขา ชมเขา เกาะติดเขา
เพราะหนูแค่คิดว่า คนเรารักกันน่ะมันต้องอยู่ใกล้ๆกัน เป็นเพื่อนกันน่ะไปไหนก็ต้องไปด้วยกัน
หนูทำกับคนอื่น เพราะลึกๆในใจตัวหนูเองอยากได้รับการกระทำและความรู้สึกแบบนั้น "

โดย: puie (papasea

) วันที่: 15 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:14:04 น.

ชอบที่คุณQuaverเขียนจังค่ะ
แอบสงสารนัตตี้ ตั้งแต่คลาสครูรักเมื่อวาน

โดย: nampig

วันที่: 15 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:39:16 น.

ปุจฉา...

มันเกิดอะไรขึ้นฤา??

แบบว่า เมื่อวานก็เปิดไปดูนิดนึงนะพี่ อยากรู้เืรื่องมาร์คอะ เลยเปิดไป ได้ข่าวว่าครูรักษ์มา

และพบว่าตัวเองน่าจะไม่สามารถรับเด็กรุ่นนี้ได้
เพราะมัน เด๊กกกกกกกเด็ก อะ - -"

เด็กจนแบบ ผู้ใหญ่ (แก่) อย่างเราดูแล้วรำคาญ

สงสัยรำคาญเพราะว่าตัวเองแก่แล้วมั้ง - -"
ซึี่งมันก็ไม่ใช่เื่รื่องดีเลยนะพี่ ตู่ก็รู้แหละว่าเราควรจะต้องเปิดกว้างๆ รับให้ได้

แต่ก็นะ.... เพื่ออะไรล่ะ?? ฮะ ฮะ ไม่จำเป็นนี่

นัตตี้นี่น้องคนไหนเนี่ย?

น้องคนที่ตู่เคยดูโชว์แล้วค่อนข้างชอบ
พอไปเห็นในบ้านเมื่อวานแล้วกลับ.. เอิ่ม...

กำลังสงสัยจุดประสงค์ของทรู

การลดอายุเด็กที่เข้าสมัครเอเอฟน่ะ

จะทำไปเพื่อให้ได้ "ไอดอล" ที่อายุไล่ๆ กับเด็กๆ
(เพราะถ้าแก่ไป เดี๋ยวเด็กๆ หาว่าเป็นลุง/ป้าไปแล้ว)
จะได้ขายง่ายๆ บางพวกมันแก่เกิน ปั้นแล้วไม่คุ้ม

หรือเพราะต้องการให้สังคมไทยปัจจุบันได้รับรู้ว่าเด็กวัยรุ่นสมัยนี้เป็นยังไง......... กันแน่?
(ถ้าเป็นเพราะสาเหตุนี้ก็... ส๊าธุ)

ถ้าได้ผู้ใหญ่ที่สามารถชี้นำเด็กได้แบบดีๆ เย็นๆ ก็คงดีนะพี่ ^^

แล้วรุ่นนี้ไม่มีเด็กที่ประสบการณ์มากๆ เป็นผู้ใหญ่กว่าอายุ (แ่ต่หน้าตาไม่ใช่ ฮา) มาปลอบบ้างเหรอพี่?

จริงๆ ณัฐ ศักดาทร อาจจะเหมาะกับรุ่นนี้นะ ฮ่า ฮ่า
แบบว่า เข้าไปเป็นพี่เลี้ยงพิเศษโดยเฉพาะ กร๊ากกก
น้องแกจัดการเรื่องคนอื่นดี (แต่เรื่องตัวเองไม่รู้ ฮะ ฮะ)

ล้อเล่นน่าาาาาาา

แต่ก็ไม่แน่... เด็กๆ มันต้องผ่านเรื่องลำบาก มันถึงจะ "แกร่ง"
พอจบซีซั่น เด็กเอเอฟเจ็ดรุ่นนี้ อาจจะแกร่งกว่าคนอื่นๆ ที่อายุเท่าๆ กันไปเยอะก็ได้

เพราะลับกันมาในบ้านละ

โดย: tazzz

วันที่: 15 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:49:23 น.

ค่ะ เราก็แอบคิดว่า ทำมั้ยยย มาอยู่ในบ้าน แล้วต้องเปิดใจในระยะเวลาอันสั้น ต้องมานั่งถูกรุมด่า ...

มันถูกต้องแล้วเหรอ ... หรือมันถูกคะ สงสัย .. เพราะในชีวิตจริง เราก็ค่อย ๆ ปรับ ๆ จูน ๆ กันไป อย่างมีการถนอมน้ำใจกัน

แบบนี้ ถ้าเป็นเราคงรับไม่ค่อยไหวเนอะ ... เฮ้อ หรือเราใจแคบเกินไปเนี่ย ดีนะ ที่ไม่ได้เข้าบ้าน AF

โดย: for Family

วันที่: 16 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:38:52 น.

นัตตี้โดนรุมประจำเลย

นึกถึงนุกนิกกับ นิวตี้ เมื่อปีที่แล้ว
ที่ได้พี่ๆในบ้านทุกคนคอยช่วย

โดย: บางส้มเปรี้ยว

วันที่: 16 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:50:56 น.

เด็กรุ่น 4 มันไม่น่าจะใช่เด็กยุคใหม่นะพี่
(คิดว่างั้นนะ)

แล้วแต่ละคนก็ค่อนข้างจะโตๆ กันทั้งนั้น
ไ่ม่ได้มีแบบง้องๆ แง้งๆ อะ
(ถึงบางคนจะเด็ก แต่ก็ไ่ม่ได้เด็กอะไรมากมาย)

แต่เด็กรุ่นนี้ แบบ... ตู่รู้สึกเหมือนดูเด็กประถม ฮะ ฮะ ไม่ประถมก็ ม.ต้น อ้ะ

พอเข้าใจธรรมชาติเด็กรุ่นใหม่อย่างนึงนะ
เท่าที่เห็นจากที่อื่นๆ ส่วนมากมันจะแบบ... ไงอะ...

เวลามีการแบ่งฝ่าย แบบว่าไม่ชอบใคร อะไร ขึ้นมา
ถ้าใครอยู่ฝ่ายเดียวกัน ก็จะหาทางรุมฝ่ายตรงข้ามแบบไม่ยั้ง
แล้วยิ่งอย่าให้ใครเผลอหลุดอะไรที่น่าจะ "เสียเปรียบ" คนอื่นออกมาเชียว

เค้าจะเรียกว่า รวมกันเราอยู่ หรือจะเรียก หมาหมู่ ก็ไม่รู้ ฮะ ฮะ

อันนี้ที่เคยเห็นจากในชีวิตจริงนะคะ - -"

เจอสถานการณ์แบบนี้... เดี๋ยวน้องแกคงจะได้เข้มแข็ง และร้องเพลงได้อินเป็นพิเศษล่ะมั้งพี่? (รึเปล่า?)

(คิดซะในแง่ดี)

สงสัยรุ่นนี้ไม่มีใครโตพอจะช่วยใครได้ล่ะซีเนี่ย?

น่าจัดคอร์สธรรมะให้เด็กๆ บ้างนะ
(แต่ตอนนี้น่าจะยังไม่มีประโยชน์)
ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ปล. พี่คิวเคยเห็นทรูมันทำอะไร "ถูก" เยอะแยะนักเหรอ? ฮะ ฮะ

ลป. สงสัยไอ้เรื่อง "เรียน" มากเลย ถ้าขอเีรียนแบบไม่ทำงานเลยเนี่ย ทรูเ้ค้าไม่มีปัญหาเหรอ?

โดย: tazzz

วันที่: 16 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:08:43 น.