ลุ้นระทึกวันสิ้นโลกอีก29ปีดาวเคราะห์น้อยชนนาซ่ายัน13เม.ย.2579ชี้ชะตาเผ่าพันธุ์มนุษย์เผยแรงกว่ากรากะตัวระเบิดปี1883ถึง4เท่าโวมีแผนส่งยานอวกาศเบนวงโคจรไว้แล้วเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม นายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต กรรมการบริหารสมาคมดาราศาสตร์ไทย เปิดเผยว่า มีรายงานจากองค์การนาซ่าระบุว่าในอีก 22ปี คือวันที่ 13เมษายน2572 จะมีปรากฏการณ์ด้านดาราศาสตร์ที่น่าสนใจคือ จะเกิดปรากฏการณ์ดาวเคราะห์น้อย"อะโพฟิส"หรือ99942 Apophis โคจรเข้าใกล้เฉียดโลกในระยะใกล้สูงสุดที่ 22,000ไมล์ หรือ 34,400กิโลเมตร ใกล้กว่าวงโคจรของดวงจันทร์เกือบ 11เท่าและอยู่ในระยะใกล้กว่าดาวเทียมค้างฟ้า เป็นครั้งแรกในรอบ 1,000ปี ที่มีดาวเคราะห์น้อยเข้าใกล้โลกกว่าวงโคจรของดวงจันทร์"ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 320เมตร มีรอบวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ 323วันและในวันที่ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสโคจรเฉียดโลกนี้ สามารถชมปรากฏการณ์ได้ โดยกลุ่มประเทศที่สามารถมองเห็นปรากฏการณ์ได้อย่างใกล้ชิด ประกอบด้วย กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ยุโรป แอฟริกาและไทย จะมองเห็นปรากฏการณ์ได้ตั้งแต่เริ่มพลบค่ำ โดยให้มองไปทางทิศตะวันตก จะเห็นปรากฏการณ์ขนาดดาว- 3แมกนิจูด เท่ากับขนาดความสว่างของดาวพฤหัสบดีในปัจจุบัน โดยดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส จะอยู่ในกลุ่มดาวปู(Cancer)ลักษณะจะขึ้นที่ 42 องศา/1 ชม.บนท้องฟ้าที่เราสังเกตการณ์อยู่"นายวรวิทย์ กล่าวสำหรับความสำคัญของดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสนี้ เนื่องจากผลที่โคจรเฉียดใกล้โลกมาก อันจะเป็นกุญแจสำคัญในการใช้คำนวณ หรือสังเกตการณ์ดาวเคราะห์น้อยดังกล่าวนี้ที่จะโคจรเข้ามาใกล้โลกกว่านี้อีกครั้งในวัน 13เมษายน2579 ว่า จะมีผลต่อการพุ่งชนโลกหรือไม่อย่างไรในวันดังกล่าว ซึ่งหากมีการพุ่งชนโลกในขณะนั้น(13เมษษยน2579) ประเทศที่ถูกชนจะเป็นเม็กซิโกทางตอนเหนือ ผลการถูกพุ่งชนจะรุนแรงเทียบเท่าขนาดของระเบิดทีเอ็นที จำนวน 870เมกะตัน หรือมากกว่า 4 เท่าของแรงระเบิดภูเขาไฟกรากะตัวของประเทศอินโดนีเซีย ในปี ค.ศ.1883 ที่คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 36,000คน มีพื้นที่จมหายไปทั้งเกาะ จำนวน 165หมู่บ้าน"จึงเป็นโอกาสสำคัญในการที่ให้ประชาชนได้สนใจในการเรียนรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์ในความเป็นไปได้เกี่ยวกับโลกและอวกาศ เกี่ยวกับความเป็นไปได้และหายนะโลกที่มาจากวัตถุนอกโลกต่อไป" นายวรวิทย์ กล่าวในที่สุดผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับอุกาบาต กับดาวเคราะห์น้อยนั้น มีอยู่จำนวนมากในอวกาศจนไม่สามารถที่จะนับได้ถ้วน โดยอุกาบาตก็คือเศษชิ้นส่วนที่มักจะมีขนาดเล็กลอยอยู่ในอวกาศ ถ้ามีขนาดใหญ่จึงเรียกว่าดาวเคราะห์น้อย หรือแอสเตอร์ลอยด์ เป็นชิ้นส่วนในอวกาศที่มีขนาดใหญ่และจะมีการกำหนดชื่อเรียกไว้เมื่อมนุษย์มีการตรวจพบ ซึ่งถ้าพุ่งชนโลก ความรุนแรงก็ไม่ต่างกับระเบิดนิวเคลียร์ ที่มีแรงทำลายล้างมหาศาล แต่ถ้าแรงถึงกับล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ชาติ จะต้องมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 กิโลเมตรขึ้นไปทั้งนี้ ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส หรือ99942 Apophis ถูกพบครั้งแรก เมื่อเดือนมิถุนายน 2547 ซึ่งขณะนั้นถูกเรียกว่า 2004เอ็มเอ็น4 (2004 MN4 )โดยดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ถูกบ่งชี้ว่า ในวันที่ 13เมษายน2572 จะผ่านใกล้โลกและวันที่ 13 เมษายน2579 จะเข้าใกล้โลกอีกครั้งหนึ่งเช่นกันโดยแนวทางการป้องกันโลกถูกภัยคุกคามจากดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ นาซ่าได้ระบุแผนการป้องกันคือต้องใช้ยานอวกาศบินเข้าประกบและเบี่ยงเบนเส้นทางโคจรของดาวเคราะห์น้อยให้พ้นจากโลกที่มา:แนวหน้า วันที่ 23 กรกฏาคม พ.ศ. 2550
เราจะช่วยกันกู้โลกยังไงกันดี
แต่ก่อนอื่นมาช่วยลดภาวะโลกร้อนกันก่อนดีกว่า