|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
จดหมายจากฝั่งกว๊าน 14
กราบเท้า คุณพ่อคุณแม่ที่เคารพ
เธอถามตังเองหรือยังว่า เธอพร้อมที่จะเปิดใจรับกับสิ่งใหม่ๆหรือยัง หรือเธอไปเพื่อให้ได้ชิ้นงาน
มันไม่ใช่เรื่องแปลกใช่ไหมค่ะ ที่มนุษย์ทุกคนล้วนกลัวการเปลี่ยนแปลง(ไปในทางที่เลวร้าย) และคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มนุษย์เราจะเอาตัวเองเป็นฐานในการมองและเรียนรู้ ทุกๆครั้งของการลงชุมชน แต่ละคนก็จะได้หัวข้อที่ตนเองจะต้องศึกษา ฉะนั้นทุกๆคนต่างก็คิดคำถามและวิธีที่จะทำให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ตนเองต้องการ
อย่างอาทิตย์ที่ผ่านมาเราได้หัวข้อเรื่อง สุขภาพและการดูแลรักษาสุขภาพในความหมายของชาวบ้าน มันเป็นเรื่องที่ยากหากจะไม่ให้เราถามตรงๆว่า ป้าค่ะ/ลุงค่ะ คำว่าสุขภาพในความหมายของป้าคืออะไร แล้วป้า/ลุงมีวิธีดูแลสุขภาพของตนเองอย่างไร เราจะได้ข้อมูลที่เราอยากได้ ได้อย่างไรกันเล่าถ้าไม่ให้เราถามตรงๆแบบนี้ ถ้าไม่ถามในสิ่งที่เราอยากรู้ แล้วเราจะได้คำตอบได้อย่างไร
แล้วก็ต้องสะดุจกับคำพูดคำพูดหนึ่ง เธอพร้อมที่จะเปิดใจรับกับสิ่งใหม่ๆหรือยัง หรือเธอไปเพื่อให้ได้ชิ้นงาน นั้นนะสิค่ะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกๆครั้งก่อนที่จะลงชุมชน เราไม่เคยถามตัวเองเลย ว่าพร้อมหรือยังที่เปิดใจรับกับสิ่งใหม่ๆ สิ่งที่มันแตกต่างไปจากที่เราคิดและเข้าใจ หรือพูดง่ายว่าอาจารย์ต้องการที่จะบอกให้เรียนรู้ที่จะรับฟังความคิดของผู้อื่นนั้นเอง บางครั้งไม่ใช่สิอาจจะทุกครั้งเลยก็ได้ ที่เราลงชุมชนเพื่อต้องการตอบสนองต่อหัวข้อที่เราได้รับ คำตอบที่เราอยากได้ก็คือคำตอบที่เราต้องการและได้รับการเรียนรู้มาแล้วว่า มันเป็นจริงถูกต้องตามทฤษฎีที่เราเรียนมา ไม่ใช่ต้องการคำตอบที่เป็นของชาวบ้าน จนลืมไปว่าแท้จริงแล้วความเป็นชีวิตจริงกับทฤษฎีมันอาจจะไปด้วยกันไม่ได้
ได้พูดคุยด้วยคุณลุงคนหนึ่ง ลุงเล่าให้ฟังว่าลุงเป็นโรคเบาหวาน แล้วลุงก็เข้าใจว่าเป็นเพราะเมื่อก่อน สมัยหนุ่มๆลุงเคยสูบบุหรี่ แต่ตอนนี้ลุงเลิกสูบบุหรี่แล้ว ตั้งแต่ลุงรู้ว่าเป็นเบาหวาน ลุงต้องการจะบอกว่าการสูบบุหรี่ในอดีตเป็นเหตุทำให้ลุงเป็นโรคเบาหวานในปัจจุบันนี้ ซึ้งแท้จริงแล้วมันเป็นไปได้ยาก การสูบบุหรี่น่าจะก่อให้เกิดโรคอื่นๆมากกว่าโรคเบาหวาน แต่มันก็คือความเชื่อความเข้าใจของลุงที่เข้าใจเช่นนั้น
มีอีกรายหนึ่งเป็นคุณป้า ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง แต่เมื่อถามถึงคำว่าสุขภาพดีในความรู้สึกของป้าว่าเป็นอย่างไร ป้าก็บอกว่าแบบป้านี้ก็เรียกว่ามีสุขภาพดีเหมือนกันนะ หมอบอกว่าป้าป่วยแต่ป้าไม่เห็นรู้สึกป่วย ยังทำงานได้ปกติ แต่ก็ทานยาตามที่หมอบอกเป็นประจำ หากอ้างตามทฤษฎีที่เรียนมา การมีสุภาพดีนั้นหมายความว่าร่างกายจะต้องไม่มีพยาธิสภาพใดๆ แต่ความหมายของป้านั้นสุขภาพดีอยู่ที่ใจ แม้ร่างกายจะป่วยแต่จิตใจเข้มแข็ง ไม่ป่วยตามร่างกายแค่นี้ก็ถือว่ามีสุขภาพดีแล้ว เมื่อก่อนลูกพยายามจะอธิบายเท่าที่ตัวเองรู้ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น แต่มันเป็นแบบนี้ตากหากค่ะ (ซึ่งตัวเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากมายนอกจากที่อ่านและเรียน) แต่ดูท่าว่ามันคงเป็นเรื่องยากที่อยู่ๆเราจะไปเปลี่ยนใจไม่ให้เขาเชื่อในสิ่งที่เขาเชื่อมานาน
ในการลงชุมชนอย่างแรกที่พวกเราต้องทำความเข้าใจคือ เราศึกษากันในบุคคลกลุ่มย่อย สิ่งที่เราได้รับเกิดจากบุคคลคนนี้ เป็นเรื่องของคนคนนี้ เราจะเอาไปเหมาร่วมกันไม่ได้ ลูกเคยสงสัยว่าทำไมเราต้องมานั่งศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์แบบคนต่อคน ทำไมไม่ศึกษาจากทฤษฎีที่เขามีไว้ให้ ในเมื่อเขาสรุปออกมาเป็นทฤษฎีให้เราแล้ว ทำไมเราต้องมานั่งศึกษาอีก ซึ่งบางทีมันก็ไม่เป็นไปตามทฤษฎีที่เราอ่าน
ในที่สุดลูกก็ได้เรียนรู้และเข้าใจว่า การที่เราไม่ยึดติดกับกรอบความรู้ที่เรามี การศึกษาโดยปราศจากอคติ จะทำให้เราเข้าใจในสิ่งที่เป็นตัวตนของเขาอย่างแท้จริง โลกแห่งความจริงไม่มีเวลาให้ย้อนกลับไปแก้ตัว หรือย้อนกลับไปดูใหม่อีกรอบได้ เหมือนกับการที่เราอ่านหนังสือแล้วไม่เข้าใจ ก็จะกลับไปอ่านใหม่อีกรอบหนึ่ง หรือการทดลองอะไรสักอย่างแล้วไม่แน่ใจ ว่าผลการทดลองจะถูกต้องหรือไม่ เราสามารถทดลองช้ำใหม่ได้ และนี้เองคือเสน่ห์ของการลงชุมชน ไม่มีทฤษฎีที่ตายตัว มีอะไรให้เรียนรู้และแก้ไขมากมาย เหตุการณ์ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ย้อนกลับไปดูใหม่ไม่ได้
เหตุการณ์ที่พบเป็นเรื่องราวของชีวิตจริง ที่ไม่ได้จัดฉากขึ้นมาเหมือนกับห้องเรียนจำลอง ที่มีการจำลองทุกสิ่งไว้ ไม่ว่าจะเป็นสถานีอนามัยจำลอง ห้องผู้ป่วยจำลอง หุ่นผู้ป่วยจำลองหรือที่นักศึกษาที่นี้เรียกกันว่าอาจารย์ใหญ่ ฯลฯ เราปฏิบัติกับอาจารย์ใหญ่ที่เป็นหุ่นจำลองราวกับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตจริงๆ มีการพูดคุยกับหุ่นอาจารย์ใหญ่ แต่ก็เทียบไม่ได้กับการคุยกับมนุษย์ด้วยกัน เพราะหุ่นจำลองเราไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร เขาบอกไม่ได้ว่าเขารู้สึกกับเรื่องเหล่านี้อย่างไร แต่กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเราสามารถสื่อสารกันเข้าใจ
บางครั้งที่เราได้เจอทั้งเหตุการณ์ที่ประทับใจ เหตุการณ์ที่ไม่ประทับใจ และเหตุการณ์ที่ไม่ประทับใจนี้เอง ที่ทำให้พวกเราไม่อยากที่จะลงชุมชน มีเหตุการณ์หนึ่งที่ลูกได้เจอ และรู้สึกว่าเป็นการถามที่ไม่สุภาพเอามากๆ และไม่เคยคิดว่าจะเจอคำถามแบบนี้ พอเจอคำถามนี้เข้าไป ทำให้แต่ละคนยืนมองหน้ากัน อยู่ในอาการตกใจไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะไม่เคยเจอคนถามแบบนี้ และไม่คิดว่าจะเจอเข้ากับตัวเองแบบจังๆเช่นนี้ จนเขาผ่านไปแล้วถึงได้สติคืนมา และนึกขึ้นได้ๆว่าทำไมไม่ตอบเขาไป ทำไมไม่บอกว่าเราไม่ใช่อย่างที่เขาเข้าใจ
ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ยอมเพราะยังไงเราต้องมาที่นี้อีกหลายครั้ง แล้วจะยอมให้เขาใช้คำถามที่ไม่สุภาพแบบนี้กับเราอีกหรือ ต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง เพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกมองและเข้าใจเช่นนั้น เมื่อถึงเวลาประชุมกลุ่ม เราจึงรายงานในสิ่งที่เราพบเจอให้อาจารย์ประจำกลุ่มฟัง โดยอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย เพราะวันนี้เขาใช้เพียงแค่คำถาม แต่ถ้าวันหลังโดนมากกว่าการใช้คำถามละ แล้วน้องรุ่นต่อไปจะเจอแบบเราอีกเหรอ มีนักศึกษากี่รุ่นที่ต้องเจอแหตุการณ์เช่นนี้ ตอนแรกเรานึกว่าอย่างน้อย อาจารย์จะต้องหาวิธีแก้ไขให้เราได้
แล้วหนูเป็นอย่างที่เขาพูดหรือเปล่าละ ทุกคนในกลุ่ม(ที่เป็นผู้หญิง)มองหน้าอาจารย์แล้วสายหน้า ถ้าหนูไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดจะไปเดือดร้อนทำไมกับสิ่งที่เขาพูด แต่อาจารย์ค่ะ เหตุการณ์แบบนี้มันจะเกิดขึ้นกับนักศึกษาอีกกี่ครั้ง หากเราไม่ทำอะไรเลย ใครว่าไม่ทำอะไรเลย เพียงแค่หนูๆไม่ตอบสนองกับมันก็เป็นการทำอะไรแล้วละ มันจะไม่เกิดขึ้นอีกถ้าหนูมองข้ามมันไปชะ เราเลือกที่รับรู้ไม่ได้ แต่เลือกที่จะรับได้ไม่ใช่หรือ แล้วความปลอดภัยของเราในการลงชุมชนครั้งต่อไปละค่ะ หนูต้องอยู่กับวันนี้ ไม่ใช่พรุ่งนี้ แล้ววันนี้ไหนงานที่จะนำเสนอ ..................
ลูกรู้สึกชอบอาจารย์ประจำกลุ่มของลูกทั้งสองคน คนหนึ่งลูกรู้สึกกับท่านเป็นเหมือนคุณยายที่จะคอยให้คำปรึกษากับหลานๆในกลุ่ม อาจเป็นเพราะท่าทางท่านที่ดูมีอายุมากเหมือนคุณยาย ท่านจบโทจิตวิทยา แนวการสอนของท่านจะชอบเอาธรรมะเข้ามาสอดแทรก สอนให้เราอย่าพยายามเปลี่ยนสิ่งอื่นๆรอบตัวเรา เพราะมันทำได้ยาก แต่ท่านสอนให้เรามองตัวเราและเปลี่ยนที่ตัวของเราเองมันจะง่ายกว่า
อีกท่านก็จบโทจิตวิทยาเช่นกัน ถ้าเปรียบกับอาจารย์คนแรก ท่านก็จะเป็นเหมือนคุณป้าที่ทันสมัยนิดหนึ่ง เข้าใจวัยรุ่นอย่างลูกและเพื่อนๆ ทำให้เวลาเข้ากลุ่มทุกคนกล้าที่จะพูดแสดงความคิดของตน และทำให้บรรยากาศการนำเสนองานเป็นกันเอง แนวการสอนของท่านก็จะต่างออกไป ท่านชอบสอบแบบบอกไม่หมด ทำให้สงสัยไปคิดและหาคำตอบเอง เป็นอาจารย์ประจำกลุ่มที่ลูกดูแล้วก็รู้สึกอบอุ่นทั้งคู่ เอาใจใส่พวกเราทั้งสิบสามคนดี ตั้งแต่เทอมที่แล้วจนถึงเทอมนี้ ท่านค่อยให้คำปรึกษาแก่พวกเราตลอด
แม้ว่าท่านจะไม่มีเวลาลงชุนชนพร้อมๆกับพวกเราเหมือนอาจารย์กลุ่มอื่นๆ ไม่ค่อยมีเวลาประชุมกลุ่มบ่อยๆเหมือนกลุ่มอื่น แต่นั้นมันก็ทำให้พวกเราเติบโตอีกแบบ เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาเวลาออกชุมชนเอง ประชุมกลุ่มกันเอง สรุปงานกันเอง ประชุมบ้างไม่ประชุมบ้าง แต่ในที่สุดเราก็มีงานนำเสนอกลุ่มใหญ่ เอาแบบอาจารย์งงว่าพวกแกไปประชุมกันตอนไหน จนช่วงหลั่งๆอาจารย์ไว้ใจ(ประกอบกับท่านต้องดูแลพี่ที่ขึ้นฝึกในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอีกจากเทอมที่แล้วที่ดูแลแต่พวกเรา) จึงปล่อยให้ประชุมกันเอง ออกชุมชนเอง แต่มันก็มีบ้างแหละที่พวกเราจะไปรวมตัวกันแถวๆร้านก๋วยเตี๋ยว หรือประชุมกลุ่มกันแถวๆห้องเน็ต
การลงชุมชนทุกครั้ง ต้องขอบคุณทุกๆคนที่ทำให้เราได้เรียนรู้ในหลายๆสิ่ง ชุมชนเป็นห้องเรียนที่ไม่มีขอบเขตจำกัดการเรียนรู้ ปกติเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม เพียงแค่เรามัวแต่สนใจตัวเองมากเกินไป เลยทำให้ดูเหมือนว่าสิ่งรอบข้างไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่เมื่อเราได้ลองลดความสนใจตัวเองให้น้อยลง หันไปสนใจคนอื่นให้มากขึ้น เราก็จะได้รู้ว่ารอบตัวเรามีเรื่องราวอีกมากมายที่เราต้องศึกษาและน่าสนใจ
ลูกขอเล่าเรื่องการลงชุมชนไว้แค่นี้ก่อนนะค่ะ ลอยกระทงปีนี้เป็นปีแรกที่ลูกไม่มีคนทำกระทงให้ลอย แต่ลูกก็หากระทงลอยเองได้ ถ้าเป็นทุกปีลูกคงจะบอกให้ยายทำกระทงให้ แล้วยายก็จะบอกให้ลูกไปหาตาให้ตาตัดต้นกล้วยให้ ที่บ้านเราคงจะเต็มไปด้วยเศษใบตองและท่อนกล้วยนะค่ะในเวลาช่วงลอยกระทงแบบนี้ แน่นอนว่าในเวลานี้ยายคงจะวุ่นอยู่กับการสอนหลานๆ ทำกระทงใบตองอยู่ใช่ไหมค่ะ
ด้วยรักและคิดถึง
เบญจวรรณ
26 พฤศจิกายน 2550
Create Date : 27 พฤศจิกายน 2550 |
|
11 comments |
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2550 9:40:33 น. |
Counter : 418 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 28 พฤศจิกายน 2550 10:39:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: เบญจวรรณ IP: 61.7.231.130 28 พฤศจิกายน 2550 13:40:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่นก (Nok_Noah ) 28 พฤศจิกายน 2550 14:29:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมี่เกี๊ยว IP: 198.142.231.248 28 พฤศจิกายน 2550 14:50:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปลายแปรง 28 พฤศจิกายน 2550 19:13:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: p_tham 1 ธันวาคม 2550 1:08:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: เบญจวรรณ (lukkongpoka ) 1 ธันวาคม 2550 16:53:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: พราน (ตาพรานบุญ ) 2 ธันวาคม 2550 2:18:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: แพรจารุ 2 ธันวาคม 2550 20:14:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: da IP: 124.122.247.144 18 เมษายน 2553 23:23:07 น. |
|
|
|
|
|
|
|
หนูมีแววในการเขียนหนังสือจริงๆ
ขยันเขียน ขยันอ่าน ขยันคิดด้วยนะ
ขอบคุณมากสำหรับโคมไฟกระดาษอันใหญ่ที่ส่งมาทางไปรษณีย์
ลุงยังไม่เคยได้รับพัสดุทางไปรษณีย์ก่องใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย
โชคดีนะที่น้ำหนักเบา
ลุงจะหาที่แขวนเหมาะไว้ที่ไหนสักจุด เพื่อไว้เป็นที่ระลึกที่หนูส่งมาให้
หนูได้รับโปสการ์ดฝีมือของลุงหรือยัง
ป่านฉะนี้น่าจะถึงแล้วนะ
แค่นี้ก่อนนะ แล้วค่อยคุยกันใหม่