Sweets for my Sweet
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
14 มิถุนายน 2550

Fruitcake

พอดีวันเกิดแม่ แต่แม่อยู่เชียงใหม่ ทำเค้กอะไรก็คงไม่เหมาะแก่การส่งทางไปรษณีย์ไปกว่า เค้กผลไม้รวมแล้ว เพราะ ไม่เสียรูปทรงง่าย อยู่ได้หลายวัน แถมยิ่งไว้นานยิ่งอร่อย และมีส่วนผสมเป็นผลไม้ ซึ่งพอจะมีวิตามินและเส้นใยบ้าง เหมาะสำหรับผู้ใหญ่
แต่ทำให้แม่ทั้งทีจะใส่ผลไม้ธรรมดาก็กะไร เลยต้องเลือกที่ดูดีหน่อยอะ

จากรูปเริ่มทางด้านซ้ายมือบนก็มี ลูกเกดดำ บลูเบอรี่แห้ง แครนเบอรี่แห้ง กล้วยตาก (อันนี้ไม่ค่อยไฮโซแต่ใส่แล้วอร่อย) ส่วนซ้ายมือล่างมีลูกเกดเหลือง ลูกพรูนและสตรอเบอร์รี่แห้ง



มาถึงส่วนผสมผลไม้
1. ลูกเกดดำ บลูเบอรี่แห้ง แครนเบอรี่แห้ง กล้วยตาก ลูกเกดเหลือง ลูกพรูนและสตรอเบอร์รี่แห้ง นำผลไม้ที่เป็นชิ้นใหญ่ๆมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ น้ำหนักรวมทั้งหมดประมาณ 1 กิโล ให้ใส่น้ำผึ้งลงไป 2 ช้อนโต๊ะ คลุกให้เข้ากันหมักไว้ข้ามคืน




มาถึงส่วนผสมเค้ก
1. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 200 กรัม
2. อัลมอนด์สไลซ์ เตรียมไว้โรยหน้ามากน้อยตามชอบใจ
3. น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม
4. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม
5. ไข่ไก่เบอร์สอง 4 ฟอง
6. เนยสด 200 กรัม
7. ผงฟู 1/2 ชช
8. อบเชยป่นหรือเครื่องเทศ 5 อย่างป่น 1/8 ชช




วิธีทำ

- ร่อนแป้ง ผงฟูและผงอบเชยหรือเครื่องเทศ 5 อย่าง เข้าด้วยกัน
- ตีเนย น้ำตาลทรายขาวและแดงโดยใช้ความเร็วปานกลางเข้าด้วยกันจนเนื้อเนียน



- ใส่ไข่ที่ละฟอง เมื่อครบสี่ฟอง ให้ลดความเร็วลงต่ำ



- ค่อยๆใส่แป้งตอนแรก จากนั้นก็เพิ่มจำนวนขึ้นจนเทแป้งหมด



- ตีจนส่วนผสมเนียน



- ใส่ส่วนผสมผลไม้ที่หมักไว้ลงไปตีพอเข้ากันแล้วปิดเครื่องทันที





- เทส่วนผสมลงในพิมพ์ที่ทาเนยขาวปูทับด้วยกระดาษไขและทาเนยทับอีกที ถ้าใครใช้พิมพ์แบบครั้งเดียวทิ้งก็ไม่ต้องทาอะไรเลย จากนั้นนำพิมพ์ไปวางบนถาดที่ปูกระดาษแฉะน้ำซัก 4 ชั้น ก่อนนำเข้าอบโรยหน้าด้วยอัลมอนด์ตามใจชอบเลย แล้วอบไฟล่างด้วยอุณหภูมิ 300 f นาน 60 นาที



- พอซัก 50 นาทีลองมาเช็คขนมดู ถ้าหน้าสีไม่เข้มให้เปลี่ยนมาใช้ไฟบนเบาๆ ซัก 150 พอได้ แต่ยืนเฝ้าไว้เลยเดี๋ยวดำไปหน้าไม่สวย ส่วนเค้กถ้าสุกก็ใช้ไม่จิ้มฝันจิ้ม ถ้าไม่มีอะไรติดขึ้นมาก็สุกแล้ว จากนั้นนำออกจากเตาและแกะออกจากพิมพ์ถ้าเป็นพิมพ์แบบถาวร



- จะเห็นได้ว่าขนมแบบนี้ตอนอบออกมาใหม่ๆจะแห้งมั๊ก กินเลยก็ไม่อร่อยหรอก



- ดังนั้นจะให้หน้าสวยก็ต้องไปซื้อแยมใสๆมาทาให้หน้าเยิ้มๆ ขอบอกว่าใจเย็นๆอย่าเพิ่งกิน นำพลาสติกห่อเก็บไว้ในตู้เย็นซักห้าวัน



- เพราะถ้าเก็บไว้ซักพักมันจะออกมาชุ่มน่ากินเยี่ยงนี้นั้นเอง






 

Create Date : 14 มิถุนายน 2550
34 comments
Last Update : 30 กรกฎาคม 2550 17:36:43 น.
Counter : 6924 Pageviews.

 

ตามมากินต่อที่บล็อคค่า..........

 

โดย: dew_monamoji 14 มิถุนายน 2550 14:51:31 น.  

 

เครื่องตรึมมั่กๆ น่ากินๆ

 

โดย: หลั่มหมั่นเหม่ง 14 มิถุนายน 2550 16:32:35 น.  

 

โห..เห็นแล้วใจสั่น เหมือนเจอของที่หาอยู่.. แค่มองอย่างเดียว ผมอดจินตนาการไปไกลถึงไหนแล้ว รู้สึกได้ถึงความหวานหอมและนุ่มฉ่ำของเนื้อเค๊กตอนออกจากเตาหมาดๆมิได้ ยิ่งจ้องมอง ยิ่งได้กลิ่น Fruitcake

ว่าแล้วก็สูดลมหายใจฟอดใหญ่ๆ เฮ้อ..รู้มั๊ยคุณทำคีบอร์ดผมเปื้อนน้ำลาย....
รับเพื่อนกินเพิ่มอีกซักคนมั๊ยคร๊าบบ

 

โดย: หลงเข้ามา IP: 58.9.81.204 14 มิถุนายน 2550 17:43:23 น.  

 

ผลไม้ล้วนนนนนนนนนนนนนน เยอะมากกกกกกกกก น่ากิ๊นนนนนนนนนน

 

โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ 14 มิถุนายน 2550 18:37:10 น.  

 

ขำคุณหลงเข้ามาอะ ท่าทางคงอยากกินมากเลยนี่ถ้าอยู่ใกล้ๆ แบ่งให้จริงๆนะเนี่ย แต่ขอแก้นิ๊ดส์หนึ่งว่า ขนมนี้ออกจากเตาใหม่ๆ ไม่นุ่มฉ่ำนะ ต้องเก็บไว้หลายวันเลยกว่าจะฉ่ำแบบในรูปอะจ้า

 

โดย: lerla 14 มิถุนายน 2550 21:30:23 น.  

 

ก่อนอื่นต้องขออวยพรวันเกิดให้คุณแม่ของคุณ lerla สักนึดนะคะ"สุขสันต์วันเกิดค่ะ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ"

คุณ lerla ทำขนมเค้กผลไม้ให้คุณแม่แบบนี้ คุณแม่ได้รับคงดีใจมากๆ นะคะ

 

โดย: งาขาว 15 มิถุนายน 2550 3:59:17 น.  

 

ขอสักแพค เอาไปเก็บไว้สักสามเดือน
เอามากินยิ่งอร่อย...
ขอให้คุณแม่มีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะคะ

 

โดย: ร่ำอักษรา 15 มิถุนายน 2550 8:08:59 น.  

 

I think now hungry thank for you manu
are you have blue berry pie?

 

โดย: pim IP: 60.230.221.16 15 มิถุนายน 2550 9:25:20 น.  

 

Hi Pim

I don't know how to bake pie, so sorry. But I'm pretty sure many people in the bloggang can do it. Good uck

 

โดย: lerla 15 มิถุนายน 2550 9:33:51 น.  

 

น่าทานมากเลยค่ะ

ทำยากหรือเปล่าค่ะ

 

โดย: Bodo 15 มิถุนายน 2550 10:28:23 น.  

 

คุณ Bodo ทำไม่ยากเลยนะ ตามวิธีที่บอกไม่มีอะไรยากเลย ตอนที่ยากคือตอนอบแค่นั้นเอง เพราะเราจะไม่รู้ว่ามันสุกหรือยัง หรือ จะใช้ไฟบนนานขนาดไหนให้หน้าออกมาสีสวย แต่อยากทานให้อร่อยก็แค่ทำแล้วอย่าเพิ่งทานแค่นั้นเอง ใส่ตู้เย็นไว้ 1 อาทิตย์ให้มันช่ำๆ แล้วค่อยจัดการ

 

โดย: Lerla IP: 202.60.199.126 15 มิถุนายน 2550 12:39:48 น.  

 

แอบหวังนิ๊ดส์หนึ่งว่า ถ้าได้เป็นลูกมือคุณLerla อาสาคอยเฝ้าเตาอบ หยิบของอร่อยออกจากเตา ผมจะทนกับกลิ่นหอมและเก็บอาการหน้าระรื่นของผมได้อยู่รึป่าว
สัญญาแล้วนะครับว่าจะแบ่งให้ผม 1 ชิ้น

 

โดย: หลงเข้ามา IP: 58.9.77.166 15 มิถุนายน 2550 18:25:15 น.  

 

คุณหลงเข้ามา น่ารักจังเลย ขำดี
เเอบมาเป็นลูกมืออีก 1 คนค่ะ แต่เกรงว่าขนมคุณ Lerla จะไม่มีชีวิตรอดถึง 1 อาทิตย์สิคะ 55

 

โดย: หลงเอ๋อ IP: 203.107.217.194 15 มิถุนายน 2550 23:40:02 น.  

 

สุดยอดดดดด น่ากินมากๆเลยอ่ะค่ะ

 

โดย: เค้กหอม IP: 58.9.144.213 16 มิถุนายน 2550 20:15:04 น.  

 

น่ากินมากๆค่ะ..เห็นเครืองแล้วน้ำลายไหลเลยย อบไฟแรงจังนะคะ ไม่ไหม้หรอเนี่ยย

 

โดย: patchhh IP: 203.129.53.234 16 มิถุนายน 2550 20:28:24 น.  

 

คุณ Patch ไม่ไหม้หรอกเพราะเราใช้กระดาษเปียกน้ำปูลงบนถาดก่อนวางพิมพ์ลงไปไง

 

โดย: lerla 16 มิถุนายน 2550 20:59:06 น.  

 

ปกติไม่ชอบทาน Fruit Cake ค่ะ
แต่เห็นเค้กของคุณ Lerla แล้วน่าทานมากๆ
ขอเก็บสูตรไว้ก่อนนะคะ หากมีโอกาสจะลองทำบ้าง
แต่ตอนนี้ขอทานซักชิ้นก่อนนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: Petit Patty 17 มิถุนายน 2550 16:43:08 น.  

 

อ้อ ... ขอถามหน่อยนะคะ สูตรนี้หวานมากมั้ยคะ?

 

โดย: Petit Patty 17 มิถุนายน 2550 17:00:03 น.  

 

คุณ Petit Patty

สูตรนี้ถ้ากินตอนทำใหม่ๆจะไม่หวาน แต่พอเก็บไปซัก 1 อาทิย์จะหวานขึ้น เพราะผลไม้เริ่มช่ำ แต่ถ้าไม่ชอบหวาน ลดปริมาณน้ำผึ้งออกและ ควรใส่ สตรอเบอรี่ กับลูกพรุนเยอะๆ จะเปรี้ยวขึ้น ตัดกับหวานอร่อยดี อ๋อ หรือถ้าเจอมะม่วงแห้งจะลองผสมลงไปดูก็ได้ น่าจะเปรี้ยวๆหวานๆปนๆกันไป



 

โดย: lerla 17 มิถุนายน 2550 18:22:22 น.  

 

น่าทานมากๆเลยคะ คุณแม่คงปลื้มมากๆเช่นกันนะคะที่มีลูกทำขนมให้ทาน

 

โดย: เบรานิ่ง IP: 125.24.174.180 18 มิถุนายน 2550 13:52:54 น.  

 

น่าทานมากเลยค่ะ

 

โดย: angielicious 18 มิถุนายน 2550 19:20:16 น.  

 

ขอบคุณมากค่ะคุณ lerla

 

โดย: Petit Patty 19 มิถุนายน 2550 9:18:57 น.  

 

รบกวนอีกรอบค่ะ อบที่ 300 เซลเซียส หรือ ฟาเรนไฮท์ค่ะ

ถ้าจะใส่เหล้าด้วยต้องใส่ตอนไหนค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: Bodo 24 มิถุนายน 2550 9:43:15 น.  

 

อบ 300 องศาเซลเซียสเลยหรอคะ!? เตาอบเรามันได้แค่ 250 อ่ะ ทำไงดี T^T

 

โดย: littlemonkii IP: 58.9.108.128 6 สิงหาคม 2550 0:38:20 น.  

 

อ่านผิด..300f นี่นา โทดทีค่า

 

โดย: littlemonkii IP: 58.9.108.128 6 สิงหาคม 2550 1:14:50 น.  

 

เดี่ยวได้มีโอกาสมาอ้อนคุณ Lerla เรื่องปลายจวักบ่อย ๆ แน่

 

โดย: คุณหนูผู้คึกคะนอง IP: 203.153.170.25 12 สิงหาคม 2550 16:18:01 น.  

 

ขนาดนั้นเลยเหรอคุณหนู

 

โดย: lerla 15 สิงหาคม 2550 23:21:50 น.  

 

น่ากินจังค่ะ
อยากทราบว่านี่มานเยอะหรือป่าวคะ แบ่งได้4ถาดแบบในรูปหรอคะ
ถ้าแบ่งซักครึ่ง หรือ 1/4 จาทำได้ป่าวคะ
เสียดายของอ่ะถ้าทำเสียอ่ะค่ะ ขอลองทำก่อง
แต่แม่อยากกินด้วย เลยอยากทำให้ค่ะ
แล้วเราตีมืออ่ะค่ะ กะไม่ค่อยถูก ถ้าตีเร็วหรือนานมีผลไหมอ่ะ
แล้ว เครื่องเทศ5อย่างนี่ไรอ่า
ขอโทดนะคะที่รบกวน แต่ช่วยสอนหน่อยนะคะ
มาเปนลูกศิษย์ค่า

 

โดย: รัตนาวลี IP: 125.25.154.131 11 พฤศจิกายน 2550 13:06:27 น.  

 

ทำตามสูตรนี้ได้ออกมาเยอะเลยนะ ถ้าสองคนทานไม่หมดแน่ แต่เก็บใส่ตู้เย็นก็อยู่ได้เป็นเดือนนะ ถ้ากลัวเสียก็ ทำ 1 / 4 ก็ได้ ตีมือนี่ ไม่รู้จะแนะนำยังไงอะ เพราะ ไม่เคย ตั้งแต่ทำมาก็พึ่งพาเทคโนโลยีทุกอย่างอะ ก็ลองคลำๆไปดูนะ อาจจะเสียบ้างอะไรบ้างก็ ไม่ต้องท้อ แต่ถ้าใช้เครื่องเค้กผลไม้ทำง่ายมากเลยนะ ครั้งแรกก็ผ่านเลย แบบมือนี้ไม่รับประกันหนะ ส่วนเครื่องเทศ 5 อย่าง จะเปลี่ยนมาใช้ ผง Cinnamon ก็ได้นะ ไม่ซีเรียส สู้ๆ

 

โดย: lerla 12 พฤศจิกายน 2550 15:36:16 น.  

 

แหะๆ ขอบคุณค่า ทำได้แระค่า ทำครึ่งสูตรอ่ะ (เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูอ่ะไว้คราวหน้าจะถ่ายมานะคะ)
ส่วนตอนตีกะตีไปเรื่อยๆ(ตีมืออ่ะ)
เหนว่ามานสวยกะหยุด(วิทีคิดใช้ได้ไหมคะ ^^)
อร่อยมากๆ (ตัวเองทำเองจะบอกว่าไม่อร่อยก็กะไรอยู่)
แต่ไม่รู้สูต้นแบบได้ป่าว แร้วแบบว่า ยังไม่ทันเข้าตู้เย็น มานก็หมดซะแระ มี4คนกินอ่ะ
ยังดีตัดออกมาชิ้นนึงทันเข้าตู้เย็น
เปรียบไม่ค่อยถูกเลยค่ะ ว่าเข้ากะไม่เข้าตู้เย็นไหนหร่อยกว่ากัน มานคนละแบบอ่ะ
แต่คุณแม่ชอบมากค่ะ (แต่น้องชายบอกไม่อร่อย แต่กินแล้วอยากกินอีก -*- ไม่ค่อยเข้าใจแฮะ)
ต้องขอบคุณอาจารย์ที่สอนดี อิอิ
ก่อนไปอยากถามนิดส์นึง (ช่วยหนูต่อนะคะ)
ทำไมฟรุตเค้กบางที่มานมีกลิ่นไวน์(มั้ง)ด้วยอ่ะคะ
อยากให้มานมีกลิ่นมีรสไวน์ด้วยอ่ะ แบบของ S&P อ่ะ แต่ไม่เอาขมๆแบบนั้น
แต่ไม่รู้ทำไง ขอรบกวนอีกทีนะคะ
จากลูกศิษย์ เชฟสมัครเล่น (เรียกเชฟอ่ะป่าว ทำขนมนี่-*-)
ขอบคุณ และ สวัสดีค่า

 

โดย: รัตนาวลี IP: 125.25.132.35 20 พฤศจิกายน 2550 23:40:09 น.  

 

ยินดีด้วยที่ทำออกมาแล้วประสปความสำเร็จ แต่น่าอดใจไว้ คราวหน้า ทำแล้วห่อกระดาษฟอยแช่ตู้เย็นซัก 4-5 วัน อร่อยกว่านี่อีก ส่วนเรื่องไวน์ ไม่น่าจะใช่นะ น่าจะเป็นเหล้ารัมมากกว่า คงต้องฉีดพ่นตอนอบออกมาใหม่ๆหนะ

 

โดย: lerla 23 พฤศจิกายน 2550 12:42:36 น.  

 

ค่า ขอบคุณค่า
ไว้ทำใหม่ คราวนี้จาเก็บไว้นานๆ ห่อด้วยฟอยใช่ไหมคะ
แล้วทิ้งไว้นานๆ ถ้าไม่มีใครเปิดตู้เย็นก้อน่าจะรอดถึง5วันนะ อิอิ
แล้ว เหล้ารัมนี่ซื้อที่ไหนค้า จาไปหามาใส่บ้าง
ขอบคุณค่า
รับรองคราวหน้าจาเอารูปมาให้อาจารย์ดู
สวัสดีค่า

 

โดย: รัตนาวลี IP: 125.25.190.188 23 พฤศจิกายน 2550 15:47:21 น.  

 

เหล้า ยี่ห้อไหนก็ได้ที่ทำจากรัมหนะ เช่นแสงโสม

 

โดย: lerla 27 พฤศจิกายน 2550 4:58:29 น.  

 

เก็บสูตรไปทำแล้วค่ะ
หน้าตาออกมาดูดีมีชาติตระกูลเชียว อิอิ
แต่หน้ามันแห้งมากเลยอ่ะค่ะ แถมไม่ยอมสุก คราวนี้เวลาเลยมั่วเลย
เอาไว้จะลองทำใหม่ดูค่ะ
ขอบคุณสำหรับสูตรนะคะ

 

โดย: กล้วย IP: 183.89.64.130 26 พฤศจิกายน 2553 14:08:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


lerla
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Free Counter
[Add lerla's blog to your web]